คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : FSK : 4
4
‘หวัดดี’
น้ำเสียงที่ฟังดูร่าเริงแต่ออกแปล่งๆ ของคนตรงหน้าทำให้แบมแบมได้แต่มองอีกคนตาแป๋ว ใบหน้าคมและตัวสูงกว่าเขาเป็นโยชน์ทำให้เด็กน้อยเกือบจะกลัวถ้าไม่ติดว่าคนตรงหน้านั้นส่งรอยยิ้มเป็นมิตรมาให้ แบมแบมดูแปลกใจเล็กน้อยที่มีคนแปลกหน้าเข้ามาในห้องของเขา พร้อมกับแม่ของเขาที่เดินยิ้มเข้ามาด้วย
‘ใครเหรอฮะแม่?’
แบมแบมเอ่ยปากถามแม่ที่มองมาที่เขายิ้มๆ หน้าของเด็กน้อยวัยแปดขวบมีแต่เครื่องหมายคำถามเต็มไปหมด
‘นี่ ‘พี่อี้ฟาน’ นะลูก ต่อไปนี้เขาจะมาเล่นกับลูกทุกวันนะ รู้จักกันไว้สิ’
‘เอ๋?’
แบมแบมขมวดคิ้วเพราะไม่มีคนเข้ามาเล่นกับเขาได้สักพักแล้ว เนื่องจากเจบีพี่ชายคนโตก็เอาแต่นั่งอยู่ในห้องทำงาน ส่วนพี่ชายคนรองจินยองก็ชอบออกไปเล่นข้างนอกแล้วทิ้งแบมแบมตัวน้อยไว้ในปราสาท
‘ฉันชื่ออี้ฟาน เรียกฉันว่า ‘คริส’ ก็ได้’ ทันทีที่แม่ของเขาเดินออกไปจากห้อง คนที่เป็นเพื่อนเล่นใหม่ก็เดินเข้ามายื่นมือให้เขาจับ
‘ผมชื่อ ‘แบมแบม’ ฮะ...คุณดูเหมือนจะเป็นพี่ผมนะ’
‘ก็ใช่ ฉันแก่กว่านายประมาณ 7 ปีได้มั้ง’
‘แล้วทำไมพี่คริสถึงมาเล่นกับผมล่ะ? ไม่มีใครอยากเล่นกับผมหรอก’ แบมแบมตัดพ้อกับตัวเองเพราะเขาไม่เคยได้ออกไปเล่นกับเด็กนอกปราสาทเลย ‘แล้วพี่คริสมาจากไหนเหรอ? ทำไมท่านแม่ถึงให้เข้ามาล่ะ?’
‘นายคงยังไม่รู้สินะ’ คริสลูบผมเด็กตัวน้อยที่นั่งอยู่บนเตียง ก่อนจะตอบคำถามแบมแบม
‘ฉันมาจากเขต 1 น่ะ เป็นเจ้าชายในปราสาทของที่นั่น’
‘เอ๋? งั้นพี่คริสก็เป็นคนที่เขต 1 นู่นเลยน่ะสิ แล้ว...ทำไมเดินทางมาไกลจัง บินมาไกลขนาดนี้เพื่อมาเล่นกับผมเหรอ?’
‘จะให้พูดแบบนั้นก็ใช่ แต่ว่าจุดประสงค์หลักมันไม่ใช่แบบนั้นน่ะสิ’ คริสสบตาเด็กน้อยนิ่ง ก่อนจะบอกจุดประสงค์ที่แท้จริงให้แบมแบมรู้
‘ฉันก็แค่อยากจะมาดูว่าคู่หมั้นของฉันหน้าตายังไงเท่านั้นเอง’
‘…’
‘ถึงจะเป็นผู้ชาย...แต่ก็น่ารักกว่าที่ฉันคิดไว้ซะอีก’
พรึ่บ!!
แบมแบมกระเด้งตัวขึ้นจากเตียง เบิกตากว้างกระพริบตาถี่ๆ เพื่อไล่ภาพในความฝันนั่นออกไป คนตัวเล็กขยุ้มหัวตัวเองเพื่อเตือนว่าเมื่อกี้นี้เขาฝันไปเท่านั้น มันไม่ใช่ความจริง...มันไม่ใช่ความจริง
แต่มันเคยเป็นความจริง...
“ไม่...แบม ลืมมันซะ ลืมมันซะ...” คนตัวเล็กพูดเบาเบาเพื่อให้ตัวเขาได้ยินแค่คนเดียว ใบหน้าสวยซีดนั่นหันไปมองคิมฮันบินที่ยังคงนอนหลับสนิทอยู่บนโซฟาตัวข้างๆ กับเตียงที่เขานอนอยู่ แบมแบมควานหาบางอย่างใต้หมอนซึ่งเหมือนว่าตัวเขาเองก็ลืมไป
แบมลืมไว้ในห้องน้ำนี่หน่า...
คิดได้ดังนั้นคนตัวเล็กก็ลุกจากเตียงเบาๆ แล้วย่องออกไป หันมามองฮันบินที่ยังคงหลับสนิทอยู่ ลมหายใจของร่างสูงยังคงผ่อนเบาอย่างสม่ำเสมอ เห็นแบบนั้นแบมแบมจึงค่อยๆ ปิดประตูแล้วเดินเข้าไปดูในห้องน้ำ นาฬิกาพกสีเงินประจำราชวงศ์เขต 7 ยังคงวางอยู่ในมุมหนึ่งของห้องน้ำ ซึ่งแบมแบมก็เชื่อว่าสองพี่น้องของบ้านนี้น่าจะยังไม่เห็นมัน คนตัวเล็กกดเปิดตลับนาฬิกาก่อนจะพบว่าเป็นเวลา 05.45 a.m
ถึงจะยังรู้สึกหลับไม่เต็มอิ่ม...แต่เขาก็หลับไม่ลงแล้วล่ะ
แบมแบมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ปาไป 06.50 น. ร่างบางเดินออกมาจากห้องน้ำก็เห็นคิมฮันบินที่พิงกำแพงอยู่ถัดไปไม่ไกล คนตัวสูงกว่าสบตากับเขา ก่อนที่ผู้หมวดจะเดินเข้าห้องน้ำไป
ปล่อยเถอะ...แบมก็ไม่มีอารมณ์จะทักใครทั้งนั้นล่ะ
ก๊อกๆๆ
เสียงประตูหน้าบ้านทำให้คนสามคนที่กำลังทานข้าวกันอยู่หน้าเตาผิงชะงักไปเล็กน้อย ยูคยอมทำท่าเหมือนจะลุกแต่แบมแบมที่นั่งอยู่ใกล้ประตูที่สุดกลับลุกขึ้นมาเอง
“ไม่เป็นไรยูค เดี๋ยวแบมไปเปิดเอง”
แบมแบมลุกขึ้นจากโซฟาหนังแล้วลุกขึ้นไปเปิดประตู คนตัวเล็กเบิกตากว้างแล้วตะโกนอย่างลืมตัวเมื่อเจอบุคคลตรงหน้า
“คุณมาร์ค!!!”
