ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    sf reborn all69

    ลำดับตอนที่ #4 : story ..69.. ++ End++

    • อัปเดตล่าสุด 23 ต.ค. 54


             จากนิทานปรัมปราที่แม่ข้าเคยเล่าให้ฟัง  เรื่องที่นางเล่าจะบอกให้ข้ารับรู้เสมอว่า ปีศาจคือผู้เปลี่ยนทุกสรรพสิ่งให้เป็นอย่าใจหวัง เป็นกลางวันเป็นกลางคืน เปลี่ยนความสะอาดเป็นสกปรก  เปลี่ยนรอยยิ้มเป็นความอาดูร เปลี่ยน หยาดเหงื่อเป็นหยาดโลหิต ทำได้แม้แต่เปลี่ยนชีวิตให้กลายเป็นตุ๊กตาที่ว่างเปล่า  แต่เรื่องที่ข้าจะเล่าให้พวกเจ้าฟังในวันนี้เป็นเรื่องของหนึ่งมนุษย์ผู้อำนาจล้นฟ้าดั่งพระเจ้า กับหนึ่งมนุษย์ผู้เสมือนปีศาจบนผืนดิน  มันเป็นเรื่องราวที่พระเจ้าเปลี่ยนปีศาจให้เป็นตุ๊กตา

     

     

          อาทิตย์อัสดงทองแสงสีส้มอาบฟากฟ้าให้แดงฉาน แสงสว่างของมันทอลอดแมกไม้เข้าสู่บานหน้าต่างสีขาวบริสุทธิ์ที่ตัวไม้สลักลวดลายเทพยดาอย่างงดงาม  ภายในตัวห้องนี้เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นเป็นสีขาวสะอาดตา ถ้าจะพูดให้ถูกภายใน้องแห่งนี้มีเพียงเครื่องปรับอากาศและเตียงนอนเท่านั้น



     

          บนเตียงคุ่ขนาดใหญ่เจ้าของเส้นผมสีไพรินทอดกายหลับใหลไร้สติ  ข้อขาเรียวถูกล่ามด้วยตรึงด้วยโซ่ตรวนเส้นใหญ่   ร่างกายเปลือยเปล่าเต็มไปด้วยหยาดราคะทั้งร่องรอยสีแดงสดและรอยช้ำสีม่วงคล้ำที่ประดับบนเรือนกายขาวสีงาช้างนั้นบ่งบอกได้ดีกว่าคนๆโดนอะไรมาบ้าง  และคงไม่รู้สึกสุขสมกับมันเสียเท่าไหร่

     



       
    แอ๊ด....   บานประตูสีขาวถูกเปิดออกก่อนจะตามด้วยเสียงรองเท้าของกล้วยไม้ขาวหรือผู้ที่ใครก็เรียกเขาว่าพระเจ้า พระเจ้าที่คละคลุ้งด้วยกลิ่นคาวเลือดกว่าซาตาน   ร่างสูงของพระผู้เป็นเจ้านั่งบนริมเตียงนอนขนาดคิงไซต์  ดวงตาสีอเมทิสมองไปยังกายขาวของสายหมอกผู้หลับใหล   จากนั้นก็ยกมือขึ้นเกลี่ยหยาดน้ำตาใสที่ยังคงรินไหลแม้ไร้สติ

     


     

         .....งดงามจริงๆสายหมอกของฉัน.....น้ำเสียงของพระเจ้าเอ่ยออกมาราวกับลุ่มหลงในมายาแห่งสายหมอกไปชั่วครู่  หากแต่สุรเสียงของเทพยดาผู้ยิ่งใหญ่คงก้องกังวานจนเกินไป จนทำให้เปลือกตางามที่ทำหน้าที่หลบซ่อนดวงเนตรแสนสวยที่ไม่เข้าคู่ลืมขึ้นช้าๆ

     

     


           
    นัยน์เนตร2สีแห่งกรณิกางามช้อนมองกล้วยไม้ขาว ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงแหบพร่าที่ไร้เรี่ยวแรง 
    มาทำไมครับพระเจ้าผู้ถูกเรียกไม่แม้แต่จะใส่ใจ  ทางแต่เพียงตอบกลับมาว่า

     

    มาหาของเล่นไงล่ะ    ดวงแก้วแสงงามเบิกกว้าง  อ่า.....ผมเป็นแค่ของเล่นสินะครับเป็นตุ๊กตาที่คุณจะใช้ทำอะไรก็ห้ามมีความรู้สึกสินะครับ.....ถ้างั้นผมขอร้อง.....รีบทำให้ผมพังได้ไหมครับ

     

    คุณนี่มันไม่เคยพอเลยนะครับละโมบจนน่าหวั่นเกรง.....หวั่นเกรงว่า....คุณจะไม่พอ

     

    ก็ฉันไม่เคยอิ่มนี่นากล่าวจบก็ดึงผ้าห่มที่ปกปิดกายบางออก  เมื่อไร้ซึ่งแม้แต่เศษผ้าเรือนร่างทุกสัดส่วนก็เผยออก  เปลือกตาบางหลับลงรอรับความอัปยศแสนน่ารังเกียจ....สัมผัสของพระเจ้ามิอาจแทนที่ของนภาที่อบอุ่น.....

