ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic GOT7] Forsaken Area [MarkBam][BIBam]

    ลำดับตอนที่ #18 : FSK : 17

    • อัปเดตล่าสุด 25 ธ.ค. 58


    17

     

                    แบมแบมค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาช้าๆ สัมผัสแรกที่รู้สึกคือเตียงนุ่มที่เขานอนอยู่ และเพดานกว้างสีขาวสว่างตา คนตัวเล็กดันตัวเองขึ้นมาจากเตียงก่อนจะมองผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งหลับอยู่ข้างเตียงเขา ร่างบางพยายามรวบรวมสติสัมปะชัญญะก่อนจะเพ่งมองอีกคนดีดีที่ก็ตื่นขึ้นมามองเขา

                    แบมแบม ตื่นแล้วเหรอ

                    “บ๊อบบี้ฮยอง...นี่บ้านฮยองเหรอ?”

                    “อืม นายหลับไปจนข้ามวันแล้วนะ อยากได้อะไรรึเปล่า? รู้สึกยังไงบ้าง?” บ๊อบบี้ยิ้มให้แบมแบมที่นั่งอยู่บนเตียง ดวงตาทั้งสองข้างของเขาดูอิดโรยเหมือนหลับไม่เต็มอิ่ม แบมแบมดึงมือของอีกคนขึ้นมากุมก่อนจะเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง

                    ทำไมสีหน้าฮยองถึงเป็นแบบนี้ล่ะ ฮยองไปทำอะไรมา

                    “ฉันก็นั่งเฝ้านายอยู่ตรงนี้ไง”

                    “ทำไมต้องทำถึงขนาดนี้ล่ะ?”

                    “ก็เราเป็นแฟนกันไม่ใช่เหรอ”

                    “…”

                    “มันเป็นสิ่งที่ฉันควรทำเพื่อนายนี่” บ๊อบบี้ยิ้มก่อนจะลุกไปทำอะไรบางอย่างกับคอมพิวเตอร์ แบมแบมมองการกระทำของอีกคนกับเครื่องคอมที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน

                    “บ๊อบบี้ฮยองทำอะไรเหรอครับ?”

                    “สั่งของทางอินเตอร์เน็ตน่ะ

                    “ทำไมบ้านฮยองดูมีของพวกนี้เยอะจัง ที่บ้านของแบมยังไม่มีเทคโนโลยีอะไรพวกนี้เลย

                    ครอบครัวฉันฐานะดีน่ะ ของพวกนี้เป็นของจากต่างประเทศนำเข้ามาน่ะแหละเอ้อ ถ้านายอยากอาบน้ำก็เดินไปเข้าห้องน้ำได้เลยนะ เสื้อผ้าก็ใช้ของฉันก็ได้ เดี๋ยวฉันจะออกไปข้างนอกพักนึง มีอะไรก็โทรมานะบ๊อบบี้หยิบเสื้อคลุมขึ้นสวม ก่อนที่จะคว้าโทรศัพท์มือถือลงกระเป๋ากางเกงแล้วหันมายิ้มให้แบมแบมพร้อมกับเดินออกไป

                    ร่างบางมองอีกคนที่เดินออกจากตัวบ้านผ่านทางกระจกห้องนอนชั้นสอง แบมแบมลุกออกจากเตียงนอนก่อนจะแอบย่องไปที่คอมพิวเตอร์ของบ๊อบบี้ที่เปิดค้างไว้อยู่ มือบางกดเปิดหน้าจอพร้อมมองไปรอบๆ ห้อง

                    ...ขอโทษนะบ๊อบบี้ฮยอง แต่แบมแค่ยังไม่ค่อยไว้ใจ...

                    แบมแบมมองหน้าต่างอินเตอร์เน็ตที่เปิดค้างไว้ ร่างบางทำแค่มองหน้าจอแต่ไม่สามารถทำอะไรได้เพราะยังไม่เข้าใจกลไกของเครื่อง

                    อะไรเนี่ยแบมแบมมองรูปไซลิ้งค์แบบเดียวกับที่แจ๊คสันเคยฉีดให้เขา มันเป็นหน้าต่างที่บ่งบอกถึงการสั่งซื้อของเสร็จเรียบร้อย ร่างบางเลื่อนลงมาอ่านฉลากยาที่บ่งบอกถึงสรรพคุณของตัวยา

                    เป็นยาแก้โรคของผู้ป่วยที่ติดเชื้อ สามารถรักษาให้หายได้ในหนึ่งเข็ม และผู้ป่วยจะไม่สามารถติดเชื้อได้อีกนอกเหนือจากได้รับเชื้อมาอีกครั้งหนึ่ง...แบมแบมเลื่อนสายตาลงอ่านข้อความนอกเหนือจากนั้นที่ระบุว่าได้สั่งซื้อตัวยาแล้ว และกำหนดว่าพัสดุจะมาส่งภายในวันพรุ่งนี้

                    บ๊อบบี้ฮยองซื้อมาให้แบมเหรอ?” ร่างบางพึมพำกับตัวเองก่อนจะนึกบางอย่างขึ้นมาได้ เดี๋ยวนะสามารถรักษาให้หายได้ในหนึ่งเข็ม นอกเหนือจากจะได้รับเชื้อมาอีกครั้ง?...แล้วแบมไปรับเชื้อมาอีกตอนไหนล่ะ?”