“เฮ้ย! ตกใจอะไรขนาดนั้น”
“กะ...ก็ผมตกใจ”
“อ่า...เอาเถอะ”
“แล้ว...มีอะไรรึเปล่าครับ?”
“ต้องมีอะไรดด้วยเหรอถึงจะมาหานายได้” ...แบมว่าแบมถามดีๆ นะ ถามแบบมีมารยาทสุภาพและไม่กวนเบื้องล่างเหมือนที่คุณมาร์คตอบเลยสักนิด ฮึ่ม!! -*-
“ดะ...เดี๋ยวนะ คุณมาร์คบอกว่ามาหา...ผม? มาหาแบมเนี่ยนะ?” แบมแบมเอานิ้วชี้ที่ตัวเองแล้วทำหน้างงๆ เหมือนไม่เข้าใจที่อีกคนพูดเท่าไหร่ หาเขา? มาหาเขาทำไม?
“ก็มาหานายนั่นแหละ ฟังไม่ผิดหรอก ฉันแค่มาถามว่านายจะไปลงแข่งรึยัง”
“อ๋อก็...นั่นสิ แล้วผมต้องไปลงแข่งกี่โมงล่ะ?...ฮันบินฮยอง” แบมแบมหันหน้าไปถามเจ้าของเตียงที่เขานอนเมื่อคืน แต่กลับได้รับคำตอบมาเป็นเพียงแค่ความเงียบ แถมยังทำเป็นหูทวนลมไม่มีหันไม่มีชะงักกับการเรียกของแบมแบมเลยสักนิด
“ไม่เป็นไรหรอก...ฉันแค่เห็นว่าเริ่มมีคนเข้าไปในสนามแข่งแล้ว คู่แข่งของนายก็มาแล้วนะ”
“อ๊ะ! จริงเหรอฮะ?”
“จริงสิ ไปด้วยกันเลยมั้ยล่ะ จะได้รีบไปซ้อมก่อนแข่ง”
“ไปสิครับ ไปๆๆ เดี๋ยวแบมเอาจานไปล้างก่อนแปปนึงนะ” แบมแบมบอกกับผู้พันหน้าหล่อที่ยืนรออยู่หน้าประตู คนตัวเล็กรีบวิ่งเข้าครัวแล้วล้างจานแบบติดสปีดร้อยคูณร้อย ก่อนจะเดินมาหามาร์คในเวลาไม่ถึงห้านาที โดยไม่ลืมที่จะหันกลับไปพูดกับยูคยอมรวมถึงผู้หมวดเย็นชาที่ไม่สนใจอะไรเลย
“ยูค ฮันบินฮยอง แบมไปก่อนนะ ขอโทษนะที่วันนี้แบมไม่ได้อยู่ช่วยล้างจานทั้งหมด”
“ไม่เป็นไรหรอกเมื่อวันก่อนแบมก็ทำไปตั้งเยอะแล้ว เดี๋ยวแค่นี้ฉันจัดการเอง”
“ขอบใจมากนะยูค แบมไปก่อนนะ” แบมแบมโบกมือลาเพื่อนแล้วปิดประตูเดินออกไปพร้อมกับมาร์ค ผู้พันหน้าหล่อในวันนี้ก็จัดทรงผมตั้งขึ้นเหมือนวันแรกที่เคยเจอ มาร์คหันมองคนตัวเล็กข้างๆ แล้วพูดขึ้น
“นี่ย้อมผมมาใหม่เหรอ?”
“บะ...แบมไม่ได้อยากจะย้อมซะหน่อย”
“ฉันก็ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย” มาร์คหันหน้ามองไปตามทางเดินแทน “แต่ก็น่ารักดีนะ”
ห๊ะ?!...อะไรนะ? เดี๋ยวๆๆๆ!! กดรีเพล์ใหม่อีกทีสิ...นะ...น่ารัก?
กรี๊ดดดดดดดด!~ T///T คุณมาร์คต้องการอะไรครัช? อยากให้แบมกรี๊ดเหรอ? วายดิดยูเซย์แด๊ด?!!
แบมแบมไม่รู้จริงๆ ว่าจะเอาหน้าไปซุกไว้ตรงไหน คนตัวเล็กก้มหน้าลงมองพื้นดินแล้วเดินต่อไป ป่านนี้เลือดคงค่อยๆ กระดึ๊บขึ้นไปจนถึงหูแล้วมั้ง ฮอลล์~ T3T
“ว่าแต่ฉันขออะไรหน่อยสิ” แบมแบมเงยหน้ามองผู้พันมาร์คที่เดินอยู่ข้างๆ
“คุณมาร์คขอผิดคนแล้วครับ คุณมาร์คกำลังจะขอคนไม่มีอะไรเลยแบบแบมเนี่ยนะ?”
“อย่าพูดดูถูกตัวเองแบบนั้นสิ ที่ฉันอยากขอน่ะก็ไม่ได้ยากอะไรมากสักหน่อย”
“แล้วคุณมาร์คอยากขออะไรจากแบมล่ะครับ?”
“ก็...เวลาที่พูดกับฉันนายเรียกตัวเองว่า ‘แบม’ แบบนี้นั่นแหละดีแล้ว” แบมแบมพยักหน้าก่อนจะพึ่งคิดได้ว่าเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ที่เขาใช้คำเรียกตัวเองว่า ‘แบม’ กับมาร์คทั้งที่สองวันก่อนยังเรียกตัวเองว่า ‘ผม’ อยู่เลย
คงติดมาจากการพูดกับยูคล่ะมั้ง
“อ่อ...ครับ แค่นี้เหรอฮะ?”
