ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หน่วยพิทักษ์สันติราช F XIII(13)

    ลำดับตอนที่ #2 : การดวลครั้งแรก

    • อัปเดตล่าสุด 3 ธ.ค. 62


    ฉันเดินตามคุณผู้ดูแลลงมาจนถึงชั้นหนึ่ง ระหว่างทางคุณเจนได้แนะนำสถานที่ต่างๆในอาคาร

         "ตึกหอพักนี้จะมีสามตึก ห้าชั้น ชั้นละห้าห้อง ตึกของเธอและที่ฉันดูแลอยู่คือตึกที่สอง นั่นคือโรงอาหาร เธอน่าจะสังเกตุได้ตั้งแต่เข้ามาครั้งแรกแล้วล่ะนะ อาหารเช้าจะเริ่มตั้งแต่เวลาตีห้าถึงเจ็ดโมงครึ่งนะจ๊ะ อาหารเที่ยงต้องบริการตัวเองนะคะ ส่วนอาหารเย็นเริ่มตั้งแต่เวลาห้าโมงย็น ถึงสองทุ่ม  ส่วนนั่นคือครัว ถ้าจะใช้ต้องขออนุญาติฉันก่อนนะ ห้องน้ำจะอยู่ที่ห้องพักตัวเอง หรือจะใช้ห้องน้ำรวมทางซ้ายก็ได้"
         
         กว่าจะฟังบทสวดจากคุณเจนก็ปาไปสองทุ่มครึ่งแล้ว โรงอาหารเลยค่อนข้างเงียบ แล้วคุณเจนก็พาฉันไปนั่งบนโต๊ะใกล้ประตูขนาดใหญ่สองบานคู่
         
         "นี่คือสนามซ้อม ปกติจะมีเจ้าหน้าที่อีกคนคอยกำกับดูแลเพื่อไม่ให้บาดเจ็บ เอ้าพร้อมแล้วเหรอลิลลี่ นี่ยังไม่สิบนาทีเลยนะ"
         "พร้อมค่ะ...ยังไงก็จะเอาชนะตาโรคจิตนี่ให้ได้"

         โรคจิตอีกละอะไรของเธอหว่า แล้วคุณเจนก็ลุกไปเปิดประตูบานใหญ่นั่นโดยที่ไม่รู้เธอเอาแรงมาจากใหน ข้างในเป็นเหมทอนโดมสนามกีฬามี่สามารถบรรจุคนได้ประมาณห้าร้อยคน ฉันเดินตามคุณเจนไปจนถึงสถานที่คล้ายๆห้องพักนักกีฬา โดยมีลิลลี่เดินตามหลัง แล้วคุณเจนก็ส่งเสื้อบางอย่างให้

         "นี่คือเสื้อคลุมเกราะเวท เป็นรุ่นพื้นฐานที่ใช้ในการแข่งขัน มันจะทำให้ร่างกายไม่ได้รับบาดเจ็บหากถูกโจมตี แต่จะทำให้ชาจนขยับไม่ได้น่ะ คุณเจนยื่อนเสื้อคลุมสีขาวที่มีลายสีฟ้าตามตะเข็บมาให้ ฉันรับมันใว้และสวมอย่างรวดเร็ว
         "อันนี้สำหรับอาเรียนะ แต่ถ้าอยากได้ผ้าดีกว่านี้ไปสั่งตัดที่หน่วยซ่อมบำรุงก็ได้ ส่วนของลิลลี่คงมีแล้ว งั้นคงได้เวลาของการประลองแล้วค่ะ"

         คุณเจนยังอธิบายอีกว่า เกราะของเสื้อคลุมสามารถชาจโดยใช้หินเวทมนตร์มาสัมผัสกับเสื้อคลุมนี่ ส่วนจำนวนเกราะที่เหลือจะเป็นตัววัดแพ้-ชนะหากใครเหลือ 0 ก็คือแพ้ นอกจากนั้นยังมีหมวกและกางเกงอีก มีอะไรให้ตกใจจริงๆเลยนะ ส่วนอาวุธจะเอามาเองโดยห้ามใช้ปืนทุกประเภท

