คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Episode 1 Renos in Garden / ช่วงที่ 2
ช่วงที่ 2 เคลเบลอสแห่งดูเอลอารีน่า
หลังจากที่ผมเกิดมาได้ 7 ปีแม่ของผมก็ได้จากไป จากความทรงจำของผมในตอนนั้นผมก็พอจะรู้ว่าแม่ผมมีร่างกายที่อ่อนแอมาก การให้กำเนิดลูกหรือก็คือตัวผมนั้นทำให้ร่างกายของเอแย่ลงไปมากกว่าเดิม หมอเฉพาะทางที่รักษา Ledal บอกว่าแม่ของผมนั้นไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ เธออ่อนแอเกินกว่าจะให้กำเนิดเด็กได้แม้ทำได้ชีวิตของเธอก็จะสั้นลง
ผมไม่รู้หรอกว่าปาฎิหาร์ยมันเกิดจากอะไรมันมีที่มาจากความรักหรือไม่ ผมเองก็ตอบเรื่องนี้ไม่ได้แต่นั้นได้ทำให้เกิดเรื่องที่เหลือเชื่อขึ้นมาได้ หลังแม่ของผมให้กำเนิดผมเอก็ยังมีชีวิตอยู่ต่อมาได้ถึง 7 ปี ก่อนที่จะสิ้นลมไปเพราะความอ่อนล้าของชีวิต
เอมิเรีย เรเนอร์ไดท์ หรือแม่ของผมเสียชีวิตไปด้วยวัยเพียงไม่กี่สิบปี เป็นการใช้ชีวิตที่สั้นมากจริงๆ แต่ก่อนที่แม่จะสิ้นลมแม่บอกผมว่าแม่สามารถใช้ชีวิตได้คุ้มค่าแล้ว แม้จะเพียงไม่กี่สิบปีแต่การที่ได้ให้กำเนิดผมลูกของชายคนที่เธอรักและเลี้ยงดูมาได้ถึง 7 ปี
แต่ผมก็รู้ดีว่าคนที่ช่วงชิงชีวิตที่น่าจะยาวนานกว่านี้ของแม่ไปก็คือตัวผมเอง เป็นเพราะผมเองชีวิตของเอเลยเหลือแค่ 7 ปี แม้ตัวเธอจะบอกว่าถ้าไม่ได้ให้กำเนิดผมและตายไป มันจะเป็นความว่างเปล่า พ่อหรือใครๆเองก็ไม่เคยพูดว่าเป็นเพราะผมแต่ผมรู้ดี....รู้ดีที่สุดเลย
3 ปีต่อมาพ่อไม่เคยยิ้มอย่างเป็นธรรมชาติเลยซักครั้ง หลังจากแม่ตายจากไปต่อหน้าผมเค้าจะพยายามฝืนยิ้มมาตลอด เวลาอยู่คนเดียวสีหน้าของเค้าดูเงียบเหงาและหดหู่มาก ตลอดเวลา 3 ปีพ่อไม่เคยเปิดรับใครเลย พ่อรักแม่มาเสมอและตลอดไปด้วย ในตอนนั้นผมก็ได้ตั้งคำถามกับตัวเองด้วยประโยคในหนังเรื่องหนึ่งที่เคยดู
“พ่อควรจะมีสิ่งที่ควรมีหรือจะมีสิ่งที่ขอ”
นั้นคือคำถามแรกที่ผมตั้งกับตัวเองถึงเรื่องของพ่อและแม่ และสิ่งที่ผมเลือกก็คือ...พ่อควรมีสิ่งที่มีนั้นเอง ช่วงเวลาถัดมาเกือบๆท้ายปีสีหน้าของพ่อก็มีการเปลี่ยนแปลง เค้าดูมีชีวิตชีวาขึ้นแต่กลับมีความลำบากใจซ่อนอยู่ในสีหน้านั้น ผมน่ะไม่ได้หัวดีอะไรนักหนาแต่เพราะ 3 ปีที่ผ่านมาผมจำได้หมดแล้วว่าสีหน้าพ่อเป็นยังไง การที่เปลี่ยนไปแบบนี้แปลว่า
“พ่อได้เจอคนใหม่แล้วนั้นเอง”
นั้นคือสิ่งที่พ่อควรจะมีผมน่ะไม่เป็นไรหรอกนะที่จะมีแม่หรือไม่ แต่พ่อน่ะทำไม่ได้ตลอดเวลาสถานที่ๆพ่อวางใจและสบายใจ ก็มีเพียงที่ๆแม่อยู่เท่านั้นถ้ามีใครมาช่วยทำหน้าที่นั้ให้ใหม่ได้ผมก็ยินดีด้วย เพราะนั้นคือสิ่งที่พ่อควรจะมี