                    คนตัวเล็กขมวดคิ้วมุ่นก่อนที่จะคิดย้อนไปถึงเรื่องต่างๆ นานาที่ผ่านมาแต่เขาก็ไม่ได้คำตอบ ร่างบางกระสับกระส่ายอยู่สักพักก่อนที่เสียงโทรศัพท์จะดังขึ้น

                    ฮัลโหลครับ

                    [แบมแบม นี่ฉันนะ จุนฮเว]

                    “จุนฮเว? ทำไมมีเบอร์ฉันล่ะ แล้วนายมีโทรศัพท์ตั้งแต่เมื่อไหร่?”

                    [อย่าถามมากได้มั้ย นายอยู่ไหนอ่ะ? เจอกันที่ข้างธรรมเนียบนะ]

                    “หือ? อะไรนะ? ฮัลโหล...อ่า วางไปแล้ว” แบมแบมวางโทรศัพท์ลงกับโต๊ะ ก่อนที่จะเดินเข้าห้องน้ำไป

     

     

     

     

                    ร่างบางรีบวิ่งไปที่หน้าธรรมเนียบ ในตอนแรกเขาตกใจมากที่ลงมาจากตัวบ้านของบ๊อบบี้แล้วเจอแต่ป่าก่อนที่จะบางอ้อเมื่อรู้ว่าที่นี่คือ Lions Path คนตัวเล็กอยู่ในเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนของบ๊อบบี้ที่หลวมไปบ้างแต่ก็ใส่ได้ กางเกงยีนส์เข้ารูป และเสื้อคลุมราคาแพงสีน้ำตาลของบ๊อบบี้

                    ...เป็นแฟนกันมาตั้งนานเขาก็เพิ่งรู้ว่าบ๊อบบี้รวยมากกก...

                    แบมแบมวิ่งๆ เดินๆ มาเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงหน้าธรรมเนียบ ข้างๆ กันนั้นเป็นตลาดที่มีควันจากปล่องร้านขนมปังลอยขึ้นมา และเสียงดนตรีบรรเลงวันคริสต์มาสดังขึ้นแบมแบมมองไฟที่ประดับประดาตามต้นไม้ และธงที่มีสีแดงและสีเขียวติดอยู่กับเสาไฟ

                    ...นี่มันอะไรเนี่ย?...

                    แบมแบม! บอกให้เจอกันข้างธรรมเนียบไงจุนฮเวกับผ้าพันคอสีแดงกำลังเดินหน้ายักษ์มาหาแบมแบม ร่างสูงที่ใบหน้าขึ้นเลือดฝาดนิดๆ เพราะอากาศที่หนาวเย็นทำให้แบมแบมยิ้มออกมา

                    คิดถึงอ่ะ! ไม่ได้เจอนานเลย!!”

                    “อย่างเบี่ยงประเด็น อยากเห็นฉันโดนทหารจับเหรอมายืนตรงนี้เนี่ย”

                    “อะไรกันพวกทหารเขารู้กันหมดแล้วตั้งแต่ที่นายพาพวกเขาไปเผาโกดังยาน่ะ แค่นี้ก็รู้ได้แล้วว่านายอยู่ข้างไหนจุนฮเวส่ายหัวแล้วถอนหายใจออกมาเล็กน้อย ร่างสูงค่อยๆ หุบรอยยิ้มเมื่อเขานึกได้ว่าจะมาพูดเรื่องอะไรกับแบมแบม

                    แบมแบมฉันมีอะไรอยากจะบอกนาย

                    “จะบอกรักฉันเหรอ? รู้อยู่แล้วล่ะจุนฮเวจ้องแบมแบมเขม็งอย่างกินเลือดกินเนื้อ เป็นสัญญาณว่าไม่ควรกวน หรือขัดจังหวะเขาไปมากกว่านี้  ก็ได้ๆ ทำหน้าจริงจังแต่ฉันรู้นะว่านายแอบเขินน่ะ

                    “ฉันมีเรื่องสำคัญอยากจะบอกนาย ฉันคิดว่านายต้องรู้เรื่องนี้”

                    “เรื่องอะไรเหรอ?” แบมแบมเลิกคิ้วถามอีกคนที่เริ่มพูดเสียงเบาลง

                    มีนายทหารยศสูงที่กำลังหักหลังนายอยู่นะ

                    “อ่าห๊ะ”

                    “และฉันก็คิดว่าคนคนนั้นน่าจะเป็น...คิมฮันบิน

                    “…”

                    “…”

                    “…”

                    “...”

                    “...อะไรของนายเนี่ย?...ดูละครมากไปรึเปล่า?...เพ้อเจ้อ

                    “แบมแบม ฉันจริงจังนะ ฉันรู้น่าว่านายก็อยู่กับผู้หมวดมานาน แต่นายไม่สงสัยบ้างเหรอ เมื่อวานฉันก็เห็นเขายืนคุยอะไรสักอย่างอยู่กับพี่ฉันนะ แล้วก็รับบางอย่างมาจากพี่ฉันด้วย...

