คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : FSK : 19 [100%]
19
“ผู้พันครับ
เช้าแล้วครับ” มาร์คต้วนค่อยๆ กระพริบตาถี่ๆ แล้วเงยหน้ามองไปรอบๆ
เมื่อรับรู้ได้ถึงแรงสะกิด
...ห้องขัง?...
“ผู้พันทำไมมานอนอยู่ในนี้ล่ะครับ?
แถมยังทิ้งกุญแจไว้ข้างนอกแล้วล็อคอีก”
“จ่าดีโอ?...แล้วคิมฮันบินล่ะ?”
“คิมยูคยอมมาประกันตัวออกไปตั้งแต่เช้าแล้วครับ
เมื่อวานผมก็ตามหาคุณมาร์คซะทั่ว
ดีนะที่จ่ายอลที่มาไขประตูห้องขังมองเห็นผู้พันมาร์คน่ะ
ไม่งั้นได้นอนตายอยู่ที่นี่ไปแล้ว”
“เออน่า ขอบใจมาก”
มาร์ครีบลุกขึ้นยืนก่อนจะค่อยๆ เดินออกมาจากห้องขัง
เมื่อวานเขาจำได้ว่านั่งกร่อยกับฮันบินในคุกจนดึกดื่น
สงสัยเขาคงหลับไปล่ะมั้งเนี่ย
มาร์คต้วนเดินไปหยิบโทรศัพท์บนโต๊ะประจำการของตัวเอง
ร่างโปร่งกดเบอร์โทรศัพท์ของใครบางคนก่อนที่จะเดินออกมาจากที่จำคุกใต้ดิน
รอไม่นานอีกฝ่ายก็รับ
“ฮัลโหลบีไอ ทำไมมึงไม่ปลุกกู”
[มึงก็ตื่นเองได้นิ]
...โอเคมาร์ค มันก็พูดถูก
“นี่เก้าโมงกว่าแล้ว
กูเข้าเวรสายเลยมึงรู้มั้ย”
[...]
“ฮัลโหลบีไอ” มาร์คเริ่มเรียกอีกฝ่ายที่อยู่ๆ ก็เงียบไป
คิมฮันบินตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงแหบๆ แต่ฟังดูเย็นชา
[ไอ้มาร์ค]
“ห๊ะ”
[มึงรู้รึเปล่าว่าจุนฮเวอยู่ที่ไหน]
“ทำไมวะ?” ผู้พันขมวดคิ้วเมื่อได้ยินว่าฮันบินพูดถึงบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง จุนฮเว?
จุนฮเวเกี่ยวอะไร?
[กูว่าเรื่องนี้มันยังไม่จบว่ะ
จุนฮเวมันต้องรู้อะไรบางอย่างแน่ๆ]
“ยังไงวะ?”
[เอาเป็นว่ามึงรู้รึเปล่าว่าจุนฮเวอยู่ไหน]
มาร์คเงียบไปอยู่ครู่หนึ่งแล้วครุ่นคิด ก่อนที่ร่างโปร่งจะบางอ้อ
“เขตชานเมืองเก่า
ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเขต 5”
...คือ..เมื่อกี้มันไม่ใช่แบบนี้ไม่ใช่เหรอ?...
“ดูแลน้องชายฉันดีๆ
ล่ะ เข้าใจมั้ย แล้วอย่าพาน้องฉันเถลไถลหรือข้ามเขตเด็ดดขาด”
“วางใจผมเถอะพี่เขย” บ๊อบบี้จับมือเช็คแฮนด์กับเจบี
ก่อนจะเดินมาโอบไหล่แบมแบมแล้วพาออกไปจากปราสาท
ร่างบางเดินตามทั้งที่ยังคงทำสีหน้าอึนๆ เหมือนไม่เข้าใจในความเปลี่ยนไปของเจบี
ไอ้ที่บอกว่ารักน้องชายจนอยากจะรักษาให้คงอยู่ตลอดไปแต่กลับปล่อยให้มาเดินกับชายผู้มีศักดิ์เป็นแค่แฟนไม่ใช่คนในสายเลือดนี่คือร้ะ?
