ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : บทใหม่ของบูรณะ
บทที่ 10 บทใหม่ของบูรณะ
    ก่องแก้วอาบน้ำอาบท่าเตรียมตัวนอน เดินผ่านกระจก ก็แวะยืนมอง
    เงาที่สะท้อนออกมา สาวน้อย แก้มอิ่ม ตาใส ผมเสยพ้นหน้าผากเจ้าหล่อนยืนท้าวเอวเอียงซ้าย เอียงขวา ก่อนจะมีเงาวะวิบวะวับ เงาในกระจกดูใส สวย สง่า
    ก่องแก้วอ้าปากค้าง
    “จริงด้วย”
    เธออุทาน เห็นความแตกต่างเล็กๆ ของผิวผ่องใสในกระจกกับ ผิวอมเลือดฝาดคร้ามลงที่ซ้อนกันอยู่
    “ต้องใช้ครีมกันแดดแล้วมั๊ง” เธอปรารภ
    ตัวเองนอกจากจะมีวัตรการกินที่แปลกๆแล้ว ของไหว้ไม่ ของมีชีวิตไม่  เธอยังต้องมีวัตรปฏิบัติอีกหลายอย่าง และหนึ่งในนั้นไม่มีเครื่องสำอาง น้ำหอม
    “ไม่เป็นไรหรอก”
    กาญจนาเทวี อ้อมออกมาจากหลังกระจก เดินไปนั่งเอนๆที่เตียง วันนี้เทพธิดา ทรงชุดนอนกรุยกราย
    “ไม่ลอกนะ”
    ก่องแก้วทำหน้าสยดสยอง เคยเห็นเพื่อนตัวลอกเพราะแดดมาแล้ว ทรมานน่าดู ไม่ใช่ใครอื่น ขวัญข้าวจอมซนนั่นเอง หญิงสาวกระโดดขึ้นเตียงในส่วนของเธอ
    “แฟนแก้วนี่คงรักแก้วตายเลย นอนนิดเดียว”
    “แก้วยังไม่รู้เลยว่าจะมีแฟนหรือเปล่า” 
    ก่องแก้วบอกตรงๆ มีกาญจนาเทวีก็เหมือนมีเพื่อนสนิทรู้ใจ การทำตัวแปลกๆของเธอก็ทำให้หนุ่มๆ ห่างหาย
    “น่ารักอย่างนี้จะไม่มีได้ไง แม่กระแจะแป้ง” กาญจนาเทวี เอานิ้วจิ้มจมูก
    “หึ” สาวน้อยย่นจมูก
    “ทำไมแก้วจำไม่ได้ล่ะ ว่าเคยถูกเรียกว่าแม่กระแจะแป้ง”
    “ฉายา เขาเรียกลับหลังกันไงล่ะ ก็แก้วขาวมากนี่ แล้วเด็กๆ คุณย่าก็เกล้าจุกให้ นอนเถอะ พรุ่งนี้มีเรียนใช่ไหมล่ะ”
    “ช่ายแล้ว แล้ว เดือนหน้าก็ไปฝึกงานหนึ่งเดือน ไปด้วยกันไหม”
    “คงไม่ได้ไปด้วย ไปเยี่ยมแล้วกัน”
    แล้วกาญจนาเทวีก็ซุกตัวลงในผ้าห่มหลับไปง่ายๆ ก่องแก้วซุกตัวตาม มองดวงหน้างามคิดขันๆ
    ก็เหมือนพี่น้องคลานตามมาอย่างนี้ เล่าให้ใครฟัง ใครเขาจะเชื่อว่านี่เทพธิดา
    ก่องแก้วรินน้ำดื่ม เธอมีหน้าที่รับส่งคนงานช่วยช่างโรมดูงาน ผิวผ่องเข้มขึ้นจนเห็นได้ชัด ช่างโรม ทำงานกับนายช่าง พ่อเธอมานาน จนออกไปมีกลุ่มช่างเล็กๆ ของตัวเอง รับงานเองบ้าง ทำงานด้วยกันบ้าง พ่อกับคุณลุงนิกรเคยคุยกันว่าช่างโรมเอาดี  เลยพอออกไปตั้งตัวได้ เธอชายตามองหา เมื่อรู้สึกว่าถูกจ้อง สังหรณ์แปลกๆ แล้วก็ไม่ผิด  บูรณะนั่นเอง