     

     

    ......ร่างกายที่น่าสังเวชแปดเปื้อนราคีแสนโสมม.....

     

      

         หลังจากเสร็จสิ้นกล้วยไม้หนุ่มก็ออกไป  โดยไม่สนว่าคนที่ตนได้ร่วมกิจเมื่อครู่นั้นจะเป็นอย่างไร  สิ้นเสียงฝีเท้าหนักตามด้วยเสียงปิดประตู ซึ่งเป็นสัญญาณที่บอกเหตุว่าซาตานสีขาวผู้นั้นได้ออกไปแล้ว  นัยเนตร2สีลืมขึ้น พร้อมหลั่งรินธารน้ำอุ่นด้วยความโทมนัสสาไม่มีหยุดหากแต่ไม่มีแม้เสียงสะอื้น   ดวงใจมี่แสนเจ็บปวดกระตุ้นให้เห็นภาพอดีต เห็นสิ่งที่ทำให้ตนต้องเจอเรื่องราวอย่างตอนนี้

     

     

    ....คำสั่งของฟากฟ้าที่รักแสนรัก....

    .     

     

     นี่มุคุโรเสียงนุ่มทุ้มสมบุรุษเพศดังขึ้น จากด้านหลังคนรักตนที่นั่งหน้ามุ่ยให้กระจกบานใหญ่ที่ได้รับการแกะสลักลวดลายอย่างดี

     

    ผมทรงนี้น่ารักดีเหมือนกันน๊า!!~”  เสียงนุ่มผู้ที่ย้ายตำแหน่งตัวเองจากบอสของวองเล่ไปเป็นช่างตัดผมจำเป็น  ผู้เปลี่ยนทรงผมสับปะรดสุดจี๊ด!! ให้กลายเป็นทรงเดียวกับมิคู้จัง   แห่งบ้านโว้ขาลอย  โดยทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้เมื่อเห็นใบหน้าของคนรักที่มองทรงผมตัวเองในกระจกอย่างเคียดแค้น แต่บรรยากาศแสนสุขนี้ก็จางหายไปเมื่อร่างสูงเอ่ยเรื่องนั้นออกมา

     

    มุคุโร่!! ช่วยไปเป็นสปายให้ฉันหน่อยได้ไหมพูดจบดวงเนตรสีเดียวกับตะวันยามลับฟ้ามองเข้าไปในกระจกสบตากับนัยเนตร2สีที่ดูเศร้าสร้อยได้อย่างน่าใจหาย  ก่อนจะเริ่มพูดต่อ

     

    งานนี้มีแค่ผู้ใช้มายาที่เก่งมากเท่านั้นที่จะสามารถตบตาเบียคุรันได้....น้ำเสียงที่เจือไปด้วยความเศร้าเอ่ยขึ้น แต่ยังไม่ทันจบก็โดนอีกฝ่ายแทรกขึ้นอย่ารู้ดี

     

    งานนี้มีแค่ผมสินะครับเสียงหวานเอ่ยอย่างแผ่วเบา จนแทบไม่ได้ยิน

     

    อืม.... สิ้นเสียงมือแกร่งทั้ง2ข้างได้ปล่อยลงจากเส้นไหมสีน้ำเงิน ก่อนจะโอบกอดคนที่รักแสนรักไว้อย่างอ่อนโยนก่อนจะเอ่ยคำพูดหนึ่งออกมา

     

    ฉันน่ะ....รักเธอมาก....ไม่อยากเสียเธอไป....เธอต้องกลับมาหาฉันนะ....กลับมานะ    กลับมาฉันนะคนดี  ห้ามหายไป  สายหมอกแสนสวยของฉันเธอเป็นของฉันคนเดียว   คำพูในใจของแผ่นฟ้านี้ไม่ออาจเอื้อนเอ่ย เพียงเพราะกลัวว่าคำพูดนั้นจะทำให้ดวงตาสองสีคุ่นั้นหวั่นไหวจนต้องฉุดรั้งร่างบางตรงหน้าไว้ จนทำให้ทุกอย่างแย่ลง

     

    แล้วถ้าผมไม่กลับมาล่ะครับเสียงหวานเอ่ยเย้าแหย่ไม่ดูสถานการณ์ พร้อมส่งสายตาที่ยั่วยวนผ่านกระจกเงา    ตอนนี้ฟากฟ้าได้รับรู้ถึงบรรยากาศที่เปลี่ยนไปเมื่อสบกับดวงตาที่แสนยั่วยวนนั้น  มองอย่างแปลกใจชั่วครู่จึงได้ยกยิ้มเจ้าเล่ห์ ร่างสูงโน้มตัวลงคลอเคลียแก้มนวลขาวที่ตอนนี้ซับจางด้วยสีแดง จากนั้นเปลวไฟในร่างกายที่เริ่มรุกโชนโหมกระหน่ำใส่ร่างที่กอดรัดกันอย่างสุขสม บดเบียดแนบแน่นกันทุกสัดส่วน ส่งเสียง พิศวาสอย่างเสน่หา   ท่ามกลางเสียงครวญครางนั้นร่างผู้ที่สอดใส่ได้พูดคำๆหนึ่งออกมา  ทำให้ร่างบางที่ครางอย่างสุขสมยิ้มด้วยรอยยิ้มที่สดใส

     

      ......ฉันจะไปรับเธอเอง.....






