ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : 006 คนนี้ล่ะ ใช่เลย
๐๐๖ คนนี้ล่ะ ใช่เลย
“ไม่ออกไปงานพร้อมม้าหรือลูก”
เกสราก้มลงถามหญิงสาวที่ขับรถพาไปเอาชุดสวย รอเอเสริมสวยก่อนขับมาส่งที่บ้าน
“ไม่ได้ค่า เดี๋ยวแอ้มต้องไปช่วยดูคุณพ่อด้วย”
อรนภาย่นจมูก แอบป้องปากทำกระซิบกระซาบ
“ตั้งแต่ไม่มีคุณแม่นี่ คุณพ่ออ้อนมากค่ะ แอ้มแทบหาโอกาสควงหนุ่มๆ ไม่ได้เลย”
“อ้าวแล้วตานนท์ล่ะ” เกสราถามอย่างสงสัย
“ไม่เจอกันบ้างหรือระวังนะ เดี๋ยวเขาก็ไปมีคนอื่นหรอก”
อรนภายักไหล่อย่างสาวสมัยใหม่แท้
“แอ้มไม่สนใจหรอก นนท์จะมีใครก็มีไปซิคะ แอ้มอยากมีใครก็จะมี”
“คู่รักงอนกันหรือไงจ๊ะ”
เกสราทำเสียงเย้าเบาๆ แต่เริ่มคิดจะไปเยี่ยมเยือนคุณนันทนาถึงที่บ้านบ้างแล้ว จะได้เตือนลูกชายหัวแก้วหัวแหวนบ้างว่าอรนภาถึงไม่มีแม่ แต่ยังมีป้าสะใภ้ที่รักหญิงสาวเหมือนลูกแท้ๆ จะมาทำทิ้งๆ ขว้างๆ กันไม่ได้
“แอ้มบอกเลิกเองล่ะ เป็นเพื่อนกันสบายใจกว่าคบแบบแฟน” หญิงสาวบอกอย่างเปิดเผย พนมมือไหว้อีกครั้ง “แอ้มไปก่อนนะคะ เจอกันที่งานค่ะม้า”
เกสราลดมือที่ยกขึ้นโบกลาเมื่อท้ายรถแคมรี่เลี้ยวพ้นประตูบ้านไปแล้ว เลิกกันแล้วหรือ กับตาปุณยนนท์นี่นะ คบกันมาตั้งแต่เป็นสาวน้อย ไปเรียนเมืองนอกเมืองนาด้วยกัน กลับมาก็เลิกกันง่ายๆ หรือตานนท์ไปติดแหม่มฝรั่ง หรือยายแอ้มไปมีกิ๊กกันแน่ แต่ปุณยนนท์กลับมาก่อนอรนภาเป็นปี ไม่เคยมีข่าวเขาควงสาวคนไหนเหมือนจะยังรอหลานสาวของเธอ แต่ยายแอ้มนี่ซิเพิ่งจะกลับมาตอนที่แม่เธอเสียก็เมื่อไม่กี่เดือนก่อน
จริงซิ นี่จะเป็นงานแรกหลังจากเก็บตัวเนื่องจากการเสียชีวิตของแม่ยายแอ้ม จะได้รู้กันล่ะ ว่าคุณชูชาติจะเปิดตัวสาวคนใหม่ หรือว่ายายแอ้มจะเปิดตัวหนุ่มคนใหม่กันแน่
“ไม่ไปงานคุณชูชาติหรือนนท์”
นันทนาถามเมื่อเห็นลูกชายนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารด้วย
“ไม่ไปครับ”
ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นตอบก่อนก้มลงกินข้าวต่อไปเงียบๆ
นันทนาเลื่อนไปสบตากับสามี ปรีชาเลิกคิ้ว ก่อนจะส่ายหน้านิดๆ ไม่ให้เธอเข้าไปยุ่งเรื่องของบุตรชาย เขาโตแล้ว ควรจะตัดสินใจและรับผิดชอบกับผลที่ตามมาเอง นันทนาเลยได้แต่ลอบถอนหายใจ
