คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : FSK : 9
9
“แน่ใจนะว่าโอเคแล้ว?”
มาร์คมองแบมแบมที่เดินล้วงกระเป๋าเสื้อคลุมสีแดง
ใบหน้าเรียวที่คลุมฮู้ดสีเดียวกับเสื้อยิ้มให้เขาแล้วตอบเสียงใส
“แบมไม่เป็นอะไรตั้งนานแล้วเหอะ
เห็นเปล่า รอยช้ำหายไปแล้ว” แบมแบมถลกแขนเสื้อคลุมขึ้น
ผิวเนียนที่เคยปรากฎรอยช้ำม่วงๆ ไม่มีอีกต่อไปแล้ว หลังจากสองอาทิตย์ผ่านไปแบมแบมก็เริ่มหายเป็นปกติภายใต้ความดูแลของมาร์ค
ใช่
มาร์คเห็นว่ามันปกติดี...
แต่เจ้าตัวที่เอาแต่ยิ้มรู้ว่ามันไม่ปกติ...
“โอ้ะ! มาร์คฮยอง! อะไรสีขาวๆ ตกลงมาอ่ะ” แบมแบมมองท้องฟ้าที่เริ่มมีหิมะตกลงมา
นัยน์ตากลมเป็นประกายวิบวับขณะที่เอื้อมมือไปแต่หิมะที่ติดอยู่ตามต้นไม้ข้างทาง
“นายไม่ใช่เด็กที่เพิ่งลืมตาดูโลกนะแบมแบม
นี่ไม่รู้จักหิมะได้ยังไง?” มาร์คส่ายหัวก่อนจะหยิบหิมะมาปั้นๆ
แล้วปาใส่ร่างบางจนอีกคนเซแทบล้ม ดีที่ผู้พันวิ่งเข้าไปประครองได้ทัน
“บรื๋อ! มาร์คฮยองทำอะไรเนี่ย
มันหนาวนะ”
“ก็เล่นขว้างสโนว์บอลไง
ไม่เคยเล่นเหรอ?”
“ไม่อ่ะ
ตอนที่อยู่บ้านฮันบินฮยองไม่เคยเล่นอะไรแบบนี้เลย
ตอนนั้นหิมะก็ยังไม่ตกลงมาแบบนี้ด้วยนี่นา” รอยยิ้มบนหน้าร่างโปร่งเริ่มจางลงไปเรื่อยๆ
หลังจากได้ยินชื่อของคนที่เขาไม่ค่อยชอบหน้าหลุดออกมาจากปากแบมแบม ไม่เคยมีวันไหนที่แบมแบมไม่พูดถึงฮันบินถึงแม้ว่าอีกคนกำลังคุยอยู่กับเขาก็ตาม
‘รามยอนอร่อยมั้ย?’
‘อร่อยฮะ
แต่แบมชอบรามยอนที่ฮันบินฮยองเคยต้มให้กินมากกว่า’
‘เตียงแข็งไปรึเปล่า
นายนอนได้ใช่มั้ย?’
‘นอนได้สิครับ
เตียงที่บ้านฮันบินฮยองแข็งกว่านี่อีก’
‘มา
เดี๋ยวฉันช่วยล้างจาน’
‘ไม่เป็นไรฮะฮยอง
แบมล้างให้ดีกว่า...ฮยองนี่ใจดีเนอะ ตอนแบมอยู่กับฮันบินฮยองนะ
ชอบให้แบมล้างให้ประจำเลย’
และทุกครั้งที่แบมแบมพูดถึงคนๆ
นั้น มาร์คต้องคอยยิ้มส่งตอบๆ ไป ไม่ก็เปลี่ยนเรื่องคุยใหม่เพื่อให้แบมแบมสบายใจและทำให้อีกคนเห็นว่าเขาก็ไม่ได้กระฟัดกระเฟียดหรือเกลียดผู้หมวดที่เคยเป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อน
ถึงแม้ว่าอยากจะกลับไปเป็นเพื่อนกันเหมือนเมื่อก่อน
แต่เหมือนคิมฮันบินจะยังเข้าใจเขาผิดอยู่
...ทั้งหมดมันก็เพราะจอมหลอกลวงอย่างหมอนั่น
คิมจินฮวาน...
