ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic GOT7] Forsaken Area [MarkBam][BIBam]

    ลำดับตอนที่ #12 : FSK : 11

    • อัปเดตล่าสุด 26 ต.ค. 58


    11

                    8.30 น.

    ก๊อก ก๊อก

                    เสียงเคาะประตูหน้าบ้านทำให้มาร์คสะดุ้งตื่นออกจากภวังค์ ผู้พันรีบลุกออกจากเก้าอี้แล้ววิ่งไปที่หน้าประตูก่อนจะผลักบานประตูออกอย่างแรง

                    แบมแบม!” มาร์คมองแบมแบมที่หน้าแดงก่ำในอ้อมแขนของจุนฮเว ก่อนที่ร่างโปร่งจะแหงนหน้ามองอีกคนที่ยังคงทำสีหน้าเรียบเฉย นายทำอะไรแบมแบม

                    “ค่อยถามได้มั้ย ให้ฉันเข้าไปก่อน หนักจะตายอยู่แล้ว จุนฮเวดันมาร์คออกจากประตูก่อนที่จะทิ้งแบมแบมลงกับโซฟาจนร่างบางที่สลึมสลืออยู่เบ้หน้าแล้วครางเบาๆ ในลำคอ

                    มาร์ควิ่งมาดูอาการของร่างบางที่ทำหน้าทรมาณจนน่าสงสารและพึมพำบางอย่างที่ฟังไม่ได้ศัพท์

                    แบมแบม ได้ยินฉันรึเปล่า?...ไปทำอะไรมาแบมแบม?”

                    “ฉันว่าอย่าเพิ่งไปยุ่งกับหมอนั่นดีกว่านะจุนฮเวที่นั่งอยู่ที่โซฟาอีกตัวพูดขึ้น มาร์คหันไปหาร่างสูงแล้วขมวดคิ้วถามอย่างไม่เข้าใจ

                    ทำไม นายไม่เห็นรึไงว่าเด็กนี่ต้องการความช่วยเหลือ

                    “หมอนั่นโดนยามา ถ้าเกิดนายทำอะไรที่ไม่คาดคิดขึ้นมา ฉันว่าแบมแบมไม่ให้อภัยนายหรอกนะมาร์คชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆ ผละออกมาแล้วมองหน้าจุนฮเวด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตร

                    ตามฉันมา

     

     

     

     

                    “หมายความว่าไงที่ว่าโดนยา? นายพาเด็กนั่นเข้าผับเหรอ?!” ผู้พันตะโกนลั่นบ้านในขณะที่จุนฮเวเอามือปิดหูแทบไม่ทัน

                    เรื่องนั้นฉันไม่รู้ ฉันแค่เดินไปเจอหมอนี่กลางป่า เห็นนอนอนาถอยู่แล้วก็บ่นแค่ว่า ร้อน ร้อน แถมยังเดินไม่ได้ มาร์คต้วนเงียบไปสักพักแล้วขบฟันแน่น ผู้พันนึกโมโหคนตัวเล็กที่ไปสถานเริงรมณ์โดยไม่บอกกล่าว ทำให้เขาเป็นห่วงจนต้องวิ่งวุ่นหาทั่วเมือง

                    สั่งปิดไอ้ผับบ้านั่นเลยดีมั้ยนะ

                    “บ้าเหรอ อยากโดนฝ่าเท้าวัยรุ่นเขต 5 กระทืบตายรึไงห๊ะไอ้คุณผู้พัน?”

                    “ฉันไม่สน ที่แบมแบมเป็นอย่างนี้ก็เพราะไอ้ผับบ้านั่นจุนฮเวมองผู้พันมาร์คที่ยืนมองออกไปนอกหน้าต่างที่ดำสนิทใบหน้าหล่อที่ดูเหนื่อยล้าจนจุนฮเวต้องเอ่ยคำถามหนึ่งออกมา

                    ดูคุณจะแคร์แบมแบมมากนะจุนฮเวเปลี่ยนสรรพนามเรียกแทนอีกคนที่เหมือนจะสะดุ้งตกใจกับคำถามแปลกๆ ของเขา

                    ฉันก็ต้องแคร์ทุกคนในเขตนี้นั่นแหละ

                    ตลกน่าผู้พัน คุณก็รู้ไม่ใช่เหรอ?”

