1.เลือกประเภทเทียนให้ตรงตามวัตถุประสงค์ในการร่ายเวทย์และ/หรือพิธีกรรมนั้นๆ
2.เทียนที่ใช้สำหรับเวทมนตร์ควรเป็นเทียนที่บริสุทธิ์ (ยังไม่ผ่านการได้ใช้) ในช่วงเริ่มต้นของการประกอบคาถาและ/หรือพิธีกรรม เว้นเสียแต่ว่าคุณจะลบล้างพลังงานจากพิธีและคาถาที่ผ่านมา การใช้เทียนที่เคยถูกใช้มาก่อนแล้วอาจส่งผลต่อคาถาของคุณได้ เพราะตัวเทียนอาจยังหลงเหลือพลังเวทย์ที่ประกอบไปเมื่อครั้งที่แล้ว
3.ชาร์จพลังงานให้เทียนก่อนใช้งาน ทำได้(ง่ายๆ)โดยการเจิมด้วยน้ำมันที่ทำมาเพื่อวัตถุประสงค์ทางเวทมนตร์ หรือแค่เพียงเอามือสัสผัสเทียนแล้วนึกภาพพลังงานจากมือตกลงสุ่เทียนเป็นอันเสร็จ แต่น้ำมันที่ใช้เจิมเทียนควรจะเป็นกลิ่นหอมตามธรรมชาติ ซึ่งการชาร์จพลังงานใส่เทียนด้วยน้ำมันจะต้อง
- เริ่มจากลูบน้ำมันลงเทียนเริ่มจากบนลงล่างเพื่อดึงพลังงานเข้าหาคุณ
- จากนั้นให้ลูบจากล่างขึ้นบนเพื่อส่งกระจายพลังงานออกไปภายนอก
- และหากเป็นการเจิมเทียนที่ใช้สำหรับบนแท่นพิธีหรือแท่นบูชาจะต้องลูบจากกลางขึ้นบน และจากตรงกลางลงด้านล่าง เพื่อเป็นการสื่อถึงการรวมกันจองจิตวิญญาณ
หลังเสร็จพิธีหรือคาถาต่างๆในช่วงเก็บกวาด หากคาถาหรือพิธีกรรมของคุณเป็นทางสายขาว(ใช้ไปในทางดี,มนต์ขาว) ให้รวบรวมเศษเทียนเท่าที่พอทำได้แล้วฝังไว้ในบ้านคุณ แต่หากคาถาหรือพิธีกรรมของคุณเป็นสายดำ(ใช้ทางที่ต้องพึ่งผีห่าซาตาน,มนต์ดำ) ให้รวบรวมเศษเทียนเท่าที่พอทำได้แล้วนำออกไปฝังนอกบ้าน หรือเทลงถังขยะนอกบริเวณที่อยุ่อาศัยของคุณโดยหลังเททิ้งหรือฝังเสร็จ ห้ามมองกลับมาดุอีกเป็นอันขาด
สีเทียนกับความหมาย
สีเขียว = ความสงบ,อ่อนช้อย,ความมั่นใจ,เงียบสงบ,สุชภาพ,การเติบโต,ชีวิต,การเยียวยา,เงินตรา
สีน้ำเงิน = ความน่าเชื่อถือ,การไว้วางใจ,ความเชี่ยวชาญ,ความรับผิดชอบ,ความแข็งแกร่ง,สันติสุข,การเชื่อใจ,ความสมบูรณ์
สีม่วง = การบำบัด,การป้องกัน,ความรอบคอบ,ความฉลาดรอบรู้,จินตนาการ,ความเป็นใหญ่,ความหรูหรา,ฐานันดรศักดิ์
สีเหลือง = การหยั่งรู้,ความอุดมสมบูรณ์,ความระแวดระวัง,ความกระจ่าง,ความอบอุ่น,แง่ดี,ความเบิกบาน,ความเป็นมิตร
สีส้ม = พลังงาน,ความปรารถนา,ความอบอุ่น,ความเบิกบาน,ความเชื่อมั่น
สีแดง = การเรียกร้อง,ความหลงไหล,ความโลดโผน,ความเยาว์วัย,ความอันตราย,ความอหังการ,เรื่องด่วน
สีเทา = ความสมดุล,ความเป็นกลาง,ความเงียบสงบ,ความมั่นคง,ความปลอดภัย,ความแข็งแรง,ความประพฤติ,อำนาจ,วุฒิภาวะ
สีดำ = ความซับซ้อน,พลังอำนาจ,พิธีการ,สิ่งลี้ลับ