“ว่าแต่...มาร์คฮยอง
ต้องเดินอีกไกลมั้ยเนี่ยกว่าจะถึง?”
“นู่น ถึงแล้ว
เห็นควันร้านขนมปังโผล่ขึ้นมารึเปล่า” มาร์คชี้ให้ดูควันที่ลอยออกมาจากปล่องไฟใกล้ๆ
บ่งบอกว่าพวกเขาเริ่มเดินเข้าใกล้กับตัวเมืองมากแล้ว
“ฟืดดด อา! แบมได้กลิ่นขนมปังด้วยอ่ะ ไปเร็วๆๆ มาร์คฮยอง!!”
“เฮ้ย!
อย่าวิ่งแบบนั้นดิเดี๋ยวก็ล้มหรอก!...แบม!...แบม! เดี๋ยวหลงนะ!” แบมแบมรีบวิ่งไปตามที่เสียงกระเพาะของตัวเองสั่งโดยที่ไม่ได้รอผู้พันที่วิ่งตามไม่ทันแม้แต่น้อย
ร่างบางเดินลึกเข้าไปในตลาดที่เริ่มมีประชากรหนาแน่น
จนกระทั่งคนตัวเล็กเดินชนกับคนในตลาด
ปึ้ก!
“โอ๊ะ! ขอโทษฮะ…อ้าว!
คุณดงฮยอก!” แบมแบมยิ้มดีใจเมื่อเจอเข้ากับคนรู้จัก
เช่นเดียวกับดงฮยอกที่ก็ยิ้มบางๆ ตอบกลับเขา คุณหมออยู่ในชุดเสื้อคลุมสีน้ำตาล
และเสื้อหลายตัวที่ใส่คลุมทับให้อุ่น มือเรียวยกขึ้นลูบหัวแบมแบม
“ไง แล้วนี่หายรึยัง? ปวดตรงไหนบ้างรึเปล่า?”
“หายแล้วฮะ
รอยช้ำก็จางไปหมดแล้ว ไม่ปวดตรงไหนแล้วด้วย”
“ดีแล้วล่ะ”
“ขอบคุณคุณดงฮยอกมากนะครับ
ไม่งั้นผมตายอยู่หลังป่านั่นแน่ๆ ส่วนเรื่องค่ารักษา...”
“ไม่ต้องจ่ายหรอก
แค่รับนี่ไว้ก็พอ” ดงฮยอกหยิบขวดยาในกระเป๋าเสื้อคลุมออกมา แบมแบมมองขวดยาสีน้ำผึ้งที่มีของเหลวสีแดงไหลไปมา
ถูกปิดอยู่ด้วยจุกไม้คอร์กและมีตัวอักษรมากมายเขียนอยู่ข้างๆ
ขวดซึ่งเขาก็อ่านไม่ออก
“อะ...อะไรเหรอครับ?”
“ยาไง ถึงนายจะหายแล้วแต่ก็ยังต้องกินยานะ
เพื่อให้แน่ใจว่านายหายจริงๆ เอายานี่ไป” ดงฮยอกยื่นยาขวดนั้นให้กับแบมแบม
ร่างบางมองยาในมือคุณหมออยู่นานก่อนที่จะยื่นมือออกไป
“ไง แบมแบม”
“อ๊ะ! จุนฮเว” แบมแบมสะดุ้งจนก้าวถอยหลังเมื่ออยู่ดีๆ
เพื่อนตัวสูงก็เข้ามายืนขวางหน้าคิมดงฮยอกไว้
จุนฮเวอยู่ในฮู้ดคลุมสีดำที่แทบจะมองไม่เห็นหน้าเห็นตา
“โอ้ย ตกใจหมดเลย”
“ฮ่าๆ โทษที แล้วนี่มากับใครล่ะ?”
“มากับมาร์คฮยองอ่ะ...อ้าว!
