ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หน่วยพิทักษ์สันติราช F XIII(13)

    ลำดับตอนที่ #7 : ปฏิบัติงาน

    • อัปเดตล่าสุด 3 ธ.ค. 62


         "ที่นี่ที่ใหน"

         "ตื่นแล้วเหรอจ๊ะอาเรีย"

         รู้ตัวอีกทีว่าฉันกำลังลากรถเกวียนที่บบรทุกของมาเต็มรถเหมือนตอนเด็กๆเลย เมื่อหันกลับไปมองตามเสียงด้านหลังก็พบกับซิสเตอร์คนหนึ่งในชุดแม่ชีสีดำกับผ้าคลุมผมที่ยาวถึงกลางหลัง ผมเธอที่โผล่ออกมาจากผ้าคลุมผมมีสีทองและนัยตาสีฟ้า ใบหน้าที่งดงามดั่งเทพธิดา เธอชื่อว่าซิสเตอร์มาเรีย...ใช่แล้วซิสเตอร์มาเรีย!!! ฉันเอื้อมมือไปหาเธอ แต่ทุกอย่างเริ่มถูกกลืนกินโดยแสงสว่างไปจนหมด


         "ซิสเตอร์มาเรีย!!!" ฉันร้องเรียกชื่อเธอออกมา แต่มันก็เป็นเพียงแค่ความฝัน ฉันตื่นสู่โลกความเป็นจริงอันแสนโหดร้าย โดยยังนอนอยู่ที่เดิมแต่มีผ้าห่มสีชมพูคลุมตัวอยู่ มองดูนาฬิกาใกล้ๆตัวก็ประมาณหกโมงเย็น นี่ฉันหลับไปนานขนาดใหนเนี่ย


         "อาเรีย..หลับไปประมาณสองชั่วโมงกว่าๆค่ะ ขะขอโทษจริงๆนะคะ"

         "ไม่เป็นไรหรอกครับ ว่าแต่ภาพในฝันนั่นคงเป็น.."

         "ค่ะ เวทย์ของซัคคิวบัสนอกจากจะทำให้หลงสเน่ห์ แล้วยังทำให้เห็นความฝันที่อยากให้เป็นจริงที่สุดด้วยค่ะ แต่ก็มีผลข้างเคียงที่จะทำให้เห็นฝันที่อยากลืมมากที่สุดด้วยเช่นกันค่ะ"


    ลูน่าหันหลังคุยกับฉันขณะเล่นมือถืออยู่ คงจริงสินะที่ซัคคิวบัสถูกเรียกในอีกชื่อว่าเป็นปีศาจความฝัน คงรบกวนคุณลูน่ามากเกินไปแล้ว ฉันจึงค่อยๆอุ้มลิลลี่ขึ้นมาในท่าเจ้าหญิง แล้วพาเธอกลับห้องพัก


         "ขอโทษที่รบกวนนะครับ คุณลูน่า"

         "มะ..ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ ต้องขอโทษด้วยซ้ำ ที่ก่อเรื่องไม่ดีไว้น่ะค่ะ"

         "ใว้เจอกันที่ทำงานนะครับ คุณลูน่า"

         "เรียก ลูน่า เฉยๆก็ได้ค่ะ ครั้งแรกเลยนะคะที่เจอคนที่ได้รับผลจากคำสาปแค่นี้น่ะ"

         "คงเพราะเจอมาเยอะน่ะครับถ้างั้น โชคดีนะครับหวังว่าจะได้คุยกันเยอะๆ นะครับ ลูน่า"

         "...ค่ะโชคดีค่ะ...อะ อาเรีย"


    ฉันออกจากห้องของลูน่าโดยมีเธอมาส่ง ใช้บัตรเจ้าหน้าที่เปิดห้องของลิลลี่ออก แล้วค่อยๆวางเธอลงบนเตียง ดันเหลือบไปเห็นริมฝีปากเล็กๆมันวาวนั่นก็ทำให้นึกถึงเรื่องตอนนั้น หัวใจมันก็เต้นแรง...

         "(อยากจะสัมผัสอีกครั้ง อยากลิ้มรสอีก มกกว่านี้อีก~)"

         "อาเรียคะ"

         "หวา!!!"