หลังอาหารเย็น ปุณยนนท์ออกไปเล่นกับไอติมสุนัขตัวเดียวในบ้าน มันเป็นลูกหมาหลงที่ยายตัวอ้วนสุธีราแอบเอามาเลี้ยง แอบเอาข้าวไปให้ ให้มันนอนแอบอยู่ข้างรั้ว เรื่องมาแดงเอาตอนที่มันออกมาปกป้องเด็กสาวจากการกลั่นแกล้งของเพื่อนๆ เขาเอง แล้วมันก็ถูกตัดสินให้เป็นสัตว์เลี้ยงประจำบ้านไป ด้วยนิสัยเรียบร้อย เจียมเนื้อเจียมตัวทำให้คนทั้งบ้านเอ็นดูแอบเอาของมาให้กินจนตัวมันใหญ่ยักษ์กว่าหมาพิตบลูข้างบ้านด้วยขนยาวสีน้ำตาลอ่อน ตาหวานละห้อยมีเบ้าตาดำข้างหนึ่งและฟันแหลมๆ เขาก็ไม่อาจจะเดาสายพันธุ์ของมันได้ ตอนนี้มันก็เข้าวัยชราแล้ว แต่ก็ยังจงรักษ์ภักดี พอทุกคนเข้านอนมันจะออกเดินสำรวจไปรอบๆ บ้านก่อนจะมานอนขวางอยู่ตรงทางเข้าตัวตึก
“ไงไอ้ทึ่ม”
เขาเรียกมันด้วยชื่อเดิมที่มีเขาเรียกมันอยู่คนเดียว เอื้อมมือไปเกาหัวให้ หมายักษ์หลับตาพริ้ม ยื่นหัวมาใกล้ แต่ไม่กล้าถึงขนาดเอาคางมาเกยพาดบนเข่า
“คิดถึงเจ้านายแกไหม เพราะแกตัวใหญ่อย่างนี้ละซิ ตอนที่เขาไปถึงไม่เอาแกไปด้วย”
ตาสีน้ำตาลอ่อนหวานลืมขึ้นมามองอย่างตัดพ้อ เหมือนจะบอกว่า นายก็ด้วยล่ะที่เจ้านายผมไม่เอาไป
“ไม่ใช่ แกตัวเดียวต่างหาก”
ปุณยนนท์ตบหัวมันแล้วลุกขึ้นเดินกลับเข้าตึก ไอติมลุกขึ้นเดินตามมาช้าๆ พอชายหนุ่มก้าวขึ้นตึกมันก็หลบไปนอนแอบหลังกระถางต้นไม้อย่างเรียบร้อย
พอกลับมาจากเมืองนอก ชายหนุ่มก็ปรับปรุงห้องนอนของพี่เลี้ยงที่อยู่ข้างๆ เป็นห้องสำหรับพักผ่อนและทำงานของเขา ถัดไปอีกห้องเป็นห้องเดิมของสุธีราที่เขาทุบฝาทำประตูเปิดเชื่อมต่อ เอาไว้เก็บของสะสมของเขาหน้าตาเฉย
ปุณยนนท์เดินไปจิ้มแก้มตุ๊กตาตัวอ้วนแก้มป่องที่เขาอุ้มมันกลับมาด้วยจับให้นั่งบนเก้าอี้เด็กตั้งอยู่ข้างๆ โต๊ะทำงาน ให้มันมองแต่เขาเท่านั้น มองเพียงแต่เขา
“เก่งขึ้นแล้วนี่ ทำไมยังร้องไห้เป็นเด็กๆ อยู่อีกล่ะ”
เจ้าตุ๊กตาแก้มป่อง ลืมตาโตมองมาอย่างไม่รู้เรื่องราว ปากตูมนิดๆ แย้มยิ้มหวานเอาอกเอาใจ ปุณยนนท์เปิดคอมพิวเตอร์เรียกไฟล์งานขึ้นมาทำงานต่อ นานๆ ก็เงยหน้าขึ้นมามองเจ้าตุ๊กตาที่ส่งยิ้มให้กำลังใจทุกครั้งที่มอง ทำให้อารมณ์ดีกลับไปทำงานต่อได้
“หล่อแล้วค่ะคุณพ่อ”
อรนภาช่วยจับเนกไท ปกเสื้ออีกครั้ง หากครั้งนี้แค่แตะๆ เมื่อบิดาหันมาขอความเห็นลูกสาวอย่างเธออีกครั้ง
“ขอบใจจ้ะ”
ชูชาติหันไปเดินได้อีกสองก้าวก็หันมา คราวนี้อรนภากอดแขนแน่นลากไปด้วย
“หล่อแล้วค่า คุณพ่อ เจ้าของงานไปช้าไม่ดีนะคะ”
