ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Devil & Ice Rose

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2

    • อัปเดตล่าสุด 31 ก.ค. 57


    บทที่ 2

    “แมว” เสียงร้องอย่างตื่นเต้นของไอริส ทำให้ทุกตนที่ตกอยู่ในอาการตะลึง หลังไข่ใบใหญ่ยักษ์แตกได้สติ รีบกรูเข้ามา บนตักขององค์หญิงน้อยแทนที่จะเป็นแมวดังที่เธอร้องกลับเป็นเด็กทารกตัวขาวผ่องหลับสนิท ทำให้ต่างถอนหายใจอย่างโล่งอก

                    “น้องไงจ๊ะ” ราชินีบอกอย่างอ่อนโยน ขณะที่องค์ราชาอุ้มเด็กทารกขึ้นสบตาคู่ครอง

    “น้องชาย คู่ครองของลูก ไอริส”

    ไอริสมองเด็กตัวแดงๆ ในอ้อมแขนบิดาก่อนส่ายหน้าแรงๆ “ไม่ ต้องไม่ใช่คู่ครองของลูก น้องไม่ใช่” แล้วก็สะบัดมือองค์ราชินีวิ่งออกจากห้อง ก่อนที่ราชินีจะเสด็จตามไป ราชาก็ส่งองค์ชายให้นางเสียก่อน

    “เจ้าดูลูกเถอะ ข้าจะไปคุยกับไอริสเอง”

    “ได้โปรดอย่าบังคับลูก เพียงเพราะเรามีลูกอีกคน นางก็สับสนพออยู่แล้ว”

    “ข้าจะไม่ทำเช่นนั้น”

    องค์ราชารับปาก องค์ราชินีคลอดไข่ใบนี้หลังกำเนิดของไอริสไม่กี่วัน แต่อาศัยเวลาเติบโตเป็นสิบปีทีเดียว เขายังไม่แน่ใจว่าสายเลือดปิศาจที่เข้มข้นเช่นนี้ กว่าจะเติบโตพอที่จะครองคู่ได้ ไอริสยังมีชีวิตอยู่ถึงวันนั้นหรือไม่ ในเมื่อ ช่วงอายุการเติบโตของไอริสใกล้เคียงกับชาวมนุษย์เหลือเกิน

    ราชาปิศาจพบองค์หญิงน้อยซุกอยู่ในสวนของมารดานาง

    “ไอริส”

    เพียงได้ยินเสียงพระบิดา เด็กน้อยก็เมินหน้าหนี

    “ไอริสของพ่อ ไม่ชอบใจอะไรหรือ” ราชาปิศาจอุ้มธิดาน้อยขึ้น พาเดินไปสู่บ้านหลังน้อยของสนมหนึ่งเดียวที่ให้กำเนิดราชธิดา

    เขาจำลองอาณาเขตแห่งนางสนมนี้ให้ละม้ายคล้ายบ้านเดิมของนางที่โลกมนุษย์ให้มากที่สุด มีข่าวลือว่าเขาหลงใหลนางยิ่งนัก จนไม่สนใจองค์ราชินี

    “นายท่าน” สนมน้อมกายต้อนรับเมื่อสองพ่อลูกก้าวเข้าสู่ตัวบ้าน รีน่าใช้ชีวิตอย่างสมถะ มีเพียงปิศาจรับใช้จำแลงกายช่วยดูแลภายในบ้านและทำสวนอย่างละหนึ่ง นางยังหลอกตัวเองว่าย้ายมาอยู่ยังอาณาจักรหนึ่งไม่ใช่โลกปิศาจที่ถูกคนในหมู่บ้านนำมาแลกเปลี่ยนกับการหยุดภัยพิบัติ ซึ่งพัดกระหน่ำเข้าหา ทั้งพายุลูกเห็บทำลายพืชผลและสัตว์เลี้ยง โรคระบาดที่ฆาตชีวิต โจรดักปล้นชิงทรัพย์สิน ฉุดผู้ชายไปเป็นทาสแรงงาน จับผู้หญิงไปบำเรออารมณ์ ตอนนางเสียชีวิต ไอริสยังแยกไม่ออกวิ่งค้นหามารดา องค์ราชินีและเขาจึงให้มนตร์จำลองให้ที่นี่ยังคงสภาพเดิมไง้ รอจนไอริสโตกว่านี้ยอมรับการจากไปของมารดาที่แท้จริงได้ก่อน

