คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : FSK : 3
3
…แข่งยิงธนูในวันพรุ่งนี้น่ะเหรอ?...
มาท้าผิดคนแล้วจ้า!!~
สุดท้ายวันนี้ในตอนเช้า ภารกิจที่ว่าจะกลับบ้านเกิดเมืองนอนเขต 7 ของแบมแบมก็เป็นอันล้มเหลวเพราะพรุ่งนี้คนตัวเล็กต้องไปแข่งธนูตามกฎของเขต 5 ที่จะให้ผู้หมวดตัดสินหากมีคนในเขตตีกัน ซึ่งคิมฮันบินก็ไม่สามารถไล่แบมแบมกลับได้เพราะตัวเองเป็นคนสั่งเองว่าจะเปิดศึกแข่งธนู ผู้หมวดแสนเย็นชาไม่ได้ว่าหรือพูดอะไรทันทีที่กลับมาถึงบ้าน 7/5 Wolves Path แล้วเห็นคนตัวเล็กนั่งอยู่บนโซฟาหน้าเตาผิงกับยูคยอม
แบมแบมรู้สึกดีใจที่อย่างน้อยเขาก็ยังได้อยู่ต่อโดยไม่โดนคิมฮันบินจิกกัดทางสายตาล่ะนะ
“งั้นวันนี้ยูคพาแบมไปซ้อมยิงธนูหน่อยดิ~” แบมแบมหันไปอ้อนเพื่อนสนิทตัวสูงที่มองเขาด้วยแววตาแปลกๆ พลางยิ้มแหยๆ
ก็จะไม่แปลกได้ไง...เมื่อไม่กี่นาทีก่อนแบมแบมยังอยู่ในโหมดดราม่าอยู่เลย เข้าบ้านมากลับลัลล้าเป็นปลิดทิ้ง
“แบมยิงธนูเป็นเหรอ?” ยูคยอมสะบัดหัวไล่ความคิดแล้วถามเพื่อนใหม่ที่ลวงเขาว่ามาจากเขต 6
“เป็นดิ”
“ฉันขอเตือนแบมไว้เลยนะว่าคนเขต 5 เก่งธนูมากกกก” ยูคยอมลากเสียงยาวแต่หนักแน่น เพื่อเน้นย้ำว่าที่เขาพูดนั้นจริงจังและเป็นเรื่องจริง แต่คิดเหรอว่าแบมแบมจะกลัว
...ตอนอยู่ในปราสาทแบมก็โดนจับฝึกธนูทุกวัน แบมกล้าพูดได้ด้วยตัวเองเลยว่า ‘แบมเทพมาก!’...
“เถอะน่า~ คอยดูแล้วกัน เรายิงธนูเก่งนะ”
“...จะไปได้สักกี่น้ำกันเชียว” ...แน่นอนว่าน้ำเสียงนั่นไม่ใช่ของยูคยอม
แบมแบมมองคิมฮันบินที่ถือกาแฟไปนั่งที่มุมประจำมุมเดิม นัยน์ตาคมนั่นไม่ได้เหลือบมองแบมแบมแม้แต่น้อย เชอะ! ถึงยังงั้นแบมก็ได้ยินที่คุณพี่ดูถูดแบมนะเฟ้ย!~
“แบมยิงธนูเก่งจริงๆ นะฮันบินฮยอง!”
ฮันบินทำแค่เหลือบตามองเด็กน้อยพูดมากเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะหันไปสนใจกับหนังสือในชั้นหนังสือข้างๆ แทน แค่นั้นก็สะกิดเส้นประสาทช่วงล่างของเท้าแบมแบมได้อยู่ไม่น้อย นอกจากอีกคนจะไม่พูดอะไร ผู้หมวดหน้านิ่งคนนี้ยังเมินใส่
...คอยดูวันพรุ่งนี้ให้ดีก็แล้วกัน คิมฮันบิน!...
ยูคยอมพาแบมแบมเดินมาจนถึงลานฝึกธนูกลางแจ้งที่พรุ่งนี้จะกลายเป็นสนามแข่งจริงของแบมแบมและสาวเจ้าปัญหา คนตัวเล็กดูตื่นเต้นตลอดเวลาซึ่งยูคยอมก็ไม่เข้าใจว่าแบมแบมเป็นอะไรกับเขต 5 มากมั้ยถึงได้ทำท่าทางเป็นปลากระดี่ได้น้ำแบบนั้น
ภายในสนามฝึกธนูเล็กๆ นี้ไม่มีคนอยู่เลย ซึ่งมันก็เป็นแบบที่แบมแบมคิดไว้ไม่ผิด ก็ดีตรงที่ว่าเขาจะได้ฝึกธนูได้อย่างสบายใจ ไม่มีสายตาของใครมาคอยจ้องมองจนเกรง...จะยกเว้นก็แต่สายตาของยูคยอม
ความจริงแบมแบมก็ไม่ได้รู้สึกอะไรหรอก ถ้าจะมีสายตาใครมองมาก็ไม่เป็นไรเพราะเนียร์ฮยองเคยสอนเขาไว้ว่า ‘อย่าแคร์สายตาใครที่มอง ขอเพียงจิตอยู่นิ่งและมั่นคง เราก็จะไม่เป็นรองใคร’ แบมแบมเลยถูกเนียร์ฮยองฝึกยิงธนูมาตั้งแต่ 7 ขวบ ฝึกมา 10 ปี จนเขามั่นใจว่าเขาเก่งพอ
ยูคยอมนั่งรออยู่บนอัฒจรรย์ข้างสนาม ส่วนแบมแบมก็เดินไปเตรียมอุปกรณ์และเลือกธนูทางอีกมุมหนึ่งของสนาม พอเดินกลับมาอีกทีแบมแบมก็พบว่ายูคยอมก้มหน้าหลับคอพับไปแล้ว คนตัวเล็กเลยได้แต่เบ้ปากและบ่นงุบงิบ
“เหอะ...แบมยังไม่ทันได้โชว์ก็หลับซะละ โด่~”
คนตัวเล็กส่ายหน้าไปมาก่อนจะสนใจกับแป้น target ตรงหน้าที่อยู่ห่างออกไปหลายเมตร แล้วยกธนูพร้อมกับดึงสายธนูให้ยืดเต็มแรงเตรียมยิง คนตัวเล็กหรี่ตามองระยะเป้าหมายก่อนจะท่องคำขวัญในใจที่ทำให้ลมหายใจของเขาสงบ
‘จงปล่อยจิตวิญญาณและลมหายใจให้ตรงดิ่งและมั่นคงดั่งลูกธนู’
ไม่ต้องบอกเลยว่าใครสอนและมอบคำขวัญนี้ให้เขา ไม่มีใครอีกแล้วนอกจาก...เนียร์ฮยอง
ปึ้ก!