มาร์คฮยองหายไปไหนล่ะเนี่ย?!” แบมแบมมองไปรอบๆ ก็เจอแต่ฝูงชนเดินไปเดินมาแต่ไม่เห็นแม้กระทั่งวี่แววของผู้พันที่ตัวเองมาด้วย
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวช่วยหานะ”
จุนฮเวจับแขนแบมแบมให้เดินไปด้วยกันโดยที่ไม่สนใจดงฮยอกที่กำลังกัดฟันมองมาที่ตัวเอง
มือเรียวยาวกำขวดยาแน่นด้วยความไม่พอใจ
“ไอ้จุนฮเว…ไอ้ทรยศ”
“จุนฮเวอ่า
ไหนบอกจะช่วยแบมตามหามาร์คฮยองไง หายไปไหนของเขาเนี่ย?...”
แบมแบมบ่นถึงเพื่อนตัวสูงในใจที่ตอนแรกบอกว่าจะอาสาช่วยแบมแบมตามหาผู้พันมาร์คแต่ตัวเองก็หายแนบไปเฉย
“เฮ้ นั่นใช่น้องแบมแบมรึเปล่า?” แบมแบมมองคนที่วิ่งมาหาเขา น้ำเสียงและหน้าตาที่ไม่คุ้นเคยทำให้เขาต้องขมวดคิ้ว
“เอ่อ...คุณ...”
“ฉันเพื่อนไอ้มาร์คไง ชื่อ ‘แจ๊คสัน’
เราเคยเจอกันตอนที่ฉันไปตามมาร์คมาเรียกประชุมไง จำได้มั้ย?” แบมแบมนึกย้อนไปถึงเมื่อวันแรกๆ ตอนที่เขากำลังนั่งกอดเข่าร้องไห้ แล้วมาร์คสวมหมวกไหมพรมสีแดงให้กับเขา
ในตอนนั้นแจ๊คสันก็คือคนที่ยืนอยู่ข้างๆ มาร์คนั่นเอง
“อ๋อ ครับ พี่แจ๊คสัน”
“ไอ้มาร์คมันตามหานายอยู่นะ
ตอนนี้มันถูกประธานาธิบดีเรียกไปคุยอยู่ เดี๋ยวฉันพานายไปนั่งรอนะ” หลังจากที่แบมแบมพยักหน้า
แจ๊คสันก็พาเดินไปหน้าธรรมเนียบสีขาวหลังใหญ่ที่อยู่ใกล้กันกับตลาด
มีน้ำพุกว้างตั้งอยู่หน้าธรรมเนียบพร้อมม้านั่งยาวสี่ตัวที่ตั้งรอบน้ำพุ
“นายนั่งรอนี่นะ
อีกแปปนึงเดี๋ยวมาร์คก็ออกมา” แจ๊คสันยิ้มให้ก่อนจะโบกมือบ๊ายบายแบมแบมแล้วเดินเข้าไปในธรรมเนียบ
ร่างบางนั่งนิ่งได้ไม่ถึงนาทีก็หยิบหิมะบนพื้นมาปั้นๆ
เล่นแล้วขว้างใส่ต้นไม้แถวนั้น
“มาร์คฮยองทำอย่างนี้สินะ หึหึ
คอยดูนะถ้ามาร์คฮยองออกมานะ แบมจะขว้างใส่ไม่ยั้งเลย” แบมแบมแอบยิ้มแอบหัวเราะกับตัวเอง เพราะแถวนี้เงียบสงบ
ไม่มีใครเดินผ่านไปผ่านมา คนตัวเล็กเลยซ้อมขว้างสโนว์บอลเล่นอยู่คนเดียว
เฟี้ยว
ปึ้ก!
