ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Black Rose Killer นักฆ่าแห่งฟรอนดาโก้

    ลำดับตอนที่ #6 : พบเจอที่จุดพลิกผันอันน่าอาย

    • อัปเดตล่าสุด 24 ก.ค. 52


    />

    บทที่ 6 : พบเจอที่จุดพลิกผันอันน่าอาย

                ฉันยิ้มแฉ่งพอได้ยินสิ่งที่ซาคานรายงานต่อดราฟ...เขาเจอเธอจริงๆ หรือ และอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนี้ ฉันก็จะได้เจอกับเธอแล้ว

              ช่างเป็นอะไรที่แสนวิเศษขนาดนี้

              หัวใจของฉันพองโตอย่างไม่น่าเชื่อกับเรื่องน่ายินดีนี้ แม้แต่ดราฟก็ยังเผลอยิ้มออกมาด้วยเลย...ทำไมหมู่นี้เขายิ้มบ่อยจังนะ

    ...........................

                แม้นี่จะเป็นกระท่อมส่วนพระองค์ขององค์ชายรัชทายาทดราฟ ฟา เทอร์ริส แต่ข้าวของที่อยู่ในกระท่อมก็มีอยู่เพียงไม่กี่ชิ้น นอกจากจานกับที่นอนหนึ่งที่แล้ว นอกนั้นก็ว่างเปล่า

                ตกกลางคืน ซาเนียย่าคือผู้เดียวที่ได้ครอบครองที่นอนอัดนุ่นอันแสนนุ่มและสบายอย่างที่ไม่เคยนอนมาก่อน ส่วนคนเป็นองค์ชายกับองครักษ์ต้องระเห็จตัวเองไปนอนอยู่ที่อีกฟากหนึ่งของห้อง เพียงเพราะว่า

                ข้าไม่อยากให้ใครไปติฉินนินทาว่าข้าเอาเปรียบแม้กระทั่งผู้หญิง

                ทว่าคืนนี้เธอกลับนอนไม่หลับ บางทีอาจจะเป็นเพราะเจ้าที่นอนที่นุ่มสบายเกินกว่าจะข่มตาหลับได้ ดังนั้นเธอจึงได้แต่นอนนิ่งๆ หลับตาอย่างเดียว

                ไม่ต้องห่วงทางนี้หรอก นางไม่มีพิษภัย

                เสียงคนพูดจากระเบียงด้านนอกลอยตามลมเข้ามาในห้อง ซาเนียย่าได้ยินทุกประโยค และรู้ด้วยว่านั่นคือเสียงของดราฟ แต่ทว่าก็ยังคงหลับตาเช่นเดิม

                นักฆ่าไม่ใช่คนที่ควรจะไว้ใจ

                และข้าก็ไม่ใช่เด็กอนุบาล

                ...เสียงสนทนาเงียบไป แต่กลับมีเสียงเหมือนคนเดินไปเดินมาบนพื้นไม้ หญิงสาวอยากจะลุกไปดูแทบขาดใจ แต่ก็กลัวอีกฝ่ายจะหาว่าแอบฟัง

                ดราฟ...บางทีข้าอาจจะ

                ไม่ เสียงคนเป็นองค์ชายเพิ่มความดังขึ้นทันที ยังไม่ถึงคราวจำเป็น

                คนฟังคิ้วกระตุก...ดราฟ...นี่ซาคานเรียกเจ้านายตัวเองด้วยชื่อเฉยๆ หรือนี่???

                ว่าแต่เจ้าจำพวกนางได้หรือไม่

                กลิ่นของพวกนางยังอยู่ในจิตสำนึกของข้าเสมอ

                สายลมเบาๆ พัดเข้ามากระทบหน้าซาเนียย่าที่นอนอยู่บนฟูก เสียงเปิดประตูและเสียงเดินทำให้หญิงสาวรู้ด้วยประสบการณ์ทันทีว่ามีใครคนหนึ่งกลับเข้ามาในห้องแล้ว และเขาก็น่าจะเป็นดราฟ

     