    “มองอะไรคะ” 
    ก่องแก้วถามตรงๆ ล่ะคราวนี้ เดินไปยืนถามตรงหน้าเลย รู้ตัวว่าโดนแอบมอง เมื่อหันไป อีกฝ่ายก็เมินมองไปทางอื่นบ้าง ชวนคุยเป็นเรื่องอื่นๆ บ้าง
    “เรื่องใหม่ของผม”
    บูรณะส่งบทให้ หญิงในร่างชาย เขาว่างมาดูบ้าน มารู้งานก่อสร้าง ก็เลยมองหาแบบผู้หญิงแถวๆ นี้
    ก่องแก้วกระพริบตา รับบทมากรีดอ่านผ่านๆ
    “เรื่องนี้แก้วชอบ”
    ก่องแก้วคืนบท บอกยิ้มๆ  ถึงจะไม่ค่อยอ่านนิยาย ไม่ค่อยดูละคร เธอก็ติดตามข่าวบ้าง ก็กลุ่มเพื่อนๆ สาวๆ จะมีเรื่องอะไรคุยกันบ้างล่ะ
    “เล่นกับใครคะ ทำไมไม่ดูแบบคนที่จะเล่นด้วยละคะ มาดูแก้วจะได้อะไร”
    “ก็ได้หลายอย่างนะ”
    ชายหนุ่มทอดตัวลงเอนๆ กับหมอนขวางบนแคร่ มองสาวน้อยที่ยืนตัวตรงตรงหน้า
    “คุณแก้วเป็นคนเดินสวย เดินเหมือนลอย”
    ก่องแก้วเกิดอาการติดคอขึ้นทันควัน
    “ผิดคนแล้ว เพื่อนบอกว่าแก้วซุ่มซ่าม”
    “ท่าสวย” 
    บูรณะทำท่าวาดแขนเคลื่อนไหว กรีดนิ้วหยิบของ เหมือนจนต้องทึ่ง
    “คุณ” 
    ก่องแก้วไม่รู้จะพูดอะไรออก โตมากับกาญจนาเทวี ลอกเลียนกริยาท่าทางมาโดยไม่รู้ตัว ผู้ใหญ่ชมว่าเรียบร้อยน่ารัก เธอก็เลยไม่รู้สึกแปลก  เพื่อนบอกว่าเธอเชยเหมือนสาวโบราณ ที่เธอไม่รู้สึกว่ามีปัญหา ก็ในเรื่องเรียน เธอเรียนได้ดี  มีเพื่อนมีฝูง ทั้งหญิงทั้งชาย มีหนุ่มมาจีบบ้าง ก็ไม่เห็นแปลกตรงไหน แต่ตอนที่เห็นชายหนุ่มตรงหน้าทำท่าเลียนแบบเธอ กลับรู้สึกว่าท่าทางนั้นประหลาด
    “เรียบร้อย”
    บูรณะเปลี่ยนท่าเป็นนั่ง ซึ่งก็เหมือนจน ก่องแก้วต้องหัวเราะ ก็ช่างที่ก่อสร้างยังหัวเราะมาจนได้ยิน บูรณะยิ้มกว้าง โบกมือรับ เปลี่ยนท่าที่เป็นของตนเองฉับพลัน
    “นักแสดงนี่เหมือนจิ้งจกเปลี่ยนสีเลยนะคะ คุณบุญเก่งอย่างนี้ต้องเป็นจิ้งจกเจ็ดสีแน่”
    หญิงสาวกัดคำเล็กๆ
    “มันอาชีพของผม”
    ชายหนุ่มรับอย่างไม่ขัดเขิน
    “ถ้าเป็นจิ้งจกเจ็ดสีจริง ราคาแพงน่าดูนะหนูแก้ว ของหายากแบบนั้น”
    เขาล้อเธอเล่น ได้ยินช่างหลายคนเรียกเธออย่างนั้น
    “อย่าเรียกผมคุณเลย เรียกชื่อเฉยๆ หรือจะเรียกพี่เพราะผมแก่กว่าก็ได้”
    “พี่บูมนะหรือคะ”
    ก่องแก้วทำท่าสยอง ที่บูรณะชอบมอง เด็กคนนี้ใสๆ ใสจนเหมือนแก้ว อะไรก็แสดงออกมาชัดเจน
    “บุญครับ บุญ บูรณะยินดีรับใช้ หนูแก้วก็ทราบว่าผมเป็นเด็กวัด”