                    “พอเถอะจุนฮเว” จุนฮเวที่กำลังเล่าเรื่องจำต้องหยุดชะงักเมื่อเขามองหน้าแบมแบมที่ก็ไม่สามารถเดาอารมณ์ได้ ฉันไว้ใจและเชื่อใจฮันบินฮยอง พอๆ กับที่ไว้ใจและเชื่อใจนายกับมาร์คฮยองเลยนะรู้รึเปล่า

                    “แต่ฉัน...”

                    “อย่าพูดถึงเขาในทางเสียๆ หายๆ แบบนั้นเลยนะ” จุนฮเวมองแบมแบมที่ก้าวออกไปจากเขาสองสามก้าวแล้วยืนมองไปที่ปล่องไฟจากร้านขนมปัง จุนฮเวไม่รู้เลยว่าแบมแบมคิดอะไรอยู่ นัยน์ตาของร่างบางไม่สื่อถึงอะไรเลย

                    “จุนฮเวดูดิๆๆ อะไรไม่รู้เต็มไปหมดเลย! แบมอยากกินขนมอ่ะ อยากไปเที่ยว ไปเดินเล่นกันเถอะ นะๆๆแบมแบมเปลี่ยนเรื่องก่อนจะยิ้มแล้วเดินมาดึงแขนเสื้ออีกคนให้พาเขาเข้าไปที่ตลาด

                    “นายไม่รู้จักเทศกาลคริสต์มาสรึไงเนี่ย?!

                    “ไม่รู้จักไง...จุนฮเวพยายามกัดฟันสงบสติอารมณ์พลางท่องบทแผ่เมตตาในใจ ใครใช้ให้ไอ้เด็กอายุย่างก้าว 18 แต่เอ๋อแดรกแบบแบมแบม มาอยู่กับผู้ชายเลือดร้อนและพร้อมต่อยคนได้ตลอดเวลาแบบเขากัน ทำไมต้องทำหน้าเซ็งแบบนั้นด้วยล่ะ

                    “ก็เพราะเซ็งไง เลยทำหน้าเซ็ง เข้าใจมั้ยไอ้เด็กโตเป็นควายแต่สมองแรกเกิด?” จุนฮเวแยกเขี้ยวใส่แบมแบมที่ไม่สะทกสะท้านกับคำถามปนด่านั่นเลย ร่างบางลากจุนฮเวให้เดินเข้าไปในทางเดินตลาดด้วยกัน

     

     

     

     

                    “จุนเน่ แบมอยากกินขนมปัง” จุนฮเวต้องกัดฟันยิ้มทุกครั้งที่แบมแบมเปลี่ยนสรรพนามให้เขาใหม่ ร่างสูงต้องพยายามสงบสติอารมณ์ไว้ท่องพุทโธในใจและพยายามบอกกับตัวเองว่า ‘จุนเน่’ มันก็เท่ดี

                    ...มันก็เท่ดีงั้นเหรอ?!...

                    “เลิกเรียกแบบนั้นเถอะ ไม่งั้นไม่พาไปกินนะ”

                    “รู้หรอกว่าชอบให้เรียกแบบนั้นน่ะ อย่ามา Lie me นะ You know?”

                    “ใครบอกๆ เอาอะไรมาพูดห๊ะ ไอ่เตี้ย”

                    “หน้าแดงอยู่ไม่รู้เหรอ” เสาไฟฟ้าเคลื่อนที่รีบเอามือแตะหน้าตัวเองก่อนจะวิ่งไปยืนหน้าร้านขายกระจก จุนฮเวมองหน้าตัวเองแวบแรกก็เอามือปิดหน้าแทบไม่ทัน แถมแบมแบมยังเดินมาหัวเราะคิกคักข้างๆ แล้วเอานิ้วจิ้มๆ เขาพลางถามอยู่นั่นแหละว่า เขินเหรอๆ?’

                    ...อ๊ากกก ไอ่เคะหลักกิโล...

                    โอเคๆ เลิกเล่นสักทีไปกินขนมปังๆ

                    “ยอมง่ายจะตายเห็นเปล่า จุนเน่ขัดฉันไม่ได้อยู่แล้ว แบมแบมยิ้มร่าก่อนจะเดินจูงมือจุนฮเวไปที่ร้านขายขนมปังที่ส่งกลิ่นหอมอบอวนไปทั่วเมือง ยังไม่จบแค่นั้น ร่างบางที่เดินจูงมือเขาก็ยังแขวะไม่เลิก “แล้วก็อย่าเผลอหน้าแดงอีกล่ะรู้เปล่าจุเน่?”