     
     

     

           มุคุโร่คุง...เสียงเรียกที่แผ่วเบาราวกับกระซิบของเทวดาหนุ่มกล่าวเรียกขานถึงซาตานแสนรักที่ 

    หลับใหล  มือแกร่งยกขึ้นปาดหยดน้ำใสจากหางตาร่างที่นอนหลับ  มือที่แปดเปื้อนซึ่งหยาดโลหิตมากมายลูบไล้ไปทั่วกายขาวเนียนของอีกฝ่าย

     

     

             แม้ภายในห้องจะมืดมิดหากแต่แสงของพระจันทร์และดวงดาวยังคงส่องผ่านห้าต่างบานใหญ่เช่นทุกครั้ง  ความสว่างของมันสะท้อนให้เห็นใบหน้าที่หล่อเหลาและเย็นเยียบ  แต่บัดนี้มันกลับเศร้าหมองและสั่นไหว

     

     

     

           ขอโทษนะที่รักของฉัน....แต่นี่เป็นวิธีเดียว....ที่จะทำให้เธอ....อยู่กับฉันร่างสูงเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาราวกับกลัวว่าร่างที่หลับอยู่ตรงหน้าจะตื่นจากนิทราแสนหวาน  

     

            สึนะ...โยชิ....เสียงละเมอดังออกจากริมฝีปากบาง แม้จะดังเพียงเสียงกระซิบ แต่มันก็ทำให้ดวงตาที่สั่นไหวกลับมาเย็นเยียบดังเดิม

     

             มุคุโร่ของฉัน....รู้ไหม....ที่ฉันล่ามเธอไว้....เพราะไม่อยากหาเธอไปไหน  ไม่อยากให้กลับไปหาฟากฟ้าที่เธอรักล่ามเธอไว้  ขังเธอไว้  มันก็ทีให้ฉันได้แค่ร่างกายเธอ  ฉันต้องทำยังไงจึงจะได้ใจเธอมากันนะ   

     

            

               ร่างสูงหันหลังเดินกลับ  โดยมือ2คู่นั้นไม่ลืมล็อคปราการทุกชั้นที่สามารถกกักขัง

     ....ร่างกาย....ของสายหมอกผู้นี้ได้








         อือ...   เสียงแผ่วเบาจากกายบางที่เพิ่งตื่นดังขึ้น ดวงตาสองสีปรือขึ้นอย่างสะลึมสะลือ  มือเรียวยกขึ้นป้องกันแสงแดเจ้าที่ลอดผ่านบานหน้าต่างส่องมากระทบดวงตา ตาคู่ใสเหลือบมองนาฬิกาเรือนสวยบนผนัง  คิ้วงามขมวดเข้าเมื่อเห็นเวลา

     

         ถึงเวลาแล้วสินะมุคุโร่คิด เพราะเข็มนาฬิกาชี้เวลา เจ็ดโมงตรง เป็นเวลาปกติที่เบียคุรันคนนั้นจะเป็นคนยกอาหารมาให้ตน โดยไม่สนว่าตนจะเกลียดคนยกอาหารจนพาลกินอะไรไม่ลง

     

          แอ๊ด...  เสียงเปิดประตูดังขึ้นขัดความคิดพาลๆ  ดวงหน้างามหันไปมองตามทิศทางของเสียง ก่อนจะหันกลับอย่างเร็วเมื่อเห็นคนที่ตนนั้นแสนเกลียด

     

          ตื่นแล้วเหรอมุคุโร่คุงเสียงทักทายจากร่างสูงที่เอ่ยเหมือนทุกครั้ง  มือใหญ่ถือถาดที่วางอาหารมากมายไว้ด้านบน เดินเข้ามาใกล้ สองมือบรรจงวางถาดไว้ข้างเตียงทำเป็นไม่สนใจสายตาหวาดระแวงที่มองมา

     

         กินซะนะมุคุโร่คุงแล้วเราจะได้มีแรงทำลูกกันต่อไง  เบียคุรันเอ่ยหยอกเย้า จนทำให้สายตาหวาดระแวงเปลี่ยนเป็นสายตาที่มีน้ำโห  ดวงหน้าขาวแดงจัดด้วยความโกรธปนอาย มือเรียวหยิบของรอบตัวขว้างปาใส่ต้นเหตุอย่างเอาเป็นเอาตาย 

     

          ร่างแกร่งที่หลบเอาเป็นเอาตายไม่แพ้คนปาก็เอาแต่หลบไม่ดูตาม้าตาเรือ ทุกกระบวนท่าการหลบถูกงัดออกมาใช้ ทั้งเองซ้ายเองขวา  เดินถอยหลัง ต่อด้วยท่าหลบกระสุนยอดนิยมอย่าง เด๋อแมนถึก เมื่อเห็นร่างบางเริ่มหยุด เด๋อแมนถึกตัวปลอมจึงยกตัวขึ้นมา  แต่อนิจจา ศีรษะที่ประดับด้วยเส้นผมสีขาวชนเข้ากับด้านใต้สุดของตู้ยาสามัญประจำบ้านอย่างจัง

     

          คึหึ...หึหึ...ฮ่าๆๆ..... เสียงหัวเราะดังขึ้นจากปากนุ่มที่ร่างบางมักใช้ต่อว่าหรือด่าทอเสมอ ดวงหน้าที่เคยมู่ทู่ประดับไปด้วยรอยยิ้มกว้างที่แสนสดใส

     

          หึ…” เสียงหัวเราะแผ่วเบาดังมาจากกล้วยไม้หนุ่ม ดวงตาสีอเมทิส ฉายประกายแห่งความสุข

    เธอหัวเราะเพราะฉันใช่ไหมที่รักเสียงความคิดของเบียคุรันที่ไม่ได้ถ่ายทอดออกไป  ร่างสูงจมอยุ่กับความสุขของตัวเองในมโนภาพแห่งจินตนาการ แต่สิ่งนั้นกลับพังทลายเพราะคำพูดนั้น...