“อีกข้อนึง”
“ว่ามาเลยครับ”
“ช่วยเปลี่ยนคำว่า ‘ผู้พันมาร์ค’ ‘คุณมาร์ค’ เป็น ‘มาร์คฮยอง’ ได้มั้ย”
“อ่ะ...เอ๋?”
“เหมือนที่นายเรียกคิมฮันบินว่า ‘ฮันบินฮยอง’ ไง” มาร์คหยุดเดินเมื่อเห็นอีกคนหยุด เขาหันมายิ้มให้แบมแบม เป็นรอยยิ้มที่กระตุกหัวใจของร่างบางให้อยู่ไม่สุขอีกครั้ง
“ฉันว่าฉันน่าจะรู้สึกดีที่ได้ยินนายเรียกฉันแบบนั้นนะ แบมแบม”
“เอาล่ะครับขณะนี้ได้เวลาแข่งขันธนูเนื่องจากคดี...”
แบมแบมแทบไม่ได้ฟังที่โฆษกหมู่บ้านพูดเลย หัวใจของเขาเต้นตึกตักไม่เป็นส่ำ อาจจะเป็นเพราะว่ามีผู้คนมาดูการแข่งขันมากมายเต็มอัฒจรรย์ ร่างบางเอามือกุมหน้าอกด้านซ้ายที่เป็นตำแหน่งของหัวใจเอาไว้ ก่อนจะหลับตาอย่างควบคุมสมาธิ ริมฝีปากบางพูดให้กำลังใจตัวเอง เขาไม่เคยเห็นคนเยอะขนาดนี้มาก่อนนอกจากตอนประชุมเมื่อวานตอนเช้า
แต่นี่ทุกคนจ้องมาที่เขาเป็นจุดเดียวรวมถึงผู้หญิงคนข้างๆ
แถมทุกคนยังมาดูฝีมือของเขา ผลลัพธ์ในการยิงธนูของเขา...
แบมแบมสลัดหัวไล่ทุกสิ่งทุกอย่างออกไป เขามองไปที่ Target ธนูที่อยู่ห่างออกไปหลายเมตร ร่างบางหรี่ตาลงเล็กน้อยเพราะแสงแดดที่สาดส่องกระทบตา คนตัวเล็กเหล่มองคนดูเต็มอัฒจรรย์ที่ส่งเสียงต่างๆ นานาจนน่าหนวกหู ก่อนจะมองไปทางซุ้มคณะกรรมการและบุคคลสำคัญต่างๆ แน่นอนว่ารวมถึงผู้พันและผู้หมวดที่เขาพอคุ้นตาดี
มาร์คมองมาทางเขา ผู้พันหน้าหล่อยิ้มกว้างโชว์ฟันมาให้จนแบมแบมเผลอยิ้มตอบ พลางนึกถึงคำพูดที่มาร์คพูดกับเขาก่อนคนตัวเล็กจะเข้าแข่ง
‘คังเซนาสู้นายไม่ได้หรอก ฉันอยู่ข้างนายนะแบมแบม พยายามเข้าล่ะ’
แบมแบมขยับปากให้มาร์คอ่านจับใจความได้ว่า ‘วางใจแบมได้เลย’ ดูเหมือนผู้พันหน้าหล่อจะเข้าใจเลยพยักหน้าตอบกลับมา
คนตัวเล็กเหลือบตาหันไปมองคิมฮันบินที่มองมาที่เขาอยู่ก่อนแล้ว แบมแบมยิ้มกว้างให้คิมฮันบินที่ยืนกอดอกพิงเสาซุ้ม ก่อนที่รอยยิ้มนั่นจะค่อยๆ หุบลงเมื่อใบหน้าเย็นชานั่นหันไปมองทางอื่น
“ขอเชิญทั้งสองฝ่ายเลือกธนู”
แบมแบมส่ายหัวให้กับตัวเองก่อนจะเดินไปเลือกธนูตามที่โฆษกบอก
หวังอะไร?...เราหวังให้เขาให้กำลังใจเราบ้างเหรอ?
คนตัวเล็กสะบัดหัวอีกครั้งไล่ความคิด ก่อนจะเดินไปเลือกธนูแต่โดยดี นัยน์ตากลมโตไล่มองธนูในคลังเก็บอุปกรณ์ ก่อนที่มุมปากบางจะยกยิ้มเมื่อเจอกับธนูคันโปรดที่เหมือนกับว่าจะมีคนเพิ่งเอามาวางเข้าใหม่
Long Bow
“เหอะ...เลือกธนูได้ห่วยมากนะ ของแบบนั้นจะไปยิงเข้าเป้าได้ยังไงกัน” คังเซนา(ตามที่มาร์คเรียก)ยิ้มแหยๆ ให้เขาก่อนที่เจ้าตัวจะหัวเราะเสียงต่ำ แน่นอนว่าธนูในมือเจ้าหล่อนคือธนู Modern เหมือนที่มาร์คเคยยิงให้เขาดู
คอยดูแล้วกัน พี่สาว...
“เอาล่ะครับ ตอนนี้ผู้เข้าแข่งลงสนามแล้ว ผู้เข้าแข่งขันคนแรกคือสาวน้อยขายแจกันที่เรารู้จักกันดีคุณคังเซนา กับธนูในมือของเธอ ธนู Modern ที่ออกแบบมาเป็นอย่างดีด้วยกลไกทันสมัย...@!#@#!SQWD!”
แบมแบมแทบหลับทั้งยืนกับเสียงแอคติ้งโอเวอร์ของโฆษกเลยบอกตรง...
