ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic GOT7] Forsaken Area [MarkBam][BIBam]

    ลำดับตอนที่ #17 : FSK : 16 [100%]

    • อัปเดตล่าสุด 20 ธ.ค. 58


    16

     

                    แบมแบมฉันมีเรื่องอยากให้ช่วย...ขอวันนึงได้ป่ะ” ยูคยอมลากแบมแบมออกมาคุยนอกบ้าน 7/5 Wolves Path ที่กำลังมีปาร์ตี้กันอยู่ในบ้าน ร่างบางเดินตามยูคยอมออกมาในขณะที่ในมือก็ยังถือน้ำผลไม้รวมติดมาด้วย

                    ...แบมยิ่งหิวๆ อยู่นะเฟ้ย กำลังเอ็นจอยเลยมีอะไรก็พูดให้มันเร็วๆ - -...

                    “อืม อะไรเหรอยูค?” คนตัวเล็กว่าพลางกระดกน้ำผลไม้เข้าปาก

                    “ช่วยแต่งหญิงแล้วมาเป็นแฟนหลอกๆ ให้ฉันหน่อย

                    พรวด!

                    “เฮ้ย!! ว่าไงนะ?!” น้ำผลไม้รวม+น้ำลายถูกพ่นเข้าใส่หน้าของยูคยอมเต็มๆ จนร่างสูงหลับตาแทบไม่ทัน เสื้อคอวีตัวบางสีขาวเปื้อนน้ำเต็มไปหมดในขณะที่นี่ก็เป็นฤดูหนาวที่หิมะยังคงปกคลุมต้นไม้ใบหญ้าริมทางเดิน

                    ...เจ็บนี้ จำไปจนตาย...

                    ยูคจะบ้าเหรอ? นี่! ดูหน้าแบมนะยูค แมนๆ หล่อ ชิค คูล สปอร์ต เท่ Swag ขนาดนี้ จะให้ไปแต่งเป็นผู้หญิงเหรอ เป็นไปไม่ได้

                    ...นี่เรียกว่าหลงตัวเองรึหลงตัวเอง ยูคยอมก็ไม่แน่ใจ...

                    เถอะนะแบมแบม คืองี้...พ่อกับแม่กำลังบินมาจากอเมริกาท่านจะถึงพรุ่งนี้ แล้วสาเหตุหนึ่งเลยก็คือพวกท่านอยากเห็นหน้าแฟนฉันที่กำลังคบกันอยู่ตอนนี้

                    “แฟน? แฟนอะไร? ไม่! นายก็ไปหาแฟนนายดิ ฉันเป็นเพื่อนนะ เพื่อน!” ยูคยอมนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง มองคนตัวเล็กด้วยสายตาอยากจะกินเลือดกินเนื้อ...ใจคอนี่นายจะขัดฉันตลอดเวลาเลยใช่ปะ?

                    “ก็ฉันไม่มีแฟนไง เลยขอให้นายช่วยเป็นแค่แฟนปลอมๆ หน่อย แฟนปลอมๆ

                    “แล้วไมนายไม่บอกพวกท่านล่ะว่านายไม่มีแฟน”

                    “โห ถ้าฉันบอกไปนี่หายนะ พ่อกับแม่ก็จะพาฉันไปที่อเมริกาด้วยเพราะจงใจจะจับฉันแต่งงานกับคนที่นู้นซึ่งนายก็ไม่ต้องการแบบนั้นใช่มั้ยแบมแบม” แบมแบมเงียบนิ่งอย่างใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่ง

                    “แล้วทีฮันบินฮยองอ่ะ รึว่าฮันบินฮยองมีแฟนแล้ว พ่อกับแม่ของยูคเลยไม่พาไปด้วย?”

                    “เปล่าหรอก เพราะบีไอฮยองมีงานมีการแล้ว พ่อกับแม่ฉันเลยคิดว่าบีไอฮยองน่าจะดูแลตัวเองได้”

                    “งั้นทำไมยูคไม่ดูฮันบินฮยองเป็นแบบอย่างล่ะ?”

                    “โธ่ แบม ถ้างานมันหากันง่ายๆ งั้นฉันจะมาขอร้องนายรึไง” ยูคยอมแทบจะดิ้นตายกับคำถามที่แบมแบมถามมาไม่จบไม่สิ้น ไม่เป็นไรเว้ยไอ้ยูค เพื่อแฟนกำมะลอยังไงก็ต้องทำ “ฉันจะไปขอร้องใครก็ไม่ได้ เพื่อนผู้หญิงฉันก็ไม่มี ไอ้ยองแจ ไอ้โจอี้ รุ่นพี่กับเพื่อนที่มหาลัยฯ พ่อกับแม่ฉันก็รู้จักหมดแล้ว มีแต่นายเท่านั้นแหละที่พวกท่านยังไม่เคยเห็น

                    “แล้วทำไมแบมต้องแต่งหญิงด้วยล่ะ ยูคก็บอกท่านไปดิว่าแฟนยูคเป็นผู้ชาย”

                    “หางานทำไม่ได้แถมยังมีแฟนเป็นผู้ชาย ฉันได้โดนโทษปาดคอตายสถานเดียวเลยดิ เถอะน่าๆ แค่วันเดียวเอง” ยูคยอมเขย่าไหล่แบมแบมจนน้ำผลไม้ที่ร่างบางถืออยู่หกเรี่ยราดไปหมด

                    “เออๆ ก็ได้ๆ”

                    “เฮ้ย! จริงนะ?!”

                    “อืม

                    “โอ้ยยย! ขอบใจนะแบมแบม!!” ยูคยอมกอดแบมแบมจนคนตัวเล็กเกือบหงายหลังก่อนที่ร่างสูงจะค่อยๆ ถอนกอดออกแล้วลากแบมแบมกลับเข้าไปในบ้านเพื่อปาร์ตี้ต่อ โดยที่ยังไม่ลืมบอกกำหนดการว่าพรุ่งนี้เขาต้องไปที่ไหน จะที่ไหนได้ล่ะ ก็คงต้องเป็นร้าน Sebastein Suit สินะ - - แล้วก็ต้องไปกินข้าวกันที่ร้านอาหาร คุยนู่นพูดนี่แล้วทำตัวเหมือนแฟนกัน

                    ...ให้ตายเถอะพระเจ้า แฟนหนึ่งวันกับคุณคิมยูคยอมเนี่ยนะ T_T…

     

     

     

     

                    “นอนได้แล้ว” เสียงของคิมฮันบินจิ้มลูกโป่งความคิดของแบมแบมแตกดังโพละ ร่าบางที่นั่งอึนอยู่บนเตียงหันไปมองคิมฮันบินที่เดินเข้ามาในห้องแล้วทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาห่มผ้าแล้วหลับตา โดยที่ไม่ลืมจะปิดไฟในห้องแล้วเปิดไฟหัวเตียงของแบมแบมทิ้งไว้เพราะเขารู้ว่าคนตัวเล็กจะเปิดมันทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีแล้วค่อยตื่นขึ้นมาปิด

                    “เอ้อ แบมแบม พรุ่งนี้ตื่นตีห้านะ” ยูคยอมเปิดประตูแล้วยื่นหน้าเข้ามาในห้อง แบมแบมพยักหน้าหงึกหงึกเป็นอันว่าเข้าใจ แต่เหมือนจะมีแต่ฮันบินที่สงสัยในประโยคบอกเล่าแกมสั่งนั่นแต่ไม่ได้ถามอะไร บีไอฮยอง พรุ่งนี้ฮยองก็ต้องไปด้วยนะ

                    “ไปไหน”

                    “ก็พรุ่งนี้แม่กับพ่อจะมาดูตัวแฟนผมแล้วท่านก็บอกให้พี่หยุดงานแล้วไปเที่ยวด้วยกัน”

                    “แฟนนาย?”