                    “…”

                    “ว่าแบมแบมไม่ใช่คนของเขตนี้มาร์คสบเข้ากับนัยน์ตาคมของจุนฮเว ร่างโปร่งไม่ได้แสดงท่าทีอะไร ได้แค่ถามเบาๆ

                    ทำไมถึงรู้

                    “เพราะว่าประธานาธิบดีมิโนรู้แล้วไงว่าแบมแบมคือกันต์พิมุกต์ น้องชายสุดหวงของกษัตริย์เขต 7 เขาก็เลยจะให้คุณตามจับตัวหมอนั่นมาเพื่อส่งคืนให้กับอิมแจบอม

                    “…”

                    “แต่น่าแปลกที่คุณไม่ทำอย่างนั้น และผมก็รู้ว่าทำไม

                    “มันก็แค่ยังไม่ถึงเวลา

                    “นั่นก็เป็นแค่ส่วนหนึ่ง แต่ประเด็นหลักแล้วก็คือ

                    “…”

                    คุณก็แค่ไม่อยากเสียเขาไป ใช่มั้ยล่ะผู้พันมาร์ค

     

     

     

     

                    คิมฮันบินยืนมองตัวเองอยู่ในกระจกด้วยสายตาเหม่อลอย มือหนาจัดการเนกไทให้เข้าที่เข้าทาง ทรงผมถูกเซตเป็นทรงดูเป็นทางการ ก่อนที่ร่างสูงจะถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืน ฮันบินไม่เคยรู้เลยว่าอาการสติหลุดที่คนเขาพูดกันมันเป็นยังไง เขาไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าทำไมถึงต้องทำแบบนั้น

                    ...คนที่นายแคร์น่ะ มีแค่จินฮวานนะ คิดให้ดีๆ สิ...

                    ร่างสูงเบิกตาขึ้นเมื่อเขาเห็นภาพสะท้อนของใครบางคนในกระจก ภาพสะท้อนของร่างบางที่ยังตราตรึงอยู่ในหัวเขาไม่เลิกลา ร่างสูงหันไปมองแต่ก็ไม่พบว่าแบมแบมอยู่ตรงนั้น

                    นี่เขาเป็นบ้าอะไร ดื่มหนักไปหน่อยเหรอ?

                    “บีไอ ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ?” จินฮวานสะกิดอีกคนจากด้านหลัง ฮันบินหันไปมองก่อนจะยิ้มบางๆ ที่ดูเหมือนจะฝืนยิ้มซะมากกว่า

                    เป็นอะไรเหรอ? แฮงค์จากเมื่อคืนรึเปล่า

                    “ก็คงงั้นอ่ะ แต่ไม่เป็นไรหรอก

                    “แล้วเมื่อคืนจะกลับบ้านทำไมไม่บอกจินล่ะ?”

                    เอ่อ...คือว่า...ฮันบินหลบสายตาจับผิดที่จ้องมาที่เขา ร่างสูงไม่สามารถพูดออกไปได้ว่าเขาพาแบมแบมหนีออกมาจากผับ แต่ก็น่าแปลกที่เมื่อคืนจินฮวานไม่รับรู้ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเลย อาจจะเป็นเพราะว่าอีกคนเมามากเลยไม่รู้เรื่องอะไร

                    คือว่าอะไรบีไอ

                    “คือว่า...ฉันต้องรีบไปแล้ว ฉันกลัวว่าประธานาธิบดีจะรอนาน คิมฮันบินตัดบทก่อนจะรีบเดินออกจากกระท่อมไป ทิ้งจินฮวานให้ยืนนิ่งอยู่กับที่ คนตัวเล็กเรียกฮันบินแต่ทว่าเขาไม่ได้หันกลับมามองอย่างที่ควรจะเป็น

                    จินฮวานยืนนิ่งอยู่กับที่ ขบฟันแน่นเมื่ออีกคนเลือกที่จะปิดบังเรื่องเมื่อคืนกับเขา

                    ...นายคิดว่าฉันโง่มากเหรอคิมฮันบิน...