     

          คุณน่ะ...ซุ่มซ่ามเหมือนวองโกเล่เลยนะครับรอยยิ้มของเทวดาหยุดลง ดวงตาสีม่วงคู่นั้นฉายแววความโกรธและริษยา

      เพียงคำพูดเดียวก็เปลี่ยนเทวดาให้กลายเป็นซาตาน

     

           อย่าพูดถึงคนคนนั้น!!!” น้ำเสียงตวาดดังก้องไปทั่วห้อง ทำให้ดวงหน้าสวยบึ้งตึงเพราะรอยยิ้มได้เลือนหาย     ความเกลียดชังเข้ามาแทนที่เสียงหัวเราะสดใส    ร่างบางจึงตวาดกลับไปอย่างไม่ยอมแพ้

     

          ทำไมจะพูดไม่ได้เมื่อเขาเป็น....ของผม!! เสียงหวานเว้นช่วงแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ก่อนจะลงท้ายด้วยเสียงที่ชัดเจน

     

          ฉันต่างหากที่เป็นคนรักของเธอ!!!”  ร่างสูงตะคอกกลับ แม้จะไม่ได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายพูด แต่ความโกรธที่ทำลายสติ ส่งผลให้นึกคิดว่าอีกคนจะพูดว่าคนรัก

     

     

     ความรักความหวงหาเป็นเทวดาให้เป็นผู้วิปลาส

     

          คุณเข้าใจ....โอ๊ย..!!” มือใหญ่บีบลำคอขาวแน่นเต็มแรง เมื่อได้ยินคำกล่าวปฏิเสธ    แม้ร่างกายบางด้านใต้จะดิ้นทุรนทุราย แต่กลับจ้องมองอีกคนแทนที่จะร้องขอความเมตตา แต่เป็นดวงตาที่เศร้าสร้อย 

     

    เศร้าเพราะคิดถึงอดีตคนรักที่เป็นเจ้านาย....

     

    หรือ

     

    เศร้าเพราะจะต้องตายด้วยน้ำมือของชายที่รัก....

     

     

          แรงบีบที่เพิ่มขึ้น ทำให้อากาศเริ่มหมดลง  ร่างกายที่เคยดิ้นหนีเริ่มหยุดเคลื่อนไหว  และดวงตาสองสีที่ได้ปิดลงช้าๆราวกับไม่มีวันตื่นฟื้นคืน  ชายผมขาวเริ่มมีสติเมื่อเห็นร่างที่แสนรักหลับใหลไป เสียงตะโกนของเขาดังขึ้น

     

          โชจัง!!....หมอ!!....โชจัง!!....โช..  เสียงเรียกดังได้หยุดลงเมื่อหนุ่มใส่แว่นได้เข้ามาพร้อมคณะหมอ  เหล่าคณะแพทย์พากันวุ่นวายไปหมดในการต่อ ลมหายใจที่ขาดห้วง ทั้งยังต้องเร่งอัตราการเต้นของหัวใจที่แผ่วเบา

     

     

        ‘....เมื่อไหร่กันนะ....ที่สายหมอกผู้นี้หลอกตัวเองว่าเกลียดชังฟากฟ้าสีเลือด....

                 


     

     

        .....เรื่องราวความจริงทุกอย่างที่เกิดจากวันที่สายหมอกแห่งวองโกเล่ถูกส่งมา....

     

     

     

           วิวัฒนาการด้านเทคโนโลยีของมิลฟีโอที่ส่งมาพร้อมกับสปายของแก๊ง  เป็นนาโนเทคโนโลยีชั้นสูงที่สามารถพกพาได้อย่างสะดวก และไม่เป็นที่น่าสงสัย นวัตกรรมล้ำสมัยชนิดนี้สร้างขึ้นมาเพื่อใช้  ...อ่านใจ...

     

            ฉากละครแสนหวาน ทั้งฉากร่วมรักที่ร้อนแรงสามารถใช้ภาพมายาตบตาได้ หากแต่ความในใจ ความคิด  นั้นไม่ใช่สิ่งที่จะปิดบังกันอย่างง่ายดาย

     

     

     

    ..... มันคงจะเป็นแบบนั้นหากไม่รู่ล่วงหน้า....