แบมแบมปล่อยลูกธนูดอกแรกออกไป คนตัวเล็กพูด ‘ten’ เบาๆ กับตัวเอง เมื่อลูกธนูดอกแรกปักเต็มกลาง Target 10 คะแนนสีเหลือง ก่อนที่ร่างเล็กจะหยิบลูกธนูดอกที่ 2 จากกระบอกใส่ลูกธนูด้านหลัง สายตากลมหรี่มองเป้าหมายตรงหน้า เขาเปลี่ยนจากการยิงแบบตรงเป็นแนวนอน ก่อนจะปล่อยลูกธนูดอกที่สอง มุมปากบางยกขึ้นเล็กน้อยเมื่อยิงไปเข้า Target 10 คะแนนดังเดิม
“ลูกสุดท้ายแล้วแบม...” แบมแบมพูดกับตัวเอง คนตัวเล็กหลับตาแล้วปล่อยธนูดอกสุดท้ายแหวกสายลมที่โชยมาเล็กน้อย
ปึ้ก!
...แต่ก็ไม่ได้ทำให้ธนูของแบมแบมไขว่เขวแต่อย่างใด...
“Ten out of ten” ร่างบางพูดกับตัวเองเบาๆ ก่อนที่จะสะดุ้งตกใจเพราะเสียงปรบมือใกล้ๆ
แปะๆๆ
“ฉันไม่คิดว่านายจะยิงได้ขนาดนี้นะเนี่ย” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นใกล้ๆ ผู้พันมาร์คยิ้มจนเห็นฟันเขี้ยวสีขาว แบมแบมมองบุคคลตนหน้าอย่างทำตัวไม่ถูก หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวเมื่อเจอกับสไมล์แอคแทคที่ได้รับ
“คะ...คุณมาร์คมาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับเนี่ย?”
“ก็มาได้สักพักแล้วล่ะ ตั้งแต่ธนูดอกที่สองของนายแล้ว” มาร์คหยิบธนูดอกแรกที่เขาเดินไปเอามา ก่อนจะดึงสายธนูแล้วพูดกับแบมแบม “แต่นายนี่สุดยอดเลยนะ ยิงได้เข้า 10 target ทั้งหมด 3 ดอกโดยใช้แค่ self bow ธรรมดา”
แบมแบมมองลูกธนูของมาร์คที่ยิงไปปัก 10 target ตรงกลาง ผู้พันหน้าหล่อยิ้มมุมปากเล็กน้อยแล้วหันมามองแบมแบมพลางยักคิ้วให้
อย่าทำอย่างนั้นครับ! T^T แบมจะละลาย
“คุณมาร์คก็เก่งนี่ครับ ได้ 10 target เหมือนกันอ่ะ”
“ได้ดอกแรกก็ไม่ใช่ว่าดอกต่อๆ ไปจะเหมือนเดิมนะ” คนอายุมากกว่ายิงธนูดอกที่สองแล้วไปปักตรงเขตสีแดงที่บอกเลขคะแนนได้ 9 คะแนน ผู้พันมาร์คผ่อนลมหายใจแรงๆ แล้วหันมามองมาแบมแบมพร้อมกับหยิบลูกธนูดอกสุดท้ายขึ้น
“คิดว่ากี่แต้มล่ะ?”
“อืม...10 มั้งครับ”
“แต่ฉันว่า 8 นะ”
ปึ้ก!
สุดท้ายลูกธนูดอกที่ 3 ก็ไปปักอยู่ที่ 9 คะแนนอย่างน่าเจ็บปวด มาร์คส่ายหัวเล็กน้อยก่อนจะถอดอุปกรณ์ธนูออก
“ขนาดฉันใช้ธนู Modern ยังได้ไม่เท่า self bow ของนายเลย” ผู้พันมาร์คนั่งลงบนอัฒจรรย์แล้วเปิดขวดน้ำขึ้นกระดกดื่ม แบมแบมเลยเดินไปนั่งลงข้างๆ อีกคนและมองไปยัง Target ธนูของมาร์คที่มีลูกธนู 3 ดอกปักอยู่
“นี่นายยังใส่มันไว้อยู่อีกเหรอ?” แบมแบมหันมามองมาร์คที่มองมายังหมวกไหมพรมสีแดงบนหัวเขา
“อ่า...โอ๊ะ! ขอโทษนะครับคือผมลืมเอามาคืนเลย” มาร์คมองแบมแบมที่กำลังจะถอดหมวกนั่นออก มือเรียวของคนเป็นผู้พันเลยรีบจับมือบางที่กำลังจะถอดหมวกนั่นเอาไว้
“ไม่ต้องหรอก ฉันให้”
“เอ๋?”