“และผู้เข้าแข่งขันคนที่สองหนุ่มน้อยน่ารักปริศนาที่มาพร้อมกับธนูไม้ธรรมดาไม่มีอะไรเลย”
ขอบอกว่าการเปรียบเทียบนี้เท่าทันเทียมทานไม่ได้มีการลำเอียงแต่อย่างใด...หนุ่มน้อยน่ารักงั้นเหรอ?...ก่อนอื่นแบมว่าแบมต้องเปิดพิธีด้วยการยิงธนูไปปักหัวโฆษกก่อนจะได้รู้ว่าเขายิงแม่นแค่ไหน
เฮ้อ~ เลิกพรรณนาได้แล้วแบมแบม
เสียงของโฆษกพูดเรื่องกติกาเล็กน้อยซึ่งก็เพียงแค่มีธนูอยู่ 3 ดอก ผลรวมใครยิ่งได้แต้มเยอะกว่ากันก็เป็นฝ่ายชนะก็แค่นั้น เสียงของโฆษกเริ่มเงียบไปหลังจากเสียงสัญญาณแรกที่บอกให้คังเซนาเริ่มยิง
8 9 7 คือคะแนนแต้มของเซนาซึ่งมีผลรวมเท่ากับ 24
แบมแบมเตรียมธนูขึ้นมาในระดับสายตาเมื่อได้ยินเสียงสัญญาณ คนตัวเล็กท่องคติประจำใจที่ทำให้จิตใจสงบเช่นเดียวกับลมหายใจของแบมแบม เสียงดูถูกมากมายดังมาจากด้านหลังอัฒจรรย์แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ร่างเล็กหวั่น นั่นก็เพราะว่า Target ตรงหน้ามันน่าสนใจกว่าเยอะ
ฟิ้ว
ปึ้ก!
เสียงลูกดอกจากคันธนู Long Bow ไปปักอยู่ที่กลาง Target สีเหลือง 10 คะแนนทำให้เสียงด้านหลังสแตนด์เงียบ ก่อนที่ลูกที่สองจะถูกยิงออกไปปักอยู่ในเขตเดิม แต่เยื้องซ้ายล่างลงมาหน่อย แค่นั้นก็ทำให้คนทั้งสนามเงียบและจดจ่อมองมาที่ตัวเขา
แบมแบมใส่ธนูดอกสุดท้ายลงในคันของ Long Bow ก่อนที่สายตาเล็กจะหรี่มองเป้าหมายเตรียมปิดฉากนี่ ตอนนี้คะแนนของเขาเป็น 20 แน่นอนว่าเขาต้องทำได้มากกว่า 4 คนตัวเล็กดึงสายธนูจนสุดแรงเตรียมยิงเต็มที่
‘...ท่านแม่!!!’
เฮือก!
แบมแบมสะดุ้งจนเผลอเกือบปล่อยลูกธนูให้หลุดมือ มือบางชื้นเหงื่อ หัวใจเต้นถี่เร็วขึ้น ใบหน้าที่จริงจังและสมาธิเกือบสลายหายไปหมดที่จู่ๆ เขาก็ดันนึกถึงตอนนั้นขึ้นมา ใบหน้าเล็กทั้งสับสน หวาดกลัวและแทบยืนไม่อยู่
.
.
.
‘...ท่านแม่!!!’
เด็กชายตัวเล็กวัย 10 ปี เบิกตามองศพของท่านแม่ที่ค่อยๆ ร่วงลงช้าๆ ต่อหน้าต่อตา แบมแบมแทบกระโดดออกจากหน้าต่างห้องบนปราสาทหากไม่มีจินยองรั้งอยู่ ก่อนที่เขาจะเห็นพี่ชายคนโตอิมแจบอมยิงขึ้นไปบนหน้าผาใกล้ๆ ปราสาทที่เป็นจุดกำเนิดของลูกธนูดอกนั้นที่ปักอยู่บนอกข้างซ้ายของหญิงสาวผู้เป็นราชินีของเขต 7
...ธนูดอกนั้นตัดขั้วหัวใจขาดอย่างแม่นยำ...
ศพของแม่เขาถูกขุมหลุมฝังหลังปราสาทในวันต่อมา...ซึ่งแบมแบมไม่ได้ไปดู ไม่ใช่เพราะถูกพี่ๆ สั่งห้าม แต่เป็นเขาเองต่างหากที่ใจเซาะ ไม่กล้าลงไป กลัว...กลัวน้ำตาของตัวเอง
เพราะเหตุผลนี้ ที่ทำให้เขาอยากเก่งธนู...อยากจะรู้ว่าอาวุธที่ทำให้แม่ของเขาตายตั้งแต่ดอกแรกมันจะร้ายแรงแค่ไหนกันเชียว
.
.
.
แบมแบมพยายามสะบัดภาพในภวังค์ของเขาออกไป กลับมาตั้งสมาธิอีกครั้ง แล้วล็อกเป้าหมายไปที่ Target เหมือนเดิม แต่ตาของเขากลับพร่ามัว ตัวของเขากลับเบาหวิว ลมหายใจติดขัดสั่นระรัว เรี่ยวแรงที่เคยมีเหือดหายไปหมด ในที่สุดแบมแบมเลือกที่จะปล่อยลูกธนูดอกสุดท้ายออกไป เขาไม่ได้รับรู้ว่ามันไปปักอยู่ที่สีไหน รู้สึกเพียงแค่ความเจ็บที่กระแทกกับพื้นอิฐ และสติที่มืดดับไปเท่านั้น
ดวงตาเล็กกระพริบถี่ๆ เพื่อปรับโฟกัสสายตากับแสงให้พอดีกัน สิ่งแรกที่เขาเห็นคือเพดานไม้ที่ออกลายคล้ายๆ กับไม้สักทาสี ก่อนที่ร่างเล็กจะรู้สึกได้ถึงสัมผัสที่ตัวเองนอนทับอยู่
โซฟาหนัง
“แบม...แบมแบม” แบมแบมเหลือบตามองเจ้าของน้ำเสียงทุ้ม ก่อนจะพบใบหน้าหล่อของผู้พันมาร์คอยู่ตรงนั้น
“มาร์คฮยอง?” คนตัวเล็กค่อยๆ ดันตัวเองขึ้นนั่ง ก่อนจะเหลือบตามองเห็นเพื่อนตัวยักษ์เจ้าของบ้านที่มองมาทางเขาและผู้หมวดคิมฮันบินที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่มุมประจำ เช่นเดียวกับคิมยูคยอมที่ก็ย้ายไปนั่งมุมนั้น
ทำไมไปนั่งนั่นล่ะ?...
“แบมเป็นลมน่ะ” มาร์คอธิบายให้คนตัวเล็กเข้าใจ แบมแบมพยักหน้า ใบหน้าเล็กซีดจนมาร์คอดขมวดคิ้วอย่างประหลาดใจไม่ได้ ทั้งๆ ที่ตอนเช้าแบมแบมก็ยังดูปกติดีอยู่เลย
“สงสัยแบมคงเป็นลมแดด...แล้วผลคะแนนเป็นยังไงบ้างฮะ?”
“30 ต่อ 24 นายชนะ”
“เอ๋?”
