คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : งานเจ้าวุ้น
บทที่ 3
“ตรี”
“อืมม์” ตรีเทพหันมามอง สตรีที่เดินมาข้างๆ
วันนี้แก้วเรียบร้อย ด้วยการแต่งกระโปรงชุดสีเรียบๆ กับส้นสูงพอประมาณ ผมเผ้าหวีเรียบร้อย
“ขอร้องอย่างได้ไหม”
“ถ้าทำได้นะ” ตรีเทพบอก เปิดประตูรถให้แก้ว
“ว่าไงล่ะ” เขาถามซ้ำ เมื่อออกรถ
“เลิกชวนเราออกมากินข้าวทีเถอะ” แก้วง่วนอยู่กับการเลือกแผ่นเพลง
“ทำไมล่ะ” ตรีเทพถามยิ้มๆ ชำเลืองมองคนข้างๆ
“เกรงใจ กับขี้เกลียดทิ้งงาน” แก้วบอกตรงๆ
ตรีเทพพาออกไปกินข้าวข้างนอก แก้วเป็นคนช่างกินอยู่แล้ว ก็เลยสนุกกันใหญ่ นานๆ ทีนี่ก็คงไม่รู้สึกอะไร นี่อะไร ทุกบ่อยๆ ตอนแรกก็เกรงใจเลยไม่พูดอะไร แต่ตอนนี้แก้วเริ่มอึดอัด
ข่าวซุบซิบใหม่ เรื่องกิ๊กระหว่างเธอกับแฟนเพื่อน มันน่ารำคาญ เธอไม่กลัวเจ้าวุ้นเข้าใจผิด ก็เคยคุยกันแล้ว เพื่อนหายากกว่าแฟน ถ้าความใกล้ชิดทำให้ตรีเทพหันมาชอบเธอ เขาก็ไม่คู่ควรกับวุ้น และเธอก็ไม่สนคนไม่หนักแน่นด้วย เท่าที่เห็น เขายังมั่นคงกับเพื่อนเธอ ทำให้แก้วสบายใจพอที่จะบอกเขาตรงๆ อย่างวันนี้
“เกรงใจนะเลิกได้ แต่ไม่อยากทิ้งงานผมจะรับฟัง”
แก้วย่นจมูกนิดๆ ตรีเทพหัวเราะเบาๆ เมื่อชำเลืองเห็น
“วุ้นให้ผมรับแก้วออกมาทานอาหารนอกบ้านให้ได้ทุกวัน นี่ผมก็ทำได้แค่ชวนแก้วออกมาได้อาทิตย์ละสามวันเท่านั้น มื้อเที่ยงอีกต่างหาก” ชายหนุ่มบ่นงึมงำ
แก้วถอนหายใจ นึกบ่นเพื่อนอยู่ในใจ “เจ้าวุ้น ชักจะจุ้นมากไปแล้ว”
แก้วรู้ว่าวุ้นห่วงแก้ว แก้วน่ะเวลาทำงานต้องไส้ไม่เคยห่วงเลย
“เราเกรงใจนะตรี ให้ตรีเลี้ยงบ่อยๆ” แก้วบอก ปั้นเสียงให้น่าสงสารสุดๆ
“ไม่เป็นไร ผมจะเก็บบัญชีกับวุ้นก็แล้วกัน” ตรีเทพหันมาบอกยิ้มๆ
เด็กน้อยดู๊ ทำเสียงน่าสงสาร บ้างทีแก้วก็เป็นเด็กน่ารักสุดๆ เฮี้ยวพอประมาณ อันนี้ไม่ค่อยเจอบ่อยนัก บ้างครั้งก็เป็นผู้ใหญ่จนตัวเขากลายเป็นเด็กไปเลย ฟอร์มเก็กอันนี้เจอบ่อยจนไม่สนใจแล้ว เจอตั้งแต่จีบวุ้นจนมาถึงเดี๋ยวนี้
แก้วถอนหายใจอีกครั้ง เมื่อได้ยินประโยคต่อมาของตรีเทพ
“แก้วคงได้การ์ดเชิญของสมปอง”
“อืมม์”
“แก้วซื้อของขวัญหรือยัง ผมยังไม่ได้ซื้อเลย ทานข้าวเสร็จแล้ว แก้วช่วยเลือกให้ผมหน่อยนะ แล้วเย็นผมจะไปรับ”