                ดราฟมองร่างสูงใหญ่ขององครักษ์คนสนิทที่หายลับไปกับความมืดยามรัตติกาลด้วยสายตาเป็นห่วง ก่อนหันหลังกลับมาเปิดประตูห้องเข้าไป

                สิ่งแรกที่เขาเห็นคือนักฆ่าสาวร่างโปร่งที่นอนอยู่ แต่เขาก็พอเดาได้ทันทีว่าเธอแกล้งหลับ

                ตื่นแล้วทำไมไม่ลุกขึ้นมาละ

                คนถูกจับได้รีบลุกขึ้นนั่งยิ้มแฉ่ง เธอกวาดตามองรอบห้องพอไม่เห็นซาคานก็รีบเอ่ยถามทันที

                ข้าให้เขาไปทำงานบางอย่าง คงจะกลับมาในอีกไม่นานนี้

                ซาเนียย่าพยักหน้ารับอย่างไม่แปลกใจนัก ก็เพราะเขาอยู่ที่นี่กับเธอมาสามวันเต็มๆ แล้วนี่ แต่ระหว่างที่เธอตกอยู่ในความคิดตัวเอง ดราฟก็เอ่ยต่อ

                ถ้าไม่นอนแล้วก็รีบไปล้างหน้าล้างตาซะ เดี๋ยวข้าจะสอนอะไรบางอย่างให้แก่เจ้า

                เวทย์มนต์นะหรอ หญิงสาวร้องขึ้นทันทีด้วยความตื่นเต้น เขาพยักหน้ารับ แต่นี้พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นเลยนะ

                ดราฟส่งเสียงหัวเราะในลำคออย่างน่ากลัว นัยน์ตาสีเขียวมรกตส่องประกายแวววาว และเหมือนแวบหนึ่ง ที่เธอเห็นมันเปลี่ยนเป็นสีแดง แต่นั่นก็เพียงแค่แวบเดียวจริง

                มืดๆ สิดี เวทย์ของข้าชอบความมืดมิด

     

                เมืองหลวงยามค่ำคืนนั้นเงียบสงัดไม่ต่างกับป่าช้าดีๆ นั่นเอง หากแต่กลับยังมีอีกมุมหนึ่งของเมืองที่เวลาค่ำคืนคือเวลาแห่งเสียงเพลงและสีสันความสนุกสนาน สาวงามมากมายต่างออกมาโยกย้ายเป็นขวัญตาแก่บรรดาหนุ่มเล็กหนุ่มใหญ่ บางนางก็ออกลงมานั่นกินนั่งดื่มอยู่กับลูกค้าที่ต่างส่งเสียงหัวเราะเฮฮาอย่างชอบอกชอบใจ แถมถ้าถูกใจยังสามารถพาเข้าห้องได้อีกด้วย

                ...ที่นี่คือหอนางโลมนั่นเอง

                หากแต่ที่มุมหนึ่งของห้องรับรองแขก ชายหนุ่มในชุดผ้าคลุมสีดำสนิทปกปิดมิดชิดนั่งอยู่เพียงลำพัง ไม่มีสาวงามมาคอยเคลียเคล้าเหมือนคนอื่น ไม่มีเหล้ายาตั้งอยู่บนโต๊ะ มีเพียงดาบเล่มยาวที่วางพาดอยู่ให้ดูน่าเกรงขาม เด็กหนุ่มในชุดผ้าสีมอซอซึ่งเป็นเด็กของที่นี่คอยยืนรับใช้อยู่ข้างๆ เพราะเขาไม่ชอบผู้หญิงเหล่านี้ เขาก็คือซาคานนั่นเอง

                นัยน์ตาภายใต้ผ้าคลุมหน้ามองกวาดไปรอบๆ ห้อง หวังหาเบาะแสอะไรบางอย่างที่ตนมีอยู่เพียงน้อยนิด หากแต่ก็ไม่พบอะไรเลย จึงหันไปหาเด็กหนุ่มรับใช้ที่ยืนก้มหน้างุดๆ อยู่ข้างๆ ด้วยว่ากลัวชายแปลกหน้า

