กางร่มให้กับหัวใจตัวเอง
ตอนที่ยังเป็นเด็กตัวเล็กๆๆนั้น
ไม่ว่าคัยก็ต้องชอบที่จะเล่นนำฝน
พอฝนตก เรามักจะวิ่งออกจากบ้านอย่างไม่สนใจที่จะกางร่ม
และจงใจฟังผ่านคำเตือนของแม่เรื่องการเป็นหวัด
ยังจำได้ใช่ไหม?
ความเย็นฉำของเม็ดฝนเมื่อครั้งนั้น
แล้ว
ความรักครั้งแรก ล่ะ
เธอก็ยังจำความอ่อนหวานของมันได้ใช่หรือเปล่า?
ตอนที่เรามีความรักครั้งแรก
ที่เรามีความสุขมากไม่แพ้ตอนที่ยังเป็นเด็กแล้วจะได้วิ่งตากฝน
เราไม่กลัวเปียก เราไม่กลัวเจ็บปวด
รักอย่างไม่กลัวเจ็บ <--อะไรที่จะเต็มที่กว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
แต่ความรักครั้งแรกมักจบตรงที่หัวใจเป็นไข้หวัดใหญ่
เรานอนซม จนนำตา เราเริ่มกลัวที่จะมีความรักครั้งต่อไป
เมื่อเติบโตขึ้น
จึงไม่แปลกที่เราจะไม่กล้าเดินออกจากบ้าน แค่เพียงเห็นฝนตั้งเค้า
ไม่ผิด ที่ใครจะควรทะแบบนี้
เพราะคนที่เคยเป็นหวัด ย่อมกลัวเม็ดฝน
แต่ชีวิตยังต้องมี"พรุ่งนี้"อีกหลายวัน
จะมีประโยชน์อะไรที่เธอจะกักขังตัวเองอยู่แต่ในบ้านที่มีหลังคาคุ้มฝน
แล้วปิดโอกาสตัวเองที่จะได้มองเห็นต้นไม้ที่ยืนต้นสดชื่นอยู่นอกบ้าน
ขะมีประโยชน์อะไรที่เธอกักขังหัวใจ
ให้หายใจอยู่แค่ภานในอาณาเขตความทรงจำร้ายๆ ของความรักครั้งที่พ้นผ่านไปแล้ว
ออกไปจากบ้านเถอะ แม้ฝนจะตกอยู๋
ออกไปมีความสุขกับนำฝนเหมือนตอนที่เธอยังเด็กๆ
แต่ถ้ารู้ว่าตัวเองภูมิต้านทานตำ ง่ายต่อการเป็นหวัด ก็ถือร่มไปด้วย
เปิดใจ แล้วลองมีความรักอีกครั้ง
รู้ไหม? หัวใจก็เหมือนกับอวัยวะอื่นๆ
ถ้าเราไม่ใช้รักใคร สักวันมันก็จะตายด้าน
ไม่ต้องกลัวหรอก ก็แค่อกหัก ถ้าปวดร้าวอีกครั้ง ก็แค่ร้องไห้
แต่ชีวิตของคนหนึ้งคนนั้น จะไม่เจอกับรักที่สมหวังสักครั้งเลยหรือ?
จงมีตวามหวังอยู่เสมอ.........
ว่ารักครั้งต่อไปจะนำพารอยิ้มมาให้เรา
แล้วความหวังนั้นจะเป็นจริงในไม่ช้า
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น