แก้วหัวเราะ
“นี่จะไม่ให้เราปฏิเสธสักรายการหรือไง”
“ช่วยเพื่อนฝูงหน่อยเถอะน่า” ตรีเทพบอกง่ายๆ
ตอนวุ้นอยู่ก็เกาะกันไปสามคน เขาพ้อเอาบ่อยๆ ว่าเป็นแฟนเขาแล้ว ครอบครัวทั้งสองฝ่ายก็รู้แล้วยังเอาพี่เลี้ยงมาอีกทำไม วุ้นได้แต่หัวเราะ บอกว่าที่เอาแก้วมานี่ไม่ใช่พี่เลี้ยงหรอก เอาเด็กมาเลี้ยงต่างหาก แล้วตอนนี้ภาระเลี้ยงเด็กตกเป็นของตรีเทพ
“แสดงว่าบ่ายนี้อนุญาตให้โดดงาน”
“ฝนคงตกล่ะ ถ้าแก้วโดดงาน”
“ตกแน่” แก้วยิ้มอย่างหมายมาด
งานน่ะ เร่งหน่อยก็เสร็จ แต่การแกล้งคนนี่ซิ โอกาสไม่ได้มีมาบ่อยๆ แล้วยิ่งคนโดนแกล้งไม่ถือสาเธอ เจ้าจุ้น ฉันจะทำให้แกรีบแผ่นกลับมาเอาหวานใจไปเร็วๆ เลยเชียว
มันก็มีผลดีอยู่บ้างที่วุ้นให้ตรีเทพมาคอยจุ้นกับแก้วแทนตัวเธอ ทำให้ตรีเทพรู้จักแก้วมากขึ้นกว่าเดิม ฉะนั้นคำตอบที่วุ้นได้รับเมื่อเธอกลับมา เป็นคำถามเกี่ยวกับแก้วว่า
“ไง เพื่อนวุ้นล่ะ”
“อยู่กับกลุ่มเพื่อนโน่น แก้วนะ ไม่น่าเชื่อเลย”
ตรีเทพรับภาระรถเข็นมา อาสาว่าที่พ่อตาแม่ยายมารับลูกสาวให้ บ้านนั้นเดินทางกันบ่อยจนเห็นเป็นเรื่องธรรมดา
“เรื่องอะไรล่ะ” วุ้นถาม
โบกมือทักเพื่อนกลุ่มใหญ่ ยืนเงียบๆอยู่ข้างๆ นั่นเพื่อนรักของเธอ เจ้าแก้ว เจ้าตัวยกนิ้วกระดิกๆ ทักทายนิดเดียว หน้าเรียบ รีดมาอย่างดี วุ้นยิ้มร่า
“จะเรียกว่าอะไรดี ภูเขาน้ำแข็งมั่ง” ตรีเทพทำเสียงฝัน แกล้งๆ
“เฮ้ย” วุ้นร้อง
ตวัดสายตากลับมามองหน้าชายหนุ่มที่ตั้งใจจะวางชีวิตเธอไว้กับเขา ข่าวคาวที่เพื่อนผู้หวังดีบอกไป ตรีเทพกับสถาปนิกสาวสวย ไม่เคยทำให้วุ้นหวั่นไหว ถ้าแก้วชอบ เสียหนุ่มดีๆ สักคนจะเป็นอะไรไป แต่เธอรู้ทุกขณะจิต แฟนหนุ่มกับเพื่อนรักไม่มีทางมาเดินถนนหัวใจเส้นเดียวกันได้
“ไม่เฮ้ยล่ะ ข้างนอกเย็นเจี๊ยบ ข้างในยังกับไฟ” ตรีเทพตอบจากประสบการตรงที่เจอมา
อย่าให้แก้วโมโห อย่าให้เกิดอารมณ์ อะไรก็เอาไม่อยู่ เจ้าหล่อนเจ้าคิดเจ้าแค้น มีวิธีเอาคืนที่แสนจะนึกไม่ถึง อย่างที่เขาขอให้ซื้อของแต่งงานให้เพื่อน ก็เพื่อนของเขาของวุ้น แล้วก็เพื่อนแก้วด้วย
เจ้าหล่อนซื้อชุดนอนวาบหวิว แถมการ์ด อกหัก ฉันจะรักเธอจนตายอะไรประมาณนั้นในชื่อเขาแนบไปในกล่องด้วย ตรีเทพจะแย่งเอามาก็ไม่ได้ แถมแก้วยังเป็นคนยึดเอากล่องของขวัญไปให้เจ้าภาพด้วยตัวเอง ส่วนเขา จ่ายสตางค์ไปอย่างเดียว