    นางยื่นมือมาจะรับลูกสาวไปอุ้มเอาไว้เอง หากราชาปฏิเสธ

    “วันนี้ข้าได้ลูกชาย” ราชาบอกเสียงเรียบ มองนางสนมที่ก้มหน้าซ่อนรอยยิ้มยินดีเอาไว้ เขารู้ว่านางหวาดกลัวทุกครั้งที่บุตรสาวของนางไปที่ปราสาทใหญ่ตามคำเรียกร้องของภรรยาหลวง กลัวว่าไอริสจะถูกปิศาจกัดกิน กลัวลูกจะตาย ในเมื่อเอกภรรยามีบุตรชายเองแล้ว จะได้ไม่มายุ่งกับลูกของนางอีก

    แต่นางจะเข้าใจธรรมเนียมปฏิบัติในการอยู่รอดของเผ่าปิศาจหรือไม่ ยิ่งการครองคู่เกิดจากสายเลือดที่ใกล้ชิดกันมากเพียงใด ก็ยิ่งให้สายเลือดปิศาจเข้มข้นมากขึ้นเพียงนั้น หาก เขาได้บุตรชาย ไอริสจะถูกตีตราให้ครองคู่ด้วยทันที  ธรรมเนียมนี้มิได้จำกัดเฉพาะราชวงศ์เท่านั้น

    “ข้าจะไม่ครองคู่กับน้อง” เสียงธิดาสาวเด็ดขาดเอาแต่ใจนัก

    “ไอริส” รีน่าทำเสียงดุ หากลูกสาวยังทำปากเชิดอย่างไม่พอใจ

    “น้องเป็นแมว ข้าไม่แต่งงานกับแมวหรอก”

     

    ดวงหน้าของสาวน้อยที่วางแนบหมอนอยู่ในห้วงนิทราขยับยิ้มเหมือนจะฝันเรื่องชวนขบขัน ทำให้หญิงสาวร่างสูงโปร่งที่ยืนจ้องขมวดคิ้ว พึมพำเบาๆ

    “ฝันอะไรกันท่านแม่ ท่านนึกยังไง ถึงจะได้ไปทำงานกับท่านน้าจอมเจ้าเล่ห์ หากข้ารู้ว่าเขาจะมาไม้นี้ ข้าหาตกลงกับข้อเสนอแกล้งตายเมื่อข้ามีลูกไม่” ริมฝีปากงามบิดบูดบึ้ง “เขามาหลอกข้าได้อย่างไรว่าข้าจะมีลูกเป็นแมว” สตรีที่ยืนมองสาวน้อยนิทราบ่น

    นางคือฉีโบตั๋น อดีตนางแบบดาวรุ่งที่เลิกอาชีพที่เป็นที่ใฝ่ฝันของเด็กสาวทั่วโลกเพื่อแต่งงานกับ มาวีส โรเชส ชายหนุ่มที่สาวๆ ทั่วโลกลงความเห็นว่าเป็นผู้ชายในฝันสามปีซ้อน ทั้งรูปร่าง หน้าตา ฐานะการเงินผู้เป็นเจ้าของกองทุนโรเชส มีกิจการแยกสาขาไปนับไม่ถ้วน และฐานะทางสังคม เมื่อเขาเป็นทายาทอันดับสองของตำแหน่งมาควีส

    แต่แล้วเมื่อสิบกว่าปีก่อน พวกเขาประสบกับโศกนาฏกรรม จากการถูกฝูงสุนัขป่ารุมจู่โจมเมื่อไปตั้งแคมป์กันในป่าสองสามีภรรยา

