นินิกิ หรือชื่อเต็มๆคือ นินิกิโนมิโคโตะ-Ninigi-no-Mikoto ยังเป็นที่รู้จักกันในนาม "อาเมะ-นิกิชิ-คุนิ-นิกิชิ-อามัทสุฮิโกะ-โฮ-โน-นินิกิ-โน-มิโคโตะ-Ame-nigishi-kuni-nigishi-amatsuhiko-hiko-ho-no-ninigi-no-Mikoto" (邇邇邇岐志岐岐高高能能能命命命) คือเทพเจ้าแห่งการทำอาหาร,การเพาะปลูกและข้าว ชื่อของพระองค์ (นินิกิ) มีความหมายว่า "ค้อนอัญมณีอันเป็นที่รัก-beloved jeweled mallet"
พระองค์คือหลานแท้ๆของเทพีอามาเทราสึ เป็นบุตรแห่งอาเมโนะโอชิโฮมิมิโนมิโคโตะ-Ame no
Oshihomimi no Mikoto และทาคุฮะดาชิจิฮิเมะโนมิโคโตะ-Takuhadachiji-hime
no Mikoto และทั้งนี้เทพนินิกิเองยังถือเป็นปู่ทวดของจักรพรรดิองค์แรกของญี่ปุ่น เพราะพระองค์เคยเสด็จลงมาสู่โลกในฐานะผู้ปกครองคนแรกพระองค์นำของขวัญจากเทพีอามาเทราสึมาให้เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจซึ่งยังคงเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องราชกกุธภัณฑ์ของญี่ปุ่นในปัจจุบัน
ตามตำนานเล่าไว้ว่า เมื่อนานมาแล้วครั้งที่โลกยังมีแต่ความโกลาหลหลังจากอุบัติขึ้นได้ไม่นาน ครั้งนั้นเทพีสุริยาอาเทราสึผู้เป็นใหญ่แห่งแดนสวรรค์ได้สั่งให้อาเมโนะโอชิโฮมิมิบุตรชายของตนลงมาจากสวรรค์เพื่อปกครองโลกมนุษย์ ทว่าโอชิโฮมิมิที่เห็นความเป็นไปของโลกเบื้องล่างก็ได้ปฏิเสธนางไป และได้เสนอชื่อของบุตรชายตน ซึ่งคือเทพนินิกิ แทน ดังนั้นอามาเทราสึจึงได้ให้องค์เทพนินิกิไปยังโลกมนุษย์ในฐานะผู้ที่จะปฏิรูปโลกขึ้นมาใหม่
โดยการนี้เทพีอามาเทราสึได้ให้ของวิเศษสามอย่างแก่เทพนินิกิเพื่อช่วยในการปฏิบัติหน้าที่ ของทั้งสามอย่างนี้ได้แก่ 1.ลูกปัดหยกยาซากานิ โนะ มางาตามะ-Yasakani no
Magatama(บ้างก็ว่าเป็นลูกประคำหรือไข่มุก) ตัวลูกปัดหยกนี้มีความหมายถึงความเมตตากรุณา และบ้างว่าเป็นสิ่งที่แสดงถึงความมั่งคั่งและสถานะของผู้ปกครอง 2.กระจกสำริดยาตะ โนะ คางามิ-Yata no
Kagami กระจกยาตะนี้หมายถึงสติปัญญา เป็นกระจกที่ว่ากันว่าจะสะท้อนแต่ความสัตย์จริงและสามารถเชื่อมโยงไปถึงเทพเจ้า ในตำนานเป็นสิ่งที่เคยใช้ล่อเทพีอามาเทราสึออกมาจากถ้ำ 3.พระแสงดาบคุซานางิ-Kusanagi no
Tsurugi ดาบศักดิ์สิทธิ์คุซานางินี้สื่อถึงความกล้าหาญ ดาบเล่มนี้เป็นเล่มเดียวกับที่เทพซูซาโนะโอได้มาจากหางของมังกรยามาตาโนะโอโรจิ
ลูกปัดหยกยาซากานิ กระจกสำริดยาตะ และพระแสงดาบคุซานางิ
ซึ่งของวิเศษทั้งสามอย่างนี้ก็ได้ช่วยเทพนินิกิในการทำภารกิจของพระองค์เป็นอย่างดี และได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงอำนาจของเทพนินิกิ ซึ่งต่อมาของวิเศษทั้งสามก็กลายจากวัตถุในตำนานมาเป็นเครื่องราชกกุธภัณฑ์แห่งสมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่นที่มีบทบาทในหน้าประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นจริงๆ เพื่อเป็นเครื่องหมายที่แสดงถึงความเป็นสมเด็จพระจักรพรรดิ โดยเริ่มจากจักรพรรดิจิมมุ-Jimmu ผู้ยิ่งใหญ่ อันว่ากันว่าเป็นหลานแท้ๆของเทพนินิกิ (ครองราชย์ 18 กุมภาพันธ์ 660 ปีก่อน ค.ศ. – 9 เมษายน 585 ก่อน ค.ศ.)
