คู่มือตำนานเทพเจ้ากรีก-โรมัน

ลำดับตอนที่ #102 : อคิลลีส-Achilles ผู้(เกือบ)เป็นอมตะ

อคิลลิสคือวีรบุรุษในช่วงสงครามโทรจันตามตำนานกรีก เป็นบุตรของท้าวพีลูส กษัตริย์ชาวเมอร์มิดอน กับนางอัปสรธีทิส เกิดที่เมืองฟาร์สะลา แคว้นเทสสาลี 

แต่เดิมนางอัปสรธีทิสเป็นที่หมายปองของมหาเทพซุสและมหาเทพโพไซดอน แต่ภายหลังโพรเมเธอุสแจ้งคำพยากรณ์ต่อเทพทั้งสองว่า บุตรของธีทิสจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่กว่าบิดา

เทพทั้งสองจึงยกนางให้แก่พีลูส เมื่ออคิลลีสเกิด ธีทิสผู้เป็นมารดาได้จุ่มร่างของเขาลงในแม่น้ำสติกซ์เพื่อให้เป็นอมตะ ร่างกายของอคิลลีสจึงแข็งแกร่ง ไม่มีอาวุธใดทำอันตรายได้  หรือก็คือหนังเหนียวนั่นละครับ แต่ว่า ธีทิสใช้มือกุมข้อเท้าบุตรไว้ในขณะจุ่ม ทำข้อให้ข้อเท้าของอคิลลิสเป็นจุดเดียวที่ไม่เหรียว สามารถโดนอาวุธและเกิดแผลและเจ็บปวดได้

อคิลลิสถูกมารดาจับจุ่มลงในแม่น้ำสติกซ์เพื่อให้เป็นอมตะ โดย Antoine Borel ประมาณ ศตวรรษที่ 18

อคิลลีสมีพรสวรรค์ในการสู้รบมาตั้งแต่เยาว์วัย เมื่อเติบใหญ่ก็ได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดแห่งนักรบ เป็นผู้ที่มีฝีมือการต่อสู้ไม่เป็นสองรองใคร ทุกครั้งที่เขาตวัดดาบจะต้องมีคนตาย และไม่ว่าคู่ต่อสู้ของเขาจะตัวใหญ่ แรงเยอะกว่ามากแค่ไหน ก็จะต้องเสียท่าให้กับคมดาบของเขาทั้งสิ้น 

ความเก่งกาจของอคิลลิส สะสมนานปีขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่ง แม่ทัพกรีกอกาเมมนอน ได้รวบรวมพลเพื่อยกไปตีเมืองทรอย จึงได้เชิญอคิลลีสไปร่วมรบด้วย สาเหตุการยกทัพไปบุกทรอยในครั้งนี้คาดว่าน่าจะเกิดจาก เจ้าชายแห่งกรุงทรอยดันทะลึ่งไปชิงเอาเมียคนสวยของ เมเนเลอัส(น้องของแม้ทัพอกาเมมนอน) ตัวพี่ชายเลยใช้เป็นเหตุอ้างเข้าตีกรุงทรอยโดยหวังผลทางการเมืองเป็นสำคัญ

อคิลลิสและอกาเมมนอน ภาพโดย  Gottlieb Schick (1801)

อย่างไรก็ตาม สงครามระหว่างทัพกรีกของอกาเมมนอนและทรอยนั้นต้องใช้เวลาสู้รบกันยาวนานกว่า 10 ปีด้วยกัน เนื่องจากเมืองทรอยเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อว่าไม่มีใครสามารถผ่านประตูเข้าเมืองได้ เพราะมีกำแพงเมืองที่แข็งแกร่ง และยังมีนักธนูอยู่ตำแหน่งรอบบนกำแพงที่สามารถยิงได้ไกลมาก กว่าจะมาถึงประตูเมืองก็ต้องเสียนักรบไปหลายราย 

และแม้จะผ่านมาได้ก็ยังมีนักรบที่พร้อมจะทำศึกและ “เจ้าชายเฮกเตอร์” ที่พร้อมร่วมรบกับทหารอย่างกล้าหาญและไม่กลัวตายแถมยังมีฝีมือที่ทำให้ทหารหลายนายเสียขวัญอย่างหนัก แถมยังมีเมืองบริวารที่คอบสนับสนุนเมืองทรอบอีก ด้วยเหตุนี้ ในช่วง 9 ปีแรกของสงครามกองทัพกรีกจึงต้องไปโจมตีทำลายเมืองบริวารทั้งหลายของทรอยให้สิ้น เนื่องจากเมืองเหล่านี้คอยส่งอาหารและอาวุธต่างๆให้กับทรอย  

