ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic GOT7] Forsaken Area [MarkBam][BIBam]

    ลำดับตอนที่ #6 : FSK : 5 [100%]

    • อัปเดตล่าสุด 11 ม.ค. 58


    5

     

                    โว้ยยยยยย!! อยู่ไหนวะเนี่ย?!!”

                    เอกสารและแฟ้มต่างๆ ถูกมือหนากวาดลงพื้นจนหมด อิมแจบอมขยี้ผมสีดำของตัวเองแล้วเอามือปิดหน้าอย่างสงบอารมณ์...2 วันแล้ว แบมแบมหายไปสองวันแล้ว น้องชายสุดหวงที่ไม่เคยปล่อยให้ห่างจากอ้อมแขนตอนนี้ไม่อยู่ที่นี่แล้ว เขาแทบช็อกตอนที่เปิดประตูออกแล้วไม่พบคนตัวบางนอนอยู่บนเตียง น้องชายสุดหวงหายไปแล้ว!!

                    ใจเย็นๆ สิ เจบี

                    “ใจเย็นเหรอเนียร์? ส่งคนไปหาตั้งสองวันแล้วยังหาไม่เจอ ไอ้พวกเขต 1 มันทำอะไรอยู่วะ?! น้องฉันหายไปแล้วนะโว้ย!!” อิมแจบอมเดินวนไปวนมาราวกับคนบ้า หากใครได้มาเห็นสภาพกษัตริย์เขต 7 ในตอนนี้คงจะสมเพชกันน่าดู ใบหน้าหล่อในตอนนี้เริ่มมีถุงใต้ตา ผมสีดำเป็นทรงถูกทำให้ยุ่งเหยิง ห้องทำงานเละเทะไปด้วยของต่างๆ นานาที่เขาเพิ่งกวาดตกลงจากโต๊ะ พร้อมกับเอกสารหลายแผ่นที่กระจุยกระจายไปทั่ว

                    ฉันรู้แล้ว! แต่จะให้มาทำตัวเสียสติแบบนายมันจะไปได้อะไรขึ้นมา เป็นกษัตริย์ก็ควรจะทำตัวให้สมกับเป็นกษัตริย์ เพราะฉะนั้นก็ใจเย็นก่อน แล้วค่อยๆ คิดจินยองที่นั่งอยู่อีกมุมหนึ่งของห้องพูดขึ้น คิ้วสวยกดต่ำลงบ่งบอกว่าเขาเองก็เครียดไม่ต่างกัน

                    อิมแจบอมเงียบไปสักพัก ก่อนที่ร่างสูงจะถอนหายใจออกมา กษัตริย์เขต 7 เดินไปหยิบกระดาษที่ไว้ใช้เขียนจดหมายที่กองอยู่บนพื้นขึ้นมา เขาเริ่มเขียนจดหมายฉบับที่ 2 ของวันนี้ ปากกาขนนกตวัดชื่อผู้รับแล้วหันมามองพี่คนรอง

                    ครั้งสุดท้ายแล้วนะ...จูเนียร์

                    “…”

                    “ถ้าครั้งนี้ยังหาไม่เจออีก ฉันจะเป็นคนออกไปเอง

                    สายตาคมมองอีกคนอย่างจริงจัง อิมแจบอมเดินออกจากห้องไปพร้อมกับจดหมายซองสีขาวในมือ ที่มีจ่าหน้าซองเป็นตราประจำเขต 7 และตัวหนังสือสวยที่เขียนเอาไว้

     

                    ถึงประธานาธิบดีเขต 5

                                                    มิโน

     

     

     

     

                    ร่างบางกระพริบตาถี่ๆ เมื่อมีแสงจากหน้าต่างเข้าแยงตา แบมแบมค่อยๆ ดันตัวขึ้นจากเตียงนอน คนตัวเล็กขมวดคิ้วเมื่อเห็นรอยยับบนเตียงข้างๆ เขา แสดงว่าเมื่อคืนนี้คิมฮันบินมานอนกับเขางั้นเหรอ...เฮ้ยๆ! อะไรๆ ไม่ๆๆ คิดอะไรอยู่วะแบม? เขาก็แค่กอดปลอบเราเพราะเราเอาแต่ร้องไห้ต่างหาก

                    แบมแบมค่อยๆ ลุกขึ้นยืน เขารู้สึกมึนๆ ง่วงๆ แปลกๆ คนตัวเล็กค่อยๆ เดินออกจากห้องนอน แล้วไปหยุดยืนอยู่หน้าห้องน้ำ ท้องเจ้ากรรมก็ดันร้องขึ้นมาเสียดื้อๆ แบมแบมตัดสินใจค้นอาหารในตู้เย็นก่อนจะพบกับสิ่งๆ หนึ่งที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน ตากลมกระพริบปริบๆ แล้วหยิบมันขึ้นมา

                    ยะ...โย อ่านว่าอะไรอ่ะ? Yogurt โยกรัต? โยกรัตคือไรอ่ะ?” แบมแบมพลิกถ้วยโยเกิร์ตไปมา แล้ววางมันไว้บนโต๊ะก่อนจะหาอะไรบางอย่างเพิ่มเพื่อกระเพาะของเขา

                    โอ๊ะ! นี่มัน...โกโก้ครั้นช์!!” แบมแบมตาแวววาวทันทีที่สิ่งที่หยิบออกมาคือถุงกระดาษที่มีมาสคอตหมีโคอะล่าสีเหลืองกำลังกินซีเรียลโกโก้อยู่พลางยิ้มแฉ่ง แบมแบมจำได้ว่าเขาเคยกินบ่อยตอนเป็นเด็ก

                    ไม่มีนมรึไงนะ?” คนตัวเล็กควานหานมในตู้เย็นแต่ก็ไม่พบ แบมแบมตัดใจแล้วถือโกโก้ครั้นช์กับโยเกิร์ตออกไป ร่างบางนั่งลงบนโซฟาหน้าเตาผิง พร้อมกับเทโกโก้ครั้นช์ลงไปในโยเกิร์ต

                    พี่บีเคยบอกว่าโกโก้ครั้นช์กินกับอะไรก็อร่อย กินกับโยกรัตนี่ก็น่าจะอร่อยเหมือนกันนะ

                    ...เค้าเชื่อในทฤษฎีของตัวนะบี!...

                    แกรก

                    แบมแบมหันไปมองที่ประตูหน้าบ้าน คิมฮันบินนั่นเองที่เดินเข้ามา ร่างโปร่งของผู้หมวดเดินผ่านหน้าแบมแบมไปทางห้องครัว แล้ววนกลับมาเตรียมจะไปนั่งประจำมุมเดิม แต่ฮันบินกลับชะงักแล้วหันมาถามแบมแบม

                    นั่นอะไรมองถ้วยโยเกิร์ตในมือแบมแบมที่มีโกโก้ครั้นช์ผสมอยู่ คนตัวเล็กยิ้มกว้างก่อนจะตอบอย่างหน้าตาชื่นบาน

                    โกโก้ครั้นช์กับโยกรัตไงฮะ!”

                    คิมฮันบินคิ้วกระตุก ร่างโปร่งลองถามอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจในคำตอบ

                    นายว่าไงนะ?”

                    “โกโก้ครั้นช์ กับ โย-กรัตคนตัวเล็กมองคำภาษาอังกฤษข้างถ้วยโยเกิร์ตพลางกระพริบตาปริบๆ จนคิมฮันบินเผลอหลุดหัวเราะในลำคอ

                    ...คนบ้าอะไรไม่รู้จักโยเกิร์ต...

                    ฮยองหัวเราะอะไร แบมได้ยินนะแบมแบมขมวดคิ้วมุ่น เบ้ปากใส่ฮันบิน

                    ร่างโปร่งเดินมานั่งที่โซฟาหนังตรงข้ามกับแบมแบม ก่อนจะพูดคำๆ หนึ่งออกมา

                    โยเกิร์ต

                    “หืม?”

                    “นั่นเรียกว่าโยเกิร์ตต่างหาก แบมแบม

                    ตะ...แต่ g-u-r-t อ่านว่า กรัต ไม่ใช่เหรอฮันบินฮยอง?” ร่างบางยังคงข้องใจไม่หายพลางจ้องมองถ้วยโยเกิร์ต

                    งั้นนายก็ลองไปพูดกับแม่ค้าสิว่า ผมต้องการโยกรัต’”

                    “แล้วมันทำไมเหรอฮะ?”

                    “แล้วแม่ค้าก็จะยื่นอีโต้มาให้นายแทนแบมแบมหน้าเหวอมองคิมฮันบินโดยอัตโนมัติ ฮันบินหลุดหัวเราะให้กับท่าทางแบบนั้นจนแบมแบมที่รู้ตัวมองที่ร่างโปร่งอย่างอึ้งๆ

                    ฮะ...ฮันบินฮยอง

                    “อะไร?”

                    “ฮยองหัวเราะแล้ว! ไม่น่าเชื่อ แบมแบมยังคงอึ้งไม่หาย ในขณะที่คิมฮันบินที่พึ่งจะรู้ตัวหุบยิ้มลง ผู้หมวดทำอะไรไม่ถูกหยิบโยเกิร์ตโกโก้ครั้นช์ของแบมแบมขึ้นกินเฉย

                    อ๊ะ! ฮยอง! นั่นของแบมนะ

                    “ไปทำใหม่เอาเองสิพูดแล้วกินต่อไปอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร แบมแบมบ่นขมุบขมิบ แต่ก็ยอมเดินไปที่หลังครัวทิ้งคิมฮันบินหัวขโมยโยเกิร์ตโกโก้ครั้นช์อาหารเช้าของแบมแบมไว้

                    ร่างโปร่งเงยหน้าขึ้นมา หันมองไปที่กระจกเหนือเตาผิงแล้วก็รีบก้มหน้า

                    ...ให้ตาย...คิมฮันบินหน้าแดง...

                    ฮันบินฮยองฮะ!” เจ้าของชื่อสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อได้ยินเสียงแบมแบมตะโกนมาจากในครัว

                    อะไร

                    “ฮยองเห็นยูคยอมบ้างรึเปล่า? ตื่นขึ้นมาแบมก็ไม่เห็นใครเลย ประโยคข้างหน้าเป็นคำถาม ส่วนประโยคหลังออกจะงอนๆ เพราะทุกคนทิ้งให้เขาอยู่คนเดียวโดยไม่บอกกล่าวอะไรสักคำ

                    ยูคยอมไปบ้านเพื่อนที่ Deer Path” ฮันบินตอบก่อนจะก้มลงกินโกโก้ครั้นช์ต่อ ยังไม่วายที่จะถามประโยคที่ทำให้แบมแบมติดสตั้นส์ไป 3 วิ แล้วนายจะกลับเมื่อไหร่ล่?”

                    แบมแบมยิ้มแหยๆ อย่างนึกคำพูดไม่ออก ไอ้ที่ว่าอยากกลับก็อยากกลับนะ เพราะเขาคิดถึงพี่บีกับเนียร์ฮยองมากกกก แต่อีกใจหนึ่งมันก็กลัวว่าถ้าเขากลับไปแล้วพี่บีจะโกรธเขา แล้วลงโทษไม่ให้เห็นโลกภายนอกได้อีก

                    ซึ่งแบมรับไม่ได้อย่างแรง!!!...

                    “เอ่อ…วันนี้ก็ได้นะครับ แบมก็ไม่อยากรบกวนมาก

                    “งั้นก็ดี เก็บของใส่กระเป๋าซะนี่ไม่คิดจะรั้งเลเหรอ T^T แบมดูไม่น่าสงสารเลยเหรอไง

                    คะครับแบมแบมเดินออกมาจากห้องครัวแล้วทำท่าเหมือนจะเปิดประตูเข้าไปเก็บของในห้องของฮันบินที่ตัวเองนอนเมื่อคืน

                    นี่” TvT เห็นใจแบมแล้วใช่มั้ย? แบมน่าสงสารจะตายบอกแล้ว

                    ครับ ฮยอง?”…หันไปทำตาวิ้งๆ ใส่

                    “หิวไม่ใช่เหรอไง ไปหาอะไรกินก่อนไปแล้วค่อยกลับ” แหม่...นี่มันถ่วงเวลาชัดๆ เลยนี่หว่า T__T

     

     

     

     

                    แบมแบมเดินออกมาเลือกซื้อนู่นซื้อนี่กับฮันบิน คนตัวเล็กดูร่าเริงทุกครั้งที่หยิบตะไคร้ขึ้นมาถูหน้า หรือหยิบนู่นหยิบนี่ขึ้นมาเล่นจนฮันบินเหนื่อยใจ แต่ดูเหมือนพวกแม่ค้าจะชอบแบมแบมที่เป็นแบบนั้น เพียงวันเดียวก็มีแม่ค้าในตลาดรู้จักแบมแบมมากขึ้นเกือบหมดทุกร้าน

                    แหม แบมรู้ว่าแบมหล่อ แบมป๊อป มีแต่คนอยากรุมล้อม

                    นี่นายเลิกหยิบนู่นจับนี่ได้แล้วฮันบินกระซิบบอกแบมแบม แต่ดูเหมือนเสียงทุ้มที่ควรดูน่าเกรงขามกลับไม่ได้ทำให้แบมแบมรู้สึกกลัวเลยแม้แต่น้อย

                    ฮันบินฮยองแบมอยากได้ตะไคร้คนตัวเล็กหันมาเขย่าแขนผู้ปกครอง(?)ชั่วคราว คิมฮันบินก็ไม่ได้มีท่าทีใจอ่อนแต่อย่างใด ร่างสูงเกือบจะระเบิดตัวเองเพราะรำคาญเสียงขอนู่นขอนี่ของแบมแบม

                    นายไม่ใช่มิกุนะแบมแบม!...

                    “นายจะเอาตะไคร้ไปทำอะไร

                    “แบมว่ามันน่ารักดีคิมฮันบินขมวดคิ้วอย่างงงๆ แบมแบมทำเหมือนกับว่าเขาเป็นมัคคุเทศน์พาทัวร์ตลาดอย่างไรอย่างนั้น ที่น่าตกใจก็คือเด็กนี่ดูไร้เดียงสาเกินเหตุ ราวกับไม่ค่อยได้พบเจอสิ่งรอบตัวมาก่อน

                    อ่าแบมไม่เอาแล้วก็ได้ แบมแบมปล่อยมือออกจากแขนของฮันบิน ก่อนที่ร่างเล็กจะออกเดินไปก่อนทิ้งให้คิมฮันบินยืนงงอยู่ตรงนั้นและจมอยู่กับความคิดของตัวเองไปพักใหญ่ ผู้หมวดเขต 5 จึงเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าเขาควรเดินตามแบมแบมไป

                    แต่ดูเหมือนจะไม่ง่ายขนาดนั้น….

                    คิมฮันบินชะเง้อมองหาแบมแบมที่เขาเผลอปล่อยให้คลาดสายตาไป ร่างสูงเดินไปเกือบจะทั่วตลาดแต่ก็ไม่พบแม้แต่เงาของไอ้เด็กติดตะไคร้นั่นเลย

                    ไปอยู่ไหนของนายเนี่ยแบมแบม

     

     

     

     

                    “แฮกแฮกคะ คงไม่เป็นอะไรแล้วมั้ง

                    ผู้พันมาร์คปล่อยมือของแบมแบมให้เป็นอิสระหลังจากวิ่งเผ่นอันธพาลเหนือกฎหมายในตลาด เหตุเพราะแบมแบมดันเดินไม่ดูทางไปชนเข้าทำให้พวกนั้นอารมณ์เสียแล้ววิ่งตาม

                    ยังดีที่มาร์คฮยองอยู่แถวนั้นพอดี

                    “ขอบคุณมากนะฮะมาร์คฮยอง

                    “ไม่เป็นไรหรอก ก็ดีแล้วที่นายไม่เป็นไร” …แบมขอคิด(ไปเอง)ว่ามาร์คฮยองเป็นห่วงได้มั้ย >///< อร๊ายยย

                    แล้วทำไมถึงไปเดินในตลาดคนเดียวล่ะ คิมยูคยอมไม่ได้มาด้วยเหรอ?” มาร์คถามคนที่ลากมาด้วยก่อนจะค่อยๆ นั่งลงบนม้านั่งในสวนสาธารณะ

                    ยูคไปหาเพื่อนที่ Deer Path น่ะฮะ แล้วแบมก็ไม่ได้มาคนเดียวซะหน่อย…” แบมแบมเงียบไปก่อนจะมองหาคนรอบตัว คนตัวเล็กชะงักไปก่อนที่จะพูดออกมา ฮะฮันบินฮยอง”

                    นายมากับคิมฮันบินเหรอ?”

                    ครับ ก่อนหน้านั้นฮันบินฮยองยังเดินตามแบมอยู่เลย สงสัยคลาดกันตอนหนีพวกนั้นมามาร์คมองหน้าแบมแบมที่ทำเหมือนกับว่าจะร้องไห้อยู่รอมร่อ ไม่รู้ว่าเหตุผลที่จะร้องไห้นี่เพราะกลัวคิมฮันบินดุ หรือว่าเพราะไม่มีคนๆ นั้นอยู่ข้างๆ กันแน่

                    ...คิดอะไรอยู่วะมาร์ค...

                    คิมฮันบินคงไม่ว่าอะไรหรอก นายวางใจได้

                    “แต่ฮยองเค้าเข้มงวดจะตาย แบมว่าตอนนี้ฮันบินฮยองต้องโกรธอยู่แน่ๆ เลยอ่ะมาร์คฮยอง...แบมแบมขยี้หัวของตัวเองจนมันยุ่งเหยิง ในขณะที่คนตัวเล็กทำท่าจะเป็นจะตาย มาร์คกลับกลั้นยิ้มและเสียงหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่

                    ย่าห์...มันไม่ตลกเลยนะ มาร์คฮยอง TT”

                    เอาน่า นายเลิกเครียดได้แล้ว เอางี้...นายอยากหายเครียดมั้ย?”

                    “ก็อยากอยู่นะมาร์คฮยอง...แต่ฮันบินฮยอง...

                    “เลิกพูดแบบนั้นสักทีเถอะแบมแบมมาร์คถอนหายใจก่อนที่จะคว้ามือของแบมแบมแล้วลากไปทางอื่นที่ไม่ใช่ทางกลับเข้าตลาด ร่างบางมองแผ่นหลังของร่างสูงอย่างงงๆ แล้วถามคนข้างหน้าที่ลากเขาอยู่

                    มาร์คฮยองจะพาแบมไปไหนครับ?”

                    ฮันนี่โทสต์

                    “หือ?”

                    “ฉันจะพานายไปกินคลายเครียดไงล่ะ แล้วก็เลิกพูดถึงคิมฮันบินสักที หมอนั่นไม่โกรธนายหรอก

                    แบมแบมเงียบไปสักพัก เขาเดินตามมาร์คไปพลางคิดไปด้วย...ก็คงจะจริงอย่างนั้นแหละ คิมฮันบินก็ไม่ได้อะไรกับเขาสักเท่าไหร่เลยกลับกันอยากไล่เขาไปไกลๆ เสียมากกว่า แถมยังชอบเมินเขา แล้วทำเหมือนกับว่าเขาไม่มีตัวตนอีกต่างหาก

                    ...คิดๆ แล้วมันน่างอนจริงๆ -*- ฮันบินฮยองก็ฮันบินฮยองเถอะ ที่รู้ๆ ตอนนี้แบมโกรธมากเลยขอบอก...

                    วันนี้มาร์คฮยองว่างใช่มั้ย?”

                    “ก็คงว่าง...ทำไมเหรอ?”

                    “วันนี้ขอแบมอยู่กับมาร์คฮยองทั้งวันเลยได้มั้ย

                    “ห๊ะ?!”

                    “ก็แบมไม่มีเพื่อน ยูคยอมก็เอาแต่ไปอยู่กับเพื่อนที่ Deer Path แล้วแบมก็ไม่มีเพื่อนคนไหนด้วย ให้แบมไปกับมาร์คฮยองนะ นะๆๆๆแบมแบมปล่อยมือที่มาร์คจับออกก่อนจะวิ่งตรงไปข้างหน้าของผู้พันหน้าหล่อแล้วผสานมือขอร้อง

                    ก็...เอ่อ...

                    “(Q/\Q)”

                    “เอางั้นก็ได้ทันทีที่จบคำพูดของผู้พันมาร์คแบมแบมก็วิ่งเข้าเกาะแขนผู้พันหน้าหล่อทันที

                    มาร์คฮยองน่ารักที่สุดเลย

                    ...ให้ตายเถอะแบมแบม ความจริงนายเป็นเด็กขี้อ้อนขนาดนี้เลยรึไงนะ...

     

     

     

     

                    แบมชอบไอศกรีมวนิลา~”

                    มาร์คมองแบมแบมที่กำลังกินฮันนี่โทสต์อยู่ตรงหน้าเขา ถ้าแบมแบมบอกว่าชอบไอศกรีมรสวนิลามันก็ไม่ได้แปลกอะไร ที่แปลกน่ะมันก่อนหน้านี้ต่างหาก...มาร์คถึงกลับกินจุดเมื่อฮันนี่โทสต์มาเสริฟตรงหน้าแบมแบมแล้วคนตัวเล็กข้างหน้านี่ถามเขาว่าไอ้หวานๆ เย็นๆ นี่มันอะไร? แถมแบมแบมยังถามเขาด้วยหน้าตาแสนไร้เดียงสาที่บ่งบอกถึงความไม่รู้อย่างถ่องแท้แล้วยิ่งทำให้ผู้พันมาร์คได้แต่ยิ้มแล้วตอบออกมา

                    ...เด็กนี่มันแปลกของแท้...

                    นายอยากกินอะไรอีกมั้ย?”

                    แบมว่าแบมคงอิ่มแล้วล่ะ ขอบคุณมาร์คฮยองมากเลยนะครับที่เลี้ยง แบมแบมยิ้มให้ผู้พันมาร์คที่เท้าคางมองเขา

                    แล้วนายจะมาอยู่ที่นี่แบบถาวรเลยรึเปล่า?” คำถามของผู้พันตรงหน้าทำให้แบมแบมอึกอักที่จะตอบ ร่างบางคิดในใจอยู่พักนึง แล้วมองหน้ามาร์ค

                    แบมก็ไม่รู้ว่าจะกลับตอนไหน แต่คงมีสักวันที่ต้องกลับไปแน่ๆ...ซึ่งแบมก็ยังไม่พร้อม

                    “…”

                    แต่ถึงอย่างนั้นก็อยากใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุดกับที่นี่น่ะฮะมาร์คมองแบมแบมที่ยิ้มให้เขา นัยน์ตากลมโตนั่นแสดงความเสียใจเล็กน้อยรวมถึงความกลัวที่เหมือนแบมแบมจะไม่สามารถปิดบังมันได้

                    มาร์คยื่นมือออกไปก่อนจะวางมันลงบนหัวคนตัวเล็กพลางลูบเบาๆ แบมแบมมองผู้พันหน้าหล่อตรงหน้าอย่างงงๆ บอกตามตรงเลยว่าเขาไม่กล้าขยับตัวเลยแม้แต่น้อย

                    นายพูดเหมือนจะไปตายอย่างนั้นแหละ

                    แบมก็คิดว่าอาจจะเป็นอย่างนั้น

                    นายจะไม่มีวันตายแบมแบม

                    เอ๋?”

                    เพราะฉันจะปกป้องนายเอง

                    แบมแบมมองคนตรงหน้าที่มองมาทางเขา นัยน์ตาคมนั่นสะท้อนภาพของเขายิ่งทำให้หัวใจดวงน้อยสั่นระรัว รู้สึกเหมือนหน้าจะเห่อร้อนขึ้นมา คำพูดที่อยากจะพูดก่อนหน้านั้นมลายหายไปหมด ราวกับว่าตรงนี้มีแค่เขากับมาร์คเท่านั้น

                    ...ความรู้สึกนี้มันช่างอบอุ่น...

                    ล้อเล่นน่ะ

                    ...อ่าว

                    ฉันต้องปกป้องคนทั้งเขต จะให้ไปปกป้องนายคนเดียวก็ดูจะลำเอียงเกินไปแบมแบมจับมือมาร์คที่ลูบผมเขาออก ใบหน้าน่ารักเกิดตึงขึ้นมาทันที รู้แค่ว่าตอนนี้แบมแบมไม่อยากจะมองหน้าคนตรงหน้าเลย

                    ...T^T มันเสียความรู้สึกนะมาร์คฮยอง...

                    แต่นายจะเป็นหนึ่งในคนทั้งเขตนะ

                    ...เชอะ! -^- มันไม่น่าดีใจเลยสักนิดเดียว...

                    ฮ่าๆ อย่าทำหน้าแบบนั้นสิตลกชะมัด

                    มาร์คฮยองออกไปรอหน้าร้านเลยนะ แบมจะไปเข้าห้องน้ำ -_-” แบมแบมลุกออกมาจากโต๊ะ โดยที่ไม่ฟังผู้พันหน้าหล่อพูดเลยสักคำ รมณ์บ่จอยค่ะ รมณ์บ่จอยยยย!! T_T ทีหลังก็ไม่ต้องมาพูดให้รู้สึกดีแบบนั้นก็ได้ป่ะ เชอะ! ไม่จำเป็นต้องมีมาร์คฮยองมาปกป้องก็ได้! -^- อย่างน้อยก็มีคนที่พร้อมจะปกป้องแบมในฐานะคนพิเศษอยู่แล้วล่ะน่า! มีทั้งพี่บี เนียร์ฮยอง จองกุก!

                    ...แต่มันไม่เหมือนกันนี่หน่า T_T ไม่เห็นจะรู้สึกดีใจสักเท่าไหร่เลย...

                    ปัง!! ปังๆๆ!!”

                    กรี๊ดดดดดดดดดดดด!!~”

                    แบมแบมสะดุ้งเฮือกทันที เขาได้ยินเสียงปืนจากข้างนอกนี่ ร่างบางค่อยๆ เปิดประตูห้องน้ำออกอย่างช้าๆ ก่อนที่จะพบว่าภายในร้านนั้นไม่มีผู้คนอยู่เลย กระจกที่เคยสวยงามนั้นแตกกระจาย มีร่องรอยของการถูกยิงและรอยกระสุนอยู่มาก แต่ไม่มีรอยเลือดหรือกลิ่นคาวแต่อย่างใด

                    คนตัวเล็กเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นเหตุการณ์ข้างนอก กลุ่มของคนขี่ม้าที่เข้ามาทำร้ายประชาชนทำให้แบมแบมมือไม้สั่นไปหมด เขาขยับขาไม่ออก แต่รู้แค่ว่าต้องถอยกลับเข้าไปในห้องน้ำ อีกใจหนึ่งก็เรียกร้องอยากจะเจอคนที่สามารถปลอบเขาไม่ให้รู้สึกกลัวได้

                    ...มาร์คฮยอง..มาร์คฮยองไปไหน...

                    แบมแบมยืนตัวสั่นอยู่ตรงนั้นแต่น้ำตาของเขาไม่ได้ไหล เขากลัวก็จริงแต่ร้องไห้และขยับตัวออกไปไม่ได้ ไม่รู้แม้กระทั่งเสียงฝีเท้าที่กำลังคลืบคลานเข้ามาใกล้ๆ จากหน้าประตูของร้าน

                    อยู่นิ่งๆ แล้วมากับฉันซะ...นายจะได้ไม่เจ็บตัว

                    คะ...คุณเป็นใคร?”

                    นายไม่รู้จักฉันเหรอ?! เฮอะ! เอาเถอะมันไม่จำเป็นอยู่แล้วคนตัวสูงข้างหน้าเขาย่างเท้าเข้ามาใกล้ๆ มัจจุราชสีเงินวาวหนึ่งกระบอกในมือของเขาทำให้แบมแบมตาพร่าเลือนไปหมด

                    ...ฮึก...อย่าทำอะไรผมนะขาเรียวค่อยๆ ขยับถอยหลังช้าๆ ด้วยความกลัว จุดจบของเขามันจะจบลงตรงนี้ใช่มั้ย? จบเหมือนท่านแม่ของเขาที่ถูกลอบสังหาร เหมือนกับท่านพ่อที่ตายในสงคราม นี่เขายังไม่ได้บอกลงพี่บีกับเนียร์ฮยองเลยนะ...

                    อย่าร้องไห้สิ แค่นายอยู่เฉยๆ แล้วอย่า...เฮ้ย!”

                    ร่างสูงที่กำลังเดินเข้าใกล้เหยื่อถึงกลับเหวอทันทีที่ร่างบางตรงหน้ากลับเป็นลมเซมาทางเขาขึ้นมาซะงั้น สัญชาตญาณมันบอกว่าควรรับร่างที่ไม่มีสติเอาไว้ เขาเลยกอดหมับเข้าอย่างจัง

                    ...ว่าแต่ตัวหมอนี่นุ่มจังเลยแฮะ...

                     เฮ้ย! คิดอะไรอยู่วะ กูจุนฮเว’”

                    จุนฮเวเก็บปืนลงกระเป๋ากางเกงข้างขวาก่อนจะแบกแบมแบมขึ้นหลังในท่าขี่คอแล้วเดินออกจากร้านไป ในใจก็นึกสงสารคนที่เขาแบกมา

                    โทษทีนะ ที่ต้องจับตัวไปแบบนี้ก็มันเป็นหน้าที่ของ ขโมยแบบฉันนี่จุนฮเวถอนหายใจ ร่างสูงกระชับแบมแบมให้แนบหลังเขามากขึ้นเพราะกลัวว่าคนตัวเล็กจะตกลงไป

                    นี่เห็นว่าตัวเล็กฉันเลยแบกหรอกนะ ถ้าเป็นปกตินี่ลากไปนานแล้ว ขอบอก...ว่าแต่ทำไมมันหนักจังวะ

                    กูจุนฮเวบ่นกระปอดกระแปดอยู่คนเดียว...หน้าที่ของเขาคือจับคนไปเรียกค่าไถ่...โคตรจะเป็นอาชีพที่ไม่สุจริตและเสี่ยงต่อคุกมากมายมหาศาล  แต่ที่ไม่กลัวว่าจะถูกจับเพราะเขาทำงานกันเป็นทีม มีผู้ดี มีทหาร ก็ต้องมีผู้ร้าย มีขโมย ซึ่งคนเลวสมัยนี้ก็มีตั้งเยอะตั้งแยะ และจุนฮเวก็ยอมรับว่าเขาเป็นหนึ่งในนั้น

                    หวังว่านายจะมีประโยชน์กับฉันนะ นายเบาหวิวร่างสูงพูดกับคนบนหลังก่อนจะเดินทางไปเรื่อยๆ เพื่อไปยังแหล่งของทิฟ หรือก็คือแหล่งของพวกขโมยและเรียกค่าไถ่ทั้งหลายแหล่

                    ...หวังว่าวันนี้พวกพี่ๆ จะได้เหยื่อมาเยอะนะ...

     


     

                    แบมแบมค่อยๆ ปรือตาขึ้นช้าๆ ร่างบางนอนนิ่งสักพักเพื่อปรับโฟกัสให้สายตาชินกับแสงสีสลัวๆ ตรงหน้า คนตัวเล็กดันตัวเองขึ้นนั่งก่อนจะรู้สึกได้ถึงเศษดินเศษหินที่ติดอยู่ตามมือ แบมแบมขมวดคิ้วก่อนจะปัดมันออก นัยน์ตากลมโตมองไปรอบๆ ห้องเล็กๆ ที่ตนอยู่อย่างงงๆ

                    ...บร๊ะเจ้า ที่นี่ที่ไหนกันเนี่ย?...

                    กว่าจะตื่นนะนายเบาหวิว ฉันนึกว่าตายไปซะละร่างบางมองผู้มาเยือนใหม่ที่เดินผ่านประตูเข้ามาในห้อง คนตัวเล็กมองคนตรงหน้าอย่างพิจารณา

                    นี่มันคนที่เราเห็นก่อนจะสลบนี่!...

                    ยะ...อย่าเข้ามานะ!” แบมแบมถอยหลังกรูดจนหลังติดกับกำแพงอีกด้าน

                    นี่ฉันยังไม่ได้ทำอะไรนายเลยนะนายเบาหวิว

                    “แต่ก่อนหน้านั้นผมเห็นคุณถือปืนเข้ามาหาผม

                    “แต่ฉันก็ไม่ได้ยิงไม่ใช่รึไง?”

                    “นั่นไม่ใช่เพราะผมสลบไปก่อนหรอกเหรอ?” จุนฮเวกรอกตาขึ้นอย่างเบื่อหน่าย มันใช่เรื่องที่เขาจะต้องมาพูดคุยกับเหยื่อรึไงเนี่ย?

                    “นี่ฉันอุตส่าห์แบกนายมานะ ฉันไม่ฆ่านายหรอกน่า...อย่างมากก็แค่ขอของมีค่าสักชิ้นสองชิ้น หรือเหรียญเงินสักร้อยเหรียญน่ะนะ เหอะๆ

                    “…”

                    “เหนื่อยก็เหนื่อย...เหมื่อยก็เหมื่อย

                    “ผมไม่ได้ขอให้คุณแบกหนิ

                    “นายจะให้ฉันทิ้งนายไว้ตรงนั้นรึไง?!”

                    “ใช่ครับ

                    “…”

                    “…”

                    ...ขอเวลาเงิบสักสองบรรทัด...

                    อย่างแรกเลยนะนายเบาหวิว นายอายุ 17 ใช่มั้ย? เลิกใช้สรรพนามทางการอย่างนั้น แล้วเรียกฉันว่า นายแบบที่คนปกติเค้าเรียกกันได้แล้วจุนฮเวเดินไปนั่งลงบนโต๊ะที่มีโคมไฟตั้งอยู่หนึ่งตัว

                    แล้วคุณ...เอ่อ...นายพาฉันมาที่นี่ทำไม?”

                    “นายโง่รึไง? เป็นคนของเขต 5 ป่ะเนี่ย?”

                    แบมแบมเงียบไปสักพัก เขายังคงยืนขมวดคิ้วอยู่ที่เดิมจนจุนฮเวต้องถอนหายใจ ...นี่แบมโง่ตรงไหนเนี่ย? = = ทำไม He แกต้องทำท่าเอือมระอาขนาดนั้น

                    ...หมอนี่มันแปลก ทำไมถึงไม่รู้จัก กองกำลังโจรของเขต 5 กัน’ ?...

                    อ๋อ ฉันคิดออกละ นายคงไม่เคยโดนจับมาสินะนายเบาหวิว

                    “ฉันชื่อแบมแบม...

                    “โอเค...โอเค้...แบมแบม ตอนนี้เราเป็นเพื่อนกัน โอเคมั้ย?” จุนฮเวเดินเข้าไปใกล้กับมุมที่แบมแบมยืนอยู่ก่อนที่เขาจะยื่นมือออกไป ให้ตายเถอะ...จุนไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลยจริงๆ แต่เพื่อให้อีกคนไม่กลัวเขา ตอนนี้ก็ลูบหัวลูบหลังไปก่อนแล้วกัน

                    นายยังไม่ได้บอกชื่อฉัน

                    “ฉันชื่อกูจุนฮเว

                    “…”

                    “เคป๊ะ?”

                    “…”

                    “..?”

                    …เงียบนิ่ง สงบสยบไร้ความเคลื่อนไหว..แบบนี้ฉันเสียฟอร์มนะเว้ย!...

                    หมับ!

                    “นายคือเพื่อนคนที่ 2 ของฉัน! >_< ดีจัง!!!” แบมแบมคว้าหมับเข้าที่มือของร่างสูงตรงหน้าก่อนที่จะเขย่าๆ จนจุนฮเวปวดไหล่ไปหมด

                    ...มันเปลืองตัวให้เหยื่อเกินไปมั้ยเนี่ย?!...

                    ฉันขอคุยกับนายเหมือนที่คุยกับยูคได้มั้ย?”

                    “ยูค? ไอ้ยูคยอมน่ะเหรอ?!”

                    “ช่ายยยยย ที่สูงประมาณนายอ่ะจุนฮเวทำท่าคิดสักพักก่อนที่เขาจะโพล่งออกมา

                    ไม่!!”

                    “เอ๋?”

                    “ฉันไม่ยอมใช้สรรพนายเดียวกับไอ้หัวกัปปะนั่นหรอก!”

                    “ทำไมนายเรียกยูคแบบนั้นอ่า

                    “มันมีประวัติความเป็นมาและฉันก็ไม่อยากเล่า เข้าใจป่ะ?!!” จุนฮเวตะคอกเสียงดังใส่แบมแบมจนคนถูกกระทำขมวดคิ้วมุ่น ร่างบางถอยห่างจากอีกคนเล็กน้อยอย่างถือตัว

                    ...เชอะ! -3-* นิสัยไม่ดี...

                    นายต้องการอะไรจากฉันกันแน่? ไม่ได้ต้องการเป็นเพื่อนกับฉันหรอกใช่มั้ย

                    “ถามตรงดีนะ...ใช่ ฉันไม่ได้อยากเป็นเพื่อนกับนายแม้แต่นิดเดียว และก็ไม่ได้อยากคุยกับนายแม้แต่น้อยแบมแบมหน้าเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด เป็นครั้งแรกที่เขาโดนพูดแบบขวานผ่าซากใส่โดยที่คนตรงหน้าไม่คิดจะรักษาน้ำใจ หรือเกรงใจอะไรเลย

                    ...ไม่ได้นะแบม! ต้องเข็มแข็งดิ ต้องเป็นคนเข็มแข็งตามที่พี่บีบอก...

                    แล้วนายพาฉันมาที่นี่ทำไม? ตอบมาดีๆ ตามความจริง

                    “แน่นอนว่าต้องเรียกค่าไถ่ แต่ถ้ามีสมาชิกคนไหนในทิฟ(กองกำลังโจร)ของเราถูกใจนาย มันก็อาจจะมีอะไรมากกว่านั้น คาดว่านายอาจจะไม่มีอิสระไปตลอดชีวิตกูจุนฮเวยกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นสีหน้าตกใจและกังวลที่ปิดไม่มิดของแบมแบม

                    พวกนายมีอยู่กี่คนอ่ะ?”

                    “นี่นายเบาหวิว...ถามมาโจ่งแจ้งขนาดนี้นายคิดว่าฉันจะบอกรึไง? ใบ้ให้ก็ได้ว่าเยอะมากกกกก

                    “เยอะเหรอ? แค่คนเรียกค่าไถ่นี่เยอะมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”

                    “จะขโมย จะคนเรียกค่าไถ่ จะฆาตรกร มันก็เลวเหมือนกันหมดนั่นแหละ เค้าก็จับมือ Check Hand ร่วมมือกันได้อยู่แล้ว

                    “ขี้โม้อ่ะ...

                    “ห๊ะ?! ว่าไงนะยังไม่ทันที่กูจุนฮเวจะได้บ่นอะไรมากมาย เสียงประตูเหล็กที่ถูกเปิดออกก็ทำให้ทั้งสองคนในห้องหันไปมอง ปรากฎให้เห็นใบหน้าหล่อของผู้ชายอายุราวๆ 18 สายตาทื่อๆ และนัยน์ตาทื่อๆ ที่ดูเหมือนไม่ค่อยแคร์โลกสักเท่าไหร่มองไปที่กูจุนฮเว

                    ได้เวลาพาเหยื่อออกไปแล้วไอ้จุน

                    “เออ จะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ

                    “ความจริงกูไม่คิดที่จะเอื้อมมือเปิดประตูห้องมึงให้เสียเวลาหรอกนะ แต่ไม่น่าเชื่อว่าคนอย่างมึงจะได้เหยื่อมากับเขาด้วย...ตั้งคนนึง

                    “มึงหุบปากไปเลย นัมแทฮยอน!’” นัมแทฮยอนไม่ได้สนใจเพื่อนร่วมเครือข่ายที่กำลังบ่นกระปอดกระแปด เขาหันไปคุยกับแบมแบมที่มองเขาอย่างงงๆ แทน

                    นี่นายไปพลาดอีท่าไหนมาถึงได้ให้หมอนี่จับตัวมาได้ง่ายๆ กันนะ? คงจะสะดุดก้อนหินล้ม ไม่แน่ก็เป็นลมแดดแล้วไอ้จุนเลยแบกมาสินะ

                    “มึงไปไกลๆ เลยนะสัส อย่าไปคุยกับมันนะนายเบาหวิว

                    “นายเบาหวิว? ฮ่าๆๆ ทำไมชื่อน่ารักจัง

                    “ฉันไม่ได้ชื่อเบาหวิวนะ ฉันชื่อแบมแบม

                    “นั่นก็ยิ่งน่ารัก

                    “เหี้ยเอ๊ย! มึงอย่ามายุ่งได้มั้ยวะ?!”

                    “โด่ววว ได้เหยื่อคนแรกมานี่หวงเหรอวะ? เห่อจริงๆ เลยมึงแทฮยอนมองกูจุนฮเวที่อารมณ์เสียเต็มทน เจ้าตัวเลยทำแค่โบกมือลาแบมแบมแล้วเดินออกไปพร้อมกับเสียงหัวเราะในลำคอ

                    ประสาท!”

                    จุนฮเวสะบดใส่บุคคลที่เดินจากไป ก่อนจะหันมามองเหยื่อของตัวเองที่ยืนงง ร่างสูงเปิดลิ้นชักโต๊ะข้างๆ ควานหาอะไรบางอย่าง ก่อนจะนำมันออกมา

                    ยื่นมือออกมา

                    “ห๊ะ?”

                    “อึนอะไรห๊ะ? ยื่นมือออกมาไงแบมแบมยื่นมือออกไปช้าๆ ก่อนที่ร่างสูงตรงหน้าจะเอาเชือกเส้นหนาพันรอบข้อมือเขา ร่างบางพยายามสะบัดมือออกแต่ก็โดนอีกคนปรามไว้

                    อยู่นิ่งๆ สิ!”

                    “ไม่เอา! ทำไมนายต้องมัดข้อมือฉัน?!”

                    “มันเป็นกฎของสมาชิกทิฟทุกคนต้องทำ

                    “แต่ฉันกลัว...อย่ามัดเลยนะแบมแบมเสียงสั่น อยู่ๆ ภาพการทำสงครามก็ผุดขึ้นมา มันจะร้ายแรงแบบนั้นมั้ยนะ? แล้วเขาจะโดนอะไรบ้าง? จะได้ออกไปจากที่นี่มั้ย?

                    แบมแบม...นายฟังฉันนะจุนฮเวใช้มือข้างหนึ่งจับไหล่ของร่างบางเอาไว้ ส่วนมืออีกข้างก็กุมปลายเชือกที่เขามัดติดกับแบมแบมเอาไว้ ฉันไม่มัดนายแน่นหรอก แค่นายเดินตามฉันมาหลังออกไปจากห้องนี้ จะมีเหยื่อทั้งหมดเดินไปที่ห้องโถงใหญ่พร้อมๆ กับเรา ระหว่างนั้นฉันอยากให้นายเงียบ ห้ามพูด ห้ามตะโกน กระซิบได้ถ้าอยากถามอะไรฉัน โอเคมั้ย?”

                    แบมแบมพยักหน้าช้าๆ ก่อนที่จุนฮเวจะจับปลายเชือกแล้วจูงแบมแบมออกมาจากห้อง ร่างบางมองเห็นผู้คนของเขตห้าเต็มไปหมดตามทางเดิน พวกเขาถูกมัดมือด้วยเชือกเช่นเดียวกับเขา ก่อนที่แบมแบมจะเบิกตาขึ้นเมื่อมองเห็นคนรู้จัก

                    ...ผู้พันมาร์ค!!...

                    มะ...!”

                    “ห้ามส่งเสียงนะจุนฮเวเอื้อมมือมาปิดปากแบมแบมเอาไว้ ไม่งั้นนายจะเป็นแบบนั้น

                    แบมแบมหันไปมองตามนิ้วที่จุนฮเวชี้ เป็นภาพของชายผู้หนึ่งที่โดนทุบตีอย่างน่าเจ็บปวด ก่อนจะถูกฆ่าฟันคอด้วยมีดอย่างเยือกเย็น

                    จะ...จุนฮเว...ฉัน...ฉันแบมแบมพูดกระซิบเสียงเบา เขาตัวสั่นไปหมดเมื่อได้เห็นภาพการปิดชีวิตของมนุษย์ต่อหน้าต่อตา ร่างสูงเมื่อเห็นดังนั้นจึงดึงมือเล็กเข้ามากุมโดยไม่พูดอะไร

     

     

     

     

                    แบมแบมโดนจุนฮเวลากจนมาถึงห้องโถงใหญ่ๆ รูปร่างคล้ายๆ กับโกดังหรือจะเรียกแบบนั้นก็ได้ คนตัวสูงเดินนำแบมแบมเข้าไปจนถึงกลางกลุ่มของประขากรเขต 5 เขาจึงปล่อยมือเล็กแล้วเดินออกไป แต่ก็ถูกเจ้าตัวรั้งไว้

                    จุนฮเว...จะไปไหน

                    “ฉันต้องไปรวมกลุ่มกับทิฟ ไม่ต้องกลัว มันไม่มีอะไรหรอกจุนฮเวพูดเสร็จสรรพก่อนที่เขาจะเดินปลีกตัวออกไป แบมแบมได้แต่ยืนมองซ้ายมองขวาหาผู้พันมาร์คแต่ก็ไม่เจอจนกระทั่งมีชายคนหนึ่งเดินออกมาทางด้านหน้า เขาเป็นผู้ชายตัวสูง สายตาคม ใบหน้าออกไปทางจีนๆ เล็กน้อย ชายคนนั้นมองไปรอบๆ โกดังที่เงียบสนิท ก่อนจะยิ้มมุมปาก

                    วันนี้เหยื่อดูเยอะกว่าปกตินะ

                    ‘ฮวงจื่อเทาหัวเราะในลำคอเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นต่อ

                    วันนี้ฉันภูมิใจในตัวนัมแทฮยอนมากนะ นายได้เหยื่อมา 28 คน นั่นถือว่าเยอะมากสำหรับทิฟที่หาเหยื่อได้ด้วยตัวเองจื่อเทาหันไปมองนัมแฮยอนที่ยืนอยู่ทางด้านขวาเยื้องหลังกับเขาไป 5 เมตร คนถูกชมยิ้มให้บอสประจำทิฟพลางหันไปยักคิ้วให้เพื่อนหลายๆ คน

                    และก็เหมือนกัน ฉันภูมิใจในตัวนายมากนะจุนฮเวน้องรัก วันนี้นายได้เหยื่อมาเป็นคนแรกเลยใช่มั้ย?” จื่อเทาหันไปมองจุนฮเวที่ยังคงทำท่าเฉยชา ไม่ได้ยกยิ้มและภูมิใจอะไร

                    ครับ

                    “ฉันอยากรู้จริงๆ ว่าใครนายบอกชื่อเขากับฉันได้มั้ย

                    จุนฮเวเหลือบไปมองที่แบมแบมที่ทำหน้าเหมือนกลัวว่าเขาจะบอก ก่อนจะหันไปมองแทฮยอนที่ยกยิ้มมองเขา

                    ...ไอ้บ้านี่ต้องบอกแน่ๆ บ้าชะมัด!...

                    “ผมบอกฮยองไม่ได้หรอกครับ ขอโทษนะครับเทาฮยอง

                    “บอกไม่ได้เหรอ?...เอาเถอะ ถ้านายไม่อยากบอกฉันก็ไม่อยากตื๊อ ฉันเคารพในการตัดสินใจของนายนะน้องชายจุนฮเวก้มหัวลงเล็กน้อย ก่อนที่เทาจะหันไปหาเหยื่อเกือบร้อยที่ยืนมองเขาอยู่ในโกดัง

                    ฉันมีข่าวจะมาแจ้งกับพวกแก ฟังแล้วห้ามมีท่าทีตกใจล่ะ

                    “…”

                    “ฉันเพิ่งรู้ข่าวว่าไอ้อิมแจบอมกษัตริย์เขต 7 มันส่งจดหมายมาให้ไอ้ประธานาธิบดีมิโน เนื้อความในจดหมายคร่าวๆ ก็คือ มีคนของราชวงศ์ที่นั่นหายไป...ซึ่งก็คือ กันต์พิมุก เป็นบุคคลที่มีเลือดของราชวงศ์เขต 7 เต็มตัว เรียกง่ายๆ ก็คือเป็นน้องชายแท้ๆ ของไอ้อิมแจบอม และยังเป็นคู่หมั้นคู่หมายของเจ้าชายจองกุกเขต 1

                    ...

                    “แน่นอนว่าถ้าได้ตัวของกันต์พิมุกมา ฉันก็สามารถใช้เป็นตัวประกันต่อรองกับกษัตริย์ของเขต 7 ในเรื่องของทรัพยากรและอาหารการกินของเขตเรา แถมยังใช้มันเพื่อผลประโยชน์ที่ได้เปรียบกว่ากับเขต 1 ถ้าได้ตัวหมอนั่นมาเขตของเราก็จะเจริญรุ่งเรือง และไม่เป็นเขตเมืองขึ้นของเขต 1 หรืออยู่ใต้อาญัติของเขต 7 นั่นมันก็ดีใช่มั้ยล่ะ?”

                    “…”

                    “และฉันก็ได้รู้ข่าวจากราชวงศ์ในของเขต 1 มาว่า กันต์พิมุก ภูวกุลแฝงตัวอยู่ในเขต 5 ของเรา

                    “…”

                    “ถ้าใครชื่อกันต์พิมุก ภูวกุลจงเดินออกมา

                    แบมแบมกัดฟันแน่นตัวของเขาสั่นไปหมดเมื่อได้ยินฮวงจื่อเทาเรียกชื่อของเขา รู้สึกได้ถึงความชื้นจากเหงื่อบนฝ่ามือทำให้ร่างบางได้แต่ยืนนิ่งไม่กล้าขยับ

                    ฉันจะถามอีกทีว่าในนี้มีใครชื่อกันต์พิมุกอยู่มั้ย?!”

                    “…”

                    “ถ้าแกยอมเดินออกมาแต่โดยดีจะไม่มีการทำร้ายร่างกายและการเจ็บตัวของพวกแกทั้งหมดแต่อย่างใดและฉันจะไม่เรียกค่าไถ่ใครทั้งนั้น แต่ถ้าแก...สมบัติของราชวงศ์เขต 7 กันต์พิมุก ภูวกุลไม่ออกมา...

                    “...

                    “ฉันจะยิงพวกแกทิ้งเรียงตัว

                    แบมแบมได้แต่ก้มหน้างุดไม่กล้ามองไปด้านหน้าที่มีฮวงจื่อเทายืนอยู่ เขาได้ยินเสียงกรีดร้องขอชีวิตจากใครหลายคนที่ถูกจับตัวออกไปด้านหน้า และอีกสักพักก็คงจะได้ยินเสียงปืน...

