ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic GOT7] Forsaken Area [MarkBam][BIBam]

    ลำดับตอนที่ #5 : FSK : 4

    • อัปเดตล่าสุด 19 พ.ย. 57


    4

     

                    ‘หวัดดี

                    น้ำเสียงที่ฟังดูร่าเริงแต่ออกแปล่งๆ ของคนตรงหน้าทำให้แบมแบมได้แต่มองอีกคนตาแป๋ว ใบหน้าคมและตัวสูงกว่าเขาเป็นโยชน์ทำให้เด็กน้อยเกือบจะกลัวถ้าไม่ติดว่าคนตรงหน้านั้นส่งรอยยิ้มเป็นมิตรมาให้ แบมแบมดูแปลกใจเล็กน้อยที่มีคนแปลกหน้าเข้ามาในห้องของเขา พร้อมกับแม่ของเขาที่เดินยิ้มเข้ามาด้วย

                    ใครเหรอฮะแม่?’

                    แบมแบมเอ่ยปากถามแม่ที่มองมาที่เขายิ้มๆ หน้าของเด็กน้อยวัยแปดขวบมีแต่เครื่องหมายคำถามเต็มไปหมด

                    นี่ พี่อี้ฟานนะลูก ต่อไปนี้เขาจะมาเล่นกับลูกทุกวันนะ รู้จักกันไว้สิ

                    ‘เอ๋?’

                    แบมแบมขมวดคิ้วเพราะไม่มีคนเข้ามาเล่นกับเขาได้สักพักแล้ว เนื่องจากเจบีพี่ชายคนโตก็เอาแต่นั่งอยู่ในห้องทำงาน ส่วนพี่ชายคนรองจินยองก็ชอบออกไปเล่นข้างนอกแล้วทิ้งแบมแบมตัวน้อยไว้ในปราสาท

                    ฉันชื่ออี้ฟาน เรียกฉันว่า คริสก็ได้ทันทีที่แม่ของเขาเดินออกไปจากห้อง คนที่เป็นเพื่อนเล่นใหม่ก็เดินเข้ามายื่นมือให้เขาจับ

                    ผมชื่อ แบมแบมฮะ...คุณดูเหมือนจะเป็นพี่ผมนะ

                    ‘ก็ใช่ ฉันแก่กว่านายประมาณ 7 ปีได้มั้ง

                    แล้วทำไมพี่คริสถึงมาเล่นกับผมล่ะ? ไม่มีใครอยากเล่นกับผมหรอก แบมแบมตัดพ้อกับตัวเองเพราะเขาไม่เคยได้ออกไปเล่นกับเด็กนอกปราสาทเลย แล้วพี่คริสมาจากไหนเหรอ? ทำไมท่านแม่ถึงให้เข้ามาล่ะ?’

                    นายคงยังไม่รู้สินะคริสลูบผมเด็กตัวน้อยที่นั่งอยู่บนเตียง ก่อนจะตอบคำถามแบมแบม

                    ฉันมาจากเขต 1 น่ะ เป็นเจ้าชายในปราสาทของที่นั่น

                    ‘เอ๋? งั้นพี่คริสก็เป็นคนที่เขต 1 นู่นเลยน่ะสิ แล้ว...ทำไมเดินทางมาไกลจัง บินมาไกลขนาดนี้เพื่อมาเล่นกับผมเหรอ?’

                    ‘จะให้พูดแบบนั้นก็ใช่ แต่ว่าจุดประสงค์หลักมันไม่ใช่แบบนั้นน่ะสิคริสสบตาเด็กน้อยนิ่ง ก่อนจะบอกจุดประสงค์ที่แท้จริงให้แบมแบมรู้

                    ฉันก็แค่อยากจะมาดูว่าคู่หมั้นของฉันหน้าตายังไงเท่านั้นเอง

                    ‘…’

                    ‘ถึงจะเป็นผู้ชาย...แต่ก็น่ารักกว่าที่ฉันคิดไว้ซะอีก

                   

                    พรึ่บ!!

                    แบมแบมกระเด้งตัวขึ้นจากเตียง เบิกตากว้างกระพริบตาถี่ๆ เพื่อไล่ภาพในความฝันนั่นออกไป คนตัวเล็กขยุ้มหัวตัวเองเพื่อเตือนว่าเมื่อกี้นี้เขาฝันไปเท่านั้น มันไม่ใช่ความจริง...มันไม่ใช่ความจริง

                    แต่มันเคยเป็นความจริง...

                    ไม่...แบม ลืมมันซะ ลืมมันซะ...คนตัวเล็กพูดเบาเบาเพื่อให้ตัวเขาได้ยินแค่คนเดียว ใบหน้าสวยซีดนั่นหันไปมองคิมฮันบินที่ยังคงนอนหลับสนิทอยู่บนโซฟาตัวข้างๆ กับเตียงที่เขานอนอยู่ แบมแบมควานหาบางอย่างใต้หมอนซึ่งเหมือนว่าตัวเขาเองก็ลืมไป

                    แบมลืมไว้ในห้องน้ำนี่หน่า...

                    คิดได้ดังนั้นคนตัวเล็กก็ลุกจากเตียงเบาๆ แล้วย่องออกไป หันมามองฮันบินที่ยังคงหลับสนิทอยู่ ลมหายใจของร่างสูงยังคงผ่อนเบาอย่างสม่ำเสมอ เห็นแบบนั้นแบมแบมจึงค่อยๆ ปิดประตูแล้วเดินเข้าไปดูในห้องน้ำ นาฬิกาพกสีเงินประจำราชวงศ์เขต 7 ยังคงวางอยู่ในมุมหนึ่งของห้องน้ำ ซึ่งแบมแบมก็เชื่อว่าสองพี่น้องของบ้านนี้น่าจะยังไม่เห็นมัน คนตัวเล็กกดเปิดตลับนาฬิกาก่อนจะพบว่าเป็นเวลา 05.45 a.m

                    ถึงจะยังรู้สึกหลับไม่เต็มอิ่ม...แต่เขาก็หลับไม่ลงแล้วล่ะ

                    แบมแบมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ปาไป 06.50 น. ร่างบางเดินออกมาจากห้องน้ำก็เห็นคิมฮันบินที่พิงกำแพงอยู่ถัดไปไม่ไกล คนตัวสูงกว่าสบตากับเขา ก่อนที่ผู้หมวดจะเดินเข้าห้องน้ำไป

                    ปล่อยเถอะ...แบมก็ไม่มีอารมณ์จะทักใครทั้งนั้นล่ะ

     

     

     

     

                    ก๊อกๆๆ

                    เสียงประตูหน้าบ้านทำให้คนสามคนที่กำลังทานข้าวกันอยู่หน้าเตาผิงชะงักไปเล็กน้อย ยูคยอมทำท่าเหมือนจะลุกแต่แบมแบมที่นั่งอยู่ใกล้ประตูที่สุดกลับลุกขึ้นมาเอง

                    ไม่เป็นไรยูค เดี๋ยวแบมไปเปิดเอง

                    แบมแบมลุกขึ้นจากโซฟาหนังแล้วลุกขึ้นไปเปิดประตู คนตัวเล็กเบิกตากว้างแล้วตะโกนอย่างลืมตัวเมื่อเจอบุคคลตรงหน้า

                    คุณมาร์ค!!!”