                    นิ้วบางหยิบ walky talky ออกมาจากกระเป๋ากางเกง ก่อนที่จะกรอกเสียงตัวเองลงไปในวิทยุขนาดพกพาตัวนั้น

                    เทาฮยอง วันนี้เราไปจับนกน้อยในกรงทองมาทรมาณเล่นดีมั้ยครับ?”

     

                    ฮันบินเดินออกมาไกลจากกระท่อมพอสมควร ร่างสูงค่อยๆ เดินช้าลงเมื่อเห็นว่าอีกคนไม่ได้เดินตามมา เสียงประกาศของท่านประธานาธิบดีมิโนดังออกมาตามลำโพงที่ติดอยู่ตามเสาไม้ต่างๆ ถึงเรื่องที่จะพานายทหารระดับท็อปทั้งหลายไปสัมนาคมกับเจ้าชายจองกุกที่เขตหนึ่ง ซึ่งต้องใช้เวลาบินไป 3 ชม. กว่าๆ เนื่องจากเกรงว่ากองกำลังทิฟจะวางระเบิดประตูข้ามเขตระหว่างเขต 1 และเขต 5 จึงไม่สามารถใช้รถม้าได้

                    ทำไมนายถึงไปที่นั่น รู้รึเปล่าว่าฉันตามหานายทั่วเขต ถามคนนู้นคนนี้ก็ไม่เจอ! ฉันเป็นห่วงนายแทบตาย แล้วเป็นไงสุดท้ายก็โดนมอมยา!”

                    “มาร์คฮยองไม่ได้โดนเองซะหน่อยแล้วทำไมต้องโมโหแบมด้วย?!” คิมฮันบินมองคนสองคนที่คุ้นตาเดินออกมาจากทางไป Lions part ผู้หมวดหยุดเดินก่อนจะยืนมองทั้งสองคน มาร์คที่ดูดีในสูทสีเทากับแบมแบมที่ยังคงไว้ผมสีเดิมแต่เซทผมลง ร่างบางดูซีดเซียวกว่าที่เขาเคยเห็น

                    “อย่ามาขึ้นเสียงใส่ฉันนะแบมแบม

    ...

    ฉันไม่มีค่ากับนายเลยสินะ

    “…”

                    “ทั้งๆ ที่ฉันเป็นห่วงแทบตาย แต่นายกลับไม่รับรู้ถึงมันเลย

                    “แบมขอโทษนะมาร์คฮยอง

                    “…”

                    “แต่แบมเหนื่อย...เกินกว่าที่จะฟังความเป็นห่วงมากมายของมาร์คฮยองแล้วแบมแบมผละออกมาจากมาร์คก่อนที่จะสบเข้ากับสายตาคมของคิมฮันบิน ทั้งมาร์คและแบมแบมต่างมองผู้หมวดที่ไม่รู้ว่าอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ต่างคนต่างเงียบ ไม่มีใครพูดอะไรใดๆ ทั้งสิ้น จนกระทั่งฮันบินเอ่ยปากพูด

                    แบมแบม

                    “…”

                    “ฉันมีเรื่องจะคุยด้วยร่างสูงจับข้อมือบางก่อนที่จะลากไปอีกทาง แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นผู้พันมาร์คทำท่าเหมือนไม่ไว้ใจเขา ฉันขอเวลาแปปเดียว ฉันไม่ทำอะไรแฟนนายหรอก

     

     

     

     

                    ฮันบินลากแบมแบมมาอีกทางข้างๆ ป่า ทันทีที่ผู้หมวดทำท่าเหมือนจะพูดบางอย่างแต่แบมแบมที่เดือดอยู่ก่อนก็พูดแทรกขึ้น

                    แบมไม่ได้เป็นแฟนกับมาร์คฮยอง

                    “แล้วไง? อยู่บ้านเดียวกันขนาดนั้นมันก็ไม่ต่างกันไม่ใช่เหรอ ทั้งที่นายกับไอ้มาร์คไม่ได้เป็นอะไรกันด้วยซ้ำ นายเป็นเพื่อนของยูคยอมนี่ แล้วไปอยู่กับไอ้นั่นทำไมถ้าไม่ใช่เพราะเป็นเมียมัน?”

                    “ฮยองอย่ามาพูดแบบนี้กับแบมนะ!”

