ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักนั้น หรือสวรรค์แกล้ง

    ลำดับตอนที่ #1 : ปัจจุบัน 1.เธอคือใคร

    • อัปเดตล่าสุด 14 มี.ค. 51


    1.Who is that girl ?
     
         วิยะดากอดสมุดแน่นเข้า เชิดหน้าเมื่อต้องเดินเข้าห้องของคู่อริ คู่อริหรือคู่แข่งก็ได้ แล้วก็เป็นอาจารย์เสียด้วยซิ

                    เรื่องมันเริ่มที่.....วิยะดาเป็นคนมีเพื่อนฝูงมากมาย เป็นคนสวยและนิสัยดี ดังนั้นเธอก็เลยไม่มีเวลาเป็นของตัวเองนัก มีแต่เวลาที่เป็นของเพื่อน

                    “แขก จันทร์ว่างไหม” 

                   เพื่อนสาวที่เรียนคณะวิศวะ วิ่งมาถาม เหตุการณ์นั้นก็ประมาณหนึ่งเดือนหลังจากเข้ามาเป็นนิสิตนักศึกษาใหม่ ในรั้วมหาวิทยาลัย

                    “มีเรียนสี่โมงเช้า บ่ายๆว่าจะไปเล่นกีฬาหน่อย แล้วเย็นห้าโมงมีนัดกับตุ๋ม” เธอหมายถึงเพื่อนอีกคนที่เรียนคณะสถาปัตย์อยู่

                    “ดีเลย ไปจด lecture ให้หน่อยนะจ๊ะ” อ้อยสาววิศวะบอกห้องเรียนให้เสร็จสรรพ

                    “ตัวจะไปไหนล่ะ” วิยะดาถาม

                    “จะกลับบ้าน มีเรียนอีกทีก็วันศุกร์ วันจันทร์มีเรียนวิชาเดียวเอง” อ้อยบอกส่งยิ้มอ้อนขอความเห็นใจ ถึงวิยะดาจะใจดี ช่วยเข้าเรียนแทนเพื่อน แต่เธอก็ไม่ชอบการเข้าเรียนแทนแบบไม่มีเหตุผลเช่นกัน
                    อ้อยบ้านอยู่ต่างจังหวัด วันอังคารเป็นวันหยุดราชการ วิยะดาเข้าใจความรู้สึกของคนที่อยู่ไกลบ้านได้ดี ถึงเธอจะเป็นคนเมืองหลวงเต็มตัวก็ตาม

                   
    “O.K. แล้วอย่าลืมมาเอา lecture ล่ะ”

                    นั่นล่ะครั้งแรกที่เจอกัน เขาเป็นอาจารย์สอนคณิตศาสตร์เธอนั่งมองเขาเพลิน ก็เขาหล่อออก นักศึกษาสาวๆพากันปลื้มเขามากมาย ไม่คิดเลยเชียวว่าต้องมาเป็นคู่แข่งกัน นอกจากเข้าจะสอนคณิตฯแล้ว เขาก็ยังสอนเขียนแบบด้วยซิ ก็ในการเจอกันครั้งที่สอง เธอไปเรียนแทนเพื่อนที่เรียนสถาปัตย์ ก็เจ้าตุ๋มนั่นแหล่ะ

                    ครั้งนั้นตัวเธอก็ยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองถูกเล็งเอาไว้ จนกระทั้งการพบกันครั้งที่สาม เธอไปทำ
    Lab.เคมีให้เพื่อนคนที่เรียนวิทยาศาสตร์ แล้วคู่แข่งคนนี้ก็บังเอิญไปคุยกับเพื่อนที่เป็นอาจารย์คุม lab. อยู่

    “นี่คุณ เรียนคณะอะไรกันแน่” เสียงถามดังใกล้ๆ

            วิยะดาเงยหน้ามองปุ๊บ ก็แทบตะลึงค้าง มือไม้ทำท่าจะอ่อนเอาง่ายๆ แววตารู้ทัน สงสัย จับผิด อะไรทำนองนั้น
    “ก็แถวๆนี้ละคะ” หญิงสาวตอบอุบอิบ เพื่อนที่ทำ lab.คู่กันหันมาถามข้อมูล คู่แข่งเธอก็เลยเดินเลยไป

