คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : น้องเบล
บทที่ 2 น้องเบล
รัตน์สุดาขยับตัว เมื่อยไปหมด ชา ร้อน แล้วก็อยากเข้าห้องน้ำ หญิงสาวขยับตัว แปลบที่ข้อเท้า อาการปวดกระดูกกำเริบอีกแล้ว อากาศหนาวจัดๆ หรือออกกำลังมากไปแล้วล่ะก็ปวดทุกที ทั้งข้อเท้า ทั้งหัวเข่า เธอขยับตัวลงจากเตียง รับรู้ถึงความเย็น
“ตื่นแล้วหรือฮะ” เสียงถามงัวเงีย แปลกหู
เธอเริ่มก้าวเดินไปทางทิศที่คิดว่าน่าจะเป็นที่ตั้งของห้องน้ำ
“จะไปไหนครับ”
เสียงทุ้มๆ ดังขึ้นกว่าเดิม จนทำเหมือนไม่รับไม่รู้ไม่ได้
“ห้องน้ำค่ะ”
รัตน์สุดาตอบ มึนๆ ทั้งๆที่รู้สึกแปลกๆ ก็ช่างมันเถอะ ไว้ล้างหน้าล้างตาแล้วจัดการธุระส่วนตัวอันรีบด่วนนี่ก่อนแล้วค่อยคิด
“ชิดฝาแล้วหมุนซ้ายครับ สักสามก้าวแล้วคุณจะพบสวิตซ์ไฟ”
หญิงสาวก้าวไปตามคำบอก แล้วก้าวออกมา ด้วยความรู้สึกตัว มากกว่าเดิม โคมไฟในรูปตะเกียงถูกเปิดไว้หรี่ๆ
“กาแฟไหมครับ”
“ขอน้ำเปล่าได้ไหมคะ”
หญิงสาวถาม ยังไม่เห็นแหล่งกำเนิดของเสียงทุ้มเซ็กซี่เลย เดินคลำทางกลับไปที่เตียง เธอเห็นเป้วางอยู่กับพื้นหัวเตียง หญิงสาวทรุดตัวลงนั่ง ลากกระเป๋ามาใกล้ตัว ค้นหายาแก้ไข้และน้ำมันนวดออกมานวดข้อเท้า รองเท้าถุงเท้าถอดไว้หน้าห้องน้ำ ล้างเท้าแล้วรู้สึกจะหายง่วงนะ
“ถ้าคุณจะกินยาแก้ไข้ รองท้องด้วยโอวันติน หรือนมก่อนดี นมเถอะนะ”
วายุส่งกล่องนมพร้อมหลอดให้ ตามด้วยแก้วน้ำอุ่น ดูหญิงสาวจัดการกับตัวเอง ดูเธอเป็นปกติมากเลยเชียวล่ะ
“ไปนอนเถอะ พรุ่งนี้ค่อยคุยกัน”
รัตน์สุดาทำตามอย่างว่าง่าย และหลับไปทันทีที่หัวถึงหมอน
เธอตื่นมาตอนเช้า ผู้ชายร่วมห้องไม่อยู่เสียแล้ว เธอรีบจัดการกับตัวเอง ออกจากห้อง เดินไปเรื่อยๆ จากทิวทัศน์ที่เห็นจากหน้าต่าง ห้องที่เธอนอนอยู่ชั้นล่าง กลิ่นหอมโชยมา หญิงสาวทำจมูกฟุตฟิต อา...กลิ่นหอมแบบนี้น่าจะเป็นขนมเค้ก เค้กกับปีใหม่ จะขาดกันได้อย่างไร หญิงสาวยิ้ม เดินตามกลิ่นหอมน่ากินไป
สตรีชราที่กำลังเคาะเค้กออกจากพิมพ์ยิ้มให้อย่างอารมณ์ดี รัตน์สุดาทำความเคารพอย่างเรียบร้อย มาลัยยิ้มอย่างพอใจ กริยาไหว้งดงาม ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป ท่าสวยเหมือนนางงาม ท่านคิดในใจ