                    “ฉันก็แค่พูดเฉยๆ ทำไมนายต้องร้อนตัวด้วย ฮันบินมองแบมแบมที่มองมาที่เขาเหมือนกำลังโกรธจัด ซึ่งคนตัวเล็กไม่เคยแสดงด้านนั้นให้เขาเห็นเลยสักครั้ง ทำให้ร่างสูงขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ

                    เมื่อคืนนายหายไปไหนฮันบินพูดเปิดประเด็นเมื่อเห็นว่าแบมแบมเริ่มใจเย็นลง

    กลับบ้าน

    แล้วทำไมอยู่ๆ ถึงวิ่งออกไปคนเดียว ไม่รู้รึไงว่าในป่ามันมีหมีอยู่ แบมแบมได้แต่เงียบไม่กล้าบอกอีกคนเพราะกลัวว่าฮันบินจะเป็นห่วงถ้าเขาบอกออกไปว่าร่างกายของเขาในตอนนี้ไม่ปกติเหมือนที่เคยเป็น

    แต่อย่าเข้าใจผิดล่ะว่าฉันเป็นห่วงนาย

    “…”

    ฉันแค่ถาม...ไปตามมารยาทคิมฮันบินนึกอยากด่าตัวเองที่พูดไม่คิดออกไป เขาไม่เข้าใจว่าอะไรที่ทำให้เขาต้องพูดออกไปแบบนั้น แต่มันก็คงแก้อะไรไม่ได้แล้ว

    แบมก็คิดไว้อยู่แล้วแหละ

    ก็ดี...จะไปไหนก็ไป

    แบมไปอยู่แล้วล่ะ อาจจะไปแล้วไม่กลับมาอีกเลยก็ได้

    “…”

    ฮันบินฮยองไม่ต้องห่วงหรอก แบมจะไม่อยู่ให้ฮยองรำคาญอีกแล้ว แบมแบมยิ้มบางๆ ที่มุมปากเหมือนนึกสมเพชตัวเอง นัยน์ตากลมที่มีน้ำตาคลออยู่ยิ่งตอกย้ำความรู้สึกผิดของฮันบิน แบมแบมหันหลังให้เขาก่อนที่จะเดินจากไปโดยไม่ได้รับฟังคำแก้ตัวใดๆ ของคิมฮันบิน

    คนทิฐิสูงก็ยังคงเป็นคนทิฐิสูงอยู่วันยันค่ำ

     

     

     

     

                ‘เค้าไม่ได้หวงโลกภายนอกนะ เค้าก็แค่ห่วงเรื่องความปลอดภัยของตัว

     

    เหรอ?! อยากจะรู้เหมือนกันว่าถ้าตัวมาเป็นคนที่ไม่เคยได้ออกไปเหยียบโลกภายนอก 17 ปีเต็มอย่างเค้า ตัวจะพูดแบบนี้มั้ย!

     

                ‘โลกภายนอกมันไม่ได้ดีอย่างที่ตัวคิดนะ

     

                    แบมแบมสะดุ้งตื่นขึ้นจากฝันกลางวัน ร่างบางเหลือบมองนาฬิกาที่แขวนอยู่ที่ผนังห้องปรากฎว่าเป็นเวลาเที่ยงกว่าๆ คนตัวเล็กนั่งชันเข่าอยู่บนที่นอนเมื่อนึกไปถึงฝันร้ายเมื่อครู่ มันก็ไม่เชิงฝันร้ายหรอก เหมือนกับเป็นประโยคก่อนหน้านั้นที่ทำให้เขาทะเลาะกับแจบอมแล้วหนีออกมามากกว่า

                    ...คิดถึงพี่บีจัง...

                    ตึก ตึก

                    แบมแบมได้ยินเสียงคนเหมือนคนเดินขึ้นบันไดมา ร่างบางสะดุ้งตัวโยนก่อนจะคำนึงกับตัวเอง

                    ...มาร์คฮยองเหรอ? จะเป็นไปได้ยังไงก็ในเมื่อมาร์คฮยองไปสัมนาฯ ที่เขต 1 กลับพรุ่งนี้ แล้วจะเป็นใครได้ล่ะ?! ผีเหรอ?! ไม่ๆๆ นี่มันตอนกลางวันนะ จะเป็นงั้นได้ไง...