...แบมรู้สึกไร้ค่ามากมายเลยที่พี่บีทำแบบนี้
T^T...
“เขต 7 นี่สวยเนอะ
ฉันเพิ่งเคยมาเป็นครั้งแรก”
“ไม่ต่างจากแบมเท่าไหร่หรอก
แบมก็เพิ่งเคยออกมาดูเหมือนกัน”
“ตอนนายหนีออกมานี่ไม่ได้เดินดูเขตตัวเองเลยรึไง?”
“ก็ประตูแบ่งเขตมันดูน่าสนใจกว่าเยอะก็เลยตรงดิ่งไปหาประตูเลย”
แบมแบมจิ๊ปากเล็กน้อยก่อนจะเดินนำหน้าบ๊อบบี้
เอาตามตรงคือเขาเริ่มไม่อยากมองหน้าไอ้คนตัวสูงข้างๆ
เริ่มรู้สึกว่าถ้าไปอยู่กันคนละโลกก็ดี เพราะอะไรน่ะเหรอ? TT เพราะเรื่องเมื่อคืนงั้นเหรอ? ก็ยังไม่ได้ทำอะไรเลยแต่มันก็น่าอายไม่ใช่เหรอ?
...โอ๊ยยย TT
ทำไมแบมรู้สึกคิดมากอยู่ฝ่ายเดียว...
“สวัสดีครับ
และนี่คือบ๊อบแบมทีวี ช่วงคุณหนูพบปะประชาชน”
“โธ่
บ๊อบบี้ฮยองเลิกเล่นสักทีเถอะ” แบมแบมรู้สึกไม่โอเคที่เขาเห็นว่าอีกคนยังคงทำตัวเป็นปกติทั้งๆ
ที่เมื่อวานนั้นอีกคนล่วงเกินเขา
“หงุดหงิดอะไรล่ะ
ไม่เห็นมีอะไรน่าหงุดหงิดเลย”
“...”
“เอ็นจอยหน่อยสิเบบ
ไปซื้อของกินหน่อยมั้ย เพื่อจะอารมณ์ดีขึ้น” บ๊อบบี้เก็บกล้องวิดีโอที่ยกขึ้นมาถ่ายก่อนที่จะจูงมือแบมแบมเดินไปตามทางเดิน
...ก็รู้สึกอบอุ่นนะ
อบอุ่นแบบแปลกๆ...
แบมแบมเริ่มไม่แน่ใจว่าการที่เขาเลือกที่จะมาเป็นแฟนกับบ๊อบบี้มันใช่เรื่องที่ถูกรึเปล่า
ทั้งๆ ที่เขากลับรู้สึกกับมาร์คฮยองมากกว่าด้วยซ้ำ
อยากอยู่ใกล้กับฮันบินมากกว่านี้อีก
แต่กลับไม่รู้สึกอึดอัดเท่าไหร่ที่มีบ๊อบบี้อยู่ใกล้ๆ
ถึงแม้ว่าจะมีรำคาญบ้างแต่เขาก็ไม่ได้เกลียดบ๊อบบี้
...ไอ้ความรู้สึกบ้าๆ
นี่มันอะไรกัน...
...ยังไงก็ไม่ได้เจอมาร์คฮยองกับฮันบินฮยองอยู่แล้ว
มีความสุขกับบ๊อบบี้ฮยองสิ...
“แบมแบม
ทำไมคนส่วนใหญ่ถึงกลัวคำว่ารักล่ะ?” แบมแบมคิ้วขมวดที่อยู่ๆ บ๊อบบี้ก็ถามเขาขึ้นมาในขณะที่กำลังเลือกแครอทไปให้จูเนียร์เพื่อทำกับข้าวตอนกลางวันนี้
“ฮยองว่าไงนะ?”
“นายกลัวคำว่ารักรึเปล่า?”