     

     

     

            ต่อให้มิลฟีโอเล่มีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย นักประดิษฐ์ นักวิทยาศาสตร์ที่ล้ำเลิศ แต่ทางวองเก่ก็มีหน่วยงานสังเกตการณ์ที่ดีเยี่ยมกว่าโดนผู้ที่รับหน้าที่นี้ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นผู้พิทักษ์เมฆาคนสำคัญ

            เรื่องราวของสปายที่มิลฟีโอเล่ส่งเข้ามา ได้รับรู้ถึงหัวหน้าแฟมิลี่อย่างสึนะโยชิและผู้บริหารระดับสูงคนอื่นๆโดยที่ตัวสปายไม่ได้รับรู้เลย ทั้งที่มีของดีอยู่กับตัวแต่ไม่รู้จักใช้  กว่าตัวสปายที่โง่แสนโง่จะฉลาดใช่สิ่งที่ตนมีก็ทำเอาชาวบ้านเขาวางแผนแก้ไว้เสร็จสิ้น  

     

     

          

           สปายโง่เง่าของมิลฟิโอที่เพิ่งจะทำการสืบเสาะหาข้อมูลโดยไม่ได้รับรู้เรื่องราวการแก้เกมของวองโกเล่ก่อนหน้า  วิธีแก้ที่ คนในแฟมิลี่ได้รับคำสั่งอย่างเงียบๆว่าให้นึกถึงสิ่งอื่นเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา  ทำให้แต่ละวันสิ่งที่สปายไม่ค่อยหนุ่มผู้นี้ได้แต่เรื่องไร้สาระกลับไปรายงาน ไม่ว่าจะเรื่องที่อ่านใจผู้บริหารระดับสูงแล้วแทนที่จะได้ข้อมูลลับในที่ประชุม กลับเป็นข้อมูลอาหารเย็นที่ผู้บริหารคนนั้นจะทาน ไม่ก็เป็นข้อมูลสัตว์เลี้ยงที่จะซื้อไปฝากลูกสาวที่บ้าน

     

     

     

     

            แม้กระทั่งการที่ทำให้สปายหนุ่มเดินมาเจอฉากหวานชื่นของวองโกเล่รุ่นที่สิบกับผู้พิทักษ์สายหมอกนั่นก็เป็นแผน ทั้งฉากที่ร่วมรักแสนเผ็ดร้อนนั่นก็ภาพมายา  แต่ว่าอย่างว่าคนเราคงไม่โง่ซ้ำซ้อน  สปายไม่ค่อยหนุ่มที่ฉลาดขึ้นใช้เทคโนโลยีสุดล้ำอ่านใจ   แต่ก็เป็นไปไม่ได้เช่นกันที่ฝ่ายวองโกเล่จะไม่เตรียมรับมือมาก่อนหน้า

         

     

     

    .....ทุกถ้อยคำที่มันรับรู้....ทุกเรื่องที่รายงานไป....ล้วนแต่เป็นเรื่องราวที่ปั้นแต่งขึ้น.....

     

     

     

           สปายไม่ค่อยหนุ่มรีบย้ายตัวเองกลับไปมิลฟีโอเล่ เพื่อรายงานสถานการณ์ทั้งหมด แต่เสียดายเขากลับต้องจบชีวิตด้วยน้ำมือของบอสตนเองทันทีเมื่อเล่าถึงเรื่องราวของวองโกเล่รุ่นที่สิบกับผู้พิทักษ์สายหมอก เพราะพระเจ้าเกิดอาการหึง สปายไม่ค่อยหนุ่มที่หน้าสงสารจึงตายไปพร้อมกับนาโนเทคโนโลยีสุดล้ำ เพราะดันโดนบอสตนฆ่าด้วยวิธีการเผาทิ้งไม่ใช้เหลือซาก

     

     

     

     

     

     

           ร่างของมุคุโร่นอนหลับอยู่บนเตียงมาสองวันแล้ว  ร่างกายบอบบางได้รับการรักษาอย่างดีทั้งแผลเก่าแผลใหม่ในทุกๆจุด

     

     

           ระหว่างที่สายหมอกแสนสวยได้หลับใหล กล้วยไม้หนุ่มกลับไม่ได้แม้แต่หลับตา ทุกวินาทีเฝ้ารอที่จะสบมองดวงตาสองสีที่แสนสวย มือแกร่งจับกุ่มมือของอีกฝ่ายไว้ไม่ยอมปล่อย   เบียคุรันอยากเฝ้ามุคุโร่ตลอด24ชั่วโมง   แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ เพราะตอนนี้วองโกเล่เริ่มบุกเข้ามาแล้ว  หากแต่เมื่อพระเจ้าต้องการไม่ว่าอะไรก็ต้องเป็นดั่งใจ  เขาจึงนั่งดูแลสายหมอกที่ตนแสนรักไม่สนใจการต่อสู้ภายนอก

     

            

     

    .....ฉันไม่สนอะไรทั้งนั้น....ฉันกลัวถ้าฉันไปเมื่อกลับมา....เธอจะไม่อยู่อีกแล้ว.....