                    “เฮ้ย! ตกใจอะไรขนาดนั้น

                    “กะ...ก็ผมตกใจ

                    “อ่า...เอาเถอะ

                    “แล้ว...มีอะไรรึเปล่าครับ?”

                    “ต้องมีอะไรดด้วยเหรอถึงจะมาหานายได้...แบมว่าแบมถามดีๆ นะ ถามแบบมีมารยาทสุภาพและไม่กวนเบื้องล่างเหมือนที่คุณมาร์คตอบเลยสักนิด ฮึ่ม!! -*-

                    “ดะ...เดี๋ยวนะ คุณมาร์คบอกว่ามาหา...ผม? มาหาแบมเนี่ยนะ?” แบมแบมเอานิ้วชี้ที่ตัวเองแล้วทำหน้างงๆ เหมือนไม่เข้าใจที่อีกคนพูดเท่าไหร่ หาเขา? มาหาเขาทำไม?

                    ก็มาหานายนั่นแหละ ฟังไม่ผิดหรอก ฉันแค่มาถามว่านายจะไปลงแข่งรึยัง

                    อ๋อก็...นั่นสิ แล้วผมต้องไปลงแข่งกี่โมงล่ะ?...ฮันบินฮยอง แบมแบมหันหน้าไปถามเจ้าของเตียงที่เขานอนเมื่อคืน แต่กลับได้รับคำตอบมาเป็นเพียงแค่ความเงียบ แถมยังทำเป็นหูทวนลมไม่มีหันไม่มีชะงักกับการเรียกของแบมแบมเลยสักนิด

                    ไม่เป็นไรหรอก...ฉันแค่เห็นว่าเริ่มมีคนเข้าไปในสนามแข่งแล้ว คู่แข่งของนายก็มาแล้วนะ

                    “อ๊ะ! จริงเหรอฮะ?”

                    “จริงสิ ไปด้วยกันเลยมั้ยล่ะ จะได้รีบไปซ้อมก่อนแข่ง

                    “ไปสิครับ ไปๆๆ เดี๋ยวแบมเอาจานไปล้างก่อนแปปนึงนะแบมแบมบอกกับผู้พันหน้าหล่อที่ยืนรออยู่หน้าประตู คนตัวเล็กรีบวิ่งเข้าครัวแล้วล้างจานแบบติดสปีดร้อยคูณร้อย ก่อนจะเดินมาหามาร์คในเวลาไม่ถึงห้านาที โดยไม่ลืมที่จะหันกลับไปพูดกับยูคยอมรวมถึงผู้หมวดเย็นชาที่ไม่สนใจอะไรเลย

                    ยูค ฮันบินฮยอง แบมไปก่อนนะ ขอโทษนะที่วันนี้แบมไม่ได้อยู่ช่วยล้างจานทั้งหมด

                    ไม่เป็นไรหรอกเมื่อวันก่อนแบมก็ทำไปตั้งเยอะแล้ว เดี๋ยวแค่นี้ฉันจัดการเอง

                    “ขอบใจมากนะยูค แบมไปก่อนนะ แบมแบมโบกมือลาเพื่อนแล้วปิดประตูเดินออกไปพร้อมกับมาร์ค ผู้พันหน้าหล่อในวันนี้ก็จัดทรงผมตั้งขึ้นเหมือนวันแรกที่เคยเจอ มาร์คหันมองคนตัวเล็กข้างๆ แล้วพูดขึ้น

                    นี่ย้อมผมมาใหม่เหรอ?”

                    “บะ...แบมไม่ได้อยากจะย้อมซะหน่อย

                    “ฉันก็ยังไม่ได้ว่าอะไรเลยมาร์คหันหน้ามองไปตามทางเดินแทน แต่ก็น่ารักดีนะ

                    ห๊ะ?!...อะไรนะ? เดี๋ยวๆๆๆ!! กดรีเพล์ใหม่อีกทีสิ...นะ...น่ารัก?

                    กรี๊ดดดดดดดด!~ T///T คุณมาร์คต้องการอะไรครัช? อยากให้แบมกรี๊ดเหรอ? วายดิดยูเซย์แด๊ด?!!

                    แบมแบมไม่รู้จริงๆ ว่าจะเอาหน้าไปซุกไว้ตรงไหน คนตัวเล็กก้มหน้าลงมองพื้นดินแล้วเดินต่อไป ป่านนี้เลือดคงค่อยๆ กระดึ๊บขึ้นไปจนถึงหูแล้วมั้ง ฮอลล์~ T3T

                    ว่าแต่ฉันขออะไรหน่อยสิ แบมแบมเงยหน้ามองผู้พันมาร์คที่เดินอยู่ข้างๆ

                    คุณมาร์คขอผิดคนแล้วครับ คุณมาร์คกำลังจะขอคนไม่มีอะไรเลยแบบแบมเนี่ยนะ?”

                    อย่าพูดดูถูกตัวเองแบบนั้นสิ ที่ฉันอยากขอน่ะก็ไม่ได้ยากอะไรมากสักหน่อย

                    “แล้วคุณมาร์คอยากขออะไรจากแบมล่ะครับ?”

                    ก็...เวลาที่พูดกับฉันนายเรียกตัวเองว่า แบมแบบนี้นั่นแหละดีแล้วแบมแบมพยักหน้าก่อนจะพึ่งคิดได้ว่าเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ที่เขาใช้คำเรียกตัวเองว่า แบมกับมาร์คทั้งที่สองวันก่อนยังเรียกตัวเองว่า ผมอยู่เลย

                    คงติดมาจากการพูดกับยูคล่ะมั้ง

                    อ่อ...ครับ แค่นี้เหรอฮะ?”

