ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    sf reborn all69

    ลำดับตอนที่ #3 : Wait 1869 +End+

    • อัปเดตล่าสุด 31 มี.ค. 54


    ..............ใบไม้สีแดงของต้นซากุระค่อยๆปลิวร่วงลงมาทีละน้อย เพื่อเป็นการยืนยันว่าฤดูใบไม้ร่วงกำลังจะมาถึง ซึ่งก็เป็นดังการรายงานตัวว่าฤดูที่แสนหนาวเหน็บกำลังจะเริ่มต้น……….

     

     

     

    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

     

     

     

           ร่างสูงสมชายญี่ปุ่นในชุดยูคาตะที่ใส่ประจำนั่งดื่มชาด้วยถ้วยชาใบโปรด ภายในห้องทำงานของตน พร้อมทอดสายตามองผ่านหน้าต่างไปยังต้นซากุระที่กำลังร่วงโรย  

     

         แกหายไปตั้งแต่ซากุระที่ฉันเกลียดบานเต็มที่แต่นี่มันจะร่วงหมดต้นอยู่แล้วทำไมแกยังไม่กลับมา ร่างสูงคิด....

     

     

     

     

     

      คุณฮิบาริครับ

     

     

     ‘‘  ….  ’’

     

     

      สายรายงานมาว่า

     

     

     

     

     

         ร่างสูงไม่สนใจเสียงของคนอื่นแม้แต่น้อย เพราะเขากำลังรอเจ้าบ้านั่นกลับมา .... ร่างสูงคิดอย่างโกรธๆ โกรธคนที่บอกให้ตนรอ  รอเพื่อที่สักวันคนที่ตนรออยู่นั้นจะกลับมาหา รอตั้งแต่ใบไม้ผลิยันใบไม้ร่วง ....แกก็ยังไม่มา

      

         แกเคยพูดว่าจะทำให้คนที่แกว่าซึนเดเระคนนี้หายซึน แล้วทำไม่แกไม่กลับมาทำล่ะแล้วฉันจะหายซึนได้ไง ไอพืชล้มลุก ร่างสูงคิดอย่างซึนๆ (เอ็งจะให้เศร้ารึรั่วเอาซักอย่าสิฟ่ะ//ด่าตัวเอง)

     

     

     

     

       ร่างสูงสมชายญี่ปุ่นในชุดยูคาตะตัวเก่งที่นั่งรอเจ้าของทรงผมสับปะรดสุดโมเอะ(รั่วจริงๆสินะ)ภายในห้องทำงานตั้งแต่เช้าจรดเย็น ถึงตอนนี้ที่พระจันทร์ดวงโตฉายแสงสีนวลสดใสจนทำให้เจ้าของห้องที่ลืมจ่ายค่าไฟต้องย้ายตัวเองออกมารับแสงจันทร์ข้างนอกเพื่อเป็นแสงสว่างสำหรับทำงานเอกสารเพราะตอนที่มีแสงสว่างจากดวงอาทิตย์นั้นตนได้ใช้เวลาในการ....รอใครบางคน....ไปจนหมด

     

        เพราะแกทำให้ฉันเสียงาน กลับมาเมื่อไหร่แกต้องชดใช้อย่างสาสม เพราะฉะนั้น รีบกลับมาซักทีสิ

     

     

     

     

         ร่างสูงมองไปยังดวงจันทร์คิดอย่างซึนๆก่อนจะกล่าวโทษบอสของแฟมมิรี่ อดีตศัตรูหัวใจในสงครามแย่งชิงเจ้าพืชล้มลุกนั่นที่บังอาจไม่ยอมจ่ายค่าไฟตรงเวลาจนการไฟฟ้ามาตัดหม้อแปลงจนต้องเสียเวลาขอหม้อแปลงคืน....แต่สาเหตุที่โกรธจนอยากจะซัดมันจริงๆนั้นเพราะมันทำให้เขาต้องมานั่งทำเอกสารใต้แสงจันทร์จากดวงจันทร์ดวงนั้น

     

     

     

     

    ......ดวงที่เจ้าพืชล้มลุกเคยพูดว่าชอบหนักหนา...ดวงที่เขากับมันมองด้วยกันบ่อยๆ.....