“พ่อครับผมไม่ว่าอะไรหรอกนะถ้าพ่อจะแต่งงานใหม่น่ะ ผมเข้าใจดีว่ามันมีความจำเป็นและพ่อก็ใช้เวลาหาอยุ่นานถึง 3 ปีแล้ว รวมทั้งพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าพ่อยังไม่เคยหมดรักแม่....แต่ผมไม่อยากให้แม่ต้องกลายเป็นคนนอกไปเพราะงั้นผมจะขอแค่อย่างเดียว อย่าลืมแม่เค้าเท่านั้นก็พอ”
ผมตัดสินใจที่จะพูดกับพ่อก่อนในเรื่องนี้เพราะถ้าเค้ามาพูดกับผมก่อน จะกลายเป็นผมจำใจตอบรับไปแม้ว่าผมจะเลือกที่จะยอมรับได้เองก็ตาม นั้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีที่พ่อผมยิ้มอย่างเป็นธรรมชาติอีกครั้ง เค้ายื่นมือมาลูบหัวผมก่อนจะบอกว่า
“ขอบใจนะเซโร่”
ทำให้อีก 2-3 วันต่อมาพ่อตัดสินใจจะพาแม่คนใหม่ของผมมาเจอกันครั้งแรก ผมที่นั่งเล่นเกมคอยอยู่ในห้องของตัวเองนั้นก็..แอ็ด ประตูที่ปิดไม่สนิทก็เปิดออกเองพร้อมปรากฏเด็กผู้หญิงน่ารัก ผมสีแดงอมม่วงที่ยาวถึงเอวบนหัวมีริ้บบิ้นสีชมพูผูกอยู่ ดวงตาสีเขียวอ่อนใส ในชุดกระโปรงสีขาวมีระบายสีเหลือง ก้ปรากฏตัวเข้ามา
“ขอโทษนะที่เข้ามาโดยไม่เคาะพอดีเห็นประตูเปิดค้างเอาไว้ แล้วไม่มีเสียงด้วยก็เลยคิดว่าไม่มีคนอยู่” เธอเอ่ยขอโทษด้วยเสียงที่ไพเราะน้ำเสียงเต็มไปด้วยความอ่อนโยน ควับๆ..ซึ่งผมในตอนนั้นก็แค่ส่ายหน้าตอบกลับไป
“พี่สาวคือคนที่จะมาเป็นพี่ผมใช่ใหม” ในตอนนั้นผมคิดได้อย่างเดียวว่าเด็กผู้หญิงคนนั้น คือลูกคนโตของแม่ใหม่ผมที่พ่อเล่าให้ฟัง แม่ใหม่ของผมนั้นเธอเองก็เป็นผู้หญิงที่แต่งงานมาแล้วครั้งหนึ่ง เธอมีลูกติดมา 2 คนแต่คนเล็กนั้นได้อยู่กับทางฝั่งพ่อนี่ก็คงเป็นลูกคนโตที่ว่านั้นเอง
“ใช่จ๊ะพี่ชื่อโคลเดรียพอดีคุณแม่คุณพ่อยังคุยกับเพื่อนบ้านอยู่ พี่เลยขอเข้ามาพบกับเอก่อนน่ะและเธอคงจะเป็นเซโร่สินะ” เธอแนะนำตัวว่าชื่อโคลเดรียเป็นชื่อที่เข้ากับตัวเธอดีมากเลยทีเดียว นั้นเป็นสิ่งที่ผมคิดในตอนนั้น
“แต่พี่ขอแก้ไขส่วนที่เข้าใจผิดก่อนนะว่าพี่น่ะไม่ใช่พี่สาวหรอกนะ พี่เป็นผู้ชายเพราะงั้นพี่ก้ต้องเป็นพี่ชายของเธอ ขอฝากตัวด้วยนะเซโร่” ในตอนที่ผมอายุได้ 10 ปีผมก็ได้เรียนรู้ถึงความพิศวงของ Ledal เป็นครั้งแรกเมื่อเด็กที่ดูยังไงก็น่าจะเป็นเด็กผู้หญิง แต่แท้จริงแล้วกลับเป็นผู้ชายนี่คือสิ่งที่บ่งบอกได้ถึงความเป็น นภาแห่ง Ledal นั้นเอง
สถานที่ -ไคเซอร์การ์เด็นท์ชั้นที่ 1
วัน สัปดาห์ที่ 1 วันจันทร์ เดือน 2 ปีแสงที่ 723
เวลา 07:24 น.