                    “นั่นไง” ยูคยอมชี้ไปที่แบมแบม ที่ยังคงนั่งตาแป๋วอยู่บนเตียงแต่ไม่ได้พูดอะไร

                    “หมายความว่ายังไงคิมยูคยอม”

                    “กะ...ก็แค่แฟนกำมะลออ่ะ ยืมตัวแค่วันเดียวเองฮันบินพยักหน้าก่อนที่จะล้มตัวลงนอนอีกครั้ง ทำเป็นหมาหวงก้างไปได้...เฮ้ย!! ฮยองจะฆ่าผมรึไงเนี่ย?!” ยูคยอมหลบมีดพกที่ถูกขว้างใส่แทบไม่ทันก่อนจะหันไปทำตาเขียวปัดใส่ผู้หมวดที่ดันตัวเองขึ้นมานั่งอยู่บนโซฟาแล้วยิ้มมุมปากบางๆ

                    “หลบสวยดีนี่ ออกไปได้ละ” ฮันบินตีหน้านิ่งใส่ยูคยอมที่บ่นกระปอดกระแปดแต่ก็ยอมออกไปแต่โดยดี ในห้องจึงมีแค่เสียงลมจากภายนอกพัดผ่านเข้ามาเท่านั้น

                    ...ทำไมอยู่ดีดีมันก็อึดอัด = = เอ่อ..คือแบมควรนอนตอนนี้เลยใช่มั้ย…

                    แบมแบมหันไปมองฮันบินที่ยังคงมองไปที่ประตูแต่พอรู้ว่าถูกจับตามองร่างสูงเลยหันกลับไปมองแบมแบมบ้าง คนตัวเล็กสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้หลบตา แบมแบมยังคงมองอีกคนตาแป๋ว

                    มองอะไร

                    ...ก็ไม่ได้อยากมองซะหน่อย แบมก็แค่..ก็แค่ TT…

                    หยุดมองไม่ได้ (.///.)

                    “ปะ…เปล่าฮะ กะ...ก็ ก็แบม แบมนอนไม่หลับ

                    “แล้ว?”

                    ...โอ้ย จะประหยัดคำพูดไปไหน T_T…

                    ก็...ไม่มีอะไรครับแบมแบมรีบนอนลงแล้วเอาผ้าห่มขึ้นมาคลุมจนมิดหน้ามิดตา ก่อนที่เขาจะได้ยินเสียงอีกคนลุกขึ้นมาแล้วมายืนอยู่ข้างๆ เตียง

                    ผู้หมวดดึงผ้าห่มออกแล้วนั่งลงบนเตียงของแบมแบมก่อนจะล้มตัวลงนอนจนคนที่นอนอยู่บนเตียงก่อนหน้านี้เด้งตัวขึ้นมาโดยอัตโนมัติ

                    ฮะ...ฮันบินฮยอง! ฮยองทำอะไร?!”

                    “ฉันอยากนอนเตียง”

                    “งะ...งั้นเดี๋ยวแบมไปนอนโซฟา” คนตัวเล็กกำลังจะลุกขึ้นไปนอนที่โซฟาแต่กลับถูกฝ่ามือหนาดึงลงให้นอนข้างๆ กัน

                    “ไม่ต้อง”

                    “…”

                    “…” แบมแบมได้แต่กัดฟันแน่นในขณะที่เขากำลังนอนสบตากับฮันบินในระยะใกล้ คนตัวเล็กอยากจะกรี๊ดลั่นเพราะหัวใจที่เต้นไม่เป็นส่ำและเพราะอุณหภูมิที่สูงขึ้นมาบนใบหน้า รวมถึงมือของคิมฮันบินที่ยังคงจับมือเขาไว้อยู่

                    ...ตายละ ไอ้แบมตายแน่ ตายแน่ไอ้แบม T///T…

                    ครืด ครืด

                    แบมแบมนึกขอบคุณเสียงสั่นของโทรศัพท์ใต้หมอนเตือนว่ามีคนโทรมา ร่างบางเตรียมหันหลังให้คิมฮันบินแต่กลับไม่เป็นไปตามคาด

                    “จะหันไปไหน”

                    “บะ…แบมจะคุยโทรศัพท์

                    “ก็คุยไปสิ จะหันไปทำไม” แล้วไม่คิดว่าแบมจะเขินจนคุยไม่รู้เรื่องบ้างรึไง T^T…

                    แบมแบมยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูว่าใครที่โทรเข้ามา ร่างบางกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอเมื่อบนหน้าจอกว้าง 5.5 นิ้วปรากฎชื่อ แฟนและรูปที่บ๊อบบี้ถ่ายกับเขารูปเบ่อเริ่ม ตายๆๆ ฮันบินฮยองอยู่ใกล้ขนาดนี้มีเหรอที่จะไม่ได้ยินที่เขาคุยกับคนในโทรศัพท์

                    “ฮะ…ฮัลโหลฮะ แบมแบมกดรับโทรศัพท์ก่อนจะพยายามกลั้นเสียงสั่น ขณะที่สายตาก็มองฮันบินที่นอนอยู่ตรงหน้า

                    ...ฮันบินฮยองจะรู้มั้ยว่าแบมพยายามมากแค่ไหนเพื่อให้คุยโทรศัพท์ได้โดยไม่ต้องกรี๊ดออกไป TT…

                    [แบมแบม นายจะนอนรึยัง? ฉันโทรมากวนรึเปล่า?]

                    “เปล่าฮะ ฮะ...ฮยองมีอะไรรึเปล่า?”

                [พรุ่งนี้นายว่างรึเปล่า]

                    “พรุ่งนี้...เอ่อ...พรุ่งนี้แบมมีนัดกับเพื่อนอ่ะครับ ขอโทษนะฮะบ๊อบบี้ฮยอง”

                    [ไม่เป็นไรๆ ไว้วันไหนที่นายพร้อม เดี๋ยวฉันจะโทรนัดอีกที] ...พร้อมนี่พร้อมอะไร = =? ฮยองกำลังพูดถึงอะไรเนี่ย?...

                    [งั้น...นายจะนอนแล้วรึยัง?]

                    “ก็...คงงั้นอ่ะครับ”

                    [งั้นเดี๋ยวฉันร้องเพลงให้ฟัง]

                    “หือ?

                    [ตั้งใจฟังนะ] แบมแบมยังไม่ทันจะได้พูดอะไร เขาก็ได้ยินเสียงกีต้าร์จากปลายสายดังลอดออกมาเสียก่อน

     

    너는 취향저격 취향저격
    นอนึน แน ชวีฮยังจอกยอก แน ชวีฮยังจอกยอก
    เธอน่ะสเปคฉันเลย เป็นสไตล์ของฉันเลย

    말하지 않아도 느낌이 머리부터 발끝까지
    มัลฮาจี อันนาโด นือกีมี วา มอรีบูทอ พัลกึดกาจี ทา
    เธอไม่ต้องพูดอะไรฉันก็รู้สึกได้ ตั้งแต่หัวจดเท้าของเธอ


    너는 취향저격 너를 보면
    นอนึน แน ชวีฮยังจอกยอก นัน นอรึล โบมยอน
    เธอตรงสเปคฉันทุกอย่าง ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอเธอ

    가지고 싶어서 안달이 자기 전까지도 생각이
    คาจีโก ชีพอซอ อันดารี นา ชากี ชอนกาจีโด แซงกากี นา
    ฉันห้ามตัวเองที่ต้องการเธอไม่ได้ ก่อนจะนอนฉันก็ยังคิดถึงเธอ

     

    oh oh 너의 가녀린 미소 oh oh 나를 보는 눈빛도
    oh oh นอเอ คานยอริน มีโซ oh oh นารึล โบนึน นุนบิดโด
    รอยยิ้มที่อ่อนโยนของเธอ สายตาของเธอที่มองมาที่ฉัน

    흠잡을 데가 없어한시도 지루할 틈이 없어 perfect
    ฮึมชาบึล เดกา ออบซอ ฮันชีโด ชีรูฮัล ทือมี ออบซอ perfect
    ไม่มีจุดบกพร่องตรงไหนเลย ไม่มีทางที่ฉันจะเบื่อเธอแน่ ๆ สมบูรณ์แบบจริงๆ

     

    แบมแบมยิ้มให้กับเสียงทุ้มๆ ที่ยังคงร้องเพลง my type IKON ต่อไปเรื่อยๆ ก่อนที่อารมณ์สุนทรีย์และเสียงทุ้มๆ ที่ชวนให้หูละลายจะหายไปเพราะคนตรงหน้าที่กระชากโทรศัพท์เขาไปเสียดื้อๆ ก่อนจะกรอกเสียงเย็นชาใส่โทรศัพท์

    หมายเลขที่แกเรียกไม่สามารถติดต่อได้ เก็บกีต้าร์แล้วไปตายไกลๆ ซะ

    ปิ๊ป!

    แบมแบมมองการกระทำแสนเผด็จการของฮันบินที่ปิดเครื่องโทรศัพท์เขาก่อนจะย้ายมันไปวางไว้บนโต๊ะข้างโคมไฟอย่างไม่ใยดี คนตัวเล็กได้แต่อ้าปากค้างในขณะที่ฮันบินยังคงทำหน้าเรียบเฉยตามปกติ

    “ฮยองทำไรเนี่?!”

