คู่มือเทพปกรณัมญี่ปุ่น - Japanese mythology

ลำดับตอนที่ #20 : กันนอน-Kannon เทพแห่งความเมตตา

กันนอน,คันนอน หรือ เทพเจ้าแห่งความเมตตา แท้จริงแล้วคือคำที่ชาวญี่ปุ่นใช้เรียกเจ้าแม่กวนอิมนั่นเองครับ แต่ในรูปแบบของญี่ปุ่นนี้ ท่านมีสถานะหลักๆเป็นเทพครับ แต่บางครั้งก็มีการยกให้เป็นเทพีเช่นกัน รูปแบบของเจ้าแม่กวนอิมหรือกันนอนในญี่ปุ่นนั้นมักปรากฏเป็นรูปเทพหรือเทวีที่มีมือถึงพันมือเลยทีเดียว หรือชื่อที่คุ้นหูกันก็คือ "คันนอนพันกร" หรือ "เซนจูคันนอน" ครับ โดยปางคันนอนพันกรนี้ถือเป็นปางผู้คุ้มครองของคนที่เกิดในปีนักษัตรชวดด้วย

เทพกันนอนถือเป็นหนึ่งในเทพเจ้าหลักของชาวญี่ปุน และนิยมบูชาอย่างแพร่หลาย มีการสักการะบูชามาตั้งแต่สมัยโบราณ แต่เริ่มเป็นที่นิยมขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 6 ไม่นานหลังจากที่ศาสนาพุทธมาถึงญี่ปุ่นโดยผ่านทางเกาหลีและจีน

 ตามความเชื่อของคติชินโตมีการกล่าวว่าเทพกันนอนคือสหายสนิทของเทพีอามาเทราสึ เป็นเทพผู้มีความเมตตาต่อมนุษย์มาก มักให้ความช่วยเหลือมนุษย์อยู่บ่อยครั้ง รวมยังเป็นผู้ชี้นำช่วยเหลือแก่สิ่งต้องทนทุกข์ในมิติอื่นๆ ทั้ง 6 มิติอีกด้วย  บางครั้งบทบาทของเทพกันนอนจะปรากฏในรูปของผู้ปกครองดินแดนสุขาวดี 

เชื่อกันว่าวันที่ 18 ของทุกเดือนถือว่าเป็นวันศักดิ์สิทธิ์ประจำของเทพกันนอน โดยเรียกวันนี้ว่า "วันเอ็นนิชิ-Ennishi (縁日)" ซึ่งหมายถึง "วันแห่งความสัมพันธ์" หรือ "วันแห่งการเชื่อมต่อ" โดยถือว่าเป็นวันศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมีความสำคัญเป็นพิเศษต่อพระพุทธเจ้าหรือพระโพธิสัตว์ การกล่าวคำสวดอ้อนวอนหรือขอพรต่อเทพเจ้าในวันนี้เชื่อว่าจะทำให้จะทำให้ขอแล้วสมหวังมากกว่าวันปกติและถือว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มาก 

และเมื่อไม่นานมานี้(ประมาณหลังสงครามโลกครั้งที่ 2) ก็ได้มีการสร้างประติมากรรมเทพกันนอนขึ้นเพื่อสวดอ้อนและเป็นสื่อสัญลักษณ์สันติภาพของโลกและเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารผ่านศึก โดบเฉพาะผู้ที่ตายในสนามรบ ต่อมาชื่อของเทพกันนอนก็ยังเป็นที่มาของของแบรนด์กล้องชื่อดังอย่าง Canon อีกด้วย

เซนจูพันกร จาก นารูโตะ ตำนานวายุสลาตัน

*เกร็ดความรู้เพิ่มเติม

วัดมะมะ คันนอน-Mama Kannon Temple

วัดมะมะ คันนอน หรืออีกชื่อคือวัดริวอุอนจิ-Ryuuon-ji เป็นวัดที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของภูเขาโคมากิ-Komaki ของจังหวัดไอจิ-Aichi หรือรู้จักกันในชื่อ “วัดแห่งเต้านม-Breast Temple” นับว่าเป็นหนึ่งในศาลเจ้าคันนอนแห่งโอวาริ-Kannon Shrines of Owari บูชาต่อเทพคันนอนหรือกันนอน วัดแห่งนี้เป็นที่นิยมสำหรับคุณแม่ทั้งที่กำลังท้องอยู่หรือแม้กระทั่งคลอดแล้ว มักจะมาอธิษฐานขอพรเพื่อให้ลูกในท้องเจริญเติบโตได้ดี คลอดได้อย่างปลอดภัย และเด็กออกมาแข็งแรง โดยจะมีสัญลักษณ์รูปเต้านมตั้งอยู่ภายในบริเวณวัด จนถือว่าเป็นวัดเล็กๆที่มีเอกลักษณ์ที่แปลกแตกต่างมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นเลยทีเดียว