                หลายวันมานี้มีผู้หญิงเข้ามาใหม่บ้างหรือไม่หรือไม่

                ซาคานเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบเย็นจนเด็กหนุ่มสะดุ้งโหยง รีบตอบเสียงตะกุกตะกัก

                ขะ...ข้าน้อยไม่ทราบขอรับ ข้าเพิ่งย้ายมาอยู่ได้แค่ไม่นาน และ...และก็ไม่เคยรู้เรื่องพวกนี้ด้วย

                คนฟังส่งเสียงไม่พอใจตบโต๊ะดังปังจนโต๊ะข้างๆ หันมามอง

                งั้นไปตามคนคุมที่นี่มาพบข้าที ซาคานเอ่ยด้วยน้ำเสียงเชียบขาด

                เด็กหนุ่มรับใช้รีบวิ่งหายเข้าไปหลังร้านทันที ครู่ต่อมาเขาก็เดินออกมาพร้อมกับหญิงวัยกลางคนหน้าตาสะสวยคนหนึ่ง นางสวยชุดกระโปรงยาวรัดรูปเสียจนเห็นทรวดทรงองเอวหมดสิ้น ริมฝีปากทาสีแดงสด เธอเดินมาโค้งศีรษะให้แก่เขาอย่างนอบน้อม

                ข้าชื่อลอลิน มีอะไรให้ข้ารับใช้หรือเปล่าคะท่านชาย หรือว่าเด็กๆ ของข้าทำอะไรไม่ถูกใจท่าน ถ้าต้องการคนไหนก็บอกได้เลยนะเจ้าคะ หรือว่าจะเป็นข้า...ข้าก็ไม่เกี่ยง

                ลอลินเอ่ยน้ำน้ำเสียงหวานหยดย้อยแสนยั่วยวน มือบางเอื้อมมาลูบไล้บริเวณใบหน้าที่มือผ้าคลุมคลุมอยู่ ก่อนจะเลื่อนลงมาที่ซอกคอและแผงอก แต่ซาคานกลับปัดออกอย่างไม่สนใจไยดี ทำเอาสาวใหญ่หน้าเสียเลยทีเดียว

                องครักษ์หนุ่มกวาดสายตาไปรอบห้องอีกครั้งพร้อมเอ่ยถาม

                ข้าอยากจะรู้ว่าสองสาววันมานี้มีเด็กใหม่เข้ามาที่นี่บ้างหรือไม่

                อ่า... หญิงสาวลากเสียงหวาน ทีนี่มีสาวๆ ให้บริการตั้งมากมายคะ ถ้าท่านต้องการแบบไหนก็บอกมา...

                ข้าถามว่ามีเด็กใหม่เข้ามาที่นี่บ้างหรือเปล่า ซาคานเอ่ยถามซ้ำด้วยน้ำเสียงห้วนและกระชากจนเธอสะดุ้งลอบกลืนน้ำลายด้วยความหวาดกลัว รีบตอบกลับไปทันที

                มี มีเจ้าคะ เมื่อสองวันมานี้มีหญิงงามเข้ามาใหม่ แต่ว่านางยังไม่พร้อมบริการท่านหรอกนะเจ้าคะ

                นางหน้าตาเป็นอย่างไร เขาถามต่อทันที ไม่ฟังคำบรรยายอันแสนยาวถึงสาวงามที่นี่ของนาง

                หน้าตา...หน้าตาคมสวยเจ้าคะ งดงามมาก เรือนผมสีเงิน นัยน์ตาสีเงิน รูปร่างกำลังดีเจ้าคะ แต่ว่านาง..

                ข้าต้องการนาง ซาคานเอ่ยแทรกทันที เขาลุกขึ้นยืน เก็บดาบเข้าไปในเสื้อคลุม พาข้าไปหานางเดี๋ยวนี้

                แต่ทว่าลอลินกลับยืนนิ่ง ท่าทางเลิกลักเหมือนไม่รู้จะทำอย่างไร

                ข้าสั่งให้เจ้าพาข้าไปหานางเดี๋ยวนี้!!!” ซาคานตวาดเสียงดังลั่นห้องจนคนอื่นๆ หันมามอง ทว่าพอเขากวาดตามองแค่ครั้งเดียว ทุกคนก็รีบก้มหน้างุดทันที

                เจ้าคะๆ สาวใหญ่ตอบด้วยเสียงลนลาน รีบเดินเข้าไปหลังร้านทันที โดยมีซาคานและเด็กหนุ่มรับใช้เดินตามหลังมา

                คือ...คือข้าว่าท่านอาจจะต้องการหญิงงามนางอื่นที่จะบริการท่านได้ดีกว่านาง ลอลินพยายามอธิบายระหว่างที่พาทุกคนเดินเข้าไปใสส่วนลึกของห้องพักรับรองแขก นางเพิ่งจะมาได้แค่สองวัน และนางก็ยังเป็นสาวพรหมจรรย์ ยังไม่รู้วิธีปฏิบัติงานนะเจ้าคะ บางที...บางทีข้าอาจจะสามารถหาหญิงที่ดีกว่านางให้ท่านได้

                ข้าต้องการนาง...คนเดียว ซาคานตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบ

                ตอนนี้ลอลินพาเขาเข้ามาสู่ห้องรับรอง ซึ่งมีเก้าอี้ตัวยาวตั้งอยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง มีขวดเหล้าชั้นดีตั้งอยู่บนโต๊ะไม้ใกล้ๆ กัน ส่วนที่มุมในสุดเป็นเตียงฟูกชั้นดีที่หนานุ่ม

                ถ้างั้น...เชิญท่านรออยู่ที่นี่ก่อนนะเจ้าคะ หญิงสาวเอ่ย ก่อนหันไปสั่งเด็กหนุ่มรับใช้ เจ้าไปให้คนไปตามนางมาที่นี่...เดี๋ยวนี้

                ซาคานกวาดสายตามองทั่วห้องอย่างรู้สึกสมเพช ก่อนจะหันไปสั่งลอลิน

                เจ้าออกไปได้แล้ว ข้าต้องการอยู่เพียงลำพังเมื่อนางมา

                เจ้าคะ ลอลินตอบรับเสียงหวาน ก่อนเดินออกไปจากห้องพร้อมกับปิดประตูไม้ซึ่งเก็บเสียงได้เป็นอย่างดี ขอให้ท่านมีความสุขกับคืนนี้นะเจ้าคะ

                เมื่อทุกคนออกไปจบหมด ซาคานจึงค่อยเดินลงไปนั่งที่เก้าอี้ไม้ และเฝ้าคิดทบทวนคำสั่งของดราฟอยู่ในใจ

                ข้าคิดว่าพวกนักฆ่ากุหลาบดำอาจจะยังมีชีวิตอยู่ ไปตามกลับมาซะ

                ใช่แล้ว...นั่นคือคำสั่งของดราฟ และเขาก็ออกเดินไปทั่วทั้งเมืองหลวงฟรอนเต้ แต่แล้วเขาก็ได้กลิ่นๆ หนึ่ง กลิ่นกายสาวที่เขายังจำได้ดี

                ...กลิ่นของมาริเอะ

                ตั้งแต่ตอนที่พวกเธอเริ่มปฏิบัติการเพื่อลอบสังหารดราฟ เขาก็เฝ้าติดตามพวกนางตลอด และเขาก็จดจำกลิ่นของพวกเธอได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นซาเนียย่า มาริเอะ พริมซ์ เซ็นซัง รวมไปถึงร็อคกี้

                แต่ที่น่าแปลกก็คือเมื่อเขาเดินตามกลิ่นของนางมา กลับพบกับสถานที่แห่งนี่แทน

     

                ซาเนียย่านั่งหาวหวอดๆ อยู่บนโขดหินริมลำธาร...ไหนดราฟว่าจะสอนอะไรเธอไง แต่ไม่เห็นมีอะไรสักอย่าง นี่เขาก็นั่งจ้องเธอมาตั้งนานแล้ว และด้วยความอึดอัด หญิงสาวจึงถามออกไป

                ไหนเวทย์ที่จะสอนข้าละ

                ดราฟถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูล้ำลึกและก้องกังวาน ข้าทำไม่ได้...

                ซาเนียย่าเลิกคิ้วขึ้นสูงด้วยความฉงน แต่ก่อนที่จะทันได้ถามอะไรต่อไป ชายหนุ่มก็กระโจนเข้าหาเธอ คู่ล้มกลิ้งลงไปกับพื้นหญ้าจนในที่สุดเขาก็คร่อมหญิงสาวเอาไว้ มือข้างหนึ่งกำอยู่ที่บริเวณลำคอจนหายใจได้ไม่สะดวก อีกมือหนึ่งก็ยันพื้นเอาไว้

                บอกมาว่าเจ้าเป็นใครกันแน่

                ดราฟตวาดเสียงดังลั่น หากมันไม่ได้เข้าหูซาเนียย่าสักนิด เพราะเธอมัวแต่จ้องมองนัยน์ตาของเขาที่กำลังเปลี่ยนไปเป็นสีแดงโกเมน...ไม่ใช่สิ ไม่ใช่แค่ดวงตา แต่ทั้งผมทั้งตาเลยต่างหาก นัยน์ตาสีแดงที่เต็มไปด้วยโทสะที่เร้าร้อนจนแทบจะเห็นเปลวไฟอยู่ภายใน

                ดราฟ...ท่าน

                เจ้าเป็นใครกันแน่ ชายหนุ่มถามซ้ำ หากแต่น้ำเสียงอ่อนลงมาก พร้อมกับผมและตาที่กลับเป็นเป็นสีดำและมรกตเหมือนเดิม

                ข้าก็คือซาเนียย่าไง นี่ท่านบ้าไปแล้วหรือเปล่า ซาเนียย่าร้องขึ้นบ้าง มือบางผลักอกของอีกฝ่ายจนล้มหงายลงไป ส่วนตัวเองก็รีบลุกขึ้นปัดเศษหญ้าออกจากตัว

                ข้า... ดราฟเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เขาหลับตาลงเพียงครู่ก่อนลืมตาและเอ่ยขึ้นใหม่ ข้าขอโทษ

                พอเห็นคนมีศักดิ์เป็นถึงองค์ชายมาขอโทษตนแบบนี้ ซาเนียย่าเลยไม่คิดจะต่อความยาวสาวความยืดอะไรอีก แต่ก็อดที่จะถามไม่ได้ เพราะดูจากสภาพเขาตอนนี้ดูอ่อนเพลียและแปลกๆ ไป

                นั่งก่อนเถอะ หญิงสาวเอ่ย ท่านเป็นอะไรมากหรือเปล่า แล้วตาท่าน...

                ดราฟส่ายหน้าไปมาเหมือนไม่อยากพูดถึงมันอีก ข้าขอถามเจ้าอีกครั้งได้ไหม เจ้าเป็นใครกันแน่

                ข้า... ซาเนียย่าชี้มาทางตัวเองด้วยสีหน้าเบื่อหน่ายที่ต้องตอบคำถามนี้เป็นหนที่สอง ข้าก็คือซาเนียย่า ไม่มีนามสกุล ไม่มีหัวนอนปลายเท้า แล้วก็เป็นนักฆ่ากลุ่มกลุ่มกุหลาบดำที่ท่านช่วยชีวิตเอาไว้...พอใจหรือยัง

                ข้าไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น เขาโบกมือไปมา เจ้าไม่ได้เป็นคนของหนึ่งในสี่ชนเผ่าใช่ไหม

                ซาเนียย่าเลิกคิ้วขึ้นสูง ท่านหมายถึงสี่ชนเผ่าในตำนานของฟรอนดาโก้นะหรอ

                ดราฟพยักหน้ารับงึกๆ ท่าทีของเขาดูจริงจังเกินเหตุจนหญิงสาวต้องหัวเราะออกมา

                เวทย์ของข้าสอนให้ได้แก่ทุกคน ยกเว้นไทม์กับแสง

                แต่รู้สึกว่าข้าจะเพิ่งบอกไปนะว่าตัวเองไม่มีหัวนอนปลายเท้านะ แล้วข้าก็ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเทือกนั้นด้วย....แต่อย่าบอกนะ ว่าท่านคิดว่าข้าเป็นคนอะไรแบบนั้นนะ

                ใช่ ชายหนุ่มตอบเสียงดังฟังชัด ข้ากำลังคิดว่าเจ้าอาจจะเป็นคนของไทม์หรือไม่ก็แสง

                ซาเนียย่ากลอกตาทีหนึ่งก่อนถาม ทำไมถึงคิดอย่างนั้นละ ข้าไม่ได้ใจบุญใจกุศลเหมือนพวกแสง แล้วก็ไม่ได้ฉลาดปราดเปรื่องเหมือนกับพวกไทม์ด้วย

                ผิดแล้ว ดราฟยิ้มเยาะ ท่าทีของหญิงสาวทำให้เขาเริ่มลังเลว่าบางทีเธออาจจะไม่ได้เป็นแบบนั้นจริง ไทม์ไม่ได้ปราดเปรื่อง และแสงก็ไม่ได้ใจบุญขนาดนั้น

                ทำไมละ เธอถามด้วยความใคร่รู้...สมัยก่อนเซ็นซังเคยสอนเธอเกี่ยวกับคนพวกนี้อยู่ครั้งหนึ่ง และได้บอกจุดเด่นของพวกมัน เพื่อให้เธอเอาไปหาจุดด้อยที่จะใช้ในการเอาตัวรอดยามต้องปะมือกับพวกมันเข้า

                หัวหน้าเคยบอกว่าทั้งสี่ทิศของฟรอนดาโก้มีชนเผ่าในตำนานทั้งสี่ตั้งอยู่...ไทม์อยู่ทางทิศเหนือปราดเปรื่องยากหาใครเทียม แสงทางทิศตะวันออกเป็นนักบวชใจบุญ ไฟอาร์อยู่ทางทิศใต้ใจร้อนชอบทำลายข้าวของ และเงา...อยู่ทางทิศตะวันตก เก่งกาจ เฉียบคมและหลักแหลม

                ดราฟเหยียดริมฝีปากออกจนเป็นเส้นตรง

                งั้นหัวหน้าของเจ้าก็บอกไว้ผิดแล้ว นั่นเป็นเพียงแค่ส่วนๆ หนึ่งเท่านั้น ไทม์คือผู้รักษาเวลา เวทย์มนต์ของพวกเขาเต็มไปด้วยพลังการปกป้อง มันสมองก็ไม่ได้ปราดเปรื่อง หากแต่พวกเขานิ่งและรอบคอบ แล้วแสงไม่ได้ใจบุญเพียงแต่พระเจ้าประทานมาให้พวกเขาเห็นแสงแรกของวันใหม่ คอยชี้นำทางที่สดใสให้แก่ผู้คน พลังของพวกเขาคือการรักษา

                เมื่อชายหนุ่มนิ่งเงียบไป ซาเนียย่าจึงรบเร้าให้เล่าต่ออีก

                ไฟอาร์คือชนเผ่าแห่งการทำลายร้าง เมื่อมีการปกป้องของไทม์ ก็ต้องมีสิ่งหนึ่งที่ตรงข้ามกันเสมอ ซึ่งก็คือเวทย์แห่งการทำลาย และนั่นก็คือหน้าที่ของพวกเขา ส่วนเงา...พวกเขาอยู่ในป่าและหุบเขาไม่มีแสงผ่านไปถึง สำหรับที่นั่นตาไม่ใช่สิ่งที่จำเป็น เพราะพวกเขารับรู้ทุกสิ่งผ่านกลิ่น การได้ยินและการสัมผัส ชีวิตในความมืดทำให้พวกเขาเป็นคนเก่ง เฉียบคม หลักแหลม...และน่ากลัว พลังของพวกเขาคือการซ่อนเร้น

                ซาเนียย่าพยักหน้ารับงึกๆ รู้สึกไม่อยากจะเจอกับคนพวกนี้สักแล้วสิ แต่พอคิดไปคิดมา...เธอก็นึกไปถึงคำพูดหนึ่งที่เธอได้ยินมาเมื่อครู่นี้เอง