“ดอกสุดท้ายยิงผ่ากลางดอกแรก เสียดสีจนติดไฟเลยนะ” แบมแบมกลืนน้ำลายลงคออย่างตกใจ เขาได้แต่เกาหัวแกรกๆ อย่างมึนงง ก่อนจะสะบัดหัวเมื่อความคิดพวกนั้นประเดประดังเข้ามาอีกแล้ว
‘...ท่านแม่!!!’
...หยุดสักทีเถอะ...หยุดคิดนะแบม...
“นายเป็นอะไรรึเปล่า? ทำไมสีหน้าไม่ค่อยดี” มาร์คถามทันทีเมื่อเห็นแบมแบมเอามือกุมขมับ
“ผมปวดหัวเฉยๆ น่ะครับ มะ...มันคงไม่มีอะไรแล้วล่ะ” แบมแบมยิ้มให้อีกคนที่ทำท่าชั่งใจไม่เชื่อเขาสักเท่าไหร่ แต่สุดท้ายมาร์คก็ตัดสินใจพยักหน้า แล้วลุกขึ้นพูดกับแบมแบม
“งั้นฉันกลับล่ะนะ พักผ่อนเยอะๆ ดูแลตัวเองนะแบม” มาร์คขยี้กลุ่มผมสีทองบนหัวคนตัวเล็ก ก่อนจะลุกขึ้นยืนเตรียมออกจากประตู แต่เขาก็ไม่ลืมที่จะหันมาขอบคุณเจ้าบ้าน
“ขอบใจที่ให้ฉันเข้ามา แล้วก็ขอโทษที่เข้ามาแบบนี้ วันหลังฉันจะมายืนอยู่แค่ประตูบ้านนะ คิมยูคยอม คิมฮันบิน” มาร์คกล่าวบอกแค่นั้นก่อนจะเดินออกไป ทิ้งคำพูดตะขิดตะควงใจให้แบมแบมขมวดคิ้วเล่น จนกระทั่งยูคยอมเดินมานั่งใกล้เขาก่อน
“เป็นไงบ้างแบม?”
“ก็โอเคขึ้นนะ...ว่าแต่กับมาร์คฮยองน่ะ มีอะไรรึเปล่า?”
ประโยคหลังทำให้ยูคยอมเผลอชะงักก่อนจะยิ้มออกมาให้เพื่อนตัวเล็กที่ทำหน้าสงสัยอย่างปิดไม่มิด
“ไม่มีอะไรหรอก เดี๋ยวเราเอาชามาให้นะ” ยูคยอมพูดทิ้งไว้แค่นั้น ไม่ได้ฟังว่าอีกคนจะพูดอะไรหรือตอบตกลงหรือไม่ ร่างสูงก็รีบเดินเข้าห้องครัว ชงชาไปพลางนึกถึงบทสนทนาครึ่งชั่วโมงก่อนหน้านั้น
.
.
.
ผู้หมวดฮันบินแบกคนตัวเล็กมาจนถึงบ้านก่อนจะวางร่างบางลงบนโซฟา มองใบหน้าที่ซีดของแบมแบมเช่นเดียวกับยูคยอม น้องชายหันมาถามผู้เป็นพี่ว่าควรทำอย่างไรก่อน แต่จู่ๆ ก็มีคนผลักประตูบ้านของเขาออกแล้วทำท่าเหมือนจะเข้ามา เมื่อยูคยอมเห็นว่าเป็นใครเขาจึงถามด้วยโทนเสียงห่างเหินและเย็นชา
‘นั่นคุณจะทำอะไร?’
มาร์คต้วนที่วิ่งมาเหนื่อยๆ ชะงักกึกอยู่กับที่ ผู้พันพยายามลดเสียงหอบหนักที่โถมเข้ามา ก่อนจะอ้าปากตอบแต่ก็โดนยูคยอมแย้งขึ้นมาก่อน
“หนึ่งก้าว หนึ่งศักดิ์ศรี หนึ่งสัญญา” สายตากดดันของคิมยูคยอมและสายตาเย็นชาของคิมฮันบินทำให้มาร์คเผลอกัดฟันและขมวดคิ้ว
...เขาเคยให้คำสัญญาว่าจะไม่มาเหยียบบ้านหลังนี้อีกนอกจากหน้าประตูด้วยศักดิ์ศรีและยศของเขาเอง...
มาร์คถอนหายใจและพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
‘ฉันขอทำลายศักดิ์ศรีของตัวเองครั้งนึง แค่ให้ฉันเข้าไปหาแบมแบม’
ยูคยอมถึงกลับคิ้วกระตุก คนที่รักษาคำพูดและรักศักดิ์ศรีอย่างผู้พันมาร์คต้วนพูดว่า ‘ทำลายศักดิ์ศรีของตัวเอง’ เพียงเพราะแค่ได้เข้ามาดูอาการของเด็กชายตัวเล็กธรรมดาที่มองยังไงก็ไม่น่ามีอะไรพิเศษอย่างแบมแบม
‘ทำไม’ ยูคยอมเผลอถามออกไปอย่างไม่เข้าใจ มาร์คเงยหน้ามองไปทางฮันบินที่จ้องแบมแบมที่นอนอยู่บนโซฟานิ่ง ก่อนที่ผู้พันมาร์คจะพูดออกมา
‘นั่นมันก็เรื่องของฉัน’
.
.
.
ทำไม? ทั้งๆ ที่ผู้พันคนนี้มักมีเหตุผลอยู่ตลอดเวลา เขาต้องบอกเหตุผลของตัวเองอยู่แล้ว แต่นี่มาพูดกับเขาแค่ว่า ‘นั่นมันก็เรื่องของฉัน’
...มันไม่ใช่ ‘มาร์คต้วน’ ผู้เย่อหยิ่งในศักดิ์ศรีคนนั้น...
“มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่...” ยูคยอมไม่เข้าใจเลย...ไม่เข้าใจจริงๆ
“ว้า~ อะไรกัน...ไม่อยู่อีกแล้วเหรอ...ฮะ...ฮัดชิ้ว!!~”
แบมแบมมองกระดาษโน้ตสีเหลืองที่ยูคยอมทิ้งไว้ให้อีกเช่นเคยก่อนที่คนตัวเล็กจะฮัดชิ้วออกมาเพราะฝุ่นที่จับเกาะอยู่บนกระดาษแผ่นนั้น แสดงว่าน่าจะออกไปนานแล้ว เช่นเดียวกับเขาที่ก็หลับไปนานมากเหมือนกัน ยูคยอมคงไม่ได้ผสมยานอนหลับลงในชาให้เขาหรอกนะ?! ไม่มีทางอ่ะ แบมง่วงเองนั่นแหละ ฮอลล์~
คนตัวเล็กเดินไปรอบบ้านเพราะไม่รู้จะทำอะไร ไม่มีใครอยู่ที่นี่สักคนนอกจากเขา นี่สินะที่ว่ายิ่งมีพื้นที่ว่างในบ้านมาก คนที่อยู่ตัวคนเดียวก็ยิ่งเหงา
เอ๊ะ...รึว่าเขาควรจะออกไปข้างนอกดี
“จะว่าไป...ไปสำรวจสักหน่อยก็ดีนะ” แบมแบมยิ้มร่าเมื่อคิดได้แบบนั้น ที่เขาแอบหนีออกมาก็เพื่อจะมาสำรวจโลกภายนอก ไม่ใช่จะมาสำรวจบ้าน 7/5 Wolves Path สักหน่อยนี่
คนตัวเล็กหยิบเสื้อคลุมสีแดงที่ซื้อมาจากร้าน Sebastein Suit (ความจริงโดนขู่เข็ญและยัดใส่ถุง) ก่อนที่แบมแบมจะเอามาคลุมตัว ดึงฮู้ดเสื้อคลุมลงมาคลุมหัวแล้วยืนมองตัวเองหน้ากระจก
เอ...เหมือนตัวละครที่พี่บีเคยเล่าให้ฟังเมื่อตอนเด็ก
Red Hood Child...อะไรน๊า?~ อ๋อ! หนูน้อยหมวกแดง
“คิดอะไรของเราอยู่เนี่ย ข้างนอกไม่ได้มีคุณหมาป่าสักหน่อย” แบมแบมสะบัดหัวเพราะคิดถึงเนื้อเรื่องของเรื่องหนูน้อยหมวกแดงที่มักจะมีหมาป่ามาปลอมเป็นคุณยายและหลอกจับกิน มันก็แค่นิยายหลอกเด็กเท่านั้นล่ะ
แบมแบมปิดประตูบ้านแล้วเดินออกมาแถวๆ ตลาดจะมีอะไรน่าสนใจไปมากกว่านี้อีกล่ะ แต่ดูเหมือนว่าความรู้สึกมันจะแตกต่างไปจากเดิม มีแต่คนมองเขา แบมแบมไม่รู้ว่าเพราะเสื้อคลุมสีแดงตัวหรูสุดเด่นนี่รึเพราะเขาชนะการแข่งธนูถึงได้มีแต่คนจ้องมองมาที่เขาจนรู้สึกทะแม่งๆ
คนตัวเล็กทำเป็นไม่ใส่ใจแล้วเดินต่อไป เขาเดินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งขาเล็กหยุดชะงักเมื่อเห็นสีหน้าแสนคุ้นตา
นะ...นั่น! นั่นมันคุณลู่หานกับคุณจางอี้ชิงคนของพี่บีเขตเรานี่หน่า!
แบมแบมยืนมองสองคนนั้นที่กำลังคุยกับแม่ค้าและคนที่เดินผ่านไปมาบ้าง กระทั่งเมื่อตอนที่สองคนนั้นเหลือบตามามองเขาก่อนที่แบมแบมจะก้มหน้าลงหันหลังและเตรียมเดินถอยหนี แต่เขากลับรู้สึกได้ว่าสองคนนั้นกำลังเดินตามมา คนตัวเล็กเหลือบมองเข้าไปในร้านขายกระจก ก็เห็นทั้งสองคนนั้นกำลังรีบก้าวยาวๆ มาที่เขาเหมือนกัน
ไม่ได้การละ! วิ่ง! ต้องวิ่ง!
ร่างบางวิ่งเต็มที่เท่าที่คิดว่าจะเร็วได้ เช่นเดียวกันกับเสียงฝีเท้าทั้ง 2 คู่ที่ก็กำลังวิ่งตามเขาอยู่ ผู้คนในส่วนนี้เริ่มชุกชุม แบมแบมถือโอกาสเลี้ยวตรงหัวมุมและหักเข้าไปในตรอกเล็กที่ไม่มีคน และดูเหมือนว่าจะไม่มีเสียงฝีเท้าวิ่งตามเขาแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นแบมแบมก็ยังไม่ไว้วางใจ
“ปะ...ไปแล้วมั้ง” แบมแบมพูดกับตัวเองชะโงกออกจากตรอกเล็กน้อยก็ไม่พบกับสองคนนั้นแล้ว
...แสดงว่าพี่บีส่งคนมาหาแบมสินะ...
คนตัวเล็กควักนาฬิกาพกขึ้นมาดู เป็นเวลาหกโมงเย็นจนใกล้มืดแล้วเช่นเดียวกับคนในตลาดที่เริ่มทยอยกันกลับบ้านกันไปแล้ว เห็นแบบนั้นแบมแบมเลยตั้งใจที่จะเดินกลับไปบ้าง แต่จู่ๆ กลับมีมือหนาของใครบางคนคว้าหมับเข้าที่ข้อมือเขา ร่างบางตกใจสะดุ้งเฮือกแล้วมองหน้าคนที่เป็นเจ้าของมือนั่นซึ่งเขาไม่เคยรู้จักมาก่อน
“หวัดดีคนสวย...” ...ต่อยกันสักยกมั้ยพี่?
“คะ...คุณเป็นใคร?”