วัดแห่งแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1492 ตามตำนานเล่าว่าเดิมทีที่นี่เป็นเพียงศาลเจ้าธรรมดาๆ จนถึงปี ค.ศ. 1665 มีหญิงชาวบ้านฐานะยากจนอยู่คนหนึ่ง ด้วยความยากจนทำให้อาหารการกินไม่ดีอดๆอยากๆจนไม่มีน้ำนมให้ลูกได้ดื่มกิน เพื่อนบ้านรอบข้างเกิดความสงสารจึงได้เอาข้าวและอาหารต่างๆแบ่งให้เธอได้กิน แต่ด้วยความศรัทธาอย่างแรงกล้าทำให้เธอนำเอาอาหารเหล่านั้นไปถวายแด่ศาลแห่งนี้และได้ทำการอธิษฐานแด่เจ้าแม่กวนอิมอันประดิษฐานที่วัดแห่งนี้ให้มีน้ำนมพอให้ลูกได้กิน หลังจากนั้นจึงเกิดปาฏิหาริย์นมน้ำของเธอออกมาไม่ขาดสายและลูกก็แข็งแรงสมบูรณ์ทุกประการ  ภายหลังเกิดเป็นความศรัทธาในวัดนี้อย่างแพร่หลายที่เชื่อว่าหากอธิษฐานขอพระที่วัดนี้จะทำให้การคลอดปลอดภัย ลูกเลี้ยงง่าย และแข็งแรงสุขภาพดี

วัดมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก หากก็มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามแบบเรียบง่ายพาให้ใจสงบ ภายในบริเวณวัดจะเต็มไปด้วยวัตถุรูปเต้านม ไม่ว่าจะเป็นกระถางธูป อ่างน้ำศักดิ์สิทธิ์ เครื่องราง ของที่ละลึก รูปแกะสลัก รวมไปถึงตัวป้ายไม้ที่ใช้เขียนคำอธิษฐานก็ยังมีรูปทรงเป็นเต้านม ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งมารดาที่เป็นยอมรับ คนต่างชาติที่เข้ามาเยี่ยมเยือนอาจรู้สึกแปลกตาอยู่บ้าง แต่จริงๆแล้วไม่ได้สื่อไปทางอนาจารแต่อย่างใด โดยจะมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมขนาดไม่ใหญ่มากแต่จะแตกต่างจากที่เห็นทั่วไปอยู่บ้าง ตรงจะเป็นเจ้าแม่กวนอิมอุ้มเด็กทารกในลักษณะเหมือนให้นมบุตร

หากคุณกำลังจะเป็นคุณแม่หรือมีลูกแล้วนั้น ลองมาขอพรที่วัดมะมะ คันนอนดูซักทีก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย แม้กระทั่งคนที่ต้องการเที่ยวชมวัดแปลกๆที่มีสัญลักษณ์เป็นเต้านมที่ชมไม่ได้จากที่อื่น อีกทั้งยังมีของที่ระลึกน่ารักๆรูปเต้านมกลับไปเป็นตัวแทนแห่งความทรงจำ วัดแห่งนี้จึงนับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ควรค่ากับการมาเยือนไม่น้อย

การเดินทาง

- จากสถานีรถไฟโคมะกิ (Komaki Station) ไปขึ้นรถบัสโคมะกิ จุนกาอิ (Komaki Junkai) ที่บริเวณสถานีขนส่งที่ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกลงที่ป้าย Mama-Honmachi (間々本町) แล้วเดินต่อไปทางทิศตะวันตกใช้เวลาประมาณ 1 นาที หรือนั่งรถบัส Express Bus Tokadai Line Bus จากนั้นลงที่ป้าย Mama-Chichi-Kannonmae (間々乳観音前) และเดินต่อไปทางทิศเหนือ ใช้เวลาเดินประมาณ 6 นาที

- การเดินทางด้วยรถยนต์ เมื่อไปทางทิศใต้จากทาง Komaki IC ขึ้นทางด่วน Meishin sinvsin หรือ ทางด่วน Tomei

ที่มาข้อมูลความรู้เพิ่มเติม

- https://www.talonjapan.com/mama-kannon-temple/

- https://www.sanook.com/game/953005/

B
E
R
L
I
N
❀