ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic GOT7] Forsaken Area [MarkBam][BIBam]

    ลำดับตอนที่ #8 : FSK : 7

    • อัปเดตล่าสุด 20 ก.ย. 58


    รีดเดอรรรรร์!!!! ไรท์กลับมาแล้วน้าาาาาาา!! T^TTT
    เค้าขอโทษนะที่หายไปเป็นครึ่งปีเลย ไม่อยากจะบอกเหตุผลเลยว่าทำไมถึงหายไปนานขนาดนั้น
    คือเหตุผลมันทุเรศทุรังมากจนไรท์ก็อายสมองสามส่วนของตัวเอง
    ไรท์ลืม พาสเวิร์ดของตัวเองจ้าาา แถมลืมเรื่องที่แต่งไปพอควรเลยค้างจนเลยมาจะปีอยู่ล่ะ
    ไม่รู้ว่ามีคนอ่านอยู่มั้ย แต่ไรท์ก็จะลงต่อไปนาจาา ลืมเรื่องกันหมดล้ะใช่มั้ยล่ะ 5555
    เดี๋ยวเย็นนี้มาลงต่อให้นะคะ ขอโทษจากมาายฮาร์ทอีกครั้งจริมๆ I'm Sorryyy!!!!

    --- เจิม ---

    7

     

                    แบมแบมลืมตาตื่นขึ้นมา เขารู้สึกได้ถึงเศษฝุ่นที่กระจัดกระจายอยู่ตามพื้นห้อง ความเจ็ดปวดตามร่างกายทำให้ร่างบางยังไม่อยากขยับไปไหน เขาจำได้แค่ว่าเขาโดนกระทืบและซ้อมจนหนักเกินกว่าที่จะมีสติได้จนถึงตอนจบ กลิ่นคาวเลือดยังคงคละคลุ้งอยู่ในปาก มือบางค่อยๆ ขยับดันร่างกายสะบักสะบอมของตัวเองขึ้น

                    เขาต้องหนี...

                    ร่างบางเอามือข้างหนึ่งกุมท้องน้อยที่ปวดหนักกว่าจุดอื่น นัยน์ตากลมเหลือบมองขึ้นไปเห็นหน้าต่างที่มีแสงอาทิตย์สาดใส่ แบมแบมหาเก้าอี้และกล่องมาต่อเรียงกันจนกระทั่งสามารถขึ้นมาได้ ข้างนอกเป็นพื้นหญ้าไม่กว้างมากนัก ร่างบางค่อยๆ หย่อนตัวเองลงไปจนกระทั่งแผ่นหลังกระทบกับพื้น

                    อั่ก!!” แบมแบมนอนกุมท้องตัวงอด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะค่อยๆ คลานออกมาจากตรงนั้นแล้วตั้งหลักลุกขึ้นยืน

                    ...ให้ตายเถอะ ที่นี่ที่ไหนกัน...

                    ร่างบางมองผ่านตึกรามบ้านช่องร้างๆ ที่ดูยังไงก็ไม่น่ามีคนอยู่ ขาเรียวก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่รู้ทิศทาง รู้เพียงแค่ว่าเขาจะไม่เลือกที่จะหยุดอยู่ตรงนั้นและโดนจับเข้าไปขังในห้องที่เขาโดนแบบเมื่อคืนอีกแน่นอน

                    ...บี แบมเหนื่อยมากเลย บีจะรู้รึเปล่านะ...

                    ใจได้แต่พะวงถึงพี่ผู้เป็นกษัตริย์และพี่ชายคนรองที่ก็ไม่รู้ว่าตอนนี้กำลังตามหาเขาอยู่รึเปล่า แต่ที่รู้ๆ คือแบมแบมเริ่มอยากกลับเขตของตัวเองแล้ว

                    ทำไมคนของเขต 5 ถึงโหดร้ายขนาดนี้ ตั้งแต่วันนั้นที่เขาโดนคังเซนาตบอย่างไม่มีสาเหตุ การตัดสินใจที่ไม่ยุติธรรมของฮันบิน คนที่เอาแต่อ้างว่าขึ้นศาลอย่างเดียวแบบมาร์ค ฮวงจื่อเทาที่จับเขามาทรมาณเพราะการแก้แค้นทั้งๆ ที่เขาก็ไม่เข้าใจอะไรเลยสักนิด

                    เขากำลังโกรธงั้นเหรอ? น้อยใจที่ไม่มีใครออกมาหาเขาเลยใช่มั้ย?...