    ก่องแก้วนึกถึงเหตุจ๊ะกันได้ กาญจนาเทวีประสงค์ให้เธอไปทำบุญที่วัดแห่งหนึ่ง บ้านเธอก็เลยไปทำบุญกันทั้งครอบครัว พบบูรณะทำหน้าที่เป็นเด็กวัดอยู่พอดี วัดนั้นก็ไม่ไกลจากนี่ วัดที่บิดาคุณแฉล้มสร้างอุทิศส่วนกุศลให้เธอ 
    นึกถึงคุณแฉล้มได้ เธอก็เหลียวหา คุณแฉล้มก็อยู่ที่เดิมของเธอ ซึ่งตอนนี้เป็นที่ของบูรณะ ก่องแก้วเริ่มปวดหัว เธอต้องบอกเขาไหมนะ ว่าเวลาสร้างศาลเจ้าที่ ต้องสร้างที่ไหน เจ้าที่ชื่ออะไร สงสัยสายเลือดของแม่จะแรง
    “รึคุณแก้วรังเกียจ”
    “อย่าพูดเป็นละครไปเลยน่าพี่ เห็นแก้วเป็นคนยังไง แล้วพี่บุญก็เลิกเรียกแก้วว่าคุณแก้วด้วย ที่พ่อ พี่บุญยังเรียกว่านายช่างเลย”
    ก่องแก้วค้อน นั่งลงบนแคร่ที่ชายหนุ่มขยับที่ให้
    “นายช่างว่าหนูแก้วเรียนจัดสวน”
    “น้องชายตัดช่องน้อยแต่พอตัวไปเรียนหมอแล้ว แก้วก็เลยเลือกเรียนสวน มันเสริมงานของพ่อ” เจ้าตัวยกไหล่ 
“พ่อมีเราสองคนไม่แก้วก็นายก้อง จริงๆ แก้วคิดว่าจะเป็นนายก้องเสียอีก เขาชอบงานก่อสร้าง ตั้งแต่เด็ก”
    “ผมว่างานหมอก็เป็นช่างอย่างหนึ่งนะ ซ่อมแซมมนุษย์”
    บูรณะปลอบ จากคำพูดท่าทาง ก่องแก้วไม่ได้อยากทำงานบริษัทก่อสร้าง
    “หนูแก้วอยากเป็นอะไรครับ”
    “แก้วชอบอยู่กับต้นไม้ ฝันว่าจะมีสวนใหญ่ๆ ไกลๆคนสักหน่อย” หญิงสาวหัวเราะ
    “แต่ไม่เป็นไร ตอนนี้ก็อยู่กับต้นไม้เล็กๆ ใกล้ๆ คน ไปก่อน” หญิงสาวดีดตัวลุกขึ้นยืน
    “อย่าเรียนแบบแก้วเลย มันจะยากถ้าไม่เหมือนคนที่พี่บุญจะต้องเล่นด้วย แล้วแก้วก็ไม่ชอบให้ใครมามองด้วย”
    บูรณะหัวเราะ เออไม่ชอบให้ใครมามอง รูปร่างหน้าตาอย่างนี้ จะไม่มีใครมองได้อย่างไร
    “แม่จ๋ากลับมาแล้ว”
    ก่องแก้วส่งเสียง เก็บรองเท้าพ่อเข้าชั้น หอบกระเป๋า เอกสารไปวางไว้ให้ที่โต๊ะทำงาน แวะรินน้ำเย็นฉ่ำมาให้ พร้อมเยือก
    เชิงชายลูบหัวบุตรสาวเป็นเชิงขอบใจ
    “แม่ไม่อยู่หรือ” เขาถามเมื่อไม่มีเสียงตอบ
    “ไม่รู้ซิ เดี๋ยวแก้วไปหาก่อน รองเท้าก็อยู่นี่น่า นายก้องก็กลับมาแล้ว”
    ก่องแก้วเดินไปทั่วบ้าน เริ่มวางแผนค้นหาที่ห้องครัว ทั้งก้องทั้งแม่อยู่ในครัว ธนวัตรทำท่าให้พี่สาวเงียบ แม่ชูการ์ดวันเกิดพ่อให้ดู พรางชี้ไปที่ขนมเค้กอันสวย
    “พ่อ มาดูอะไรนี่เร็ว”
    เสียงตื่นเต้นของลูกสาวทำให้เชิงชายตื่นตัว เดินตามลูกเข้าครัว
    “อะไรแก...”