“.......” ปริบๆ....ผมลืมตาขึ้นมาในรุ่งเช้าหลังฝันเห็นความทรงจำในวัยเด็กขึ้นมาอีกครั้ง ที่ผมเองก็ไม่รู้ว่ากลไกในหัวผมมันทำยังไงของมัน ถึงเลือกจะคุ้นเอาความทรงจำนี้ขึ้นมาแต่มันก็ทำให้ผมตาสว่างก่อนกำหนดได้ถึง 6 นาทีเลย
“ฮ้าว~~~~~
..” สวบ...ผมลุกขึ้นมานั่งฮ้าวเพราะความง่วงไป 1 ครั้ง ควับ...ก่อนจะเหลือบตาไปมองดูตรงจุดที่เคยเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในฝัน เมื่อ 5 ปี
“ยังไงก็ไม่เข้าใจอยู่ดีแหละ” ก่อนจะพูดบ่นออกมาถึงเรื่องในตอนนั้น ที่พี่โคลเดรียตอนอายุ 12 ปี ปรากฏตัวขึ้นครั้งแรกในชุดเด็กผู้หญิงถึงจะบอกว่าเป็นรสนิยมของคุณแม่เค้า แต่ก็ไม่เข้าใจอยู่ว่าทำไมมันถึงได้เหมาะขนาดนั้นทั้งๆที่เป็นผู้ชายแท้ๆ
“เอาเถอะคิดไปก็ปวดหัวเปล่าๆ” แถมยังไงมันก้เป็นเรื่องในอดีตไปแล้วด้วย ถ้าจะสนใจก้มาสนใจเจ้าพวกแมนเกิน 100 ที่หวังมาจีบพี่โคลเดรียน่าจะดีกว่า มารุมกันอยู่ได้ทุกวี่ทุกวันต้องมานั่งออกแรงไล่อยู่เรื่อยเลย
ผมตัดสินใจที่จะยุติการคิดถึงเหตุผลในเรื่องที่คิดไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น เพราะตอนนี้ปัญหาสำคัญกว่าก็มีให้แก้กันไม่หยุดไม่หย่อน 5 ปีที่ผ่านมานี้พี่โคลเดรียสวยขึ้นเรื่อยๆ นอกจากหน้าตาแล้วรูปร่างตรงส่วนเอวกับสะโพกก็สูสีกับผู้หญิงจริงๆมาก รวมกับกิริยามารยาทที่งดงามขึ้น
ส่งผลให้พวกแมลงวี่ทั้งหลายกะมาเก็บน้ำหวานของดอกไม้ ทำการวางแผนเก็บแต้มกันก่อนล่วงหน้า เดือดร้อนให้ผมต้องมานั่งคอยไล่อยู่นั้นแหละ แล้วก็ขอบอกก่อนเลยว่าผมน่ะไม่ใช่พวกซิสคอนหรือบราคอนอะไรทั้งนั้น ก็แค่ต้องมาทำหน้าที่ๆคนที่ควรทำไม่ยอมเท่านั้นเอง
“เซโร่เรื่องของโคลเดรียในช่วงที่พ่อไม่อยู่นี้ขอฝากด้วยนะ อย่าให้พวกฉวยโอกาสเข้ามากรำกรายได้นะพ่อไว้ใจลูกนะ” บทพ่อห่วงลูกสาวมันต้องให้พ่อแทนแต่กลับมาโยนให้ผม เป็นน้องหวงพี่ไปได้แล้วตัวเองก้ไปทำงานกึ่งฮีนนูมูนกับแม่ที่ฟรอนเทียร์การ์เด็นท์หน้าตาเฉยเลย