                    โอ๊ย” แบมแบมร้องโอดโอยเมื่อข้อเท้าข้างซ้ายกลับกึ่งพิการซะดื้อๆ มีเลือดซึมออกมาจากผ้าพันแพ้ที่หมอดงฮยอกบอกให้เขาเปลี่ยนทุกวัน แบมแบมกัดฟันตัวเองก่อนจะพยายามลากสังขารเดินต่อไปเรื่อยๆ

                    แต่คนเราต่างก็มีขีดจำกัดอยู่ดี...

                    แบมแบมเดินเข้าไปในซอกระหว่างตึก ร่างบางนั่งลงพิงตัวตึกอย่างหมดแรง คนตัวเล็กชันเข่าขึ้นมาก่อนจะปล่อยให้น้ำตาไหลลงมาอย่างท้อใจ หิวก็หิว คิดถึงพี่ก็คิดถึง แถมเจ็บและปวดตามร่างกายไปหมด เขารู้สึกไม่มีแรงแม้แต่จะหายใจเลยด้วยซ้ำ

                    “ฮึก…ทุกคนอยู่ไหนกันหมด

                    แบมแบมร้องไห้อยู่นานก่อนที่สติของเขาจะดับไปอีกครั้ง

     

     

     

     

                    มาร์คก้าวมาหยุดยืนอยู่หน้าบานประตูไม้ของเพื่อนเก่าที่ ‘เคย’ สนิทอีกครั้ง ร่างโปร่งผลักบานประตูออก ก่อนจะเห็นฮันบินนั่งอยู่บนโซฟาหนังหน้าเตาผิง ผู้หมวดที่เห็นว่าใครเปิดประตูเข้ามาก็ขมวดคิ้วเข้ม ก่อนที่จะเอ่ยปากถาม แต่มาร์คก็พูดแทรกขึ้นมาซะก่อน

                    “นายมา…”

                    “แบมแบมอยู่ไหน?” คิมฮันบินชะงักไปกับคำถามของมาร์ค เขาเหมือนกำลังมึนงงและกำลังประมวลคำตอบ “ฉันถามว่าแบมแบมอยู่ไหน?! คิมฮันบิน!”

                    “นายไม่มีสิทธิ์มาขึ้นเสียงใส่ฉัน” มาร์คกำลังจะพูดตอบกลับไป แต่หางตาเขากลับเหลือบมองไปเห็นร่างเล็กที่กำลังเดินมา นัยน์ตาเล็กๆ ที่มองเขาเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย มาร์คชะงักไปสักพัก แต่เขาก็กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม

                    มาร์ค...

                    “แบมแบมอยู่ไหนฮันบิน

                    “มาร์ค...คือว่า”

                    “หุบปากได้แล้วคิมจินฮวาน! น่ารำคาญ!” มาร์คตวาดเสียงใส่จินฮวานจนอีกคนสะดุ้งตัวโยน ผู้พันหันมามองอดีตเพื่อนสนิทบนโซฟาหนังที่มองมาทางเขาด้วยสายตาขุ่นเคือง

                    ออกไป...

                    “นายไม่คิดจะตามหาแบมแบมเลยใช่มั้ย ฮันบิน

                    “ฉันไม่สน ออกไปคิมฮันบินยังคงมองที่มาร์คเป็นสายตาเดิม ไม่ได้เรียกว่าเย็นชา แต่น่าจะเรียกว่าว่างเปล่ามากกว่า

                    เขาอยากได้เพื่อนคนเดิมกลับมา เพื่อนที่เคยเป็นคนเคียงบ่าเคียงไล่เหมือนเมื่อ 4 ปีก่อน...

                    ...คิดอะไรอยู่วะมาร์คต้วน เป็นไปไม่ได้หรอก...