    “นั้นใครน่ะ” อุณรุธถามเพื่อน เขาก็ถามไม่ดังหรอกนะ แต่ว่ามันใกล้กับที่ที่เธอทำ lab. อยู่นะซิ

    “เออ นั่นซิ” อาจารย์คุม Lab. เอ่ยอย่างเห็นด้วย “คงเป็นเด็กห้องอื่นที่ทำ lab. ไม่ผ่านมั๊งหนุ่ม มีอะไรล่ะ” เพื่อนตอบแล้วก็ย้อนถามอย่างสงสัยนิดๆ เพื่อนผู้นี้นอกจากรักเรียน รักผู้หญิงเพียงผู้เป็นมารดาแล้วก็ไม่เห็นจะสนใจสาวๆ อื่นเอาเสียเลย มาสนใจอะไรนักศึกษาปีหนึ่ง
    “เคยสอนน่ะ แต่แน่ใจว่าไม่ได้เรียนวิทย์” อุณรุธตอบเพื่อน เด็กสถาปัตย์ เขามีการเข้า lab. เคมีด้วยหรือไง ไม่เห็นเคยรู้
    การพบกันสามครั้ง แบบไม่ธรรมดาจะถือว่าเป็นพรหมลิขิตหรือยังนะ หรือจะแค่สวรรค์กลั่นแกล้ง
     
            มีครั้งที่สาม ก็มีครั้งที่สี่ ซินา
    “แขก lecture ให้หน่อย” เจ้าคนซี้มาก พูดจาใช้มาด้วยน้ำเสียงสนิทสนมมาก 

    ก็คบหากันมาตั้งแต่ยังเด็ก แต่อ้อนแต่ออก ก็เกิดโรงพยาบาลเดียวกัน แถมแม่ยังใช้ห้องพิเศษห้องเดียวกันอีกก็นายคนนี้เกิดก่อนสามวัน พ่อรู้จักกัน เรียนโรงเรียนเดียวกันห้องเดียวกันมาตลอด ยกเว้นตอนเข้ามหาวิทยาลัย ที่ต่างคนต่างตั้งใจจะแยกกันไปคนล่ะทาง ซึ่งก็ห่างกันได้เพียงคนละคณะ ในเมื่อต่างมาตรงใจในสถาบันเดียวกัน ตอนนี้เจ้านี่เรียนเศรษฐศาสตร์

     “Math. นะ แล้วออกมาสอนผม” ไม่มีการถามก่อนว่าว่างไม่ว่าง ใช้มาด้วยความแน่ใจว่าเพื่อนไม่ทำให้ผิดหวัง
    “แล้วคุณจะไปไหน” วิยะดาถาม พอเจ้านี่แทนตัวว่าผมเธอก็จะใช้คำว่าคุณกับดิฉัน ถ้านายก็เรา แล้วถ้าเป็นแกก็กับฉัน เวลาอารมณ์ดีต่อกัน ก็แทนด้วยชื่อเล่น

    “ผมนัดเพื่อนเอาไว้ คนที่เขาจะให้ข้อมูลทำรายงานนะ” บดินทร์ตอบ นั่งลงตรงข้าม จิ้มขนมของเพื่อนกินอย่างสบายใจ

    “O.K. ห้องไหน” วิยะดาพยักหน้า สอบถามลายละเอียด 
    “ห้องอาจารย์หนุ่ม”

    “อะไรนะ” วิยะดาร้องเสียงดัง เมื่อได้ฟังคำตอบ อาจารย์หนุ่ม ตายแล้ว ตายแน่ๆ เธอจะกล้าเข้าห้องเรียนที่อาจารย์หนุ่มสอนได้อย่างไร ตอนนี้เวลาจะเดินสวนหรืออะไร ถ้าเห็นก่อนเลี่ยงได้เธอเลี่ยง หลบแอบเข้าห้องเรียนอื่นก็ทำมาแล้ว สายตามองนิ่งๆ จับผิด ทำเอาหนาวๆ ร้อนๆ
    “อาจารย์หนุ่ม” บดินทร์เลิกคิ้ว พูดซ้ำให้ได้ยินชัดๆ เพื่อนเขามีปัญหาอะไรกับอาจารย์ วิยะดาเรียบร้อย น่ารัก เป็นที่เอ็นดูของอาจารย์