     

     

     

    ‘‘ …. ’’

     

     

    โรคุโด มุคุโร่ เสียชีวิตแล้วครับ

     

     

     

     -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

     

     

       คุณฮิบาริเห็นพระจันทร์ดวงนั้นไหมครับร่างบางในชุดยูกาตะที่ใส่เอาลวกที่ตอนนี้นั่งอยู่บนตักของร่างสูงชี้ไปยังพระจันทร์ดวงโตบนฟากฟ้าสีคราม

     

    เห็นสิ ฉันไม่ได้ตาบอดนี่ ที่จะไม่เห็นร่างสูงตอบด้วยเสียงหงุดหงิดให้คนที่นั่งอยู่บนตักรับรู้ว่าเขาไม่ได้ตาบอด แต่ร่างบางก็รู้ว่าคนแสนซึนคนนี้ทำไปเพื่ออะไรจึงไม่ได้ทักท้วง

     

    นั่นสินะครับ ร่างบางตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มเหมือนทุกครั้ง ก่อนจะค่อยๆซบลงไปบนแผ่นอกของร่างสูง

     

     

     

     

     

     

     

          ร่างสูงผละสายตามาจากดวงจันทร์ที่มองอยู่หันมาทำงานเอกสารต่อ แต่ทำได้สักพักก็หยุดไปเมื่อเห็นหัวข้อเอกสารที่ตนเขียนอยู่รายงานภารกิจของโรคุโด มุคุโร่

         

     

     

    รายงานภารกิจของโรคุโด มุคุโร่

     

     

     ภารกิจในการสืบการทุจริตของพันธมิตร ได้รับการยืนยันว่า XXXแฟมิรี่ ได้มีการทุจริตจริง จึงส่งผู้พิทักษ์แห่งสายหมอกของวองเล่ไปเป็นสปายสืบข้อมูล..........................................................................................................

    .................................................................................................................................................................................

     .................................................................................................................................................................................

              ...................................................................................................................................................................................  ...............................................................................................................................................................................

     

     

    ......................................................โรคุโด  มุคุโร่ เสียชีวิตขณะปฏิบัติภารกิจ............................................................

     

     

     

                                    โคลม โดคุโร่

     

     

     

     

     

     

       ร่างสูงละสายตาจากเอกสารอีกครั้ง เหม่อมองดวงจันทร์อีกครั้ง พลางนึกถึงเจ้าของดวงใจที่ทำให้เขาคิดถึงจนไม่เป็นอันทำงาน

     

     

       ‘‘ หึ ... เจ้าพืชล้มลุก ตายแล้วยังจะทำให้ฉันคิดถึงแกอีกนะ ’’

     

    ….พระจันทร์ที่สวยงาม บัดนี้ถูกสายหมอกบดบังจนทำให้เป็นพระจันทร์เพียงเสี้ยวเดียว.....

     

     

     

    ‘‘ จะให้ฉันคิดถึงแกขนาดไหน แกถึงจะพอใจกัน ’’

     

     

      



          
    *เช้าวันต่อมา
    ~ *

     

     

    ‘‘ คุณเคียวครับ ตื่นได้แล้ว นอนตรงนี้เดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอกครับ ’’เจ้าของทรงผมโคตรโบราณเอ่ยทักท้วงเจ้านายของตนที่นอนอยู่

     

     

    ‘‘ อืมม ~ ..... ’’ร่างสูงส่งเสียงอย่างรำคาญ แต่ก็ไม่ยอมตื่นขึ้นมาดีๆ(ผิดคาแร็คเตอร์คุณเคียวสุดๆยัยคนแต่ง//คนแก้)

     

     

     

    ‘‘ คุณเคียวครับ ! ตื่นได้แล้ว ถ้าอยากนอนต่อก้เข้าไปนอนข้างในเถอะครับ ’’ลูกน้องผู้ซื่อสัตย์ก็ยังไม่ละความพยายามจึงส่งเสียงปลุกต่อไป

