คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ความสงบก่อนพายุจะมา
"นี่ อาเรีย ช่วยอย่าพูดเหมือนผู้ชายได้ใหม มันแปลกๆน่ะ
"ไม่หรอกครับลิลลี่ อยู่ในกองทัพมานานเลยติดปากไปแล้วน่ะ"
เรามาถึงหอพักก็พบกับลูน่ากับคุณเจนกำลังรอที่โตะอาหาร เราสี่คนฉลองให้กับภารกิจแรกด้วยมื้อเย็นก่อนจะกลับห้องไปอาบน้ำแล้วเข้านอน
เช้าวันต่อมาฉันโดนคุณไวส์ลากไปให้การเรื่องสไลม์เมื่อวาน กว่าจะเสร็จก็เกือบเที่ยง ท้องก็ร้องไม่เป็นภาษาแล้วตอนนี้ ลิลลี่แนะนำร้านราเมนไม่ไกลจากสำนักงาน ด้วยร้านที่ตกแต่งสไตล์ตะวันออกไกลและกลิ่นอายในร้านทำให้รู้สึกเหมือนอยู่บ้าน เพราะไม่มีลูกค้าคนอื่นเลยหาที่นั่งตามใจชอบ ลิลลี่บอกว่าจะมีพนักงานมาจดออเดอร์ที่เราสั่ง แล้วก็ลิลลี่ส่งเมนูให้ฉัน ว่าแต่ราเมนมันคืออะไรหว่า
"อาเรียเอาเมณูใหนคะ"
"อ่า...คือ...แบบว่า...."
เลือกไม่ถูกแฮะ ไม่รู้จะเอาอันใหนดี แล้วต้องเลือกยังไง งงไปหมดแล้ว
"ขอซุปหมูชาชูสองชามค่ะ"
"เอ๋!!!!!"
"ไม่เคยมากินอะไรแบบนี้สินะคะ"
"ก็ประมาณนั้น....ล่ะนะ ก่อนหน้านี้ก็กินแต่อาหารกระป๋อง ก็เลย..."
"ไม่ต้องเกร็งหรอกนะคะอาเรีย ใครๆก็มีครั้งแรกกันทั้งนั้นล่ะนะ ฮึบ"
"อืม........อะเดี๋ยวสิ"
ลิลลี่เอามือลูบหัวฉัน ทำให้ฉันรู้สึกใจเย็นลงหน่อย มันก็น่าอายอยู่ที่ต้องให้ผู็ใหญ่ตัวเล็กๆคอยปลอบใจ ไม่นานนักราเม็งก็มาอยู่ตรงหน้า มันคล้ายๆเส้นสปาร์เก็ตตี้ที่มีซุปท่วม หมูแผ่นกลมๆ ใข่ต้ม ปิดท้ายด้วยต้นหอมซอย กลิ่นมันหอมมากเลย น้ำซุปน่าจะเป็นกระดูกหมู เอื้อก ทนไม่ใหวแล้ว ไม่มีส้อม มีแต่ตะเกียบไม้สองอัน ถึงจะรู้จักแต่ก็ไม่ถนัดเอาซะเลย เห็นลิลลี่ใช้ตะเกียบอย่างคล่องแคล่วแล้วฉันก็ต้องพยายาม แต่กี่ทีก็คีบเส้นไม่อยู่สักที
"อาเรียคะ อ้ามม"
"อ้าม"
อยากกินก็อยากกิน แต่ใช้ตะเกียบไม่เป็นเลยต้องให้ลิลลี่ป้อนให้อีก น่าอายชะมัดแต่ก็กินจนหมดชาม เราพากันไปคิดเงินที่คุณยายที่จุดชำระ
"แหมๆ ได้เห็นคู่รักหนุ่มสาวแล้วมันชื่นใจจริงๆเน้อ"
"มะ ไม่ใช่แบบนั้นนะครับคุณยาย เราเป็นผู้หญิง ส่วนนี่หัวหน้าผม แล้วก็...ก็...."
