ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic GOT7] Forsaken Area [MarkBam][BIBam]

    ลำดับตอนที่ #16 : FSK : 15

    • อัปเดตล่าสุด 7 ธ.ค. 58


    15

     

                    “นั่งตรงนี้นิ่งๆ เป็นเด็กดีแล้วทำตามคำสั่งนะโอเค?”

                    “นี่จองกุก...ฉันไม่ใช่เด็กปัญญาอ่อนนะ เห็นแบบนี้ฉันก็มีมารยาทนะ ยูโนว?” แบมแบมบอกปัดจองกุกที่เดินมาส่งถึงที่นั่ง ก่อนที่เจ้าชายประจำเขต 1 จะส่งยิ้มให้แล้วเดินออกไป ร่างบางเมื่อเห็นว่าไม่มีธุระอะไรแล้วก็ก้มหน้าก้มตาอ่านนิตยสารในมือ ก่อนจะรู้สึกได้ถึงเสียงรบกวนจากผู้พันมาร์คทางด้านซ้ายมือที่นั่งติดทางเดิน

                    แบมแบมเหลือบตามองโพสอิทสีชมพูที่แปะอยู่บนขาของเขา ก่อนที่จะไล่สายตาอ่านมัน

     

                    โกรธอะไรฉัน ทำไมถึงต้องพูดแบบนั้นด้วย ฉันก็เจ็บนะ

     

                    ร่างบางหยิบโพสอิทนั่นขึ้นมาก่อนที่จะหยิบปากกาออกมาจากกระเป๋ากางเกงและเขียนตอบกลับไป

     

                เปล่า ผมเปล่าโกรธ

                ‘จริงเหรอที่ว่าให้เริ่มจากศูนย์ใหม่

                ‘อืม’

                ‘ตลกละเด็กบ๊อง ปากนายน่ะโกหกได้แต่สายตาไม่มีวันโกหก’

     

                    แบมแบมเงยหน้ามองมาร์คที่มองเขาอยู่ก่อน คนตัวเล็กถึงกับหลบสายตาอย่างตกใจเมื่อรู้ว่าโดนจับได้ มาร์คเมื่อเห็นว่าอีกคนแกล้งหลบก็หัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนที่จะยื่นหน้าเข้าไปใกล้แบมแบม

                    หลบตาฉันทำไมแบมแบม”

                    “หลบอะไร แบมจะอ่านหนังสือ

                    “โกหก นายโกหกไม่เก่งหรอกนะแบมแบมมาร์คหัวเราะก่อนที่จะเอาหัวซบไหล่อีกคน ผู้พันรู้สึกได้ถึงฝ่ามือของใครบางคนที่ตบหัวเขาดังผัวะ ร่างโปร่งเด้งตัวขึ้นมาก่อนจะหันไปมองฮันบินที่นั่งอยู่ข้างๆ แบมแบม ในขณะที่ผู้หมวดก็ทำเป็นยืดเส้นยืดสายเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

                    ...แหม่ ไอ้บีไอ ไอ้ชั่ว...

                    มาร์คยื่นมือออกไปผลักหัวของฮันบินจนกระแทกกับหน้าต่างเครื่องบินดังปังก่อนจะทำเป็นยืดเส้นยืดสายเหมือนที่อีกคนทำ คิมฮันบินจ้องมาร์คเขม็งเช่นเดียวกับมาร์คที่ก็ตีหน้านิ่งใส่

                    แบมแบมรู้สึกได้ถึงแรงสั่นในกระเป๋ากางเกง คนตัวเล็กมองชื่อของคนที่โทรเข้ามาแล้วก็ตกใจ

                    ...เฮ้ย เดี๋ยวๆ ในโทรศัพท์ของแบมไม่มีชื่อนี้นี่!...

                    บ๊อบบี้ฮยอง! ใครใช้ให้มาเมมชื่อตัวเองในโทรศัพท์แบมว่า แฟนกันห๊ะ?!”

                    [เอ๋? ผิดตรงไหน? ก็แฟนมั้ยล่ะ]

                    “อะ...อืม”

                [ถึงไหนแล้ว]

                    “ก็เพิ่งขึ้นมาเมื่อกี้เอง คงอีกนานอ่ะครับ”

                    [เอ้อจริงด้วย แล้วนี่กลับไปกับใครล่ะ?]

