ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    HAEEUN - Shortfic 'secret story

    ลำดับตอนที่ #4 : BABY VAMPIRE - INTRO

    • อัปเดตล่าสุด 16 ม.ค. 58


    VAMPIRE

    HAEEUN

    Note: เป็นอินโทรที่คิดว่ายาวที่สุดเท่าที่เคยแต่งมา55555 ไม่อิงความจริง โปรดใช้จินตนาการในการอ่านนะคะ .__. ขอให้สนุกกับ33หน้าเวิร์ดของเราน้า ♥

     

     


     

     BABY VAMPIRE

     

     

     

    แวมไพร์ถูกหลายคนนิยามว่าเป็นมนุษย์เลือดเย็น  ฆ่าทุกสิ่งได้โดยไม่รู้สึกอะไร..

     

     

     

     

     

    มีอายุเป็นพันเป็นล้านปี และ เป็นอมตะ

     

     

     

     

     

    แวมไพร์มีทั้งพวกเลือดบริสุทธิ์และเลือดผสม

     

     

     

     

     

    น่าเสียดายหน่อย  เพราะข้อมูลล่าสุดที่เพิ่งค้นพบเมื่อหลายร้อยปีก่อนบอกไว้ว่า แวมไพร์เลือดบริสุทธิ์ออกตามล่าพวกเลือดผสมและจัดการปลิดชีวิตทิ้งอย่างไม่ใยดี..

     

     

     

     

     

    ไม่มีใครทราบสาเหตุที่แน่ชัด และ ไม่มีใครรู้ว่าตอนนี้แวมไพร์เลือดผสมยังมีชีวิตรอดอยู่หรือไม่

     

     

     

     

     

     

    แล้วถ้ามีล่ะ?

     

     

     

     

     

     

     

    ปึก!

     

     

     

    เสียงหนังสือที่ปิดลงตามแรงมือของคนอ่านส่งเสียงดังออกมาพร้อมกับอีกหนึ่งเสียงที่เหมือนจะมีอะไรตกลงมา

     

     

     

     

     

     

    นั่น

     

     

     

     

     

    ตรงริมระเบียงนั่น

     

     

     

     

    เงาจากดวงจันทร์ที่ส่องลงมาทำให้เห็นการเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิตที่ตกลงมานั่น

     

     

     

     

     

    ใช่..  มันมีชีวิต

     

     

     

     

    แต่ตกลงมาได้ยังไง?

     

     

     

     

     

     

    สองขาค่อยๆพาตัวเองออกไปยืนอยู่ตรงหน้าประตูระเบียง มือข้างหนึ่งจับไม้เบสบอลไว้  อีกข้างหนึ่งค่อยๆบิดลูกบิดประตู

     

     

     

     

    มันอาจจะเป็นโจรก็ได้..

     

     

     

     

     

     

     

     

    แกร๊ก..

     

     

     

     

     

    มีเพียงความเงียบที่ปกคลุม  แสงจากดวงจันทร์ส่องสว่างจนมั่นใจว่าที่ตรงนี้ไม่มีแม้แต่สิ่งมีชีวิต

     

     

     

     

     

    แล้วเมื่อกี้คืออะไร ?

     

     

     

     

     

    ผมหันมองซ้ายขวา  ข้างบนระเบียงและด้านล่าง  แต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    "!!!"  ผมหยุดจังหวะการเดินไว้เพียงเท่านั้นก่อนจะค่อยๆยกเท้าขึ้นมาดูสิ่งที่เพิ่งจะเดินเหยียบไป..

     

     

     

     

    ของเหลว

     

     

     

     

     

    สีแดง

     

     

     

     

    !!

     

     

     

     

    คราบเลือดติดอยู่ที่เท้าของผม กับพื้นตรงนั้น!

     

     

     

     

     

    สิ่งที่ผมเห็นก็คงไม่ได้ผิดแน่ๆ

     

     

     

     

    มีอะไรบางอย่างอยู่ตรงแถวๆนี้จริงๆ

     

     

     

     

     

     

     

    ผมก้าวเท้าเดินต่ออย่างใจเย็นกลับเข้าไปในห้องอย่างกล้าๆกลัวๆ  ปิดประตูแล้วค่อยๆกดเปิดสวิตซ์ไฟแถวๆนั้น

     

     

     

     

     

     

    "อ๊ากกก!!"