     

     

              

              การต่อสู้เริ่มอย่างรุนแรงและยาวนาน  แต่เมื่อไม่มีบอสคอยให้กำลังใจกองกำลังของมิลฟีโอเล่จึงเริ่มต้านไม่อยู่   ทำให้บอสของวองโกเล่บุกเข้ามาหาเบียคุรันได้อย่างง่ายดาย แม้จะมีแผลอยู่เต็มตัวก็ตาม

     

     

     

              สึนะตามหาเบียคุรันไปทั่วทุกห้อง จนมาเจอชายผมขาวนั่งกุมมือผู้พิทักษ์ของเขาอย่างหวงแหน ดวงตาสีตะวันยามลับฟ้ามองไปยังร่างบางที่นอนอยู่ เขาเห็นผ้าพันแผลที่ลำคอขาว ทั้งยังเห็นรอยช้ำรอยแผลอีกหลายแห่งบนร่างนั้น 

     

     

    มุคุโร่....เสียงของสึนะโยชิเอ่ยอย่างสั่นเทาด้วยความตกใจในสิ่งที่เห็น

     

     

          

               ความรักที่มีต่อพวกพ้องทำให้บอสอย่างสึนะพุ่งเข้าใส่อีกฝ่ายอย่างไร้สติ   บอสของมิลฟีโอเล่ที่บัดนี้กลายเป็นเทวดาแสนวิปลาส นึกว่าอีกฝ่ายจะเข้ามาแย่งสายหมอกของตน  ความไร้สติกับความวิปลาสกำลังเข้าห้ำหั่นกัน  หากแต่บาดแผลที่สึนะได้รับก่อนหน้ากับบาดแผลที่เพิ่มขึ้นจากการต่อสู้กับเบียคุรันในตอนนี้ มันทำเขาเสียเปรียบ 

     

              เบียคุรันที่เห็นอีกฝ่ายเริ่มหมดกำลังได้จัดการโจมตีเข้าไปที่ขาของอีกฝ่าย  ทำให้สึนะลุกขึ้นไม่ได้ ขณะที่กล้วยไม้ขาวหนุ่มกำลังจะทำการสังหารศัตรู ร่างบอบบางที่หลับใหลก็ลืมตาขึ้นมา

     

     

               มุคุโร่ที่เพิ่งตื่นปรับตาให้ชินกับแสงแดด  แล้วเขาค่อยๆหันหน้ามองมองซ้ายขวา  จนเหลือบไปมองเห้นงบอสของวองโกเล่ที่กำลังจะเสียที   จึง ลุกจากเตียงที่นอนอยู่พุ่งตัวเข้าไปขวางเบียคุรันเพื่อทำการปกป้อง ...เพื่อน...             

            

     

                ชายผมขาวที่ไม่ได้รับรู้ความจริงเห็นดังนั้น จึงนึกไปต่างๆนานา จนทำให้ไฟโทสะและไฟริษยาลุกโชน  มือแกร่งฉุดแขนสายหมอกสีน้ำเงินขึ้นโดยมีอีกฝ่ายที่พยายามขัดขืนเต็มที่   วองโกเล่รุ่นที่สิบพยายามที่จะฉุดรั้งเพื่อนของตนได้แต่ร่างกายกลับไร้เรี่ยวแรง 

     

     

    ทำไมกัน....ทำไมกัน....สายหมอกของฉัน....มุคุโร่ของฉัน....เขาคนนั้นดีกว่าฉันตรงไหน....

     

     

              น้ำเสียงที่ฟังแลดูเจ็บปวดของคนที่ตนรักทำให้ร่างบางหยุดขัดขืน ริมฝีปากนุ่มพยายามที่เอ่ยเสียงหวานแก้ไขความเข้าใจผิดของอีกฝ่ายหากแต่...

     

     

    ถ้ารักกันมากฉันจะให้ผู้ชายคนนี้ดูฉากร่วมรักของเราต่อหน้าตาเขาเอง!!”  น้ำเสียงของบอสมิลฟีโอเล่เอ่ยอย่างดุดันและเอาจริง  ทำให้มุคุโร่เริ่มดิ้นอีกครั้งเสียงหวานเอ่ยคำปฏิเสธอย่างหวาดกลัว

     

     

    ไม่!!...ไม่เอา!!....  ร่างบางพยายามขัดขืนพยามยามเปล่งเสียงอ้อนวอนร้องขอ แต่กลับไม่เป็นผล

     

     
    (ctrl+a)


              มือแกร่งฉีกกระชากเสื้อผ้าของอีกฝ่ายออกเผยให้เห็นเรือนร่างที่เปลือยเปล่า  ชายหนุ่มพยายามเล้าโลมร่างบางให้เกิดอารมณ์จนกลางกายแข็งขืน  สองมือจับเรียวขาขาวอ้าออกพร้อมหันไปยังบอสของวองโกเล่   

     

     

               ไม่...ฮึก...ไม่เอา....คุณเบียคุรัน....ปล่อยผม....”  น้ำเสียงหวานเอ่ยอย่างอ้อนวอน ทั้งอับอาย ทั้งเจ็บปวด 

     

                ไม่!! ฉันจะไม่ปล่อยเธอไป...เธอเป็นของฉัน...ฉันรักเธอนะสายหมอกแสนสวยของฉัน...เบียคุรันเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ทั้งดุดันทั้งเว้าวอน

     

     

               อ๊าาาาา…”  เสียงของมุคุโร่ดังขึ้นด้วยความเจ็บปวดและเสียวซ่าน  เมื่ออีกฝ่ายสอดใส่เข้ามาอย่างไม่ตั้งตัว  ดวงตาสองสีทอดมองไปยังวองโกเล่รุ่นที่สิบที่จับตามองอยู่ตลอด  ดวงตาที่สีสันไม่เข้าคู่ส่งสายตาให้อีกฝ่ายหันหน้าหนีซะ  แต่มันกลับทำให้เบียคุรันเข้าใจเป็นอย่างอื่น