หมดคำจะแก้ตัวแล้ว เราทั้งคู่ปิดปากเงียบสนิท ไม่มีแม้แต่เสียงลมหายใจด้วยซ้ำ แบบนี้มันยังกับคู่แต่งงานใหม่เลยไม่ใช่รึไง!!! ไม่ได้สิอาเรีย จะคิดไปในทางนั้นไม่ได้ สรุปว่าคุณยายชอบใจเลยให้ทานฟรีสะงั้น สักพักก็มีวิทยุมาหาเราจากช่องศูณย์บัญชาการ แต่ไม่ใช่เสียงลูน่า นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
"< เกิดเหตุยิงกันที่เขตตะวันตก ถนนใต้ที่45 เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บหนึ่งนาย ชื่อ ลูน่า ฟอร์จูน่า หมวด F XIII ให้มาที่ศูณย์พยาบาลด่วน เลิกกัน >"
ลิลลี่ชอคจนทำอะไรไม่ถูกเมื่อได้ยินชื่อผู้บาดเจ็บคือ ลูน่า ฟอร์จูน่า ที่เรารู้จักไม่ผิดแน่ หงุดหงิดชะมัดเลย
"ไปกันเถอะลิลลี่"
"อะ...เดี๋ยวสิ"
ฉันอุ้มลิลลี่ขึ้นมาแล้วรีบวิ่งไปยังตึกพยาบาลของสำนักงานตำรวจ เราตรงไปยังห้องฉุกเฉินก็เห็นลูน่านอนอยู่บนเตียงคนใข้ หมอบอกว่าผ่าตัดเอากระสุนออก ปิดแผลและให้โพชั่นแล้ว แต่ต้องรอสักพักให้แผลสมานตัว
"ลูน่า ลูน่า ดีใจจังที่ไม่เป็นไร"
"ค่ะ มะ..ไม่เป็นไรมากหรอกค่ะ แต่ก่อนอื่น อาเรียช่วยวางลิลลี่ลงก่อนได้ใหมคะ"
"ครับ.."
ฉันวางลิลี่ลงแต่ก็ได้กลิ่นแปลกๆจากตัวลูน่า ฉะนเข้าไปใกล้ๆแล้วแยกกลิ่นตั้งแต่หัวจรดเท้า ถึงมันจะมีกลิ่นคาวเลือดจากบาดแผล แต่เจ้ากลิ่นแปลกๆที่ชวนให้รู้สึกไม่ดีนี่มันชัดเจนมาก กลิ่นอับและเหม็นหืนเหมือนสลัมที่ใหนสักที่ และกลิ่นคล้ายๆบุหรี่ที่เหม็นแสบจมูกสุดๆ ได้เวลาสอบสวนแล้ว
"อาเรีย ตาลุงโรคจิต"
"ใช่ๆโรคจิตจริงๆนั่นล่ะค่ะ"
"หมอก็ว่าอย่างงั้นนะ"
"เดี๋ยวดิหมอ!!!"
ทำไมใครๆก็บอกแบบนี้กันทั้งนั้น รวมถึงคุณหมอด้วย ทำไมกัน...ทั้งๆที่เป็นวิธีหาหลักฐานที่ได้ผลแท้ๆ พอตั้งสติได้ก็เข้าเรื่องกัน
"อะเฮ่ม ขอถามเลยนะครับลูน่า ไปทำอะไรในแถบสลัมเหรอคับ"
"ไม่ได้ไปค่ะ"
"แล้วบุหรี่ล่ะ ไม่สูบไม่ใช่เหรอ"
"บอกตอนใหนล่ะคะว่าไม่สูบ"
"แต่กลิ่นมันฟ้องนะ"
"สำหรับคนโรคจิตแล้วขอไม่ตอบค่ะ"
ตอบหน้าด้านหน้าตายแบบ Poker face เลยนะเธอ สังสัยต้องใช้ไม้เเข็งแล้วสิ~ สูดลมหายใจเข้าแล้วก็เอาหางคลอเคลียที่หน้าของเธอซ้ำไปซ้ำมา
"นี่~ช่วยบอกหน่อยได้ใหม ว่าไปทำอะไรแถวนั้นน่ะ"
"เฮะๆ ไม่บอกหรอกค่า~ "
พอฉันเอาหางออก แล้วเธอก็จ๋อยลงไปเลย แต่พอให้จับก็ทำหน้ามีความสุขชึ้นมา ฉันทำแบบนั้นวนไปจนนึกอะไรออกได้
"ถ้าให้จับหางนุ่มๆฟูๆ ทั้งวันล่ะ สนใจใหม"
"ไม่บอกค่ะ หางมนุษย์จิ้งจอกฟูกว่านี้อีก "
ฉันรู้สึกเหมือนอะไรขาดผึงไปเมื่อกี้ ลิลลี่พยายามเข้ามาห้ามฉันไว้ก่อนที่จะลงไม้ลงมือในห้องฉุกเฉิน
"จะโกรธแล้วน้า~ บอกว่าจิ้งจอกฟูกว่างั้นสิน้า~ ให้พ่อเชือดทิ้งตรงนี้เลยดีใหมน้า~"
"กลัวแล้วค่า บะ...บอกก็ได้ค่า...อย่ากินฉันเลยนะ ฉันไม่อร่อยหรอก ระ...รอแผลหายก่อนแล้วคุยที่ห้องนะ..."