“มาเมื่อไรจ๊ะ” มาลัยชวนคุย
รัตน์สุดากล้าเดินเข้าไปใกล้ ลากเก้าอี้มานั่งดู อุปกรณ์วางกระจายอยู่บนโต๊ะ เครื่องมือในการแต่งหน้าเค้ก
“เมื่อคืนค่ะ”
“งั้นก็มาพร้อมตาต้น เพื่อนตาต้นซินะ”
รัตน์สุดายิ้มเสีย คนนั้นชื่อต้นหรือ ? หนุ่มเสียงหล่อคนนั้น
“น้องเบลช่วยนะคะ หน้าครีมหรือหน้าแยมคะ”
“อะไรก็ได้จ๊ะ จะเอาไปช่วยงานวันเกิดท่านปลัดจังหวัด”
หญิงสาวเหลือบมองแวบหนึ่ง แล้วก็เลือกแต่งหน้าครีม
มาลัยมองมือที่ขยับอย่างคล่องแคล่ว ตาต้นมีเพื่อนสาวที่เป็นงานเป็นการอย่างนี้อยู่ด้วยหรือ เห็นแต่ละคนเปรี้ยวจี๊ด หรั่งจ๋า ก็ตาต้นไปอยู่เมืองฝรั่งมาตั้งหลายปี
“ยายน้อย หอมจังเลยฮะ”
วายุโผล่เข้ามา ยิ้มให้หญิงสาว รัตน์สุดาเหลียวไปมองประตูที่เธอเข้ามา แอบมองไปรอบๆ เขาเข้ามาทางไหนนะ เหมือนอยู่ๆ เขาก็มาอยู่ตรงนั้น ยิ้มตอบรอยยิ้มสดใส ด้วยรอยยิ้มแหยๆ
“เพื่อนต้นครับยายน้อย”
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นยิ้มให้อีกครั้ง ครั้งนี้ดีกว่าครั้งก่อน วายุให้คะแนน
“รู้จักแล้วจ๊ะ เรานะ ทิ้งเพื่อนไปไหนแต่เช้า”
“ไปวิ่งครับ ยายน้อยเป็นน้องสาวของยายผม ทำขนมอร่อยชั้นหนึ่ง”
พูดไป เขาก็ชงโอวันตินไปด้วยนำมาวางให้หญิงสาว
“อย่าเอามะพร้าวห้าวมาขายสวนต้น น้องเบลท่าจะทำขนมเก่งกว่ายาย”
วายุชำเลืองมอง อ้อ ชื่อเล่นว่าน้องเบล
“ต้นทานก่อนนะครับ”
เขาเลื่อนเค้กที่แต่งแล้วมาตัดใส่จานให้หญิงสาวก่อนตัดให้ตนเอง รัตน์สุดามองตาค้าง
“ยายจะเอาไปให้ปลัดนะตาต้น” คุณยายแกล้งเอะอะ
“ต้นทราบนี่ฮะว่านี่ของต้น” เขายิ้มประจบแล้วก็หันมาอธิบาย
“ผมชอบเค้กลูกเกด”
ก็มันเค้กลูกเกดจริงๆ ที่เขาตัดน่ะ คุณยายอมยิ้ม
“เขียนอวยพรไหมคะ ยายน้อย” รัตน์สุดาถาม เธอแต่งเป็นช่อดอกไม้ง่ายๆ แต่งกุหลาบจากครีมที่เธอทำบนแป้นปาดลงประดับ
“วัฒนะจ๊ะ” มาลัยบอก อันที่เธอแต่งอยู่เขียนคำว่า อายุ
รัตน์สุดาเขียนเสร็จแล้วก็เลื่อนอีกอันมาแต่งต่อ
“แฟนหรือ” มาลัยทำปากถามหลายชาย ที่ส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้ ตอบมาเป็นเรื่องอื่น
“เมื่อกี้ ผมไปครัวมา เถียงกันวุ่นวาย จะทำอาหารไปช่วยปลัดจังหวัดหรือฮะ”