โชคดีของเขาที่เจ้าสาวเข้าใจ เมื่อเขาสารภาพว่าไม่รู้หลวมตัวให้แก้วเลือกของให้ได้ยังไง เจ้าหล่อนยิ้มหวานตอบว่าเธอรับล่ะว่าวุ้นให้ชุดนอนแสนเซ็กซี่ ส่วนการ์ด จากตรีแล้วกัน
พระเจ้าช่วย จนบัดนี้เขายังมองหน้าสามีของสมปองไม่สนิท
“ลองแล้วหรือ” วุ้นถามอย่างคนปากไว
“กลัว” ตรีเทพสั่นหน้า
“กลัวใคร วุ้นหรือเปล่า” วุ้นยิ้มหวาน ที่ตรีเทพชักเสียวๆ
แก้วสารภาพว่าตั้งใจแกล้งเลย ถ้าเขารับมือแก้วไม่ได้ จะรับมือวุ้นได้ยังไง ไม่รู้ว่าเจตนาจะให้เขาเลิกยุ่งด้วยหรือเปล่า ยังไงๆ เขาก็ทำตามคำสั่งเดิมของหวานใจ ถ้ากลับมาแก้วเป็นอะไร เขาตายแน่
ตรีเทพหัวเราะหึๆ
“กลัวเธอด้วย เพราะวุ้นไว้ใจผมให้อยู่ใกล้แก้ว กลัวรายโน้นด้วย กลัวไม่มีชีวิตอยู่จนเจอวุ้น”
วุ้นหัวเราะเสียงดัง
“ฮัลโหล เพื่อนฝูง” วุ้นทักเพื่อน กอดคอหอมแก้มแก้วหน้าตาเฉย
“ไอ้คู่ซี้ มาทำอะไรขายหน้าตรงนี้” เพื่อนฝูงกรี๊ดกร๊าด
แก้ว สบตาหนุ่มที่เดินเข็นรถตามเพื่อนมา ตาประกายพราว โอบแขนรอบเอวเพื่อน หอมแก้มซ้ายขวา กระซิบริมหูเพื่อน
“ไง เจ้าจุ้น เอ็งไม่น่ากลับมาจุ้นกับข้าเล้ย”
ตรีเทพส่ายหน้า เขายังไม่กล้ากอดทักทายแฟนสาวเลย กลัวถูกฟันศอกใส่ แต่นี่อะไร แก้ว กอดแถมหอมต่อหน้าต่อตา จากสายตาท้าทาย
นายไม่กล้า
ฉันจูบรับขวัญแทนเอง
จะให้ไม่หมั่นไส้ได้ยังไง
แก้วกำลังอยู่ในท่าสบายอารมณ์ คือนั่งเอนตัวบนเก้าอี้ตัวใหญ่ พาดขาไว้กับเก้าอี้อีกตัว เคยพาดไว้กับโต๊ะ แล้วโดนทั้งอาประสงค์ ทั้งเจ้าจุ้นดุ (ถ้าเข้ามาเจอนะ) สำหรับเจ้าเพื่อนตัวแสบเคาะนิ้วเท้าแถมเสียด้วย คนอื่นหมื่นแสนเขาพาดได้ไม่ไปว๊าก แก้วได้แต่บ่นในใจ
แอร์เย็นสบาย แก้วกำลังสำรวจข้อมูลที่ได้มา สำหรับเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ ที่จริงตัวแก้วต้องมาทำงานห้องนี้มากกว่าทางเขียนแบบ แต่แก้วก็ชอบงานเขียนแบบมากกว่านั่งเล่นกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ยังนึกด่าตัวเองอยู่จนบัดนี้ ว่าบ้าหรือไง ถึงได้ไปเรียนไอ้สองคณะนี่ ที่ไม่มีท่าว่าจะไปด้วยกันได้เลย