                    “อีกข้อนึง

                    ว่ามาเลยครับ

                    “ช่วยเปลี่ยนคำว่า ผู้พันมาร์ค’ ‘คุณมาร์ค เป็น มาร์คฮยองได้มั้ย

                    “อ่ะ...เอ๋?”

                    “เหมือนที่นายเรียกคิมฮันบินว่า ฮันบินฮยองไง มาร์คหยุดเดินเมื่อเห็นอีกคนหยุด เขาหันมายิ้มให้แบมแบม เป็นรอยยิ้มที่กระตุกหัวใจของร่างบางให้อยู่ไม่สุขอีกครั้ง

                    ฉันว่าฉันน่าจะรู้สึกดีที่ได้ยินนายเรียกฉันแบบนั้นนะ แบมแบม

     

     

     

     

                    “เอาล่ะครับขณะนี้ได้เวลาแข่งขันธนูเนื่องจากคดี...

                    แบมแบมแทบไม่ได้ฟังที่โฆษกหมู่บ้านพูดเลย หัวใจของเขาเต้นตึกตักไม่เป็นส่ำ อาจจะเป็นเพราะว่ามีผู้คนมาดูการแข่งขันมากมายเต็มอัฒจรรย์ ร่างบางเอามือกุมหน้าอกด้านซ้ายที่เป็นตำแหน่งของหัวใจเอาไว้ ก่อนจะหลับตาอย่างควบคุมสมาธิ ริมฝีปากบางพูดให้กำลังใจตัวเอง เขาไม่เคยเห็นคนเยอะขนาดนี้มาก่อนนอกจากตอนประชุมเมื่อวานตอนเช้า

                    แต่นี่ทุกคนจ้องมาที่เขาเป็นจุดเดียวรวมถึงผู้หญิงคนข้างๆ

                    แถมทุกคนยังมาดูฝีมือของเขา ผลลัพธ์ในการยิงธนูของเขา...

                    แบมแบมสลัดหัวไล่ทุกสิ่งทุกอย่างออกไป เขามองไปที่ Target ธนูที่อยู่ห่างออกไปหลายเมตร ร่างบางหรี่ตาลงเล็กน้อยเพราะแสงแดดที่สาดส่องกระทบตา คนตัวเล็กเหล่มองคนดูเต็มอัฒจรรย์ที่ส่งเสียงต่างๆ นานาจนน่าหนวกหู ก่อนจะมองไปทางซุ้มคณะกรรมการและบุคคลสำคัญต่างๆ แน่นอนว่ารวมถึงผู้พันและผู้หมวดที่เขาพอคุ้นตาดี

                    มาร์คมองมาทางเขา ผู้พันหน้าหล่อยิ้มกว้างโชว์ฟันมาให้จนแบมแบมเผลอยิ้มตอบ พลางนึกถึงคำพูดที่มาร์คพูดกับเขาก่อนคนตัวเล็กจะเข้าแข่ง

     

                    คังเซนาสู้นายไม่ได้หรอก ฉันอยู่ข้างนายนะแบมแบม พยายามเข้าล่ะ

     

                    แบมแบมขยับปากให้มาร์คอ่านจับใจความได้ว่า วางใจแบมได้เลยดูเหมือนผู้พันหน้าหล่อจะเข้าใจเลยพยักหน้าตอบกลับมา

                    คนตัวเล็กเหลือบตาหันไปมองคิมฮันบินที่มองมาที่เขาอยู่ก่อนแล้ว แบมแบมยิ้มกว้างให้คิมฮันบินที่ยืนกอดอกพิงเสาซุ้ม ก่อนที่รอยยิ้มนั่นจะค่อยๆ หุบลงเมื่อใบหน้าเย็นชานั่นหันไปมองทางอื่น

                    ขอเชิญทั้งสองฝ่ายเลือกธนู”             

                    แบมแบมส่ายหัวให้กับตัวเองก่อนจะเดินไปเลือกธนูตามที่โฆษกบอก

                    หวังอะไร?...เราหวังให้เขาให้กำลังใจเราบ้างเหรอ?

                    คนตัวเล็กสะบัดหัวอีกครั้งไล่ความคิด ก่อนจะเดินไปเลือกธนูแต่โดยดี นัยน์ตากลมโตไล่มองธนูในคลังเก็บอุปกรณ์ ก่อนที่มุมปากบางจะยกยิ้มเมื่อเจอกับธนูคันโปรดที่เหมือนกับว่าจะมีคนเพิ่งเอามาวางเข้าใหม่

                    Long Bow

                    เหอะ...เลือกธนูได้ห่วยมากนะ ของแบบนั้นจะไปยิงเข้าเป้าได้ยังไงกันคังเซนา(ตามที่มาร์คเรียก)ยิ้มแหยๆ ให้เขาก่อนที่เจ้าตัวจะหัวเราะเสียงต่ำ แน่นอนว่าธนูในมือเจ้าหล่อนคือธนู  Modern เหมือนที่มาร์คเคยยิงให้เขาดู

                    คอยดูแล้วกัน พี่สาว...

                    เอาล่ะครับ ตอนนี้ผู้เข้าแข่งลงสนามแล้ว ผู้เข้าแข่งขันคนแรกคือสาวน้อยขายแจกันที่เรารู้จักกันดีคุณคังเซนา กับธนูในมือของเธอ ธนู  Modern ที่ออกแบบมาเป็นอย่างดีด้วยกลไกทันสมัย...@!#@#!SQWD!”

                    แบมแบมแทบหลับทั้งยืนกับเสียงแอคติ้งโอเวอร์ของโฆษกเลยบอกตรง...