“ยายจะเอาเค้กไปช่วยอย่างเดียว ต้นไปซินะ น้องเบลด้วย”
“แต่ว่า..” หญิงสาวเหลือบซ้ายที ขวาที
“เย็นๆ แน่ะ ไปกัน มีเต้นรำด้วยสนุกออก”
“ต้องแต่งเรียบร้อยหรือเปล่าคะ น้องเบลไม่มีกระโปรงมา”
“ไม่เป็นไร” มาลัยยิ้ม
เด็กคนนี้รู้กาลเทศะอยู่เหมือนกัน ดูหน้าดูผม ตาต้นไปหลอกเด็กที่ไหนมา พอมาดูตา ตาฉลาดทันคน ไม่เด็กแล้ว คนตาอย่างนี้
“ไม่เป็นไร นี่ตาต้นพาไปหายายนิดซินะ”
“ครับ” วายุรับคำ เต็มใจกับความโกลาหลที่จะเกิดขึ้น หญิงสาวคนนี้เข้ากับผู้อาวุโสของเขาได้ดี และท่านก็ชอบเธอมากเชียวล่ะ ไม่อย่างนั้นยายน้อยจะถามว่า แฟนหรือ คนอื่นๆ ท่านว่า เพื่อนแก ทั้งน้าน
รัตน์สุดาสนุกกับความโกลาหลช่วยผู้อาวุโสแต่งตัว ตั้งแต่ม้วนผมหาเสื้อผ้าเครื่องประดับ ผู้ใหญ่ทะเลาะกันเจี๊ยวจ๊าว ยายน้อย ยายนิด ยายตุ๊ก ย่าเรียบ ยายใหญ่ ตาพงษ์ ตารักษ์
จากคำสนทนาทำให้รู้ว่าจะมีตา ยายอีกหลายท่าน น้าๆ อาๆ มาร่วมฉลองในงานปีใหม่
“น้องเบลไปแต่งตัวไป๊ ต้องไปก่อนนะเด็กๆ ไปช่วยรับแขก คนแก่ๆ ไปทีหลัง”
ยายท่านหนึ่งไล่
“ค่ะๆ เดี๋ยวน้องเบลทาเล็บก่อน”
ป้าดายิ้มให้กำลังใจ ต้นเล่าให้ฟังว่าป้าดาเป็นพี่เลี้ยงของเขา แต่ดู ๆ อายุไม่ค่อยจะต่างจากยายบางท่านเลย
เด็กรับใช้หลายคนทำหน้าเบื่อหน่าย รัตน์สุดารู้ดีเชียวล่ะ แต่เธอโตมาได้ก็เพราะคนแก่ ท่านมีคุณค่า ความเก่าอยู่ในตนเอง หญิงสาวช่วยทาเล็บแต่งผมให้จบเรียบร้อย แล้วถึงปลีกตัวไปอาบน้ำ แต่งตัวที่ห้องที่เธอนอนนั่นล่ะ
วายุรออยู่ในห้อง เขาย้ายข้าวของของเธอไปไว้ในห้องหนังสือ มันไม่ดีถ้าจะอยู่ห้องเดียวกัน และห้องหนังสือก็สะดวกสบาย ยกเว้นต้องออกทางห้องเขาเท่านั้นเอง ชายหนุ่มจัดการให้คนย้ายฟูกไปไว้บนตั่ง เผื่อแขก (แฟน) ของเขาจะนอนที่นอนแข็งๆ ไม่ได้
รัตน์สุดายืมเพียงกระโปรงของน้าอะไรสักคน จำชื่อไม่ได้แล้ว กระโปรงลายสก็อตพื้นขาวลายน้ำตาลอ่อนแก่สลับกัน ใส่เสื้อ ที-เชิ้ต สีขาว เสื้อสเวตเตอร์ถักสีแดงสด พันคอด้วยผ้าพันคอเนื้อบาง เพ้นท์ลายดอกไม้สวยงาม ก็ลงมือทำเองนี่น่า
โชคดีที่ก่อนออกจากบ้านเอาของขวัญของเพื่อนออกมาด้วย รองเท้าสานด้วยกำมะหยี่พื้นบางมีสายพันกันขึ้นมาผูกที่ข้อเท้ามันน่ารักจนอดใจไม่ไหวต้องเอาใส่เป้มาด้วย พอดีได้ใช้
