ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คู่มือปีศาจและศาสตร์มืด

    ลำดับตอนที่ #2 : ลิลิธ-Lilith

    • อัปเดตล่าสุด 27 ก.พ. 64








    ลิลิธคือราชินีแห่งปีศาจ หรือเรียกอีกอย่างว่า ราชินีแห่งรัตติกาล มีการกล่าวกันว่า แรกเริ่มเดิมทีพระเจ้าได้สร้างลิลิธขึ้นมาจากโคลนและให้เป็นภรรยาคนแรกของอดัม (ซึ่งไม่ปรากฏเนื้อหาเกี่ยวกับเธอในพระคัมภีร์ไบเบิลฉบับ พันธสัญญาเดิมของชาวยิวมากนัก พบว่ามีชื่อเธอปรากฏอยู่แค่ครั้งเดียวใน พระธรรมอิสยาห์ บทที่ 34 ข้อที่ 14 แต่กลับพบชื่อและเรื่องราวของเธออยู่มากมายในคัมภีร์อรรถกถาทัลมุดแทน ทั้งจากในบท Erubin 18b และ Erubin 100b และ Nidda 24b และ Shab. 151b และ Baba Bathra 73a–b


    แต่ด้วยความที่ว่าลิลิธมีความชั่วช้าอำมหิตแต่กำเนิด เธอถือว่าตนเองมีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกับอดัมและเรียกร้องความเสมอภาคเท่าเทียมกับเขา เธอจึงไม่ยอมสนองความต้องการและไม่ใต้อยู่ภายใต้คำสั่งของอาดัม ซึ่งเธอรู้สึกว่าเขาเป็นคนเกรี้ยวกราดและชอบใช้อำนาจ ลิลิธจึงปฏิเสธพร้อมทั้งสาปแช่งอาดัมและในที่สุดเธอก็หนีจากอดัมและไปเป็นชายาของซาตานแทน  


    หลังจากที่ลิลิธหนีจากอดัมไป อดัมก็เที่ยวเสาะหาลิลิธไปทั่ว จนในที่สุดพระเจ้าก็เห็นใจอดัมเลยแซะเอาซี่โคลงของอดัมออกมาและสร้างเป็นอีฟเพื่อให้ได้ใช้ชีวิตคู่กัน 



    รูปปั้นยุคบาบิโลเนียน ซึ่งหลายคนระบุว่าเป็นลิลิธ แต่ในขณะเดียวกันมีการระบุว่าเป็นเทพีอิชตาร


    ลิลิธเป็นหญิงที่มีความงามที่ค่อนข้างจะออกไปทางน่ากลัวอย่างไม่สร่างซา ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าเธออายุเท่าไหร่ เนื่องจากกาลเวลาไม่สามารถสร้างรอยตำหนิให้แก่เธอได้...  


     ข้อด้อยเพียงอย่างเดียวของเธอก็คือ ในบางเวลาท่อนขาอันเรียวงามของลิลิธจะเต็มไปด้วยขนอันยุ่บยั่บขึ้นจนมองไม่เห็นผิวเนื้อ ซึ่งเธอถือเป็นเรื่องน่าอับอายที่สุดในชีวิต 


    ถ้าหากชายใดพบความลับของเธอเข้าล่ะก็ เห็นทีจะสายเกินไปที่จะมีชีวิตอยู่เอาความลับนี้ไปเปิดเผย บางทีก็เชื่อกันว่า ลิลิธเกลียดเด็กๆมาก เนื่องจากว่าลูกๆของเธอล้วนแล้วแต่จะน่าเกลียด น่าขยะแขยง 


    ดังนั้นเมื่อสบโอกาส หล่อนจะทำลายเด็กทุกคนที่พานพบ หรือไม่ก็ชักจูงให้เด็กๆพากันทำอะไรต่างๆนาๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่วิปริตวิตถารทั้งสิ้น...  