“แทนคำขอโทษ ที่ฉันทำนายร้องไห้” มาร์คชักมือตัวเองกลับเมื่อเห็นว่าร่างเล็กไม่พยายามที่จะถอดหมวกออกแล้ว แบมแบมมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของผู้พันมาร์ค ก่อนที่มือบางจะล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของตัวเองแล้วหยิบบางอย่างออกมา
มาร์คมองอมยิ้มรูปหัวใจสีชมพูที่ความยาวตั้งแต่ปลายไม้จนถึงตัวลูกอมประมาณหนึ่งฝ่ามือ มาร์คเลิกคิ้วขึ้นมองแบมแบมที่มองหน้าเขาตาแป๋ว ทำให้ผู้พันหน้าหล่อเผลอหลุดยิ้มออกมาแล้วหัวเราะ
“นายให้ฉันเหรอ?”
“ก็ทีคุณมาร์คยังให้หมวกผมเลย ผมก็ต้องตอบแทนสิครับ” แบมแบมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ แต่ความจริงคือเขาอยากให้มากกว่า เพราะอะไรน่ะเหรอ?
...เพราะหน้าด้านข้างของผู้พันมาร์คทำให้หัวใจดวงน้อยๆ นี้อยู่ไม่สุข...
อร๊ายยยย~ คิดอะไรน่ะแบม -///-
“ฮ่าๆ ขอบใจนะ” มาร์คหยิบอมยิ้มจากมือแบมแบมไปแล้วเก็บเข้ากระเป๋ากางเกงของตัวเอง คนหน้าหล่อจึงถามต่อ “แล้วนี่...มาคนเดียวเหรอ?”
“เปล่าครับ ผมมากับหมอนั่น” แบมแบมชี้ขึ้นไปบนอัฒจรรย์ฝั่งซ้ายของสนาม ปรากฎให้เห็นยูคยอมที่กำลังนั่งหลับอย่างสบายใจจนกลายเป็นท่าทีที่ดูน่าเกลียดแปลกๆ ยังไงชอบกล
“อ้อ...” มาร์คตอบรับเล็กน้อย ก่อนจะพูดขึ้นมาอีกครั้ง “ว่าแต่นี่ก็แปลกนะ”
“อะไรแปลกเหรอครับ?”
“คิมฮันบินไง” แบมแบมยิ่งงงเป็นไก่ตาแตกเข้าไปใหญ่ ก็อยู่ดีดีไปเกี่ยวอะไรกับฮันบินฮยองก็ไม่รู้ แบมงงนะคร้าบ ช่วยอธิบายให้กระจ่างเดี๋ยวนี้
“นายรู้รึเปล่าว่าปกติหมอนั่นจะตัดสินเรื่องพวกนี้ยังไง”
“ยะ...ยังไงครับ?”
“ถ้าเป็นผู้ชายทะเลาะกับผู้ชายเขาจะให้ตัดสินยิงปืน ถ้าเป็นชายทะเลาะกับหญิงเขาจะตัดสินโดยการเล่นหมากรุก และถ้าเป็นหญิงทะเลาะกับหญิงเขาจะตัดสินโดยการยิงธนู”
มาร์คหันมามองหน้าแบมแบมซึ่งคนตัวเล็กก็ได้แต่ก้มหน้างุด...เดี๋ยวนะ ปกติชายกับหญิงทะเลาะกันก็ต้องเล่นหมากรุกดิ แล้วนี่ทำไมถึงได้ให้เขาไปแข่งธนูกับผู้หญิงได้ นั่นมันโทษของหญิงกับหญิงไม่ใช่เหรอ?!!~
“รึบางทีอาจเป็นเพราะว่านายเหมือนผู้หญิงก็ได้”
“เอ๋?!!?”
“ฉันหมายถึงหน้าตาน่ะ” ...นั่นก็ยิ่งเข้าไปใหญ่เลยครับ! แบมว่าแบมออกจะหล่อเฟี้ยว!!
“เอ่อ...ผม...คือ...ไม่” ลิ้นพันกันมั่วไปหมดจนสุดท้ายนัยน์ตากลมก็เผลอสบตากับอีกคนโดยบังเอิญ คนตัวเล็กเลยต้องรีบก้มหน้าเมื่อรู้สึกได้ว่าใบหน้าของเขากำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัย
เอาไข่ดาวมาทอดบนหน้าแบมตอนนี้ขอบอกเลยว่า...สุกภายใน 2 นาที
ทำไมคุณมาร์คมีอิทธิพลต่อหัวใจดวงน้อยๆ ของแบมได้ถึงขนาดนี้กันนะ T^T ไม่ชอบเลย!
แบมแบมเดินกลับมาถึงบ้าน 7/5 Wolves Path (แน่นอนว่าต้องปลุกยูคยอมกลับมาด้วยกัน) คนตัวเล็กสอดส่ายสายตาไปทั่วตัวบ้านเพื่อมองหาเงาของใครอีกคนที่มักจะเดินถือกาแฟแล้วเอามาทานตรงมุมโปรดของตัวเอง เมื่อเห็นว่าไม่มีเงาของคิมฮันบิน แบมแบมเลยหันไปถามเพื่อนยักษ์ตัวยาวที่นอกเอกขเนกอยู่บนโซฟาหน้าเตาพิง
“ยูค ฮันบินฮยองอ่ะ?”