     

     

               อะ...อ๊า..อื้อ...เสียงหวานดังตามแรงกระแทกที่ได้รับจากช่วงล่าง  เบียคุรันค่อยๆหันให้อีกฝ่ายมากอดตนไว้ไม่ให้ร่างบางสบตากับใครนอกจากเขาอีก 

     

     

               การกระทำของเบียคุรันแม้จะเกิดขึ้นจากความรักความหึงหวงที่น่ายินดี  แต่มันกลับเป็นความอับอายและความเจ็บปวดของมุคุโร่

     

     

              

               ฉันรักเธอนะ...สายหมอกของฉัน

     

     

               คำพูดว่ารักของเบียคุรัน ทำให้มุคุโร่นึกถึงเรื่องราวที่เจอกับคนคนนี้  นึกถึงความโหดร้ายยามเขาตื่น  ความอ่อนโยนอ่อนโยนยามเขาหลับ  แต่ความเสียใจที่รุมเร้าร่างบาง  ความเสียวซ่านจากกายท่อนร่างที่ยังได้รับการสอดใส่อย่างรุนแรงทำให้ร่างที่กำลังครางเสียงหวาน นึกได้เพียง....

     

    ....หากผมหลับใหลไปคุณจะอ่อนโยนกับผมสินะครับ.....เจ้าแห่งซาตานได้โปรดเปลี่ยนผมให้อยู่ในห้วงแห่งนิทรา....หลับไหลทั้งที่ดวงตายังลืมหลับ....ได้โปรดเปลี่ยนผมให้เป็นตุ๊กตา....เพื่อดอนที่ผมรัก....

     

     

     

    ผมรักคุณนะครับ...พ่อเทวดาที่แสนโง่เง่าของผม...อ๊า~!!”  ถ้อยคำที่เหมือนเสียงกระซิบ พร้อมเสียงดังยามปลดปล่อยของร่างบาง มันกลับตราตรึงลงไปในใจผู้รับฟัง ความสุขที่ล้นปรี่ทำให้เบียคุรันปลดปล่อยน้ำรักเต็มช่องทางนุ่ม  

     

     

                อ้อมแขนแข้งแกร่งโอบร่างที่แสนรักไว้ด้วยความสุขที่เปลี่ยมล้น  หากแต่แขนเรียวที่โอบกอดชายหนุ่มเมื่อครู่ที่ร่วมรักได้ทอดตัวทิ้งลงมา  ชายผมขาวนึกว่าอีกฝ่ายได้สลบไป แต่เมื่อมองไปยังดวงหน้างามกลับเห็นดวงตาสองสีไม่เข้าคู่ลืมอยู่

     

     

     

     

           บอสวองโกเล่ที่พยายามฝืนกายลุกขึ้นเดินเข้ามาหาศัตรู  มือแกร่งที่เต็มไปด้วยหยาดโลหิต

    กำแน่นพร้อมต่อยเข้าไปยังแก้มของเบียคุรันอย่างจัง!!  พร้อมกับพูดเรื่องราวความจริงทั้งหมด  จนคนที่รับฟังอยากจะย้อนเวลากลับไปแก้ไข

     

    มุคุโร่กับฉันไม่ได้เป็นแฟนกัน!!”

     

     

     

    ...โกหก...

     

     

     

    ทั้งหมดมันเป็นแผนของฉัน

     

     

     

    .....ไม่จริง....

     

     

     

     

    มุคุโร่รักนายต่างหากล่ะ

     

     

     

    ........

     

     

     

               แม้จะโดนกำปั้นหนักเข้าซัด แต่เรื่องราวที่ได้รับฟังทำให้เทวดาสีขาวกลับไม่แม้แต่ขยับกายโต้ตอบ  ดวงตาสีอเมทิสต์เอาแต่มองไปยังร่างงามในอ้อมกอด 

     

     

     

    ......ร่างกายที่แสนงดงามที่เคยขยับ.....ไม่แม้แต่เคลื่อนไหว.....ดวงตาที่เคยสะท้อนสิ่งใด.....กลับว่างเปล่า......

     

     

     

     

              นัยน์ตาสีม่วงตะลึงค้าง  ดวงตาร้อนผ่าว หยาดน้ำใสไหลลงมาตามแรงโน้มถ่วงโลก  จนทำให้บอสแห่งวองโกเล่นิ่งสนิท  ดวงตาสีตะวันลับมองศัตรูตนอย่างสงสาร เขาได้แต่คิดอยู่ในใจอย่างเงียบงัน

     

    .....ผลของความเข้าใจผิดคือความเจ็บปวดไร้ที่สิ้นสุด....ถึงฉันจะโกรธเบียคุรันแต่เพื่อเธอเพื่อนที่รักของฉัน.....ฉันจะปล่อยเขาไป....