         เมื่ออธิบายจบฉันเดินออกจากห้องแล้วตรงไปที่ลานกว้างกลางสนามกีฬา ไฟสปอทไลท์ส่องสว่าง แต่ก็เห็นว่าลิลลี่รออยู่ที่นั่นแล้ว ก่อนหน้านี้คุณเจนบอกว่า การประลองนั้นจะใช้ได้เฉพาะเวทมนตร์และอาวุธระยะประชิดเท่านั้น อาวุธของลิลลี่จึงเป็นทาวเวอร์ชิลที่มีสีน้ำเเงินและรูปดวงจันทร์กับดาบกลาดิอุสหนึ่งเล่ม ส่วนของฉันคือดาบยาวแบบยี่สิบ (Type XX longsword) แค่เล่มเดียว โดยเอามันออกมาจากช่องเก็บของต่างมิติ และเตรียมพร้อมการต่อสู้ 
        
         "ทั้งสองฝ่าย พร้อม!!!" 
         "พร้อมค่ะ!!!!"
         "พร้อมครับ!!!"

         ฉันโตมากับสังคมที่ถ้ายอมแพ้ก็คือตาย ฉันจะไม่ยอม แม้จะต้องเจ็บปวดเท่าไรก็ตาม แต่อยู่ดีๆทำไมรู้สึกสงสัยว่ามีคนดูเพิ่มมาอีกคนหว่า ฉันเลยหันไปมอง แต่ก็ไม่มีอะไร 
       
        "เริ่มได้!!!"
         
    เสียงระฆังเริ่มสงครามดังขึ้น  ฉันพุ่งใส่ลิลลี่เต็มแรง ฟาดคมดาบลงจากบนลงล่าง
         "ฮึ-ง่ายอะไรอย่างนี้"

    เธอก้มต่ำลง ดาบที่ฉันฟันลงไปกับพลาด เธอใช้โล่ยกตัวฉันข้ามไปด้านหลังเหมือนคานกระดก แต่ก็รู้อยู่แล้วล่ะ ฉันใช้มือขวาท้าวพื้นแล้วบิดตัว ฟาดดาบที่อยู่ในมือซ้ายไปด้านข้าง
    *เคร้ง* เสียงเหล็กปะทะกันอย่างรุนแรงดังสนั่น แรงจากการปะทะทำให้ฉันรู้ได้เลยว่ากำลังกายยัยเปี้ยกลิลลี่เป็นของจริง

         "ไงล่ะ เจอนี่เข้าไปหน่อยถึงกับกลัวเลยเหรอ แต่ก็เก่งนะที่ปัดป้องดาบฉันได้"
         "ถ้าไม่ปัดก็ตายน่ะสิ"
         "หา???แกพล่ามอะไรไอ้โรคจิต"

         เห็นรอยยิ้มสนุกสนานบนใบหน้าของเธอแล้วมันอยากจะขยี้ให้แหลก ให้มันกลายเป็นรอยย่นแสนสิ้นหวังบนใบหน้านั่น

         ฉันพุ่งกลับไปอีกครั้งและฟันลงเต็มแรง แต่แตกต่างจากคราวที่แล้วฉันหยุดฟันลงก่อนที่มันจะถึงตัวเธอ ตามคาดเธอย่อลง ฉันใช้อีกมือจับคมดาบแล้วใช้ปลายแทงลงไประว่างโล่กับตัวเธอ
    *เคร้ง* ดาบฉันโดนปัดออกไปด้านข้าง คิดเหรอว่าฉันจะปล่อยไปง่ายๆ ฉันใช้แรงเหวี่ยงจากการปัดป้องเหวี่ยงลูกเตะใส่เธอ *ตูม* เสียงรองเท้าคอมแบทปะทะกับโล่อย่างจัง ส่งเธอลอยไปไม่ไกลมาก ฉันตามไปและฟันลงจากด้านบน *ปึ้ง* เธอรับมันไว้ใด้แล้วแทงดาบสวนกลับมา ทำให้ฉันต้องกระโดดถอยหลัง ฉันเห็นเหมือนตัวเธอเรืองแสงสีเขียวจางๆ ที่น่าจะมาจากเวทเสริมพลัง

         "ลูกแตะไม่เลวสำหรับคนโรคจิตอย่างแก"
         "แรงดีหนิสำหรับยัยเปี้ยกอย่างเธอ"
         "ตาฉันลุยบ้างล่ะนะ"