                    ได้...ถ้านายไม่แคร์ก็ไม่เป็นไรคิมฮันบิน

                    “…”

                    “แต่ฉันขอเตือนนายไว้ว่า ถ้าไม่อยากโง่เพราะหมอนี่เหมือนฉัน ก็อย่าให้ความรักความชอบของนายมันขึ้นสมองไปมากกว่านี้ มาร์คหันหลังก่อนจะปิดประตูบ้าน 7/5 Wolves Path ลง แล้วเดินออกมา ทิ้งคิมฮันบินไว้กับคนๆ หนึ่งที่เขากล้าพูดได้เลยว่า ‘เกลียด’ ที่สุดในชีวิต

                    ...คนที่ทำให้เขากับฮันบินต้องมาเดินแยกทางกันแบบนี้อย่าง 'คิมจินฮวาน'...

     

     

     

     

                    อิมแจบอมยังคงกินไม่ได้นอนไม่หลับเหมือนเดิม ถึงแม้ว่าเขาจะดูโอเคกว่าเมื่อวันก่อนเล็กน้อย เพราะน้องชายคนรองยัดเยียดให้กินนู่นกินนี่อย่างเลี่ยงไม่ได้

                    ไม่มีข่าวอะไรคืบหน้าแม้แต่นิดเดียว เกี่ยวกับน้องชายของเขา

                    ...จนจะครึ่งเดือนอยู่แล้ว นายหายไปไหนกันแบมแบม นายเป็นยังบ้าง? มีความสุขอยู่รึเปล่า? นายยังอยู่รึเปล่า? นายจะรู้มั้ยว่าพี่เป็นห่วงนายแค่ไหน?...

                    เสียงในใจของผู้เป็นพี่ยังคงดังตลอดและสุมอยู่ได้แค่เพียงในใจเท่านั้น เขารู้สึกเหนื่อยล้ามากจริงๆ เสียงหัวเราะของน้องเล็กหายไปจากปราสาทนานมากแล้ว นานเกินกว่าที่เขาจะทนต่อไปได้อีก

                    ...รึว่าเขาต้องไปหาเอง...

                    ตึ๊ง

                    แจบอมมองไปที่จอรับสัญญาณภาพ มีวีดิโอแมสเสสส่งมาถึงเขา กษัตริย์อายุ 22 ปีขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น ก่อนที่ปาร์คจินยองจะเข้ามายืนขนาบข้างด้วย

                    “ใครส่งอะไรมา?”

                    “ไม่รู้ ไม่มีชื่อผู้ส่ง แจบอมตอบน้องชาย พลางคลิ๊กเปิดไฟล์วีดิโอขึ้นมา รออยู่ไม่นานตัววีดิโอก็ปรากฎให้เห็นผ่านเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้เก่าๆ สำหรับแจบอมและจินยองแค่มองแวบแรกเขาก็รู้ว่าคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นคือใคร

                    ...น้องชายของพวกเขา...

                    ...สมบัติของราชวงศ์เขต 7...

                    ...แบมแบม...

                    แบม!!”

                    [สวัสดี อิมแจบอม ฉันต้องเรียกแกว่ากษัตริย์เขต 7 รึเปล่าถึงจะถูกน่ะ?] เสียงจากตัววีดิโอดังขึ้น มีชายคนหนึ่งซึ่งสวมฮู้ดสีดำคลุมหน้าเอาไว้ ต่อให้มองใกล้ๆ รึโฟกัสเท่าไหร่ก็ไม่รู้เลยว่าเป็นใคร

                    [วีดิโอนี้ฉันถ่ายตอนสามทุ่มสามสิบแปดนาที หลังจากที่เพิ่งเจอตัวลูกหมาน้อยไร้เดียงสาที่หลุดออกมาจากบ้าน]

                    ชายคนนั้นเดินตรงเข้าไปหาแบมแบมก่อนที่จะแก้มัดข้อมือออก และกระชากผมของร่างบางให้เชิดหน้าขึ้น มีเสียงโอดโอยเบาๆ ที่ยังบ่งบอกว่าอีกคนมีสิติอยู่ ใบหน้ามีรอยช้ำบางๆ และคราบเลือดแห้งกรังตรงมุมปาก แบมแบมกัดฟันแน่นเมื่อเขาถูกดึงให้มานั่งคุกเข่ากับพื้น ตามด้วยผ่ามือหนาที่ตวัดลงมาสองข้างแก้ม ผู้เป็นพี่ที่ทำได้แค่มองภาพจากวีดิโอได้แต่กำมือแน่น