                    “ไม่ต้องมาหวังดีเลยนะ มีหน้าที่เดินก็เดินไปจุนฮเวใช้อีกมือผลักแบมแบมให้เดินไปข้างหน้าจนร่างบางเกือบล้ม คนตัวเล็กหันมาแยกเขี้ยวยิงฟันใส่ไอ้เสาไฟฟ้าเคลื่อนที่ที่เดินตามมา

                    “ถ้าล้มลงไปหน้าฟาดพื้น แล้วหล่อยับนี่จะชดใช้ยังไง”

                    “ปัจจุบันก็ไม่ได้หล่ออยู่แล้วไม่เห็นจะต้องชดใช้อะไร”

                    “นายนี่มัน...”

                    “ก็น่ารักมาตั้งแต่เกิดไม่ใช่เหรอ ความหล่อที่นายพูดมันอยู่ตรงไหนล่ะ?” แบมแบมสตั๊นกับมุกที่อีกคนหยอดใส่ร่างบางรีบเงียบหันหน้าไปทางอื่นอย่างไฉเฉ แล้วก็อย่าเผลอหน้าแดงล่ะ ประโยคนี้นายพูดกับฉันเองนะ

                    ...อ๊ากกก ไอ่เสาไฟฟ้าเคลื่อนที่...

                    แบมแบมหลบสายตาอีกคนแล้วมองไปทางอื่น ร่างบางก็สะดุดตาเข้ากับร้านๆ หนึ่งที่เขาจำได้ว่าเขาเคยเข้าไปครั้งหนึ่ง

                    ...ร้านที่เข้าไปทานฮันนี่โทสต์กับมาร์คฮยอง...

                    “ทำไม? มองร้านนั้นทำไม? คิดถึงครั้งแรกที่เราเจอกันที่นั่นเหรอ?”

                    “หลงตัวเองว่ะ ฉันคิดถึงมาร์คฮยองต่างหาก”

                    “เอออออ ใช่สิๆๆ ทำไมไม่เป็นแฟนกันไปเลยล่ะครับ

                    “ฉันมี...” ก็บ๊อบบี้ฮยองไง! บ๊อบบี้ฮยองกระโดดมายืนอยู่ในฐานะนั้นแล้ว! อ่า ไปกินร้านนั้นกันเถอะ”

                    แบมแบมเดินดุ่มๆ ลากจุนฮเวมาก่อนจะผลักประตูเข้าไปในร้านที่มีการปรับปรุงใหม่แล้ว ร่างบางนั่งลงที่โต๊ะเดิมที่เคยนั่งกับมาร์ค ก่อนที่จะมีพนักงานมาวางเมนูไว้ให้ แบมแบมยิ้มให้พนักงานที่เดินจากไป ก่อนจะหันไปถามจุนฮเว

                    “นายอยากกินอะไรรึเปล่า?”

                    “ก็มีแต่นายไม่ใช่เหรอที่บังคับให้ฉันเดินมานั่งดูนายกินเป็นเพื่อน

                    “อย่าบ่นน่า มีหน้าที่นั่งหายใจก็ทำไป ...นี่เรียกกวนตรีนป่ะ แถวบ้านฉันเรียกกวนตรีนนะไอ่เตี้ยหลักกิโล... นายอยากกินอะไรรึเปล่าถามจริง เดี๋ยวฉันเลี้ยงก็ได้”

                    “นี่มองฉันเหมือนยาจกรึไง เห็นฉันเป็นโจรท้องถิ่นแต่ฉันก็มีเงินนะ

                    “ฉันจะไม่อวดตัวเองว่าเป็นคนในราชวงศ์เขต 7 และฉันก็มีเงินแน่นอน” …นายอวดตัวเองไปแล้วรู้รึเปล่า...

                    “อ้าว แบมแบม แบมแบมใช่เปล่า?” แบมแบมหันไปมองตามเสียงเรียกที่เดินมายืนอยู่ข้างๆ โต๊ะเขา ร่างบางช้อนตามองคนที่ยิ้มหน้าบานมาให้อย่างงงๆ ไม่ต่างจากจุนฮเว “แบมแบมจริงด้วย ไม่คิดว่าจะได้เจอนายที่นี่นะเนี่ย”

                    “โจอี้? ฉันก็ไม่คิดว่านายจะอยู่ที่นี่”

                    “เห็นฉันอยู่แต่ผับ สิงอยู่แต่กับแอลกอฮอล์รึไง นี่น่ะร้านฉัน

                    “ร้านนาย? ร้านขายของหวานมุ้งมิ้งเนี่ยนะ?”

                    “จะเรียกอะไรก็ช่าง แต่ใช่แล้วล่ะ ไม่เห็นชื่อป้ายหน้าร้านรึไง? MJ Tuan ก็ Mark Joey Tuan ไงล่ะ” แบมแบมถึงกับบางอ้อเมื่อรู้ว่าร้านนี้คือร้านของโจอี้กับมาร์ค แต่ทำไมมาร์คฮยองถึงไม่บอกเขาเรื่องนี้กันล่ะ นี่กะจะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แล้วให้กินแล้วจ่ายแบบนี้ใช่มั้ย

                    ...คิดถึงแล้วก็น่าเหนื่อยใจ...

                    ...คิดถึงเหรอ? หือ.. คิดถึง?...