แม้จะทำลายเมืองบริวารจนหมดสิ้นแล้วก็ตาม กองทัพกรีกก็ยังไม่สามารถบุกเข้าไปในเมืองทรอยได้ แถมเวลานั้นอคิลลิสยังได้ผิดใจกับอกาเมมนอนจนทำให้เหล่านักรบกรีกเริ่มถอดใจ จนกระทั้งเปรโตคัส เพื่อนรักของอคิลลิส ถูกเฮกเตอร์สังหารต่อหน้าต่อตาของอคิลลิส เมื่อเกิดเหตุกาณณ์เช่นนั้น อคิลลิสก็เกิดโทสะขึ้นมาทันใด และได้ขอท้าดวลกับเฮกเตอร์ตัวต่อตัว ซึ่งแน่นอนว่าสุดท้ายอคิลลิสเป็นฝ่ายชนะ กระนั้นโทสะของอคิลลิสก็หาดับลงไม่ เขาได้นำร่างของเฮกเตอร์พ่วงเข้ากับรถม้าและลากศพไปรอบ ๆ เมืองทรอยด้วยรถม้าเป็นการประจาน 

อคิลลิสผู้มีชัยลากร่างไร้วิญญาณของเฮกเตอร์ที่หน้าประตูกรุงทรอย โดย Howard David Johnson 

คราวนี้ฝ่ายทรอยถึงกับผวาเสียขวัญที่เสียกำลังรบผุ้มีฝีมืออย่างเฮกเตอร์ไปและในยามที่สำคัญเช่นนี้ โอดิสซิอุสผู้ปราดเปรื่องของกรีกก็คิดอุบายหนึ่งขึ้นมาได้ ซึ่งเขาสั่งให้สร้างม้าไม้ขนาดมโหฬารขึ้นมา และทำให้ด้านในของม้าไม้นี้กลวงเพื่อที่จะได้นำทหารของกรีกเข้าไปหลบอยู่ด้านใน

เมื่อการสร้างม้าไม้เสร็จสิ้นแล้ว โอดิสซิอุสและเมเนเลอัสพร้อมทหารแห่งกรีกจึงเข้าไปหลบซ่อนอยู่ภายในม้าไม้ที่สร้างขึ้น ก่อนจะสั่งให้เผาค่ายทิ้ง และให้ทหารแสร้งทำเป็นยกกองทัพเรือกลับไป แถมยังทิ้งทหารชื่อ ซินอน เอาไว้ที่เมืองทรอย เพื่อหลอกล่อให้ชาวทรอยหลงเชื่อ

เมื่อชาวทรอยเห็นกองทัพกรีกถอนทัพไปจนหมดสิ้นแล้ว จึงพากันออกมาดูม้าไม้ยักษ์ที่ตั้งตระหง่าน โดยซินอนได้หลอกชาวทรอยว่า เขานั้นถูกกองทัพกรีกทิ้งเอาไว้ให้หลงทางอยู่เพียงคนเดียว ส่วนม้าไม้นี้เป็นเครื่องหมายแห่งชัยชนะ และเป็นการขอบคุณเทพีอาธีน่าที่คอยช่วยเหลือ ซึ่งม้าไม้ตัวนี้จะนำพาโชคลาภให้กับเมืองทรอยในกาลต่อไป

ชาวทรอยนั้นต่างหลงเชื่อในคำพูดของซินอน และได้ลากม้าไม้ยักษ์นี้เข้าไปภายในเมือง พร้อมกับเฉลิมฉลองในชัยชนะกันอย่างยิ่งใหญ่ จนในคืนพระจันทร์เต็มดวงคืนนั้นเอง เมื่อถึงเวลาเที่ยงคืนชาวทรอยทั่วทั้งเมืองต่างเมาสุราและหมดสติกันแทบทั้งเมือง ซินอนที่รอคอยเวลานี้จึงได้ไปเปิดให้บรรดาทหารของกรีกออกมาจากม้าไม้ ก่อนจะไปเปิดประตูเมือง ให้กองทัพกรีกที่ยกทัพกลับมาเมืองทรอย พากันกรีธาทัพเข้ามาซึ่งรวมถึงอคิลลิสด้วย

จากนั้นกองทัพกรีกก็ได้ถือโอกาสจุดไฟเผาเมืองและสังหารชาวทรอยโดยเฉพาะผู้ชายไปเป็นจำนวนมาก และเมื่อสงครามจบลง กรีกได้แบ่งบรรดาผู้หญิงชาวทรอยให้กับทหารและพันธมิตรต่างๆ นำไปเป็นทาส และนั่นก็คือวาระสุดท้ายของเมืองทรอยที่เคยยิ่งใหญ่ 

ส่วนอคิลลิสก็ต้องทำภารกิจของตนเองให้สำเร็จโดยไปชิงตัวเมียของเจ้าชายกลับมา แต่ด้วยความประมาทหรือไม่ อันนี้ก็ไม่ทราบ เพราะเจ้าชายปารีสได้ยิงธนูใส่ข้อเท้าของอคิลลิสซึ่งเป็นจุดอ่อนเพียงจุดเดียวของเขา จนถึงแก่ความตาย