                    ตามมาด้วยเสียงรองเท้ากระทบกับเนื้อ แจบอมและจินยองได้แต่มองไปที่น้องชายสุดหวงแหนในวีดิโอที่ถูกทารุณกรรมเยี่ยงสัตว์ เสียงปวดร้าวและร้องขอความช่วยเหลือของน้องชายกรีดลึกลงไปในใจของผู้ร่วมสายเลือดทั้งสอง ก่อนจะเงียบลงเมื่อน้องของพวกเขาสลบไป แต่คนอัดวีดิโอยังคงไม่เลิกที่จะซ้อมร่างบางที่นอนไม่ได้สติ จนเมื่อสมใจแล้วจึงหันมาทางกล้อง

                    [To be continued อิมแจบอม]

                    ปิ๊ป!

                    ปึง!!

                    “ไอ้บ้าเอ๊ยยย!!!แจบอมสบถออกมาอย่างเหลืออด ฝ่ามือหนาทุบโต๊ะไม้จนห้อเลือด ต่างกับจินยองที่ได้แต่นั่งนิ่งขมวดคิ้วเหมือนไม่ได้คิดอะไร แต่ในใจของเขากลับเต็มไปด้วยไฟแค้นที่พร้อมจะเผาไอ้โรคจิตในวีดิโอให้มอดไหม้

                    ฉันทนไม่ไหวแล้ว!! ฉันจะออกไป!!”

                    “นายออกไปไม่ได้นะเจบี นายจะไปที่ไหน?” จินยองท้วงห้ามแจบอมที่กำลังเลือดขึ้นหน้า พี่ชายคนโตหันไปทำอะไรสักอย่างกับจอภาพ ก่อนที่เขาจะสบถออกมาอีกครั้ง

                    “บ้าเอ๊! มันลบไปแล้ว ไอ้บ้านั่นมันแฮคระบบเรา” อิมแจบอมผ่อนลมหายใจหนักหน่วงอย่างใจเย็น ก่อนที่เขาจะหันไปมองจินยองที่ยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม

                    “นายไม่คิดจะทำอะไรเลยรึไงจูเนียร์”

                    “ฉันเคยบอกนายว่าให้ใจเย็นไม่ใช่เหรอ มันอาจจะส่งมายั่วโมโหนายก็ได้ ยิ่งถ้ามันเห็นนายชักดิ้นชักงอมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งสะใจมากเท่านั้น

                    “เหอะ...”

                    “เชื่อใจในตัวแบมแบมเถอะ เจบี

                    “...

                    “น้องจะต้องไม่เป็นอะไร”

     

     

     

     

                    ไอ้เชี่ยจุน นั่งอึนอะไรของมึงเนี่ย?” นัมแทฮยอนตบหัวเพื่อนดังผั๊วะ จนจุนฮเวต้องหันมาตบคืน ร่างสูงลุกขึ้นไปสูดอากาศข้างนอกโกดังระหว่างที่พวกเพื่อนๆ กำลังเฮฮากับวงเหล้าการพนันในโกดัง ตาคมก้มมองนาฬิกาที่เวลาก็ตีบอกว่าทุ่มกว่าๆ แล้ว พลางนึกในใจว่าเมื่อไหร่พี่ของเขาจะมา

                    “อ้าว พี่เทา หวัดดีคร้าบบบ!” เสียงนัมแทฮยอนแปร๊นออกมาจากในวงจนทำให้จุนฮเวหันกลับไปมอง พี่ของเขาเดินเข้าไปแจมกับกลุ่มเพื่อนแล้วเรียบร้อย

                    “เออๆ ดีเว้ย”

                    “วันนี้ดูอารมณ์ดีแปลกๆ นะครับเนี่ย มีข่าวดีอะไรมาบอกพวกเราเหรอ?” แจฮยองหนุ่มแว่นหน้าหล่อพูดขึ้นก่อนจะกระดกแก้วเบียร์เข้าปาก

                    “รอให้คนมาครบก่อนแล้วกัน แล้วไอ้จุนล่ะ”