                กลิ่นของพวกนางยังอยู่ในจิตสำนึกของข้าเสมอ

                กลิ่น...กลิ่นของพวกเธออย่างนั้นหรือ

                ดราฟ เจ้าของชื่อหันมามองเชิงถามว่ามีอะไร

                ซาคานเป็นเงาใช่ไหม

     

                สองฝีเท้าของคนหลายๆ คนที่เดินมายังห้องที่ซาคานนั่งอยู่ มีเสียงหญิงสาวดังโหวกเหวกโวยวายดังมาตลอดทาง ทำให้องครักษ์หนุ่มตัดสินใจเดินไปแอบในมุมมืดหนึ่งของห้อง

                แอ๊ดด...

                เสียงประตูห้องเปิดออกพร้อมกับชายหนุ่มร่างใหญ่บึกบึนที่ลากหญิงสาวในชุดผ้าแพรบางเบาที่มีผ้าคลุมหน้าปิดอยู่เข้ามา โดยมีเด็กหนุ่มรับใช้คนเดิมเดินตามต้อยๆ

                ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้นะไอ้สวะ

                หญิงสาวตวาดลั่น พยายามแกะข้อมือตนเองออกจากมือใหญ่ของอีกฝ่ายจนผ้าคลุมหน้าหลุดออก เผยให้เห็นใบหน้าสวยคมของเธอ เรือนผมสีเงินซอยสั้นยาวระต้นคอกับนัยน์ตาสีเดียวกันที่ฉายประกายก้าวร้าวไม่ยอมคน...เธอคือมาริเอะจริงๆ

                หน่อย...นางนี่ เดี๋ยวจบงานนี้ข้าเอาทำเมียหรอก ชายหนุ่มร่างใหญ่ถลึงตามอง พร้อมกับผลักเธอให้นอนลงบนเตียง ก่อนที่เขาจะเดินตามไป

                มาริเอะเห็นท่าไม่ดีรีบตั้งการ์ดเตรียมสู้ทันที ทำเอาอีกฝ่ายถึงกลับหัวเราะหึๆ ในลำคอ มือที่หยาบกร้านเอื้อมมาลูบไล้ใบหน้าของเธออย่างถือวิสาสะ

                ข้าเตือนเจ้าแล้วนะ หญิงสาวร้องลั่นก่อนจะชกเข้าใส่ที่ตาของเจ้าบ้ากามจนต้องผละออกมาทันที

                เด็กหนุ่มรับใช้ที่ยืนอยู่ข้างหลังหัวเราะคิกคัก ชายหนุ่มร่างใหญ่หันมามองก่อนตบเป็นการสั่งสอน แล้วจึงหันมาทำท่าจะตบมาริเอะด้วยอีกคน แต่กลับมีเสียงหนึ่งที่ดังสั่งเอาไว้

                หยุดเดี๋ยวนี้นะ

                ชายหนุ่มร่างใหญ่กับเด็กหนุ่มรับใช้พอเห็นเข้าก็รู้ทันทีว่าคนๆ นี้คือแขกคนสำคัญที่ลอลินสั่งเอาไว้ จึงรีบโค้งศีรษะแล้วออกจากห้องไปก่อนที่เขาจะโกรธ

                ส่วนมาริเอะ...เธอกำลังจ้องเขาเขม็ง นัยน์ตาสีเงินเต็มไปด้วยความตกใจ หวาดกลัว และสับสน...ชายคนนี้คือองครักษ์ของดราฟไม่ใช่หรอ แล้วเขามาทำอะไรที่หอนางโลม

                ไปกับข้า

                ซาคานเอ่ยเพียงสั้นๆ พร้อมกับหันหลังให้เธอเหมือนกับกำลังรอการตัดสินใจของหญิงสาวอยู่

                ไปไหน มาริเอะถามสั้นๆ พอกัน เธอลุกลงมาจากเตียง จากนั้นก็แอบหยิบส้อมที่วางอยู่บนโต๊ะรับแขกมาซ่อนไว้ที่ด้านหลังเพราะความไม่ไว้ใจ...บางทีเขาอาจจะมาเพื่อแก้แค้นเธอ