    นอนได้ละ พรุ่งนี้ตื่นแต่เช้า”

    อย่ามาเปลี่ยนเรื่องนะ ฮยองไปพูดแบบนั้นใส่บ๊อบบี้ฮยองได้ไง!

    นายจะหุบปากได้รึยัง” แบมแบมรีบเงียบเสียงลงทันทีที่อีกคนยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ จนรู้สึกได้ถึงลมหายใจร้อนๆ ที่ปะทะเข้ามาบนใบหน้า ความรู้สึกอยากจะกรี๊ดบ้านแตกกลับมาอีกครั้ง

    บะ...แบมว่าฮยองถอยออกไปหน่อยก็ดี มันดูอึดอัดแปลกๆ

    ฉันไม่เห็นจะอึดอัดอะไร” แบมนี่ไงที่อึดอัด! T^T...

    เอ่อ...

    “ทำไมนายถึงไปเป็นแฟนกับมัน?” แบมแบมสบตากับคนตรงหน้า ร่างบางเงียบไปสักพักก่อนจะตอบคำถามฮันบิน

    แบมยังไม่ได้ตกลงอะไรเลย แต่บ๊อบบี้ฮยองก็พูดทุกอย่างเสร็จสรรพ”

    แล้วนายชอบรึเปล่า”

    ก็...เอ่อ...”

    “…” แบมแบมกัดริมฝีปากล่างของตัวเอง นัยน์ตากลมมองสบตากับร่างสูงที่จ้องเขากลับเหมือนคาดคั้นคำตอบ ยิ่งทำให้หน้าแบมแบมแดงและเห่อร้อนยิ่งขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ จะให้หลบสายตาก็ไม่กล้าหลบ ทำได้แค่มองกลับไปเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นก็กลัวที่จะเผลอพูดอะไรแปลกๆ ออกไป

    ...ที่ว่าถ้าสบตากับใครแล้วจะทำให้เราเผลอพูดความรู้สึกจริงๆ ออกไปคงจะไม่ใช่เรื่องโกหกสินะ...

    ชอบมั้ย...น่ะเหรอ?

    ...”

    ก็คงไม่เท่าฮันบินฮยองหรอก” แบมแบมอยากจะกรี๊ดแล้วดิ้นพล่านที่เผลอพูดอะไรแปลกๆ ออกไป ถ้าไม่ห่วงว่าฮันบินฮยองนอนอยู่ข้างๆ แล้วเผลอกลัวดิ้นแล้วถีบผู้หมวดเขต 5 ตกเตียง เขาก็คงจะทำอย่างที่คิดไปแล้ว

    แบมแบมรู้สึกได้ถึงอ้อมกอดอุ่นจากคนตรงหน้าที่ดึงเขาเข้าไปกอดโดยไม่บอกไม่กล่าว ร่างบางได้แต่นอนแข็งเป็นตุ๊กตาเพราะความเขินในใจจนแทบจะระเบิดตัวเอง

    ...ไม่ชอบเลยไอ้ความรู้สึกแบบนี้ TT…

    ฮันบินฮยอง...”

    ฉันบอกให้นอนไง” ร่างสูงเอื้อมมือข้างหนึ่งไปปิดโคมไฟหัวเตียง ก่อนจะกลับมากอดร่างบางเหมือนเดิม

    ...แล้วคิดว่าแบมจะหลับลงรึไงล่ะแบบนี้ /T[]T\...

    “ฮยองปิดไฟทำไม”

    มันครบ 15 นาทีแล้ว”

    “…”

    “ราตรีสวัสดิ์” แบมแบมได้ยินเสียงทุ้มที่กระซิบอยู่ข้างหูเบาๆ ร่างบางอดที่จะยิ้มให้กับน้ำเสียงอ่อนโยนของคนที่กอดเขาอยู่ไม่ได้เลย

    ราตรีสวัสดิ์ครับฮันบินฮยอง” คนตัวเล็กค่อยๆ หลับตาลงแล้วปล่อยให้ค่ำคืนนี้ผ่านไปด้วยดี

     

     

     

     

    “เฮ้ย ไอ้จุน มึงจะไปไหนวะ?” เสียงของแจฮยองเรียกให้จุนฮเวชะงักปลายเท้าอยู่กับที่หน้าทางเข้าป่าต้องห้าม ร่างสูงดึงฮุ้ดที่คลุมหัวลงก่อนจะหันไปหาเพื่อนตัวสูงที่ชอบใส่แว่นตาแฟชั่นซึ่งกำลังมองเขาด้วยสายตาไม่เป็นมิตร

    ...อะไรอีกล่ะเนี่ย...

    “กูถามมึงก็ตอบดิ

    ใครส่งมึงให้มาตามกู พี่กูเหรอ?” จุนฮเวพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้างเมื่อเขารู้ว่าเพื่อนคนนี้ไม่ได้มาเล่นๆ(แต่มาเพื่อชนะ #ถถ ผิดๆ)

    มึงพูดอะไรของมึงเนี่ย?”

    นี่ก็ตีหนึ่งครึ่งละ ปกติมึงก็น่าจะนอนไปแล้วไม่ใช่เหรอวะ ทิฟอย่างมึงที่วันๆ ก็เอาแต่ร้องเพลง กินๆ นอนๆ ไม่ช่วยเหี้ยไรในกองกำลังเลย

    นั่นมันมึงมากกว่าป่ะวะ! ไอ้ทรยศ!” จุนฮเวมองมือของแจฮยองที่ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงก่อนที่จะหยิบไซลิ้งค์ที่บรรจุของเหลวสีแดงขึ้นมา และเขาก็รู้ว่ามันคืออะไร

    มันคือยาตัวเดียวกับที่ดงฮยอกเคยฉีดให้กับแบมแบม

    ...แต่เขาจำได้ว่าประธานาธิบดีส่งนายทหารไปเผาโกดังยาหมดแล้วไม่ใช่เหรอ? แถมเขาก็อยู่ในเหตุการณ์...

    มึงแมร่งทรยศพี่น้องของตัวเองแล้วหันไปจับมือญาติดีกับพวกทหาร คนที่ทำแบบนั้นมีสิทธิ์ที่จะมาพล่ามใส่คนอื่นด้วยเหรอวะ

    “แล้วไง? ก็กูไม่ได้อยากจะเกิดมาเพื่อเป็นตัวหนักแผ่นดินแบบนี้สักหน่อย

    มึง!” แจฮยองเงื้อไซลิ้งค์ขึ้นสูงหวังที่จะแทงอีกคน แต่จุนฮเวที่รู้ตัวอยู่ก่อนหลบเข็มฉีดยานั่นแล้วบีบข้อมือของแจฮยองแน่นเพื่อให้อีกคนปล่อยไซลิ้งค์ลงพื้น ทุกอย่างเป็นไปตามคาดก่อนที่จุนฮเวจะเหยียบไซลิ้งค์จนมันแตกและตัวยากระจายเป็นวงกว้างบนหิมะ

    เสียใจด้วยนะเว้ยไอ้แจ แต่มึงมันอ่อนเกินไป

    เฮอะ คนที่ควรเสียใจไม่ใช่กูหรอกแต่เป็นมึงต่างหากไอ้โง่

    “…”

    อย่าคิดนะว่ายาที่พวกมึงเผาไปมันจะศูนย์พันธุ์ตราบใดที่คนผลิตตัวยายังอยู่และวัตถุดิบยังมีครบ

    หมายความว่ายังไง...ไอ้ดงฮยอกเหรอ!?”

    ก็ไม่ถูกทั้งหมดหรอก ในขณะที่มึงทรยศพวกกู ก็ยังมีนายทหารที่ทรยศพวกมึงอยู่เหมือนกัน!” จุนฮเวเบิกตากว้างก่อนจะกระชากคอเสื้อแจฮยองที่ยกยิ้มมุมปากขึ้นมาเมื่อเห็นสีหน้าตกใจของจุนฮเว

    ใคร?! มึงบอกมาว่ามันเป็นใคร?!!!”

    เอาเถอะ เห็นแก่สมองขี้เลื่อยของมึง กูจะใบ้ให้ก็ได้” แจฮยองแกะมือของจุนฮเวที่กำคอเสื้อของเขาออกก่อนจะปัดๆ เล็กน้อย

    ก็แค่นายทหารยศสูง ที่อยู่ใกล้กับสมบัติราชวงศ์เขต 7 มากๆ

    “!!!”