     

     

     

    ‘‘ คุซาคาเบะ .... ผมให้คุณเลือก ระหว่าง ตายตอนนี้ หรือ จะให้ผมตื่นก่อนแล้วค่อยจัดการ ? ’’น้ำเสียงเย็นยะเยือก พ่วงด้วยน้ำเสียงที่อำมหิต จากคนที่อยู่ก็เบิกตาโพล่ง ทำให้คุซาคาเบะถึงกลับถอยหลังหนี

     

     

    ‘‘ งะ ... งั้น ราตรีสวัสดิ์ นะครับคุณเคียว ’’ เจ้าของทรงผมแสนจะ...รีบลุกขึ้นก่อนจะได้กินทอนฟาของเจ้านายเป็นอาหารว่าง

     

     

     

      

    .......หลักจากหลับตาได้สักพัก เมฆาก็พบว่า ตัวเองนั้น นอนไม่หลับซะแล้ว

     

     

     

     

    ให้ตายสิ เพราะเจ้าพืชล้มลุกแท้  ๆ ทำให้ฉันต้องคิดถึงจนไม่ได้นอนแบบนี้  แล้วตอนนี้ก็ดันนอนไม่หลับอีก ฮึ่ย !!

     

     

       ร่าสูงจึงลุกขึ้นหมายจะไปขย้ำคุซาคาเบะให้หายอารมณ์เสีย แต่ทว่า .... กลับมีสายหมอกแผ่ปกคลุมทั่วทั้งห้อง

     

     

    ‘‘ สัมผัสแบบนี้มัน .... ! ’’

     

     

     

    ‘‘ ผมกลับมาแล้วครับ คุณฮิบาริ ’’

     

     

     

    เบี้องหน้าของเขา คือสายหมอก ที่น่าจะล่วงลับไปจากโลกนี้แล้ว

     

     

    ภาพลวงตางั้นเหรอ ? ’ ร่างสูงคิดในใจ

     

     

      

       เมื่อคิดได้เช่นนั้น ร่างสูงของผู้พิทักษ์แห่งเมฆา จึงใช้ทอนฟาที่อยู่ข้างกาย ซัดคนตรงหน้าลงไปนอนแผ่หลาอยู่กลางห้อง แล้วขึ้นคร่อมคนตรงหน้าทันที

     

     

    ‘‘ หวา ~ ไม่ยินดีให้ผมกลับมางั้นเหรอครับ ? ’’

     

     

     

    ‘‘ ….. ’’

     

     

     

    ร่างสูงไม่ตอบอะไร นอกจากสะบัดทอนฟาทิ้งไป แล้วยกมือที่กำหมัดขึ้นเหนือหัวของตน

     

     

     

    ได้ตายจริง ๆ แน่เรา เมื่อสายหมอกคิดได้ดังนั้น จึงหลับตาปี๋ ไม่มองคนตรงหน้า

     

     

      

    ร่างสูงของเมฆา เงื้อมือที่กำหมัดลงมา …..

     

     

     

    ‘‘ ……. ’’ ร่างข้างใต้ก็ยังคงหลับตาแน่นเช่นเคย เหมือนเตรียมใจไว้แล้วว่าจะต้องโดนคนที่แสนซึนซํดเป็นการต้อนรับเพื่อแก้เขินว่าคิดถึง

     

     

     

    ทว่า ... มือนั้นกลับไม่ได้หมายจะต่อย แต่กลับจับใบหน้าของคนตรงหน้าไว้

     

     

     

    ‘‘ …… ’’ ร่างข้างใต้โดนคนตรงหน้าสัมผัสที่ใบหน้า จึงค่อย ๆ เปิดตาขึ้น

     

     

     

    ร่างสูง ก็ค่อยๆโน้มใบหน้าลงมาหาคนตรงหน้า

     

     

     

     

    ‘‘ O_O  คะ .... คุณฮิบาริ ’’

     

     

     

     