วายุยิ้มอย่างพอใจ เธอไม่ใช่คนสวยจัดเห็นแล้วต้องสะดุดตา แต่เป็นผู้หญิงหน้าตาธรรมดาที่เท่ต่างหาก แต่งตัวดูดี เรียบร้อย และเข้ากับตัวเองมากเชียวล่ะ
วายุแต่งกายง่ายๆ เสื้อเชิ้ตกางเกง แล้วก็เสื้อสเวตเตอร์ สีขรึม เขาเป็นคนแต่งตัวดูดี
“น้องเบลแปลงรูปได้สมบูรณ์มาก”
วายุพูดเมื่อหญิงสาวใส่รองเท้าเสร็จ ในบ้านนั้นมีรองเท้าผ้าใส่กันเป็นโหลๆ
“สวย” เขาชม
รัตน์สุดายิ้มรับเฉยๆ รู้ว่าเขาแกล้งแซว ช่วยลำเลียงกล่องขนมเค้ก อาหารไปใส่รถ
“ท่านปลัด เป็นเพื่อนกับยายนิวนะ ยายนิวเป็นน้องคนเล็กของยายผม เป็นน้องแม่ผมหลายปี”
หญิงสาวยิ้มในคำอธิบาย ยายทั้งหลายก็พูดให้ฟังแล้ว
“คุณจะได้ไม่แปลกใจไงครับที่เจอท่านแล้วเหมือนคนล่ะรุ่นกับยายผม” เขาสรุป
“ผมพบคุณเมื่อวาน ท่าทางไม่ดีเลย คุณมาหาใครหรือครับ”
วายุถามตรงๆ ระหว่างขับรถไปบ้านงาน เขาคิดว่าเขามีสิทธิรู้
“ผมไม่กว้างขวางนัก แต่ก็พอรู้จัก อาจจะช่วยคุณได้”
“ดิฉันมา...”
“แทนตัวเองว่าน้องเบลน่ารักกว่านะครับ แล้วคุณก็อายุน้อยกว่าผมไม่เท่าไร เรามาเป็นเพื่อนกันดีกว่า คุณแทนตัวกับเพื่อนว่ายังไง” วายุขัดขึ้น
“ฉัน” รัตน์สุดาตอบทันที แล้วหัวเราะ
“กับซี้นะคะ ถ้าสนิทก็เรา”
“น้องเบลมาพักผ่อนน่ะค่ะ ที่พักเต็มแวะไปหาคนรู้จักเขาก็ย้ายไปไหนไม่มีใครรู้ ก็อารมณ์เสียหน่อยๆ ก็เลยเดินมาเรื่อยๆ กะว่าจะโบกรถเข้าไปนอนในเมือง หรือไม่ก็กลับไปกรุงเทพฯ เลย”
วายุเก็บข้อมูลเอาไว้ในใจ เธอเป็นคนกรุงเทพฯ
“ยังเรียนอยู่หรือฮะ”
“ไม่เรียนแล้วค่ะ” หญิงสาวตอบ
“ตอนนี้ไม่ทำงานหรือครับ” วายุถามใหม่
หญิงสาวเพิ่งจะเข้าใจว่าเขาอยากรู้อะไรเกี่ยวกับตัวเธอ
“ผมเปิดบริษัทกับเพื่อน รับงานต่อจากบริษัทใหญ่อีกที กิจการของตัวเอง เลยโดดได้”
เขาอธิบายง่ายๆ แล้วก็เงียบเป็นเชิงให้เธอเล่าเรื่องบ้าง
“น้องเบลทำงานอิสระคะ” อารมณ์ขันเจือมาในน้ำเสียงหวาน
“เป็นตากล้อง กำลังอยากหาถ่ายภาพสวยๆ ประกวดเอารางวัล”
“ไม่กลับบ้านหรือ ช่วงปีใหม่น่ะ ใครๆ ก็กลับบ้าน”
“บ้านไม่มีอะไร” รัตน์สุดาตอบง่ายๆ