“แบมจะไปกลัวทำไมล่ะ
มันฟังดูอบอุ่นจะตาย” แบมแบมยังคงงุ่นอยู่กับการเลือกผักตามที่จูเนียร์เคยสอน
ในขณะที่บ๊อบบี้ก็มัวแต่เล่นกล้องวิดีโอและพูดนั่นพูดนี่
“งั้นเหรอ”
“…”
“ร๊ากกกกก!!!!”
“อร๊ายยยย!!
ไอ้บ้าเอ๊ย!” แบมแบมตกใจจนตัวโยน
ก่อนจะหันมองบ๊อบบี้ที่หัวเราะอย่างเอาเป็นเอาตาย
ร่างบางนึกอารมณ์เสียที่ร่างสูงทำสมาธิในการเลือกผักของเขาแตกกระเจิงหมด
คนตัวเล็กหันหนีโดยที่มีบ๊อบบี้ตามมาและคอยแต่พร่ำบอกขอโทษ
“โอ๋ๆ ขอโทษนะ
ฉันก็แค่อยากเห็นนายตกใจอ่ะ”
“เพื่ออะไรเนี่ย?
สนุกนักเหรอ?”
“นายไม่สนุกเหรอ?”
“บ๊อบบี้ฮยอง...แบมโดนแกล้งนะจะไปสนุกได้ยังไง”
แบมแบมมองค้อนร่างสูงที่หน้าเจื่อนลงไปเล็กน้อยเพราะเขา
ร่างบางหันหลังหนีอีกคนแต่กลับต้องหยุดชะงักเพราะประโยคบอกเล่าของร่างสูงข้างหลัง
“นายดูฝืนเหลือเกินนะ
เวลาอยู่กับฉัน”
“…”
“รู้สึกมั้ยว่าเขต
5 ที่มีไอ้มาร์คและฮันบินอยู่นายดูมีความสุขมากกว่านี้”
“นี่ฮยองพูดอะไรเนี่ย?”
แบมแบมหันหลังไปก่อนจะขมวดคิ้วให้บ๊อบบี้ที่ยิ้มมุมปากบางๆ
มองยังไงก็รู้ว่าอีกคนกำลังประชดประชันใส่เขา
“ฉันก็แค่พูดไปงั้นแหละ
นายจะแคร์อะไร”
“แต่ฮยองไม่ควรพาดพิงถึงคนอื่น
มาร์คฮยองกับฮันบินฮยองเกี่ยวอะไรด้วย”
“นั่นสินะ
ฉันมันแย่จริงๆ ขอโทษแล้วกันคุณหนูผู้ถูกไปหมด”
“…”
“ไปกันเถอะ”
บ๊อบบี้เดินเอามือล้วงกระเป๋าก่อนจะชนไหล่เขาแล้วเดินออกไป
แบมแบมมองร่างสูงที่พูดตัดพ้อกับเขาด้วยแววตาไม่เข้าใจ
...สายตาเหมือนไม่รู้สึกผิดอะไรเลยนั่นมันอะไรกัน...
------- PLS, WAIT FOR 80 PERSENT ------
“ฉันงอนอยู่นะรู้รึเปล่า อยู่ๆ
ก็มีเลิฟซีนมาร์คแบมสดๆ ตรงหน้านี่ไม่คิดว่าเป็นเดือดเป็นร้อนเลยรึไง?” จองกุกนั่งกอดอกอยู่บนโซฟาก่อนจะหันหน้าหนีแบมแบมที่ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ
“โธ่ อย่างอนดิ
เดี๋ยววันนี้ทำข้าวเย็นให้กินเลย”
“ไม่ต้องมาทำดีเมื่อสายไปเลยนะ
ถึงนายจะไม่ได้รักฉันแต่ก็ควรให้เกียรติคู่หมั้นนายหน่อยสิ”
“ฉันไม่ได้ตั้งใจ...แล้วแบบนั้นมันเรียกว่าอะไรอ่ะ?”
แบมแบมยังทำท่างงเหมือนไก่ตาแตก
ในขณะที่จองกุกอยากจะระเบิดออกมาอยู่ร่อมร่อ
...ปรึกษาใครไม่ปรึกษา
มาปรึกษาคู่หมั้นตัวเองเกี่ยวกับชายอื่น!!?...