“อ๊ะ! ขอโทษฮะ ผมไม่ได้ตั้ง...ใจ...” แบมแบมยกมือขอโทษขอโพยคนที่เปิดประตูธรรมเนียบออกมาแล้วเขาขว้างหิมะใส่โดนใบหน้าเต็มๆ
คนถูกกระทำปัดๆ หิมะบนใบหน้าออกแต่ใบหน้าเรียวก็ยังคงนิ่งเฉย
“นี่หน้าธรรมเนียบ
นายไม่ควรมาเล่นอะไรไร้สาระแถวนี้”
“ฮะ...ฮันบินฮยองจริงๆ
เหรอเนี่ย?!” แบมแบมรีบวิ่งเข้าไปหาอีกคนก่อนที่จะกอดหมับคนตัวสูงที่ยืนนิ่งไม่ขยับ
“นะ..นี่ นาย!”
“ไม่ได้เจอฮยองกับยูคยอมตั้งสองอาทิตย์แน่ะ
อ่า คิดถึงจังเลย” แบมแบมถอนกอดออกก่อนจะยิ้มจนแก้มแทบปริ
ในขณะที่คิมฮันบินได้แต่ยิ้มบางๆ ที่มุมปาก
“อะไรกัน แบมคิมถึงฮยองแทบตาย
แต่ดูฮยองทำหน้าสิ!” ร่างบางเริ่มโวยวายเมื่อเห็นผู้หมวดทำหน้าปลาตายบอกบุญไม่รับเท่าไหร่
“ทำไม หน้าฉันมันทำไม?”
“เวลาดีใจฮยองก็ควรจะยิ้มสิ
แล้วทำไมต้องทำหน้าแบบนั้นด้วย อุตส่าห์ได้เจอกันทั้งทีฮยองก็ยิ้มบ้างไรบ้างสิโธ่”
แบมแบมจิ๊ปากแล้วกอดอกใส่อย่างงอนๆ ทำให้คิมฮันบินเผลอหัวเราะออกมาเบาๆ
“นายโอเวอร์เกินไปมากกว่า”
“งั้นฮยองยิ้มให้แบมหน่อยสิ”
แบมแบมประสานมือขอร้องแล้วจ้องร่างสูงที่ทำหน้านิ่งแล้วกระตุกยิ้มมุมปาก
“โง้ยย ไรอ่ะ ไม่เอายิ้มแบบนี้ดิ”
“เรื่องมากจริง” ฮันบินบ่นก่อนจะยิ้มกว้างจนเห็นฟัน
แบมแบมมองอีกคนก่อนจะยิ้มตาม
“ฮ่าๆ ฮันบินฮยองน่ารักจัง”
“น่ารักแล้วรักมั้ยล่ะ?”
“ห๊ะ
ฮยองพูดว่าอะไรนะ? แบมไม่ได้ยินอ่ะ” แบมแบมเลิกคิ้วขึ้นแล้วเอียงคอถามอีกคน
“บีไออ!” ทั้งฮันบินและแบมแบมหันไปมองผู้มาเยือนใหม่ที่เดินเข้ามาขนาบข้างฮันบิน
ผู้ชายตัวบางหน้าตาน่ารักถือถุงใส่ขนมปังรูปทรงฝรั่งเศสมองแบมแบมเล็กน้อยก่อนจะยิ้มบางๆ
ให้
“ออกมานานรึยังอ่ะ?
โทษนะพอดีคนมันเยอะอ่ะ กว่าจินจะไปซื้อมาได้”
“อ่า ไม่เป็นไร”
ฮันบินตอบเรียบๆ แต่กลับให้ความรู้สึกสบายๆ น้ำเสียงของเขาดูเป็นกันเองมากเมื่อพูดคุยกับคนข้างๆ
แบมแบมมองทั้งสองคนสลับกันไปมาอย่างงงๆ
...คนนี้ใครอ่ะ? เรียกฮันบินฮยองว่าบีไอด้วย...