ปีใหม่นะหรือ งานโน้นงานนี้ไม่เคยอยู่บ้านทั้งบิดา มารดาอื่นๆ พ่อเธอมีภรรยาหลายคน แม่เธอก็เป็นหนึ่งในนั้น ท่านเสียชีวิตแล้ว แต่เธอก็ยังใช้นามสกุลของแม่ ไม่ได้เปลี่ยนไปใช้นามสกุลของบิดาอย่างที่ท่านต้องการ ไม่ได้เรียนจบหรูหราอย่างพี่ๆ ไม่ได้ทำงานตำแหน่งสูงๆ มีเกียรติ แต่เธอก็รักในอาชีพช่างภาพของเธอ
ความฝังใจคงเริ่มจากภาพวาดสวยๆ ที่ดูล่ะมั่ง เธอวาดรูปพอดูได้ แต่ไม่เป็นที่พอใจ ฉะนั้นการจะจำลองสิ่งใดการถ่ายภาพจะช่วยได้มาก แล้วเธอก็มีหัวทางนี้ เพื่อนซี้ เจ้าอ้อยฝากให้ทำงาน และเธอก็เป็นตากล้องมือดีเสียด้วยซิ
“ถ้าน้องเบลไม่ไปไหน อยู่ฉลองปีใหม่ด้วยกันซินะฮะ แล้วเข้ากรุงเทพฯพร้อมกัน”
“ขอบคุณค่ะ”
“ถือเป็นการตอบรับนะครับ”
รัตน์สุดายิ้มขำๆ คนเอาแต่ใจตัวเอง ก็เขาเป็นหนึ่งเดียวนี่น่า หลานคนเดียว ลูกคนเดียว มีอะไรที่อยากได้แล้วไม่ได้บ้างไหม หญิงสาวแอบถามตัวเองอยู่ในใจ
ดังนั้นเวลายามเช้าต่อมาของเธอ ก็ถูกเคาะห้องปลุกแต่เช้า การออกไปวิ่งของวายุ หาวิวถ่ายรูปของรัตน์สุดา กลับมากินอาหารเช้าที่พรั่งพร้อม แล้วก็เริ่มเวลาของวันที่แสนโกลาหลกับญาติผู้ใหญ่ เพื่อนฝูงของครอบครัว ไปจนดึกดื่นค่อนคืน
“ต้น มีอะไร”
ยายนวลถามขันๆ เมื่อเห็นหลานชายเดินหมุนไปหมุนมา ท่านกำลังนำขนมของแห้ง พวกมะพร้าวแก้ว อาลัว วุ้นกรอบ ฝอยทองกรอบ ฯลฯ มารวมใส่ตะกร้า เพื่อเป็นของขวัญอยู่ รวมทั้งกระจาดเล็กกระจาดน้อย เอาไว้แจกเด็กๆ
“มันก็มาตามสาวนะซิ จะมีอะไร เรื่องอะไรจะมาตามแก่ๆ จริงไหม ไอ้หนู”
ตานพถาม วายุหัวเราะ
“ตาก็ ถ้าตาจะไปด้วย ต้นจะว่าอะไรล่ะ ต้นจะพาน้องเบลไปเที่ยวน่ะ ยุ่งๆ กับคนกับแขกไม่ได้ไปไหนเลย เพิ่งไปได้รถจิ๊บมา จะเอาไปลองเครื่องด้วย”
“จะไปแถวไหนล่ะ” ยายน้อยถาม
“น้องเบลสนใจจะดูวัดครับ ไปลำพูนก่อน ไปไหว้พระรอด”
เขาหลิ่วตาให้ญาติผู้ใหญ่
“จะได้แคล้วคลาดตลอดทาง แล้วจะพาไปไหว้พระธาตุด้วย”
“เออดี แล้วของกินอะไรเอาไปหรือยัง น้องเบลเอาหมวกไปด้วยนะลูก มีไหม เดี๋ยวยายไปเอามาให้”
“น้องเบลมีแล้วค่ะ”
“เอ้าลุกซิ ไปเที่ยวไป๊ สาวๆน่ะ เที่ยวซะให้พอ” น้าติ๋วไล่
รัตน์สุดาลุกขอตัวออกมาเมื่อผูอาวุโสกว่าทั้งหมดพร้อมใจกับไล่ให้เธอออกไปเที่ยว
“ขับรถระวังนะ ต้น” เสียงเตือนตามหลัง
วายุชอบกิริยาเดินระเหิดระหงของหญิงสาว เดินสวยนุ่มนวล เมื่อจะเร็วก็คล่องแคล่ว กระฉับกระเฉง