                    “นั่งติสท์แตกอยู่นู่น่ะพี่

                    “มึงพูดให้ดีๆ หน่อยวอนพิลจุนฮเวหันไปแยกเคี้ยวใส่เพื่อนในวง ก่อนที่ตัวเขาเองจะโดนเพื่อนๆ บ่นกลับ

                    “เหล้า เบียร์ก็กินไม่เป็น หญิงก็ไม่มี จับเหยื่อทีก็ไม่ได้ ชีวิตมึงนี่ไม่มีอะไรดีเลยจริงๆ ไอ้จุนฮเว” จุนฮเวหันหน้าไปมองทางอื่นโดยที่ไม่ได้ใส่ใจคำพูดของเพื่อนเลยสักนิด

                    “เอาเถอะๆ ฉันจะบอกพวกแกว่าเราได้ตัวประกันแล้วนะ” หลังสิ้นเสียงจื่อเทา ทุกคนก็หันมาให้ความสนใจเขาเป็นตาเดียว

                    “กันต์พิมุกอ่ะเหรอพี่?!”

                    “อืม”

                    “หน้าตาเป็นไงๆ ถ่ายมาให้ดูป่ะ?”

                    “ไม่ได้ถ่ายว่ะ ก็เป็นผู้ชาย อายุประมาณ 17-18 หน้าแบ๊วๆ หน่อย ตัวเล็กๆ บางๆ ผมสีดำจุนฮเวกลืนน้ำลายลงคอดังเอื๊อกเมื่อรู้สึกว่าลักษณะที่ผู้เป็นพี่พูดมา มันคล้ายๆ กับใครบางคนที่เขารู้จัก

                    “แล้วเป็นไงบ้างอ่ะพี่? มันอยู่ไหนอ่ะตอนนี้

                    “หมู่บ้านร้างเทียบชายป่าหลังเขตนู่น พอดีมันมันส์มือไปหน่อยก็เลยเกือบตายแน่ะ ฮ่าๆๆ”

                    “โห่ พี่ พวกผมเห็นภาพเลยเนี่ย”

                    “รู้สึกว่าจะรู้จักกับไอ้มาร์คและก็ไอ้ฮันบินพอสมควรนะ ตอนที่ให้ไอ้ซองยอลไปลากมาก็เห็นมันไปยืนอยู่หน้าบ้านไอ้ฮันบินด้วย คงจะอยู่ด้วยกันล่ะมั้ง

                    “แล้วนี่จินฮวานเห็นตัวยังล่ะ เห็นหมอนั่นอยากเจอใจจะขาด ไม่รู้ว่าอยากเจอหรืออยากชำแหละทิ้งกันแน่ ก็เล่นไปคาบคนที่ไอ้จินมันชอบมาเป็นคู่หมั้นซะอย่างนั้น ฮ่าๆ” จุนฮเวกำมือแน่นก่อนที่สองเท้าจะค่อยๆ ก้าวออกไปนอกโกดัง ยังไม่วายที่จื่อเทาจะหันมาเรียกน้องชาย

                    “จุนฮเว แกจะไปไหน”

                    “เดี๋ยวผมมาร่างสูงพูดแค่นั้นก่อนจะวิ่งเหยียบหิมะที่ค่อยๆ ตกลงมา ยังดีที่มีโค้ทตัวหนาคลุมอยู่ไม่งั้นก็ไม่รู้ว่าจะไปแข็งตายตอนไหน

                    ...ฉันเข้าใจนายแล้วแบมแบม...

                   

    แล้วทำไมนายถึงถามฉันเรื่องนี้ล่ะ?’

                    ‘เปล่าหรอก...ฉันก็แค่คิดว่า...ถ้าเลือกที่จะหนีออกมา ฉันจะเสียใจในภายหลังรึเปล่าถ้ารู้ว่ายังไงก็ต้องกลับไป...และอาจจะไม่ได้ออกมาอีก

                    ‘…’

     

                    ...คำถามนั่นที่นายถามฉัน...

     

                    ‘แต่นายก็ทำให้ฉันเข้าใจแล้วว่า ฉันเลือกถูกทางแล้ว

                    ‘…’

                    ‘ไม่รู้สึกเสียใจเลยจริงๆ ที่ได้มายืนอยู่ตรงนี้น่ะ ได้มาเจอคนแบบยูค แบบนาย ถึงต้องกลับไป ฉันก็ไม่เสียใจเลยจริงๆ

     

                    …นายหนีออกมาจากเขต 7 ใช่มั้ยแบมแบม...