    อยู่ดีๆฉันก็เข้าไปใกล้หน้าเธอ พยายามจะขโมยเอาริมฝีปากนั้น เธอดันตื่นพอดีฉันตกใจจนรีบถอยออกมาแทบไม่ทัน


         "มีอะไรรึป่าวคะ *หาว*"

         "ป่าวๆ ไม่มีอะไรหรอก แค่จะดูว่ามีใข้ใหม ถ้าสบายดีแล้วจะได้กลับน่ะ นอนพักเยอะๆนะ"


    ลิลลี่ลุกขึ้นมาและจับมือฉันใว้รั้งไม่ให้ไป ตอนนี้หัวใจฉันมันแทบจะวายอยู่แล้ว


         "ขอโทษนะคะ อาเรีย ที่ตอนนั้นทำให้ลำบาก ต้องออกไปนอนข้างนอก วิ่งไล่คนร้าย และก็...ที่ห้องคุณลูน่า"

         "อะ...อืม..ม..ไม่ต้องใส่ใจหรอก ใหนๆก็เป็นทีมเดียวกันแล้วนี่ ใด้เวลาอาหารเย็นแล้ว เดี๋ยวเอามาให้นะ"

         "ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวไปด้วยกันเลย "

         ฉันจับมือเธอเดินมาตลอดทางจนถึงโรงอาหาร เราเลือกโต๊ะที่อยู่ใกล้ที่สุด ฉันไปจัดอาหารมาสองชุดแล้ววางชุดหนึ่งลงตรงหน้าเธอ แต่ด้วยเรื่องที่ห้องคุณลูน่าทำให้เราเอาแต่นั่งมองถาดอาหาร ฉันอายจนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอาหารพวกนี้มันคืออะไรบ้าง ฉันเริ่มเปิดเรื่องสนทนาเพื่อทำลายความเงียบนี้ 


         "ลิลลี่ คือว่า ตอนอยู่ที่ห้องคุณลูน่าน่ะ ฝันที่เห็น คืออะไรเหรอ"
         "อาเรียก็ ฝันอย่างงั้นเหรอ"
         "อืม...ผมเห็น...แม่ชีน่ะ"
         "เหรอ ฉันฝันเห็นท่านพ่อน่ะ...ฝันว่าได้เจอกับท่านอีกครั้ง ท่านถูกเกณท์ไปรบ แต่ก็ไม่เคยกลับมาอีกเลย แล้วพ่อแม่ของอาเรียล่ะ"

         "ไม่มีหรอก...ผมก็แค่เด็กกำพร้าที่โตในโบสถ์แถบชายแดน"
         "ขอโทษนะคะ...ที่ถามไม่เข้าเรื่อง คงผ่านอะไรมาเยอะสินะคะ"
         "ไม่เป็นไรหรอก รีบกินเถอะเดี๋ยวมันจะเย็นหมด"

         ฉันค่อยๆกินอาหารจนหมดแล้วเอาถาดไปเก็บ แต่ลิลลี่แทบไม่ได้ทานอะไรเลย เธอทิ้งโน้ตใว้แล้วกลับห้องไป
    [เก็บของเสร็จแล้วเจอกันที่ห้องนะคะ คุณรูมเมท] จริงๆเลยนะเธอเนี่ย จะบอกตรงๆเลยก็ไม่พูด เล่นทิ้งโน้ตแล้วหายไปเลย เมื่อเก็บถาดอาหารทั้งสองอันและเก็บข้าวของของฉันเรียบร้อยแล้วก็กลับไปที่ห้อง202อีกครั้ง

         
         "ยินดีต้อนรับค่ะ อาเรีย"

         "อืม ฝากเนื้อฝากตัวนะครับ ลิลลี่"

         เธอรอต้อนรับฉัน เหมือเป็นของขวัญเล็กๆน้อยๆ พอจัดของที่มีแค่กระเป๋าใบเดียวเสร็จจึงไปอาบน้ำ แต่ลิลลี่กลับเปิดประตูห้องน้ำเข้ามา 

         "ให้ฉันช่วยสระผมให้ใหมคะ"

         "ไม่เป็นไรหรอกผมทำเองได้-"

         "ไม่ได้หรอกค่ะ เดี๋ยวหางนุ่มฟูก็เสียของอีกพอดี แต่สระบ่อยก็ไม่ดีนะคะ"

         "งั้น รบกวนด้วยนะครับ"


         เธอใช้น้ำอุ่นล้างทำความสะอาดหางหมาป่าของฉัน ส่วนผมฉันจัดการเองเพราะเดี๋ยวน้ำเข้าหู ฉันเองก็ช่วยเธอล้างผมเหมือนกัน อาบน้ำเสร็จแล้วเราก็เข้านอน เตียงสองชั้นที่ดูเเข็งแรงทนทานทำให้มั่นใจว่าจะไม่ถล่มลงมา ตัวเลือกเดียวคือนอนชั้นบนเพราะว่าลิลลี่จองชั้นล่างแล้ว พอกล่าวราตรีสวัสแล้วก็ทิ้งตัวลงบนเตียง ปล่อยให้ทุกอย่างผ่านไป

    .