                    แบมแบมสูดหายใจเข้าลึกๆ ทำใจกล้าก่อนที่จะเดินไปหยิบกีต้าร์ที่วางอยู่มุมห้องขึ้นถือแล้วค่อยๆ ย่องไปที่หน้าประตู หัวใจดวงเล็กเต้นตึกตักตึกตักจนแทบจะหลุดออกมาจากอก

                    แกรก

                    แบม...

                    “ย้ากกกก!!”

                    “ฮะ...เฮ้ย!! เดี๋ยวๆๆ!!!” จุนฮเวรีบยึดข้อมือของแบมแบมไว้ก่อนที่จะกระชากกีต้าร์ออกจากมือร่างบาง แบมแบมเมื่อเห็นว่าเป็นจุนฮเวก็เบิกตาขึ้นอย่างตกใจ นี่ถ้าคิดจะฮาร์ดคอร์ก็บอกกันก่อนสิจะได้หลบทัน!”

                    “จุนฮเว! ทำไมถึงเข้ามาที่บ้านมาร์คฮยองได้?!”

                    “ผู้พันของนายนั่นแหละเป็นคนสั่งให้ฉันดูแลนายจนกว่าเขาจะกลับ

                    “เหอะ! นี่ฉันเด็กขนาดนั้นเลยรึไง? โคตรเกลียดมาร์คฮยองเลย

                    ทำไมพูดแบบนั้นล่ะนายเบาหวิว นายรู้มั้ยว่าฉันไปเจอนายที่กลางป่าแล้วต้องแบกนายกลับมาบ้านไอ้ผู้พันเนี่ย เขาเป็นห่วงนายมากนะแบมแบม ถึงขนาดที่ว่าจะปิดผับเลยด้วย

                    ก็มาร์คฮยองเขาบ่นฉันนี่

                    “นั่นก็เพราะว่าเขาเป็นห่วงนายต่างหาก

                    “…”

                    “บอกฉันได้มั้ยว่าทำไมถึงไปนอนอยู่กลางป่าแบบนั้น?” จุนฮเวมองแบมแบมที่ดูเหมือนลังเลที่จะบอกเขา ร่างบางกลอกตาไปมาเหมือนนึกว่าจะบอกดีมั้ยก่อนที่จะชะงักไป

                    แบมแบมนายเป็นอะไรรึเปล่า?”

                    “ปะ...เปล่า...ฉันแค่!” แบมแบมรีบวิ่งไปที่ห้องน้ำชั้นล่างโดยที่ไม่ได้ฟังเสียงเรียกของจุนฮเวเลยแม้แต่น้อย ร่างบางรีบผลักประตูห้องน้ำออก ก่อนจะสำรอกออกมายกใหญ่แน่นอนว่าแบมแบมรู้ตัวว่าสิ่งที่เขาสำรอกออกมานั้นไม่ใช่เศษอาหารแต่เป็นเลือดเหมือนที่ผ่านๆ มา

                    แบมแบม! ทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะ?!” จุนฮเวมองเพื่อนของตนที่ทั้งไอทั้งสำรอกออกมาอย่างทรมาณ จนเลือดเต็มอ่างล้างหน้าและกระจกไปหมด

                    อย่าบอกใครนะ...ฉันขอร้องล่ะ จุนฮเว ร่างบางล้างหน้าล้างตาและบ้วนปากราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ใช่ว่าจุนฮเวจะโอเคกับท่าทางแบบนั้น

                    “แต่... ยังไม่ทันที่ร่างสูงจะได้พูดอะไรแบมแบมก็ล้มลงกับพื้นแต่ยังดีที่จุนฮเวรับคนตัวบางได้ทัน

                    นี่ไง สาเหตุที่ทำให้ฉันนอนอยู่กลางป่าตอนนั้น...

                    “อย่าเพิ่งหลับนะแบมแบม! นายอย่าเพิ่งหลับนะ!”

                    “จุนฮเว…”

                    “แบมแบม! แบมแบม!” จุนฮเวทั้งตะโกนทั้งเขย่าร่างบางอีกคนที่สลบไปแล้ว ใบหน้าเล็กซีดเซียวจนแทบไม่มีสีเลือด

                    ...แมร่งเอ๊ย! ต้องเป็นยาพิษของไอ้ดงฮยอกแน่ๆ!...