     

     

     

                    แบมแบมเดินเกาะตามต้นไม้ในป่าไปเรื่อยๆ ฟ้ามืดหมดแล้วทำให้เขามองไม่เห็นอะไรเลย หิมะก็ตกลงมาทำให้คนตัวเล็กรู้สึกสั่นสะท้านไปทั่วร่าง รองเท้าผ้าใบสีขาวราคาแพงชุ่มไปด้วยเลือด ใบหน้าที่เคยอมชมพูซีดลงจนแทบไร้สีเลือด

                    ...ไม่เคยรู้สึกเหมือนว่ากำลังจะตายได้ขนาดนี้เลยในชีวิต...

                    คนตัวบางเดินไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมายจนกระทั่งเขาเห็นคนกลุ่มหนึ่งถือไฟฉายส่องไปมาประมาณเกือบสิบคนได้ ร่างบางยิ้มอย่างมีหวัง ขาเรียวค่อยๆ ก้าวเข้าไปใกล้ๆ จนกระทั่งหยุดชะงักลงเมื่อได้ยินประโยคถัดมา

                    ฉันเห็นมันเข้ามาในป่านี่ รีบหาก่อนที่หัวหน้าจะรู้ว่ามันหลุดมาดีกว่า

                    แบมแบมค่อยๆ ก้าวเท้าถอยหลังแล้วออกแรงกึ่งวิ่งกึ่งเดินออกมาให้ไกลจากกลุ่มคนตรงนั้นที่ค่อยๆ กระจายกำลังกันหาใครสักคน

                    และคนๆ นั้นก็คือเขาไง...

                    แบมแบมรู้สึกเหมือนเขาเป็นกวางเพียงตัวเดียวในป่านี้และกำลังหนีนายพรานล่าสัตว์ก็ไม่ปาน อยากจะหยุดพักแต่ก็หนีมาได้ไม่ไกลพอ

                    ...เหนื่อย ทำไมถึงเหนื่อยได้ขนาดนี้...

                    ...ผมเดินต่อไปไม่ไหวแล้วนะ...

                    ในระหว่างที่แบมแบมกำลังจะล้มลงกลับมีมือเรียวยาวของใครบางคนฉุดเขาให้ยืนขึ้น แบมแบมเงยหน้ามองเจ้าของมือนั่นที่ยื่นมาช่วยเขาก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ

                    ทำไมนายมาอยู่ตรงนี้ล่ะ

                    “คุณหมอ...ดงฮยอก

                    “แล้วทำไมสภาพเละเทะขนาดนี้ ใครทำอะไรนายกะ...”

                    ฟุ่บ!

                    “ฮึก...ดีใจจังเลยดงฮยอกยืนนิ่งเมื่ออีกคนทิ้งน้ำหนักตัวกอดเขา ตัวของแบมแบมเย็นเฉียบ ผิวซีดเพราะเสียเลือดมาก ดงฮยอกเรียกชื่อคนตรงหน้าอีกครั้งแต่ก็ไม่มีท่าทีว่าแบมแบมจะได้ยินเขาสักนิด ร่างบางในอ้อมกอดแน่นิ่งไปไม่ขยับเขยื้อน

                    เมื่อสัญชาตญาณควบคุมจิตวิญญาณ คุณหมอก็รีบแบกอีกคนขึ้นบ่าแล้วออกจากป่า ตรงดิ่งไปที่กระท่อมคลินิกของเขาที่อยู่ใกล้ๆ ทันที

     

    [Spoil]

                “นายจะทำอะไร”

                “ก็พามันกลับไปบ้านไง

                “อย่ามาเรียกแบมแบมว่า ‘มัน’

                “นั่นมันสิทธิ์ของฉัน”

                “นายไม่เคยมีสิทธิ์ คิมฮันบิน กลับไปอยู่กับคนโสโครกๆ ของนายซะ จะได้ไม่ต้องบ่นเวลาแบมแบมไปอยู่บ้านนายอีก”

                “…”

                “ต่อจากนี้ไป ฉันจะเป็นคนดูแลเขาเอง

    © themy butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×