    เธอพุ่งเข้ามาใช้โล่กระแทก ถ้าฉันหลบไม่ทันล่ะก็จุกใช่ย่อยเลย ต่อด้วยการแทงซึ่งฉันปัดป้องมันได้ตามด้วย ฟันจากขวา จากทางซ้าย แทง แต่ก็ยากหน่อยเพราะเธอซ่อนดาบใว้หลังโล่ จบด้วยการเอาโล่ต่อยเข้ามาที่ลิ้นปี่ ฉันรับมันได้แต่ก็กระเด็นถอยหลังไปไกลอยู่ล่ะนะ
        
         "ชิ อึดทนทายาดจังนะ"
         "เปล่าเลย ถ้าเมื่อกี้โดนจังๆนี่นอคแน่"
         "ขอคืนให้แล้วกันนะ"

    ฉันง้างดาบด้วยสองมือแล้วพุ่งไปเต็มที่แนที่จะเหวี่ยงดาบฉันใช้ส่วนโพเมลที่อยู่ปลายด้ามจับกระแทกเข้าไปที่โล่ เธอเสียหลักเล็กน้อยจากแรงกระแทก ฉันได้จังหวัเหวี่ยงดาบไปด้านข้างซ้ายและต่อด้วยด้านขวา โล่เธอถูกเวี่ยงไปตามแรงดาบจนฉันได้จังหวะฟัดจากเหนือเหัว เธอยกโล่กันด้านหน้าแต่ใครบอกว่าจะโจมตีจากข้างบนล่ะ ฉันหลอกการโจมตีจากข้างบนเป็นตวัดจากด้านล่างแทน แรงปะทะทำให้เธิเปิดการ์ด ฉันใช้มือข้างหนึ่งจับที่คมดาบแล้วเปลี่ยนทิศทางให้ดาบแทงลงไป ทั้งที่คิดว่าโดนแน่ๆ 

    *กิ้ง* เสียงใสๆดังกังวาล ปลายดาบปะทะเข้ากับอะไรบางอย่าง แรงปะทะส่งตัวฉันลอยกลับหลัง พอเงิยหน้าขึ้นก็พบกับยัยเปี้ยกที่มีแสงสีทองห่อหุ้มตัวและดาบไว้

         "แก สงสัยฉันคงต้องใช้เวทกับแกจริงแล้วสินะ แสดงออกมาสิ เวทของแกน่ะ!!!"
         "ของสวยงาบแบบนั้นฉันไม่มีหรอก"     
         "ดีเลย ฉันจะได้ชนะแกง่ายหน่อย
         "งั้นมาลองดูกัน" 

    แสงสว่างมากขึ้นเรื่อยๆ จนมันกลายเป็นชุดเกราะแต็มตัวกับดาบที่เหมือนมังกรยาวเกือบสามเมตร สงสัยคงต้องเอาจริงบ้างแล้วสินะ ฉันหกำจีห้อยคอรูป + ขอพรแก่เทพเจ้า

         "ท่านเฟนเรีย ท่านผู้มีกำลังมหาศาลจะเอาชนะทุกสิ่ง  กรงเล็บของท่านจะเชือเฉือนทุกสิ่ง กรามของท่านจะบดขยี้ทุกชีวิต โปรดช่วยอวยพรในศึกครั้งนี้ด้วนเถิด โปรดมอบพลังให้ข้าถ้วยเถิด ฉีกกระชากโซ่ตรวนที่พันธนาการท่านใว้ และนำมาซึ่งวันสิ้นโลก "
         "ขอพรไปก็ไม่ช่วยอะไรหรอก ยังไงแกก็แพ้อยู่ดี รับใว้ดีๆล่ะ 'ทัณฑ์สวรรค์' "

         ยัยเปี๋ยกฟาดดาบลงมาเหนือหัว แต่มันกลับดูช้ากว่าตอนที่ใช้ดาบซะอีกหรือเพราะพรจากท่านเฟนเรียกันนะ ฉันกลับหลบมันไปข้างๆอย่างง่ายดาย แรงปะทะที่โดนเข้ากับพื้นสนามมันช่างรุนแรงนัก ทำให้รู้สึกเหมือนชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้ายแลย ทำไมฉันถึงรู้สึกสนุกกันนะ~~~ อ๊ะมาอีกแล้วทีนี้เป็นฟันกวาด ฉันเลยพุ่งไปด้านหน้าไปอยู่ข้างหลังเธอแทน ฉันพุ่งเข้าใส่แต่เธอก็หันมาฟาดดาบลงใส่ฉันไม่หยุด แต่ก็หลบได้ทุกครั้ง 

         "ทำไมถึงหลบได้หมดกัน เป็นแค่คนโรคจิตแท้ๆ!!!"
         "ก็ยังถามตัวเองเหมือนกัน แต่มันไม่มีสูตรลับอะไรพวกนั้นหรอก"
         "ฮึ่ย--จะยั่วโมโหกันเหรอ!!!!"