                    และผู้เข้าแข่งขันคนที่สองหนุ่มน้อยน่ารักปริศนาที่มาพร้อมกับธนูไม้ธรรมดาไม่มีอะไรเลย

                    ขอบอกว่าการเปรียบเทียบนี้เท่าทันเทียมทานไม่ได้มีการลำเอียงแต่อย่างใด...หนุ่มน้อยน่ารักงั้นเหรอ?...ก่อนอื่นแบมว่าแบมต้องเปิดพิธีด้วยการยิงธนูไปปักหัวโฆษกก่อนจะได้รู้ว่าเขายิงแม่นแค่ไหน

                    เฮ้อ~ เลิกพรรณนาได้แล้วแบมแบม

                    เสียงของโฆษกพูดเรื่องกติกาเล็กน้อยซึ่งก็เพียงแค่มีธนูอยู่ 3 ดอก ผลรวมใครยิ่งได้แต้มเยอะกว่ากันก็เป็นฝ่ายชนะก็แค่นั้น เสียงของโฆษกเริ่มเงียบไปหลังจากเสียงสัญญาณแรกที่บอกให้คังเซนาเริ่มยิง

                    8 9 7 คือคะแนนแต้มของเซนาซึ่งมีผลรวมเท่ากับ 24

                    แบมแบมเตรียมธนูขึ้นมาในระดับสายตาเมื่อได้ยินเสียงสัญญาณ คนตัวเล็กท่องคติประจำใจที่ทำให้จิตใจสงบเช่นเดียวกับลมหายใจของแบมแบม เสียงดูถูกมากมายดังมาจากด้านหลังอัฒจรรย์แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ร่างเล็กหวั่น นั่นก็เพราะว่า Target ตรงหน้ามันน่าสนใจกว่าเยอะ

                    ฟิ้ว

                    ปึ้ก!

                    เสียงลูกดอกจากคันธนู Long Bow ไปปักอยู่ที่กลาง Target สีเหลือง 10 คะแนนทำให้เสียงด้านหลังสแตนด์เงียบ ก่อนที่ลูกที่สองจะถูกยิงออกไปปักอยู่ในเขตเดิม แต่เยื้องซ้ายล่างลงมาหน่อย แค่นั้นก็ทำให้คนทั้งสนามเงียบและจดจ่อมองมาที่ตัวเขา

                    แบมแบมใส่ธนูดอกสุดท้ายลงในคันของ Long Bow ก่อนที่สายตาเล็กจะหรี่มองเป้าหมายเตรียมปิดฉากนี่ ตอนนี้คะแนนของเขาเป็น 20 แน่นอนว่าเขาต้องทำได้มากกว่า 4 คนตัวเล็กดึงสายธนูจนสุดแรงเตรียมยิงเต็มที่

                    ...ท่านแม่!!!’

                    เฮือก!

                    แบมแบมสะดุ้งจนเผลอเกือบปล่อยลูกธนูให้หลุดมือ มือบางชื้นเหงื่อ หัวใจเต้นถี่เร็วขึ้น ใบหน้าที่จริงจังและสมาธิเกือบสลายหายไปหมดที่จู่ๆ เขาก็ดันนึกถึงตอนนั้นขึ้นมา ใบหน้าเล็กทั้งสับสน หวาดกลัวและแทบยืนไม่อยู่

                    .

                    .

                    .

                    ...ท่านแม่!!!’

                    เด็กชายตัวเล็กวัย 10 ปี เบิกตามองศพของท่านแม่ที่ค่อยๆ ร่วงลงช้าๆ ต่อหน้าต่อตา แบมแบมแทบกระโดดออกจากหน้าต่างห้องบนปราสาทหากไม่มีจินยองรั้งอยู่ ก่อนที่เขาจะเห็นพี่ชายคนโตอิมแจบอมยิงขึ้นไปบนหน้าผาใกล้ๆ ปราสาทที่เป็นจุดกำเนิดของลูกธนูดอกนั้นที่ปักอยู่บนอกข้างซ้ายของหญิงสาวผู้เป็นราชินีของเขต 7

                    ...ธนูดอกนั้นตัดขั้วหัวใจขาดอย่างแม่นยำ...

                    ศพของแม่เขาถูกขุมหลุมฝังหลังปราสาทในวันต่อมา...ซึ่งแบมแบมไม่ได้ไปดู ไม่ใช่เพราะถูกพี่ๆ สั่งห้าม แต่เป็นเขาเองต่างหากที่ใจเซาะ ไม่กล้าลงไป กลัว...กลัวน้ำตาของตัวเอง

                    เพราะเหตุผลนี้ ที่ทำให้เขาอยากเก่งธนู...อยากจะรู้ว่าอาวุธที่ทำให้แม่ของเขาตายตั้งแต่ดอกแรกมันจะร้ายแรงแค่ไหนกันเชียว

                    .

                    .

                    .

                    แบมแบมพยายามสะบัดภาพในภวังค์ของเขาออกไป กลับมาตั้งสมาธิอีกครั้ง แล้วล็อกเป้าหมายไปที่ Target เหมือนเดิม แต่ตาของเขากลับพร่ามัว ตัวของเขากลับเบาหวิว ลมหายใจติดขัดสั่นระรัว เรี่ยวแรงที่เคยมีเหือดหายไปหมด ในที่สุดแบมแบมเลือกที่จะปล่อยลูกธนูดอกสุดท้ายออกไป เขาไม่ได้รับรู้ว่ามันไปปักอยู่ที่สีไหน รู้สึกเพียงแค่ความเจ็บที่กระแทกกับพื้นอิฐ และสติที่มืดดับไปเท่านั้น

     

     

     

     

                    ดวงตาเล็กกระพริบถี่ๆ เพื่อปรับโฟกัสสายตากับแสงให้พอดีกัน สิ่งแรกที่เขาเห็นคือเพดานไม้ที่ออกลายคล้ายๆ กับไม้สักทาสี ก่อนที่ร่างเล็กจะรู้สึกได้ถึงสัมผัสที่ตัวเองนอนทับอยู่

                    โซฟาหนัง

                    แบม...แบมแบม แบมแบมเหลือบตามองเจ้าของน้ำเสียงทุ้ม ก่อนจะพบใบหน้าหล่อของผู้พันมาร์คอยู่ตรงนั้น

                    มาร์คฮยอง?” คนตัวเล็กค่อยๆ ดันตัวเองขึ้นนั่ง ก่อนจะเหลือบตามองเห็นเพื่อนตัวยักษ์เจ้าของบ้านที่มองมาทางเขาและผู้หมวดคิมฮันบินที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่มุมประจำ เช่นเดียวกับคิมยูคยอมที่ก็ย้ายไปนั่งมุมนั้น

                    ทำไมไปนั่งนั่นล่ะ?...

                    “แบมเป็นลมน่ะมาร์คอธิบายให้คนตัวเล็กเข้าใจ แบมแบมพยักหน้า ใบหน้าเล็กซีดจนมาร์คอดขมวดคิ้วอย่างประหลาดใจไม่ได้ ทั้งๆ ที่ตอนเช้าแบมแบมก็ยังดูปกติดีอยู่เลย

                    สงสัยแบมคงเป็นลมแดด...แล้วผลคะแนนเป็นยังไงบ้างฮะ?”