“ฮันบินฮยองคิดถึงแบมใช่มั้ยล่ะ ให้แบมไปนอนด้วยมั้ย
แบมคิดถึงยูคกับฮยองมากเลยนะ”
แบมแบมยังคงทำเป็นไม่สนใจอีกคนที่เดินมายืนข้างฮันบินเพราะเขาไม่รู้จัก
ร่างบางยังคงพูดต่อไปตามปกติ
“...” คิมฮันบินเงียบนิ่งแล้วมองหน้าแบมแบม ร่างสูงยืนนิ่งเหมือนคิดอะไรไม่ออก
ในขณะที่จินฮวานยื่นมือข้างซ้ายมาคล้องแขนของเขา และมองหน้าเขาเหมือนถามว่า ‘นี่เกิดอะไรขึ้น’
“ฮยอง?”
“เสียใจนะแบมแบม”
“…?”
“แต่ที่ตรงนั้น มันไม่ใช่ของนายอีกต่อไปแล้ว” แบมแบมรู้สึกเหมือนหัวใจหยุดเต้น
ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจว่าที่คิมฮันบินพูดหมายถึงอะไร แต่เขากลับรู้สึกว่าขอบตาทั้งสองข้างนั้นร้อนผ่าวทั้งๆ
ที่อากาศก็หนาวจนจะแข็งตายอยู่แล้ว
“แบม ขอโทษนะที่ให้รอ” มาร์คเดินมายืนข้างแบมแบม
ร่างโปร่งยืนมองอยู่พักใหญ่แล้วตั้งแต่ที่จินฮวานเดินเข้ามา
“มะ…มาร์คฮยอง” เมื่อเห็นว่าเสียงของอีกคนเริ่มสั่น มาร์คก็รีบพูดแทรกขึ้น
“ฉันบอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าวิ่งนำหน้าไปก่อน
เห็นมั้ยล่ะ สุดท้ายก็หลง”
“บะ...แบมขอโทษฮะ” มาร์คยื่นมือไปจับมืออีกคน
นิ้วเรียวยาวสอดเข้ากับมือบาง ก่อนที่มาร์คจะพูดเหมือนมองไม่เห็นฮันบินกับจินฮวานตรงนั้น
“นี่ก็เที่ยงแล้ว เรากลับไปกินข้าวที่บ้านกันเถอะนะ
นายหิวไม่ใช่เหรอ”
“ครับ”
“เสร็จแล้วก็ไปเล่นกีต้าร์กันต่อ
โอเคมั้ย?”
“อ่าใช่! จริงด้วย! มาร์คฮยองต้องสอนแบมเล่นเพลง not a bad thing ของ justin timberlake
ตามสัญญานะ” มาร์คยิ้มเมื่อเห็นแบมแบมกลับมายิ้มอีกครั้ง ร่างโปร่งยื่นนิ้วก้อยไปคล้องกับนิ้วก้อยของแบมแบมที่ยื่นมาให้เขา
“ดูสนิทกันดีนะ ไม่เหมือนตอนที่นายอยู่กับฉัน…”
มาร์คหันมองจินฮวานที่พูดขึ้นมาหลังจากที่เงียบอยู่นาน มาร์คยิ้มน้อยๆ
ก่อนจะเหลือบสายตามองฮันบินที่มองมือเขากับแบมแบมที่จับกันอยู่
“แน่นอนสิ”
“…”
“ก็แบมแบมเป็นคนสำคัญของฉันนี่” มาร์คพูดแค่นั้นก่อนจะจับมือแบมแบมที่ทั้งงงและใจเต้นไปในเวลาเดียวกันให้เดินตาม
ร่างบางเดินตามมาร์ค ไปโดยที่ก็ไม่ได้พูดอะไร
ฮันบินมองทั้งสองคนที่เดินไกลออกไป
นัยน์ตาคมมองมือของผู้พันมาร์คและแบมแบมที่จับกันอยู่แน่น
‘เฮ้ย! เล่นไรมึงเนี่ย?’
‘ฮ่าๆ
อะไรวะ กูแค่สะกิดมึงเองนะไอ้มาร์ค ตกใจไรมึง’
‘กูไม่ชอบให้ใครมาแตะตัวกู
กูก็เคยบอกมึงอยู่’
‘โหะ
หวงเนื้อหวงตัวอย่างกับผู้หญิงเลยนะมึง เป็น OCD ไง? หรือเก็บไว้ให้แฟนคนเดียว’
‘ถ้ามีแฟน
กูยังชั่งใจเลยว่าจะให้จับมือดีรึเปล่า’
“บีไอ…บีไอ
เป็นอะไรเหรอ?”