    เค้กลอยมาปะเต็มหน้า เสียงหวานใจตัวจริงดังก้อง แล้วยังเสียงกลั้นหัวเราะเล็กๆ ของลูกชายลูกสาว เชิงชายปาดครีมออกจากหน้า
    “สุขสันต์วันเกิด” สามเสียงประสานกัน
    “ขอบใจ ขอบใจจ๊ะ”
    เชิงชายบอกดึงภรรยามาจุ๊บแก้มซ้ายขวา ก่อนเล็งเป้าไปที่ลูกชายลูกสาวที่นกรู้ชิงวิ่งขึ้นบ้าน
ก่อน
    “เราจะไปอาบน้ำแต่งตัวรอนะครับ” ธนวัตรบอก
    “พี่อาบน้ำก่อนนะ ผู้หญิงแต่งตัวนานกว่า” ก่องแก้วบอกน้องชาย
    “ชวนพี่กาญจน์ไปด้วยนะ”
    น้องชายบอก เหมือนทุกปี แล้วก็ทุกปีที่กาญจนาเทวีมักจะไปด้วย
    ก่องแก้วนึกในใจเป็นครั้งแรกที่เธอนึกถึงคนนอกครอบครัว บูรณะ เขาจะมีวันเกิดแบบนี้ไหมนะ  วันเกิดที่อาจจะไม่ใช่วันเกิดจริงๆ ของเขา เด็กวัด เด็กกำพร้า
    ก่องแก้วอาบน้ำอาบท่าเตรียมตัวนอน เดินผ่านกระจก ก็แวะยืนมอง
    เงาที่สะท้อนออกมา สาวน้อย แก้มอิ่ม ตาใส ผมเสยพ้นหน้าผากเจ้าหล่อนยืนท้าวเอวเอียงซ้าย เอียงขวา ก่อนจะมีเงาวะวิบวะวับ เงาในกระจกดูใส สวย สง่า
    ก่องแก้วอ้าปากค้าง
    “จริงด้วย”
    เธออุทาน เห็นความแตกต่างเล็กๆ ของผิวผ่องใสในกระจกกับ ผิวอมเลือดฝาดคร้ามลงที่ซ้อนกันอยู่
    “ต้องใช้ครีมกันแดดแล้วมั๊ง” เธอปรารภ
    ตัวเองนอกจากจะมีวัตรการกินที่แปลกๆแล้ว ของไหว้ไม่ ของมีชีวิตไม่  เธอยังต้องมีวัตรปฏิบัติอีกหลายอย่าง และหนึ่งในนั้นไม่มีเครื่องสำอาง น้ำหอม
    “ไม่เป็นไรหรอก”
    กาญจนาเทวี อ้อมออกมาจากหลังกระจก เดินไปนั่งเอนๆที่เตียง วันนี้เทพธิดา ทรงชุดนอนกรุยกราย
    “ไม่ลอกนะ”
    ก่องแก้วทำหน้าสยดสยอง เคยเห็นเพื่อนตัวลอกเพราะแดดมาแล้ว ทรมานน่าดู ไม่ใช่ใครอื่น ขวัญข้าวจอมซนนั่นเอง หญิงสาวกระโดดขึ้นเตียงในส่วนของเธอ
    “แฟนแก้วนี่คงรักแก้วตายเลย นอนนิดเดียว”
    “แก้วยังไม่รู้เลยว่าจะมีแฟนหรือเปล่า” 
    ก่องแก้วบอกตรงๆ มีกาญจนาเทวีก็เหมือนมีเพื่อนสนิทรู้ใจ การทำตัวแปลกๆของเธอก็ทำให้หนุ่มๆ ห่างหาย
    “น่ารักอย่างนี้จะไม่มีได้ไง แม่กระแจะแป้ง” กาญจนาเทวี เอานิ้วจิ้มจมูก
    “หึ” สาวน้อยย่นจมูก
    “ทำไมแก้วจำไม่ได้ล่ะ ว่าเคยถูกเรียกว่าแม่กระแจะแป้ง”