                    30 ต่อ 24 นายชนะ

                    “เอ๋?”

                    “ดอกสุดท้ายยิงผ่ากลางดอกแรก เสียดสีจนติดไฟเลยนะแบมแบมกลืนน้ำลายลงคออย่างตกใจ เขาได้แต่เกาหัวแกรกๆ อย่างมึนงง ก่อนจะสะบัดหัวเมื่อความคิดพวกนั้นประเดประดังเข้ามาอีกแล้ว

                    ...ท่านแม่!!!’

                    ...หยุดสักทีเถอะ...หยุดคิดนะแบม...

                    นายเป็นอะไรรึเปล่า? ทำไมสีหน้าไม่ค่อยดีมาร์คถามทันทีเมื่อเห็นแบมแบมเอามือกุมขมับ

                    ผมปวดหัวเฉยๆ น่ะครับ มะ...มันคงไม่มีอะไรแล้วล่ะ แบมแบมยิ้มให้อีกคนที่ทำท่าชั่งใจไม่เชื่อเขาสักเท่าไหร่ แต่สุดท้ายมาร์คก็ตัดสินใจพยักหน้า แล้วลุกขึ้นพูดกับแบมแบม

                    งั้นฉันกลับล่ะนะ พักผ่อนเยอะๆ ดูแลตัวเองนะแบม มาร์คขยี้กลุ่มผมสีทองบนหัวคนตัวเล็ก ก่อนจะลุกขึ้นยืนเตรียมออกจากประตู แต่เขาก็ไม่ลืมที่จะหันมาขอบคุณเจ้าบ้าน

                    ขอบใจที่ให้ฉันเข้ามา แล้วก็ขอโทษที่เข้ามาแบบนี้ วันหลังฉันจะมายืนอยู่แค่ประตูบ้านนะ คิมยูคยอม คิมฮันบินมาร์คกล่าวบอกแค่นั้นก่อนจะเดินออกไป ทิ้งคำพูดตะขิดตะควงใจให้แบมแบมขมวดคิ้วเล่น จนกระทั่งยูคยอมเดินมานั่งใกล้เขาก่อน

                    เป็นไงบ้างแบม?”

                    “ก็โอเคขึ้นนะ...ว่าแต่กับมาร์คฮยองน่ะ มีอะไรรึเปล่า?”

                    ประโยคหลังทำให้ยูคยอมเผลอชะงักก่อนจะยิ้มออกมาให้เพื่อนตัวเล็กที่ทำหน้าสงสัยอย่างปิดไม่มิด

                    ไม่มีอะไรหรอก เดี๋ยวเราเอาชามาให้นะยูคยอมพูดทิ้งไว้แค่นั้น ไม่ได้ฟังว่าอีกคนจะพูดอะไรหรือตอบตกลงหรือไม่ ร่างสูงก็รีบเดินเข้าห้องครัว ชงชาไปพลางนึกถึงบทสนทนาครึ่งชั่วโมงก่อนหน้านั้น

                    .

                    .

                    .

                    ผู้หมวดฮันบินแบกคนตัวเล็กมาจนถึงบ้านก่อนจะวางร่างบางลงบนโซฟา มองใบหน้าที่ซีดของแบมแบมเช่นเดียวกับยูคยอม น้องชายหันมาถามผู้เป็นพี่ว่าควรทำอย่างไรก่อน แต่จู่ๆ ก็มีคนผลักประตูบ้านของเขาออกแล้วทำท่าเหมือนจะเข้ามา เมื่อยูคยอมเห็นว่าเป็นใครเขาจึงถามด้วยโทนเสียงห่างเหินและเย็นชา

                    นั่นคุณจะทำอะไร?’

                    มาร์คต้วนที่วิ่งมาเหนื่อยๆ ชะงักกึกอยู่กับที่ ผู้พันพยายามลดเสียงหอบหนักที่โถมเข้ามา ก่อนจะอ้าปากตอบแต่ก็โดนยูคยอมแย้งขึ้นมาก่อน

                    หนึ่งก้าว หนึ่งศักดิ์ศรี หนึ่งสัญญาสายตากดดันของคิมยูคยอมและสายตาเย็นชาของคิมฮันบินทำให้มาร์คเผลอกัดฟันและขมวดคิ้ว

                    ...เขาเคยให้คำสัญญาว่าจะไม่มาเหยียบบ้านหลังนี้อีกนอกจากหน้าประตูด้วยศักดิ์ศรีและยศของเขาเอง...

                    มาร์คถอนหายใจและพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

                    ฉันขอทำลายศักดิ์ศรีของตัวเองครั้งนึง แค่ให้ฉันเข้าไปหาแบมแบม

                    ยูคยอมถึงกลับคิ้วกระตุก คนที่รักษาคำพูดและรักศักดิ์ศรีอย่างผู้พันมาร์คต้วนพูดว่า ทำลายศักดิ์ศรีของตัวเองเพียงเพราะแค่ได้เข้ามาดูอาการของเด็กชายตัวเล็กธรรมดาที่มองยังไงก็ไม่น่ามีอะไรพิเศษอย่างแบมแบม

                    ทำไม ยูคยอมเผลอถามออกไปอย่างไม่เข้าใจ มาร์คเงยหน้ามองไปทางฮันบินที่จ้องแบมแบมที่นอนอยู่บนโซฟานิ่ง ก่อนที่ผู้พันมาร์คจะพูดออกมา

                    นั่นมันก็เรื่องของฉัน

                    .

                    .

                    .

                    ทำไม? ทั้งๆ ที่ผู้พันคนนี้มักมีเหตุผลอยู่ตลอดเวลา เขาต้องบอกเหตุผลของตัวเองอยู่แล้ว แต่นี่มาพูดกับเขาแค่ว่า นั่นมันก็เรื่องของฉัน

                    ...มันไม่ใช่มาร์คต้วนผู้เย่อหยิ่งในศักดิ์ศรีคนนั้น...