     

     

     

    เสียงคนร้อง!  ใช่  ในห้องนี้มันควรจะมีผมที่เป็นเจ้าของห้องอาศัยอยู่คนเดียวแต่ตอนนี้มันไม่ใช่..

     

     

     

     

    "ใคร"  ผมค่อยๆเอ่ยถามไปอย่างกล้าๆกลัวๆ  เขาร้องแบบนั้นมันคงไม่ใช่เรื่องดีหรอก

     

     

     

     

     

     

     

    ในขณะที่ตาของผมก็ค่อยๆสอดส่องหาสิ่งมีชีวิตเจ้าของเสียงนั้นไปด้วย..

     

     

     

     

     

    " ปิด..  ปิด  ไฟ.." เสียงเล็กตอบกลับมานั่นทำให้ผมต้องขมวดคิ้ว  แต่ก็ยอมทำตาม  ไม่รู้ว่าทำไม ทั้งที่ผมควรจะกลัวหรือไม่ก็ห่วงตัวเองมากกว่านี้

     

     

     

     

     

     

    สิ่งที่ผมสงสัยคือ  เขาเข้าห้องผมมาโดยที่ไม่ผ่านสายตาผมได้ยังไง

     

     

     

     

     

     

    "ปิดแล้ว..  ทีนี้คุณจะออกมาได้หรือยัง"

     

     

     

     

     

     

    สิ้นเสียงของผม ด้านหน้าก็ปรากฏเงาของคนที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลัง  ทำให้ผมต้องรีบหันกลับไปมอง

     

     

     

     

    ผู้ชาย..

     

     

     

     

     

    ตัวเล็ก..

     

     

     

     

     

    และขาวมาก  แม้จะอยู่ในที่มืด

     

     

     

     

     

    ผิวซีดเหมือนคนตายเลย..

     

     

     

     

     

     

    "คุณ..  เป็นใครน่ะ?"

     

     

     

     

    ร่างของผู้ชายตัวเล็กเพียงแค่ฮึมฮัมชื่อตัวเองในลำคอ ดูเหมือนชื่อจะยาวเหยียดเหมือนว่าเขาพูดทั้งชื่อทั้งนามสกุลมาด้วยแบบนั้น

     

     

     

     

     

    โอเค..  ผมจะทำแผลที่แขนนั่นให้ก่อนแล้วกัน

     

     

     

     

    หมับ!

     

     

     

    "มะ..  ไม่ต้อง.." และนั่นทำให้ผมต้องยิ่งขมวดคิ้วแน่นขึ้นไปอีก  ไม่ทำแผลแล้วมันจะหายมั้ยน่ะ?

     

     

     

     

     

     

    ทงเฮถอนหายใจยาวก่อนจะหันหน้าไปมองอย่างอื่นแทน  จะว่าหวงตัวหรอ  คงไม่มั้ง เล่นเข้าห้องผมมาซะขนาดนี้คำว่าหวงตัวคงตัดออกไปได้เลย 

     

     

     

     

     

     

    ในห้องนี้ก็มีแต่ความมืดกับแสงสลัวๆจากดวงจันทร์ที่ทำให้พอรู้ได้บ้างว่าอะไรๆเป็นอะไร

     

     

     

     

     

     

     

     

    "เห้ย!!!!"

     

     

     

     

    ร่างหนาหันกลับมาอีกทีถึงกับตกใจเบิกตากว้างกับสิ่งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้

     

     

     

     

    แผลนั่นมันควรจะอยู่สิ!

     

     

     

     

     

    เงียบ..

     

     

     

     

     

     

    ..จนได้ยินเสียงหายใจของคนสองคน..

     

     

     

     

     

    มันเป็นไปไม่ได้เลยที่แผลใหญ่ขนาดนั้นจะหายไปภายในเวลาไม่ถึงนาที  เขาไม่ได้ตาฝาดไปแน่ๆ เมื่อกี้คนตรงหน้าเขายังกุมแขนที่มีเลือดโชกอยู่เลย

     

     

    ความคิดในสมองตีกันยุ่ง เมื่อหาเหตุผลที่ฟังขึ้นไม่ได้สักนิด ถ้าจะประติดประต่อเหตุการณ์ประหลาดๆนี่ก็..

     

     

    ตกลงมาจากข้างบน  ซึ่งก็ไม่รู้ว่าชั้นไหน

     

     

    เดินเข้ามาในห้องโดยที่แม้แต่หางตาก็ไม่เห็น

     

     

    เสียงร้องที่ดังลั่นเมื่อมือของผมกดเปิดสวิตซ์ไฟ

     

     

    และ

     

    แผลใหญ่ที่ต้นแขนที่สามารถหายไปได้ในเวลาไม่ถึงนาที

     

     

     

    คุณคงไม่ได้มาเล่นมายากลกับผมหรอก..   ใช่มั้ย

     

    มายากล ?”  ใบหน้าหวานเอียงถาม พร้อมกับคิ้วที่ขมวดเล็กๆนั่น

     

    ก็.. แผลนั่นมัน..

     

    คนตัวเล็กมองที่แขนของตัวเองก่อนจะเงยขึ้นกลับมามองหน้าผมเหมือนเดิม เหมือนว่ามันปกติ

     

     

     

     

    ใช่สิ! มันปกติสำหรับเขา  แต่กับผมมันไม่ใช่นี่!

     

     






     

    นี่มีชื่อให้เรียกหรือเปล่า?” ผมถามย้ำเขาอีกครั้ง  และครั้งนี้เขาส่ายหน้าให้

     

    อ่า.. แล้วจะเรียกว่าอะไรเนี่ย ทงเฮถอนหายใจพรืดก่อนจะทำการคิดชื่อใหม่ให้อีกคนที่อยู่ในห้องนี้ด้วย

     

     

     

     

     

    อืม..  ฮยอกแจ  เอามั้ย?” ทงเฮถามพร้อมกับยิ้มกว้างให้  ถึงแม้คนคนนี้จะดูแปลกๆไปบ้างแต่มันน่าแปลกยิ่งกว่าที่มันไม่ได้ทำให้เขากลัวว่าจะมาทำร้ายตัวเองเลยสักนิด

     

     

    ดวงตาคู่สวยที่เหมือนมีประกายอยู่ในนั้นมันเรียบนิ่งอยู่ตลอด..

     

     

    ....ร่างเล็กเพียงแค่พยักหน้าหงึกๆให้ ทำให้ผมดำแซมเทาของตนเองนั้นเคลื่อนตามแรง  มันยิ่งเสริมให้คนคนนี้  น่ารัก..

     

    โอเค.. แล้วเรียกพี่ว่าพี่ทงเฮ  แบบนี้โอเคมั้ยทงเฮส่งยิ้มบางๆไปให้ จากที่เขาดูคนตรงหน้านี่ยังไม่บรรลุนิติภาวะแน่ๆ

     

     

    รอยยิ้มจางๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าหวาน แต่ทงเฮเห็นได้ว่าในสายตานั่นมันว่างเปล่าขัดกับรอยยิ้มนี่มากๆ..

     

     

     

    ตัวเล็กแค่นี้มีปัญหาอะไรต้องแบกรับไว้ขนาดนั้น..

     

     

    แล้วนี่เราอายุเท่าไหร่  ทำไมถึงได้ตกลงมาแบบนั้นล่ะ  ดึกขนาดนี้ไม่กลับบ้านหรอร่างหนารัวคำถามใส่คนตัวเล็กที่ได้แต่ยืนทำตาใสรอเขาพูดจบ

     

     

    ไม่อยากกลับ..  อันตราย..

     

    ทงเฮขมวดคิ้วหน่อยๆกับคำพูดแปลกๆนั่นก่อนจะคลายสงสัย  คงกลัวมั้ง กลับบ้านคนเดียว..

     

     

    ..โดนตามมา  หนีไม่ได้ เลยตก..คิ้วเข้มของอี ทงเฮขมวดเข้าหากันอีกครั้งกับคำพูดแปลกๆของคนตรงหน้า  โดนตามมา งั้นหรอ? แล้วหนีอะไรมา ?

     

     

    หนี?”

     

     

     

     

     

     

    พวกเลือดบริสุทธิ์..

     

     

    !!!

     

     

    หมายความว่ายังไง?”

     


     

    แวมไพร์..

     

     

    !!!!

     

    อี ทงเฮ เบิกตากว้าง เมื่อคำพูดของคนตรงหน้าเหมือนจะชวนให้ไม่เชื่อ  แต่สายตานั่นกลับนิ่งสนิทเหมือนเดิม ไม่ได้ฉายแววว่าล้อเล่นหรือโกหกแต่อย่างใด..

     

     
     

    หนีพวกเลือดบริสุทธิ์มางั้นหรอ?” เขานึกถึงหนังสือที่เขาเพิ่งเปิดอ่านก่อนหน้าที่จะได้เจอกับร่างบางนี่  แวมไพร์เลือดบริสุทธิ์กำลังตามไล่ล่าพวกเลือดผสมมาจนถึงทุกวันนี้..

     

     

     

    ฮยอกแจ คงเป็นหนึ่งในนั้น

     

     
     

    อือ

     
     

    อยู่ที่นี่ก่อนไหม โลกของแวมไพร์อยู่ที่ไหนหรอ

     

    ไกลมาก  ถ้ากลับไปจะกลับมาไม่ได้อีกแล้วดวงตาหลุบต่ำลงก่อนจะค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาเหมือนเดิม

     

     

     

    เหมือนกับว่ามันไม่มีอะไร

     

     


     

    ถ้าพี่จะให้เราอยู่ที่นี่ก่อนล่ะ?”

     

    “….” ฮยอกแจเพียงแค่ส่งยิ้มมาให้

     

     

    แต่อี ทงเฮ เหมาว่านั่นคือคำตอบว่าตกลง

     

     


     

    อืม.. แวมไพร์โดนแสงไม่ได้จริงหรือเปล่า เพื่อไม่ให้บรรยากาศในห้องนี่เงียบไปมากกว่านี้ ทงเฮจึงหาเรื่องเพื่อที่จะคุยกับร่างบางนี้ต่อ เผื่อว่าเขาจะเข้าใจโลกของแวมไพร์จริงๆขึ้นบ้าง

     

     

    “…..” เคยคิดว่าตัวเองพูดน้อยแล้ว  แต่พอมาเจอแวมไพร์ตัวน้อยนี่เขาถึงกับต้องยอม นอกจากการพยักหน้าหงึกหงักแล้วก็เพียงแค่ตอบรับบางคำ และบางคำตอบเท่านั้น

     

     

     

     

     

    แต่.. โดนแสงไม่ได้  งั้นก็ต้องหาอะไรมาปิดหน้าต่างเอาไว้

     

     

    คิดได้ดังนั้นทงเฮจึงดันคนตัวเล็กให้นั่งลงบนโซฟาที่ตั้งอยู่ในห้องนั่งเล่นก่อนที่ตัวเองจะเข้าไปรื้อค้นของในห้องเก็บของ

     

     

     

     

    โชคดีที่ตอนกีฬาสีของคณะเขาเก็บผ้าคลุมสีดำเอาไว้  ร่างหนาจัดการต่อเก้าอี้ขึ้นเอาผ้าสีดำทึบไปปิดหน้าต่างซ้อนผ้าม่านไว้อีกที กว่าจะเสร็จเวลาก็ล่วงเลยไปอีกวันแล้ว

     

     

     

     

    ยังดีที่มีเรียนตอนบ่าย

     

     

     

    กินเลือดเป็นอาหารหรือเปล่า?”

     
     

    ..ไม่กิน..

     
     

    ฮยอกแจ.. เวลาตอบพี่ตอบให้ละเอียดกว่านี้ได้ไหม ถามคำตอบคำแบบนี้พี่ไม่รู้เรื่องเลย

     

     
     

    เฮ้อ..”  เอ้า!! แวมไพร์ก็ถอนหายใจเป็นหรอวะ (?)

     

     


     

    “I don't know how to answer that but I’m understand”

     

     

    0.0 !!