                    กริ๊ง

                    เสียงกริ๊งหน้าร้านเรียกให้ทั้งสามคนหันไปมอง เป็นผู้พันมาร์คที่ผลักบานประตูเข้ามา ร่างโปร่งแทบไม่ได้สนใจเสียงเรียกของโจอี้เลย มาร์คเอื้อมมือไปหยิบบางอย่างที่หลังเตอร์ก่อนจะฉีดมันเข้าสู่กระแสเลือด ซึ่งแบมแบมก็รู้ดีว่าสิ่งที่มาร์คฉีดใส่แขนตัวเองมันคืออะไร

                    ...มันคือยารักษาโรคที่เขากำลังเป็นอยู่...

                    “มาร์ค เกิดไรขึ้นทำไมหน้าเละงี้ล่ะ?” โจอี้เดินเข้าไปถามมาร์คที่มีสภาพไม่ต่างจากศพ ร่างโปร่งที่มีรอยช้ำแถบโหนกแก้มข้างขวา ผมสีบอล์นไม่เป็นทรงดูยังไงก็โดนซ้อมมาแน่ๆ เงยหน้าขึ้นมองโจอี้

                    “ไม่มีไรมาก ก็แค่…” มาร์คต้วนเหลือบตามองผ่านหลังโจอี้ก่อนจะเห็นแบมแบมกับจุนฮเวที่นั่งอยู่ แบมแบมเมื่อเห็นอีกคนมองมาก็ถามออกไป

                    “ทำไมหน้าเป็นงี้ล่ะ? มาร์คฮยองไปทำอะไรมา?” มาร์คเดินเข้าไปหาแบมแบมก่อนจะขยี้ผมอีกคนแล้วยิ้มบางๆ จุนฮเวมองผู้พันเขม็งด้วยหางตา

                    ...อย่ามาทำเป็นหล่อนะ!...

                    “พอดีเดินตกหลุมอ่ะ ไม่มีไรหรอก

                    “หลุมไหน? เดี๋ยวแบมไปถมให้…ดูดิช้ำหมดเลยแบมแบมลูบหน้าอีกคนที่ยื่นเข้ามาใกล้เบาๆ

                    “ตกหลุมรักน่ะ...ฉันยอมลงไปเองซะด้วยมาร์คพูดไปยิ้มไปแต่เหมือนแบมแบมจะตามมุกไม่ทันเท่าไหร่ ร่างบางยังคงมองมาร์คตาปิปๆ ด้วยความงง ยกเว้นจุนฮเวที่แทบจะฉีกเมนูออกเป็นเสี่ยงๆ

                    มาร์คค่อยๆ ยื่นหน้าเข้าไปใกล้อีกคนจนจมูกแทบจะชนกันอยู่แล้ว แต่แบมแบมกลับไม่ได้ขยับไปไหน คนตัวเล็กไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขากำลังทำอะไรอยู่

                    ...อย่ามาเลิฟซีนกันตรงนี้นะเว้ย!!...

                    จุนฮเวกระชากคอแบมแบมให้หันมามองเขาก่อนจะกัดฟันถามร่างบางว่าจะสั่งอะไรดี แต่สายตายังคงจ้องผู้พันที่มองมาทางเขาปานจะเข้ามากระทืบ

                    ...มาร์คต้วนก็มาร์คต้วนดิ ก็กูจุนฮเวอ่ะ!!...

                    ผู้พันมาร์คกดจูบบนแก้มเนียนของแบมแบมก่อนที่คนตัวเล็กจะหันมาทำหน้าเหวอใส่

                    “อะ…อะ...อะ...อะไรๆ อะไรเนี่ย?!”

                    “Merry ‘Kiss’mas ไงมาร์คยิ้มให้แบมแบมก่อนจะส่ายหน้าเบา “ ไม่ใช่สิ ต้องเป็น Merry Kiss Mark ต่างหากสิเนอะ

                    ผะ...ผมจะเอาฮันนี่โทสต์! ไปเลยๆๆ ไปทำมาซะคุณผู้พันมาร์คต้วน!” จุนฮเวโพล่งลุกขึ้นมาก่อนจะมองมาร์คแบบกินเลือดกินเนื้อ

                    “อ้าว! คุณโจรตัวประกันหนึ่งคนในตำนาน นายก็นั่งอยู่ตรงนี้ด้วยเหรอ?” มาร์คถามก่อนจะแสร้งทำหน้าแปลกใจ

                    “ไปซะๆ ถ้าไม่ไปผมจะเอาเมนูขว้างใส่เลย

    น่ากลัวมากมั้ง

    “ถ้าทำช้าผมไม่จ่ายนะ”

    ก็ลองดูสิ” โจอี้เดินเข้ามาก่อนจะผลักมาร์คให้หายเข้าไปที่หลังร้าน เช่นเดียวกับแบมแบมที่ก็ดึงจึนฮเวให้นั่งลงอย่างใจเย็นแต่ก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้กับความบ้าบอของคนสองคนเมื่อครู่

    หัวเราะอะไร หุบปากน่าไอ่หลักกิโล

    “เอ้า ทีกับผู้พันมาร์คไม่เห็นด่าแบบนี้เลย”

    ขืนด่าฉันก็โดนคุณมาร์คควักปืนออกมายิงทิ้งดิ

    ป๊อดนี่หว่า”

    เคยนั่งอยู่ดีดีแล้วเป็นลมล้มตายป่ะ”

    ไม่เคย แบมแบมมองอีกคนตาแป๋ว เช่นเดียวกับจุนฮเวที่มองแบมแบมนิ่ง “มองอยู่นั่นแหละ หน้าฉันมันเป็นอะไร?”