                    “ก็...เอ่อ...” แบมแบมหันไปมองฮันบินกับมาร์คที่ก็จ้องเขาแล้วชะโงกหน้าเข้ามาใกล้ๆ “ก็กลับกับพี่ๆ อ่ะฮะ”

                    “ใครพี่นายคิมฮันบินพูดขึ้นมาลอยๆ ก่อนที่จะหันหน้าออกไปมองนอกหน้าต่าง ในขณะที่มาร์คก็ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ ก่อนจะจงใจกรอกเสียงใส่โทรศัพท์

                    นายคุยกับใครอยู่เหรอ? อยู่กับฉันแล้วต้องคุยกับใครด้วยเหรอ?”

                [เสียงใครน่ะแบม?]

                    “ม่ะ...ไม่มีไรฮะ! บ๊อบบี้ฮยอง คือ...ผมขอวางสายก่อนนะ ยังไงก็อีกสองวันเจอกันนะครับ

                [เดี๋ยวสิแบมแบม]

                    “ครับ?

                [เดินทางปลอดภัยนะ]

                    “ฮะ ฮยองก็เหมือนกันนะ”

                    [รักนะ] แบมแบมขบฟันตัวเองแน่นกันการระเบิดของใบหน้า ร่างบางพยายามก้มหน้าเมื่อเห็นมาร์คและฮันบินมองเขาเหมือนตัวประหลาด [ฉันบอกไปแล้วนายก็บอกกลับบ้างสิ]

                    “ไม่ได้หรอกฮยอง แบมอาย

                    [ฮ่าๆ อายอะไรของนาย แฟนกันไม่เห็นต้องอายเลย]

                    “ไม่ใช่แบบนั้นฮะฮยอง คือ...” ...คือแบมอายไอ้สองคนข้างๆ เนี่ย!...

                    [เร็วๆ ที่รัก ผมรอฟังคุณอยู่นะ] แบมแบมเริ่มใจอ่อนเมื่ออีกคนพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนใส่ คนตัวเล็กพยายามขยับริมฝีปากที่สั่นเทาก่อนจะเอ่ยคำพูดในคอออกมา

                    ระระ...รั

                    หมับ!

                    ปิ๊บ!

                    แบมแบมยังไม่ทันที่จะพูดจบ มาร์คก็คว้าโทรศัพท์ไปกดตัดสาย ก่อนที่จะส่งคืนให้เขา เรียกว่าโยนเลยจะดีกว่า

                    มะมาร์คฮยอง! มาร์คฮยองทำอะไรเนี่ย?”

                    “ที่เมินฉัน ตะเพิดฉันก็เพราะไอ้หมอนี่งั้นเหรอ?...เหอะ

                    “ไม่ใช่แบบนั้น ก็...ก็บ๊อบบี้ฮยองเขา...”

                    “เป็นแฟนนาย? ใช่ ฉันรู้ดี รู้ด้วยว่ามันคือ ‘คนสำคัญ’ ที่นายตอกย้ำให้ฉันฟังจนฉันรู้สึกไร้ค่าไปแล้ว” แบมแบมเหลือบมองมาร์คที่แสดงสีหน้าจริงจังจนเขาก็โกรธมาร์คไม่ลง ที่มาร์คพูดน่ะจริงหมดทุกอย่าง ทั้งๆ ที่อีกคนอยู่กับเขามาตั้งนานแต่เขากับให้ค่าคนที่เพิ่งพบกันไม่ถึงอาทิตย์มากกว่า เป็นใครก็ต้องน้อยใจนั่นแหละ

                    แบมแบมยังไม่ทันจะได้ง้อมาร์คคืน ร่างบางก็รู้สึกได้ถึงหูสมอล์ทอล์กด้านหนึ่งที่ถูกยัดใส่รูหูเขาเหมือนอีกฝ่ายบังคับให้ใส่ แบมแบมหันไปมองฮันบินอย่างงงๆ แต่ร่างสูงก็ไม่ได้พูดอะไรก่อนจะกดเล่นเพลงและปล่อยให้ท่วงทำนองไหลไปเรื่อยๆ

                    ทำไมฮยองต้องฟังเพลงเศร้าด้วยเนี่ย?”

                    “นายฟังเพลงจีนออกด้วยรึไง

                    “ฟังไม่ออกหรอก แต่แบมรู้แล้วกันว่ามันเศร้า” แบมแบมพูดก่อนที่จะหยิบช็อคโกแลตในกระเป๋ากางเกงขึ้นมา คนตัวเล็กยื่นมันให้กับมาร์คที่นั่งกอดอกอยู่ ร่างโปร่งไม่ได้สนใจมันเลยด้วยซ้ำก่อนที่จะหยิบนิยายที่วางอยู่บนตักแบมแบมขึ้นมาอ่าน แบมแบมขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะนั่งกินช็อคโกแลตอย่างสบายอารมณ์

                    ตุ้บ

                    ฮันบินรู้สึกได้ถึงน้ำหนักที่กดทับช่วงไหล่ข้างซ้าย ร่างสูงเหลือบตามองคนตัวเล็กที่หลับไปแล้วก่อนจะกดปิดเพลง Can’t arrive ของ Lin Yi Jie&Cheng Qihao แล้วหันมองออกไปนอกหน้าต่าง

                    ...พออยู่นิ่งๆ แล้วนายก็น่ารักเหมือนกันนี่...


     

     

     

     

                    มาร์คฮยอง วันนี้แบมย้ายไปนอนกับฮันบินฮยองนะแบมแบมพูดขึ้นทันทีที่เดินเข้ามาในบ้านของมาร์ค ทีแรกผู้พันก็ดูจะไม่สนใจกับประโยคบอกเล่าของร่างบาง แต่อยู่ดีๆ มาร์คกลับจ้องเขม็งใส่แบมแบมที่กำลังเดินขึ้นไปบนบ้าน

                    “นี่ นายพูดว่าไงนะ”

                    “อ้าว นี่ได้ยินที่แบมพูดด้วยเหรอเนี่ย นึกว่าจะหูหนวกไปจนตายแล้วซะอีก” แบมแบมเหล่ตามองมาร์คก่อนจะเดินขึ้นบันไดต่อไปโดยที่ไม่หยุดฟังเสียงของเจ้าของบ้านจนกระทั่งขึ้นมาถึงห้องนอนของเขา

                    “นี่แบมแบม! ฉันถามนายอยู่ไม่ได้ยินรึไง”

                    “อะไร ฮยองถามอะไร?”

                    “ฉันถามว่าทำไมนายถึงย้ายไป?”

                    “ก็ไม่มีอะไรมาก คิดถึงฮันบินฮยองนิดหน่อย”

                    “แบมแบม!”

                    “ก็วันนี้ยูคยอมกลับมานอนที่ 7/5 Wolves Path แล้ว ก็เลยมีฉลอง เพื่อนยูคยอมก็มา เห็นบอกว่าชื่อยองแจ เอ้อ พี่แจ็คสันก็มานี่นา! ยูคยอมไม่ได้ชวนมาร์คฮยองหรอกเหรอ?”

                    “แค่นี้เนี่ยนะ? นี่อ่ะเหรอข้ออ้างการไปนอนบ้านไอ้บีไอ?”

                    “อืม ก็ประมาณนั้นแหละ” แบมแบมพูดก่อนที่จะเก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋าใบใหญ่ที่จองกุกให้มาเมื่อเช้าเพราะเขาเป็นคนขอเผื่อในสถานการณ์ย้ายข้าวย้ายของ จะได้สะดวกขึ้น

                    ให้ฉันพูดตรงๆ นะ...หอบผ้าหอบผ่อนหนีตามผู้ชายเหรอแบมแบม?” แบมแบมมองหน้ามาร์คที่ยืนกอดอกถมึง

    ทึงอยู่หน้าห้องแล้วแอบเสียวสันหลังวาบเล็กน้อย

                    ...อะไรกัน รัศมีดำๆ ที่แผ่ออกมานี่...

                    ฮยองจะสื่ออะไร? ยังโกรธแบมอยู่อีกเหรอ? จะให้แบมทำยังไงฮยองถึงจะหายสักที?” มาร์คต้วนยิ้มน้อยๆ ทันทีที่แบมแบมเก็บของเสร็จแล้วลากกระเป๋าเข้ามาใกล้ประตูที่เขายืนอยู่

                    จูบฉันสิ แล้วฉันจะหายโกรธ”

                    “โรคจิต!!”

                    “งั้นฉันก็จะโกรธนายต่อไปแบบนี้นี่แหละ ฉันจะขังนายไว้ในห้องไม่ให้เป็นไหนเลยด้วย เอาให้คนอื่นๆ ลืมนายกันไปเลยดีมั้ย” มาร์คยืนขวางประตูก่อนจะจ้องแบมแบมเหมือนอยากจะแกล้งเล่น คนตัวเล็กทำหน้าบึ้งแล้วจ้องมาร์คเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ

                    “แต่อยู่ๆ ก็มาบอกว่าจะให้แบมจูบเนี่ยนะ สมองฮยองทำจากก้อนขี้เลื่อยรึไง”

                    “สมบัติราชวงศ์เขต 7 หายสาปสูญโดยที่ไม่มีใครพบเห็น” แบมแบมยิ่งกัดฟันแน่นเมื่ออีกคนพูดทะเล้น ก่อนที่จะยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ ตอนแรกมาร์คก็กะจะปล่อยอีกคนไป แต่แบมแบมกลับยกนิ้วขึ้นมาแตะริมฝีปากตัวเองแล้วยื่นมาแตะริมฝีปากเขา

                    “พะ…พะ...พอใจยัง ถอยไปได้แล้วแบมจะออก

                    “เฮ้ยๆ นี่มันจูบตรงไหนไม่ทราบคุณหนูเขต 7”

                    “จะเอาอะไรกับแบมอีกล่ะ ถ้าบ๊อบบี้ฮยองรู้เข้าก็โกรธแย่เลยอ่ะดิ แบมแบมลากกระเป๋าออกมาจากห้องจนเดินไปถึงหน้าประตูบ้านโดยที่มีมาร์คเดินตามมาด้วย

                    แล้วนายจูบทางอ้อมกับฉันทำไมถ้านายกลัวแฟนนายหึง ทำแบบนี้มันไม่แฟร์กับไอ้บ๊อบบี้ของนายเลยนะ

                    “ไม่รู้ ก็ฮยองขอเองไม่ใช่เหรอ แล้วถ้าแบมไม่ทำจะได้ออกจากห้องมั้ยล่ะ ที่สำคัญ...แบมยังไม่รู้เลยว่ากับบ๊อบบี้ฮยองนี่รู้สึกยังไงกันแน่ แบมรู้สึกว่าแค่ปลื้มๆ มากกว่า แต่ก็คงดูๆ ไปก่อน

                    พูดแบบนี้ทั้งที่คบไปแล้วเนี่ยนะ ฉันเสียใจตายเลยถ้าฉันเป็นบ๊อบบี้

                    “บ๊อบบี้ฮยองพูดเองเออเองหมดเลย แบมยังไม่ได้พูดเลยด้วยซ้ำว่าจะคบกับบ๊อบบี้ฮยองอ่ะ ยังไม่ได้พูดเลยด้วยซ้ำว่าชอบเขารึเปล่า

                    “แล้วนายชอบฉันรึเปล่า?”

                    “กะ...ก็” แบมแบมเงียบไปสักพัก ร่างบางกำที่จับกระเป๋าแน่นในขณะที่ยืนหันหลังให้มาร์คอยู่ “ก็ไม่ได้เกลียดไม่ใช่รึไง”

                    “…”

                    “ไม่งั้นก็ไม่ให้จูบง่ายๆ หรอก” มาร์คมองอีกคนที่เดินลากกระเป๋าห่างออกไป ร่างโปร่งยืนยิ้มให้กับตัวเองเงียบๆ ก่อนจะพึมพำออกมาเบาๆ

                    “กำลังจะบอกว่าชอบมากกว่าแฟนตัวเองสินะ”

     

     

     

     

                    แบมแบมเดินมาหยุดอยู่หน้า 7/5 Wolves Path ร่างบางมองเข้าไปในตัวบ้านผ่านกระจกที่ขึ้นฝ้า ภายในตัวบ้านกลับมืดสนิทดูเหมือนไม่มีคนอยู่ คนตัวเล็กลังเลอยู่นานว่าจะตะโกนเรียกคนข้างในดีมั้ย แต่ก็ไม่ทำ

                    ...ฮันบินฮยองต้องอยู่ในบ้านแน่ๆ เรียกดีมั้ยนะ อ่า..ไม่ดีกว่า...

                    แบมแบมหันหลังให้บานประตูแต่อยู่ๆ ประตูไม้ก็เปิดออก นัยน์ตากลมหันไปมองผู้พักอาศัยที่เปิดประตูออกมาแล้วก้มหน้ามองเขา

                    “เอ่อ…ฮันบินฮยอง...อรุณสวัสดิ์ฮะ

                    “นี่มันจะเที่ยงแล้ว”

                    “อ่า จริงด้วยสิ คือแบมมาเดินเล่นน่ะครับ ไปล่ะ”

                    “นายหอบกระเป๋ามาด้วย แน่ใจนะว่าเดินเล่นไม่ใช่ย้ายบ้าน

                    “ก็...แฟชั่นน่ะครับ เดี๋ยวนี้คนเขาพกกระเป๋าใหญ่ๆ เดินเล่นกัน ฮ่าๆ

                    “…”

                    “แบม...ไปก่อนนะ แบมแบมกำลังจะก้าวออกมาจากหน้าบ้าน แต่มือหนาของคนข้างหลังกำลังยื้อกระเป๋าลากของเขาอยู่ คนตัวเล็กหันไปหาอีกคนที่ยังคงทำหน้าเรียบเฉยสมกับเป็นคิมฮันบิน

                    “ยูคยอมบอกฉันแล้วว่านายจะมาค้างที่นี่ จะเข้ามาก็เข้ามาสิ ฮันบินดึงกระเป๋าแบมแบมจนหลุดออกจากมือบาง ก่อนจะหันหลังเดินลากสัมภาระอีกคนเข้าไปในตัวบ้าน

     

                    นายนอนเตียงฉัน ส่วนฉันจะไปนอนโซฟาที่ห้องรับแขก

                    “ม่ะ…ไม่ต้องหรอกฮยอง ผมนอนโซฟาได้

                    “ไม่ต้องมาพูดมาก มีหน้าที่นอนก็นอนไปฮันบินพูดเสร็จก่อนจะเดินออกจากห้องของตัวเอง แล้วเดินเข้าห้องน้ำไปทันทีโดยที่แบมแบมยังไม่ทันได้ตอบอะไรกลับไปเลยสักคำ ร่างบางรู้สึกได้ถึงโทรศัพท์ที่สั่นอยู่ในกระเป๋ากางเกง คนตัวเล็กล้วงโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะกดรับสาย

                    ฮัลโหล ว่าไงฮะบ๊อบบี้ฮยอง?”

                    [ไง มาหาฉันหน้าธรรมเนียบหน่อยสิ]

                    “ห๊ะ? หน้าธรรมเนียบ?”

                    [ใช่ อย่าลืมใส่โค้ทมานะ ข้างนอกหิมะตก] ปลายสายกดวางทันทีที่พูดจบ แบมแบมมองเบอร์โทรศัพท์ของบ๊อบบี้อีกครั้งก่อนจะขมวดคิ้วแล้วพูดกับตัวเอง

                    “ก็ไหนบอกว่าจะมาพรุ่งนี้ไง” ร่างบางเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋ากางเกงแล้วเดินไปหน้าห้อง มือบางเคาะประตูเรียกคนข้างใน “ฮันบินฮยอง”

                    “...”

                    “ฮันบินฮยอง”

                    “อะไร”

                    “แบมออกไปข้างนอกแปปนึงนะ”

                    “ไปไหน”

                    “ไปข้างนอก”

                    “แล้วไปไหน”

                    “ไป...หาเพื่อน”

                    “…”

                    “เดี๋ยวมานะฮยองแบมแบมรีบเดินไปที่หน้าประตูก่อนที่จะวิ่งเหยียบหิมะออกไป

     

     

     

     

                    ร่างบางล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อคลุมสีแดง คนตัวเล็กมองหาคนที่โทรตามเขามาหน้าธรรมเนียบ ก่อนที่จะมีฝ่ามือหนามาปิดตาทั้งสองข้างของเขาไว้ แบมแบมถอนหายใจก่อนจะพูดออกแนวหัวเสียเล็กน้อยแล้วแกะมืออีกคนออก

                    “บ๊อบบี้ฮยอง เล่นบ้าอะไรเนี่ย”

                    โหย อะไรกัน แฟนกันเล่นแค่นี้ไม่ได้เหรอ?” บ๊อบบี้เอามือล้วงกระเป๋าเสื้อคลุมทั้งสองข้างก่อนจะยิ้มให้แบมแบม

                    ...เป็นคนที่ดูดีทุกอริยาบทจริงๆ...

                    ไหนฮยองบอกจะมาพรุ่งนี้

                    “เซอร์ไพร์สไง

                    “แบมตกใจหมดเลย…แล้วมาถึงนานยัง?”

                    “เพิ่งถึงเมื่อกี้ แล้วก็ออกมาหานายเลยบ๊อบบี้ยื่นมือไปให้แบมแบม ร่างบางจับมืออีกคนแล้วยิ้มบางๆ

                    “มือฮยองอุ่นจังเลย”

    ชอบเหรอ?”

                    “อืม

                    “งั้นคืนนี้มานอนบ้านฉันสิ ฉันจะกอดนายจนอุ่นตายไปเลยแบมแบมกลั้นยิ้มจนหน้าแดง ต่างจากร่างสูงที่ยิ้มบางๆ ให้อีกคน บ๊อบบี้ดึงคนตัวเล็กเข้าไปกอดจนแบมแบมรู้สึกอุ่นใจ ร่างบางอยากจะหลับลงตรงนี้เหลือเกิน

                    “อะไรเนี่ย หลับไปแล้วเหรอ?”

                    “ยัง...แบมรู้สึกเพลียๆ อ่ะ สงสัยเพราะนั่งเครื่องเสร็จสดๆ ร้อนๆ”

                    “งั้นตื่นก่อน นั่งอยู่ตรงนี้แปปนึงเดี๋ยวฉันไปซื้อน้ำผลไม้มาให้ เผื่อนายจะรู้สึกดีขึ้น” บ๊อบบี้ดันแบมแบมให้นั่งลงกับม้านั่งก่อนจะเดินเข้าไปทางตลาด ร่างบางนั่งกึ่งหลับกึ่งตื่นรออีกคนกลับมาจนเขาเผลอหลับไป

     

                    “แบมแบม”

                    “…”

                    “แบมแบม ได้ยินมั้ยเนี่ย?” แบมแบมขยี้ตาเบาๆ คนตัวเล็กรอให้สายตาปรับโฟกัสกับภาพตรงหน้าก่อนจะมองว่าใครที่ปลุกเขาให้ตื่น

                    “จุน…จุนฮเว?”

                    “ทำไมมานอนอยู่ตรงนี้ล่ะ เดี๋ยวก็แข็งตายหรอก” จุนฮเวช่วยดันแบมแบมขึ้น ก่อนจะดึงอีกคนให้ลุกออกจากม้านั่ง

                    นี่ฉันหลับไปเหรอ?”

                    “นายนั่งรอใครอยู่อ่ะ? โดนผู้พันไล่ออกจากบ้านเหรอ?”

                    “เปล่า…ฉันรอ...

                    “…?”

                    “อ่า ช่างมันเถอะ” แบมแบมบอกปัดๆ ไปเพราะรู้ว่ายังไงจุนฮเวก็ไม่รู้จักบ๊อบบี้อยู่ดี แล้วยิ่งถ้าพูดว่าบ๊อบบี้เป็นแฟนเขาอีกล่ะก็ อีกคนได้ซักถามยาวเป็นพรืดแน่ๆ

                    “งั้นฉันกลับก่อนนะ”

                    “นายโอเคมั้ยเนี่ย? เหมือนนายอยากจะหลับอยู่ตลอดเวลาเลย”

                    “ฉันไปเขต 9 มาอ่ะ เพลียจากการเดินทางเล็กน้อย เดี๋ยวก็โอเคขึ้นละ...ป่านนี้ฮันบินฮยองอาละวาดบ้านแตกแล้วมั้งเนี่ย เลยมาเกือบชั่วโมงแล้วแน่ๆ

                    “ให้ฉันไปส่งมั้ย?”

                    “ไม่เป็นไรๆ นายไม่ถูกกับยูคยอมไม่ใช่เหรอ ฉันไม่รู้ว่ายูคกลับมารึยัง แต่ถ้าเจอกัน...ฉันว่าได้ตายกันไปข้างแบมแบมโบกมือลาจุนฮเวที่ยังคงมองเขาด้วยสายตาเป็นห่วงกึ่งงงๆ จุนฮเวมองอีกคนที่เดินโซซัดโซเซเหมือนจะล้มแหล่ไม่ล้มแหล่แล้วก็อดนินทาอยู่ในใจไม่ได้

                    ...จะรอดมั้ยเนี่ยเดินแบบนี้?...

                    จุนฮเวส่ายหัวเล็กน้อยให้คนที่เดินจากไป ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเขากำลังจะทำอะไร

                    “อ่า...ฉันต้องไป ‘ที่นั่น’ นี่นา

     

     

     

                    แบมแบมรีบผลักประตูเข้าไปในกระท่อม ร่างบางรีบมองหาคิมฮันบิน ในใจก็อดกลัวไม่ได้ที่จะถูกอีกคนต่อว่า เพราะเขาออกไปนานจนหิมะเกาะเต็มตัวไปหมด แถมยังไปหลับอยู่หน้าธรรมเนียบไม่รู้ตั้งกี่นาที

                    “ฮันบินฮยอง! แบมขอโทษนะที่ออกไปนา...เฮ้ย!” แบมแบมรีบหันหลังให้คนที่ยืนเป่าผมอยู่หน้ากระจก ฮันบินหันมองร่างเล็กที่อยู่ๆ ก็เงียบไปซะอย่างนั้น

                    “อะไรของนาย”

    ฮะฮะ...ฮยองไปใส่เสื้อเลยนะ ใครเขาเดินนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวทั่วบ้านในช่วงฤดูหนาวกันห๊ะ!” ฮันบินมองร่างกายของตัวเองในกระจก ก่อนจะยิ้มมุมปากเล็กน้อยแล้วพูดแกล้งอีกคนเล่น

                    “นายเป็นห่วงฉันเหรอ?แบมแบมรีบหันไปมองคิมฮันบินที่ยืนหันหน้าให้กระจก นัยน์ตาคมสบตากับเขาในกระจกบานใหญ่

                    “ม่ะ...ไม่ช่ายยย!”

                    “...

                    “กะก็แค่ ก็แค่ๆๆๆ!”

                    “…”

                    “อ๊ากกกกกกกก!! อย่ามายิ้มให้แบมนะ!!” แบมแบมตะโกนลั่นบ้านทันทีที่ฮันบินยิ้มบางๆ ใส่ ร่างบางทึ้งหัวตัวเอง ก่อนจะหันหลังให้คิมฮันบินที่กำลังหยิบเสื้อที่แขวนอยู่ขึ้นมาสวม

                    “ยิ้มให้นายอะไรกัน ฉันยิ้มให้กระจก”

                    “แต่ฮันบินฮยองมองแบมในกระจก

                    “ใครบอก ฉันมองตัวเองในกระจก”

                    “อะ...เออๆๆ แบมไปอาบน้ำนะ!” แบมแบมเดินเข้าไปในห้องของฮันบินเพื่อหยิบผ้าเช็ดตัวก่อนจะเดินออกมาแล้วรีบวิ่งเข้าห้องน้ำทันที

                    “หึ เขินก็พูดว่าเขินสิ”

     

     

     

     

                    “ฮันบินฮยอง ราตรีสวัสดิ์” ทันทีที่อาบน้ำเป่าผมเสร็จร่างบางก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงในขณะที่คิมฮันบินกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนโซฟา

                    “วันนี้มีปาร์ตี้นะ หกโมงยูคยอมก็กลับมาแล้ว”

                    “โอ๊ยย อีกตั้งหลายชั่วโมง เราต้องใช้เวลาให้คุ้มค่าสิฮยอง”

                    “นายใช้เวลากับการนอนคุ้มค่าเกินไปรึเปล่า”

                    “แบมไม่รู้ว่าทำไมวันนี้แบมง่วงแปลกๆ…ยูคมาแล้วปลุกด้วยนะครับ” ฮันบินถอดแว่นสายตาออก ก่อนจะวางหนังสือและแว่นตาไว้บนโต๊ะตัวเล็กข้างโซฟา ผู้หมวดเดินเข้าไปประชิดเตียงที่แบมแบมนอนอยู่

                    “นายจะหลับแบบนี้ไม่ได้ ตื่นเดี๋ยวนี้กันต์พิมุกต์”

                    “กันต์พิมง กันต์พิมุกต์อะไร แบมบอกอยู่ว่าแบมง่วง... ฮันบินมองแบมแบมที่พลิกตัวไปมาใต้ผ้าห่ม ร่างสูงยื่นมือไปอิงหน้าผากของอีกคนก่อนจะรู้สึกได้ถึงความร้อนที่แผ่ออกมาจากหน้าผาก

                    “แบมแบม นายไม่สบายเหรอ?”

                    “เปล่า แบมแค่ง่วง

                    “ง่วงแล้วทำไมตัวร้อนแบบนี้ ตื่นขึ้นมาแล้วกินยาซะ”

                    “คิดว่าฮยองเป็นใครกันถึงมาปลุกแบมเนี่ย”

                    “ฉันเป็นเจ้าของเตียงที่นายนอนอยู่ เป็นคนที่จะถีบนายตกเตียงเมื่อไหร่ก็ได้ถ้าฉันต้องการ”

                    “ใจร้าย ฮันบินฮยองไม่ทำแบบนั้นหรอกน่า เนอะ”

                    “ฉันทำแน่แบมแบมถ้านายยังไม่ลุกไปกินยา

                    “ฮยองน่ะรักแบมจะตาย ไม่งั้นไม่จูบแบมหรอกใช่มั้ย”

                    “…”

                    “ตอนนั้นแบมใจเต้นไปหมดเลยนะรู้เปล่า ทั้งมึนทั้งงงทั้งเขิน ทำอะไรไม่ถูกเลย”

                    “แบมแบม นั่นนายละเมอเหรอ?”

                    “อ่า พี่บี...แบมอยากกินข้าวผัดไหม้ๆ ฝีมือพี่บีจังเลย” ฮันบินเดินเข้าไปจับหน้าแบมแบมให้หันมามองเขาปรากฎว่าคนตัวเล็กหลับไปก่อนแล้วอย่างไม่น่าให้อภัย คิมฮันบินตบหน้าอีกคนสองสามทีแต่แบมแบมกลับยิ้มแต่ไม่ตื่น

                    “ฉันบอกว่าให้ลุกขึ้นมากินยาไม่ใช่รึไง?”

                    “…”

                    “เหอะ” ผู้หมวดเดินออกไปจากห้องก่อนจะกลับมาพร้อมกับยาหนึ่งเม็ดและน้ำหนึ่งแก้ว ฮันบินกระดกแก้วน้ำขึ้นตามด้วยยาก่อนจะจับท้ายทอยอีกคนที่หลับอยู่ให้เงยขึ้นแล้วส่งเม็ดยาและน้ำให้อีกคนผ่านริมฝีปาก

                    ฮันบินถอยหน้าออกมาเล็กน้อยแล้วมองคนตัวเล็กที่หลับไม่รู้เรื่องรู้ราว มือหนาเกลี่ยแก้มขาวเบาๆ แล้วกดจูบลงบนแก้มนิ่มก่อนจะค้างไว้แบบนั้น

                    ...บ้าจริง นี่ฉันทำอะไรอยู่เนี่ย?...

                    บีไอฮยอง! แอมคัมมิ่งแบ๊คอะจะอะ!!” ฮันบินเหลือบตามองยูคยอมที่ชูถุงพลาสติกพร้อมกับขวดแอลกอฮอล์มากมายแล้วมองมาที่เขาตาโต “น่ะ…นี่ฮยอง บีไอฮยองกับแบมแบม?”

                    “ไหนบอกว่าจะมาหกโมงไม่ใช่เหรอ

                    “นี่ผมฝันรึฝันกันแน่เนี่ย?”

                    “ใจเย็นๆ ไอ้ยูค คือฉัน...

                    “อธิบายมาซะผู้หมวด ทำไมถึงมาลักหลับเพื่อนผม”

                    “ฉันชอบเพื่อนนาย

                    “ห้ะ?!!”

                    “พอใจยัง?”


    Spoil :: Chapter : 16

                “แบมแบมฉันมีเรื่องให้ช่วย...ขอวันนึงได้ป่ะ

                “อืม อะไรเหรอยูค?”

                “ช่วยแต่งหญิงแล้วมาเป็นแฟนหลอกๆ ให้ฉันหน่อย

                “เฮ้ย!! ว่าไงนะ?!”

                .

                .

                .

                “แกทำอะไรวะ?!”

                “เลิกยุ่งกับคนของฉันซะ

                “…”

                “รึต้องให้ฉันซัดนายให้หมอบ แล้วอัดนายให้น่วม ให้ลืมตามามองแฟนฉันไม่ได้เลยดีมั้ยล่ะ คิมฮันบิน?!”

                .

                .

                .

                “นี่มันอะไรแบมแบม?”

                “ก็แค่ไม่สบายเองฮันบินฮยอง...”

                “ไม่สบายแล้วทำไมเป็นแบบนี้ ทำไมมีอะไรถึงไม่บอกฉัน?! ทำไมเป็นไอ้จุนฮเวที่รู้เรื่องทุกอย่าง เป็นไอ้มาร์คที่เข้าใจทั้งหมด?!”

                “…”

                “ทำไมถึงไม่ใช่ฉัน...ทำไมกัน แบมแบม

    ขอโทษนาจา มาลงให้ช้ามากเลยย \(- -)/(_ _)

    ช่วงนี้ความขี้เกียจมาเยือนทุกวัน บวกกับลมหนาวที่ทำให้เป็นหวัดอีก

    รักษาสุขภาพกันด้วยนะรีดเดอร์!

    ---

    ป.ล. ตอนนี้ตัดจบสั้นมาก เป็นอะไรที่สั้นมาก และก็โคตรจะสั้นมาก สั้นมากกว่าที่เคยเป็นมา

    ป.ล. 2 ตอนหน้าบินแบมมากจ้า มาร์คต้วนยังสำคัญอยู่มั้ย? แล้วจุนฮเวล่ะ?

    ดงฮยอกหายสาปสูญ? ยูคยอมมาหน่อยเดียว? บ๊อบบี้พีคไปมั้ย? (เดี๋ยวสิๆ พระเอกเรื่องนี้มันมีกี่คนกันแน่)

    CR.SQW
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×