    “แจ็กมา lecture เอาเองเถอะ แขกกลัวถูกจับโยนออกมา” วิยะดาบอกตามความจริงที่เธอรู้สึก ถ้าอาจารย์หนุ่มเจอเธออีกครั้ง เธอเสร็จแน่ และคนที่เธอเข้าเรียนแทนจะโดนพลอยฟ้าพลอยฝนไปด้วย

    “ทำไมล่ะ กลัวอะไร อาจารย์ไม่รู้หรอกเด็กออกเต็มห้อง แขกก็รู้จักทั้งนั้น”

    เพื่อนปลอบ แต่อย่างไรวิยะดาก็ไม่สบายใจอยู่ดี สายตาคมบนหน้าขาวๆ ที่เหมือนจะใจดี สงสัญญาณเตือนเธออยู่ ว่าอย่ามาอยู่ในเส้นทางเขาอีก เขาไม่ปล่อยเธอลอยนวลออกมางายๆ อย่างเคยแน่ 

    “แล้วแต่คุณพระเถอะนะ ถ้าอาจารย์หักคะแนนนาย ฉันก็ช่วยอะไรไม่ได้นะเรื่องนั้น” เธอบอก “ให้คุณเจ้าช่วยแล้วกัน”

    “แล้วแขกช่วยอะไรแจ็กได้ละ” บดินทร์เย้าเพื่อนปนหัวเราะ เขาไม่คิดอะไรมาก แค่เข้าไปจดแทนจะมีอะไร ไม่ได้ขอให้เข้าไปสอบแทนเสียหน่อย

    “ช่วยติวนะซิ” เธอทำหน้าขรึมใส่ บดินทร์หัวเราะไม่คิดจริงจังอะไร โธ่เอ๊ยไม่ใช่เรื่องใหญ่โตเสียหน่อย อาจารย์ที่สอนเขา ต่างคุ้นหน้าสาวน้อยคนขยันที่เข้าไปเรียนแทนเพื่อนบ่อยๆ คนนี้อยู่แล้ว พยักหน้ารับให้เพื่อนสบายใจ

    “บังหน่อย บังบังหน่อย” วิยะดากระซิบกับเพื่อนผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างหน้าเป็นแถว เธอเดินเข้ามานั่งข้างหลังๆ เลือกเอาหลังกลุ่มหนุ่มๆตัวใหญ่ๆ

    “กลัวอาจารย์หนุ่มหรือ” พิชัยที่นั่งข้างหน้าหันมาถาม ได้ข่าววิยะดาโวยวาย ไม่ยอมมาเรียนแทนบดินทร์อยู่เหมือนกัน ยิ้มให้สาวไม่ยิ้มตอบ หนุ่มๆ แถวนั้นกระจายตัวจัดที่นั่งใหม่ บังวิยะดาเอาไว้

    “ช่วยแล้วแขกมาเชียร์ผมนะ” ธวัชเย้าเล่น เขาย้ายมานั่งข้างๆหญิงสาว เขาก็เป็นเพื่อนเล่นกับเธอมาตั้งแต่เด็กๆเหมือนกัน ก็ครอบครัวรู้จักกัน เพียงแต่เขาไม่ได้เรียนโรงเรียนเดียวกับเธอมาตั้งแต่อนุบาลเหมือนบดินทร์

    “แขกก็เชียร์เล็กทุกทีนะ ถ้าไม่ช่วยแขกซิ แขกจะไปเชียร์วิฑูร” เธอหมายถึงเพื่อนอีกคนที่เรียนต่างคณะ แล้วก็กำลังจะแข่งกีฬาภายในกันเย็นนี้ หญิงสาวก้มหน้าหลบเมื่ออาจารย์ผู้สอนก้าวเข้ามาในห้อง