                    จุนฮเวพาแบมแบมออกจากห้องน้ำ แต่ไม่ทันที่จะได้ก้าวออกไปไหนไกล ร่างสูงกลับล้มลงกับพื้น ความรู้สึกเจ็บแปล๊บที่หัวทำให้จุนฮเวขบกรามแน่นมือหนามองเลือดของตัวเองในฝ่ามือ ก่อนจะเหลือบมองคนที่เข้ามาประทุษร้ายเขา

                    จะ...จินฮวานฮยอง

                    “ไงน้องชาย ขอโทษนะที่ใช้วิธีรุนแรงไปหน่อยนัมแทฮยอนที่ยืนอยู่ข้างกันเดินไปกระชากตัวแบมแบมออกจากมือของจุนฮเวที่กำลังกุมขมับที่มีเลือดไหลออกมาจากปากแผลด้วยความเจ็บปวด แต่มันก็ผิดที่แกเองที่ทรยศฉันไปหาไอ้สวะพักนี้

                    “...

                    “หลับให้สบายนะน้องรัก

                    “…”

                    “หวังว่าชาติหน้าเราจะได้เจอกันอีกจินฮวานหยิบมัจจุราชสีเงินออกมาจากกระเป๋ากางเกง ก่อนจะจ่อไปที่น้องชายรวมสายเลือดแล้วไกปืนทันที

                    ปัง!

     

     

     

     

                    มาร์คต้วนเดินลงจากเครื่องบินหลังจากที่นั่งมานานหลายชั่วโมง ก็ทั้งๆ ที่ประเทศอยู่ใกล้กันแค่นี้เขาก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงได้บินนานนัก ร่างโปร่งสลึมสลือเล็กน้อยก็จะรีบสลัดหัวตัวเองเพื่อเรียกสติกลับมา

                    คิมฮันบินเดินตามหลังมาร์คไปด้วยสภาพที่ไม่ต่างกัน ใบหน้าหล่อพยายามดึงสติที่หลุดลอยจากการถูกปลุกแล้วตั้งสมาธิ สายตาคมตวัดไปมองแผ่นหลังของมาร์คต้วนที่มีโพสอิทอันน้อยแปะอยู่แล้วขมวดคิ้ว

                    ...นี่มันลายมือแบมแบม...

     

                    แบมขอโทษที่ทำให้มาร์คฮยองโกรธนะ เดินทางปลอดภัยนะครับ แบมจะรอจนกว่ามาร์คฮยองจะกลับมา

     

                    คิมฮันบินดึงโพสอิทออกก่อนจะขย้ำเป็นก้อนแล้วขว้างออกไปไกลๆ โดยที่มาร์คก็ไม่ทันรู้สึกตัว ร่างสูงขมวดคิ้วแน่นอย่างหัวเสียเมื่อนึกไปถึงครั้งสุดท้ายที่เขาได้คุยกับแบมแบม

                    ทีไอ้มาร์คนายยังขอโทษเลย แล้วฉันล่ะ

                    คิมฮันบิน นั่นนายกำลังพูดอยู่กับใครร่างสูงชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองมาร์คที่ขมวดคิ้วถามเขางงๆ

                    ไม่ใช่เรื่องของนาย คิมฮันบินผลักผู้พันออกก่อนจะเดินตามประธานาธิบดีเข้าสู่สนามบิน มาร์คเหลือบมองอีกคนเล็กน้อยที่มีท่าทีแปลกๆ ก่อนที่เขาจะสะดุดตากับแคปซูลอันเล็กๆ ที่ท้ายทอยฮันบิน

                    ...เครื่องดักฟังงั้นเหรอ...

