คู่มือตำนานเทพเจ้ากรีก-โรมัน

ลำดับตอนที่ #56 : แอมฟีไทรท์-Amphitrite เทพีแห่งท้องทะเล

แอมฟีไทรท์  ชายาเอกของสมุทรเทพโพไซดอน พระนางเป็นเทพีแห่งท้องทะเล และมีศักดิ์เป็น "ราชินีแห่งท้องทะเล" และเป็นสัญลักษณ์แห่งทะเล  ส่วนตำนานเทพโรมัน เทพีองค์นี้รู้จักกันในนาม "ซาลาเซีย-Salacia เทพีแห่งน้ำเค็ม(น้ำทะเล)"  

ตามตำนานพระนางแอมฟีไทรท์เป็นธิดาของปฐมเทพเนเรอัส-ผู้เฒ่าแห่งท้องทะเล และนางพรายน้ำดอริส-Doris ซึ่งพระนางแอมฟีไทรท์เองก็ถือว่าเป็นพรายน้ำด้วย (พรายน้ำที่เป็นเทพเจ้าอะครับ)  

ยังเล่ากันต่อว่าหลังจากพระนางกลายมาเป็นชายาของเทพโพไซดอน พระนางก็ให้กำเนิดทั้งเทพและสัตว์น้ำมากมาย เช่น เทพไตรตัน ถ้าเป็นพวกสัตว์ก็เช่น แมวน้ำ  สำหรับชาวกรีกโบราณแล้วพระนางเป็นมารดาแห่งสัตว์ในท้องทะเลทั้งหมด จะเรียกว่าเป็น "พระมารดาแห่งทะเล" ก็คงไม่ผิดนัก

ภาพชัยชนะของแอมฟีไทรท์ ภาพโดย ชาร์ลส์ - Charles-Joseph Natoire

มีตำนานเล่าว่าครั้งหนึ่ง เทพีแอมฟีไทรท์เกิดเบื่อหน่ายองค์สมุทรเทพเข้าจึงได้ทำการแอบหนีออกจากวังใต้บาดาล โพไซดอนที่กำลังคลุกคลีอยู่กับงานและเหล่าผู้มาพบปะ ก็ไม่ทันได้สังเกตุว่าเมียของตนหนีไปแล้ว

ว่ากันว่าพระนางแอมฟีไทรท์นั้นได้หนีไปสุดขอบทะเลเลย และวิงวอนขอเหล่าเนเรอิด-Nereid ซึ่งเป็นพรายน้ำหาที่กบดานให้ ซึ่งเหล่าพรายนางก็รีบจัดให้ตามคำขอ โดยพานางไปพักใกล้ๆเทือกเขาแอตลาสซึ่งเป็นที่จุดที่ห่างไกลทางตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

ฝ่ายเทพโพไซดอน เมื่อพบว่าชายาตนหายไปก็รีบออกตามหา โดยพักงานของตนไว้ช่วยคราว รวบรวมกำลังเท่าที่พระองค์จะหาได้ ออกเดินทางเป็นคณะ เพื่อตามชายาของตนโดยเฉพาะ

โพไซดอนและแอมฟีไทร์ ราชาและราชินีแห่งท้องทะเล

แต่ทว่าออกตามหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอเสียที แถมงานที่พักไว้ก็มิใช่น้อยๆ(ต้องรีบปั่นต่อ) พระองค์จึงเนรมิตสิ่งมีชีวิตทางทะเลๆต่าง และหนึ่งในนั้นคือโลมาพูดได้ ให้ออกมาตามหาพระนางแอมฟีไทรท์ช่วยกัน 

โลมาตัวนั้น (ตัวที่พูดได้) ก็เป็นฝ่ายเจอองค์เทพีก่อนใคร  เจ้าโลมา เริ่มพูดคุยกับองค์เทพี แต่ไปในเชิงคลายความเครียดมากกว่า เจ้าโลมาไม่ได้แม้แต่จะพยายามโน้มน้าวเร่งรีบให้กลับไป มีแต่เล่าถึงความดีงามของทั้งโพไซดอนและพระนางเองอย่างตรงไปตรงมา 

และเมื่อมาถึงจุดจุดหนึ่งพระนางเริ่มรู้สึกว่าตนนั้นเป็นฝ่ายผิดจึงสำนึกและให้เจ้าโลมาพากลับไปหาโพไซดอน เมื่อเจ้าสมุทรเห็นว่าชายาตนกลับมาแล้วก็ดีใจเป็นอย่างมาก และยกความดีความชอบให้โลมาตัวนั้น เมื่อมันตาย พระองค์ก็ทรงเอามันไปประดับบนฟ้า กลายเป็นกลุ่มดาวโลมา และเทพโพไซดอนและเทพีแอมฟีไทรท์ก็ครองรักกันอย่างมีความสุขเรื่อยมา 

รูปปั้นเทพีแอมฟีไทรท์ ที่พุชกิ้นวิลเลจ สวนพระราชวังแคทเทอลีน เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย.