คู่มือตำนานเทพเจ้ากรีก-โรมัน

ลำดับตอนที่ #100 : ธีสิอุส-Theseus ผู้สังหารมิโนทอร์

             เรื่องของเรื่องเริ่มขึ้นเมื่อมนุษย์ผู้หนึ่งนามไมนอส ได้พยายามจะขึ้นเป็นกษัตริย์ ในการกระทำดังนั้นไมนอสต้องชนะใจชาวครีตเสียก่อนเขาประกาศแก่คนทั้งหลายว่าเขาสมควรเป็นกษัตริย์แห่งครีตแถมยังอ้างว่าแม้แต่เทพเองก็เห็นดีเช่นกัน ชาวครีตไม่ค่อยพอใจไมนอสเท่าไรแต่ก็ยอมไปชายหาดตามที่ไมนอสขอ ไมนอสตั้งพิธีวิงวอนแด่เทพโพไซดอน           

               ให้พระองค์ยืนยันคำขอ ปรากฏว่าโพไซดอนก็บ้าทำตามที่ไมนอสขอร้องจริงๆครับ พระองค์เสกวัวขาวพ่วงพีงดงามตัวหนึ่ง ว่ายตรงเข้าเฝ้า ด้วยเหตุนี้ชาวครีตจึงเชื่ออภินิหารที่เห็นกับตาจึงยกไมนอสขึ้นเป็นกษัตริย์ตามต้องการ 

               ตามธรรมเนียมของชาวกรีก สิ่งใดที่เทพเจ้าส่งมายืนยันคำพูดผู้ที่ใช้สิ่งนั้นเสร็จแล้วต้องส่งของคืน ในกรณีนี้ต้องส่งวัวคืนหรือก็คือต้องบูชายัญนั่นละครับ แต่แทนที่จะบูชายัญวัวตัวนั้นไมนอสกลับบูชายัญวัวธรรรมดาแทน โพไซดอนโกรธมากจึงสาปพาซิฟาอีมเหสีของไมนอสให้หลงรักวัวตัวที่ไม่ยอมบูชายัญปา

มิโนทอร์ ภาพโดย George Frederic Watts , 1885

             ด้วยฤทธิ์อำนาจของคำสาปพาซิฟาอีเฝ้าถนอมวัวตัวพ่วงพีตัวนั้น เมื่อความรักมาถึงที่สุดเธอก็หาทางร่วมภิรมย์กับเจ้านั่นจนคลอดบุตรออกมา ทว่าบุตรที่เกิดมานี้มีลักษณะประหลาด ตรงที่ที่หัวเป็นวัวตัวเป็นคน ชาวครีตต่างเรียกมันว่ามิโนทอร์ 

              มิโนทอร์โตขึ้นอย่างรวดเร็วกลายเป็นสัตว์ประหลาดกระหายเลือดต้องการกินเนื้อมนุษย์เป็นอาหาร ไมนอสได้ทำสิ่งหนึ่งเพื่อไม่ให้มิโนทอร์ออกไปเพ่นพ่านเขาสั่งให้เดดาลัส-นักประดิษฐ์ผู้ยิ่งใหญ่สร้างคุกที่ไม่มีทางออกพอสร้างเสร็จก็เรียกว่าลาบีรินธ์และส่งมิโนทอร์เข้าไปในนั้ร

เขาวงกตที่สร้างโดยนักประดิษฐ์เดดาลัส ภาพโดย Crispijn van de Passe ( 1589-1637)

             ปรากฎว่ามันก็หาทางออกไม่ได้จริงๆ  เหมือนเรื่องทุกอย่างจะลงตัวและจบแต่เพียงเท่านั้น ทว่า วันหนึ่งโอรสของไมนอสเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและได้รับชัยชนะ ทำให้ชาวกรีกจำนวนมากไม่พอใจ พวกเขาจึงช่วยกันจับโอรสของไมนอสสังหารเสีย

            ราชาไมนอสเสียพระทัยและพิโรธมาก พระองค์จึงกรีฑาทัพบุกเข้าโจมตีดินแดนกรีกและมีชัยชนะ จากนั้นพระองค์จึงสั่งให้นครกรีกทั้งหลายส่งหนุ่มสาวอย่างละเจ็ดคนไปยังครีตทุกปี  โดยทั้งหมดจะถูกส่งไปเป็นอาหารของมิโนทอร์

            ความโศกเศร้าเข้าปกคลุมดินแดนกรีกเป็นเวลาหลายปี จนกระทั่งเมื่อธีสิอุส โอรสของกษัตริย์เอจิอุสแห่งนครเอเธนส์เจริญวัยเป็นชายหนุ่มผู้เก่งกล้า  พระองค์ได้อาสาพระบิดาไปสังหารอสูรร้ายตนนี้ โดให้สัญญาว่า ถ้าพระองค์สังหารมันได้ เมื่อแล่นเรือกลับมาจะใช้ใบเรือสีขาว แต่ถ้าไม่สำเร็จจะใช้ใบเรือสีดำ จากนั้นธีสิอุสก็ออกเรือสู่ครีตพร้อมเหยื่อสังเวยทั้งหมด

            เมื่อเดินทางไปถึงเกาะครีต ธีสิอุสได้มีโอกาสพบกับ อารีเเอดเน่ ราชธิดาของไมนอส นางตกหลุมรักธีสิอุสตั้งแต่แรกเห็นและได้วางแผนช่วยเจ้าชายหนุ่มในการสังหารมิโนทอร์ โดยนางถือกลุ่มด้ายรออยู่ข้างนอกและธีสิอุสถือปลายอีกด้านเดินเข้าไป เมื่อฆ่ามิโนทอร์ได้ก็ให้เดินย้อนกลับมาตามเส้นด้าย ทั้งนี้ อารีแอดเน่ได้ขอให้ธีสิอุสพานางกลับนครเอเธนส์ด้วย หากเขาสามารถจัดการกับมิโนทอร์ได้

            หลังจากเตรียมการเรียบร้อยแล้ว เจ้าชายธีสิอุสก็เดินเข้าไปในลาบิรินธ์พร้อมกับดาบคู่มือ พระองค์เห็นโครงกระดูกและหัวกระโหลกผู้เคราะห์ร้ายกองอยู่ตลอดทางและเมื่อเข้าไปใกล้ถึงห้องโถงใหญ่ เจ้าชายก็ได้ยินเสียงลมหายใจของสัตว์ร้าย

ธีสิอุสและมิโนทอร์ ภาพโดย Edward Burne-Jones  (1833-1898)

            เสียงฝีเท้าทำให้มิโนทอร์รับรู้ได้ว่า มีเหยื่อรายใหม่กำลังเดินเข้ามาหามัน เจ้าอสุรกายมองไปรอบ ๆ ห้องโถงเพื่อมองหาผู้บุกรุก ขณะที่ธิสิอุสแอบแฝงกายในเงามืดและเคลื่อนตัวเข้าหามิโนทอร์อย่างเงียบเชียบ

            เมื่อได้โอกาส ธีสิอุสก็กระโดดขึ้นไปบนหลังของเจ้าอสุรกายพร้อมทั้งใช้ดาบจ้วงแทงลงไปอย่างสุดกำลัง มิโนทอร์ร้องคำรามด้วยความเจ็บ มันพยายามจะจับตัวผู้ที่ทำร้ายมัน แต่ธีสิอุสกระดาบออกมาและฟันซ้ำลงไปที่คอของอสูรร้ายเต็มแรง เลือดสาดกระเซ็นทั่วห้องโถง ร่างไร้ศรีษะของมิโทอร์ล้มลงกับพื้น ขณะที่หัวกลิ้งไปอีกทาง 

จากนั้นธีสิอุสก็รีบหนีออกมาตามเส้นด้ายและพาอารีแอดเน่ที่รออยู่ตรงปากทางไปยังท่าเรือ ท่ามกลางแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ที่โถมเข้ามา ความตายของมิโนทอร์ ได้ทำให้เทพโปไซดอนทรงพิโรธและส่งคลื่นยักษ์มาทำลายเกาะครีต

ธีสิอุส ปราบมิโนทอร์ โดย John Watson Davis (1870-1959)

            ธีสิอุสกับพวกหนีลงเรือทันเวลาและมุ่งหน้าสู่เอเธนส์พร้อมกับอารีแอดเน่ ซึ่งอันที่จริงแล้ว ในใจของพระองค์นั้นมิได้รักนางเลยและพระองค์ก็รู้ดีว่าชาวเอเธนส์ไม่มีวันยอมรับพระธิดาของราชาไมนอสอย่างเด็ดขาด ดังนั้นเมื่อถึงเกาะแห่งหนึ่ง พระองค์จึงทิ้งนางไว้ที่นั่นและเดินทางกลับเอเธนส์ อย่างไรก็ตาม โชคของเจ้าหญิงอารีแอดเน่ยังดีอยู่ เนื่องจาก ไดโอนีซัส เทพเจ้าแห่งไวน์ได้มาพบนางเข้า พระองค์ทรงหลงรักนางในทันที่ได้พระเนตรและได้รับนางเป็นชายาในเวลาต่อมา

            กล่าวฝ่ายธีสิอุส ด้วยความดีใจที่สังหารมิโนทอร์ได้ จึงลืมให้คนเปลี่ยนใบเรือเป็นสีขาว และเมื่อเรือเข้าใกล้น่านน้ำเอเธนส์ กษัตริย์เอจิอุสซึ่งเฝ้ารอการกลับของพระโอรส ได้ทรงทอดพระเนตรใบเรือสีดำ ก็ทรงเข้าพระทัยว่าพระโอรสสิ้นชีพแล้ว ทำให้ราชา เอจิอุสทรงโทมนัสเป็นอย่างยิ่ง พระองค์ทรงกระโดดลงทะเลและสิ้นพระชนม์ น่านน้ำดังกล่าวจึงถูกเรียกว่าทะเลเอเจียน

            เมื่อทรงทราบว่าพระบิดาทรงปลงพระชนม์ชีพของพระองค์เองด้วยความเข้าพระทัยผิด  เจ้าชายธีสิอุสก็เสียพระทัยเป็นอันมาก จากนั้น เมื่อพิธีพระศพราชาเอจิอุสเสร็จสิ้นลง เจ้าชายก็ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์แห่งเอเธนส์สืบต่อจากพระบิดา