    และยังเชื่อกันว่า ลิลิธนี่แหละ คือ ต้นตระกูลแห่งแวมไพร์ขนานแท้ที่สืบเนื่องกันมานานหลายศตวรรษ โดยติดต่อกันผ่านทางสายเลือด หล่อนสามารถหายตัวผ่านสิ่งกีดขวางทุกชนิด และไปปรากฏตัวยังอีกด้านหนึ่งได้เพื่อที่จะไปดูดเลือดเหยื่อ หรือไม่ก็สมสู่ล่อลวงผู้ชาย 


    ผู้ชายที่สมสู่กับเธอในความฝัน เมื่อตื่นมาจะรู้สึกอ่อนเปลี้ยเพลียแรง ราวกับว่าถูกผีดูดเลือดสูบเลือดออกไปจากตัวจนเหือดแห้ง นอกจากพฤติกรรมชอบลักหลับผู้ชายแล้ว นิสัยของลิลิธที่คล้ายกับคนในยุคปัจจุบันคือ ถ้ำมอง 


    หล่อนชอบหายตัวเข้าไปลอบดูสามีภรรยาเขาร่วมรักกัน และคอยขโมยน้ำเชื้อผู้ชายเพื่อนำไปสร้างเป็นอสุรกายตัวใหม่ ให้เป็นข้ารับใช้ของเธอ 


    สำหรับสุภาพบุรุษท่านใด ที่กลัวลิลิธจะย่องเข้าหายามหลับ ควรใช้วิธีป้องกันง่ายๆ โดยเขียนข้อความไว้หน้าประตูห้องนอนว่า "อาดัมกับอีฟเข้ามาในนี้ได้ แต่ราชินีลิลิธห้ามเข้า" เท่านี้ก็เรียบร้อย



    ลิลิธ (1892) ปรากฏในภาพวาดของ จอห์น คอลลีเออร์


    ลิลิธคงจะเป็นตำนานอันเก่าแก่เกินไปของบรรดาชาวยิว และคริสเตียน ในขณะที่เรื่องราวของเธอปรากฏมากมายและโดดเด่น ตลอดระยะเวลาในตำนานโบราณหลากหลายฉบับ เช่น ในความเชื่อของอารยธรรมซูมาเรียน และบาบิโลเนียน ราว 3,500 ปีก่อนคริสตกาล เธอปรากฏในตำนานฐานะจอมปิศาจ ลามาซตู-Lamashtu  ผู้ถูกเนรเทศออกจากสรวงสวรรค์ เนื่องจากเพราะความร้ายกาจของตนเอง

                                                                                       

    ส่วนในตำนานอื่นๆของซูมาเรียน เธอมีชื่อหลายอย่าง อาร์ดัท ลิลิ่-Ardat Lili  หรือ ลีลีตู-Lilitu  เทพยดาผู้เป็นคู่ครองของจอมปิศาจ ลีลู (Lilu) สำหรับตำนานบทนี้เธอถูกวาดภาพเป็นหญิงปราศจากศีลธรรม เต็มไปด้วย ตัณหาราคะ คือหญิงสวยยั่วใจในเรื่องเพศ เธอจะใช้มารยาล่อลวง ชายขณะหลับใหล ทั้งยังชอบสังหารเด็กๆ

     

    การตีค่าว่าการเรียกร้องสิทธิแบบสตรีนิยมคือความชั่วร้ายและมารยา ซึ่งแสดงออกเป็นนามธรรมในภาพของปีศาจสาวที่ใช้เสน่ห์ยั่วยวนล่อลวงผู้ชาย ชี้ให้เห็นถึงนัยยะทางด้านสังคมและการเมืองของยุคสมัยนั้น ปัจจุบันถึงแม้ลิลิธจะกลายเป็นสัญลักษณ์ของความดื้อรั้นขัดขืน แต่ในอีกแง่มุมหนึ่ง เธอก็ยังเป็นสัญลักษณ์ของอิสรภาพ ความเท่าเทียมทางเพศ และการยืนหยัดที่จะเลือกเส้นทางชีวิตด้วยตนเอง




          

    ตราสัญลักษณ์ของลิลิธ





     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×