    กูใบ้ขนาดนี้หวังว่าสมองมึงจะสว่างขึ้นมาบ้างนะ” แจฮยองหันหลังให้จุนฮเวก่อนจะหัวเราะในลำคอแล้วเดินจากไปทิ้งคำถามให้อีกคนคิดจนทุกอย่างตีกันรวนไปหมด

    แจฮยองไม่เคยโกหก..และทุกอย่างที่หมอนั่นพูดออกมาเป็นเรื่องจริงเสมอ

     

    ก็แค่นายทหารยศสูง ที่อยู่ใกล้กับสมบัติราชวงศ์เขต 7 มากๆ

     

    แล้วมันจะเป็นใครได้ล่ะ...ถ้าไม่ใช่ผู้พันมาร์คกับผู้หมวดคิมฮันบิน

     

    ------ ตัดให้ขาดเลยชั้บ ชับ ชับ 35 PERCENTS ------

     

                    05 : 15 .

    ตั้งคอตรงๆ อย่าเพิ่งหลับสิแบมแบมได้ยินเสียงเซโล่เจ้าของร้าน Sebastein Suit กำลังพูดกับเขา โอ้ยยย ไม่ไหวแล้ว แบมง่วงมากเลยบ่องตรง = =Zzz เมื่อคืนจะเรียกว่าหลับสนิทรึเปล่านะ แต่รู้สึกได้ถึงแรงถีบและแรงกอดที่รัดแน่นของฮันบินฮยองตลอดเวลา T^T

                    “ยูคยอมนายอยากได้แบบไหนล่ะ?” เซโล่หันไปถามยูคยอมที่นั่งกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่บนโซฟารอคิว แต่อย่างน้อยเขาก็ยังมีสติพอที่จะได้ยินที่อีกคนพูด

                    “ขอแบบผู้หญิงเรียบร้อยหวานๆ อ่ะครับ พ่อกับแม่ของผมค่อนข้างหัวโบราณ” ...พงกหัวขึ้นมาพูดก่อนจะก้มหน้าหลับลงไปอีกรอบ

                    เซโล่กรอกตาแล้วก็ถอนหายใจก่อนจะปลุกแบมแบมเพื่อลากอีกคนไปที่ด้านหลังร้านเพื่อเลือกชุด

     

                    ครืด ครืด

                    ฮัลโหล

                    [อยู่ไหน]

                    “ร้าน Sebastein suit ไงพี่ รีบๆ มาเลยเนี่ยไอ้แบมเข้าไปข้างในแล้ว เอ้อ แล้วก็วันนี้ต้องนั่งรถไฟไปเขต 11 นะ พ่อกับแม่ให้ไปนัดเจอที่นั่น ร้านอาหารที่ถนนลอว์เรนเบิร์กทันทีที่คิมยูคยอมพูดเสร็จฮันบินก็รีบตัดสาย ร่างสูงเดินไปตามทางเดินตลาดจนกระทั่งเจอป้ายร้าน Sebastein Suit ขณะที่กำลังจะเดินเข้าร้านสายตาคมกลับเหลือบไปเห็นใครบางคนก่อนที่ปลายเท้าจะหยุดชะงัก

                    คิมจินฮวานที่กำลังเดินอยู่เมื่อเหลือบเห็นร่างสูงจึงหยุดเดิน ต่างคนต่างเงียบไม่มีใครพูดอะไรจนกระทั่งเป็นจินฮวานที่เอ่ยขึ้นมาก่อน

                    ใกล้ถึงวันคริสต์มาสแล้วนะถึงจะเหมือนคำพูดเล่นๆ แต่ฮันบินกลับรู้สึกได้ถึงความรู้สึกประหลาดๆ กับน้ำเสียงนั่น

                    “แล้วไง”

                    “วันครบรอบไง”

                    “…”

                    “ขอโทษนะที่ทำให้คิดมากร่างเล็กเดินเข้ามาใกล้ๆ เขาก่อนจะยื่นมือมาจัดคอปกเสื้อเชิ้ตให้ฮันบิน มือบางยื่นดอกกุหลาบสีแดงให้อีกคน สัญญาว่านี่จะเป็นดอกสุดท้ายที่ฉันจะให้

                    “…”

                    “แล้วฉันจะไม่มีตัวตนในชีวิตนายอีก”

                    “…”

                    “Good bye” คิมจินฮวานยิ้มแล้วเดินกระแทกไหล่ผู้หมวดจากไป ฮันบินยืนนิ่งกับตัวเองสักพักอย่างไม่เข้าใจ

                    ...รอยยิ้มเมื่อกี้เหมือนกับกำลังเยาะเย้ยเขามากกว่า...

     

     

     

     

                    “เดินไปทางขบวนที่ 13 นะคะ อีกเดี๋ยวคงกำลังจะถึงแล้วเสียงคนจำหน่ายตั๋วรถไฟพูดกับยูคยอม ร่างสูงรับตั๋วทั้งสามใบมาก่อนจะเอ่ยขอบคุณพนักงาน ยูคยอมจูงมือแบมแบมให้เดินตามในขณะที่ฮันบินก็ได้แต่เดินตามทั้งคู่อยู่ข้างหลังอย่างเงียบๆ

                    ...อย่างเงียบๆ?...

                    เพียะ!

                    “โอ๊! บีไอฮยอง?! ตีมือผมทำไมเนี่ย?!”

                    “พ่อกับแม่ไม่ได้อยู่ตรงหน้า นายก็ไม่จำเป็นจะต้องจับมือถือแขนสักหน่อย

                    “ฮยองนี่หัวโบราณยิ่งกว่าพ่อกับแม่อีกนะเนี่ย” ยูคยอมบ่นกับตัวเองแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรมากกว่านั้นได้ แบมแบมได้แต่กัดปากก้มหน้าในขณะที่ยืนอยู่บนชานชาลารอรถไฟไปเขต 11 ร่างบางในชุดเดรสผ้าลูกไม้สีชมพูคลุมทับด้วยเสื้อนอกสีขาวและวิกผมสีดำยาวถึงกลางหลังกำลังจะอับอายจนตัวแตกตายอยู่ตรงนี้

                    ...ฮือ TT เกลียดยูค! งอนแม่กับพ่อยูคด้วย!...

                    ขบวนที่ 13 มันอยู่ทางนี้ฮันบินชี้ไปอีกทางหนึ่งก่อนที่จะเดินนำไป แบมแบมมองฮันบินและยูคยอมที่เดินไปทางรถไฟขบวนที่ 13 ...เผ่นออกจากตรงนี้ตอนนี้เลยได้รึเปล่านะ? TT แบมไม่อยากอยู่แล้ว...

                    แบมแบมค่อยๆ ก้าวถอยหลังช้าๆ ตามที่เขาคิด ร่างบางชนปึกเข้ากับผู้ชายข้างหลังอย่างจัง คนตัวเล็กรีบถอยออกมาก่อนจะขอโทษขอโพยอีกคนยกใหญ่

                    “ขอโทษนะครับ ขอโทษจริงๆ คือผมไม่ได้ตั้งใจ”

                    “ไม่เป็นไรครับๆ...ทำไมเป็นผู้หญิงแต่ใช้สรรพนามผู้ชายล่ะ” แบมแบมเงยหน้ามองผู้ชายตัวสูงที่พูดกับเขาเมื่อครู่แล้วก็เบิกตากว้างอย่างตกตะลึง และเช่นกันกับอีกคนที่ก็มองเขาแปลกๆ

                    ทำไมไม่เดินตามมา” ฮันบินเดินมากระชากแขนข้างหนึ่งของแบมแบมให้เดินตามเขาไปขณะที่ร่างบางก็กำลังหลับตาก้มหน้าก้าวขาตามคิมฮันบิน

                    ...ให้ตายเถอะ! เมื่อกี้มันบ๊อบบี้ฮยอง! ทำไมถึงมาอยู่นี่ได้ล่ะ...

                    “นายเกือบจะตกรถไฟแล้วนะ”

                    “คะ...ครับ”

                    “ขึ้นไปฮันบินดันหลังของแบมแบมให้เดินขึ้นไปนั่งบนรถไฟที่มีคิมยูคยอมนั่งอยู่ก่อนแล้ว เพื่อนตัวสูงมองแบมแบมก่อนจะถามว่าไปไหนมา แต่พอเห็นว่าคนตัวเล็กไม่ได้ตอบอะไรเขาก็หันไปถามพี่ชายแทน

                    “แบมไปไหนมาอ่ะ?”

                    “เดินชนคนเล่นมา” พอได้คำตอบแล้ว ยูคยอมก็หลับเป็นตาย แบมแบมมองเพื่อนสนิทตรงหน้า แต่ในหัวของเขากลับมีภาพเหตุการณ์ที่เดินชนเข้ากับบ๊อบบี้เต็มไปหมดในขณะที่รถไฟกำลังเคลื่อนที่

                    ...บ๊อบบี้ฮยองจะจำได้มั้ยนะ ถ้าเป็นแบบนั้นทำไงดีล่ะ?...

                    ร่างบางคิดพลางมองออกไปนอกหน้าต่าง แต่แล้วความคิดทั้งหลายกลับหยุดลงแค่ตรงนั้น

                    ...มาร์คฮยอง?...

                    แบมแบมขมวดคิ้วแล้วมองผู้พันมาร์คที่ยืนอยู่หน้าชานชาลาก่อนที่เขาจะมองเห็นคิมจินฮวานเดินมาพูดอะไรบางอย่างกับผู้พันมาร์ค

                    ...คุณจินฮวาน?...

                    พวกเขาพูดอะไรกันนะ

                    “บ่นอะไรแบมแบมสะดุ้งเฮือกก่อนที่จะหันมองคิมฮันบินที่นั่งกอดอกมองเขา ร่างบางยิ้มแหยๆ แล้วส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะกลับมานั่งหลังตรงแบบเดิม

                    ไม่มีบทสนทนาระหว่างทางขณะที่รถไฟกำลังแล่นไปเรื่อยๆ แบมแบมได้แต่นั่งเกร็งตลอดเวลา ขณะที่ยูคยอมก็นั่งหลับตลอดทาง และคิมฮันบินก็เอาแต่หมกหมุ่นอยู่กับหนังสือเล่มหนึ่ง

                    ...นี่แบมมานั่งรถไฟเล่นคนเดียวรึไงวะครับ = =...

                    ฮันบินเงยหน้าขึ้นจากหนังสือก่อนจะมองแบมๆ ที่นั่งเยื้องไปทางซ้ายมือของเขา

                    “เกร็งไปจะได้อะไรขึ้นมา

                    “ฮะ...ฮยองว่าแบมควรจะทำยังไงดี ถ้าเจอพ่อกับแม่ของยูคยอม...แบมต้องตื่นเต้นมากแน่ๆ แล้วก็ต้องพูดอะไรแปลกๆ ออกไป

                    “เป็นตัวของตัวเองก็พอ”

                    “แล้วถ้าแบมเผลอพูดครับออกไปล่ะ แล้วจะเรียกแทนตัวเองว่าอะไรดี ฉัน ดิฉัน? หรือว่าแบมล่ะ? แล้วพวกท่านจะชอบแบมรึเปล่า?”

                    “นายไม่ได้ไปเป็นภรรยาให้ไอ้ยูคยอมนะ เลิกจริงจังแล้วเป็นตัวเองสักทีฮันบินมองแบมแบมที่ยังคงทำหน้าตื่นเต้นและเป็นกังวลไม่หาย ผู้หมวดดึงบางอย่างออกมาจากด้านหลังก่อนจะยื่นมันให้แบมแบม

                    อะ...อะไรอ่ะ?”

                    “ไม่รู้จักดอกไม้รึไง”

                    “แบมอยู่แต่ในปราสาทไม่เคยเห็นอะไรพวกนี้นี่” แบมแบมรับดอกกุหลาบจากฮันบินไปดูแล้วก็เอาแต่ยิ้มคนเดียว คิมฮันบินมองอีกคนก่อนจะยิ้มตามแต่แล้วรอยยิ้มบนหน้าร่างสูงก็หุบลง

                    เอาเถอะ...

                    ...ดอกกุหลาบดอกสุดท้ายจากจินฮวาน...

     

     

     

     

                    ทำไมแฟนแกถึงน่ารักไม่เหมาะกับแกแบบนี้ล่ะยูคยอม?” เป็นประโยคที่คุณแม่พูดตอกย้ำยูคยอมมาได้กว่าร้อยล้านรอบ เช่นเดียวกับคุณพ่อที่เอาแต่ชมคิมฮันบินว่า หล่อขึ้นนะเนี่ย’ ‘ดูดีมาก’ โดยที่คิมยูคยอมตัวเอกของงานนี้กลับเป็นผู้ถูกทิ้งไว้กลางทางโดยที่พ่อกับแม่ไม่สนใจใยดี

                    ...เจ็บนี้ จำไปจนตายตอนที่สอง...

                    “แล้วหนูแบมเป็นคนที่ไหนเหรอลูก?” แบมแบมขมวดคิ้วให้กับคำถาม อาจเป็นเพราะเขาไม่เข้าใจในคำถามแบบผู้ใหญ่ ร่างบางเลยไม่เข้าใจว่าทำไมคุณแม่ยูคยอมถึงถามเขาแปลกๆ

                    “แบมเป็นคนทุกที่ครับ...เอ้ย ค่ะ อยู่ที่ไหนก็เป็นคน

                    “…”

                    “…”

                    “อ่ะ ฮ่าๆๆ หนูแบมนี่เป็นผู้หญิงตลกเนอะ” และเสียงหัวเราะชอบใจของคุณพ่อกับคุณแม่ยูคยอมก็ยิ่งทำให้แบมแบมงงเป็นไก่ตาแตกเข้าไปใหญ่ ในขณะที่ยูคยอมได้แต่ถลึงตามองแบมแบม และคิมฮันบินที่ยกมือขึ้นกุมขมับ

                    เสียงดนตรีในร้านอาหารหรูย่านถนนลอว์เรนเบิร์กของเขต 3 กำลังดำเนินอย่างต่อเนื่องคลอกับเสียงแม่น้ำที่ไหลผ่านตัวเมือง แบมแบมมองบรรยากาศสวยหรูที่มีเรือกอนโดล่าแล่นผ่าน ไม่ต่างจากเวนิสแห่งที่สองเลย

                    ...อยากให้พี่บีกับเนียร์ฮยองมาอยู่ที่นี่ คิดถึงมากๆ เลย มาร์คฮยองก็ด้วย...

                    ...มาร์คฮยองก็ด้วยงั้นเหรอ...

                    “เออนี่หนูแบม อยากลองขึ้นไปร้องเพลงดูหน่อยมั้ย?” แบมแบมหันมาให้ความสนใจกับหัวหน้าครอบครัวของยูคยอมและฮันบิน ร่างบางพูดก่อนจะส่งยิ้มให้

                    “เอ่อ…แบมร้องเพลงไม่เก่งอ่ะ...ค่ะ

                    “ร้องคู่กับไอ้ยูคนี่ไง

                    “ไม่เอาอ่ะพ่อ ช่วงนี้ผมไม่ค่อยได้ฝึกร้องไม่รู้เสียงจะเป็นยังไง คนในร้านก็เยอะเดี๋ยวขายขี้หน้า” ยูคยอมพูดก่อนจะจิ้มชิ้นสเต็กเข้าปากคำใหญ่ คุณแม่ของยูคยอมมองลูกตัวเองก่อนจะส่ายหน้าที่เห็นว่าอีกคนไม่รักษาภาพพจน์เอาซะเลย

                    “งั้นฮันบินขึ้นไปร้องแล้วกันเนอะ”

                    “ผม?”

                    “ลูกร้องเพราะจะตาย นานๆ จะได้ฟังที ร้องให้พ่อกับแม่ฟังหน่อยสิ” ฮันบินเงียบอยู่นานก่อนจะพยักหน้าช้าๆ แล้วเดินเข้าไปทางด้านหลังเวที แบมแบมมองตามอีกคนที่เดินออกไปอย่างงงๆ

                    ...นี่ยอมพ่อกับแม่ง่ายขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย?...

                    “ฮ่าๆ ไม่ต้องแปลกใจหรอกนะหนูแบม ฮันบินถึงเขาจะดูเงียบๆ นิ่งๆ แต่ความจริงก็แค่ปากแข็งและใจอ่อนมากเลยล่ะแบมแบมพยักหน้ารับยิ้มๆ ก่อนจะมองคิมฮันบินที่ขึ้นไปยืนอยู่บนเวที ร่างสูงหยิบกีต้าร์ขึ้นมาก่อนจะเคาะตัวกีต้าร์สามครั้งและเริ่มดีด เสียงปรบมือของผู้คนในร้านอาหารดังขึ้นทันทีที่ประโยคแรกถูกเอ่ยออกมา


    낡은 기타를 들어 하지 못한 고백을 혹은 고집스레 삼킨 이야기를

    เน นัลกึน คีตารึล ดือรอ ฮาจี มททัน โกแบกกึล โฮกึน โกชิบซือเร ซัมคิน อียากีรึล

    ฉันหยิบกีต้าร์ขึ้นมาอีกครั้ง กับคำสารภาพที่ไม่เคยพูดออกไป ฉันทำได้แค่เก็บกลั้นทุกสิ่งเอาไว้ภายในใจ

     

    노래 하나 만든 지금 말하려 해요그냥 들어요 I’ll sing for you

    โนแร ฮานา มันดึน ชอก ชีกึม มารารยอ เฮโย คือนยัง ทือรอโย I’ll sing for you

    และในตอนนี้ฉันมีบางอย่างที่จะต้องบอกกับเธอผ่านเพลงนี้ ขอแค่เธอรับฟังมัน ฉันจะร้องเพื่อเธอ

     

    แบมแบมมองผู้หมวดประจำเขต 5 ที่นั่งเล่นกีต้าร์และร้องเพลงอยู่บนนั้น ร่างบางไม่สามารถละสายตาจากอีกคนได้เลยแม้แต่น้อย คนตัวเล็กประสานมือของตัวเองแน่นจนชื้นไปหมด

     

    너무 사랑하지만 사랑한다 어색해 자존심 허락

    นอมู ซารังฮาจีมัน ซารังฮันดา มัล อัน เฮ ออแซกเค จาชนชิม ฮอรัก อัน เฮ

    ฉันรักเธอมากจริงๆ แต่ฉันพูดออกไปไม่ได้ เพราะทิฐิที่ค้ำคออยู่ทำให้ฉันอึดอัดที่จะพูดออกไป

     

    오늘은 용기 내서 말할 테지만 무심히 들어요 I’ll sing for you

    โอนือรึล ยงกี เนซอ นา มารัล เทจีมัน มูชีมี ทือรอโย I’ll sing for you

    วันนี้ฉันรวบรวมความกล้าเพื่อจะบอกกับเธอ แค่รับฟังมันเงียบๆ ฉันจะร้องให้เธอฟัง

     

                    คิมฮันบินละสายตาออกจากตัวกีต้าร์แล้วหันมองแบมแบม ร่างแบมกำชายกระโปรงแน่นเมื่อเห็นว่าอีกคนมองมาแต่เขากลับหลบสายตานั่นไม่ได้ ผู้หมวดยังคงมองมาด้วยใบหน้าเย็นชาเหมือนเดิมแต่แบมแบมกลับรู้สึกได้ว่ามันมีอะไรมากกว่านั้น

                    ...เขากลับรู้สึกอบอุ่นกับทุกเนื้อร้องที่อีกคนเอ่ยออกมา...

     

                   The way you cry, the way you smile

    เวลาที่เธอร้องไห้ เวลาที่เธอยิ้ม

     

    내게 얼마나 의미인 걸까?

    เนเก ออลมานา คึน อีมีอิน กอลกา

    มันช่างมีความหมายกับฉันมากมายจนตีค่าไม่ได้

     

    하고픈 , 놓쳐버린

    ฮาโกพึน มัล โนชยอ-บอริน มัล

    ในคำพูดที่จะพูด แต่พลาดที่จะบอก

     

    고백할 테지만 그냥 들어요 I’ll sing for you, sing for you

    โคแบกคัล เทจีมัน คือนยัง ทือรอโย I’ll sing for you, sing for you

    ฉันจะสารภาพแล้ว แค่รับฟังมัน ฉันจะร้องให้ฟัง ร้องให้เธอฟัง

     

    그냥 한번 듣고 웃어요

    คือนยัง ฮันบอน ดึด โก อุซอโย

    เพียงแค่รับฟังมันและยิ้มออกมาก็พอ

     

                    เสียงปรบมือดังขึ้นทันทีเมื่อเสียงกีต้าร์จบพร้อมด้วยเพลง Sing for you จบลง คิมฮันบินโค้งให้ผู้ฟังทั้งหลายในร้านอาหาร ก่อนที่ผู้หมวดจะหันมายิ้มให้ครอบครัวของเขาที่ปรบมืออย่างดีอกดีใจในความสามารถของลูกตัวเอง

                    คิมฮันบินเหลือบสายตามองแบมแบมที่ไม่ได้ยิ้มออกมาแต่เม้มริมฝีปากแน่น ร่างสูงมองอีกคนอยู่นานก่อนจะยิ้มบางๆ ทำให้แบมแบมเผลอยิ้มตามอย่างห้ามไม่ได้

                    ทุกอย่างจบลง เสียงดนตรี เสียงกีต้าร์ เสียงปรบมือ และมิสคอลสิบกว่าสายในกระเป๋าสะพายของแบมแบมที่ปรากฎเบอร์ที่ไม่ได้บันทึกโทรเข้ามา

                    มาร์คต้วนค่อยๆ เก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋ากางเกงขณะที่มองร่างบางในชุดเดรสสีชมพูลายลูกไม้ ที่ตอนนี้กำลังยิ้มให้คนบนเวทีผ่านกระจกใสหน้าร้าน ร่างโปร่งค่อยๆ หันหลังเดินห่างออกมาช้าๆ ทุกอย่างเริ่มเลือนลางเมื่อมีบางอย่างมาคลอกันอยู่ที่นัยน์ตาของเขา

     

                อ้าว มาร์ค? มาทำอะไรที่นี่เหรอ?’

                ‘คิมจินฮวาน...ฉันมาทำธุระที่เขต11’

                ‘อ้อ...ว่าแต่นายตัดใจจากแบมแบมแล้วเหรอ

                ‘ฉันเคยพูดเหรอ’  

                ‘ก็ฉันเห็นเขากับบีไอนั่งรถไฟขบวนที่ 13 ไปเขต 11 นี่ ได้ยินมาว่าจะพาไปเจอหน้าพ่อกับแม่ของบีไอ

                ‘เบื่อจริงๆ กับการโกหกไม่เปลี่ยนของนาย’

                ‘ฉันพูดจริงๆ ถ้านายไม่เชื่อก็ลองตามไปสิขบวนที่ 13 จะออกแล้วนะ

                ‘…’

                ‘แล้วนายจะรู้ว่าฉันไม่ได้โกหก’

     

                    มาร์คทึ้งหัวตัวเองก่อนจะพยายามลบบทสนทนาทั้งหมดออกไป ร่างโปร่งเงยหน้ามองหิมะที่เริ่มตกลงมาช้าๆ ผู้พันเขต 5 เหม่อไปถึงอีกคนที่เขาเพิ่งเดินจากมา

                    ...หิมะตกแล้ว นายจะหนาวมั้ยนะ...

                    “เหอะ ฉันต้องแคร์ด้วยรึไง” มาร์คส่ายหน้าก่อนจะเดินออกไปที่ธรรมเนียบประจำเขต 11 เพื่อปฏิบัติตามคำสั่งที่เขาได้รับมา ด้วยความที่ร่างโปร่งเดินไม่ดูทางเลยทำให้ไปชนเข้ากับคนที่เดินสวนมา

                    “ขอโทษครับ” ผู้พันมาร์คกล่าวขอโทษอีกคน ก่อนจะจะมุ่งหน้าไปทางเดิมต่อ แต่เขากลับรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ

    มาร์คกุมสีข้างตัวเองที่เริ่มมีเลือดซึมออกมาผสมกับของเหลวสีดำที่เขารู้ว่ามันคือยาสลบ เช่นเดียวกับดวงตาที่เริ่มพร่าเลือนและสติสัมปชัญญะที่ค่อยๆ หายไป แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังได้ยินเสียงสุดท้ายก่อนที่ทุกอย่างจะดับลง

                    ไง ดีใจจังที่ได้เจอกันอีก

                    “จิน...จินฮวาน

                    “รู้รึเปล่าว่ากองกำลังโจรต้องการตัวนายมากนะ แต่มันก็ยากจริงๆ แหละถ้าจะจับนายที่ยังสติดีอยู่

                    “...”

                    “ต้องขอบคุณบีไอนะเนี่ย”

                    “…”

                    “หมอนั่นมีประโยชน์จริงๆ”

     

    ----------- 70 PERCENT เจอกันพรุ่งนี้นะคร้าบบบ :D ---------


     

                    “อ๊ากกกก เหนื่อยมากเลยยยยย” แบมแบมตะโกนดังลั่นห้องทันทีที่กลับมาถึง 7/5 Wolves Path ร่างบางกระโดดขึ้นเตียงฮันบินก่อนจะเอาหน้าจุ่มลงกับหมอน คิมฮันบินถอดเสื้อคลุมตัวนอกออกแล้วแขวนไว้หน้าประตู

                    ไปเปลี่ยนชุด

                    “นอนก่อนไม่ได้เหรอฮยอง

                    “ได้นะ ถ้านายอยากจะออกไปสภาพนี้” แบมแบมขมวดคิ้วให้กับคำถามก่อนที่จะเด้งตัวขึ้นมานั่งหลังตรงแล้วมองคิมฮันบิน

                    ฮยองจะให้แบมไปไหน?”

                    “จ่ายตลาด

                    “โอ๊ยย ไม่เอาๆๆ”

                    “งั้นไม่ต้องกินข้าว”

                    “โอเค เปลี่ยนชุดก็ได้” แบมแบมจิ๊ปากอย่างขัดใจ ก่อนจะเดินเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำ คิมฮันบินมองของติดตัวทุกอย่างที่กองไว้บนหัวเตียงของแบมแบม ร่างสูงมองโทรศัพท์ของร่างบางที่อยู่ๆ ก็เกิดสั่นขึ้นมาเพราะมีคนโทรเข้าก่อนที่สายจะตัดไป คิมฮันบินถือวิสาสะหยิบโทรศัพท์ของอีกคนขึ้นมาดู

     

    No name : 09-2485-XXXX (17 Missed call) เมื่อ 11.20 น.

    แฟน : 09-9631-XXXX (1 Missed call) เมื่อสักครู่

     

                    ฮันบินรู้ว่าเบอร์ที่สองเป็นเบอร์โทรศัพท์ของแฟนแบมแบมหรือที่เขาเคยได้ยินว่าชื่อบ๊อบบี้ แต่เขาไม่รู้ว่าเบอร์แปลก 17 สายแรกเป็นเบอร์ของใคร ผู้หมวดตั้งใจจะโทรกลับแต่ประตูไม้ก็ถูกเปิดเข้ามาซะก่อน ฮันบินจึงรีบวางโทรศัพท์ลงอย่างรวดเร็ว

                    เสร็จแล้วฮยอง ไปกันเถอะ

                    “นายลบเครื่องสำอางออกไม่หมด”

                    “จริงดิ!!!”

                    “ล้อเล่น”

                    “ล้อเล่นได้หน้าตายมากเลยนะฮยอง”

                    “แต่ตอนที่ร้องเพลงฉันก็ไม่ได้หน้าตายนี่”

    “…”

    นายก็รู้ว่าฉันยิ้มให้ใครแบมแบมชะงักให้กับคำพูดของอีกคนและรอยยิ้มที่ผุดออกมาที่มุมปากของฮันบิน ร่างบางเริ่มทำตัวไม่ถูกก่อนที่คนตัวเล็กจะเปิดประตูเดินนำออกไป

                    ปะ...ไปจ่ายตลาด ไปจ่ายตลาด!” แบมแบมยื่นหน้าออกมาบอกผู้หมวดฮันบินก่อนจะชูถุงผ้าที่ใช้ไปจ่ายตลาดขึ้นมาแล้วเดินออกไป ทิ้งฮันบินให้ยืนยิ้มและหัวเราะในลำคอกับตัวเอง

     

     

     

     

                    ถ้าไม่สบายแบมจะโทษฮยอง ถ้าแบมลื่นหิมะขึ้นมาแบมก็จะโทษฮยองเหมือนกัน แบมแบมแทบกัดฟันพูดแล้วจ้องอีกคนอย่างกินเลือดกินเนื้อ ที่เอาแต่เดินสบายใจเฉิบนำหน้ากลับบ้าน ในขณะที่มือของเขาถือของพะรุงพะรังเต็มมือแต่คิมฮันบินกลับไม่ได้ถืออะไรเลย

                    เอามาแบมแบมรู้สึกได้ถึงความเป็นสุภาพบุรุษในคำสองพยางค์นั้นมากแต่มันกลับถูกสลัดทิ้งในประโยคถัดมา คิมยูคยอมมานี่หน่อย

                    ร่างบางเหลือบมองยูคยอมที่ยืนคุยกับเพื่อนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลก่อนที่จะเดินมาตามที่ฮันบินเรียก ผู้หมวดยกวัตถุดิบสำหรับมื้อเย็นทั้งหมดแล้วส่งให้คิมยูคยอมที่รับมาอย่างงงๆ

                    เอากลับบ้านให้ด้วย

                    “อ่าว เดี๋ยวดิฮยอง ผมกับเพื่อน...”

                    “บอกลาเพื่อนนายซะสิ” ยูคยอมอ้าปากค้าง ก่อนจะหันไปโบกมือบ๊ายบายโจอี้และยองแจที่ยืนอยู่ตรงมุมเสาไฟเมื่อครู่แล้วหอบมื้อเย็นกลับบ้านไปอย่างว่าง่าย

                    ...เผด็จการ! โคตรเผด็จการ!! บรมเผด็จการ!!!...

                    ชาติที่แล้วฮยองเกิดเป็นฮิตเลอร์รึไงเนี่ย

                    “รู้จักเหรอ?”

                    “แบมเรียนประวัติศาสตร์เก่งนะ”

                    งั้นประวัติศาสตร์จะทำให้นายเข้าใจว่าควรปฏิบัติตามที่ฮิตเลอร์แบบฉันพูด แบมแบมจ้องอีกคนอย่างหมั่นไส้ ก่อนที่ฮันบินจะจับมืออีกคนแล้วลากไปทางกลับบ้านที่ยูคยอมเดินนำไปก่อนแล้ว

                    ไปไหน?”

                    “โง่รึไง กลับบ้านสิ

                    “แบมยังไม่อยากกลับเลย”

                    “ฟ้าจะมืดแล้ว หิมะก็ตกอยู่ แหกตาดูสิ”

                    “ฮยองจะพูดดีดีกับแบมหน่อยไม่ได้เหรอ” แบมแบมหยุดเดินตามผู้หมวดเช่นเดียวกับฮันบินที่ก็หยุดตาม

                    ฉันจะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร

                    “อย่างน้อยแบมอาจจะรู้สึกดีกับฮันบินฮยองมากกว่านี้ก็ได้

                    “ฉันไม่ต้องการหรอกไอ้ความรู้สึกดีจากนาย

                    “…”

                    “ก็ไม่เห็นจะมีค่ามากสักเท่าไหร่เลย” แบมแบมเงียบไปครู่หนึ่ง เขาไม่ได้ฟังที่ฮันบินพูด แต่ร่างบางกำลังมองใครบางคนที่เดินใกล้เข้ามาทางด้านหลังของคิมฮันบิน คนตัวเล็กรีบปล่อยมือออกจากฮันบินเมื่อรู้ว่าอีกคนเป็นใคร

                    ผลั่ก!!

                    คิมฮันบินล้มเสียหลักไปกองอยู่บนพื้น ร่างสูงขมวดคิ้วก่อนจะมองว่าใครที่ปล่อยหมัดใส่เขา ชายที่เขาไม่รู้จักกำลังยืนอยู่ข้างแบมแบมแล้วก้มลงมองเขาที่กำลังลุกขึ้นยืน

                    ขอโทษนะที่ทักทายแย่ไปหน่อย ผิดหวังจริงที่หมัดฉันเบาเกินไปไม่ทำให้หน้านายช้ำน่ะนะ

                    “แกเป็นใคร”

                    “เจ้าของคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ฉันนี่ไงบ๊อบบี้หันไปหาแบมแบมก่อนที่จะบีบข้อมือร่างบางแน่น “ที่ไม่รับสายฉันเพราะอยู่กับหมอนี่เหรอ?”

                    “บ๊อบบี้ฮยอง ปล่อยก่อน แบมเจ็บนะ!” ฮันบินมองชายร่างสูงตรงหน้าที่ยังคงไม่ปล่อยร่างบาง แต่กลับบีบแรงขึ้นอีกจนผิวขาวนั่นเกิดรอยช้ำ

                    แกทำอะไรวะ?!”

                    “เลิกยุ่งกับคนของฉันซะ

                    “…”

                    “รึต้องให้ฉันซัดนายให้หมอบ แล้วอัดนายให้น่วม ให้ลืมตามามองแฟนฉันไม่ได้เลยดีมั้ยล่ะ คิมฮันบิน?!” ฮันบินหยุดชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะมองหน้าบ๊อบบี้นิ่ง

                    ทำไมถึงรู้ชื่อฉัน

                    “แกอย่าโง่ไปหน่อยเลย ผู้หมวดเขต 5 ใครบ้างจะไม่รู้จัก” บ๊อบบี้หันกลับมาหาแบมแบมที่มองเขาอยู่ก่อน ก่อนที่ร่างสูงจะพูดใส่อีกคนด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก อย่าคิดนะว่าฉันไม่รู้ว่านายทำอะไร อยู่ที่ไหน คุยกับใคร

                    “…”

                    “นายคือคนของฉันจำเอาไว้ซะ แบมแบม

     

     

     

     

                    แบมแบมมองคิมฮันบินที่เดินกลับมาถึงบ้านแล้วไล่ให้เขาไปอาบน้ำ ร่างบางทำท่าจะเดินเข้าไปในห้องน้ำแต่ก็ย้อนกลับมาดูอาการของคนบนโซฟา

                    ฮันบินฮยองเจ็บรึเปล่า?”