    .

    .

    .

         "อาเรียฟังพี่นะ ไม่ว่าจะเกิดอะไร เธออย่าหยุดวิ่งเด็ดขาด "

         "ไม่!!! ซิสเตอร์มีน่า ซิสเตอร์มาเรียตายแล้ว น้องๆก็ด้วย พวกมันฆ่าพวกเขา หนูจะอยู่สู้กับพวกมันเอง"

         "แม่บอกให้ไปไม่เข้าใจรึ ถ้าไม่ไปเธอก็จะตายด้วย จะไม่มีใครจำซิสเตอร์มาเรียและน้องๆเธอได้อีกต่อไป"

         "ตะ แต่"

         "ไม่มีแต่ อาเรีย เธอต้องรอด เพื่อแก้แค้นให้น้องเธอ รวมทั้งฉันและซิสเตอร์มาเรีย เธอจะต้องลากคอพวกมันมาลงโทษให้ได้ ไป!!!"

         ฉันตัดใจวิ่งออกมาจากทางด้านหลังของโบสถ์เก่าๆ โดยมีเสียงปืนดังไม่หยุดจากโบสถ์หลังนั้น น้ำตาใหลอาบแก้มที่เต็มไปด้วยเลือด ฉันจะต้องแก้แค้นไอ้คนที่มันฆ่าครอบครัวฉัน มันจะต้องถูกลงโทษอย่างสาสม ฉันจะเป็นคนลากพวกมันลงนรกด้วยมือฉันเอง เจ้าพวกศานจักร ตาย!! มันต้องตาย-


         "เรีย.....อา...เรีย.....อาเรีย!!!"

         "ว้ากก!!!"

         "อาเรีย ตื่นได้สักทีนะคะ เดี๋ยวก็สายหรอก เป็นอะไรใหม เหงื่อท่วมตัวเลย"

         "ไม่...ผมไม่เป็นไรหรอก รอแปปนึงนะให้ผมแต่งตัวก่อน"

         ฉันรีบอาบน้ำแต่งตัวทันทีที่ลิลลี่บอกว่าจะสายแล้ว ในชุดตำรวจสากลที่เหมือนกับของลิลลี่คือ กระโปรงสีกรมท่าคาดสีเหลืองตรงปลาย เสื้อแขนยาวมีซิปมีเดียวกับกระโปรงเขียนอักษรสีเหลืองว่า POLICE ซับในด้วยเสื้อยืดสีพื้น และรองเท้าคอมแบท เรารีบขนาดอาหารเข้าก็กินแค่ครึ่งเดียวและรีบพุ่งตรงไปสำนักงานหลักกองตำรวจสากล ตึกเดียวกันที่ฉันเคยไปรับเครื่องแบบ เราทั้งคู่ตอกบัตรเข้าเวรที่หน้าประชาสัมพันธ์ชั้นหนึ่ง แต่ก็มีชื่อคุณลูน่าตอกบัตรไปก่อนแล้ว พอวางใจว่าจะไม่มาทำงานสายลิลลี่ก็แนะนำให้ไปเบิกอาวุธและวิทยุที่ตึกซ่อมบำรุง จุดบริการเบิกอาวุธมีหลายช่องมาก ฉันเลือกช่องที่คนน้อยที่สุด ที่จุดบริการมีมีพนักงานรอต้อนรับอยู่ด้านหลังกระจกกันกระสุนที่ดูหนาและแข็งแรง


         "มะ...มีอะไรให้ช่วยคะ"

         "เบิกอาวุธกับวิทยุสื่อสารครับ"

         "สะ...สักครู่นะคะ ล่ะ...เสียบบัตรเจ้าหน้าที่ ณ ตรงนี้ได้เลยค่ะ ละ...เลือกได้ตามใจชอบเลยนะคะ"