“บีไอฮยองคงไปเข้ากรมมั้ง อย่าถามมากดิฉันจะนอน~” ได้ข่าวว่าแบมถามไปคำถามเดียวเองนะ -.-
แบมแบมเดินไปนั่งบนเก้าอี้ตัวโปรดของฮันบินที่ติดกับชั้นหนังสือมากมาย ก่อนจะวางกระดาษใบเล็กๆ สากๆ ที่มีตัวการ์ตูนน่ารักๆ อยู่ด้านล่าง แล้วลงมือเขียนบางอย่างลงไปในนั้น ตัวหนังสือสวยๆ น่ารักๆ ตามที่อาจารย์ในปราสาทสอนมาถูกเขียนลงบนกระดาษตามด้วยลูกอมหัวใจสีชมพูแบบเดียวกับที่เขาให้มาร์ควางทับเอาไว้
คนตัวเล็กยิ้งอย่างภูมิใจกับผลงานอันน้อยนิดแต่ยิ่งใหญ่(?) ของตัวเอง ก่อนที่ร่างบางจะปลีกตัวออกมาจากตรงนั้น
งงอ่ะดิว่าทำไมแบมแบมถึงเอาลูกอมไปให้ฮันบินฮยอง?
ย้อนไปตอน 08.30 น.
“แบมไม่มีที่ไปสุดๆ เลยยูค” คนตัวเล็กพูดออกมาเสียงแผ่วเบาเพราะเขามีแข่งพรุ่งนี้แล้วตอนนอนค้างที่นี่ 1 คืน แบมแบมเหี่ยวเฉายิ่งกว่าอะไรดีเพราะกลัวฮันบินฮยองจะดุที่เขามานอนค้างคืนที่บ้านหลังนี้
“ก็บอกแล้วไงว่าอยู่ที่นี่ได้ บีไอฮยองไม่ว่าอะไรหรอก” ยูคยอคเขย่าเตือนสติเพื่อนตัวเล็กเล็กน้อย แล้วพาแบมแบมเดินไปทางประตูบานหนึ่งที่แบมแบมจำได้ว่าเขาไม่เคยเข้าไป ยูคยอมเปิดประตูห้องออกพบกับเตียงเดี่ยว 1 เตียงและโซฟาอีกหนึ่งตัว มีโต๊ะทำงาน 1 โต๊ะที่มุมของห้อง
“นี่ห้องยูคเหรอ? เดี๋ยวเรานอนบนโซฟาให้ก็ได้”
“เปล่า”
“หา?”
“นี่ห้องบีไอฮยอง” คำตอบของเพื่อนตัวสูงทำให้ร่างบางเบิกตากว้าง อ้าปากเตรียมเถียงกับเพื่อนเจ้าของบ้าน แต่ยูคยอมก็ก็พูดชิงตัดหน้าขึ้นซะก่อน
“ฉันคุยกับบีไอฮยองแล้ว หมอนั่นบอกว่ายังไงรู้มั้ย”
“?”
“เขาบอกกับปากเองว่า ให้แบมนอนเตียงห้องเขาก็ได้ เดี๋ยวเขาจะไปนอนโซฟาเอง” แบมแบมกระพริบตาปริบๆ อย่างไม่อยากจะเชื่อ ก่อนที่จะถามยูคยอมว่า
“ละ...แล้วทำไมไม่ให้ยูคมานอนกับแบมล่ะ? เพราะดูเหมือนฮันบินฮยองจะชอบสันโดษมากกว่า”
“พอดีว่าฉันต้องนอนห้องตัวเองเท่านั้นอ่ะ นอนห้องของคนอื่นแล้วฉันนอนไม่หลับ”
“ความจริงจะให้เราไปนอนหน้าเตาผิงที่ห้องรับแขกก็ได้นะ”
“แต่ตำนานของเขต 5 บอกว่าจะมีหมีมาเดินผ่านหน้าบ้านทุกคืนนะ เคยบอกว่ามันเข้ามาในตัวบ้านแล้วคนบ้านนั้นก็หายไปด้วยล่ะ” แบมแบมเผลอกลืนน้ำลายลงคอไปอึกใหญ่เลยครับท่าน...
“งั้นทำไมฮันบินฮยองไม่ให้เรานอนที่โซฟาล่ะ เรานอนโซฟาก็ได้นะ”
“บีไอฮยองบอกว่าเพราะพรุ่งนี้นายมีแข่ง เขาไม่อยากให้นายนอนที่ไม่ดีแล้วมันจะทำให้ปวดแขน เดี๋ยวจะส่งผลต่อการแข่งพรุ่งนี้เช้า”
...เงียบ...ไม่สามารถหาข้ออ้างอะไรขึ้นมางัดได้อีก...
“งั้นวันนี้นายนอนเตียงบีไอฮยองนะ เขาอาจจะกลับมาดึกหน่อย ไม่ต้องตกใจถ้าไม่เห็นพี่เขานะ”
แบมแบมเม้มปากก่อนที่คนตัวเล็กจะยิ้มออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ ความรู้สึกแปลกๆ ที่ทำให้อบอุ่นนี่มันอะไรกัน
“เห็นมั้ยล่ะ ฉันบอกแล้วว่าบีไอฮยองไม่ได้ไม่ชอบนายซะหน่อย” ยูคยอมพูดก่อนจะเดินออกจากห้องไป ทิ้งคนตัวเล็กให้ยืนยิ้มกับที่อยู่คนเดียวในห้องของผู้หมวดบีไอ
เข้าใจแจ่มแจ้งแล้วใช่มั้ยครับ...