    ริมฝีปากทั้ง 2 ได้สัมผัสกัน มันทั้ง ร้อนแรง และ อ่อนหวาน

     

     

     

     

    ‘‘ อะ ... อืมม ~ ’’ ร่างข้างใต้ถึงกับเผลอครางออกมากับความเร่าร้อนจนแทบจะกลายเป็นไฟราคะ

     

     

     

     

     

    เมื่อจูบจนพอใจแล้ว ร่างที่ทาบทับอยู่จึงยกใบหน้าขึ้นมาแล้วจ้องมองคนตรงหน้า

     

     

     

     

     

    ‘‘ มะ ... มองอะไรน่ะครับ คุณฮิบาริ ’’ ร่างบาข้างใต้ถึงกับอายหน้าแดง ไม่กล้ามองคนตรงหน้า

     

     

     

     

    ‘‘ หึ .... หน้าแดงใหญ่แล้วนะ เจ้าพืชล้มลุก ’’

     

     

     

    ‘‘ ผะ ... ผมไม่ได้หน้าแดงสักหน่อยนะครับ ! ’’

     

     

     

    ‘‘ ซึน เด เระ  ..... ’’ เมฆาจึงย้อนคำพูดที่สายหมอกเคยว่าเขาไว้

     

     

     

    ‘‘ อะ  .... ’’ เมื่อถูกคนตรงหน้าว่าด้วยประโยคที่ตนเคยกล่าวหาเจ้าตัวเอาไว้ ทำให้ถึงกับพูดอะไรไม่ออกเลยทีเดียว

     

     

     

    ‘‘ แกน่ะ  หายไปไหนมา ปล่อยให้ฉันนั่งรอแกจนไม่เป็นอันทำงาน  ’’

     

     

     

    จู่ ๆ คนตรงหน้ากลับเปลี่ยนท่าที ร่างบางจึงปรับอารมณ์แทบไม่ทัน

     

     

     

    ‘‘ ผมบาดเจ็บนิดหน่อยน่ะครับ เลยต้องอยู่รักษาตัว ’’

     

     

     

    ‘‘ แล้วทำไม แกถึงไม่บอกอะไรฉันซักคำ ปล่อยให้ฉันเป็นห่วงแกอยู่ตั้งนาน !! ’’

     

     

     

    ‘‘ ผมก็กลับมาหาคุณแล้วนี่ไงครับ คุณฮิบาริ ’’

     

     

    ‘‘ หึ .... กลับมาก็ดี ฉันจะได้เอาคืนแกทั้งต้น ทั้งดอก จะเอาคืนจนแกลุกขึ้นเดินไม่ไหวเลย ’’  ร่างพูดด้วยสีหน้าจะขย้ำให้ตาย

     

     

     

    แต่ร่างบางกลับไม่กลัวคนตรงหน้าเลยสักนิด กลับตอบด้วยรอยยิ้มหวาน ๆ ตามแบบฉบับของเขา

     

     

     

    ‘‘ ผมยอมให้คุณ เอาคืนทั้งต้น ทั้งดอกเลยครับ คุณฮิบาริ ’’

     

     

     

     

     

    +++++++++++++++++++++++++++The End++++++++++++++++++++++++++++




    ตอนพิเศษ แถมท้ายนิดหน่อย

     

     

     

     

     

     

    ภายในห้องญี่ปุ่น ของ  ฮิบาริ   เคียวยะ

     

     

    ‘‘ นี่ .... เจ้าพืชล้มลุก ’’ เมฆาถามคนที่นอนบนตักด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก

     

     

     

    แต่คนที่นอนบนตักของเมฆา กลับไม่กลัว แถมยังตอบด้วยสีหน้าโอ้ลัลล้าอีกตะหาก

     

     

     

    ‘‘อะไรเหรอครับ คุณฮิบาริ ? ’’ จบประโยคด้วยรอยยิ้มหวานๆ ตามแบบฉบับของเขา

     

     

     

     

    ‘‘ ทำไมแกถึงไม่ส่งข่าวมาบอกฉันล่ะ ว่าแกยังไม่ตาย ’’