ประตูถูกเคาะเบาๆ แล้วเปิดเข้ามา เธอยังก้มหน้าอ่านข้อมูลอยู่ จู่ๆ เหมือนอากาศรอบตัวจะเพิ่มอุณหภูมิผิดปรกติ แต่แก้วก็ยังสัมผัสความเย็นของเครื่องปรับอากาศได้อยู่นะ หญิงสาวขมวดคิ้ว ขณะกำลังสงสัยอยู่ก็มีเสียงพูดดังขึ้นเบาๆ
“ผมมาพบคุณแก้วครับ”
“ฮะ” แก้วเงยหน้าขึ้น แล้วอุทานในใจ
ก็เขาหล่อเฉียบขาดไปเลย เพียงแต่มันเหมือนรูปปั้นนะ ทำหน้าเฉยๆ ไม่มีรอยยิ้ม แต่สิ่งที่บอกว่าคนตรงหน้าไม่ใช่รูปปั้นคือตาพราวระยับด้วยรอยยิ้ม
“คนอะไร้ ปากไม่ยิ้ม แต่ยิ้มพราวเชียว” แก้วว่าในใจ
“ผมมาพบคุณแก้วครับ” เขาบอกซ้ำ ท่ายืนสบายๆ อยู่ตรงหน้า
“เชิญนั่งค่ะ” แก้วบอกวางแฟ้มลงบนโต๊ะ เอาเท้าลงจากเก้าอี้ ขยับนั่งดีๆ ซาบซึ้งกับคำอบรมของเพื่อนแล้ว ถ้าแขกแก เข้ามาเห็นแกนั่งอย่างนี้นะเจ้าแก้ว แก้วก็สวนไปทันควัน ฉันไม่รับแขกที่ทำงานโว้ย ฉันไปหาแขกข้างนอก แก้วได้แต่ยิ้มเขินๆ ใจเต้นระทึกแปลกๆ
“มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ” แก้วถาม แล้วก็เห็นรอยยิ้มนิดๆ ของคนตรงหน้า
“ผมมาชวนไปทานอาหารเที่ยงนะครับ”
“ฮะ” แก้วอุทาน เลิกคิ้วแล้วหัวเราะออกมา อย่างไม่รู้จะพูดอะไร ฝันกลางวันไปหรือเปล่านี่
“ว่าไงครับ yes or no”
“O.K. ค่ะ ห้าโมงสี่สิบห้านาที”
ชายหนุ่มเหลือบมองนาฬิกา
“ตกลงฮะ ห้าโมงสี่สิบห้านาทีผมจะมารับ แล้วพบกันนะฮะ”
“ค่ะ” แก้วตอบคลอเสียงหัวเราะ เรื่องแปลกๆ มันมีเสนอนะ หนุ่มหล่อยังกับรูปปั้นเดวิดมานัดกินข้าว หัวใจยังเต้นแปลกๆ แก้วหัวเราะอีกครั้ง แต่ฟังเหมือนเสียงสะอื้นชอบกล
คนที่ทำให้เธอหัวใจเต้นตุ๊บๆ ได้ ไม่น่าจะใช่คนนี้ ยังนึกถึงแขกหนุ่มในงานเลี้ยงของวุ้นกับตรี สายตาเบลอๆ เพราะเจ้าเพื่อนซี้เร่ง เลยลืมหยิบเอา คอนแท็กเลน มาด้วย แล้วเจ้าจุ้นก็ไม่ยอมให้เธอใส่แว่น เดี๋ยวจะทำลายงานปั้นคนให้สวยของเจ้าหล่อนไป แก้วเลยจำหนุ่มที่ทำให้ใจระทึก มือไม้เก้งก้างไม่ได้ ว่าเขาหน้าตาเป็นอย่างไร สูงกว่า แก้วรู้เท่านั้นเอง อาการแปลกๆ ที่แก้วพยายามไม่สนใจมัน
ห้าโมงสี่สิบห้านาที เดี๋ยวก็รู้
“เป็นไง” วุ้นถามทันทีที่ประตูถูกผลักเปิด
“วุ้นนะจุ้น” ตรีเทพบ่น
“ห้าโมงสี่สิบห้า ไปรับไปกินอาหารเที่ยง” บุรุษที่เข้ามาตอบ ลากเก้าอี้มานั่งลง