จินฮวานดึงแขนเสื้อของคิมฮันบินจนอีกคนได้สติแล้วหันมามอง
ร่างสูงเปิดปากถามจินฮวานเบาๆ
“จิน…ตอนที่จินคบกับไอ้มาร์ค
เคยจับมือด้วยกันรึเปล่า”
“ห๊ะ? กะ...ก็ไม่นี่
มาร์คหวงเนื้อหวงตัวจะตายไป นายก็รู้ไม่ใช่เหรอ” จินฮวานตอบก่อนที่บรรยากาศจะเงียบลงถนัดตา
ไม่มีเสียงจากทั้งสองคนที่ยืนนิ่ง ทั้งฮันบินและจินฮวานต่างปล่อยให้ความคิดของตัวเองแล่นไปเรื่อยๆ
‘แน่นอนสิ’
‘…’
‘ก็แบมแบมเป็นคนสำคัญของฉันนี่’
คิมฮันบินมองตรงไปข้างหน้าที่ตอนนี้ไม่เห็นแผ่นหลังของแบมแบมกับมาร์คแล้ว
ร่างสูงเหม่อมองออกไปอย่างไร้จุดหมาย ในหัวยังคงนึกถึงรอยยิ้มของแบมแบมตอนที่ยืนคุยกับมาร์คตรงหน้าเขา
แบมแบมที่ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข...
รอยยิ้มที่เขาคิดถึงมานานแสนนานในตอนนี้กลับกลายเป็นของคนอื่น
ไม่ใช่เขาที่ควรจะได้รับอีกต่อไป
...หันกลับมาไม่ได้เหรอ
แบมแบม...
...นายไม่เห็นเหรอ
ฉันกำลังร้องไห้อยู่นะ...
“มาร์คฮยองรู้มั้ยว่าในห้องของฮันบินฮยองมีกีต้าร์ด้วยแหละ” แบมแบมพูดขึ้นมาหลังจากที่กินข้าวในห้องครัวเสร็จพร้อมกับบทเพลง not
a bad thing ของ justin timberlake เล่นจบโดยฝีมือของมาร์ค ร่างโปร่งชะงักเล็กน้อยก่อนที่จะยิ้มบางๆ โดยที่แบมแบมยังคงพูดต่อ
“แล้วห้องของฮันบินฮยองก็แคบมากด้วย
มีโต๊ะฝุ่นเครอะๆ ตัวนึง โซฟาขาดๆ เตียงแข็งๆ แบมไปนอนมาแล้วแหละ
ตื่นมานี่ปวดหลังทุกทีเลย”
“…”
“แล้วก็นะ
ฮันบินฮยองน่ะ…”
“หยุดพูดถึงมันสักทีได้มั้ย?!” มาร์คตะโกนขึ้นมาจนแบมแบมสะดุ้งตกใจ
ร่างโปร่งที่เลือดขึ้นหน้าเพราะอารมณ์คุกรุ่นในใจกัดฟันแล้วกำมือตัวเองแน่น
“อะไรก็ฮันบินๆๆๆ ในหัวนายมีแต่คิมฮันบินรึไง!
หมอนั่นมันทำอะไรให้นายถึงได้คิดถึงมันตลอด 24 ชั่วโมงแบบนี้!
นายเป็นอะไรกับมันเหรอ?! ชอบมันมากรึไงห๊ะ?!
ไอ้คิมฮันบินนี่มันมีอะไรดีงั้นเหรอ?!!”
“…”
“มีอะไรกันแล้วรึไงถึงได้เข้าห้องมันได้น่ะ?!!”