“ก็พ่อไม่แน่ใจนี่ ทุกทีแม่เขาจัดการให้”
เสียงอ่อยๆ ของคุณชูชาติทำให้อรนภาต้องก้มหน้าซ่อนน้ำตา ตอนที่คุณแม่อยู่ทำไมไม่ทำดีกับท่านบ้าง เธอรู้เรื่องเด็กในบ้านของปุณยนนท์ ตอนแรกคิดว่าไม่เห็นจะเป็นอะไรเพราะคุณชูชาติพ่อของเธอก็มีบ้านเล็กบ้านน้อยเต็มไปหมด แต่พอเธอโตขึ้น เห็นเวลาที่แม่แอบร้องไห้ ตามไปอาละวาดกิ๊กของพ่อเหมือนคนบ้า
รับรู้ว่าเธอยังรักปุณยนนท์ไม่พอเมื่อใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันที่ต่างประเทศ เธอไม่มีอารมณ์หึงหวง และเขาไม่สนใจหากเธอจะไปกับใคร ดังนั้นระหว่างเธอกับเขา ต่างคนต่างไปน่าจะดีที่สุด เธอรู้ในใจเขาไม่มีเธอ และเขาไม่ใช่คนที่ใช่ของเธอ ไม่ใช่เลย
“สายตาแอ้มกับคุณแม่ก็เหมือนกันล่ะค่ะ คุณพ่อหล่อที่สุด”
อรนภาเงยหน้ายิ้มสดใส ซ่อนน้ำตาเอาไว้ข้างใน จะมีวันไหมที่จะเจอคนที่ใช่สำหรับเธอ
เพราะการินมั่วแต่มองหาแม่สาวยิ้มหวานหยด เลยทำให้ทิชากรที่ตอนแรกๆ ยังควงกันลากไปทางโน้นทีทางนี้ที ทิ้งพ่อหลานชายไปคุยเจ๊าะแจ๊ะกับลูกพี่ลูกน้องสาวที่บังเอิญเจอกันพอดี
“ต๊าย ยายทิมากับใคร ควงหนุ่มไหนมา”
เกสราส่งเสียงกรี๊ดแบบไม่เกรงใจวัยไม่แพ้ทิชากรที่กราดเข้ามากอดจูบแก้มซ้ายขวา
“นี่ไม่เจอกันนานเท่าไรแล้ว” สิทธิชัยถามอย่างปลงๆ
“จะปีแล้วนะคะ อานึ้ง”
ทิชากรบอกเสียงหวาน เธอเรียกสามีของลูกพี่ลูกน้องว่า อานึ้งที่หมายถึงพี่เขย เอาแขนอวบๆ ลากเกสราไปหามุมคุยกัน
“ทิขอตัวเจ้ไปเมาส์ก่อนล่ะค่ะ ว่าปีที่ผ่านมานี่ อานึ้งมีกิ๊กไปกี่คนแล้ว”
สิทธิชัยหัวเราะแยกตัวไปคุยกับเพื่อนของเขาเช่นกัน
“มากับใครล่ะยายทิ” เกสราถามญาติสาว ที่ถึงจะชอบงานสังคมแต่ไม่ชอบขับรถ
“มากับฮียดัง” พูดออกไปแล้วทิชากรก็หัวเราะ “การินน่ะค่ะเจ้”
“อ๋อ” เกสราพยักหน้า
ญาติสาวคนนี้ของเธอไม่ได้แต่งงาน อยู่กับพี่สาวต่างแม่มาตั้งแต่เล็กๆ หลังจากที่แม่ของเธอเสียชีวิต เลยออกจะสนิทสนมกับหลานๆ ลูกของพี่สาวคนนี้เป็นพิเศษ แม่ของเธอกับแม่ของทิชากรเป็นพี่น้องกัน บางทีตอนเด็กๆ ทิชากรก็ไปอยู่ที่บ้านของเธอ ทำให้สองสาวสนิทกัน
“ไหนล่ะ อาดัง อยู่ไหน หรือว่าไปตามสาวไหนแล้ว กลับกับเจ้ไหม”
“อุ้ย หายไปไหนแล้ว” ทิชากรเพิ่งสังเกตว่าหลานชายหายไปเสียแล้ว
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ถึงจะชอบสาวๆ ยังไงก็ต้องไปส่งทิก่อน ไม่งั้น เงินเดือนเฮียดัง ทิจะหักให้เรียบ เป็นค่ารถกลับบ้านของทิ”