“มาคนเดียวเหรอ? ในตรอกแบบนี้น่ะนะ?” ชายแปลกหน้าคนนั้นเอ่ยถามแบมแบมก่อนจะบีบข้อมือเล็กแรงแล้วค่อยๆ ดึงให้ร่างบางเดินตาม แบมแบมขืนตัวไว้แล้วทำให้อีกคนหยุดแต่ก็ยังไม่ปล่อยข้อมือบาง
“ปล่อยผมเดี๋ยวนี้นะ”
“อะไรกัน ไม่ง่ายหรอกนะ...นายเฉียดเข้ามาที่นี่เองนี่” ชายคนนั้นพูด ก่อนจะขู่กำกับเขาพร้อมกับสายตาคมนั่น
“ถ้าวิ่ง...ฉันฆ่าทิ้งแน่” แบมแบมเหลือบมองปืนใต้กางเกงของชายคนนั้น มือหนาอีกข้างที่ไม่ได้จับข้อมือของเขาลูบกระบอกปืนพกสีเงินนั่นแผ่วเบา ก่อนที่จะสะบัดปล่อยข้อมือแบมแบมออก คนตัวเล็กจึงได้แต่ยืนอยู่กับที่ไม่กล้าขยับ ในขณะที่อีกคนยกบุหรี่หนึ่งมวนขึ้นสูบจนแบมแบมสำลัก
แบมแบมเหลือบมองคนตรงหน้าอย่างพินิจพิเคราะห์ ไม่น่าจะใช่คนจรจัดเพราะว่าเขาใส่ชุดสูท ท่าทางมีมาด เส้นผมสีส้มดูแหวกแนว ใบหน้านั่นขาวและดูดีราวกับเป็นบุคคลชั้นสูง อาจจะเป็นบุคคลในปราสาทก็ได้
...แต่ที่แน่ๆ แบมไม่เคยเห็นคนๆ นี้ในปราสาทของแบม...
...รึว่าจะมาจากเขตอื่น?...
“แค่กๆๆ”
“อ้อ...โทษทีนะที่เสียมารยาท ‘เจ้าชาย’ ก็อุตส่าห์บอกแล้วว่านายไม่ชอบควันบุหรี่” ชายหน้าตาดีในชุดสูทวางบุหรี่ลงกับพื้นแล้วเขี่ยทิ้ง แต่ที่น่าตกใจกว่านั้นก็คือ
...เจ้าชายเหรอ?! เจ้าชายที่ว่านี่คงไม่ใช่...?!
“หมายความว่ายังไง?”
“หึ...ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ฉันควรเรียกเธอว่า ‘คุณแบมแบม’ สินะ” ชายแปลกหน้านั่นยิ้มมุมปากเล็กน้อย บิดขี้เกียจไปมา แล้วเปลี่ยนสรรพนามแทนตัวเองใหม่
“ผมชื่อ ‘คิมแทฮยอง’ เรียกผมว่า ‘วี’ ก็ได้ ผมมาจากเขต 1 ขอโทษที่ผมข่มขู่นะแต่...”
“…”
“มันเป็นคำสั่งของเจ้าชายจอนจองกุก” แบมแบมเผลอหยุดหายใจไปชั่วขณะ แล้วค่อยๆ ผ่อนลมหายใจเบาๆ ในขณะที่วีก็พูดต่อ
“ความจริงพวกเราได้ทราบข่าวมาจากคนในปราสาททางเขต 7 ว่าสมบัติของราชวงศ์หายไป เลยตามหาตัวกันระนาว บุคคลหลวงอย่างผมและทีมสำรวจพบตัวคุณแบมแบมที่เขตนี้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว”
“...จะให้ผม...กลับไปสินะ”
แบมแบมตัวสั่นระริก เขากลัวคำตอบนั่นเป็นที่สุด...แต่กลับผิดคาด
“ไม่ล่ะ...เจ้าชายบอกว่าแค่ให้ตามมาดูเท่านั้น แค่ให้รู้ว่าคุณแบมแบมปลอดภัยก็พอ” แบมแบมมองคนตรงหน้าอย่างงงๆ เขาก้มหน้าแล้วยิ้ม อีกใจหนึ่งมันก็รู้สึกแย่ อีกใจหนึ่งก็รู้สึกดีใจ
...จอนจองกุก ก็ยังเป็นจอนจองกุกเหมือนเดิม...ใส่ใจ รับฟัง เข้าใจ และนับถือในการตัดสินใจของเขาเสมอ...
“เจ้าชายน่ะ...รักคุณแบมแบมจริงๆ นะ”
“โดนจ้างมาให้พูดแบบนี้รึเปล่าเนี่ย?”
“คุณแบมแบมก็รู้นิสัยเจ้าชายดีนี่” วีหัวเราะแล้วก็ชะงักไป ร่างโปร่งยืนนิ่งเงียบแล้วเอ่ยพูด
“เขากำลังมา”
“คะ...ใคร?”
“ผมต้องไปแล้ว รักษาตัวนะครับคุณแบมแบม” วีดึงมือเล็กนั่นขึ้นจูบตามธรรมเนียมคนเขต 1 เวลาจากลา ก่อนที่ร่างโปร่งนั่นจะวิ่งลึกเข้าไปในตรอก เช่นเดียวกับแบมแบมที่เดินงงออกมาจากตรอกนั่นแล้วชนเข้ากับผู้หมวดคิมฮันบินที่เดินผ่านมาพอดี ตอนนี้พระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว ไม่มีผู้คนเดินผ่านและเงียบสงบ
...‘เขา’ ที่ว่านี่คนๆ นี้นี่เองสินะ...
“ฮะ...ฮันบินฮยอง”
“เข้าไปทำอะไร” น้ำเสียงเย็นๆ นั่นพูดกับแบมแบม จนคนตัวเล็กเผลอสะดุ้ง “ฉันถามว่าเข้าไปทำอะไรในนั้น?!”
“อย่ามาตะคอกใส่ผมนะ!”
“เข้า-ไป-ทำ-อะ-ไร...ในนั้น!” สุดท้ายก็โดนตะคอกใส่เหมือนเดิม
“ผม...หลงทาง” แบมแบมพูดเสียงแผ่วเบา ก่อนจะได้ยินเสียงถอนหายใจของคนตรงหน้า
“วันหลังก็อย่าเดินออกมาคนเดียวแบบนี้อีก” มือหนาคว้ามือของแบมแบมให้เดินไปด้วยกันจนกลายเป็นเหมือนลากไปมากกว่า คนตัวเล็กได้แต่เดินตามเจ้าของแผ่นหลังกว้างโดยที่ไม่พูดอะไร
‘พี่คริส...ตายแล้ว’
จอนจองกุกเดินเข้ามาหาแบมแบมภายในห้องของคนตัวเล็ก แบมแบมกำลังตัวสั่นทันทีที่ได้ยินคำตอบแบบนั้น จองกุกเดินไปนั่งลงบนเตียงข้างๆ เขา ก่อนจะอธิบาย
‘เขาเครียดกับการอ่านหนังสือเตรียมตัวเป็นกษัตริย์มากเกินไป เส้นเลือดในสมองเลยแตกน่ะ’ แบมแบมมองจองกุกที่ตอนนี้ทำหน้าเหมือนเหนื่อยและเพลียมากกว่าปกติ
‘จอนจองกุก’ น้องชายแท้ๆ ของคริส เพราะอายุที่ห่างกัน 7 ปี เลยทำให้พวกเขาไม่ค่อยถูกคอกันเท่าไหร่ อายุของเขาเท่ากับแบมแบม พอได้รู้จักคริส ก็ได้รู้จักกับจองกุกด้วย เขาสนิทกับจองกุกมากกว่าคริสเพราะอายุที่เท่าๆ กันเลยทำให้ปรับตัวเข้าหากันได้ง่าย เป็นเพื่อนที่คอยอยู่เคียงข้างเสมอ เพื่อนที่มาเล่นด้วยเมื่อต้องการ จองกุกเข้าใจเขาและใส่ใจเขายิ่งกว่าอะไรดี จนพี่บีนึกหมั่นไส้และเกลียดขี้หน้า เลยชอบกันจองกุกออกจากเขาตลอดเวลา
‘แบม...’