                    มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่... ยูคยอมไม่เข้าใจเลย...ไม่เข้าใจจริงๆ

     

     

     

     

                    ว้า~ อะไรกัน...ไม่อยู่อีกแล้วเหรอ...ฮะ...ฮัดชิ้ว!!~”

                    แบมแบมมองกระดาษโน้ตสีเหลืองที่ยูคยอมทิ้งไว้ให้อีกเช่นเคยก่อนที่คนตัวเล็กจะฮัดชิ้วออกมาเพราะฝุ่นที่จับเกาะอยู่บนกระดาษแผ่นนั้น แสดงว่าน่าจะออกไปนานแล้ว เช่นเดียวกับเขาที่ก็หลับไปนานมากเหมือนกัน ยูคยอมคงไม่ได้ผสมยานอนหลับลงในชาให้เขาหรอกนะ?! ไม่มีทางอ่ะ แบมง่วงเองนั่นแหละ ฮอลล์~

                    คนตัวเล็กเดินไปรอบบ้านเพราะไม่รู้จะทำอะไร ไม่มีใครอยู่ที่นี่สักคนนอกจากเขา นี่สินะที่ว่ายิ่งมีพื้นที่ว่างในบ้านมาก คนที่อยู่ตัวคนเดียวก็ยิ่งเหงา

                    เอ๊ะ...รึว่าเขาควรจะออกไปข้างนอกดี

                    จะว่าไป...ไปสำรวจสักหน่อยก็ดีนะแบมแบมยิ้มร่าเมื่อคิดได้แบบนั้น ที่เขาแอบหนีออกมาก็เพื่อจะมาสำรวจโลกภายนอก ไม่ใช่จะมาสำรวจบ้าน 7/5 Wolves Path สักหน่อยนี่

                    คนตัวเล็กหยิบเสื้อคลุมสีแดงที่ซื้อมาจากร้าน Sebastein Suit (ความจริงโดนขู่เข็ญและยัดใส่ถุง) ก่อนที่แบมแบมจะเอามาคลุมตัว ดึงฮู้ดเสื้อคลุมลงมาคลุมหัวแล้วยืนมองตัวเองหน้ากระจก

                    เอ...เหมือนตัวละครที่พี่บีเคยเล่าให้ฟังเมื่อตอนเด็ก

                    Red Hood Child...อะไรน๊า?~ อ๋อ! หนูน้อยหมวกแดง

                    คิดอะไรของเราอยู่เนี่ย ข้างนอกไม่ได้มีคุณหมาป่าสักหน่อยแบมแบมสะบัดหัวเพราะคิดถึงเนื้อเรื่องของเรื่องหนูน้อยหมวกแดงที่มักจะมีหมาป่ามาปลอมเป็นคุณยายและหลอกจับกิน มันก็แค่นิยายหลอกเด็กเท่านั้นล่ะ

                    แบมแบมปิดประตูบ้านแล้วเดินออกมาแถวๆ ตลาดจะมีอะไรน่าสนใจไปมากกว่านี้อีกล่ะ แต่ดูเหมือนว่าความรู้สึกมันจะแตกต่างไปจากเดิม มีแต่คนมองเขา แบมแบมไม่รู้ว่าเพราะเสื้อคลุมสีแดงตัวหรูสุดเด่นนี่รึเพราะเขาชนะการแข่งธนูถึงได้มีแต่คนจ้องมองมาที่เขาจนรู้สึกทะแม่งๆ

                    คนตัวเล็กทำเป็นไม่ใส่ใจแล้วเดินต่อไป เขาเดินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งขาเล็กหยุดชะงักเมื่อเห็นสีหน้าแสนคุ้นตา

                    นะ...นั่น! นั่นมันคุณลู่หานกับคุณจางอี้ชิงคนของพี่บีเขตเรานี่หน่า!

                    แบมแบมยืนมองสองคนนั้นที่กำลังคุยกับแม่ค้าและคนที่เดินผ่านไปมาบ้าง กระทั่งเมื่อตอนที่สองคนนั้นเหลือบตามามองเขาก่อนที่แบมแบมจะก้มหน้าลงหันหลังและเตรียมเดินถอยหนี แต่เขากลับรู้สึกได้ว่าสองคนนั้นกำลังเดินตามมา คนตัวเล็กเหลือบมองเข้าไปในร้านขายกระจก ก็เห็นทั้งสองคนนั้นกำลังรีบก้าวยาวๆ มาที่เขาเหมือนกัน

                    ไม่ได้การละ! วิ่ง! ต้องวิ่ง!

                    ร่างบางวิ่งเต็มที่เท่าที่คิดว่าจะเร็วได้ เช่นเดียวกันกับเสียงฝีเท้าทั้ง 2 คู่ที่ก็กำลังวิ่งตามเขาอยู่ ผู้คนในส่วนนี้เริ่มชุกชุม แบมแบมถือโอกาสเลี้ยวตรงหัวมุมและหักเข้าไปในตรอกเล็กที่ไม่มีคน และดูเหมือนว่าจะไม่มีเสียงฝีเท้าวิ่งตามเขาแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นแบมแบมก็ยังไม่ไว้วางใจ

                    ปะ...ไปแล้วมั้งแบมแบมพูดกับตัวเองชะโงกออกจากตรอกเล็กน้อยก็ไม่พบกับสองคนนั้นแล้ว

                    ...แสดงว่าพี่บีส่งคนมาหาแบมสินะ...

                    คนตัวเล็กควักนาฬิกาพกขึ้นมาดู เป็นเวลาหกโมงเย็นจนใกล้มืดแล้วเช่นเดียวกับคนในตลาดที่เริ่มทยอยกันกลับบ้านกันไปแล้ว เห็นแบบนั้นแบมแบมเลยตั้งใจที่จะเดินกลับไปบ้าง แต่จู่ๆ กลับมีมือหนาของใครบางคนคว้าหมับเข้าที่ข้อมือเขา ร่างบางตกใจสะดุ้งเฮือกแล้วมองหน้าคนที่เป็นเจ้าของมือนั่นซึ่งเขาไม่เคยรู้จักมาก่อน

                    หวัดดีคนสวย......ต่อยกันสักยกมั้ยพี่?

                    คะ...คุณเป็นใคร?”

                    “มาคนเดียวเหรอ? ในตรอกแบบนี้น่ะนะ?” ชายแปลกหน้าคนนั้นเอ่ยถามแบมแบมก่อนจะบีบข้อมือเล็กแรงแล้วค่อยๆ ดึงให้ร่างบางเดินตาม แบมแบมขืนตัวไว้แล้วทำให้อีกคนหยุดแต่ก็ยังไม่ปล่อยข้อมือบาง

                    ปล่อยผมเดี๋ยวนี้นะ

                    “อะไรกัน ไม่ง่ายหรอกนะ...นายเฉียดเข้ามาที่นี่เองนี่ ชายคนนั้นพูด ก่อนจะขู่กำกับเขาพร้อมกับสายตาคมนั่น

                    ถ้าวิ่ง...ฉันฆ่าทิ้งแน่แบมแบมเหลือบมองปืนใต้กางเกงของชายคนนั้น มือหนาอีกข้างที่ไม่ได้จับข้อมือของเขาลูบกระบอกปืนพกสีเงินนั่นแผ่วเบา ก่อนที่จะสะบัดปล่อยข้อมือแบมแบมออก คนตัวเล็กจึงได้แต่ยืนอยู่กับที่ไม่กล้าขยับ ในขณะที่อีกคนยกบุหรี่หนึ่งมวนขึ้นสูบจนแบมแบมสำลัก

                    แบมแบมเหลือบมองคนตรงหน้าอย่างพินิจพิเคราะห์ ไม่น่าจะใช่คนจรจัดเพราะว่าเขาใส่ชุดสูท ท่าทางมีมาด เส้นผมสีส้มดูแหวกแนว ใบหน้านั่นขาวและดูดีราวกับเป็นบุคคลชั้นสูง อาจจะเป็นบุคคลในปราสาทก็ได้

                    ...แต่ที่แน่ๆ แบมไม่เคยเห็นคนๆ นี้ในปราสาทของแบม...

                    ...รึว่าจะมาจากเขตอื่น?...

                    แค่กๆๆ

                    “อ้อ...โทษทีนะที่เสียมารยาท เจ้าชายก็อุตส่าห์บอกแล้วว่านายไม่ชอบควันบุหรี่ชายหน้าตาดีในชุดสูทวางบุหรี่ลงกับพื้นแล้วเขี่ยทิ้ง แต่ที่น่าตกใจกว่านั้นก็คือ

                    ...เจ้าชายเหรอ?! เจ้าชายที่ว่านี่คงไม่ใช่...?!

                    หมายความว่ายังไง?”

                    หึ...ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ฉันควรเรียกเธอว่า คุณแบมแบมสินะ ชายแปลกหน้านั่นยิ้มมุมปากเล็กน้อย บิดขี้เกียจไปมา แล้วเปลี่ยนสรรพนามแทนตัวเองใหม่

                    ผมชื่อ คิมแทฮยองเรียกผมว่า วีก็ได้ ผมมาจากเขต 1 ขอโทษที่ผมข่มขู่นะแต่...

                    “…”

                    “มันเป็นคำสั่งของเจ้าชายจอนจองกุกแบมแบมเผลอหยุดหายใจไปชั่วขณะ แล้วค่อยๆ ผ่อนลมหายใจเบาๆ ในขณะที่วีก็พูดต่อ

                    ความจริงพวกเราได้ทราบข่าวมาจากคนในปราสาททางเขต 7 ว่าสมบัติของราชวงศ์หายไป เลยตามหาตัวกันระนาว บุคคลหลวงอย่างผมและทีมสำรวจพบตัวคุณแบมแบมที่เขตนี้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว

                    “...จะให้ผม...กลับไปสินะ

                    แบมแบมตัวสั่นระริก เขากลัวคำตอบนั่นเป็นที่สุด...แต่กลับผิดคาด

                    ไม่ล่ะ...เจ้าชายบอกว่าแค่ให้ตามมาดูเท่านั้น แค่ให้รู้ว่าคุณแบมแบมปลอดภัยก็พอ แบมแบมมองคนตรงหน้าอย่างงงๆ เขาก้มหน้าแล้วยิ้ม อีกใจหนึ่งมันก็รู้สึกแย่ อีกใจหนึ่งก็รู้สึกดีใจ

                    ...จอนจองกุก ก็ยังเป็นจอนจองกุกเหมือนเดิม...ใส่ใจ รับฟัง เข้าใจ และนับถือในการตัดสินใจของเขาเสมอ...

                    เจ้าชายน่ะ...รักคุณแบมแบมจริงๆ นะ

                    “โดนจ้างมาให้พูดแบบนี้รึเปล่าเนี่ย?”

                    “คุณแบมแบมก็รู้นิสัยเจ้าชายดีนี่ วีหัวเราะแล้วก็ชะงักไป ร่างโปร่งยืนนิ่งเงียบแล้วเอ่ยพูด

                    เขากำลังมา

                    “คะ...ใคร?”

                    ผมต้องไปแล้ว รักษาตัวนะครับคุณแบมแบมวีดึงมือเล็กนั่นขึ้นจูบตามธรรมเนียมคนเขต 1 เวลาจากลา ก่อนที่ร่างโปร่งนั่นจะวิ่งลึกเข้าไปในตรอก เช่นเดียวกับแบมแบมที่เดินงงออกมาจากตรอกนั่นแล้วชนเข้ากับผู้หมวดคิมฮันบินที่เดินผ่านมาพอดี ตอนนี้พระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว ไม่มีผู้คนเดินผ่านและเงียบสงบ

                    ...เขา ที่ว่านี่คนๆ นี้นี่เองสินะ...

                    ฮะ...ฮันบินฮยอง

                    “เข้าไปทำอะไร น้ำเสียงเย็นๆ นั่นพูดกับแบมแบม จนคนตัวเล็กเผลอสะดุ้ง ฉันถามว่าเข้าไปทำอะไรในนั้น?!”

                    อย่ามาตะคอกใส่ผมนะ!”

                    เข้า-ไป-ทำ-อะ-ไร...ในนั้น!” สุดท้ายก็โดนตะคอกใส่เหมือนเดิม

                    ผม...หลงทาง แบมแบมพูดเสียงแผ่วเบา ก่อนจะได้ยินเสียงถอนหายใจของคนตรงหน้า

                    “วันหลังก็อย่าเดินออกมาคนเดียวแบบนี้อีก มือหนาคว้ามือของแบมแบมให้เดินไปด้วยกันจนกลายเป็นเหมือนลากไปมากกว่า คนตัวเล็กได้แต่เดินตามเจ้าของแผ่นหลังกว้างโดยที่ไม่พูดอะไร

                   

     

     

     

                    พี่คริส...ตายแล้ว

                    จอนจองกุกเดินเข้ามาหาแบมแบมภายในห้องของคนตัวเล็ก แบมแบมกำลังตัวสั่นทันทีที่ได้ยินคำตอบแบบนั้น จองกุกเดินไปนั่งลงบนเตียงข้างๆ เขา ก่อนจะอธิบาย

                    เขาเครียดกับการอ่านหนังสือเตรียมตัวเป็นกษัตริย์มากเกินไป เส้นเลือดในสมองเลยแตกน่ะ แบมแบมมองจองกุกที่ตอนนี้ทำหน้าเหมือนเหนื่อยและเพลียมากกว่าปกติ