    แล้วเหตุไฉนเธอจึงมาปรากฏกายอยู่ในห้อง มองสาวน้อยที่นอนหลับอยู่

    เสียงลูกบิดประตูถกหมุน ทำให้หญิงสาวชะงักการบ่นของตัวเอง ร่างย่อลงจนเป็นแมวดำตัวน้อยมุดเข้าไปซ่อนอยู่ใต้เตียง

     โรซาลินด์ผลักประตูห้องน้องสาวเข้าไป หลังจากทราบจากแม่บ้านว่าอลีซเดินทางมาถึงแล้ว กำลังพักผ่อน

    “อลีซ” หญิงสาวนั่งลงบนเตียง แตะแขนน้องสาวเบาๆ เห็นริมฝีปากอิ่มแย้มนิดๆ ทำให้เธอคิดว่าน้องสาวตื่นแล้ว หากยังแกล้งหลับอยู่

    “อลีซ ตื่นเถอะ พี่กลับมาแล้ว ไปล้างหน้าจะได้มากินข้าวกันไง” โรซาลินด์พูดภาษาไทยกับน้องสาว

    ที่บ้านของเธอที่ประเทศไทย ทุกคนในครอบครัวใช้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษได้ในเกณฑ์ดี เพราะถูกเข้มงวดจากนาธาเนี่ยล คุณพ่อ และพงศธรคุณตา  เหมือนจะเป็นธรรมเนียม เมื่อหยุดเทอม พวกเธอจะถูกส่งมาอยู่กับมาวีส ที่ปราสาทดีโวท บ้านประจำตระกูลของนาธาเนี่ยล แม้เมื่อเขาจากไปแล้ว เคออสน้องเขยของมาวีสและโจคัสต้าหลานสาวของเขาที่แต่งงานกับเอเรสผู้บริหารคนหนึ่งของกองทุนโรเชสก็รับหน้าที่ดูแลพวกเธอแทน

    “โรส” อลีซขยี้ตา ปิดปากหาวเบาๆ ก่อนยื่นแขนเรียวยาวออกมาบิดขี้เกียจ

    ในบรรดาลูกทั้งสามคนของนาธาเนี่ยลและนนทสรวง โรซาลินด์ บุตรสาวคนโต มีเครื่องหน้าผสมผสานของตะวันตกและตะวันออกลงตัวที่สุด ด้วยดวงตากลมโต ปากนิดจมูกหน่อยตัวเล็กน่ารักเหมือนตุ๊กตากระเบื้องราคาแพง  วิลเลี่ยม คนรองและบุตรชายคนเดียว ตัวสูงโครงร่างใหญ่ และเค้าหน้าออกไปทางบิดามากกว่ามารดาชาวไทย ยกเว้นผมกับดวงตาดำสนิท อลีซบุตรสาวคนสุดท้องที่ห่างพี่สาวสิบสองปี รูปร่างสูงโปร่งตามสายเลือดตะวันตก เครื่องหน้าคมกริบ หากมีริมฝีปากอิ่มที่ดูอ่อนโยนยามแย้มยิ้ม  และดวงตาสีน้ำตาลอ่อน นุ่มนวล

    “ปิ๊กมี่กลับมาแล้วเหรอ”

    โรซาลินด์ที่ลุกหันหลังเตรียมออกจากห้องหันกลับมาวาดฝ่ามือเฉียดเรือนผมนุ่มสลวยของน้องสาวทันที อลีซทิ้งตัวหลบได้อย่างหวุดหวิด ปิดปากหัวเราะคิกๆ

    “ยายเปรต อย่ามาเรียกพี่ตามอย่าง ตาเปรตวิลนะ” สาวตัวเล็กหากแต่มีศักดิ์เป็นพี่ใหญ่สุดเท้าสะเอว ถึงถูกใครๆ ว่าเป็นสาวน้ำแข็งไร้อารมณ์ยังไงก็ตาม เธอยอมไม่ได้หากจะถูกน้องทั้งคู่เรียกว่าปิ๊กมี่ หรือจะเรียกยายแคระก็ไม่ได้