สีขาว = ความสดใหม่,ความหวัง,คุณงามความดี,แสงสว่าง,ความบริสุทธิ์ผุดผ่อง,การรักษาความสะอาด,ความเรียบง่าย,ความสุขุม
สีชมพู = ความโรแมนติก,ความเห็นอกเห็นใจ,ความซื่อสัตย์,ความสวยงาม,ความรัก,ความอ่อนไหว
สีทอง = ความมั่งคั่ง,ความสำเร็จ,สถานภาพ,ความกรุณา,การดำรงชีวิต,ความฉลาดเชาวน์ปัญญา,พรสวรรค์,ในแง่ดี,
สีน้ำตาล = เสถียรภาพ,ความน่าเชื่อถือม,การเข้าถึงโดยง่าย,ความแท้จริง,สารอินทรีย์
การแปลและอ่านเปลวไฟจากเทียน
แสงสว่างนั้น มีความเชื่อมาตั้งแต่โบราณกาลว่า เป็นตัวแทนแห่งการรังสรรค์ และภายในของมนุษย์ทุกคนก็มีแสงสว่างแห่งการรังสรรค์อยู่ ในหัวข้อนี้ผมจะพาท่านผู้อ่านได้รู้จักกับการแปลความหมายจากเทียนกันครับ
- ถ้าเปลวไฟจากเทียนแยกออกเป็นสองเปลวหรือมากกว่า นั่นแสดงว่า กำลังมีบางอย่างพยายามแทรกแซงสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ อาจเป็ยสปิริตส์(จิตวิญญาณต่างๆ เช่น เทพหรือปีศาจ) หรือ มนุษย์ที่มีวิชาอาคมพอที่จะแทรกแซงผู้อื่นได้ก็เป็นได้
- หากคุณประกอบพิธีคาถา(หรือไม่ได้ประกอบแต่คิดวางแผน)ที่ทำให้คนคู่หนึ่งแยกจากกัน หากมีเปลวไฟเป็นคู่กันติดกัน คุณจะทำไม่สำเร็จ
- ถ้าคุณกำลังพยายามประกอบพิธีคาถา(หรือไมไ่ด้ประกอบแต่คิดวางแผน)ที่จะดึงดูดคนเข้าหาคุณ หรือพยายามจะจีบ หากมีเปลวไฟอีกเปลวลุกติดขึ้นจากขี้ผึ้ง คุณจะทำสำเร็จ และยิ่งหากมันรวมกันกลายเป็นไฟกองเดียวและมีทีท่าจะลุกใหญ่เป็นกองโต มันจะยิ่งเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จเพิ่มไปอีก
- ถ้าเทียนไม่สว่าง นี่หมายความว่าสิ่งที่คุณทำอยู่ตอนนี้จะไม่สามารถทำให้เป้าหมายของคุณลุล่วงได้ ขอให้ใช้วิธีอื่นหรือหากคุณประกอบพิธีคาถา ก็ให้ประกอบพิธีกรรมอื่นหรือลองคาถาอื่น
- ถ้าเปลวเทียนลุกสูง แสดงว่าสิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้มีพลังงานหลายอย่างอยู่เบื้องหลัง แต่มันก็ไม่มากพอที่คุณจะไม่สามารถจัดการได้ แต่หากเปลวเทียนต่ำลง แสดงว่ากำลังมีพลังจิตวิญญาณอันกล้าแกร่งแทรกแซงคุณอยู่ขอให้คุรชำระล้างพื้นที่รอบๆและอาจหาทางกำจัดสิ่งรบกวนนั้น
- หากได้ยินเสียงเปลวไฟแตกหรือเสียงเปลวไฟเหมือดังคล้ายนกระพือปีก นั่นมักหมายถึง การสนทนา,จิตวิญญาณบางอย่างต้องการติดต่อกับคุณหรือเป้าหมายกำลังพูดถึงคุณ
- หากเปลวไฟจวนจะดับหรือริบหรี่ นั่นแสดงให้เห็นว่า มีจิตวิญญาณบางอย่างอยู่รอบๆพื้นที่บริเวณที่คุณอยู่ในตอนนั้น และหากมีเปลวไฟลุกพรึบขึ้นมาในตอนจวนจะดับหรือริบหรี่ แสดงว่าจิตวิญญาณนั้นๆต้องการจะติดต่อกับคุณ หากแสงเทียนที่จวนจะดับหรือริบหรี่นั้นเป็นแสงเทียนบนแทนบูชาแสดงว่าเทพเจ้าหรือสิ่งที่คุรบูชาในขณะนั้นกำลังรับฟังคุณอยู่