ในตอนที่เทพนินิกิเดินทางมายังโลกมนุษย์เพื่อปกครองตามคำสั่งของเทพีอามาเทราสึนั้น ว่ากันว่าพระองค์เสด็จมาพร้อมกับเทพีอุซุเมะ(เทพีแห่งรุ่งอรุณ) ครั้งเมื่อเทพนินิกิถึงพื้นพิภพโลก พระองค์ได้เดินทางไปถึงจุดที่มีทางแยก
8 ทางที่นำไปสู่ทิศแต่ละทิศ เทพทั้งสองได้พบเทพที่น่ากลัวผู้เฝ้าสะพานที่ลอยไปสู่สวรรค์ ดังนั้น
เทพผู้รักษาหนทางได้แนะนำอาณาจักรบนโลกของเขาทั้งหมด เพื่อเป็นการตอบแทน
นินิกิจึงให้น้องสาวของพระองค์แต่งงานกับเทพผู้รักษาหนทาง และพระองค์เองก็แต่งงานกับ โคโนฮานะ ซึ่งบ้างก็ว่าโคโนฮานะคือเจ้าหญิงองค์หนึ่งในโลกมนุษย์ แต่บ้างก็ว่านางคือเทพีแห่งภูเขาไฟฟูจิ
ต่อมา เทพนินิกิและลูกหลานขอพระองค์ก็บากบั่นรวบรวมอาณาจักรจากญี่ปุ่นทางตอนใต้ไปจนถึงที่ราบยามาโตะ
ทางตะวันออกของโอซาก้า และที่นั่นเอง พระองค์ได้ก่อตั้งราชวงศ์แห่งยามาโตะขึ้น
เทพนินิกิ
และเนื่องจากเชื่อกันว่าที่ที่เทพนินิกิเสด็จลงจากสวรรค์มายังโลกมนุษย์ที่แรกนั้น คือ ภูเขา “ทาคาชิโฮ-Takachiho" แห่งเกาะคิวชู ในหลายพื้นที่ของเกาะคิวชูจึงมีการจัดเทศกาลเพื่อขอบคุณเทพนินิกิ อาทิเช่น เทศกาลดำนา หรือที่เรียกว่า เทศกาล “ทะอุเอะ-Taue-matsuri" ของศาลเจ้าคิริชิมะ-Kirishima Shrine แห่งเมืองคะโงะมะ-Kagoshima ในเกาะคิวชูซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 8 มีนาคม ในงานเทศกาลจะมีชายหนุ่มหลายคนแต่งตัวด้วยชุดโบราณเป็นชายชราและหญิงชราเพื่อทำการปลูกข้าวและร้องเพลงประกอบพิธีกรรม พวกเขาเป็นตัวแทนของชาวนา ในเทศกาลยังมีการร้องเพลงและเต้นรำเกี่ยวกับการเพาะปลูกข้าวด้วย ชาวนาทั่วทั้งจังหวัดจะนำสิ่งของมาถวายให้แก่เทพนินิกิ เพราะเชื่อกันว่าในหนึ่งในภารกิจขององค์ท่านก็คือการสอนวิธีเพาะปลูกข้าวให้แก่ชาวนา
ที่ศาลเจ้ายาฮิโกะยามะ-Yahikoyama Shrine ณ เมืองโซเอดะ-Soeda ในเขตฟุกุโอะกะ-Fukuoka แห่งเกาะคิวชู มีการจัดเทศกาลดำนา หรือ “ทะอุเอะ-Taue" ขึ้นเช่นกัน ในวันที่ 15
มีนาคมซึ่งมีรายละเอียดของพิธีกรรมแตกต่างกันออกไป ในพิธีกรรม จะมีหญิงสาว 8
คนแต่งตัวด้วยชุดชาวนาร้องเพลงและเต้นร้าเป็นวงกลมจุดประสงค์หลักของการจัดพิธีกรรมก็เพื่อแสดงความขอบคุณแก่เทพนินิกิที่สอนวิธีการเพาะปลูกข้าวให้แก่พวกเขา โดยถือว่าเทพนินิกิเป็นผู้นำมาซึ่งความอุดมสมบูรณ์ของพืชผล
*เกร็ดความรู้เเติมพิ่ม
ภูเขาทาคาชิโฮ
ภูเขาทาคาชิโฮะ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “โฮโกะโนมิเนะ-Hoko no mine" หรือภูเขา “ฮิยะมะ-Higashi-Kirishima
yama" ตามตำนานได้กล่าวไว้ว่าเป็นภูเขาที่เทพนินิกิหลานของมหาเทพีอามาเทราสึ-Amaterasu ลงจากสวรรค์มายังโลกมนุษย์เป็นที่แรก ตามเรื่องเล่านั้นเมื่อพระองค์ก็ได้เหวี่ยงหอกสามง่ามลงไปที่พื้น
จนถึงทุกวันนี้ ยังพบหอกทองสัมฤทธิ์ขนาดใหญ่อยู่ที่ยอดเขา โดยเชื่อกันว่าเป็นของท่านเทพนินิกิ
ส่วนอีกเรื่องที่ทำให้ภูเขาแห่งนี้โด่งนั่นคือ ที่นี่เป็นสถานที่แห่งการฮันนีมูนของซามูไรชื่อดังอย่างซากาโมโตะ เรียวมะ-Sakamoto
Ryoma (1836–1867) กับภรรยาของเขาอีกด้วย ความพิเศษสุดๆคือ นี่ถือเป็นการฮันนีมูนครั้งแรกของญี่ปุ่น
ความคิดเห็น