                    จอนจองกุกน้องชายแท้ๆ ของคริส เพราะอายุที่ห่างกัน 7 ปี เลยทำให้พวกเขาไม่ค่อยถูกคอกันเท่าไหร่ อายุของเขาเท่ากับแบมแบม พอได้รู้จักคริส ก็ได้รู้จักกับจองกุกด้วย เขาสนิทกับจองกุกมากกว่าคริสเพราะอายุที่เท่าๆ กันเลยทำให้ปรับตัวเข้าหากันได้ง่าย เป็นเพื่อนที่คอยอยู่เคียงข้างเสมอ เพื่อนที่มาเล่นด้วยเมื่อต้องการ จองกุกเข้าใจเขาและใส่ใจเขายิ่งกว่าอะไรดี จนพี่บีนึกหมั่นไส้และเกลียดขี้หน้า เลยชอบกันจองกุกออกจากเขาตลอดเวลา

                    แบม...

                    ‘อะไรเหรอ?’

                    ‘ต่อแต่นี้...นายคือคู่หมั้นของฉันนะจองกุกยิ้มให้เขา รอยยิ้มนั่นละมุนเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน เหมือนฝันเลยล่ะแบม

                    ‘…’

                    ‘นายรู้ใช่มั้ย ว่าฉันคิดยังไงมาโดยตลอดแบมแบมรู้...รู้ทุกอย่างว่าเพราะอะไร แต่เขาก็ให้ได้แค่ เพื่อนเท่านั้นจริงๆ

                    จองกุก...คือ...ฉัน

                    อย่าพูดมันออกมาเชียวนะ

                    ‘…’

                    ‘ฉันจะทำให้นายชอบฉันเอง ทำให้นายชอบฉันให้ได้จองกุกดึงมือเขาเข้าไปกุมก่อนจะกอดเขา ทั้งๆ ที่อีกคนมอบความรักให้ถึงขนาดนี้ แต่ทำไมเขาถึงไม่รู้สึกอะไรเลย...สักนิด

                    จองกุกพยายามมาตั้ง 4 ปี...แต่มันกลับเปล่าประโยชน์

                    จองกุกจะแอบไปนั่งท้อลับหลังแบมแบมอยู่เสมอ จนคนตัวเล็กก็รู้สึกแย่ที่เห็นเพื่อนเขต 1 ตั้งแต่เด็กกินยานอนหลับนั่นในห้องน้ำทุกคืนเวลาที่มานอนค้างกับเขา

                    ทำไม...หัวใจมันถึงไม่เต้น ทำไมเขาถึงไม่ชอบจองกุกกันนะ...

                    ฉันขอโทษ...ฉันขอโทษจริงๆ

     

                    “ฮึกๆๆ

                    คนตัวเล็กสะอื้นร้องไห้ใต้ผ้าห่มก่อนที่จะค่อยๆ ลุกขึ้นและนั่งชันเข่าร้องไห้ มันผ่านมา 4 ปีแล้วที่พี่คริสตายไปแล้วมีจองกุกเข้ามาดูแลแทน เทคแคร์อย่างดี อย่างวันนี้ก็ยังอุตส่าห์ให้คนมาตามหาตัวเขา แถมยังรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่เลยไม่เรียกตัวไปหา

                    ...ทำไมต้องเข้าใจเขาถึงขนาดนั้น...

                    ...ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้เข้าใจอะไรในตัวจอนจองกุกเลยสักนิด...

                    ฮึกๆ...ฮือ...

                    แบมแบมรู้สึกได้ถึงเสียงขยับตัวของคนบนโซฟา คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นยกมือปาดน้ำตาเมื่อเห็นคิมฮันบินสภาพหัวกระเซิง(ยังหล่อ)นั่งมองเขาอยู่ตรงนั้น

                    บะ...แบมทำให้ฮยองตื่นเหรอ?...ฮึก...ขอโทษนะครับ เดี๋ยวแบมออกไปด้านนอกคนตัวเล็กค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียงแต่กลับหยุดเดินเพราะฝ่ามือหนาของคนบนโซฟาคว้าเข้าที่ข้อมือของเขา

                    ไม่ต้อง

                    “...ฮึก...ฮือ...

                    “เป็นอะไร?” คิมฮันบินเอ่ยถามคนตัวเล็กที่ยืนกลั้นเสียงสะอื้นแล้วร้องไห้เสียงแผ่วเบา ก่อนที่ริมฝีปากเล็กจะค่อยๆ เอ่ยออกมา

                    ฮะ...ฮยองเคย...ฮึก...เคยระ...รักใครป่ะ?”

                    “...

                    “แล้ว...แล้วถ้า...ฮึก...ถ้าเค้าไม่...ไม่รักฮยองอ่ะ

                    “…”

                    “...ฮึก...มันเจ็บ...ฮือ...มันเจ็บมั้ยอ่าฮยอง

                    ฟุ่บ

                    คิมฮันบินลุกขึ้นแล้วดึงคนตัวเล็กเข้ามากอด แบมแบมกอดเขาแน่นปล่อยให้น้ำตาไหลจนเปียกเต็มเสื้อของร่างสูงแต่คิมฮันบินก็ไม่ได้ว่าอะไร ผู้หมวดแสนเย็นชาลูบกลุ่มผมสีทองนิ่มเบาๆ

                    ...เจ็บรึเปล่า ฉันก็ไม่รู้หรอก...

                    ...รู้แค่ว่าหัวใจของฉันที่เต้นอยู่ตอนนี้...

                    ...มันรู้สึกเจ็บปวดไปหมด...

    ------------- TBC ----------------

    Spoil :: 5 Forsaken Area

     

                    ครั้งสุดท้ายแล้วนะ...จูเนียร์

                    “…”

     

                    “ถ้าครั้งนี้ยังหาไม่เจออีก ฉันจะเป็นคนออกไปเอง

    .

    .

    .

                    งั้นนายก็ลองไปพูดกับแม่ค้าสิว่า ผมต้องการโยกรัต’”

                    “แล้วมันทำไมเหรอฮะ?”

                    “แล้วแม่ค้าก็จะยื่นอีโต้มาให้นายแทน



    สวัสดีจ้า / หายไปนานเลย 555 ช่วงนี้ไม่ค่อยว่างเท่าไหร่น่ะค่ะ แต่จะพยายามมาอัพให้นะ

    © themy butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×