    พูดภาษาเดียวกับเขาไม่ค่อยได้แต่มารัวอังกฤษใส่เขาเนี่ยนะ

     

     

     

    เอาเถอะ จากที่เขาแปลมาได้นิดๆก็เหมือนฮยอกแจจะบอกว่าเข้าใจที่ผมพูดแต่ตอบกลับไม่เป็น

     

     

     

    โอเคๆ ไม่เป็นไร ถามคำตอบคำก็ได้.. กินอะไรเป็นอาหาร

     
     

    แอปเปิล.. น้ำตาล.. คิ้วเล็กขมวดเข้าหากันหน่อยๆ เมื่อคิดหาคำพูดมาแทนสิ่งที่ตัวเองกินเป็นอาหารไม่ได้  ทงเฮยิ้มขำ ท่าทางเด็กๆแบบนี้เจ้าตัวจะรู้หรือเปล่าว่ามันน่ารักมากขนาดไหน

     
     

    พวกอมยิ้ม น้ำตาลแท่งแบบนั้นหรือเปล่า ดวงตาเล็กวาวขึ้นมาทันที ก่อนจะรีบพยักหน้ารัวๆ

     

     

     

     

    แวมไพร์ตัวนี้แปลกดีเนอะ..

     

     

     

    แล้วอย่างนี้ดึกๆจะมากัดคอพี่มั้ยเนี่ย ผมหยอกเขาเล่นๆไป  แล้วก็แน่นอนฮยอกแจเพียงแค่ยิ้มตอบกลับมา  แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่แค่นั้น..  ผมกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่เมื่อเห็นสิ่งที่ฮยอกแจทำ  ถึงผมจะไม่ได้กลัวว่าเขาจะมาทำร้ายแต่การได้เห็นอะไรแบบนี้ก็ทำให้ใจผมหวั่นขึ้นมานิดๆแฮะ

     

     

     

     

     

    ปากเล็กยิ้มกว้างก่อนเขี้ยวทั้งสองข้างจะค่อยๆโผล่ออกมา  แต่ไม่นานเขาก็หุบปากฉับพร้อมกับอมยิ้มกลั้นขำ

     

     

     

     

    แบบนี้จะไม่ให้ผมตกใจได้ไงเล่า !! T0T

     

     

     

     

     

     
     

    แสบเหมือนกันนะเรา

     

     

    ไปนอนได้แล้ว ดึกแล้วร่างเล็กส่ายหน้าพรืดทันทีที่เขาพูดจบ

     

     

     

     

     

     

    พี่ทงเฮ..นอน..    ฮยอก...มอง

     

     

    หืม?” เขาหมายถึงจะให้ผมนอนแล้วเขามองดูผมนอนหน่ะหรอ? จะน่ารักไปแล้ว ฮยอกแจ!

     

     

    หึหึ  แล้วแวมไพร์เขาไม่นอนกันเหรอครับ?” ผมจ้องหน้าถามเขา  ถ้าตาไม่ได้ฝาดผมเห็นหน้าที่ขึ้นสีของเขาด้วย

     

     

     
     

    อ่า..  ฮยอกแจ เพิ่งมาได้ไม่กี่ชั่วโมงเองนะ  ผมพูดว่าเขาน่ารักไปกี่รอบแล้วเนี่ย!

     

     

     
     

    ไม่นอน.... ครับผมยิ้มให้กับท่าทางของเขาที่พยายามจะสื่อสารกับผม มันดูน่ารักมากจริงๆนะในสายตาของผมน่ะ

     

     
     

    งั้นบอกฝันดีพี่หน่อยได้ไหม

     

     




     

    อ่า.. ฝันดีครับ พี่ทงเฮ..

     

     

     

     

     

     

    แวมไพร์ฮยอกแจนี่มันเด็กน้อยจริงๆเลย.. 

     

     

     

    - To be continued. –

     

     

    TALK : อะไรคือเกิดอยากแต่งแนวนี้ขึ้นมาอ่ะ.////. อยากแต่งแบบนี้มากๆ555555 ไม่รู้ตอนนี้มันยาวไปหรือเปล่า หวังว่าจะมีคนอ่านนะคะ .__. จริงๆจะอัพตั้งแต่วันกลับจากคอนแล้ว  แต่กลับมาปุ๊บสอบเลยสามวันติด เพิ่งมีเวลามาอัพนี่แหละหนา

    TALK2 : ได้โปรดติดตามเรื่องนี้ คิดว่ายาวแน่ๆ (นี่ถึงกับขอร้อง555555) ถึงภาษามันจะกร่อยๆแต่เราตั้งใจมากนะ >0<

    Thx. U & enjoy reading ^^

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    B E R L I N ❀
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×