แบมแบมสะบัดหัวตัวเองไล่ความคิดทั้งหลายแหล่ที่ตีแผล่เข้ามา ก่อนที่คนตัวเล็กจะได้ยินเสียงเหมือนกับกำลังมีคนเดินเข้ามาใกล้ๆ ตัวบ้าน สายตาสวยชะโงกมองออกไปด้านนอกแล้วก็พบกับ
ฮะ...ฮันบินฮยอง
แบมแบมแทบลื่นหัวขมำกับพื้นบ้านเพราะเขาเอาแต่ลนลานทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะเดินไปทางไหนดีจนสุดท้ายก็เดินไปทางเตาผิงอย่างรวดเร็ว แล้วนั่งกอดเข่าบนโซฟาทำเป็นหลับไปพร้อมกับยูคยอม
คิมฮันบินเปิดประตูบ้านเข้ามา นัยน์ตาคมเฉียบเหลือบมองไปทางร่างยักษ์ของน้องชายที่นอนเอกขเนกบนโซฟาหนังตัวยาวอย่างหมดสภาพ ก่อนจะเสตาไปมองแบมแบมที่นั่งกอดขาชันเข่าหลับไปคาโซฟา
ผู้หมวดเขต 5 ผ่อนลมหายใจเล็กน้อย เขาเดินไปตรงมุมห้องทีมีชั้นหนังสือและเก้าอี้ตัวเดิมที่วันใดไม่ได้นั่งแล้วเหมือนมันขาดอะไรไปสักอย่าง ทุกอย่างตรงนั้นเหมือนเดิมหมด จะยกเว้นก็แต่...
...อมยิ้มรูปหัวใจน่ารักๆ บนโต๊ะกาแฟ...
ฮันบินขมวดคิ้วแล้วหยิบอมยิ้มขึ้นมาอย่างงงๆ ก่อนที่จะหยิบกระดาษสากๆ ที่มีข้อความน่ารักๆ เขียนอยู่
ไม่มีคำพูดออกมาปากร่างสูง มีเพียงรอยยิ้มมุมปากที่ยกขึ้นมาบางๆ ไม่ได้เย้ยยัน ไม่ได้ยิ้มเยาะ
แต่มันเป็นรอยยิ้มที่ดูมีความสุขกับข้อความสั้นๆ นั่นเหลือเกิน
‘ขอบคุณสำหรับเตียงของพี่ในคืนนี้นะครับ
ผมจะแข่งธนูให้ชนะให้ได้ คอยดูแล้วกัน! ฮันบินฮยอง’
แบมแบม
...หิว...
คำคำเดียวที่วนเวียนอยู่ในหัวของแบมแบมณ ตอนนี้ คนตัวเล็กพึ่งรู้ว่าตัวเองเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ พอตื่นมาอีกทีแบมแบมก็พบว่านี่มันสี่โมงเย็นแล้ว ร่างบางพยายามมองหาเพื่อนตัวยักษ์แต่ก็พบเพียงแค่กระดาษสีเหลืองหนึ่งใบวางอยู่บนโต๊ะเท่านั้น
‘เย็นนี้จนอาจจะถึงมืดเลยล่ะที่ฉันไม่อยู่ พอดีวันนี้เป็นวันเกิดเพื่อนฉันน่ะ ถ้านายหิวก็ไปหาอะไรในครัวดูนะ แต่ถ้าอยากอาบน้ำ ห้องน้ำอยู่ใกล้ๆ กับห้องครัวนะ -- คิมยูคยอม’
เหอะ! ทิ้งแบมเอาไว้คนเดียวอีกแล้ว!
คนตัวเล็กเดินไปรอบบ้านแต่กลับพบว่าไม่มีใครอยู่เลยสักคน เนื้อตัวของเขาเหนียวไปหมด เสื้อผ้าก็เริ่มมีกลิ่นแม่งๆ ออกมา
“แบมว่าแบมไม่น่าจะใส่เสื้อยูคได้นะ” แบมแบมพูดกับตัวเองคิดได้ดังนั้น ร่างบางก็เดินออกจากตัวบ้านแล้วมุ่งเข้าสู่ตลาด หาดูเสื้อผ้าร้านนู้นร้านนี้ทีก่อนจะพบอยู่ร้านหนึ่ง
‘Sebastein Suit’
กริ๊งง~
คนตัวเล็กมองกระดิ่งที่สั่นอยู่หน้าร้านเมื่อเขาเปิดประตูเข้ามา ก่อนที่จะหน้าไปปะกับเจ้าของร้านที่มองมาทางเขาอย่างพินิจพิเคราะห์ แบมแบมเลยได้แต่ยืนนิ่งก่อนที่คนตัวเล็กจะมองผู้ชายตัวสูงเจ้าของร้านนั่นเดินเข้ามาใกล้ๆ แล้วยื่นกระจกมาที่หน้าเขา
...พึ่งจะได้เห็นสภาพหน้าตัวเอง...
“นายไปทำอะไรมาทำไมหน้าเละอย่างนั้น?” เจ้าของร้านพูดราวกับว่ารู้จักแบมแบมมานานแสนนาน คนตัวเล็กเหมือนจะงงไปเล็กน้อยไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดี
“เอ่อ...คือ...ผม”
“ช่างเถอะ ไปล้างหน้าหลังร้านก่อนไป” เจ้าของร้านผอมสูงโยชน์นั่นพูดกับแบมแบมก่อนจะผลักหลังร่างเล็กให้เดินไปที่หลังร้าน แบมแบมล้างหน้าตัวเองตามคำสั่งของอีกคนหนึ่งก่อนที่คนตัวเล็กจะเหลือบมองป้ายชื่อที่ปักอยู่บนอก
‘ชเวจุนฮง (ZELO)’
“นานแล้วนะเนี่ยที่ไม่มีคนเข้าร้านฉัน อย่างว่าแหละนะ ถ้าไม่รวยก็เข้าไม่ได้หรอก แล้วนายมีเงินเท่าไหร่ล่ะ? หน้าตอนเข้ามายิ่งกว่ายาจกข้างถนนอีกนะเนี่ย นี่ฉันเปล่าดูคนที่หน้าตานะ” …ครับ =^= ไม่ได้ดูคนที่หน้าตาจริงๆ
“เอ่อ...ผมมีอยู่ 200 เหรียญ”
“ยาจกของแท้เลยนี่!! เดินหลงทางมาเข้าร้านฉันรึไงกันห๊ะ? ว่าแล้วว่าเด็กอย่างเธอไม่น่าจะมีอะไรดี ดูดีแค่หน้าตาใช่รึเปล่านะ...”