                    หมับ

                    ทำไรวะ ฮันบินสะบัดมือของมาร์คที่ท้ายทอยตัวเองออก ร่างสูงยืนจ้องอีกคน ก่อนจะละสายตามองอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กในมือมาร์ค

                    นายควรระแวงคนใกล้ตัวนายบ้างนะ คิมฮันบิน ฉันจะพูดเป็นครั้งสุดท้ายว่าคิมจินฮวานไม่ใช่แม่พระอย่างที่นายคิด

                    นายมีสิทธิอะไรมาพูดแบบนั้น

                    “ก็เพราะว่าฉันเคยคบกับจินฮวานมาก่อนไง ฉันถึงรู้ว่าหมอนั่นมันเป็นยังไง

                    “แล้วแกก็ทิ้งจินฮวานไปง่ายๆ น่ะเหรอ หึ

                    “ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมแกถึงยังจมปลักอยู่กับเรื่องเก่าๆ แบบนี้อีกบีไอ

                    “อย่ามาเรียกฉันแบบนั้น ต้วนอี้เอิน

                    “…”

                    “แล้วไอ้เด็กนั่นล่ะ ทำไมนายถึงได้เอามันไปอยู่ด้วยทั้งๆ ที่ก็ไม่ได้เป็นอะไรกันแท้ๆ แบมแบมต่างหากที่แกควรจะระแวง แกจะทิ้งมันง่ายๆ เหมือนที่ทำกับจินฮวานรึเปล่า

                    อย่ามาพูดถึงแบมแบมในทางเสียๆ หายๆ แบบนั้นนะคิมฮันบิน

                    “...

                    “และฉันก็รู้ดีกว่านายว่าแบมแบมเป็นใคร รู้ว่าเขามาจากไหน ไม่ใช่แค่รู้ข้อมูลแบบส่งๆ อย่างนาย ฉันถึงได้ดูแลเขาอย่างดีก่อนที่มันจะสายเกินไปมาร์คต้วนทิ้งท้ายไว้ก่อนจะเดินจากไป ปล่อยให้คิมฮันบินไม่เข้าใจในประโยคเล่านั้น

                    ...หมายความว่างยังไง สายเกินไปอะไรของหมอนั่น...

     

     

     

     

                    “ผมต้องขอโทษจริงๆ นะครับที่มาเลทกว่าที่บอกไว้ พอดีเกิดปัญหาระหว่างทางนิดหน่อยจองกุกขอโทษขอโพยทุกๆ คนที่มานั่งรอในห้องประชุมยกใหญ่ ถึงแม้ว่าประธานาธิบดีมิโนจะไม่ว่าอะไรแต่เจ้าชายของเขต 1 กับทำเหมือนว่ามันเป็นเรื่องใหญ่มากมาย

                    ไม่เป็นไรครับ เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า มิโนพูดขึ้นทันทีที่จองกุกนั่งลงตรงหัวโต๊ะ เจ้าชายเขต 1 ยิ้มและพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะเปิดภาพโพโรแกรมเครื่องจักรชิ้นใหม่ในด้านธุรกิจที่เคยพูดกับมิโนไว้

                    อ่า แต่ผมขอถามเกี่ยวกับบางอย่างก่อนที่จะเข้าเรื่องธุรกิจได้มั้ยครับ

                    “ได้สิครับ

                    “คือเรื่องกันต์พิมุกต์น่ะครับ ไม่ทราบว่ามีอะไรคืบหน้ารึเปล่าครับ จองกุกมองหน้าประธานาธิบดีเขต 5 ที่ผายมือไปทางมาร์ค คิมฮันบินที่นั่งตรงข้ามกับมาร์คขมวดคิ้วอย่างงงๆ ที่รู้ว่ามาร์คได้รับมอบหมายให้ทำงานด้านนี้

                    เรื่องนี้ผมให้ผู้พันมาร์คเป็นคนจัดการน่ะครับ

                    เป็นยังไงบ้างครับคุณมาร์ค พบเบาะแสอะไรบ้างรึเปล่าจองกุกมองหน้าผู้พันอย่างคาดคั้นคำตอบ ผู้พันมาร์คลากเสียงยาวในลำคอก่อนจะเอ่ยปากถาม

                    พอจะมีข้อมูลอะไรอีกมั้ยครับ นอกจากชื่อกันต์พิมุกต์ ภูวกุล เป็นผู้ชาย อายุราวๆ 17 ปี

                    “มีครับ เขามีชื่อเล่นอยู่ เขาชื่อ แบมแบม’” คิมฮันบินหัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ ผู้หมวดเบิกตาขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเหลือบไปมองมาร์คที่ทำแค่พยักหน้าเบาๆ แต่ไม่ได้พูดอะไร ใบหน้าหล่อยังคงนิ่งเฉยและไม่สะทกสะท้านกับคำตอบนั่น

                    ...หมอนี่รู้อยู่แล้วงั้นเหรอ? เมื่อไหร่กัน...