เกสราหัวเราะร่วนอย่างชอบใจ กับการแก้ลำหลานรักของทิชากร
“ไหน ลูกสาวเจ้ล่ะ ได้ข่าวว่ากลับมาแล้ว” ทิชากรก็มองหารอบตัวของญาติสาวเช่นกัน
“ก็อยู่กับคุณพ่อเขานะซิ นี่งานของคุณพ่อเขานี่” เกสราพยักหน้าไปทางชูชาติที่มีลูกสาวคนสวยคลอเคลียไม่ห่าง
“งั้นพาทิไปหาลูกสาวคนสวยของเจ้หน่อยซิคะ ไม่เจอมาตั้งนานจะสวยอย่างที่เจ้คุยหรือเปล่า” ทิชากรลากแขนญาติผู้พี่ออกเดินไปด้วยกัน
“งั้นทำไมไม่พาอาดังมาดูบ้างล่ะทิ ว่าหล่ออย่างที่คุยอวดไหม” เกสราไม่ยอมแพ้
“หล่อลาก” ทิชากรลากเสียงยาว ก่อนส่งยิ้มหวานกระพุ่มมือไหว้เจ้าของงานอย่างกระชดกระช้อย เมื่อมาเจอคุณชูชาติเจ้าของงานเข้าพอดี
“สวัสดีค่ะ คุณเสก”
“อ้าวคุณทิ” ชูชาติยิ้มกว้างทักทาย “ขอบคุณมากที่ให้เกียรติมางานเล็กๆ ของผม นี่ ป้าทิ น้องของม้าแอ้มไง” ชูชาติบอกลูกสาว อรนภาพนมมือไหว้อีกครั้ง
“อะไรกัน ป้าทิ ไม่เอาค่ะหนูแอ้ม ถ้าเรียกป้าทิ จะเรียกหนูแอ้มว่าเจ้แอ้มจริงๆ ด้วย”
อรนภาหัวเราะเบาๆ “แอ้มจำได้ว่าแอ้มเคยเรียกว่าอี๊ทิไม่ใช่หรือคะ”
ทิชากรค้อนคม “ตอนเด็กๆ ให้เรียกอี๊ทิพอได้ โตเป็นสาวแล้ว เรียกเจ้ทิก็พอนะคะ”
อรนภามองตาเกสราก่อนจะเรียกตามที่เจ้าตัวต้องการ
“ค่ะ เจ้ทิ”
“อุ้ย อย่างนี้ซิ น่ารัก” ทิชากรดึงหญิงสาวมากอด หอมแก้มซ้ายขวา
“เจ้ทิๆ”
ทิชากรเอื้อมมืออูมๆ ไปปัดนิ้วที่มาสะกิดยิกๆ ที่ไหล่
“เจ๊” การินสะกิดหนักทั้งน้ำเสียงและแรงนิ้ว เขาน่ะไหว้ทักทายเจ้าของงานแล้ว แถม เจ๊ของเจ้ทิไปแล้วด้วย เจ้ทิยังไม่ปล่อยสาวงามให้เขายลโฉมเต็มตาเสียที
“น้องเขาหายใจไม่ออกแล้วเจ๊ กอดแน่นขนาดนั้น”
ทั้งทิชากรทั้งอรนภาหัวเราะให้กันเบาๆ ตอนที่ทิชากรกอดหญิงสาวในครั้งแรก ได้กระซิบบอกว่าจะแกล้งหลานชาย หญิงสาวตกลงร่วมมือด้วย
“นี่เฮียดัง หลานชายเจ้เอง” ทิชากรแนะนำ
อรนภาพนมมือไหว้ มองชายหนุ่มเปรี้ยวโฉบเฉี่ยวด้วยผมยาวที่เจ้าตัวมัดไว้ด้านหลังกับต่างหูเพชรประดับบนติ่งหูข้างซ้ายรับไหว้อย่างเรียบร้อยด้วยความแปลกใจ คิ้วที่วาดไว้เรียวสวยขมวดนิดๆ ก่อนจะคลี่ยิ้มรับรอยยิ้มกรุ่มกริ่ม เธอคุ้นเสียแล้วกับรอยยิ้มเช่นนี้ของผู้ชาย
“เฮียดัง” อรนภาเรียกทัก
คิ้วเข้มขมวด ชำเลืองมองทิชากรให้แนะนำ น้าสาวตัวแสบยิ้มกริ่มไม่อ้าปากสักแอะ
“คุณอรนภา”