“ตรีน่ะติดนิสัยแก้วมากแล้วนะ” วุ้นว่าตรี แล้วหันมาซักไซ้
“เป็นยังไง ไหนเล่าให้ฟังหน่อย”
“ทำไมไม่เข้าไปดูเองล่ะ” ต่วนตอบยวนๆ
“ไม่เอา เดี๋ยวยายแก้วว่าจุ้นอีก” วุ้นตีหน้าตูม
“ก็จุ้นจริงๆ” ตรีเทพบอก แล้วหันมาบอกสหาย
“ต่วนนายอย่าไปยุ่งตามวุ้นหน่อยเลยน่ะ เรื่องไม่เป็นเรื่อง”
“แต่ฉันเห็นว่าสนุกดีนะ” เพื่อนเขาว่าซะอย่างนั้น
“ผู้หญิงคนนี้ แกจีบเล่นๆ ไม่ได้นะเว้ย” ตรีเทพร้อง
นึกเสียวๆ แทนเพื่อน เจ้าต่วนก็แสบใช่เล่นซะเมื่อไรล่ะ แก้วก็ไม่หยอก ไม่ยอมใครเหมือนกัน
“ก็ใครว่าฉันจะจีบ” ต่วนบอก ก้มลงมองนาฬิกา
“ฉันแค่อยากเห็นหน้าชัดๆ กินข้าว คุยกัน” หนุ่มหล่อยกไหล่
“ก็แค่นั้น”
“เหลืออีกสิบห้านาที” วุ้นมองนาฬิกาแล้วพูดเบาๆ
“วุ้น น่ะวุ่น” ตรีเทพบ่นซ้ำ
“สนุกดีออก รูปปั้นเจอรูปปั้น” วุ้นตอบ ซึ่งตรีเทพก็ปฏิเสธไม่ได้
เมื่อคืนนี้ มีงานเลี้ยงต้อนรับวุ้น ซึ่งทั้งแก้วทั้งวุ้นก็บ่นพอๆ กัน ในความวุ่นวาย และเป็นการประกาศตัวในฐานะคู่หมั้นคู่หมาย ระหว่างวุ่นกับตรีเทพด้วย แขกเหรื่อก็เลยมากเป็นประวัติการณ์ ทั้งฝ่ายวุ้นและตรีเทพ
ที่จริงไม่อยากไปงานคนเยอะๆ หรอก แต่ถูกวุ้นมาดักรับตัวไป คืนนั้น ตรีเทพก็แทบจะจำแก้วไม่ได้ ผมครึ่งสั้นครึ่งยาว ถูกหวีปัดไปด้านหลัง เหลือลูกผมระอยู่ตามหน้าผากเป็นวงเล็กๆ ชุดกระโปรงราตรีสั้น สียอดตองขับผิวให้ขาวขึ้นไปอีก แต่งหน้าคม
“แก้วหรือนี่ โอ้โห้ ไม่คิดว่าเป็นแก้ว” ตรีเทพอุทาน
“ไม่คิดว่าจะสวยขนาดนี้” แก้วดักคอ
ตรีเทพยิ้มเขินๆ
“ผมยังไม่ได้ว่าอย่างนั้น”
“แค่รู้สึกก็เกินพอแล้ว” แก้วบอก ปรายตาค้อน ออกไปช่วยรับแขก ทักทายเพื่อนๆ ที่จับกลุ่มกระจายกันอยู่ ทั่วงาน
“เจ็บไหม” วุ้นว่าเอา
“แค่คันๆ” หนุ่มคนรักแค่ยกไหล่
“นางฟ้าองค์ไหนช่วยมาแปลงโฉมให้นางซินล่ะ”
“องค์นี้นะซิ” วุ้น จิ้มอกตัวเอง
“วันหลังช่วยแปลงตอนกลางวันหน่อยซิ” ตรีเทพบอก
วุ้นค้อน “จะทำไม”
“ให้บริษัทตื่นตะลึงสักทีคงสนุก”
วุ้นถอนหายใจ เธอไปเรียนเกือบสองปี ตรีเทพติดนิสัย (เสียๆ) ของแก้วมาเยอะทีเดียว
“กว่าจะจับตัวมาแปลงโฉมได้ วุ้นเสียน้ำลายไปเป็นขวด เลยนะ”
“เดี๋ยวเลี้ยงน้ำ หรือจะเอาแชมเปญ” ตรีเทพบอกหน้าตาเฉย
วุ้นถอนหายใจอีกครั้ง