     

     

     

     

    ‘‘ เอ๋  ? พวกวองโกเล่ก็น่าจะรู้นิครับ ว่าผมยังไม่ตายน่ะ   เพราะที่  ที่ผมรักษาคือโรงพยายามในเคลือของคาบัคโลเน่นิครับ ’’

     

     

     

    ‘‘ หึ ๆ ๆ ๆ ’’

     

     

     

    จู่ ๆ เมฆาที่กำลังหัวเราะ หึ ๆ ๆ ๆ กลับลุกขึ้น แล้วเดินไปที่ฐานทัพวองโกเล่

     

     

     

    ‘‘ อ๊ะ ... คุณฮิบาริ ทำไมวันนี้ถึงมาในฐานทัพวองโกเล่ละครับ ? ’’ เสียงของบอสวองโกเล่แฟมมิลี่ถามด้วยความแปลกใจ

     

     

     

    ร่างสูงของเมฆาไม่ตอบอะไร กลับเดินดุ่ม ๆ ไปทางบอสของวองโกเล่ที่กำลังทำหน้า งง ๆ อยู่

     

     

     

    ‘‘เจ้าสัตว์กินพืช หมายความว่ายังไง !! ’’ ร่างสูงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก พร้อมกับแผ่รังสีฆ่าฟันออกมาด้วย

     

     

     

    ‘‘ อะ ... เอ๋ ? อะไรเหรอครับ คุณฮิบาริ ’’ หรือว่าจะมาซัดเราเรื่องค่าไปฟ่ะ!! บอสของวองโกเล่ตอบด้วยน้ำเสียงสั่นๆ

     

     

     

    ‘‘ ไหนแกบอกว่า เจ้าพืชล้มลุกนั่นตายไปแล้วยังไงล่ะ !! ’’ ร่างสูงยกทอนฟาที่อยู่ข้างกายหมายจะจู่โจมคนตรงหน้า

     

     

     

    ‘‘ คะ ... คุณฮิบาริ รู้แล้วเหรอครับว่า คุณมุคุโร่ยังไม่ตายน่ะครับ ’’ บอสวองโกเล่กลืนน้ำลายลงในคอ แถมคิดไว้ว่า ตายแน่ตู เอาไว้อีกด้วย

     

     

     

    ‘‘ ฉันรู้แล้ว ’’ ร่างสูงตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก

     

     

     

    ‘‘ อึก ... ’’ เสียงของบอสวองโกเล่กลืนน้ำลายลงคอ เพราะ กลัวใบหน้าของคนตรงหน้าเป็นอย่างมาก

     

     

     

    ‘‘ บอกมาซะ ใครเป็นตัวต้นคิด ให้บอกฉันว่าเจ้าพืชล้มลุกนั่นตายแล้ว ’’

     

     

     

    ‘‘ คะ ... คุณดีโน่เป็นคนต้นคิดน่ะครับ .... คุณดีโน่บอกว่า เดี๋ยวนี้คุณฮิบาริมัวแต่สนใจแต่งาน ไม่สนใจคุณมุคุโร่มั่งเลย คุณดีโน่ก็เลยแกล้งคุณฮิบาริน่ะครับ ’’ บอสใหญ่ของวองโกเล่ ตอบคำถามของเมฆาด้วยความเร็วสูง

     

     

     

    ‘‘ หึ หึ หึ หึ หึ .... ไอ่ม้าพยศนั่นไม่ได้แก่ตายซะแล้ว ’’

     

     

     

    หลักจากนั้นก็ไม่มีใครได้พบม้าพยศแห่งคาบัคโรเน่อีกเลย

     

     

     

     

     

    +++++++++++++++++++++ เอวัง ด้วย ประการ ณ ฉะนี้ ++++++++++++++++++++++++++

     

     

     

     

     

     

    อยากให้เน่าแต่รู้ลึกจะไม่ค่อยเน่า

     

    เรื่องต่อไปคงอีกนาน แต่ถ้าเม้นอาจจะเร็วขึ้นนะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×