“จูบแลกลิ้นไง! ทำไมต้องมาคุยเรื่องแบบนี้กับฉันด้วย?! ไม่เอาแล้ว
นายไปไกลๆ เลย!” จองกุกลุกขึ้นยืนก่อนจะทำเป็นกำลังจะเดินไปเปิดประตูออกจากห้อง
“อย่าเพิ่งดิ
นายมาเยี่ยมฉันไม่ใช่เหรอ”
“จะรั้งให้ฉันอยู่ที่นี่เหรอ?
จะให้ฉันค้าง?”
“เปล่า ฉันหมายถึงของฝากต่างหาก”
...อดทนไว้จองกุก อดทนไว้!... “นายกำลังจะบอกว่านายลืมเหรอ?”
“อยู่ข้างล่างฉันฝากไว้กับนยองแล้ว”
“อ่อ”
“เออ แบม ว่าแต่...” แบมแบมเมื่อเห็นจองกุกเงียบไปก็ทำท่าสงสัย
ร่างสูงมองคนตรงหน้าพลางขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะถามออกไป “ผู้ชายตัวสูงๆ
ตี๋ๆ หน่อยที่คุยกับพี่แจบอมนั่นใครเหรอ?”
“หืม? บ๊อบบี้ฮยองเหรอ?”
“บ๊อบบี้? ทำไมฉันไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อนเลย
หมอนั่นเป็นใครเหรอ? ดูสนิทกับพี่แจบอมนะ”
“ก็...เป็น...อืม...รุ่นพี่แบม”
“โกหกคนอื่นมันไม่ดีนะแบมแบม”
ร่างบางสะดุ้งเฮือกเมื่ออยู่ๆ
บุคคลที่สามก็ปรากฎขึ้นมาหน้าประตูห้อง
คนตัวเล็กถอยหลังออกมาห่างจากประตูเล็กน้อยในขณะที่จองกุกได้แต่ทำหน้างง
บ๊อบบี้เดินยิ้มเข้าไปทักทายจองกุก
“ไงเจ้าชายจอน ฉันชื่อบ๊อบบี้เป็นแฟนแบมแบม”
“ห๊ะ”
“ยินดีที่ได้รู้จัก” บ๊อบบี้ยิ้มให้อีกคนก่อนจะยื่นมือออกไปหาจองกุก
อีกคนมองมันเล็กน้อยแต่ไม่ได้จับตอบ
“นายไม่คิดว่ามันแปลกไปหน่อยเหรอที่จะมาพูดแบบนี้กับคู่หมั้นของแบมแบมน่ะ”
“ไม่แปลกหรอก
เพราะฉันรู้ไงว่าแบมแบมไม่ได้รู้สึกอะไรกับนายนอกจากเพื่อน ถูกรึเปล่าล่ะ?”
“...”
“แต่ฉันก็ภูมิใจในตัวนายนะ
ที่ยังยิ้มอยู่ได้ทั้งๆ ที่เขาไม่เอา”
“หุบปากนะบ๊อบบี้ฮยอง! ฮยองจะพูดแบบนี้กับจองกุกไม่ได้นะ!”
“ก็จริงของเขานั่นแหละแบม
ฉันไม่เป็นไรหรอก”
“มันไม่ใช่แบบนั้นนะจองกุก
นายเป็นเพื่อนที่ฉันรัก…”
“ก็แค่เพื่อนใช่มั้ยล่ะ
มากสุดก็เป็นได้แค่เพื่อนรักของนาย”
“…”
“ฉันกลับล่ะ”
จองกุกเดินยิ้มบางๆ
ให้แบมแบมก่อนจะเหลือบมองที่บ๊อบบี้แวบหนึ่งแล้วหายออกไปจากห้อง
ร่างสูงเดินไปตามระเบียงทางเดินของปราสาทเขต 7 แล้วคิดในใจกับตัวเอง
...ฉันเคยเจอหมอนั่นมาก่อนรึเปล่านะ?...