เมื่อแผลของลูน่าหายดีแล้วหลังจากสามถึงสี่ชั่วโมง เราขอบคุณคุณหมอที่ช่วยรัษาลูน่าและกลับไปยังหอพัก ที่ห้องของลูน่าเรานั่งล้อมวงที่โต๊ะสีชมพูตัวเดิม เธอเปิดโน้ตบุค(มั้งนะ)จากนั้นเปิดแฟ้มรูปบางให้ดู ในนั้นคือรูปชายหญิงหลายคนล้วนกำลังยื่นห่อสินค้าบางอย่างให้กัน
ภาพต่อมาที่ตัวสินค้ามีตัวอักศร 'T' มาจาก Tough แปลว่า 'อึด ทนทาน' เธอบอกว่าพวกนี้คือข้อมูลแกงค์ค้ายาผิดกฎหมายขนาดใหญ่ที่ตามสืบมานาน 'ยอร์มุนกานดร์' ตามชื่องูยักษ์ในตำนานนอร์ส มีหัวหน้าแกงค์มีนามแฝงว่า 'บัลเดอร์' ซึ่งตอนนี้กำลังหลบซ่อนอยู่ในตัวเมืองทางตะวันตก
โดยเดิมทีแล้วยานั้นใช้เพื่อการรักษา แต่หากใช้เกินขนาดหรือใช้ผิดวิธีมันก็เป็นโทษได้เช่นกัน สารเสพติดคือหนึ่งในโทษของยาเหล่านี้ มันคือ Remedy(เรมีดี้)
เรมีดี้คือยาสมุนไพรในตำนานที่รักษาได้ทุกโรคแค่กลืนมันลงไป แต่ปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงสูตรไปต่างๆนานา ทำให้เกิดเป็นสารเสพติดที่จะทำให้ไม่รู้สึกเจ็บปวด ไม่ง่วง ไม่เหนื่อย ไม่หิว
แต่เมื่อผลของยาหมดลง ผู้เสพจะรู็สึกถึงอาการเจ็บปวดทรมาณจากการที่กล้ามเนื้อเสียหาย ความหิว ความเหนื่อยล้า กระหายน้ำ วิงเวียน ถึงขั้นรุนแรงก็อาจเกิดภาพหลอนและเสียชีวิตได้
"ฉันตามหาเจ้าพวกเลวนี่มานานแล้ว ครั้งนี้ฉันจะเอามันทุกตัวเข้าตารางให้ได้ค่ะ แต่ดันมีพวกคนทรยศพยายามสังหารหัวหน้าแกงค์ พวกนั้นคงเคลื่อนใหวเร็วๆนี้แน่นอน "
"ลูน่าคะ ดูเหมือนกำลังโกรธมากเลยนะคะ ถึงจะซ่อนให้มิดยังไงก็เถอะนะ"
"นั่นสิครับ กลิ่นน่าโมโหสุดๆเลย มีอะไรรึป่าว รายงานหน่วยเหนือดีกว่าใหม"
"ขอโทษค่ะ พอดีอารมณ์ขึ้นไปหน่อย แต่ฉันไม่ไว้ใจพวกนั้นค่ะ อาจจะมีสายลับของ 'ยอร์มุนกานดร์' อยู่ในองค์กรณ์ก็ได้"
เธอดูโกรธแค้นพวกนั้นมาก เธออาจจะมีเบื้อหลังเกี่ยวข้องกับกลุ่มค้ายานี่ แต่ลิลลี่ก็รู้ทัน
"เคยเสียคนสำคัญไปเพราะเจ้ายานรกนี่ ใช่ใหมคะ ถ้าเล่าให้ฟัง เราอาจจะช่วยอะไรได้นะ"
"........"
"เธอไม่ได้ตัวคนเดียวแล้ว ให้เราช่วยเถอะนะ"
ลูน่านิ่งเงียบไม่ตอบอะไรสักพักหนึ่ง จนเธอเอ่ยปากเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง
ความคิดเห็น