แบมแบมมือไม้สั่นไปหมดเมื่อเห็นอีกคนฟิวส์ขาด ร่างบางนั่งนิ่งแต่ไม่ได้ร้องไห้
เขาตกใจกลัวมากกว่าที่จะลุกเดินไปไหนได้
มาร์คหอบหายใจแรงก่อนจะค่อยๆ
ผ่อนคลายลงแล้วตั้งสติ ร่างโปร่งก้มหน้าลงแล้วถอนหายใจเมื่อรู้ตัวดีว่าได้พูดอะไรออกไปบ้าง
เขาไม่กล้ามองหน้าแบมแบมเพราะกลัวว่าอีกคนจะร้องไห้ เขาไม่กล้าเดินเข้าไปหาแบมแบม
เพราะกลัวว่าแบมแบมจะกระเถิบถอยหนีเขา
“วันนี้ฉันเหนื่อยมากจริงๆ ขอตัวนะ” ผู้พันมาร์คหันหลังแล้วเตรียมเดินกลับห้อง แต่เขากลับต้องชะงักแล้วแปลกใจซะเอง
เมื่ออยู่ๆ ร่างบางที่นั่งอยู่ริมหน้าต่างเมื่อครู่กระโจนเข้ากอดเขาจากทางด้านหลัง
หมับ!
“ไม่เป็นไรฮะมาร์คฮยอง...ถ้ามาร์คฮยองไม่ชอบ
แบมจะไม่พูดถึงก็ได้”
“แบมแบม...”
“ต่อไปนี้เวลาที่อยู่กับมาร์คฮยอง
แบมจะไม่พูดถึงฮันบินฮยองอีกแล้ว เพราะงั้นอย่าโกรธแบมเลยนะ”
“นายต้องโกรธฉันไม่ใช่เหรอ
ที่ขึ้นเสียงใส่แบบไม่มีเหตุผล”
“ทำไมจะไม่มีเหตุผลล่ะ”
“…”
“มาร์คฮยองมีเหตุผลของมาร์คฮยองอยู่แล้ว
เป็นเหตุผลที่มาร์คฮยองก็รู้อยู่แก่ใจว่าทำไมถึงไม่ชอบฮันบินฮยอง แบมจะไม่ถามว่าเพราะอะไรฮยองถึงได้เกลียดฮันบินฮยอง
จนกว่าฮยองพร้อมที่จะบอกแบมนะ” มาร์คแกะมือของแบมแบมออกก่อนจะหันไปหาร่างบางที่ยืนยิ้มให้เขา
รอยยิ้ม...ที่ยิ้มให้กับเขา
ไม่ใช่คิมฮันบิน
ร่างโปร่งกอดอีกคนแน่นแล้วลูบหัวเบาๆ
มาร์คได้ยินเสียงหัวใจของอีกคนเต้น รวมไปถึงเสียงของหัวใจตัวเองด้วยเช่นกัน
“ขอบใจนะแบมแบม”
แบมแบมพยักหน้าในขณะที่อยู่ในอ้อมกอดของมาร์ค
เนิ่นนานแต่ก็ไม่มีใครปล่อยอ้อมกอดนั่น
...ฉันอยากให้เป็นแบบนี้ไปอีกนานๆ...
...นายได้ยินเสียงหัวใจของฉันรึยัง
แบมแบม...
[Spoil] : Chapter : 10
‘มาร์คฮยองนี่มีพรสวรรค์เนอะ เก่งไปหมดทุกด้านเลย’
‘นายก็ชอบอวยฉันตลอดเลย
เป็นอะไรเนี่ยห๊ะ?’
‘ก็เป็นแฟนของมาร์คฮยองไง’
‘ห๊ะ?!!’
.
.
.
‘ถึงนายจะไม่รู้จักฉัน
แต่ฉันก็รู้จักนายนะกันต์พิมุกต์’
‘พะ...พี่จินฮวานทำไมถึงรู้ว่า...’
‘ก็เพราะแกแย่งจองกุกไปจากฉันไง!
ไอ้หน้าด้าน!’
.
.
.
‘ฮะ...ฮันบินฮยอง
แบม...เวียนหัวจัง’
‘แบมแบม’
‘…อืม’
‘ฉันจูบนายได้มั้ย'
ความคิดเห็น