‘อะไรเหรอ?’
‘ต่อแต่นี้...นายคือคู่หมั้นของฉันนะ’ จองกุกยิ้มให้เขา รอยยิ้มนั่นละมุนเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน “เหมือนฝันเลยล่ะแบม”
‘…’
‘นายรู้ใช่มั้ย ว่าฉันคิดยังไงมาโดยตลอด’ แบมแบมรู้...รู้ทุกอย่างว่าเพราะอะไร แต่เขาก็ให้ได้แค่ ‘เพื่อน’ เท่านั้นจริงๆ
‘จองกุก...คือ...ฉัน’
“อย่าพูดมันออกมาเชียวนะ”
‘…’
‘ฉันจะทำให้นายชอบฉันเอง ทำให้นายชอบฉันให้ได้’ จองกุกดึงมือเขาเข้าไปกุมก่อนจะกอดเขา ทั้งๆ ที่อีกคนมอบความรักให้ถึงขนาดนี้ แต่ทำไมเขาถึงไม่รู้สึกอะไรเลย...สักนิด
จองกุกพยายามมาตั้ง 4 ปี...แต่มันกลับเปล่าประโยชน์
จองกุกจะแอบไปนั่งท้อลับหลังแบมแบมอยู่เสมอ จนคนตัวเล็กก็รู้สึกแย่ที่เห็นเพื่อนเขต 1 ตั้งแต่เด็กกินยานอนหลับนั่นในห้องน้ำทุกคืนเวลาที่มานอนค้างกับเขา
ทำไม...หัวใจมันถึงไม่เต้น ทำไมเขาถึงไม่ชอบจองกุกกันนะ...
‘ฉันขอโทษ...ฉันขอโทษจริงๆ’
“ฮึกๆๆ”
คนตัวเล็กสะอื้นร้องไห้ใต้ผ้าห่มก่อนที่จะค่อยๆ ลุกขึ้นและนั่งชันเข่าร้องไห้ มันผ่านมา 4 ปีแล้วที่พี่คริสตายไปแล้วมีจองกุกเข้ามาดูแลแทน เทคแคร์อย่างดี อย่างวันนี้ก็ยังอุตส่าห์ให้คนมาตามหาตัวเขา แถมยังรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่เลยไม่เรียกตัวไปหา
...ทำไมต้องเข้าใจเขาถึงขนาดนั้น...
...ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้เข้าใจอะไรในตัวจอนจองกุกเลยสักนิด...
“ฮึกๆ...ฮือ...”
แบมแบมรู้สึกได้ถึงเสียงขยับตัวของคนบนโซฟา คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นยกมือปาดน้ำตาเมื่อเห็นคิมฮันบินสภาพหัวกระเซิง(ยังหล่อ)นั่งมองเขาอยู่ตรงนั้น
“บะ...แบมทำให้ฮยองตื่นเหรอ?...ฮึก...ขอโทษนะครับ เดี๋ยวแบมออกไปด้านนอก” คนตัวเล็กค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียงแต่กลับหยุดเดินเพราะฝ่ามือหนาของคนบนโซฟาคว้าเข้าที่ข้อมือของเขา
“ไม่ต้อง”
“...ฮึก...ฮือ...”
“เป็นอะไร?” คิมฮันบินเอ่ยถามคนตัวเล็กที่ยืนกลั้นเสียงสะอื้นแล้วร้องไห้เสียงแผ่วเบา ก่อนที่ริมฝีปากเล็กจะค่อยๆ เอ่ยออกมา
“ฮะ...ฮยองเคย...ฮึก...เคยระ...รักใครป่ะ?”
“...”
“แล้ว...แล้วถ้า...ฮึก...ถ้าเค้าไม่...ไม่รักฮยองอ่ะ”
“…”
“...ฮึก...มันเจ็บ...ฮือ...มันเจ็บมั้ยอ่าฮยอง”
ฟุ่บ
คิมฮันบินลุกขึ้นแล้วดึงคนตัวเล็กเข้ามากอด แบมแบมกอดเขาแน่นปล่อยให้น้ำตาไหลจนเปียกเต็มเสื้อของร่างสูงแต่คิมฮันบินก็ไม่ได้ว่าอะไร ผู้หมวดแสนเย็นชาลูบกลุ่มผมสีทองนิ่มเบาๆ
...เจ็บรึเปล่า ฉันก็ไม่รู้หรอก...
...รู้แค่ว่าหัวใจของฉันที่เต้นอยู่ตอนนี้...
...มันรู้สึกเจ็บปวดไปหมด...
------------- TBC ----------------
Spoil :: 5 Forsaken Area
“ครั้งสุดท้ายแล้วนะ...จูเนียร์”
“…”
“ถ้าครั้งนี้ยังหาไม่เจออีก ฉันจะเป็นคนออกไปเอง”
.
.
.
“งั้นนายก็ลองไปพูดกับแม่ค้าสิว่า ผมต้องการ ‘โยกรัต’”
“แล้วมันทำไมเหรอฮะ?”
“แล้วแม่ค้าก็จะยื่นอีโต้มาให้นายแทน”
สวัสดีจ้า / หายไปนานเลย 555 ช่วงนี้ไม่ค่อยว่างเท่าไหร่น่ะค่ะ แต่จะพยายามมาอัพให้นะ
ความคิดเห็น