“ตรีไม่เคยเชื่อเลยใช่ไหมล่ะว่าแก้วนะสวย เพียงแต่เขาไม่ชอบแต่งเท่านั้นเอง”
เธอเก็บประโยคที่ว่า “หรือไม่ก็แต่งไปในที่ที่คนสนิทไม่ไปนั่นล่ะ” ไว้ในลำคอ
“นั่นไง เพื่อนที่วุ้นเล่าให้ฟัง”
วุ้นชี้ไปที่ซุ้มประตูทางเข้า ที่มาม๊าออกความคิดทำเป็นซุ้มประตู ประดับผ้า เราทอเอง ตกแต่งด้วยโคมไฟและดอกไม้ เป็นทางเข้า ที่ชายหนุ่มสูงเพรียวกำลังก้าวเข้ามา
“นั่นเจ้าต่วนเพื่อนผมนี่”
“รู้สึกไหมว่าเหมือนแก้ว”
ทั้งคู่พูดพร้อมกัน มองหน้ากัน แล้วก็หัวเราะ
“กลับมาพร้อมวุ้นหรือ” ตรีเทพ ถามสหาย
ฟังจากวุ้นมาว่าเธอมีเพื่อนจากเมืองไทยมาอบรมหกเดือน หล่อสะเด็ดจนทำให้นึกอยากปันใจ แต่นิสัยเจ้าอารมณ์จนเหลือทน เลยเปลี่ยนใจดีกว่า ตรีเทพไม่หึงเลย ก็วุ้นกล้าฝากสาวสวยอย่างแก้วไว้กับเขา เขาก็วางใจวุ้นกับการเลือก(เพื่อน)ของเธอ
“ฉันเพิ่งกลับมาวันนี้ รู้ข่าวแกกับวุ้นเลยมา”
“ยินดีด้วยนะ” ต่วนบอก จับมือทั้งวุ้นทั้งตรีเขย่า
เขาเป็นเพื่อนกับตรีเทพมาตั้งแต่ตัวกระเปี๊ยกเป็นนักเรียนกินนอนมามาด้วยกัน จนถึงตอนเลือกเข้ามหาวิทยาลัยที่ต่างแยกกันไป พอจบทำงานก็คนละสายงาน หาเวลาว่างเจอกันไม่ค่อยได้
เจอกับวุ้นตอนไปอบรม เธอบอกเลยว่ามีแฟนแล้ว ถึงเขาจะหล่อยังไง เธอก็รักแฟนเธอมาก ห้ามขายขนมจีบเธอเด็ดขาด เขางงไปเลย ด้วยนิสัยที่ไม่ถือสาใครของเขากับคบคนง่ายของวุ้น ทำให้เป็นเพื่อนสนิทกันอย่างรวดเร็ว ไม่รู้เลยว่าแฟนของวุ้น(ที่เธอรักมาก) คือ เพื่อนรักของเขา แล้วสถาปนิกสาวคู่ควงของตรีเทพที่เขาอ่านเจอในข่าวสังคมล่ะ ไปไหนแล้ว เห็นจากรูป ก็สวยนี่
“ตามสบายนะต่วน จะไปหาแฟนเก่าๆ ของแกก็ได้ มาแล้วหลายคน” ตรีเทพบอกกระเซ้าเพื่อน
“เออน่า ไว้ใจเถอะ” ต่วนบอก แล้วผละแยกไป
“เจอสวยๆ บ้างไหม” วุ้นถาม เมื่อเจอต่วนอีกรอบ ตรีเทพอยู่คุยกับลูกค้า เธอเลยเดินทักทายแขกมาคนเดียว ไม่อย่างนั้นตอนนี้แฟนหนุ่มคงทำหน้าที่ฝ่ายค้านแล้ว
“คนแต่งเขียวยอดตองนั่งไง” ต่วนชี้
“เสียดายเหมือนรูปปั้นไปหน่อย ยิ้มอีกนิดจะสวย”
ไม่ต้องนึกเลยว่าเขียวยอดตองไหน ถึงงานนี้จะมีหลายเขียว แต่เขียวยอดตองที่สวยเด่นนั้น
มีหนึ่งเดียว
แล้วยิ่ง ยอดตองที่เหมือนรูปปั้นด้วยแล้ว.... ยิ่งไม่ต้องคิดมาก
“รู้ไหมว่าเหมือนนินทาตัวเอง” วุ้นบอกปนหัวเราะ