                ส้อมแค่นั้นไม่สามารถทำให้ข้าตายได้หรอก

                ซาคานเอ่ยเสียงห้วน แต่มาริเอะกลับผงะไปชนกำแพงทันที...เขารู้ได้อย่างไรว่าเธอกำลังทำอะไร ทั้งๆ ที่เขากำลังหันหลังอยู่แท้

                องค์ชายต้องการพบตัวเจ้า และเจ้าก็ต้องไปกับข้าเดี๋ยวนี้

                มาริเอะอ้าปากกว้างเหมือนกำลังพยายามจะหายใจทางปาก ก่อนเอ่ยเสียงตะกุกตะกัก ไม่ ข้าไม่ไปไหนทั้งนั้น ไปกับเจ้าหรืออยู่ที่นี่มันก็มีค่าเท่ากันทั้งนั้นแหละ

                งั้นเหรอะ องครักษ์หนุ่มขึ้นเสียงสูงอย่างยียวน แล้วถ้านักฆ่าที่ชื่อซาเนียย่าต้องการพบเจ้าด้วยละ

                ซาเนีย มาริเอะพึมพำ พวกเจ้าทำอะไรกับนาง

                ซาคานหันกับมาเผชิญหน้ากับหญิงสาวอีกครั้ง ตอนนี้ยัง แต่ต่อไปก็ไม่แน่

                มาริเอะคิ้วกระตุกทันที เธอกระโจนเข้าใส่อีกฝ่ายพร้อมกับส้อมในมือที่เหวี่ยงแทงออกไปตรงๆ เหมือนคนขาดสติทำให้เขาหลบได้อย่างไม่ยาก แทบยังสามารจับล็อคแขนแล้วนอนลงกับเตียงได้อีกต่างหาก

                แฮกๆ หญิงสาวหอบหายใจถี่ รู้สึกสมเพชตัวเองที่เป็นถึงนักฆ่าแท้ๆ แต่กลับพลาดท่าเสียทีให้กับคนตรงหน้าได้อย่างง่ายดายเพียงนี้

                ซาคานเอียงคอเล็กน้อย ก่อนยื่นหน้าเข้ามากระซิบที่ข้างๆ หูของเธอด้วยกับเยาะเย้ย

                จัดการง่ายจริงนะ...ไปกับข้าดีๆ เสียเถอะ ระหว่างนั้นก็ฝึกยอมรับตัวเองเสียด้วยว่าตัวเจ้านะมันช่างไร้ค่านัก เพราะเมื่อเจ้าขาดสติ ตัวเจ้าก็ไม่ต่างอะไรกับคนง่อยเปลี้ยเสียขาที่ทำอะไรใครไม่ได้หรอก...ยุคของพวกเจ้ามันหมดลงแล้ว

                มาริเอะกัดฟันกรอดยามฟังเสียงทุ้มที่ดังอยู่ข้างหู น้ำตาก็พาลจะไหลด้วยความเจ็บแค้น...ทำไมนะ ทำไมเธอต้องมาพบกับเขาในสภาพที่หน้าอดสูเช่นนี้ ตอนที่เธอเป็นเพียงสาวงามเมือง แถมยังไม่สามารถทำอะไรเขาได้อีกต่างหาก

     

                ซาเนียย่านั่งจ้องหน้าดราฟเขม็งเหมือนกับบังคับให้เขาตอบคำถามของเธอ

                ตอบข้ามาสิ ซาคานเป็นเงาใช่ไหม

                ดราฟส่งเสียงในลำคอเหมือนกับไม่สบอารมณ์ แต่ระหว่างนั้นเองขนนกสีดำอันหนึ่งก็ลอยลงมาตรงหน้าเขา ที่ก้านขนนกมีกระดาษแผ่นเล็กๆ พันอยู่

                ชายหนุ่มแกะมันออกมาอ่านก่อนเงยหน้าขึ้นมองซาเนียย่าด้วยใบหน้าที่มีประกายวาววับ

                เจ้าเตรียมตัวรับเพื่อนเจ้าได้เลย นางกำลังจะมาพร้อมกับซาคานในอีกไม่เกินหนึ่งชั่วยาม


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×