                    ผมรู้จักกับเขามาตั้งแต่เด็กๆ เขาอยู่แต่ในปราสาทมาตลอด 17 ปีเพราะไม่ได้รับอนุญาตให้ออกมาภายใต้คำสั่งของคุณแจบอม ทั้งนี้ก็เพราะห่วงความปลอดภัยของแบมแบมว่าจะโดนลอบสังหาร และผมก็ไม่ค่อยเห็นด้วยกับการตัดสินใจของคุณแจบอมแต่ก็พูดอะไรไม่ได้ สุดท้ายเขาก็ทนความกดดันไม่ไหวจนต้องหนีออกจากปราสาท จองกุกล้วงมือลงไปในกระเป๋าเสื้อสูทก่อนจะหยิบรูปสามใบขึ้นมา เป็นรูปของเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่ทั้งมาร์คและฮันบินต่างก็คุ้นหน้าเป็นอย่างดี

                    นี่เป็นรูปของเขาครับ ผมหวังว่ามันน่าจะช่วยคุณได้

                    “…”

                    “ผมจะให้คิมแทฮยองออกไปช่วยหานะครับ ยิ่งหาตัวได้เร็วมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้แบมแบมปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น ยิ่งที่เขต 5 มีกองกำลังทิฟอยู่ ผมเกรงว่าฮวงจื่อเทาจะได้ตัวแบมแบมไปก่อน เพราะถ้าเป็นแบบนั้น...แบมแบมก็อาจจะไม่รอด

                    “…”

                    “ฝากด้วยนะครับคุณมาร์ค เขาเป็นคู่หมั้นของผม มาร์คเงยหน้ามองจองกุกที่มองเขาด้วยแววตาจริงจัง บ่งบอกว่าไม่ได้โกหกในสิ่งที่พูดไป และทุกอย่างมันคือเรื่องจริง เช่นเดียวกับคิมฮันบินที่มองจองกุกเหมือนไม่เชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน

                    คิมฮันบินเหลือบมองมาร์คที่ก็แสดงสีหน้าเดียวกับตัวเองหลังจากที่ประโยคสุดท้ายได้หลุดออกมาจากปากจองกุก

                    ...ดูเหมือนว่านายก็ไม่รู้เรื่องนี้เหมือนกันสินะ ต้วนอี้เอิน...

     

    Spoil :: Chapter : 12

                คิมจินฮวานเป็นรองหัวหน้าของกองกำลังทิฟ เป็นคนที่ฆ่าไอ้ทรยศจุนฮเว และกำลังหลอกใช้ไอ้ผู้หมวดฮันบินอยู่นั่นไง

                ‘…

     

                ‘เป้าหมายของหมอนั่นไม่ใช่เพื่อทำให้กองกำลังทิฟแข็งแกร่ง

                ‘…’

                ‘แต่เพื่อบดขยี้สมบัติของราชวงศ์เขต 7 ให้แหลกและตายคามือ

                .

                .

                .

                ‘หมอนั่นถูกปลูกฝังให้เป็นโจรตั้งแต่เด็กๆ อดีตของมันเลวร้ายมากนะ โตมาก็เลยเป็นคนไม่แคร์คนอื่นแบบนี้แหละ

                ‘ทำไมพี่ถึงรู้ล่ะ?’

                ‘ฉันเคยเรียนห้องเดียวกับมัน

                ‘ที่นี่มีโรงเรียนด้วยเหรอ?’

                ‘เอ้า ถ้าไม่มี คนเมืองนี้ก็ไถนาแทนควายกันทั้งบ้านทั้งเมืองสิครับน้องแบม

                .

                .

                .

                อ๊ะ! มาร์คฮยอง!’

                ‘…’

                ‘มาร์คฮยอง แบม...

                ‘ไอ้มาร์คไปเร็ว

    O W E N TM.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×