    “ฉายา เขาเรียกลับหลังกันไงล่ะ ก็แก้วขาวมากนี่ แล้วเด็กๆ คุณย่าก็เกล้าจุกให้ นอนเถอะ พรุ่งนี้มีเรียนใช่ไหมล่ะ”
    “ช่ายแล้ว แล้ว เดือนหน้าก็ไปฝึกงานหนึ่งเดือน ไปด้วยกันไหม”
    “คงไม่ได้ไปด้วย ไปเยี่ยมแล้วกัน”
    แล้วกาญจนาเทวีก็ซุกตัวลงในผ้าห่มหลับไปง่ายๆ ก่องแก้วซุกตัวตาม มองดวงหน้างามคิดขันๆ
    ก็เหมือนพี่น้องคลานตามมาอย่างนี้ เล่าให้ใครฟัง ใครเขาจะเชื่อว่านี่เทพธิดา
    ก่องแก้วรินน้ำดื่ม เธอมีหน้าที่รับส่งคนงานช่วยช่างโรมดูงาน ผิวผ่องเข้มขึ้นจนเห็นได้ชัด ช่างโรม ทำงานกับนายช่าง พ่อเธอมานาน จนออกไปมีกลุ่มช่างเล็กๆ ของตัวเอง รับงานเองบ้าง ทำงานด้วยกันบ้าง พ่อกับคุณลุงนิกรเคยคุยกันว่าช่างโรมเอาดี  เลยพอออกไปตั้งตัวได้ เธอชายตามองหา เมื่อรู้สึกว่าถูกจ้อง สังหรณ์แปลกๆ แล้วก็ไม่ผิด  บูรณะนั่นเอง
    “มองอะไรคะ” 
    ก่องแก้วถามตรงๆ ล่ะคราวนี้ เดินไปยืนถามตรงหน้าเลย รู้ตัวว่าโดนแอบมอง เมื่อหันไป อีกฝ่ายก็เมินมองไปทางอื่นบ้าง ชวนคุยเป็นเรื่องอื่นๆ บ้าง
    “เรื่องใหม่ของผม”
    บูรณะส่งบทให้ หญิงในร่างชาย เขาว่างมาดูบ้าน มารู้งานก่อสร้าง ก็เลยมองหาแบบผู้หญิงแถวๆ นี้
    ก่องแก้วกระพริบตา รับบทมากรีดอ่านผ่านๆ
    “เรื่องนี้แก้วชอบ”
    ก่องแก้วคืนบท บอกยิ้มๆ  ถึงจะไม่ค่อยอ่านนิยาย ไม่ค่อยดูละคร เธอก็ติดตามข่าวบ้าง ก็กลุ่มเพื่อนๆ สาวๆ จะมีเรื่องอะไรคุยกันบ้างล่ะ
    “เล่นกับใครคะ ทำไมไม่ดูแบบคนที่จะเล่นด้วยละคะ มาดูแก้วจะได้อะไร”
    “ก็ได้หลายอย่างนะ”
    ชายหนุ่มทอดตัวลงเอนๆ กับหมอนขวางบนแคร่ มองสาวน้อยที่ยืนตัวตรงตรงหน้า
    “คุณแก้วเป็นคนเดินสวย เดินเหมือนลอย”
    ก่องแก้วเกิดอาการติดคอขึ้นทันควัน
    “ผิดคนแล้ว เพื่อนบอกว่าแก้วซุ่มซ่าม”
    “ท่าสวย” 
    บูรณะทำท่าวาดแขนเคลื่อนไหว กรีดนิ้วหยิบของ เหมือนจนต้องทึ่ง
    “คุณ” 