         เธอชี้ไปที่เครื่องคอมพิวเตอร์แล้วก็หายไปด้านหลังทันที ฉันเสียบบัตรเจ้าหน้าที่ลงไป ใส่รหัสตามที่เคยตั้งไว้เสร็จด้านหน้าก็มีแสงสีฟ้าสว่างขึ้นพร้อมกับโฮโลแกรมและตัวเลือกมากมายทั้ง ไรเฟิล ลูกซอง ปืนกลมือ และปืนพกที่เป็นส่วนเดียวที่เลือกได้ ถึงจะบอกให้เลือกได้ตามใจชอบ แต่ก็ต้องใช้'เครดิตพ้อย' ที่ได้จากทั้งการเข้าเวรและปฏิบัติหน้าที่ต่างๆ 


         ฉันเลือกดูปืนพกแบบต่างๆและตัดสินใจเลือกปืนพก M1911 เพราะชินกับการใช้และซ่อมบำรุงมากกว่าจาการเป็นทหารมาก่อน แมกกาซีนสำรองหนึ่งชิ้น กระสุน FMJ 14นัด คุณพนักงานกลับมาพอดีพร้อมกับวิทยุสื่อสาร ปืนพก,กระสุนและซองหนังสำหรับปืนพก


         "นะ..นี่ค่ะวิทยุสื่อสาร สามารถปรับคลื่นได้ตามที่กำหนดเลยค่ะ ปืนพกM1911และซองหนังมาตรฐาน แมกกาซีนสำรองหนึ่งชิ้นและกระสุนสิบสี่นัด" 

         ฉันตรวจดูปืนพกที่แท่นเซฟตี้ข้างๆและเดินไปนั่งที่โต๊ะแถวนั้น ระหว่างบรรจุกระสุนลงแมกกาซีนลิลลี่ก็กลับมาพร้อมกับโล่ทาวเวอร์ชิลกับกลาดิอุสเล่มเดิม เธอมานั่งที่โต๊ะแล้วบรรจุแมกกาซีนของปืนพก Glock 19 

         "เบิกอาวุธพวกนี้ได้ด้วยเหรอ"

         "ไม่ค่ะ แค่ฝากไว้ แล้วตั้งคลื่นวิทยุรึยังล่ะ "

         "ผมยังไม่ได้ตั้งเลย ฝากด้วยนะ"


         ลิลลี่ตั้งคลื่นเสร็จก็อ้อมมาด้านหลังแล้วติดวิทยุเล็กๆเป็นเหมือนสายคาดบริเวณใหล่ ใช้พลังงานจากแบทเตอรี่เวทย์เล็กๆในตัวมันเอง แบทเตอรี่สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไป


    "ลองพูดดูสิคะ"

    " <ทดสอบๆ เคไนน์เรียกศูณย์บัญชาการ เปลี่ยน>"

    "<ลูน่าเองค่ะ ไม่ต้องเป็นทางการนักก็ได้นะคะ>"

    "<คุยผ่านวิทยุต้องซ่อนตัวเองด้วยนะครับ ใครจะเข้ามาเมื่อไรก็ไม่รู้ แล้วตอนนี้อยู่ใหนล่ะ"

    "<ศูณย์บัญชาการค่ะ"

    "<อ่า สรุปว่าคลื่นนี้มีแค่เราสามคนใช่ใหม>"

    "<ถูกต้องค่ะ มีอะไรแล้วจะติดต่อมาใหม่นะคะ เลิกกัน>"


    ลูน่าจบการสื่อสารไป

    "คุณลูน่าโหดร้าย"

    "คุณลิลลี่ครับ เลิกกัน ที่ว่านั่นมันคือคำสั่งตัดการสนทนานะครับ"

    "ระ รู้อยู่แล้วน่า"

    พอหยอกเข้าเข้าหน่อยเธอทำแก้มป่องดูน่ารักเหมือนเด็กๆ ฉันเอาซองปืนกับแมกกาซีนคาดไว้ที่ต้นขาแล้วออกจากสำนักงาน ตอนลาดตระเวนมันรู้สึกหวิวๆยังไงไม่รู้สิเวลาใส่กระโปรง อาจจะเพราะไม่ชินก็ได้ ลิลลี่แนะนำว่าให้ใส่ถุงน่องแล้วอาจจะดีขึ้น เดี๋ยวไว้ค่อยมาเบิกเอาทีหลังแล้วกัน 