    ไม่มีอะไร” จุนฮเวเงียบไปสักพักก่อนจะพูดขึ้นต่อ นายเคยจูบกับใครบ้างรึเปล่า?”

    แบมแบมเงียบนิ่งก่อนที่ในหัวจะคิดถึงเรื่องผ่านๆ มา...ไม่มีนี่น่า ไม่มี ไม่มีนะ ไม่มี!...จูบเหรอ ไม่! ไม่เคยจูบนะ! ไม่! เดี๋ยวสิ รู้สึกเหมือนเคยมาก่อน ในห้องน้ำ...

    ...ในห้องน้ำกับฮันบินฮยอง!! อ๊ากกก!!...

    “เฮ้ย แบมแบม ตายยังเนี่ย? ฉันไม่ถามก็ได้

    อ๊ะ เปล่าๆ ยังไม่ตาย ละ...แล้วถามทำไม

    แค่คิดว่าคนที่อยู่ใกล้ๆ ก็ต้องเผลอบ้างแหละ

    อะไรๆๆ นายคิดอะไรกับฉันเหรอ?” แบมแบมมองอีกคนอย่างจับผิด จุนฮเวกรอกตาก่อนจะถอนหายใจออกมาโดยไม่ตอบคำถาม

    มาร์คเดินออกมาจากหลังประตูเฉพาะเจ้าหน้าที่ ก่อนที่จะลากเก้าอี้มานั่งร่วมโต๊ะกับจุนฮเวและแบมแบม

    “ใครชวน”

    “ฉันเป็นเจ้าของร้าน”

    ทำโทสต์เสร็จแล้ว?”

    พนักงานทำ” มาร์คยักคิ้วลิ่วตาให้จุนฮเวที่แทบจะฉีกเมนูทิ้งอีกเป็นรอบที่สอง

    เออ มาร์คฮยอง มาร์คฮยองยังไม่บอกแบมดีดีเลยว่าหน้าไปโดนอะไรมา”

    ก็บอกแล้วไงว่าตกหลุม”

    ตกหลุมแล้วทำไมฮยองถึงต้องใช้ยาแก้โรคบ้าๆ นั่นล่ะมาร์คเงียบเช่นเดียวกับจุนฮเวที่ก็ไม่พูดไม่ขัดอะไร ผู้พันจากที่เคยทำหน้าทะเล้นยิ้มๆ เปลี่ยนมาเป็นทำหน้าจริงจังในทันที

    นายติดเชื้อมารึเปล่าแบมแบม?”

    “…”

    ติดเชื้อมาใช่มั้ย

    ทำไมฮยองถึงรู้”

    แบมแบม”

    “…”

    ฉันมีบางอย่างจะบอกนาย”

    เรื่องอะไร”

    ตามฉันมา” มาร์คจับข้อมือแบมแบมแล้วดึงให้อีกคนลุกขึ้น แต่แบมแบมไม่ได้ลุกตาม ร่างบางมองมาร์คก่อนจะถามย้ำอีกคน

    ฮยองบอกแบมมาก่อนว่าเรื่องอะไร?”

    เมื่อวันก่อนฉันมีธุระให้ต้องไปทำงานกับที่เขต 11 แต่ฉันกลับไปไม่ถึงที่หมาย เพราะโดนลอบทำร้าย

    “…”

                    “และนั่นก็ทำให้ฉันรู้บางอย่าง”

                    “…”

                    “บางอย่าง...เกี่ยวกับคิมฮันบิน

     

     

     

     

                    ฮันบินกำลังมองตัวเองในกระจกเงาหลังใส่เสื้อและอาบน้ำเสร็จ ร่างสูงดูซูบลงไปกว่าเดิมเล็กน้อยจากที่เคยเป็นแต่นั่นก็ไม่ทำให้เขาดูแย่ลง ผู้หมวดตื่นขึ้นมาในห้องน้ำก่อนจะพบว่ามีเลือดกำเดาไหลออกมาจากจมูกทั้งสองข้างเพราะความเครียดสะสม เขาลุกขึ้นมาหาแบมแบมทั่วทุกห้องแต่กลับไม่เจอ เหลือของทุกอย่างของเจ้าตัวทิ้งไว้แต่กลับไม่มีแบมแบม

                    ...ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวก็คงกลับมาเอง...