    อุณรุธกวาดตามองนักศึกษาแวบแรกก็ไม่ได้สะดุดอะไรหรอก แต่อะไรนะที่บุ๋มลงไปน่ะ เขาจึงมองพิจารณาอีกครั้ง เด็กสาวคนนั้นนั่นเอง

    “ห้องนี้...” เขาเว้นระยะ “เศรษฐศาสตร์ทั้งหมดใช่ไหม”

    เสียงตอบรับค่อนข้างเบา แล้วคนตอบรับก็ต่างหันซ้ายหันขวาด้วยความสงสัย แล้วก็ส่งยิ้มให้คนต่างคณะ อย่างรู้สึกสนุกในใจ

    “คุณน่ะ คณะอะไร ห้องไหน ปีไหน” อุณรุธชี้ตัว หญิงสาวยืนขึ้นอย่างสงบเสงี่ยม ตัวสูงเลยศีรษะเพื่อนหนุ่มตัวโตๆ ที่นั่งรายล้อมอยู่ไม่เท่าไร

    “บริหารฯ สถิติปีหนึ่งค่ะ” วิยะดาตอบอ่อยๆ โอ๊ยตายแน่ๆ ยิ่งโดนเล็งอยู่ ฉันเตือนนายแล้วนะแจ็ก อย่าหาว่าไม่เตือน

    “ใครเป็นเพื่อนสนิทกับสาวน้อยคนนี้”

    ถามเสียงหวานมาเชียว วิยะดาคอหด เอาแล้วซิ มีเสียงเฮลั่น แต่ก็ไม่มีเสียงตอบ

    “คุณเรียน Math. กับอาจารย์อะไร” อุณรุธเปลี่ยนคำถามใหม่ เมื่อไม่ได้คำตอบที่ต้องการ

    “อาจารย์ดรุณีค่ะ” หญิงสาวตอบอย่างเรียบร้อย

    “ไม่เข้าใจหรือ ถึงต้องมาเรียนซ้ำ” อุณรุธวางตำรา นั่งพิงโต๊ะกอดอกถาม ตั้งใจจะซักไซ้ไล่เลียงให้กระจ่างวันนี้ เขาไม่ได้นึกชมตัวเองว่าหล่อจนมีนักศึกษาสาวมาตามตลอดหรอกนะ แล้วเขาไม่อยากไปไหนๆ แล้วเจอสาวน้อยหน้าหวานตาคมเหมือนแขกนางนี้โผล่ตามไปทุกที่ มันสยองเหมือนมีอะไรวิ่งตาม เขามองกิริยาทำปากยื่นน้อยๆ อย่างขำๆ เด็ก ยังเด็กอยู่เลย หนูเอ๊ย

    “มาจด lecture ให้เพื่อนค่ะ” วิยะดาตอบเรียบร้อย

    “อ้อ ใครล่ะครับ”

    “ถามอะไรนักวะ” หญิงสาวนึกในใจ อย่างไม่สุภาพนัก แต่ก็ต้องตอบ “บดินทร์ค่ะ”

    “อ้อ เป็นเพื่อนสนิทบดินทร์” อุณรุธลากเสียง เสียงหัวเราะดังขึ้นเบาๆ สีหน้าเพื่อนที่รู้จักทั้งบดินทร์และวิยะดาต่างก็รู้ว่าทั้งคู่เป็นเพียงแค่เพื่อนกัน

    “บดินทร์ไปไหนล่ะครับ”

    วิยะดาย่นจมูก ไม่ค่อยพอใจในคำลงท้ายที่สุภาพ แต่เจือน้ำเสียงหยันๆ นั่นเท่าไรเลย แต่อีกฝ่ายเป็นอาจารย์เธอจะไปทำอะไรได้