    เราเริ่มลาดตระเวนโดยออกจากศูณย์ใหญ่ที่อยู่กลางเมืองแห่งนี้

    ลิลลี่อธิบายว่า เมืองนี้แบ่งเป็นห้าเขต 


    เขตตะวันตกจะติดทะเล เป็นท่าเรือขนส่ง มีสถานบันเทิงและร้านเหล้ามากมาย แต่แถบนี้หลายส่วนเป็นสลัมและมักเกิดอาชญากรรมบ่อยครั้ง เพราะแกงค์อาชญากรณ์มีอำนาจในแถบนี้จึงไม่ค่อยมีตำรวจกล้าเข้าไปยุ่งมากนัก 


    เขตตะวันออกเป็นที่รวมของ สนามกีฬา ที่พัก,โรงแรม ห้างร้านและสถานที่ท่องเที่ยว


    เขตเหนือเป็นเขตการเกษตรรมและอุตสาหกรรมอาหาร อาหารสดและแห้งมากมายถูกส่งมาจากเขตนี้


    เขตใต้เป็นเขตที่เทคโนโลยีก้าวหน้าที่สุด มีทั้งสนามบิน ศูณย์พัฒนาเทคโนโลยี โรงพญาบาลที่ใหญ่ที่สุดในเมือง และยังเป็นเป็นสำนักงานของบริษัทต่างๆ


    สุดท้าย เขตเซ็นทรัล ศูณย์กลางของทุกเขต มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน โรงแรมและห้างร้านใกล้เขตตะวันออก โรงพยาบาลในเขตใต้ ที่ทำงานในเขตเหนือ ผับและบาร์ที่ปลอดภัยในเขตตะวันตก สำนักงานตำรวจก็อยู่ในเขตนี้เช่นกัน ถึงจะเยื้องไปทางตะวันตกหน่อยก็เถอะนะ พอฟังลิลลี่อธิบายเสร็จก็เที่ยงพอดี เราหาอะไรกินใกล้ๆแถวนั้น คุณ


         "<ลูน่า เรียก กระต่าย และ เคไนน์ แจ้งเหตุฉุกเฉินค่า~~ เขตตะวันตก ถนนไต้ที่5 เป้าหมายคือสไลม์ขนาดประมาณ 3x3 เมตร ส่วนผสมส่วนใหญ่เกิดจากท่อระบายน้ำค่า~~ เปลี่ยน>"

         "<รับทราบ กำลังตรงไปที่เกิดเหตุ ขอเส้นทางด้วย เปลี่ยน>"

         "<รับทราบ กำลังค้นหาเส้นทางค่า~~>"

         

         "พร้อมรึยังคุณหัวหน้าหมวด"

         "อ่ะ อืม" 

         ฉันออกวิ่งโดยลิลลี่ตามมาติดๆ แต่เพราะโล่ที่หนักนั่นทำให้เธอวิ่งช้าลงและกินแรง ฉันเลยอุ้มเธอขึ้นมาในท่าเจ้าหญิง แล้วออกวิ่งไปด้วยกัน ลิลลี่โวยวายบอกให้วางเธอลงเพราะมันน่าอาย เสียงคุณลูน่าที่คอยนำทางฟังดูเหมือนเธอจะสนุกกับมันมากเลย

         

    ฉันมาเจอกลุ่มคนกำลังวิ่งหนีสไลม์ยักษ์ขนาดประมาณรถเก๋ง มันมีสีดำคล้ำเหมือนน้ำสกปรกแถมกลิ่นเหม็นอีกตะหาก 


         "เสร็จข้าล่ะ"
         "ไม่นะอาเรีย อย่ายิง ถ้ายิงล่ะก็แก็สที่เกิดจาการหมักในตัวมันจะระเบิด ทั้งเราและละแวกนี้ได้โดนเป่ากระจายหมดแน่" 


    ฉันชักปืนพกพร้อมยิงทันทีแต่ลิลลี่ห้ามไว้ก่อน เจ้าสไลม์นั่นกินทุกอย่างที่มันเคลื่อนที่ผ่านบางทีอาจจะมีคนอยู่ในนั้นก็ได้ ทันใดนั้นฉันรีบจับเอาลิลลี่ออกมาออกมาขณะที่เจ้าสไลม์พยายามใช้หนวดจับลิลลี่


         "แล้วเอาไงต่อล่ะ"
         "ยังไงก็ได้แค่อย่าให้มันติดไฟ ตรวจสอบดูก่อนว่ามีคนอยู่ใน-" 

    พูดไม่ทันจบสไลม์มันก็พ่นเอารถเข็นทั้งคันออกมา ไอศครีมและน้ำแข็งแห้งกระจัดกระจายไปหมด ลิลลี่นิ่งไปสักพักแล้วทำหน้าเหมือนคิดอะไรออก