                    ฮันบินพูดกับตัวเองมาจนนับครั้งแทบไม่ได้ แต่แบมแบมก็ยังไม่กลับมา ไม่มีโน้ตสักฉบับเหลือทิ้งไว้เลย

                    ผู้หมวดหยิบเสื้อคลุมออกมาก่อนที่จะเดินออกไปข้างนอกบ้าน ร่างสูงเห็นธงสลับเขียวแดงและเพลงเมอร์รี่คริสต์มาสที่คลอมากับสายลม ฮันบินถึงเพิ่งนึกได้ว่าวันนี้วันคริสต์มาส

                    ...วันที่เคยเป็นวันครบรอบกับจินฮวาน เขารักวันนี้มากๆ ซึ่งเป็นวันแรกที่ได้เจอกับจินฮวาน...

                    กึก

                    ฮันบินหยุดชะงักเมื่อเขาเห็นมาร์คมายืนอยู่ตรงหน้า ร่างสูงมองมาร์คที่ลากแบมแบมตามมาจากด้านหลัง ข้างๆ กันนั้นเป็นจุนฮเวที่มองมาที่เขาด้วยสายตาไม่ปกติ

                    ...ดูยังไงก็รู้ว่าแปลกทั้งมาร์คและจุนฮเว...

                    “ไอ้มาร์ค…หน้ามึงไปโดนอะไรมา

                    “โดนลอบทำร้ายมา

                    “อ่อ”

                    “…”

                    “…”

                    “บีไอ...กูมีบางอย่างที่อยากจะพูดว่ะ” มาร์คมองคิมฮันบินเขม็งไม่ต่างกันกับผู้หมวดฮันบินที่ก็มองอีกคนด้วยสายตาเย็นชาเหมือนเดิม “เมื่อวันก่อน…กูโดนท่านมิโนใช้ให้ไปคุยงานกับเขต 11 ตอนที่กูยืนอยู่ที่ชานชาลาจินฮวานก็เดินเข้ามาหากู แล้วก็บอกว่าเห็นมึงกับแบมแบมนั่งรถไฟขบวนที่ 13 ไปที่เขต 11 พอดีว่าเป็นรถไฟขบวนเดียวกับที่กูนั่งไปเหมือนกัน กูก็เลยขึ้นไปด้วยแต่เลือกที่นั่งห่างๆ แต่มองเห็น

    “กูเห็นมึงคุยกับแบมแบมไปสักพักก่อนที่มึงจะยื่นดอกกุหลาบให้แบมแบม”

                    “แบมแบมถือดอกกุหลาบติดตัวไว้อยู่นานจนกระทั่งถึงที่หมาย แบมแบมก็ทำดอกกุหลาบตกไว้บนรถไฟ เพราะไม่อยากให้มึงเห็นว่ากูนั่งรถมาด้วย กูเลยรอจนกว่าจะเป็นคนสุดท้ายที่ต้องลงและแน่นอนว่ากูก็เข้าไปดูดอกกุหลาบที่แบมแบมทำตกไว้

    และกูก็ได้กลิ่นยา...ยาที่กูจำได้ว่าเป็นของพวกกองกำลังทิฟที่ถูกผลิตออกมาในรูปแบบเสปรย์ สามารถซึมเข้าสู่ผิวหนังและลามไปถึงกระแสเลือดได้ และที่มันไม่สามารถทำอะไรมึงได้ก็เพราะมันจะออกฤทธิ์หลังสามชั่วโมงหลังจากที่พ่นใส่วัตถุที่เป็นพาหะ

    “ซึ่งพอกูถูกจับไปซ้อม แล้วโดนมอมยาบ้าๆ นั่นและออกมาได้ จินฮวานก็บอกกับกูว่ามันเป็นคนยื่นดอกกุหลาบนั่นให้มึง รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับตัวยาที่มันพ่นใส่ดอกกุหลาบ กูก็รู้มาจากมัน และพอดีกับที่กูลองถามจุนฮเวว่ารู้อะไรมาบ้าง จุนฮเวก็บอกว่าตอนตีห้ามันลุกขึ้นมาจากที่นอนก่อนจะเห็นพี่มันทำอะไรบางอย่างกับดอกกุหลาบซึ่งก็คือตอนที่พ่นยาใส่ พอมันรู้สึกแปลกๆ มันก็เลยตามพี่มันลงมาจนเห็นไอ้จินฮวานยื่นดอกกุหลาบให้มึงอยู่ที่หน้าร้าน Sebastein suit ตอนตีห้าเกือบยี่สิบนาที

    และมึงก็เอาดอกกุหลาบดอกนั้นไปให้แบมแบมตอนแปดโมง...สามชั่วโมงพอดีหลังยาออกฤทธิ์”

    “…”

    มึงทำแบบนั้นใช่มั้ย บีไอคิมฮันบินยังคงมองหน้ามาร์คต้วนตั้งแต่ต้นจนจบโดยที่ไม่พูดอะไรออกมา สายตาของเขายังคงเป็นเหมือนเดิมตั้งแต่ที่อีกคนเริ่มเล่าจนจบ...สายตาที่ไม่สามารถรู้หรือคาดเดาคำตอบอะไรได้เลย

    “ใช่ กูทำ”

    “แล้วมึงใช่สปายรึเปล่า มึงรู้เรื่องทั้งหมดใช่มั้ย มึงทำแบบนี้แล้วมึงก็รู้เรื่องทั้งหมดด้วยใช่มั้ย”

    “…”

    “…”

    “ใช่”

    “…”

    “กูรู้” มาร์คกัดฟันแน่นก่อนจะซัดหมัดเข้าที่หน้าของฮันบินที่ยังคงไม่แสดงสีหน้าใดๆ ทั้งนั้น ผู้หมวดยังคงหน้าเดิมไม่เปลี่ยนไปเลย

    “มึงทำแบบนั้นทำไมวะ?!! มึงทำแบบนั้นทำไม?!!”