    “เขามีนัดกับคนที่จะให้ข้อมูลทำรายงานค่ะ” หญิงสาวรายงานอย่างเรียบร้อย
    “ช่วยบอกบดินทร์ให้เขาไปพบผมด้วยนะ” อุณรุธบอกแค่นั้น แล้วเริ่มเข้าสู่บทเรียน
    เด็กสถิติ ยังไงๆก็ต้องเจอเขาอยู่ ดีล่ะ

     
               อุณรุธมองเชียร์ลีดเดอร์ปีนี้ที่ซ้อมกันอยู่ มีเจ้าเด็กตัวยุ่งนั่นอยู่ด้วย
               “เด็กคนนั้น ใครนะ” เขาถามเพื่อนอาจารย์ด้วยกัน

               “อ้อ น้องแขก” ดรุณีมองตามมือ แล้วตอบให้ทันที 
    “วิยะดานะ” เธอขยายความ อาจารย์หลายท่านในห้องพยักหน้าอย่างรู้จักดี
              “มีอะไรหรือหนุ่ม ไม่ได้เรียนกับหนุ่มนี่”

    “ฮะ แต่ผมสอนเค้ามาสามสี่หนแล้ว แล้วก็ไม่ใช่ห้องเดียวกันด้วย”

    ดรุณีอมยิ้ม “น้องแขกเพื่อนเยอะ ชอบไปนั่งฟัง lecher ให้เพื่อน บางวันไม่มีเรียนหรอกแต่มานั่งเรียนให้เพื่อน” เธอโคลงศีรษะอย่างเอ็นดู

    “เด็กพี่เป้าหรือฮะ” เขาหยั่งเชิงดู เห็นเรียกสนิทสนมกัน

    “ญาติกันนะ แฟนพี่มีศักดิ์เป็นน้าของน้องแขก” ดรุณีอธิบายขยายความ “เรียนใช้ได้เชียวน้า หนุ่มคุมสอบให้พี่หน่อยซิ วันจันทร์นะ ว่างไหม พี่นัดเด็กสอบไว้เก้าโมง กลัวมาไม่ทัน จะไปหาหมอก่อน”

    “จะมีน้องหรือเปล่าเอ่ย”

    ดรุณีหน้าแดง บ่นเบาๆ คำเดียว “บ้า”

     
    วิยะดาทำท่าย่องเข้าห้องสอบ เมื่อเห็นคนคุมสอบได้ถนัดชัดเจน
    “ไปเซ็นชื่อเอาข้อสอบมาซิ” เพื่อนที่นั่งสอบอยู่บอก 

    หญิงสาววางปากกาจองโต๊ะเอาไว้ ก่อนเดินไปรับข้อสอบ สายตาที่เหลือบมองมาเหมือนกับจะถาม เมื่อเห็นนามสกุลของเธอ วิยะดาทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ เธอรู้อยู่แล้วล่ะว่าเขาสงสัยอะไร เธอถามบิดาดูตั้งแต่รู้ว่าอาจารย์หนุ่มนามสกุลอะไรแล้ว

    “คงเป็นญาติกันนะลูก” รามตอบบุตรสาว “น้องแขกรองานรวมญาติซิลูก แล้วก็รู้เองนั่นละ ปีนี้เรียนมหาลัยแล้ว คงไปกับพ่อได้นะ”

    “ค่ะ” เธอได้แต่รับคำ 

    เอาละเมื่อต้องรอก็ต้องรอ เธอไม่ได้ไปร่วมงานรวมญาติมาหลายปีแล้ว ถ้าตรงกับวันธรรมดาเธอก็ต้องไปโรงเรียน งานเลี้ยงตอนเย็นก็ไม่ได้ไปเพราะเธอต้องตื่นแต่เช้า

              วิยะดาใช้เวลาในการทำข้อสอบมากกว่าที่คิด ก็ใครจะมีสมาธิได้นาน เมื่อรู้ตัวว่ามีใครคอยจ้องอยู่ อุณรุธยิ้มเมื่อเด็กสาวเจ้าปัญหาถลึงตาใส่ เมื่อเธอเอาข้อสอบมาส่ง เด็กเอ๋ย เด็ก
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×