    “โธ่โรส ปิ๊กมี่น่ารักออก ตัวเล็กๆ น่ารักน่ากอดจะตาย”

    โรซาลินด์ยื่นมือไปหยิกน้องสาวทันที “ถ้าเธอเรียกให้พี่ได้ยินอีก พี่จะส่งเธอกลับบ้านทันที” โรซาลินด์บอกเสียงแข็งและไม่ใช่คำขู่ด้วย อลีสแลบลิ้นให้ ยกนิ้วสามนิ้วสาบานแบบลูกเสือว่าจะไม่ล้อฉายาของพี่สาวอีกแล้ว

    ถึงตัวเล็กเหมือนเด็กยังไง แต่ความเฉียบขาดของพี่สาวใหญ่ไม่ได้เป็นไปตามขนาดร่างกายด้วยเลย เธอยังจำได้ว่า เมื่อวิลเลี่ยม ตามมาเรียนไฮสคูลที่นี่เคยถูกส่งกลับบ้านอยู่เทอมหนึ่ง เพราะเรียกพี่สาวว่าปิ๊กมี่นี่ล่ะ ดังนั้นเมื่อเขาเข้ามหาวิทยาลัยจึงเลือกไปเรียนออสเตรเลียแทน เขายังชักชวนให้เธอไปเรียนที่นั่นแทนที่จะมาอยู่ใต้อาณัติของพี่สาวจอมโหด

    เมื่ออลีซออกจากห้องมา โรซาลินด์ก็สั่งตั้งโต๊ะเรียบร้อยแล้ว ผู้ร่วมโต๊ะมี เป-ล่าที่เปรียบเสมือนคนในครอบครัว อลีซพนมมือไหว้ กล่าวทักทาย

    “น้าเป้ หาแฟนเป็นสาวฝรั่งได้ยังคะ แม่ฝากถาม”

    “ยังครับคุณหนู” เป้ตอบยิ้มๆ “คุณหนูละครับ เดินทางเป็นยังไงบ้าง”

    เป-ล่าชวนคุย ปกติ เวลาคุณหนูวิลเลี่ยมและคุณหนูอลีซจะมาอยู่ที่ปราสาทดีโวทช่วงปิดเทอม คุณหนูโรซาลินด์จะเดินทางไปรับด้วยตัวเอง หรือไม่เช่นนั้น คุณเอเรสกับคุณโจคัสต้าจะไปรับแทน แต่ครั้งนี้ กว่าจะได้ข่าวว่าคุณหนูอลีซเดินทางมา เธอก็ออกเดินทางมาแล้ว ทำให้คุณหนูโรซาลินด์ยกเลิกงานทางอเมริกาแล้วรีบกลับมาอังกฤษทันที

    “สบายมาก หนูโทรบอกเอเรส เขาเลยสั่งดูแลอย่างดีค่ะ บ่นใหญ่ว่าไม่บอกก่อน จะได้บินไปรับหนู หนูเลยบอกว่าเคออสกับแอนนี่มากับหนูค่ะ เลยเลิกบ่นไปได้ ”

    “แล้วเคออสไปไหนเสียล่ะ” โรซาลินด์ถามไปอย่างนั้น เธอคุ้นกับนิสัยโฉบไปโฉบมาของเขาดี เขาชอบอยู่เงียบๆ ที่ปราสาทหลังน้อยในดินแดนของดีโวทมากกว่า

     “-เอ่อ กลับปราสาทไปแล้วค่ะ” อลีซกลอกตาทำหน้าทะเล้นใส่ ก่อนแนะนำบุคคลที่สี่ในโต๊ะอาหาร

    “โรสเจอ แอนนี่หรือยังคะ ผู้จัดการของโรสเธอจะช่วยดูแลคิวงาน และขับรถให้น้อง”

     