    “…”

    “พูดดิวะคิมฮันบิน!! แกทำแบบนั้นทำไมวะ?! ทำกับแบมแบมแบบนั้นทำไมวะ?!!”

    “มึงเงียบก่อนได้ป่ะ กูขอพูดอะไรสักอย่างคิมฮันบินละสายตาออกจากมาร์คก่อนที่จะหันไปมองแบมแบม ร่างบางพยายามเม้มปากและกัดฟันกลั้นเสียงสะอื้น นัยน์ตากลมที่มีน้ำตาเอ่อคลอและแก้มเนียนที่มีน้ำตาไหลลงมาเป็นสายแต่เขาไม่สามารถเข้าไปปลอบโยนหรือทำอะไรได้เลย

    ...แค่เอื้อมไปคว้ามากอดไว้ยังทำไม่ได้เลย...

    ...แบมแบม

    “…”

    เมอร์รี่คริสต์มาสนะ” คิมฮันบินยืนนิ่งอยู่กับที่ระหว่างที่มีทหารสองนายที่มาร์คเรียกมาก่อนหน้านี้เข้ามาจับกุมเขา ฮันบินไม่ได้ขัดขืนอะไรเลย เขาปล่อยให้ทหารทั้งสองนายลากเขาผ่านหน้ามาร์ค จุนฮเว และแบมแบมไปอย่างง่ายดาย

    ไม่เป็นไรนะแบมแบม จุนฮเวเดินมาแตะไหล่ร่างบางที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิมด้วยความรู้สึกเจ็บปวด

    ฮึก...จุนฮเว...ฉันไม่เคยเชื่อเลย...ไม่เคยเชื่อเลยจนกระทั่งมาได้ยินจากปากของเขาเอง”

    “…”

    แล้วที่ผ่านมามันเรียกว่าอะไรล่ะ...มันเรียกว่าอะไรวะ...ทำไมต้องทำมาเป็นหวังดี เป็นห่วง ทำไมต้องยิ้มให้ ทำไมต้องจูบฉัน ทำไมต้องร้องเพลงให้ฟัง ทำไมต้องมาทำให้ใจเต้น ทำไมต้องทำเป็นเหมือนว่าฉันเป็นคนสำคัญด้วย

    “…”

    คุณคิมฮันบินนี่เก่งเนอะ...โกหกเก่งมากเลย สิ่งดีๆ ที่เขาทำให้ฉันมันเนียนมากซะจนแยกไม่ออกเลยว่าเขาไม่ได้คิดเหมือนที่ทำ ไม่ได้เป็นห่วงฉันเหมือนที่ทำ ไม่ได้ยิ้มให้เพราะอยากยิ้ม ไม่ได้จูบฉันเพราะต้องการ ไม่ได้ร้องเพลงให้ฟังเพราะอยากร้อง

    “…”

    แมร่ง...เก่งจริงๆ ที่ทำให้ฉันไว้ใจและคิดว่าเป็นคนที่สำคัญมากคนหนึ่งในชีวิต

    “…”

    “ฉันเกลียดวันคริสต์มาสจริงๆ…”

    “…”

    แต่ฉันเกลียดคิมฮันบินแบบของปลอมคนนั้นไม่ได้เลย”

     

    Spoil : Chapter 18

                ‘นายจะไปจริงๆ เหรอแบมแบม? อยู่ต่อก็ได้นะ

                ‘ขอโทษนะ แต่ฉันคงไม่กลับมาอีกแล้วล่ะ’

                ‘ฉันต้องคิดถึงนายมากแน่ๆ

                ‘ฉันก็เหมือนกัน’

                .

                .

                .

                ‘…’

                ‘แบมแบมไปแล้วนะ’

                ‘อืม’

                ‘…’

                ‘ดีแล้วล่ะ...จะได้ไม่ต้องเจ็บอีก

                .

                .

                .

                ‘บ๊อบ…บ๊อบบี้? บ๊อบบี้ฮยอง?’

                ‘นายบอกใช่มั้ยว่าอยากชดใช้ยาที่ฉันซื้อให้

                ‘คะ...ครับ’

                ‘ก็ได้

                ‘…’

                ‘งั้นคืนนี้นายมาเป็นของฉันนะ’

    ____________________________________

    MERRY CHRISTMAS นาจาาาา =3=/ จุนแบมมั้ยล่ะตอนนี้ 5555

    O W E N TM.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×