         "ใช่แล้วค่ะอาเรีย เอาน้ำแข็งแห้งตรงนั้นโยนให้มันกิน จนกว่ามันจะกลายเป็นน้ำแข็งแล้วผ่ามันเลย ตรงนี้ฉันล่อมันไว้เอง"
         "รับทราบ ไม่พบตัวประกัน จู่โจมเต็มกำลัง"

         ความคิดดีนี่ แค่เปลี่ยนมันให้แข็งแล้วจัดการฟันมันซะเลย เคยมีคนบอกไว้ว่า ถ้าแผนมันบ้า แต่ถ้าใช้การได้ แปลว่าแผนมันเจ๋ง ไม่ลองก็ไม่รู้ล่ะนะ


     ฉันวิ่งไปที่กองน้ำแข็งแห้งหยิบมันแล้วขว้างออกไปที่ตัวเจ้าสไลม์นั่น ตามคาด มันกลืนลงไปจนหมด ฉันเริ่มเปลี่ยนมุมจากการกระโดดไปตามตึก ขว้างน้ำแข็งแห้งไปทุกๆที่บนตัวมัน โดยที่ลิลลี่เป็นตัวล่อ

         รู้ตัวอีกทีน้ำแข็งแห้งก็หมดแล้ว แต่ตัวสไลม์มันก็ยังขยับได้อยู่ ฉันพุ่งเข้าไปแล้วใช้ดาบฟันไปสองทีแต่ก็เอามันลงไม่ได้ เพราะมองไม่เห็นคอร์หรือสมองของมันเลย ยิงไม่ได้ เกิดทะลุไปด้านหลังล่ะ ทำไงดี บ้าเอ้ยทำไงดี

         "<การสนับสนุนทางอากาศมาแล้วค่า~~>"
         "<ลูน่ามาได้จังหวะลยค่ะ ทิ้งใส่หัวมันเลย>"

         ฉันยังคงงงกับเสียงตอบวิทยุตอนที่เห็นโดรนบินอยู่เหนือหัวเจ้าสไลม์นั่นแล้วทิ้งของเหลวบางอย่างลงบนหัวมันแล้วสไม์มักก็เริ่มกลายเป็นน้ำแข็งทันทีไล่จากบนลงล่าง
        
         "<ลูน่าแอร์สไตรค์ เข้าเป้าค่า~~>
         "<ลูน่าไอ้เจ้าของเหลวนั่น...มันคืออะไร>"
         "<ไนโตรเจนเหลวค่า~~ไปขอมาจากคุณเจนผู้ดูแลหอค่า~~>"


    ไนโตรเจนเหลว คิดไม่ถึงจริงๆว่าลูน่าที่เป็นคนบังคับโดรนจะใช้ของพรรณนั้น แล้วทำไมคุณเจนถึงมีของแบบนั้นใด้ ตอนนี้สไลม์กลายเป็นน้ำแข็งทั้งตัวแล้ว ฉันดึงดาบยาวจากช่องเก็บของต่างมิติและฟันมันลงไปสุดแรง *กิ้ง* มันแข็งเกินจะฟันให้ขาด

         "อาเรีย ประกบซ้ายขวา ทุบมันให้แตกไปเลย!!! "
         "รับทราบ!!! "


    เราแยกกันไปประกบมันซ้ายขวา ฉันกลับด้านดาบแล้วจับที่คม ใช้ส่วนการ์ดแทนค้อนแล้วทุบมันสุดแรง 
         "ท่านเฟนเรียทรงประทานพร- ย้าก!!!!" "ย้าา!!!!"
    การโจมตีประสานกัน สไลม์เกิดรอยร้าว มันแตกออกเป็นชิ้นๆจนเห็นคอร์สีแดงสด ฉันเอาดาบจิ้มที่คอร์ให้แตก ส่วนลูน่าแจ้งเทศบาลให้มาเก็บเศษสไลม์

         "<ภารกิจเสร็จสิ้น เป้าหมายถูกกำจัด ได้เวลากลับบ้านแล้วค่ะอาเรีย>"
         "<อ่า...เหนื่อยหน่อยนะสำหรับวันแรก>"
         "<เหนื่อยหน่อยนะค้า 
    ~~ เลิกกันค่า~~>
    "

    ลูน่าตัดการสื่อสารไปขณะที่ฉันกับลิลลี่เกินกลับหอพัก












    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×