- ถ้าคุณพยายามเป่าเทียน แต่มันไม่ดับ หรือดูเหมือนดับหรือดับแล้วแต่มันลุกกลับมาใหม่เอง แสดงว่า มีจิตวิญญาณไม่ต้องการให้คุณดับเทียน หรือก็คือยังไม่อยากให้คุณเลิกสิ่งที่ทำอยุ่ในตอนนี้ครับ ถ้าคุณไม่สบายใจขอให้วิญญาณปกป้องเทียนหรือขออนุญาตและพยายามดับไฟอีกครั้ง
- ถ้าทุกส่วนของเทียนด้านบนจับกันเป็นก้อนเป็นรูปร่างหริอใกล้กับไฟหรือตัวไฟเป็นรูปร่าง นั่นแสดงถึง หากคุณมีเทียนสำรอง เทียนเหล่านั้นจะต้องถูกจุดต่อ เพราะอิทธิพลทางจิตวิญญาณที่ก่อให้เกิดอุปสรรค
- หากเปลวไฟลุกสูงและดับลงแทบจะในทันทีโดยไม่มาเขม่าควันตามมา แสดงว่าคุณมีจิตวิญญาณคุ้มครองคุณอยู่หรือจิตวิญญาณส่วนใหญ่ในขณะนั้นส่วนใหญ่เป็นจิตวิญญาณดี
- ถ้าเปลวไฟดับลงในที่ไฟลุกเผาได้ดี หมายความว่า จิตวิญญาณไม่สามารถช่วยคุณได้ แต่ทว่าคำตอบได้ถูกำหนดไว้แล้ว
- หากคุณใช้แก้วครอบแล้วเกิดรอยไหม้ที่แก้ว แสดงว่า ระวังจะมีคนแทงข้างหลังโดยเฉพาะหากไฟไหม้ตรงป้ายติด
- ถ้าเปลวไฟของเทียนแกนกลางเป็นสีแดงสว่างไสวและมีรัศมีล้อมรอบเป็นสีน้ำเงินและเหลือง นั่นหมายถึง มีจิตวิญญาณกำลังเข้าใจถึงแก่นเรื่อง
- ถ้าเปลวไฟสีแดงที่เป็นแกนกลางสลัว แสดงให้เห็นว่า จิตวืญญาณไม่เข้าใจถึงแก่นของเรื่องหรือไม่ฟังคุณอยู่
- ถ้าเปลวไฟส่วนใหญ่เป็นสีน้ำเงิน แสดงว่า เทวาและจิตวิญญาณกำลังปกป้องคุ้มครองคุณจากสิ่งชั่วร้ายร้ายหรือจากผลลัพธ์ที่ไม่น่าพอใจ
การแปลและอ่านเทียนที่กำลังไหม้ไฟ
- ถ้าเทียนระเบิด การที่เทียนระเบิดนั่นมีความหมายค่อนข้างเยอะ แรกคือเทียนที่ปกป้องคุณจากการโจมตีทางจิตวิญญาณหรือพลังงานเชิงลบจำนวนมาก หลักๆคือผู้ที่จุดเทียนเล่มนั้นกำลังได้รับการคุ้มครองครับ
- ถ้าเทียนไม่ไหม้(ไม่ติดไฟ) นั่นหมายถึงคุณไม่ควรใช้เทียนเล่มนั้น หรือหากจะใช้ก็ต้องทำการทำพิธีกรรมชำระล้างกับเทียนเล่มนั้นก่อน หรือเทียนเล่มนั้นไม่เหมาะกับสิ่งที่คุณกำลังจะทำ
- ถ้าเทียนมีเปลวไฟที่มีขนาดใหญ่มาก นั่นแสดงให้เห็นว่าสิ่งที่คุณทำไป ไม่ว่าจะเพื่อวัตถุประสงค์ในทางบวกหรือทางลบ มันจะเห็นผลเร็วอย่างแน่นอน
- ถ้าเทียนเกิดไหม้ช้ามาก ถ้าคุณกระทำเพือวัตถุประสงค์ในทางบวกให้คุณทำใจจิตใจให้สงบแล้วชำระล้างจนเอง แต่หากคุรกระทำเพื่อวัตถุประสงค์ทางลบให้เปลี่ยนไปใช้เทียนเล่มอื่นแทน