         ฉันพุ่งใส่อีก ครั้งนี้เธอเหวี่ยงดาบจากทางด้าขวาใบดาบถูกเหวี่ยงสูงประมาณคอ ฉันย่อตัวและใข้ดาบของฉันเบี่ยงการโจมตีให้หักเหลงพื้นไปแล้วพุ่งเข้าหาเธอ หมุนตัวหลบดาบสีทองที่ฟันลงมาอีกครั้ง แล้วใช้แรงเหวี่ยงตวัดดาบเข้าปะทะกับดาบนนั่นจนมันกระเด็นไป ฉันจับโล่แล้วเหวี่ยงมันไปพร้อมกับเธอจนกระแทกกับพื้น เกราะสีทองแตกสลาย ฉันเหวี่ยงดาบไปในแนวนอนเล็งไปที่คอเธอ 
         
         "หัวแกต้องเป็นของฉัน" ความรู้สึกสนุกและตื่นเต้นอันคุ้นเคยนี่มันทำให้นึกถึง-
         "หยุดการต่อสู้ค่ะ!!!"

         เสียงนกหวีดดังขึ้นพร้อมกับเสียงคุณเจน การต่อสู้จบลงแล้ว ดาบฉันหยุดลงที่คอของเธอพอดี ฉันจดจ้องเธออยู่สักพัก อ๊ะก็จบแล้วนี่ นี่ไม่ใช่สงครามที่เคยไปรบซะหน่อยที่ต้องตัดหัวแม่ทัพมา พอนึกถึงเรื่องนั้นได้ฉันก็เก็บดาบลงช่องเก็บของต่างมิติทันที
         
         "ผู้ชนะคือ ลิลลี่ พีซคีปเปอร์ ค่ะ!!!" 
         "เอ๋นี่ผมแพ้เหรอ " ฉันรีบตรวจดูเกราะจากข้อมือซ้ายมันขึ้นเลข 0 ตัวใหญ่ชัดแจ๋วเลย ฉันถอนหายใจแล้วเก็บโล่กับดาบไปคืนยัยเปี้ยก ไม่สิคุณเจ้าของห้อง ส่งมือให้เธอเพื่อช่วยพยุงเธอลุกขึ้นแต่เธอกลับหยิบของแล้วถอยห่างออกไป
     
         "ไม่เป็นไรหรอก ลุกไหวใหม-"
         "แง!!! อย่ากินหนูเลยนะคะ...หนูไม่อร่อยหรอก ฮืออออ"
         "ไม่กินหรอกน่า ไม่ต้องร้องลุกขึ้นเถอะนะ-"
         "แง!!!!!"
         "เป็นอะไรของเขาเนี่ย คุณเจนช่วย- อ่าวไหงไปนั่งหลบตรงนั้นล่ะครับ"

         สภาพคุณเจนที่ไปนั่งหลบหลังเก้าอี้อัฒจรรย์ เหมือนไปเจออะไรที่น่ากลัวสุดๆมา ฉันก็อัญเชิญภูติผีไม่ได้ด้วยสิ แต่เอาเถอะ กางเต้นท์ก็ไม่ได้แย่เท่าไรห้องน้ำใช้สาธารณะเอาก็ได้ ไม่มีปัญหาเท่าไรเพราะว่าชินแล้วล่ะนะ

         "ผมไปล่ะครับ ฝากลิลลี่ด้วยนะคุณเจน" 
    ฉันเดินออกจากตึกสองไปด้าน ข้างจะมีสนามหญ้าว่างๆอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ฉันกางเต้นท์สนามตรงนั้นแล้วเข้าไปนอนทั้งอย่างนี้เลย เฮ้อเหนื่อยจัง สติมันหลุดลอยไปแทบจะในทันทีที่หัวตกถึงพื้น
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×