                    ...ทำยังไงดี พี่บีผมกลัว...

                    เพล้ง!!

                    เสียงกระจกแตกและเสียงของฝีเท้านับสิบที่ย่างก้าวเข้ามาภายในโกดังทำให้แบมแบมหันมอง เขาเห็นกลุ่มคนสวมผ้าคลุมสีเขียวเข้มมืดๆ กำลังตรงเข้ามาพาตัวประชากรออกไป และเข้าต่อสู้กับทิฟที่มุ่งเข้าโจมตี

                    ขาเล็กสั่งตัวเขาให้วิ่งก้าวไปด้านหน้าเมื่อเห็นผู้พันมาร์คที่กำลังชกต่อยกับพวกทิฟเหล่านั้น ใบหน้าหล่อเหลานั่นมีรอยช้ำเล็กน้อยจากการถูกต่อย ร่างบางกำลังจะตะโกนออกไป แต่เขากลับถูกใครบางคนรั้งไว้จากด้านหลัง

                    จะไปไหน?!”

                    ทิฟคนหนึ่งจับข้อมือเขาไว้แล้วลากไปทางด้านหน้า แบมแบมพยายามดิ้นสุดชีวิตแล้วผละออกมา เขาวิ่งออกไปทางประตูโกดังที่เปิดให้เห็นแสงสว่าง แต่แล้วคนตัวเล็กกลับต้องสะดุดล้ม แบมแบมพยายามรั้งตัวเองขึ้นแต่เขาเจ็บข้อเท้าไปหมด

                    ฉันถามว่าจะหนีไปไหน?!”

                    ร่างบางเบิกตากว้างพลางพยายามตะเกียกตะกายลุกขึ้นวิ่งไปทางประตูทางออก ทิฟคนเดิมจับข้อเท้าเขาเอาไว้อีกครั้งจนคนตัวเล็กล้มลงกองกับพื้น แบมแบมกลัวจนตัวสั่น เจ็บจนร้องไม่ออก ใบหน้าน่ารักที่มีน้ำตาอาบแก้มกำลังขอร้องคนตรงหน้าอย่างน่าเวทนา

                    ปล่อยผมนะ!! ปล่อยผมเถอะครับ!”

                    “ปล่อยเหรอ?! นายหนีไม่พ้นระ...!”

                    ตุ้บ!

                    แบมแบมเบิกตากว้างเล็กน้อยอย่างตกใจเมื่ออยู่ๆ ทิฟที่กำลังดึงขาเขาอยู่ก็ถูกซัดจนหน้าขมำลงไปกองกับพื้น โดยไม่มีทีท่าว่าจะลุกขึ้นมาแต่อย่างใด ร่างบางหันไปมองคนที่มาช่วยเขาไว้ ใบหน้าหล่อติดเย็นชาเต็มไปด้วยเหงื่อ ผู้หมวดฮันบินกำลังหอบถี่พลางมองมาทางเขา ร่างโปร่งช่วยพยุงเขาขึ้น

                    แบมแบม เป็นอะไรรึเปล่า?”

                    ฮะ...ฮันบินฮยอง

                    “นายเดินไหวรึเปล่า พอจะวิ่งได้มั้ย?” ถึงผู้หมวดจะถามแต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่รอคำตอบ ร่างโปร่งช่วยพยุงแบมแบมให้วิ่งไปกับเขาออกไปทางประตูโกดัง ก่อนที่ทั้งคู่จะยืนหอบอยู่หน้าประตูโกดังรวมกับบุคคลที่ใส่เสื้อคลุมสีเขียวเข้มที่ดูเหมือนจะเป็นผู้หมวดเช่นเดียวกับคิมฮันบิน

                    รู้สึกเหมือนจะออกมากันหมดแล้วนะครับ ผู้พันมาร์ค

                    “ประชากรล่ะ?”

                    “กลับไปหมดแล้วครับ

                    “โอเค พวกนายทำได้ดีมากมาร์คถอนหายใจพลางปาดเหงื่อบนใบหน้าออกไป ตอนนี้เหมือนแบมแบมจะหูอื้อไปหมด ตามตัวของเขามีแผลถลอกเต็มไปทั่ว รวมถึงเศษฝุ่นที่เปรอะไปตามเสื้อผ้าและใบหน้า

                    ขอบคุณมากนะฮะ ฮันบินฮยอง

                    คนตัวเล็กหันไปมองผู้หมวดฮันบินที่ยืนหอบก้มหน้าอยู่ข้างๆ ฮันบินไม่ได้ตอบอะไร ดูเหมือนเขาจะเหนื่อยมากจนแบมแบมอดเป็นห่วงไม่ได้

                    ฮันบินฮยองไหวมั้ยครับ?”

                    “…”

                    “ฮันบินฮ...!/หมับ!” แบมแบมเซไปข้างหลังเล็กน้อยเพราะแรงโถมของอีกคนที่เข้ากอดเขา ฮันบินกอดแบมแบมแน่นจนได้ยินเสียงหายใจหอบถี่ แบมแบมทำท่าจะพูดอะไรบางอย่างแต่เขาก็ต้องกลืนคำพูดทั้งหมดลงลำคอไปเมื่อคิมฮันบินชิงพูดขึ้นมาก่อน

                    ฉันหานาย...แฮ่ก...ไม่เจอ แฮ่ก...เลยคิดว่าต้องเกิดอะไรขึ้น

                    “ฮันบินฮยอง...

                    “ฉันขออยู่แบบนี้อีกสักพักนะแบมแบมยืนนิ่งให้อีกคนกอด หัวใจของเขาเต้นรัวและเร็วจนแทบหลุดออกมาจากอกแต่ทันทีที่มองผ่านหลังคิมฮันบินออกไปมันกลับแทบจะหยุดเต้นเสียดื้อๆ

                    ...ผู้พันมาร์คยืนมองมาทางเขาอยู่ตรงนั้น...

                    ใบหน้าช้ำของร่างสูงดูตกใจไม่น้อย คิ้วหนาที่ต่ำลงทำให้แบมแบมใจกระตุก เขาไม่รู้ว่าควรผลักคิมฮันบินออกหรือไม่ แต่กลับอีกใจหนึ่งก็อยากจะกอดผู้หมวดแสนเย็นชาให้แน่นจนหายเหนื่อย

                    ...แต่พอมองสีหน้าของผู้พันมาร์คที่มองมา

                    ...ราวกับว่าผู้พันที่เข็มแข็งตรงนั้นดูเจ็บปวดเสียเหลือเกิน...

    ______________________________________
     

    มันค้างคาค่ะ อยากจะลงให้ครบ 50% 5555 แต่มันน้อยไปนะใช่มั้ย?

    จำเป็นต้องรีบตัดจริงไรจริง เพราะช่วงวันหยุดไรท์จะได้รีบปั่น รีบลงค่ะ

    ไหนๆ ก็จะเข้าสู่ช่วงอาเซียน 2558 กันแล้ว เราเลยขอเพิ่มตัวละครลงไปหนึ่งตัว ซึ่งก็คือ กูจุนฮเวจาก IKoN!!


     

    ประวัติของฮีคือออกไปทางด้านเลวร้าย แต่เป็นบุคคลนิสัยดีชอบสงสารและกวนประสาทค่ะ =w=

    จะจับจิ้นกับแบมก็ได้นะเดี๋ยวเราเพิ่มโมเม้นต์ให้ 5555! #ชงๆ ไปเหอะ



     

     


    © themy butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×