    โรซาลินด์เหลือบตามองหญิงสาวผมทองคนเดียวในที่นั้นแล้วพยักหน้า เธอได้รับการแนะนำตัวจาก แอนนี่ที่ถูกส่งมาทำหน้าที่ผู้จัดการส่วนตัวให้อลีซแล้ว ไมล์ทรีวางหมากได้เด็ดมาก เธอไม่สามารถปฏิเสธผู้จัดการคนนี้ได้เต็มปาก ในเธอเป็นบุตรสาวบุญธรรมของเคออส

     ในคราวหนึ่งที่เขาไปเยี่ยมสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในนามกองทุนโรเชส แล้วถูกชะตากับเด็กคนหนึ่งจึงรับอุปถัมภ์ ถึงเด็กคนนี้จะไม่ได้อยู่ภายใต้การดูแลของมูลนิธิการกุศลของโรเชสโดยตรง เพราะเคออสใช้เงินส่วนตัวของเขา แต่ก็ยังผ่านการดูแลจากโรเชสอยู่ดี

    นี่แสดงว่าเคออสไปทำงานให้ไมล์ทรีหรือ เธอยังคิดว่าเขาทำงานบางครั้งให้กองทุนโรเชส เสียอีก แต่ก็นั่นล่ะนะในเมื่อ ไมล์ทรีเป็นญาติของเคออสนี่

    หลังอาหาร เป-ล่าและแอนนี่ต่างขอตัวกลับห้องของตนที่เป็นห้องชุดอยู่ในชั้นเดียวกันนี้ และก็ได้เวลาซักฟอกน้องสาว

     

    “ไปเจอพี่ที่ห้องทำงาน” โรซาลินด์สั่ง

    “โรส คุยกันไปดูหนังไปได้ไหมล่ะ” อลีซต่อรอง พี่สาวเคร่งครัดไปกับทุกเรื่องนี่ยังไงล่ะ เธอถึงไม่ยอมให้คนของพี่สาวมาเป็นตัวแทนให้  แค่เป็นน้องสาวของเลดี้โรซาลินด์ เธอก็ ต้องทำอะไรถูกต้องตามระเบียบแบบแผนเป๊ะแล้วนะ เธอนึกไม่ออกเลยว่า นางแบบ ภายใต้การดูแลของเลดี้โรซลีนด์จะเป็นยังไง หุ่นยนต์แสนสวยอย่างนั้นหรือ

    โรซาลินด์แกล้งถอนหายใจยาวๆ ก่อนส่งยิ้มให้น้องสาว “ไปเล่นเปียโนให้พี่ฟัง ไม่ได้ฟังมานานแล้ว”

    สองพี่น้องควงแขนกันเข้าไปห้องนั่งเล่น โรซาลินด์นั่งลงข้างๆ ปล่อยน้องสาวพรมนิ้วลงบนคีย์ จับตามองเสี้ยวหน้าด้านข้าง ปฏิเสธไม่ได้เลยว่างามเก๋ มากกว่าสวย แต่เมื่อนึกถึงอายุของน้องสาวเธอก็ยังทำใจไม่ได้

    อลีซถึงจะบรรเลงเพลงอยู่ก็แอบมองพี่สาวเช่นกัน เพราะเป็นน้องน้อยที่อายุห่างจากพี่สาวคนโตมาก เธอจึงรู้สึกว่าบางครั้งโรซาลินด์เป็นทั้งแม่ทั้งพี่สาว เพราะว่านนทสรวงมารดาแท้ๆ ของพวกเธอไม่ได้เข้มงวดอะไรกับพวกเธอเลย

    นนทสรวงถูกเลี้ยงมาอย่างตามใจและเกือบๆ จะเหมือนลูกชายของคุณตาพงศธรที่มีลูกสาวคนเดียว มารดาของพวกเธอจึงไม่สนใจรายละเอียดปลีกย่อยนัก ขอเพียงพวกเธอดูแลตัวเองได้ ไม่ทำอะไรผิดก็เพียงพอแล้ว

    แต่พงศธรที่เลี้ยงบุตรสาวคนเดียวมาอย่างตามใจ กลับดูแลหลานสาวทั้งสองอย่างเข้มงวดให้เรียบร้อยสมกับเป็นกุลสตรีเสียอย่างนั้น ซึ่งเรื่องนี้ได้รับการร่วมมือจากคนรอบข้างเป็นอย่างดี