                    “เจ็บอะไร”

                    “ที่บ๊อบบี้ฮยองต่อยอ่ะ” ฮันบินเงยหน้ามองแบมแบมแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไร ร่างสูงเรียกคนตัวเล็กให้เดินเข้ามาใกล้ๆ โดยที่แบมแบมก็ทำตามอย่างว่าง่าย

                    ฮันบินจับแขนซ้ายของแบมแบมที่เกิดรอยช้ำขึ้นดูก่อนจะเอ่ยถามอีกคน

                    เจ็บรึเปล่า?”

                    “ก็ไม่หรอกฮะ ฮันบินฮยองนั่นแหละเจ็บรึเปล่า

                    “ไปอาบน้ำแล้วมาทายา” ร่างสูงเลี่ยงที่จะตอบคำถามของเขา คนเผด็จการก็ยังคงเผด็จการอยู่วันยันค่ำ แบมแบมจำใจเดินเข้าไปในห้องน้ำก่อนจะมองตัวเองในกระจกล้างหน้า ร่างบางรู้สึกได้ถึงสิ่งผิดปกติ

                    ไม่...เขาเคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน

                    แค่ก แค่กแค่กๆๆ!! โอ้ย!แบมแบมหลับตาก่อนจะไอและสำรอกออกมาแรงๆ ร่างบางลืมตาก่อนจะพบเลือดสีเข้มที่กระจายเต็มอ่างล้างหน้าและกระจก คนตัวเล็กเบิกตากว้างแล้วมองตัวเองในกระจกเงาที่มีรอยเลือดเป็นทางยาวจากมุมปากของเขาเลยมาจนถึงลำคอ แบมแบมรีบเช็ดรอยเลือดบนหน้าจนมันเปื้อนเต็มแขนและมือของเขาไปหมด

                    เขาหายแล้วไม่ใช่เหรอ?..ก็ได้ยาแก้มาจากแจ๊คสันแล้ว..แล้วทำไม

                    “แบมแบมเกิดอะไรขึ้น?!” แบมแบมรีบหันไปมองฮันบินที่ผลักประตูห้องน้ำเข้ามา คนตัวเล็กเบิกตากว้างที่อีกคนเข้ามาได้เพราะเขาลืมล็อคประตู ฮันบินมองอ่างล้างหน้าที่เต็มไปด้วยเลือดเช่นเดียวกับตามเนื้อตามตัวและเสื้อของแบมแบม ผู้หมวดเบิกตากว้างอย่างตกใจแล้วเอ่ยถามอีกคน

    นี่มันอะไรแบมแบม?”

    ก็แค่ไม่สบายเองฮันบินฮยอง...”

    ไม่สบายแล้วทำไมเป็นแบบนี้!!” แบมแบมสะดุ้งตกใจเมื่ออีกคนตะคอกใส่เขา ฮันบินกัดฟันและกำมือแน่น พยายามกลืนน้ำลายและระงับอารมณ์อย่างยากลำบาก มีใครรู้บ้างใคร...รู้บ้างว่านายติดเชื้อ

    มีจุนฮเว แจ๊คสันฮยอง แล้วก็มาร์คฮยอง”

    นายรู้รึเปล่าว่ามันร้ายแรงแค่ไหนกับตัวยาแพร่เชื้อที่นายถูกฉีดเข้าไป รู้รึเปล่าว่าถ้าติดเชื้อในระดับหนึ่งแล้วนายจะรักษาไม่หาย แล้วถ้ารักษาไม่หายมันจะเกิดอะไรขึ้น...ทำไมมีอะไรถึงไม่บอกฉัน?! ทำไมเป็นไอ้จุนฮเวที่รู้เรื่องทุกอย่าง เป็นไอ้มาร์คที่เข้าใจทั้งหมด?!”

                    “…”                        

                    ทำไมถึงไม่ใช่ฉัน...ทำไมกัน แบมแบมร่างบางอยากจะร้องไห้ออกมา เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกได้ว่าคิมฮันบินเสียใจมากแค่ไหน ผิดหวังมากแค่ไหน หรือรู้สึกอะไร ผู้หมวดไม่เคยเผยให้เขาเห็นเลยสักครั้งแต่กลับซ่อนมันไว้ภายใต้ใบหน้าเย็นชานั่น ฮันบินกำลังร้องไห้อยู่ตรงหน้าเขาพร้อมกับสีหน้าเจ็บปวด

                    แบมแบมเบิกตากว้างเมื่อมีเลือดไหลออกมาจากจมูกของอีกคน ร่างบางมือไม้สั่นก่อนจะพยายามเรียกฮันบินให้รู้สึกตัว

                    ฮะฮันบินฮยอง ฮัน...ฮันบินฮยอง ละ...เลือดแบมแบมยืนตัวแข็งทื่อทันทีที่คิมฮันบินล้มลงไปกับพื้นและหมดสติ ร่างบางเดินเข้าไปเขย่าอีกคนให้ตื่น แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น

                    แบมแบมลนลานออกจากห้องน้ำก่อนจะวิ่งเข้าไปหยิบโทรศัพท์ในห้องเพื่อโทรหาบุคคลที่เขาคิดว่าน่าจะช่วยเหลือได้มากที่สุด แต่กลับไม่มีเบอร์โทรศัพท์ของคนที่พอจะช่วยได้เลยในเขต 5

                    แบมแบมกุมที่อกข้างซ้ายซึ่งเป็นตำแหน่งของหัวใจที่เต้นถี่ มือบางโทรหาบุคคลล่าสุดที่อยู่ในบันทึกรายชื่ออย่างมีความหวัง รอสายได้ไม่นานอีกคนก็รับ

                    [ฮัลโหล]

                    “บ๊อบ...บ๊อบบี้ฮยอง ชะ...ช่วย ช่วยแบม

                    [แบมแบม? นายโอเครึเปล่า นายเป็นอะไร?]

                    “ฮันบิน...ฮยอง บ๊อบบี้ฮยอง...แค่ก...มา...มาหาแบมหน่อย...หะ...หายใจไม่ออก

                    [แบมแบมเกิดอะไรขึ้น?! ได้ยินมั้ยแบมแบม!? แบมแบม!!] ร่างบางล้มลงไปนอนกับพื้น พยายามตะเกียดตะกายหายใจอย่างถึงขีดสุด แต่สติของเขากลับเลือนลางเหลือเกิน กระทั่งวินาทีสุดท้ายที่ทุกอย่างมืดสนิท

                   

     _____________________________________________________

    Spoil :: Chapter : 17

                ‘จุนฮเวดูดิๆๆ อะไรไม่รู้เต็มไปหมดเลย! แบมอยากกินขนมอ่ะ อยากไปเที่ยว ไปเดินเล่นกันเถอะ นะๆๆ

                ‘นายไม่รู้จักเทศกาลคริสต์มาสรึไงเนี่ย?!’

                ‘ไม่รู้จักไง...ทำไมต้องทำหน้าเซ็งแบบนั้นด้วยล่ะ

                ‘ก็เพราะเซ็งไง เลยทำหน้าเซ็ง เข้าใจมั้ยไอ้เด็กโตเป็นควายแต่สมองแรกเกิด?’

                .

                .

                .

                ทำไมหน้าเป็นงี้ล่ะ? มาร์คฮยองไปทำอะไรมา?’

                ‘พอดีเดินตกหลุมอ่ะ ไม่มีไรหรอก’

                ‘หลุมไหน? เดี๋ยวแบมไปถมให้...ดูดิช้ำหมดเลย’

                ‘ตกหลุมรักน่ะ...ฉันยอมลงไปเองซะด้วย’

                .

                .

                .

                ‘พูดดิวะคิมฮันบิน!! แกทำแบบนั้นทำไมวะ?! ทำกับแบมแบมแบบนั้นทำไมวะ?!!’

                ‘มึงเงียบก่อนได้ป่ะ กูขอพูดอะไรสักอย่าง’

                ‘…’

                ‘...แบมแบม’

                ‘…’

                ‘เมอร์รี่คริสต์มาสนะ’

    。SYDNEY♔
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×