“ต้น” เสียงเรียกชื่อ
เธอเรียกชื่อเขาเป็นครั้งแรก ชายหนุ่มหันมาตามเสียง แสงแฟลตวาบเข้าสู่ตา
“เหมาะเป็นนายแบบรู้ไหมคะ หุ่นคุณให้ หน้าตาก็ขึ้นกล้อง”
หญิงสาวคุยไปก็กดชัตเตอร์ไป ก่อนหันไปเลือกมุมอื่นๆ ของวัด
“ผมเข้าไปอยู่ไม่ได้หรอก ในกล้องน่ะ” วายุล้อ
“สายตาตากล้องเชื่อถือได้” เธอชี้ตาตัวเอง รอยยิ้มพร่างพราย
เขาเป็นคนอารมณ์ดี ต้นเป็นคนน่าคบนะ เขามีน้ำใจ อยู่ในแวดวงคนเก่าๆ เช่นเดียวกัน ชอบของเก่าๆ คงจะเป็นเพื่อนสนิทกันได้เชียวล่ะ ถ้าไม่มีเพศมาเกี่ยวข้อง
ใครว่าไม่มีความสำคัญ มีมากเชียวล่ะ โดยเฉพาะในธรรมเนียมประเพณีแบบไทย ถึงใครจะเข้าสู่วัฒนธรรมแบบตะวันตกแล้วก็ตาม แต่ส่วนเล็กๆ เขาก็ยังมีร่องรอยของวัฒนธรรมตะวันออกอยู่มาก
“น้องเบลถ่ายบ้างไหม ผมถ่ายรูปให้ ถึงไม่ใช่ตากล้อง แต่ฝีมือใช้ได้นะ” วายุขยิบตาล้อ
“รูปน้องเบลขายไม่ได้นี่คะ” เธอย่นจมูกใส่
“รูปผมขายได้หรือ”วายุถามกลับล้อๆ
ก้าวขายาวๆ ให้ทันเขา แอบถ่ายรูปต้นหลายรูปแล้ว เขามีบุคลิกที่ดี หุ่นให้ แต่งตัวเก๋น่ามอง เออแล้วเขายังเข้ากับวิวทิวทัศน์ นี่ซิสำคัญ เส้นโค้งไหล่เป็นแนวเดียวกับโค้งฟ้า ประกายผมเข้ากับประกายแดด
“เดี๋ยวผมจะพาไปวัดกู่ ที่มีช้าง เชื่อกันว่าเป็นที่ฝังศพของช้างทรงของพระนางจามเทวี”
วายุ ทำหน้าที่มัคคุเทศก์
“เมืองลำพูนเดิมชื่อเมืองหริภุญชัยนะ”
“ค้า” รัตน์สุดาอมยิ้ม
“ยิ้มอะไร” วายุถาม ยิ้มแบบนี้มีอะไรแน่ๆ ที่ซ่อนไว้ในรอยยิ้มนะ
“ก็ รู้ดีจัง” หญิงสาวยิ้มกว้าง
วายุหัวเราะ
“ไม่ได้รู้ดีหรอก มีเพื่อนรู้ดี เจอทีไร อาศัยผมเป็นหัวหลักหัวตอให้ฟัง มันเลยซึมทราบ”
“ใช้คำผิดหรือเปล่าคะ หัวหลักหัวตอ” หญิงสาวล้อ
“ไม่ผิด ก็ห้ามเถียง ห้ามพูด ฟังได้อย่างเดียว ไม่เรียกตอไม้จะเรียกอะไร”
วายุหัวเราะขำตัวเอง เขาก็โตมากับคนเก่าๆ แก่ๆ
“หัวหลักหัวตอที่ผมว่าไม่ใช่ เขามองข้ามผมไปหรอก เขาให้ผมทำตัวเป็นก้อนหินน่ะ”
ชายหนุ่ม ทำตัวแข็งๆ ให้ดู แล้วก็ยกไหล่ กิริยาที่เริ่มเจนตา ต้นชอบทำเวลาจะสลัดอะไรออกไปจากความคิด หญิงสาวยิ้มขำกิริยายกไหล่ สงสัยเพื่อนคนนี้จะเป็นสาว เธอเห็นแววเศร้าในดวงตาเขา