     

     

     

               ร่างสุงของบอสแห่งวองโกเล่หันกายเดินกลับไปพร้อมกับชัยชนะในสงครามแต่กลับมีสิ่งที่เรียกว่าความพ่ายแพ้ในหัวใจ

     

     

     

     

     

     

    2 ปีต่อมา

     

     

     

              นับจากวันที่มิฟีโอเล่เป็นฝ่ายปราชัย ทุกอย่างก็เริ่มต้นขึ้นใหม่  ทั้งสองฝ่ายสร้างไมตรีความเป็นสัมพันธมิตรที่ดีต่อกันโดยฝ่ายมิลฟีโอเล่ส่ง อิริเอะ โชอิจิ เป็นตัวส่งข่าวเรื่องราวต่างๆเทคโนโลยีใหม่ ส่วนฝ่ายวองโกเล่ส่งตัว  โรคุโด  มุคุโร่  แต่เพราะมุคุโร่ไม่อาจเคลื่อนไหวได้  อิริเอะ โชอิจิ  จึงต้องเหนื่อยเป็นเท่าตัว

     

     

     

             จากเหตุการณ์ในครั้งนั้น ร่างของปีศาจแสนสวยก็ถูกจัดท่าทางให้นอนทอดตัวอย่างดีบนเตียงที่หอมตละคลุ้งด้วยกลิ่นกุหลาบป่า  โดยมีเทพยดาผู้หล่อเหลานำดอกไม้มาเปลื่ยนให้เธอทุกวันมือใหญ่มักกุมมือเล็กๆไว้เสมอ  เขาทำซ้ำไปซ้ำมาทุกวัน

     

     

     

             

              วันนี้เบียคุรันนำดอกสวีท พี (Sweet Pea) ช่อใหญ่มา  มือแกร่งกุมมือสายหมอกแสนรักไว้แน่น ดวงตาสีอเมทิสต์สบมองนัยน์ตาสองสีที่ไม่เข้าคู่

     

     

     

    ….แม้ดวงตาของเธอจะไม่เคยหลับใหล....แต่มันก็ไม่สะท้อนสิ่งใด.....ไม่มีแม้แต่เงาของฉัน....

     

     

     

    มุคุโร่คุงรู้ไหม?  ความหมายของดอกสวีทพีน่ะ  หมายถึงการรอคอย  เหมือนที่ฉันกำลังทำอยู่ตอนนี้ไงล่ะ !!

     

          น้ำเสียงนุ่มเอ่ยช้าๆราวกับต้องการให้ร่างงามตรงหน้าซึมซับคำพูดนั้นทั้งที่น่าจะรู้ดีว่า....ไม่มีประโยชน์.....

            

     

    ฉันกำลังรอเธออยู่นะคนดี...ได้โปรดเถอะ!!...ขอแค่เพียงครั้งเดียวก็ได้...เพียงครั้งเดียวก็ได้...ขอให้ดวงตาของเธอสะท้อนภาพของฉันอีกครั้ง....พูดจบก็ซบหน้าลงไปบนมือนุ่มที่กุมไว้

           

          

     

           ความเสียใจอันยาวนานของทวยเทพผู้หลงผิด  โทษทันที่ได้รับหนักหนาเกินกว่าบาปที่กระทำไว้  หากผู้ที่สายหมอกสีน้ำเงินกล่าวขอคือซาตานผู้ที่ใครก็กล่าวว่าชั่วร้าย ไร้หัวใจ   เรื่องราวทั้งหมดคงต้องจบลงด้วยหยาดน้ำตา   ความผิดของเทวดาผู้โง่งมตอนนี้จึงหนักหนานัก  เพราะต้องแบกความชอกช้ำพันทวีไว้ตราบจนชีวิตสูญสิ้น

     

     

     

     

              นัยน์ตาสองที่เคยนิ่งสนิท สะท้อนเงาของโคมระย้าลายสวยแม้ภาพที่ได้จะเลือนลาง  เปลือกตาบางประพริบช้าๆเพราะต้องการปรับสายตาให้ชินกับแสง เมื่อดวงตาสวยสามารถมองได้ชัดเจนก็เป็นเวลาเดียวกับที่ร่างสูงของคนที่กุมมือสบมองมา  ดวงตาสองคู่มองกันราวกับตกอยู่ในภวังค์  ริมฝีปากของเทวดาและปีศาจฉีกยิ้มงดงาม.....

     

     

     

              นิทานที่ปรัมปราที่แม่(ที่เป็นผู้ชาย)ของข้าเล่าให้ฟังนี้ นางนำมาจากเรื่องที่นางได้พบเจอ ข้าเล่าให้เจ้าฟังแบบนี้ ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่รักหวานชื่อนของเจ้าสองตัวไร้สาระนั่นหรอกนะ  แต่ประเด็นมันอยู่ที่

     

     

     

     

    ปีศาจน่ะไม่ได้เลวร้ายทุกตนเสียหน่อย

     




    ++++++++++++++++++++++++++++++

    จบเเล้วโอ้เย~ 

    Mentซะดีๆนะตัวเธอ คราวนี้เเถมมินิเอ็นซีให้เน้

    เเล้วก็ขออภัยที่เเต่งได้มึนมาก 

    ไว้เจอกันเรื่องหน้า(อีกนาน)  กะจะให้เป็นเรื่อง 1869 เวอร์ชั่น นักเรียนสไตล์คุณหนู

    เเต่อย่าไว้ใจมากเพราะพล็อตเปลี่ยนตามอารมณ์  

    เเล้วเจอกันนะจ๊ะBaBy~ 








    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×