    “โธ่ โรสจ๋า” อลีซวางมือ ทอดวงแขนกอดพี่สาวที่ตัวเล็กกว่าเอาไว้ “แค่อลีซวางใจให้เอเจนซี่ของไมล์-ทรีดูแลแทนโรเชส จะเป็นอะไรไปล่ะ อย่างน้อยๆ เคออสก็ ทำงานให้เขานะคะ คงไม่หลอกน้องไปทำอะไรไม่ดีหรอก”

    โรซาลินด์ถอนหายใจ พวกเธอต่างคนต่างดื้อรั้นกันทุกคน เธอคงจะบังคับน้องไม่ได้ ถึงจะบังคับไป อลีซคงหาเหตุผลสารพัดมาเอ่ยอ้างให้ต้องยอมตามใจ แต่ยังไงโรซาลินด์ก็ยังยื่นข้อเสนอสุดท้าย

    “รอจนจบมหาวิทยาลัย หรือ ไฮสคูลได้ไหมล่ะ อลีซ พี่จะเสียค่าปรับให้เธอเอง”

    “โน ไม่มีทางหรอก ใครๆ เขาก็ เริ่มตั้งแต่ตอนนี้ทั้งนั้น ถ้ารอจนเข้ามหาวิทยาลัย ตอนนั้น อลีซคงไม่อยากเป็นแล้ว”

    โรซาลินด์ตอบในใจทันทีเลยว่านั่นล่ะ คือวัตถุประสงค์ของเธอ แต่เธอก็ต้องยอมรับด้วยสายตายุติธรรมว่า น้องสาวเธอจะเป็นนางแบบที่มีอนาคตรุ่งโรจน์แน่ ด้วยรูปร่างหน้าตา และ ผู้หนุนหลังพร้อมอย่างนี้ แต่ต่อให้ไม่มีใครหนุนหลัง อลีซก็ต้องเป็นนางแบบแถวหน้าแน่นอน เธอได้ลองเวทีในเมืองไทยมาแล้วตั้งแต่ความสูงทะลุร้อยเจ็ดสิบในวัยสิบสอง

    “พี่ขอสองข้อ หนึ่งเวอร์จิ้น  สองการเรียนต้องไม่เสีย ไม่ใช่ต้องได้เกรดดี แต่มันต้องยอดเยี่ยมเท่านั้น”

    อลีซทำตาโต ยิ่งทำให้ใบหน้าของเธอดูเป็นสาวกว่าอายุขึ้นไปอีก

    “เพราะไม่ใช่คนของพี่ดูแลน้องนะอลีซ ถ้าน้องเปลี่ยนใจให้คนของโรเชสดูแล...”

    “ไม่ค่ะ น้องจะไม่โตใต้เงาโรเชสอย่างโรส โรสไม่เห็นหรอก คำว่าโรเชสมันทำอะไรกับโรสบ้าง”

    “เหรอ มันทำยังไงกับพี่ล่ะ อลีซ” โรซาลินด์เลิกคิ้วถามน้องสาว

    “ทำให้พี่เป็นหุ่นยนต์ ไร้อารมณ์และหัวใจนะซิ ก็ได้ค่ะโรส น้องรับปาก” อลีซตอบรับทันที

    “ถ้าทำไม่ได้ข้อใดข้อหนึ่งเธอต้องกลับบ้านทันที” โรซาลินด์บอก สบตาน้องน้อยแน่วแน่ “และอย่าโกหกพี่ ไม่มีใครโกหกพี่ได้ ไม่มี”

    อลีซย่นจมูก ยกสามนิ้วสาบานให้พี่สาวอีกครั้ง ก่อนจะกอดพี่สาวลาไปนอน

     

     

    มาหยอดกันอีกบทนะคะ

    คนเขียนไปเรื่อยๆ เอื่อยๆ ค่า

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×