คิมฮันบินเดินไปด้วยพลางจ้องมองโทรศัพท์ไปด้วย
ร่างสูงมองโทรศัพท์มาร์คอยู่นานจนแทบจะไม่สนใจทางเดินด้วยซ้ำ
ผู้พันที่เดินอยู่ข้างๆ เหลือบมองอีกคนเป็นระยะก่อนจะเอ่ยถามขึ้นมา
“นี่ถ้ามึงเป็นปลากัดโทรศัพท์กูท้องไปนานละ”
“…”
“มึงมองอะไรอยู่วะ
ขอโทรศัพท์กูไปจ้องเล่นเนี่ยนะ?”
“...”
“เอามาดูดิ”
“เฮ้ย” มาร์คดึงโทรศัพท์ออกมาจากมือของคิมฮันบิน
ร่างโปร่งมองที่หน้าจอโทรศัพท์ก่อนจะขมวดคิ้ว
...เบอร์แบมแบม?...
“มึงมองเบอร์แบมทำไมวะ?”
ฮันบินมองมาร์คที่ทำน้ำเสียงจริงจัง
ร่างสูงเงียบไปอยู่นานโดยที่ไม่ตอบอะไรจนคนที่ตั้งคำถามอดหงุดหงิดไม่ได้ “ตอบดิวะ มองทำไม”
“กูแค่อยากจะขอโทษ”
“เรื่อง”
“มึงจำเป็นจะต้องรู้ด้วยเหรอ”
“เรื่อง?!” ผู้หมวดเริ่มขมวดคิ้วตามเมื่อโดนอีกคนตะคอกใส่อย่างไม่มีเหตุผล...อะไรของมันวะ
“ที่กูโกหกเขานั่นแหละ
มึงเอามาได้ละ” ฮันบินคว้าโทรศัพท์ออกจากมือของมาร์ค
ร่างโปร่งยืนจ้องอีกคนที่หยิบโทรศัพท์เขาไปกดโทรออก
คิมฮันบินรอสายอยู่สักพักก็ปรากฎว่าไม่มีใครรับ
ร่างสูงโทรแล้วโทรอีกแต่สัญญาณก็เป็นเหมือนเดิม
...เกิดอะไรขึ้นรึเปล่านะ?...
‘...ฮัลโหล’
“แบม...ฉันคิมฮันบิน”
‘…’
“นายได้ยินรึเปล่า?”
‘แบมไม่ว่างรับสาย
เขาอาบน้ำอยู่’ คิมฮันบินขมวดคิ้วให้กับน้ำเสียงทุ้มๆ
แข็งๆ ที่ฟังยังไงก็ไม่ใช่ของแบมแบม
“มึงเป็นใครวะ”
‘เราเจอกันไปครั้งหนึ่งแล้วนะคิมฮันบิน
ทำไมแกจำไม่ได้วะ?’
“…”
‘บอกให้เอาบุญนะ
ฉันชื่อบ๊อบบี้ เป็นแฟนของแบมแบม’
“แบมแบมมีคู่หมั้นอยู่แล้ว”
‘แล้วคิดว่าฉันแคร์งั้นเหรอ?’
“...”
‘กับแค่เจ้าชายจอนแล้วมันยังไงงั้นเหรอ?
รวมถึงแกด้วย...พวกแกมันก็แค่หมากในกระดานรอโดนกินเท่านั้นแหละ’
“…”
‘อาจฟังดูโหดร้ายและไร้มารยาทไปหน่อยนะแต่ว่า...’
“…”
‘จำใส่สมองของนายให้เจียมตัวหน่อยก็ดีนะ’
“...”
‘แบมแบมเป็นของฉัน…ทั้งตัว…ทั้งหัวใจ...เขาเป็นของฉัน’
ติ๊ด
ฮันบินยืนอ้าปากค้างแล้วมองโทรศัพท์งงๆ
เขารู้สึกเหมือนโดนฝ่ามือล่องหนตบหน้าโดยที่เขาได้แต่ยืนทำอะไรไม่ได้
เมื่อกี้อีกคนพูดเร็วมากจนเขาฟังไม่ออก ร่างสูงหยุดยืนเกาหัวอยู่สักพักจนมาร์คแปลกใจ
“มึงเป็นไรวะ?