    ก่องแก้วไม่รู้จะพูดอะไรออก โตมากับกาญจนาเทวี ลอกเลียนกริยาท่าทางมาโดยไม่รู้ตัว ผู้ใหญ่ชมว่าเรียบร้อยน่ารัก เธอก็เลยไม่รู้สึกแปลก  เพื่อนบอกว่าเธอเชยเหมือนสาวโบราณ ที่เธอไม่รู้สึกว่ามีปัญหา ก็ในเรื่องเรียน เธอเรียนได้ดี  มีเพื่อนมีฝูง ทั้งหญิงทั้งชาย มีหนุ่มมาจีบบ้าง ก็ไม่เห็นแปลกตรงไหน แต่ตอนที่เห็นชายหนุ่มตรงหน้าทำท่าเลียนแบบเธอ กลับรู้สึกว่าท่าทางนั้นประหลาด
    “เรียบร้อย”
    บูรณะเปลี่ยนท่าเป็นนั่ง ซึ่งก็เหมือนจน ก่องแก้วต้องหัวเราะ ก็ช่างที่ก่อสร้างยังหัวเราะมาจนได้ยิน บูรณะยิ้มกว้าง โบกมือรับ เปลี่ยนท่าที่เป็นของตนเองฉับพลัน
    “นักแสดงนี่เหมือนจิ้งจกเปลี่ยนสีเลยนะคะ คุณบุญเก่งอย่างนี้ต้องเป็นจิ้งจกเจ็ดสีแน่”
    หญิงสาวกัดคำเล็กๆ
    “มันอาชีพของผม”
    ชายหนุ่มรับอย่างไม่ขัดเขิน
    “ถ้าเป็นจิ้งจกเจ็ดสีจริง ราคาแพงน่าดูนะหนูแก้ว ของหายากแบบนั้น”
    เขาล้อเธอเล่น ได้ยินช่างหลายคนเรียกเธออย่างนั้น
    “อย่าเรียกผมคุณเลย เรียกชื่อเฉยๆ หรือจะเรียกพี่เพราะผมแก่กว่าก็ได้”
    “พี่บูมนะหรือคะ”
    ก่องแก้วทำท่าสยอง ที่บูรณะชอบมอง เด็กคนนี้ใสๆ ใสจนเหมือนแก้ว อะไรก็แสดงออกมาชัดเจน
    “บุญครับ บุญ บูรณะยินดีรับใช้ หนูแก้วก็ทราบว่าผมเป็นเด็กวัด”
    ก่องแก้วนึกถึงเหตุจ๊ะกันได้ กาญจนาเทวีประสงค์ให้เธอไปทำบุญที่วัดแห่งหนึ่ง บ้านเธอก็เลยไปทำบุญกันทั้งครอบครัว พบบูรณะทำหน้าที่เป็นเด็กวัดอยู่พอดี วัดนั้นก็ไม่ไกลจากนี่ วัดที่บิดาคุณแฉล้มสร้างอุทิศส่วนกุศลให้เธอ 
    นึกถึงคุณแฉล้มได้ เธอก็เหลียวหา คุณแฉล้มก็อยู่ที่เดิมของเธอ ซึ่งตอนนี้เป็นที่ของบูรณะ ก่องแก้วเริ่มปวดหัว เธอต้องบอกเขาไหมนะ ว่าเวลาสร้างศาลเจ้าที่ ต้องสร้างที่ไหน เจ้าที่ชื่ออะไร สงสัยสายเลือดของแม่จะแรง
    “รึคุณแก้วรังเกียจ”
    “อย่าพูดเป็นละครไปเลยน่าพี่ เห็นแก้วเป็นคนยังไง แล้วพี่บุญก็เลิกเรียกแก้วว่าคุณแก้วด้วย ที่พ่อ พี่บุญยังเรียกว่านายช่างเลย”
    ก่องแก้วค้อน นั่งลงบนแคร่ที่ชายหนุ่มขยับที่ให้
    “นายช่างว่าหนูแก้วเรียนจัดสวน”
    “น้องชายตัดช่องน้อยแต่พอตัวไปเรียนหมอแล้ว แก้วก็เลยเลือกเรียนสวน มันเสริมงานของพ่อ” เจ้าตัวยกไหล่ 
“พ่อมีเราสองคนไม่แก้วก็นายก้อง จริงๆ แก้วคิดว่าจะเป็นนายก้องเสียอีก เขาชอบงานก่อสร้าง ตั้งแต่เด็ก”
    “ผมว่างานหมอก็เป็นช่างอย่างหนึ่งนะ ซ่อมแซมมนุษย์”
    บูรณะปลอบ จากคำพูดท่าทาง ก่องแก้วไม่ได้อยากทำงานบริษัทก่อสร้าง
    “หนูแก้วอยากเป็นอะไรครับ”
    “แก้วชอบอยู่กับต้นไม้ ฝันว่าจะมีสวนใหญ่ๆ ไกลๆคนสักหน่อย” หญิงสาวหัวเราะ
    “แต่ไม่เป็นไร ตอนนี้ก็อยู่กับต้นไม้เล็กๆ ใกล้ๆ คน ไปก่อน” หญิงสาวดีดตัวลุกขึ้นยืน
    “อย่าเรียนแบบแก้วเลย มันจะยากถ้าไม่เหมือนคนที่พี่บุญจะต้องเล่นด้วย แล้วแก้วก็ไม่ชอบให้ใครมามองด้วย”
    บูรณะหัวเราะ เออไม่ชอบให้ใครมามอง รูปร่างหน้าตาอย่างนี้ จะไม่มีใครมองได้อย่างไร
    “แม่จ๋ากลับมาแล้ว”
    ก่องแก้วส่งเสียง เก็บรองเท้าพ่อเข้าชั้น หอบกระเป๋า เอกสารไปวางไว้ให้ที่โต๊ะทำงาน แวะรินน้ำเย็นฉ่ำมาให้ พร้อมเยือก
    เชิงชายลูบหัวบุตรสาวเป็นเชิงขอบใจ
    “แม่ไม่อยู่หรือ” เขาถามเมื่อไม่มีเสียงตอบ
    “ไม่รู้ซิ เดี๋ยวแก้วไปหาก่อน รองเท้าก็อยู่นี่น่า นายก้องก็กลับมาแล้ว”
    ก่องแก้วเดินไปทั่วบ้าน เริ่มวางแผนค้นหาที่ห้องครัว ทั้งก้องทั้งแม่อยู่ในครัว ธนวัตรทำท่าให้พี่สาวเงียบ แม่ชูการ์ดวันเกิดพ่อให้ดู พรางชี้ไปที่ขนมเค้กอันสวย
    “พ่อ มาดูอะไรนี่เร็ว”
    เสียงตื่นเต้นของลูกสาวทำให้เชิงชายตื่นตัว เดินตามลูกเข้าครัว
    “อะไรแก...”
    เค้กลอยมาปะเต็มหน้า เสียงหวานใจตัวจริงดังก้อง แล้วยังเสียงกลั้นหัวเราะเล็กๆ ของลูกชายลูกสาว เชิงชายปาดครีมออกจากหน้า
    “สุขสันต์วันเกิด” สามเสียงประสานกัน
    “ขอบใจ ขอบใจจ๊ะ”
    เชิงชายบอกดึงภรรยามาจุ๊บแก้มซ้ายขวา ก่อนเล็งเป้าไปที่ลูกชายลูกสาวที่นกรู้ชิงวิ่งขึ้นบ้าน
ก่อน
    “เราจะไปอาบน้ำแต่งตัวรอนะครับ” ธนวัตรบอก
    “พี่อาบน้ำก่อนนะ ผู้หญิงแต่งตัวนานกว่า” ก่องแก้วบอกน้องชาย
    “ชวนพี่กาญจน์ไปด้วยนะ”
    น้องชายบอก เหมือนทุกปี แล้วก็ทุกปีที่กาญจนาเทวีมักจะไปด้วย
    ก่องแก้วนึกในใจเป็นครั้งแรกที่เธอนึกถึงคนนอกครอบครัว บูรณะ เขาจะมีวันเกิดแบบนี้ไหมนะ  วันเกิดที่อาจจะไม่ใช่วันเกิดจริงๆ ของเขา เด็กวัด เด็กกำพร้า
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น