- ถ้าเทียนเปลี่ยนเป็นสีดำ นั่นแสดงให้เห็นว่า สิ่งที่คุณกระทำไปนั้นจะได้ผลลัพธ์กลับมาอย่างตรงไปตรงมา
- ถ้าเทียนไหม้แค่ด้านเดียว แสดงว่าสิ่งที่คุรกระทำนั้นจะเกิดผลแค่ปานกลาง ควรเปลี่ยนเทียนและ/หรือ ตกแต่ง เพิ่มอะไรลงไปในเทียน
- ถ้าแก้วคลอบแตก มีบางอย่างมาจ้องจับตาดูคุณอยู่ หรือหากคุณกำลังใช้เวทมนตร์ในการปกป้องใครอยู่ มนต์ที่คุณวางไว้จะถูกทำลาย
- ถ้าเปลวไฟเทียนมีเสียงแตก หากวัตถุประสงค์การกระทำทำเพื่อผลลัพธ์ทางลบ แสดงว่ามีคนวางแผนเกี่ยวกับคุณและฑุดถึงตัวของคุณอยู่ แต่หากวัคถุประสงค์ทำเพื่อผลลัพธ์ทางบวก แสดงว่ามีคนคิดถึงคุณอยู่
- ถ้าเปลวไฟกระพริบ แสดงว่า มีจิควิญญาณอยู่รอบๆตัวคุณ
- ถ้าด้านบนของเทียนรวมทั้งไส้เทียนลุกไหม้ไฟ แสดงว่าสิ่งที่คุณทำไปนั้นกำลังดำเนินไปได้ด้วยดีและจะประสบความสำเร็จ
การแปลและอ่านควันเทียน
- ถ้าควันเทียนพัดมาทางคุณ แสดงว่า คำอธิษฐานของคุณจะได้รับการตอบรับ
- ถ้าควันเทียนพัดไปทางที่ไม่ใช่คุณอยู่ นั่นหมายความว่า คุณจะต้องพยายามอย่างหนักไปด้วย คำที่คุณอธิษฐานไว้ถึงจะเป็นจริง
- ถ้าควันพัดไปทางซ้าย แสดงว่าคุณกำลังคุณมีความรู้สึกต่อสถานการณ์มากเกินไป และอาจก่อให้เกิดวินาศกรรมได้ หากคำอธิษฐานไม่ได้รับการตอบรับ
- ถ้าควันพัดไปทางขวา จงรู้ไว้ คุณต้องใช้สมองมากกว่าใช้อารมณ์ตวามรู้สึกคุณถึงจะอ่านและตามสถานการณ์ตรงหน้าของคุณได้ทัน
การพยากรณ์(ดูดวง)จากเทียน-Lampadomancy
การพยากรณ์ดวงชะตาโดยใช้ไฟ เป็นการพยากรณ์รูปแบบหนึ่งฝรั่งจะเรียกวิธีนี้ว่า แลมพาโดมันซี่-Lampadomancy หรือ ไลช์โนมันซี่-Lychnomancy ครับ
ซึ่งโดยส่วนมากจะใช้เป็นเทียน ตะเกียง หรือกองไฟเลยก็ได้ครับ โดยคำพยากรณ์จะปรากฏอกมาให้เห็นผ่านเปลวไฟครับ หรือบางทีอาจปรากฏในรูปของเงาใกล้กับไฟที่เราใช้พยากรณ์ก็ได้ครับ
วิธีการทำก็มีอยู่หลากหลาย แต่ที่เป็นนิยมคือ ใช้เทียนสามเล่ม วางไปทีละจุดให้เป็นรูปสามเหลี่ยม จากนั้นให้ผู้ดูหรือหมอดูถามคำถามเปล่งคำพูดออกมาพลางจ้องไฟ หากมีสมาธิมากพอ คำพยากรณ์จะปรากฏให้เห็นผ่านเปลวไฟครับ
- หากคำตอบของคำถามเป็นเชิงบวกหรือคำตอบคือใช่,แน่นอน เปลวไฟของเทียนเล่มหนึ่งจะลุกขึ้นสูงกว่าเทียนอีกสองเล่ม
- หากเปลวไฟ ส่ายเซไปมา มันมักจะหมายถึงการเดินทาง
- ถ้าเปลวไฟกลายเป็นรูปเกลียว แสดงว่า มีคนวางแผนร้ายต่อคุณ หรือคุณกำลังจะมีศรัตรู
- ถ้าเปลวไฟขึ้นๆลงๆ ให้ระวังอันตราย
- ถ้าเกิดประกายไฟ นั่นเป็นคำเตือนบางอย่าง
- ถ้าเปลวไฟดับอย่างฉับพลัน นั่นหมายถึงโชคร้าย
ความคิดเห็น