มึงโอเคนะ?”
“อะ...เออ กู...งงนิดหน่อย”
“อะไรมึงวะ…ช่างเถอะ อีกพักหนึ่งก็ใกล้ถึงเขตเมืองร้างละ” มาร์คหยิบโทรศัพท์ออกจากมือฮันบินก่อนจะเก็บใส่กระเป๋า
แต่ยังไม่ทันที่โทรศัพท์จะตกลงก้นกระเป๋าอยู่ๆ มันก็สั่นขึ้น “ฮัลโหลแบม”
‘เพ้อเจ้ออะไรของคุณครับคุณผู้หมวด’
“ห๊ะ?...จุนฮเว นายไปเอาเบอร์ฉันมาจากไหนเนี่ย?”
‘ผมได้มาจากกรมสถานีตำรวจใต้ดินตอนที่เคยลงไปเยี่ยมคุณมาร์คที่นอนหลับอยู่’
“อย่ามาตลกกับฉันนะจุนฮเว”
‘ผมไม่ได้โทรมาตลกนะ
ตอนนี้ผมเริ่มเครียดจริงๆ แล้ว’ มาร์คต้วนเริ่มทำสีหน้าจริงจังก่อนจะเหลือบมองฮันบินที่อยู่ข้างๆ
แล้วเปิดสปีกเกอร์โฟน
“ว่ามา”
‘ผมคิดว่าผมพอจะรู้แล้วว่าใครอยู่เบิ้องหลังทั้งหมด’
“…”
‘ผมพูดอะไรต่อไม่ได้แล้วนอกจาก’
“…”
‘คุณต้องรีบมาที่นี่ซะ’
19.50 น.
แบมแบมทิ้งตัวลงนอนก่อนจะหยิบหนังสือข้างๆ
เตียงขึ้นไปอ่านแล้ววางมันลงที่เดิม ร่างบางทำแบบนี้เป็นรอบที่ 5
ล้านกว่าแล้วมั้งของวันนี้ คนตัวเล็กไม่มีกระจิตกระใจอยากจะทำอะไรเลยสักนิด
ในหัวของเขามีแต่เรื่องของบ๊อบบี้เต็มไปหมด พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของบ๊อบบี้ทำให้เขารู้สึกกินไม่ได้นอนไม่หลับ
ไหนจะมาแขวะเพื่อนรักเขา ล่วงเกินเขา ชอบรังควานคนอื่นที่มายุ่งวุ่นวายกับเขา
นั่นเพราะบ๊อบบี้รักเขางั้นเหรอ?
“แต่แบมไม่รู้สึกถึงความรักด้วยซ้ำ”
แบมแบมบ่นพึมพำกับตัวเอง เขารู้สึกทรมาณเหลือเกินตลอด 2
วันที่ผ่านมา คิดถึงเพื่อนๆ ทุกคนที่อยู่เขต 5 ทั้งยูคยอม แจ๊คสันฮยอง โจอี้ จุนฮเว
แม่ค้าที่ตลาด ลานธนู บ้านมาร์คฮยอง 7/5 Wolves Path ทะเลสาบหลังเขต
ธรรมเนียบเตี้ยๆ หิมะที่นั่น มาร์คฮยอง ฮันบินฮยอง...ความเจ็บปวดในวันคริสต์มาสที่ผ่านมา
มีทั้งความทรงจำที่ดีและแย่แต่เขาคิดถึงมันมากเหลือเกิน...
ครืด ครืด
แบมแบมมองโทรศัพท์ที่สั่นอยู่บนโต๊ะ
ร่างบางมองเบอร์ที่โทรเข้ามาแล้วยิ้มกว้างก่อนจะกดรับโทรศัพท์
“จุนฮเว!! อ๊ากกกก
ฉันคิดถึงนายจัง!”