“...ทอง”
“หือ?”
“200 เหรียญทอง... 1000 เหรียญเงิน พอมั้ยครับ?”
ชเวจุนฮงเบิกตากว้างก่อนที่เจ้าของร้านผู้เป็นเสาไฟฟ้าเดินได้จะเดินเข้ามาเขย่ามือแบมแบมแล้วพูดกับคนตัวเล็ก
“ฉันจะเปลี่ยนโฉมนายให้ใหม่ตั้งแต่ชั้นบรรยากาศบนหัวจรดใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทเลย!!”
...เอาจริงดิ...
...แบบนี้มันเด่นเกินไปแล้ว!!...
แบมแบมมองตัวเองหน้ากระจก ผมสีดำถูกย้อมให้เป็นสีบอล์น เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีดำทับด้วยคาดิแกนด์ตัวยาวสีแดง กางเกงขายาวสีดำ และรองเท้าผ้าใบไนกี้สีดำ
ทันสมัยมาก!!
แบมว่าแบมเท่มากๆ ด้วย โคตร SWAG!!~
“นายน่ารักกว่าที่ฉันคิดไว้อีกนะเนี่ย!~” ...น่ารัก? ครับ...โอเค แบมเข้าใจแล้ว
“ว่าแต่นายเป็นลูกคนรวยเหรอ ถึงได้พกเหรียญเงินแบบนี้?” ชเวจุนฮงถามในขณะที่แบมแบมกำลังลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้หน้ากระจกบานใหญ่ที่ไว้นั่งสำหรับตัดผม
“ก็...เอ่อ...คือ”
“เอาเถอะๆ ฉันไม่ถามแล้วดีกว่า อยากรู้จริงๆ เลยว่านายกินอะไรเข้าไปถึงได้พูดติดอ่างเป็นระยะๆ แบบนี้น่ะ”
“อ่า...ขอโทษนะครับ”
“ขอบใจสำหรับ 200 เหรียญก็แล้วกันนะ แล้วอย่าลืมแวะมาใหม่ล่ะ ร้านฉันน่ะทันสมัยที่สุดแล้ว”
“อ่า...ครับ”
แบมแบมค่อยๆ เดินออกมาจากร้าน คนตัวเล็กรีบก้มหน้าเดินเพื่อกลับไปที่ 7/5 Wolves Path ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าต้องมีสายตาหลายคู่มองมาที่ตัวเองแน่ๆ
...แบมว่าแบมแค่จะเข้าไปซื้อเสื้อผ้าเฉยๆ นะ แล้วไอ้ย้อมผม มาร์คหน้าพวกนั้นมันมาได้จั๋งได๋?!!...
แต่ก็ช่างเถอะ เอาให้คุ้มกับ 200 เหรียญสิแบม...
แบมแบมได้เสื้อผ้ากลับมาเยอะมาก จะว่าไปก็คุ้มจริงๆ อ่ะแหละ คุณเซโล่เจ้าของร้านแค่บอกกับแบมว่ารู้สึกถูกชะตาเลยแถมนู่นนี่นั่นยัดใส่ถุงให้แบมจนเกือบขาด แบมแบมเลยได้แต่ถือถุงนั่นกลับมาอย่างกับเพิ่งกลับมาจากช้อปปิ้ง
เฮร้อ~ คนหล่อ(?)เซ็ง
แกรก
แบมแบมเปิดประตูเข้ามาในตัวบ้าน เหมือนว่าจะไม่มีใครอยู่คนตัวเล็กเลยวางของทั้งหมดที่หนักอึ้งลงบนโต๊ะหน้าเตาผิง ก่อนที่เสียงสงครามภายในท้องจะดังขึ้น
จ๊อก~
...ลืมไปเลยแฮะว่าตัวเองหิว...
คนตัวเล็กรีบสะบัดหน้าไล่ความคิดและระงับความรู้สึกหิวไว้ก่อน แล้วรีบวิ่งเข้าไปอาบน้ำ ใช้เวลานานพอควรเพราะเขาเงอะๆ งะๆ กับฝักบัวเนื่องจากไม่เคยใช้มาก่อน ก็ตอนที่อยู่ในปราสาทแบมแช่แต่น้ำสบู่ในอ่างนี่หน่า พอมาเจอฝักบัวทียืนตรงเคารพธงชาติต่อหน้ามันเลยจ้า
แบมแบมออกมาพร้อมกับชุดนอนลายการ์ตูนที่ร้าน Sebastein Suit ยัดลงถุงให้ คนตัวเล็กเดินดุ่มๆ เข้าห้องครัว หยิบหม้อต้มและห่อรามยอนที่เหลืองที่อยู่ในตู้กับข้าวก่อนที่แบมจะพึ่งนึกได้
...ลืมว่ามันต้มยังไง...
โอ๊ยยย!~ ชีวิต T^T
ตึก ตึก ตึก
เสียงฝีเท้าที่เดินมาใกล้ทำให้แบมแบมหันไปมองแล้วก็เห็นคิมฮันบินที่เดินมาหยิบหม้อต้มข้างๆ เขา ผู้หมวดผู้น่าเกรงขามไม่ได้พูดอะไร ทำเหมือนกับว่าแบมแบมไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้วเดินไปล้างมือที่ซิงค์ก่อนจะเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบผักออกมาหั่นๆ
แบมเป็นไนโตรเจนรึไง?!!
แต่พอคิดถึงเรื่องเมื่อตอนบ่ายได้หน้าของแบมแบมกลับร้อนฉ่า (.///.) ไม่ชอบเลย ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วยนะ T^T
“ไปไหนมา”
น้ำเสียงเย็นทำให้แบมแบมเผลอสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนที่คนตัวเล็กจะตอบคำถามของคิมฮันบินทั้งที่ผู้หมวดเย็นชามือยังคงหั่นผักและสายตายังคงจ้องผักอยู่แบบนั้น
“ผมไปตลาดมา”
“เหรอ” ฮันบินรับคำก่อนที่จะเดินไปอีกมุมหนึ่งหยิบนู่นนี่นั่น(ผัก)ขึ้นมาหั่น แค่นั้นก็พอรู้แล้วว่าผู้หมวดสูงกว่าเขาคนนี้กำลังจะทำสลัดผัก
แบมแบมไม่กล้าลงมือต้มรามยอนเลยเมื่อมีคิมฮันบินมาหั่นผักอยู่ในห้องครัวแบบนี้ คนตัวเล็กทำท่าลนลานเพราะไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อดี แบมแบมจึงตัดสินใจเดินออกมาจากหัวครัว แน่นอนว่าแบมพากระเพาะที่ร้องอย่างโชกโชนออกมาด้วย
หิวอ่า T_T เมื่อไหร่ยูคจะกลับ
ตอนออกไปตลาดเขาก็ไม่ได้ซื้อของกินกลับมาด้วยสิ รึว่าเย็นนี้แบมแบมคงจะไม่ได้กินอะไรเลย
รับไม่ได้~ TOT/ ตอนอยู่ในปราสาทแบมกินข้าวทุกมื้อนะ เด็กวัยกำลังโตห้ามอดข้าวดิ!
คิมฮันบินเดินออกมาจากห้องครัวพร้อมกับชามสลัดผักก่อนจะนั่งลงตรงโซฟาหน้าเตาผิงตรงข้ามกับแบมแบม แบมแบมมองการกระทำของผู้หมวดตั้งแต่จับช้อนยันตักสลัดผักเข้าปาก รังสีความอยากทำให้คิมฮันบินที่กำลังจะตักผักเข้าปากเงยหน้ามองแบมแบมที่มองมาทางเขา คนตัวเล็กเมื่อเห็นอีกคนเงยหน้าขึ้นมามองก็เป็นอันสะดุ้งก่อนที่เสียงโหยหวนในท้องแบมแบมจะเพิ่มสปิริตมากขึ้น
จ๊อกกก~
ฮือ~ T^T ท้องร้องต่อหน้าฮันบินฮยองเฉยเลย
ฮันบินรวบช้อนและส้อมแล้ววางมันลงในชาม ก่อนที่มือหนาจะผลักชามสลัดมาทางแบมแบม คนตัวเล็กมองสลัดในชามด้วยความแปลกใจสลับกับหน้าฮันบิน
“หะ...ให้ผม?”
ฮันบินมองแบมแบมนิ่งไม่ตอบ จนคนตัวเล็กต้องพูดออกมาเอง
“ขอบคุณครับ ฮันบินฮยอง”
ฮันบินมองแบมแบมที่ยิ้มอย่างดีใจแล้วโซ้ยสลัดในชามอย่างหิวกระหาย(?) ก่อนที่คนอายุมากกว่าจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกมา ยังไม่วายที่จะได้ยินน้ำเสียงเล็กนั่นพูดกับเขาอีกประโยคหนึ่ง
“ฮันบินฮยองใจดีจังเลย”
ร่างสูงไม่ได้หยุดเดิน ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเสียนอกจาก รอยยิ้มที่มุมปากและหัวใจที่เต้นด้วยจังหวะที่เร็วกว่าเดิม
“ฮันบินฮยองครับ”
แบมแบมเอ่ยปากพูดกับคิมฮันบินที่กำลังนั่งอ่านหนังสือเล่มหนาอยู่ที่มุมประจำ คนตัวสูงเงยหนาตัวจากหนังสือก่อนจะมองแบมแบมที่นั่งอยู่บนโซฟาหน้าเตาผิง
“ฮันบินฮยองรู้มั้ยอ่ะว่ายูคยอมจะกลับมาถึงตอนไหน?”
“ไม่”
“แล้ว...หมู่บ้าน Deer Path นี่มันไกลจากที่นี่มากมั้ยฮะ?”
“ไม่”
“อ่อ...ครับ” แบมแบมรู้สึกหน้าเสียเล็กน้อยที่อีกคนถามคำตอบคำ คนตัวเล็กได้แต่เก็บความน้อยใจเอาไว้ ก่อนจะใช้ไม้เขี่ยเตาผิงเล่นไปอยู่แบบนั้น
คิมฮันบินมองท่าทางของอีกคนที่นั่งเบ้ปากเขี่ยกองไฟในเตาผิงเล่น แบมแบมทำท่าเบื่อหน่ายมหาศาลอาจเพราะไม่มีคิมยูคยอมอยู่ด้วย รึอาจจะเพราะมีคิมฮันบินอยู่คนตัวเล็กเลยมีความรู้สึกว่ามันน่าเหงากว่าเดิมเสียอีกเพราะคิมฮันบินเล่นโลกส่วนตัวสูงซะขนาดนี้
ฟุ่บ
แบมแบมชะงักเล็กน้อย ร่างบางรู้สึกได้ถึงแรงยุบที่โซฟาข้างๆ ตัวเขา คิมฮันบินนั่งอยู่ตรงนั้นในมือหนาก็ยังคงกางหนังสือเล่มหนาอ่านอยู่แบบนั้น
...เชอะ! -3-* ถ้าย้ายมาแค่นี้จะย้ายมาทำไมกันห๊ะ?!...
คนตัวเล็กได้แต่กระฟัดกระเฟียดในใจก่อนจะนั่งนิ่งเพราะไม่รู้ว่าจะทำอะไร จนทำให้แบมแบมเริ่มง่วงจนกระทั่งหลับไปในที่สุด ร่างบางเอนหัวโงนเงนไปมาก่อนที่หัวกลมนั่นจะตกลงบนไหล่ของคิมฮันบิน
ฮันบินชะงักไป เขาเหลือบตามองหัวกลมๆ นั่นที่ตกลงบนไหล่เขาก่อนที่คนเป็นอายุมากกว่าจะวางหนังสือลงบนโต๊ะหน้าเตาผิง แล้วสะกิดคนตัวเล็กข้างๆ
...ไม่ตื่น...
“แบมแบม” ฮันบินเริ่มเรียกชื่อไปด้วยเขย่าแขนอีกคนไปด้วย
“แบมแบม...แบม...”
“งื้อ~ บีอย่าปลุกเค้าสิ๊~” ฮันบินถอนหายใจแล้วพยายามปลุกอีกรอบ
“แบม ไปนอนในห้อง แบมแบม...”
“เค้าลุกไม่ไหวแล้วตัว เค้าง่วงง่ะ...” บีไอเริ่มถดคอถอยห่างทันทีที่หัวของแบมแบมเริ่มซุกที่ซอกคอเขาขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งบีไอต้องเป็นฝ่ายลุกขึ้นยืน ทำให้หัวแบมแบมกระแทกลงโซฟาหนัง
แงะ...ถึงจะนิ่มแต่มันก็เจ็บนะ T^T
“งื้อ...กี่โมงแล้วฮันบินฮยอง”
“สามทุ่มครึ่ง...ถ้าง่วงนักก็ลุกไปนอนในห้องซะ”
“แบมนอนนี่ก็ได้ แบมขี้เกียจลุกอ่ะ”
“ไม่ได้แบมแบม พรุ่งนี้นายมีแข่ง”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ...แบมยิงธนูเก่งจะตาย”
“ลุกเดี๋ยวนี้ ฉันจะได้ดับเตาผิง”
“ก็ดับดิครับ แบมมจะนอนอยู่นี่แหละ” คนตัวเล็กตอบทั้งที่ยังคงหลับตาปิดสนิทอยู่แบบนั้น
“แบมแบม!”
“อย่าตะโกนสิฮะ...”
“ลุกขึ้นไปนอนข้างใน เดี๋ยวไม่สบาย!” คิมฮันบินกระชากแขนของแบมแบมให้ลุกขึ้น คนตัวเล็กขยี้ตาเล็กน้อยก่อนจะยอมเดินไปแต่โดยดีเพราะคิดว่ายังไงเขาก็คงเถียงผู้หมวดคนนี้ไม่ได้อยู่ดี
แบมแบมเดินเข้ามาในห้องของคิมฮันบิน คนตัวเล็กฟุ่บหน้าลงแนบกับเตียงทันที ค่อยๆ กระดึ๊บๆ ให้หัวไปจรดกับหมอนแล้วห่มผ้านอนดีๆ ก่อนที่ตากลมจะไปสะดุดกับโต๊ะเขียนหนังสือปลายเตียง ในกระบอกใส่ดินสอนั่นเขามองเห็นอะไรบางอย่างที่มองแวบเดียวก็รู้ว่ามันคืออะไร
...อมยิ้มของแบมแบม...
รวมไปถึงกระดาษที่แบมแบมเขียนให้กับคิมฮันบินตอนที่ให้อมยิ้มนั่นด้วย กระดาษใบนั้นถูกแปะติดกับกระบอกใส่ดินสอทำให้ทั้งอมยิ้มรูปหัวใจและกระดาษแผ่นนั้นดูเด่นขึ้นทันทีเมื่ออยู่บนกล่องใส่ดินสอเรียบๆ แบบนั้น
คนตัวเล็กระบายยิ้มออกมาก่อนจะซุกตัวลงในผ้าห่ม
คิมฮันบิน...ก็ไม่ใช่คนที่ดูเย็นชามากมายขนาดนั้นซะหน่อย
------------ TBC ---------------
Spoil :: FSK 4
“ว่าแต่ฉันขออะไรหน่อยสิ”
“แล้วคุณมาร์คอยากขออะไรจากแบมล่ะครับ?”
“ก็...เวลาที่พูดกับฉันนายเรียกตัวเองว่า ‘แบม’ แบบนี้นั่นแหละดีแล้ว”
“อ่อ...ครับ แค่นี้เหรอฮะ?”
“ช่วยเปลี่ยนคำว่า ‘ผู้พันมาร์ค’ ‘คุณมาร์ค’ เป็น ‘มาร์คฮยอง’ ได้มั้ย”
“อ่ะ...เอ๋?”
“เหมือนที่นายเรียกคิมฮันบินว่า ‘ฮันบินฮยอง’ ไง”
--------------------------------------------------------------------------
สุขสันต์วันลอยกระทงจ้า~(เอ๊ะ...รึว่าพรุ่งนี้?) ช่างมันเถอะ!~
ความคิดเห็น