“แล้ว.. วัดนี้ละคะ” หญิงสาวลองภูมิ มองท่าทางขยับอย่างแกล้งๆ ของเขาอย่างสนุกในใจ
“วัดนี้คือ วัดพระธาตุหริภุญไชยวรมหาวิหาร สร้างในสมัยพระเจ้าอาทิตยราช มีพระธาตุหริภุญไชย บรรจุพระบรมธาตุในโกศทองคำ ว่ากันว่าเป็นส่วนพระเกศ เป็นเจดีย์แบบล้านนาไทยแท้ๆ เห็นไหมครับ แล้วสิงห์คู่ที่เราเห็นก่อนเข้ามาในส่วนนี้ ก็สร้างใน สมัยพระ เจ้าอาทิตยราช เมื่อทรงถวายวังให้เป็นสังฆารามวิหารหลวง”
วายุชี้ให้ชมศิลปะแบบทางเหนือแท้ๆ รัตน์สุดา ถ่ายรูปได้อีกหลายรูป รูปทรงหอทางเหนือ กับรูปแบบทางภาคกลาง หรือจะทรงลังกาวงศ์ที่อยู่รวมกันดูแปลกตา หญิงสาวรับดอกไม้ธูปเทียนมาบูชาพระธาตุ พร้อมทั้งทำทักษิณานุวัตรเป็นพุทธบูชา อธิษฐานขอให้พ่อแม่ คุณ
รัตน์สุดาแวะเช่าพระชุดพระรอดไปฝากคุณพ่อ ฝากคุณย่าด้วย เอ พี่เล็กจะน้อยใจไหมนะถ้าไม่ได้ของฝาก ห้ามลืมพี่ใหญ่ คนนั้นต้องโกรธแน่ๆ ฝากไปให้แมรี่ดีกว่าจะได้รอดเกรด เอฟ
แวะทานอาหารพื้นเมืองเจ้าอร่อย ขึ้นไปไหว้พระธาตุดอยสุเทพก็บ่ายมากแล้ว
“จะทันฝนไหมคะ” รัตน์สุดาเงยหน้ามองฟ้า รถไม่มีหลังคา
“ทันน่ากล้องเปียกน้ำจะเป็นอะไรไหม”
“มีพลาสติกกันอีกชั้นค่ะ” หญิงสาวตอบ จิกจมูกตัวเองเอาไว้ ไข้ยังเป็นๆ หายๆ เอ้าน่า ตากฝนอีกสักทีเพื่อมันจะหาย
หญิงสาวลุ้นใจหายใจคว่ำกับทางขึ้นพระธาตุ วายุขับรถได้อย่างเจ้าถิ่นจริงๆ แถมเล่าเรื่องลูกช้างขึ้นมาไหว้พระธาตุให้ฟังด้วย
“รู้ค่ะ มช.น่ะลูกช้าง เด็กปีหนึ่งเขาจะเดินไปไหว้พระธาตุกัน” หญิงสาวค้อนคม
วายุหัวเราะชอบใจ
ทั้งคู่เลือกที่จะเดินขึ้นไปเองแทนกระเช้าไฟฟ้า รัตน์สุดาเลือกแหวนงาวงน้อยไปฝากเพื่อน
ตอนกลับมาขึ้นรถฝนลงแค่ปรอยๆ แล้วก็หนักขึ้นเรื่อยๆ หญิงสาวห่อไหล่ตัวสั่น ฝนซัดเข้ามา เย็น แล้วก็เจ็บ
“น้องเบลเข้ามาชิดๆ เดี๋ยวถูกเหวี่ยงออกไป” วายุร้องบอก
“จอดรถรอฝนหยุดแล้วค่อยกลับได้ไหมคะ” รัตน์สุดาตระโกนตอบ
“ไม่มีที่หยุดแล้ว” วายุตระโกนตอบ
ทุ่มเทสมาธิให้อยู่กับการบังคับรถ รัตน์สุดามองแล้วก็อยากหัวเราะ ตลกดีออก เขาทำท่าทางเอาจริงเอาจัง ซึ่งไม่เหมาะเลย เขากำลังสนุกอยู่น่ะ
ทั้งคู่เปียกมอมแมมกลับบ้าน รีบอาบน้ำ หญิงสาวรู้สึกสนิทกับเขามากขึ้น เหมือนจะรู้จักเขามากขึ้น
ความคิดเห็น