‘แบมแบม...ฟังฉันนะ’
“ทะ...ทำไมทำเสียงจริงจังแบบนั้นล่ะ”
แบมแบมหน้าเจื่อนลงเล็กน้อยที่อีกคนไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายหรือดีใจเหมือนเขาเลย
‘เงียบก่อนแล้วฟังฉัน
อย่าตะโกนเสียงดัง’
“…”
‘เมื่อวานฉันกลับมาที่เขตชานเมืองเก่าทางทิศตะวันออกของเขต
5 ซึ่งเป็นบ้านเก่าของฉันมาก่อน และเหมือนฉันจะเจอไดอารี่เก่าของตัวเองใต้พื้นไม้ที่ห้องใต้หลังคา...และไดอารี่อีกเล่มของใครบางคน’
“…”
‘และฉันก็ได้รู้สาเหตุว่าทำไมจินฮวานฮยองถึงไม่ฆ่าฉัน
และทำไมจื่อเทาฮยองถึงทำดีกับฉัน’
“…”
‘ในไดอารี่ของฉันเขียนไว้สั้นๆ ว่า
ฉันเคยสนิทกับรุ่นพี่คนหนึ่งซึ่งเป็นนายทหารยศสูง เขาใจดีและก็รักความยุติธรรมมากๆ
และเขาก็จะมาเล่นกับฉันทุกวันที่ทะเลสาบหลังเขต 5 แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็ไม่มาวันนั้นฉันก็เลยต้องเดินกลับบ้านคนเดียว’
“…”
‘วันต่อมาฉันก็ตัดสินใจเดินไปหารุ่นพี่ที่เคยมาเล่นด้วยกันถึงที่บ้าน
และฉันก็ได้รู้ว่าทำไมเขาถึงไม่มาเล่นกับฉันนั่นก็เพราะว่าครอบครัวของเขาจากไปแล้ว’
“…”
‘เขาไม่ยอมไปทำงานจนถูกนายพลบังไล่ออกจากตำแหน่งและนั่นก็ทำให้เขาตกงานเร่ร่อนไม่มีที่ไป
จนในที่สุดเขาก็กลายเป็นขโมย จากขโมยก็กลายเป็นอาชญากรรม
ซึ่งตอนนี้เขาก็มีเงินมหาศาลจากอาชีพทางอาชญากรรมโดยได้จากค่าหัวของคนที่ถูกสั่งเก็บ’
“…”
‘ฉันกำลังจะย้ายบ้านออกเพราะรู้ว่าอีกไม่นานที่ตรงนี้จะต้องถูกปล่อยทิ้งร้างและฉันได้ซ่อนไดอารี่ไว้ใต้พื้นไม้ที่ห้องใต้หลังคารวมถึงไดอารี่ของรุ่นพี่คนนั้นที่เคยลืมไว้ที่บ้านของฉัน’
“…”
‘วันนี้ฉันกลับมาเปิดดูมันอีกครั้ง
แต่ไดอารี่ของรุ่นพี่คนนั้นกลับไม่ได้อยู่ที่เดิม
เหมือนมีคนมางัดมันออกไปก่อนหน้านั้นและวางทิ้งเอาไว้ด้านนอก ด้านหลังไดอารี่มีเบอร์โทรศัพท์ติดต่ออยู่
ซึ่งนั่นก็ทำให้ฉันได้รู้ว่ามันเขียนอะไรเอาไว้บ้าง’
“…”
‘มันคือรายชื่อที่เขาจะต้องตามเก็บค่าหัวต่างๆ
เพื่อแลกกับเงินในราคาหลักล้านและสิบล้านพร้อมกับรูปภาพของคนที่เขาต้องฆ่าทิ้ง’
“…”
‘และหนึ่งในนั้นก็มีชื่อกับรูปของนาย
แบมแบม’
“อะ...อะไรนะ”
‘และใต้รูปนายมันก็เขียนไว้ว่าลูกค้าคือฮวงจื่อเทาและคิมจินฮวาน
โดยราคาค่าหัว 48 ล้านเหรียญ มากที่สุดแล้วของที่ผ่านมา นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมจินฮวานฮยองถึงไม่ฆ่าฉัน
และทำไมเทาฮยองถึงทำดีกับฉันนั่นก็เพราะว่าฉันมีไดอารี่อยู่ซึ่งพวกเขาต้องการเบอร์โทรของรุ่นพี่คนนั้นที่เขียนไว้ด้านหลังไดอารี่
และพวกเขาน่าจะได้มันเรียบร้อยแล้ว’
“เดี๋ยวนะ...ฉันฟังไม่ทัน”
‘ออกมาจากที่นั่นซะแบมแบม!’