“ไม่รู้เหมือนกันแฮะ” ต่วนตอบ พร้อมรอยยิ้มที่มุมปาก
รู้........เหมือนคนที่โตมากับคำชม กับสายตาปลาบปลื้มอยากขย้ำเขาของสาวๆ
ไม่รู้...ว่าสาวสวยคนนั้นจะเหมือนเขาไหม เย็นชาอย่างนั้น จะมีหนุ่มไหนอยากลิ้มลอง
“เพื่อนวุ้นเองล่ะ” วุ้นบอก
“หือม์” ต่วนมองหน้า
เริ่มระแวงว่าวุ้นคิดจะจับคู่หรือเปล่า เขาชอบล่าเองนะ ไม่ชอบถูกต้อน
“อย่าคิดมากน่า” วุ้นแหวว มองตาก็รู้ คนหล่อนี่หลงตัวเองเกินไปแล้ว “วุ้นบอกเฉยๆ ว่าเพื่อนวุ้น”
ต่วนยกไหล่ เดินผละหายไป สักครู่เขาก็กลับมา
“หยิ่ง” คำแรกที่เขาพูด
“รู้ไหมว่าเหมือนว่าตัวเอง” วุ้นถาม พยายามกลั้นหัวเราะ
ต่วนเลยหัวเราะ หน้าตาเขาน่ามองอยู่แล้ว ยิ้มหรือหัวเราะ ยิ่งทำให้น่ามองยิ่งขึ้น หล่อขึ้น
“ผมไปขอเขาเต้นรำ เขาไม่ยอมออกมา บอกว่าเต้นรำไม่เป็น”
“ก็เต้นไม่เป็นจริงๆ” วุ้นบอก
ต่วนมองหน้า
นายคนนี้ตั้งแต่คบกันใหม่ ๆ แล้ว ชอบมองตรง ๆ ชอบสร้างแรงกดดัน จนรู้ถึงอาชีพก็เลยเลิกใส่ใจ
รำคาญมาก ๆ เข้า ก็บอกว่าอย่าส่งสายตาหวานๆ มาให้ฉันนะ แฟนฉันดุ เพื่อนหนุ่มก็เลยหัวเราะ พยายามคุมตัวเองไม่ให้ส่งสายตาพิฆาตบ่อยนัก แต่เคยเป็นนิสัยเสียแล้ว หายยาก
“เป็นแต่ดิ้น” วุ้นต่อ ยักคิ้วให้
“ดิ้นก็ดิ้นซิ” ต่วนบอก “เพื่อนวุ้นชื่ออะไร”
ต่วนถามเอาดื้อๆ เสียเวลาจะกลับไปถามใหม่ เมื่อแหล่งข่าวอยู่ตรงนี้ จะไปที่อื่นทำไม
“ไม่ไปถามเขาล่ะ” วุ้นทำเป็นไม่สนใจ
คนเรานี่ตลกจริง อะไรที่ไม่ให้ ก็อยากได้ อะไรที่จัดใส่จานให้ก็ไม่สนใจ ความสนใจของเพื่อนหนุ่ม ก็แค่สาวสวยที่ท้าทาย เธอยังรู้จักเพื่อนฉันน้อยไป นายต่วน
“ไม่ตอบ ยิ้มลูกเดียว”
“ชื่อแก้ว” วุ้นทอดเสียงหวาน
“แก้วเฉยๆ หรือ” ต่วนย้อนถามยิ้มๆ นึกครึ้มๆ แก้วอะไรนะ แก้วขวัญ ขวัญแก้ว แก้วใส หวานใจแก้ว เขาชักอยากเป็นหวานใจของแก้ว เสียแล้วซิ
“ฮือม์ เหมือนต่วนเฉยๆ”
ต่วนหัวเราะ คราวนี้เขาก็รู้แล้วว่า ผู้หญิงรูปปั้นคนนั้น ชื่อแก้ว
แก้ว ที่อาจเป็นแค่สมญา ไม่ใช่ทั้งชื่อจริง ชื่อเล่น ไม่มีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรทางกฎหมาย
“งั้นก็ ออกไปเต้นรำกับผมหน่อยครับ เพื่อนคุณแก้ว”
วุ้นหัวเราะเสียงดัง คนทันกันนี่ ชอบจริงๆ
ความคิดเห็น