อรนภายิ้มกว้างกับคำทักทายเต็มยศ หากเธอก็ไม่ยอมบอกชื่อเล่นของเธอแก่เขาอยู่ดี ส่งยิ้มขอตัวเมื่อบิดาสะกิดเบาๆ เพื่อไปทักทายแขกคนอื่นๆ ในงานต่อ
“เจ้ทิ ไม่ช่วยก็อย่ามาขวางได้ไหม” การินก้มลงกระซิบกับคนที่มีศักดิ์เป็นน้า
“นั่นน้องนา เฮียดัง ญาติกัน เฮียดังลืมไปแล้วหรือว่าไม่กินไก่วัดนะ”
“ฮือม์ ไม่แซ่เดียวกันไม่นับ ไม่ได้ทำงานให้ไม่นับ” เฮียดังประกาศเจตนาชัดเจน
เกสราที่ยืนฟังอยู่ บอกสะกิดสะเกาให้คันๆ ในอารมณ์หนุ่ม
“หนูแอ้มเขามีแฟนแล้วนะ ต้องห้าม”
“แฟน แต่งงานแล้วหรือครับ อี๊” การินเรียกเกสราตามศักดิ์ของทิชากร
“ยังไม่ได้แต่ง” เกสราบอก เริ่มหนักใจ เด็กชายการินที่ทิชากรเคยเอาติดหน้าตามหลังมาด้วย ออกจะเป็นเด็กเจ้าเล่ห์เอาแต่ใจไม่น้อย
“อ้อ” ดวงตาคู่คมจ้องตามหลังหญิงสาวในชุดราตรีสีชมพูเปิดไหล่ไป สายตาร้อนแรงจนหญิงสาวอดเหลียวมามองไม่ได้ การินส่งยิ้มแสดงเจตนากลับไปให้ รอยยิ้มบนริมฝีปากบางขยายกว้างเมื่ออรนภาส่งค้อนน้อยๆ ตอบกลับมา
“ผมไม่เห็นเงาหนุ่มที่ไหนเลยนี่ครับอี๊ ถ้ามีจริงคงเพิ่งคบหาไม่จริงจังมั่งครับ” การินก้มลงยิ้มกว้างขวาง หากแววตาเอาจริง “คนนี้ผมจอง ผมขอนะครับอี๊”
ทิชากรอ้าปากค้างไม่คิดว่า การินจะรุกเอาจริงขนาดนี้ รีบออกหน้าแทนหลานชาย
“เจ้อย่าถือเฮียดังเลยนะคะ เจ้านี่บ้าๆ บอๆ เดี๋ยวทิจะดูเองไม่ให้มาวอแวกับหนูแอ้มค่ะ”
เกสรามองสายตาเอาจริงบนหน้ายิ้มๆ ของหนุ่มอ่อนวัยกว่ากับสีหน้าร้อนใจของของน้องสาว แล้วก็ต้องออกปากอย่างเป็นกลาง
“แอ้มเขามีแฟนแล้วนะ อาดัง อย่าไปทำอะไรรุ่มร่าม หากแอ้มมาฟ้อง อี๊คงต้องไปพูดกับม้าอาดังนะ”
“คร้าบ” การินพนมมือไหว้ “ขอบคุณครับ อี๊อย่าลืมบอกม้านะครับว่าผมจอง”
“เฮียดัง” ทิชากรเรียกเสียงเขียวเอื้อมมือมาบิดเนื้อข้างเอวหมับ เจ้าตัวนกรู้เอี้ยวตัวหลบไปได้ก่อน เกสรายึดมือน้องสาวเอาไว้
“จริงอย่างอาดังว่า เขายังไม่ได้แต่งงานกัน ให้อี๊บอกอย่างคนเป็นแม่นะอาดัง หนูแอ้มนี่อี๊เลี้ยงมาตั้งแต่เกิดรักเหมือนลูกในอกอี๊เอง อี๊อยากให้อาดังรู้ไว้”
การินพนมมือไหว้อีกครั้งอย่างเรียบร้อย รับรู้ในคำเตือนและเหมือนจะรับรองว่าเขาจะถนอมหญิงสาวเช่นที่เกสรารักถนอมเช่นกัน
... จริงๆ ตั้งชื่อตอนไว้ว่า ไม้กันหมา เขียนไปไม่ถึงเสียที
ไว้ตอนใหม่ ชื่อ ไม้กันหมาแล้วกันนิ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น