“ห๊ะ…”
‘คนที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมดไม่ใช่พี่ของฉัน
แต่ก็คือรุ่นพี่คนนั้น’
“…”
‘รุ่นพี่คนนั้นมีชื่อเก่าอยู่
หลังจากที่ฉันไปหาประวัติมาได้’
“…”
‘เขาชื่อคิมจีวอน’
“…”
‘และตอนนี้เขาคือบ๊อบบี้’ แบมแบมกำโทรศัพท์แน่นด้วยใจที่เต้นระทึก
ร่างบางตัวสั่นและพยายามคิดอย่างร้อนรนว่าควรจะทำยังไงต่อไป คนตัวเล็กวิ่งตรงไปที่ประตูก่อนจะกระชากลูกบิดออกแต่ภาพตรงหน้ากลับทำให้หัวใจของเขาแทบหยุดเต้น
“จะไปไหนเหรอแบมแบม”
“บะ...บ๊อบบี้...ฮยอง” แบมแบมมองคนตัวสูงที่ใบหน้าเปื้อนคราบเลือดเต็มไปหมดแต่กลับยิ้มอ่อนเหมือนไม่เจ็บอะไรเลยเพราะนั่นไม่ใช่เลือดของเขา
“พี่ของนายนี่ก็ไม่ได้เก่งมากมายสักหน่อยเนอะ
ว่ามั้ย?”
“...”
“หลับตาสิที่รัก
แล้วอย่าลืมฝันถึงฉันล่ะ”
ผัวะ!
ตุ้บ!
Spoil : Chapter 20
‘...ฮึก...ผมขอร้องล่ะอย่าทำแบบนี้!...ฮืออ อย่าทำแบบนี้เลย
ได้โปรด ฮึก...ฮือ’
‘นี่คือสาเหตุที่นายไม่สมควรอยู่บนโลกนี้ไงล่ะแบมแบม
เพราะนายมันไร้เดียงสา โลกสวย และยอมรับความจริงไม่ได้’
‘ฮึก...ฮึก’
‘พี่ของนายไม่เคยสอนเลยเหรอว่าโลกภายนอกมันอันตราย
Forsaken Area มันเหมาะกับนายที่สุดว่ามั้ย?’
‘ผม...ผมไม่เหมาะ…ฮึก กับโลกใบนี้เหรอ?’
‘ไม่จริงนะแบมแบม
นายอย่าพูดแบบนั้นนะ! อย่าให้มันปั่นหัวสิ’
‘ผมไม่เหมาะกับโลกใบนี้สินะ...พี่บีกับเนียร์ฮยองถึงได้จากไปแบบนี้
เพราะราชวงศ์ผมไม่เหมาะกับโลกใบนี้พวกเขาเลยจากไปสินะ...’
‘หยุดเถอะแบมแบม!
มันไม่ใช่แบบนั้น!’
‘โอเค
ผมเข้าใจแล้วคุณบ๊อบบี้…’
‘…’
‘ช่วยฆ่าผมจากความทรมาณนี้ทีสิ’
_________________________________________
ขอโทษนะคะที่ช่วงนี้ล่าช้ามากๆ เลยยยย มีเหตุจำเป็นต้องสิงสู่ตำราเรียนค่ะ เดี๋ยวเค้าจะหาเวลามาลงให้นะะ
ความคิดเห็น