เพราะงั้นในช่วงที่พี่โคลเดรียไม่อยู่กลับไปหาพ่อจริงๆและน้องชายจริงๆ ผมก็เหมือนได้พักงานในช่วงนี้ไปด้วย เฮ็อ...รู้สึกเหมือนกำลังสู้กับพวกแมลงดื้อยาเลย ขู่ก้แล้วใช้กำลังก็แล้วก็ยังหน้าด้านมากันได้เรื่อยๆอีก ไม่รู้จะทำยังไงต่อไปแล้วนะเนี่ย
ในช่วงที่ผมกำลังคิดถึงเรื่องนี้ผมก้ไปอาบน้ำล้างหน้าแต่งตัวไปด้วย เครื่องแบบของไคเซอร์เป็นแบบเสื้อสีดำรูดซิปที่ปกคอเสื้อ จะมีลวดลายของด้ายทองส่วนกระเป๋าทางอกซ้ายจะมีตราการ์เด็นท์ของแต่ละแห่ง ของไคเซอร์จะเป็นรูปหัวหมาป่า ที่บ่าซ้ายขวาจะมีแถบบังเอาไว้ใส่สายห้อยโดยจะห้อยที่บ่าขวา ออกมาจากหัวไหล่วนเข้าหน้าอกขวา เน็คไทสีฟ้า กางเกงสีดำ
แต่เครื่องแบบนี้ก็ยังสั่งตัดไปตามความชอบของแต่ละคนได้อีก แค่ยึดส่วนหลักๆว่าต้องเป็นสีขาวมีกระเป๋าทางซ้ายมีสัญลักษณ์ มีบังมีสายห้อยเท่านั้นที่เหลือจะยังไงก็ได้ จะถึงขั้นใส่เสื้อโค็ทยาวก็มีคนทำมาแล้ว
“...กลิ่นอาหารนี่มัน” พอลงมาจะเข้าห้องอาหารผมก็ได้กลิ่นของอาหารที่ถูกเตรียมเอาไว้ให้แล้วลอยออกมา แต่ทำไมมันถึงมีกลิ่นอาหารได้ละทั้งๆที่ในตอนนี้มีผมอยู่คนเดียวนี้ แถมกลิ่นนี้ไม่ใช่อาหารแช่เย็นเอามาอุ่นด้วย เป็นอาหารที่ทำขึ้นจากวัตถุดิบต่างๆถ้างั้นก็คงคิดได้อย่างเดียวว่าเป็น
“พี่โคลเดรีย” เท่านั้นแหละพอยื่นหน้าโผล่เข้าไปก็พบคนกำลังหันหลังให้อยู่ ซึ่งคนๆนั้นกำลังทำอาหารอยู่ จึงมองเห็นแค่เรือนผมที่ยาวสลวยถึงเอวสีม่วงแดง
“ตื่นแล้วเหรอเซโร่” ก่อนเค้าจะหันหน้ากับมามองผมด้วยดวงตาสีเขียวอ่อนใส ใบหน้าที่สวยงามเข้ากับดวงตาที่อ่อนโยน ริมฝีปาก ทั้งหมดที่เห็นจัดว่าเป็นสาวงามคนหนึ่งเลยแต่ว่า นั้นน่ะก็เป็นผู้ชายอยู่ดีแหละเพราะงั้นเสียใจด้วย อย่างน้อยๆในตอนนี้ก็เป็นอย่างนั้นละนะ
“อืม แล้วพี่โคลเดรียกลับมาเมื่อไรเนี่ย” ตึกๆๆ....ครืด ผมตอบรับพร้อมกับเดินไปลากเก้าอี้ข้างโต๊ะทานอาหารออกมานั่ง ก่อนมองดูพี่โคลเดรียในชุดผ้ากันเปื้อนสีชมพูที่เข้ากันมาก
“ก็เมื่อเช้านี้เองแหละก็กะว่าทำอาหารเช้าเสร็จแล้วจะขึ้นไปปลุกอยู่พอดีเลย เซโร่ช่วยเตรียมจานให้ทีสิ” พี่โคลเดรียตอบแล้วก็หันกลับไปทำอาหารของเค้าต่อ ผมก็ลุกขึ้นไปเตรียมจานให้ตามที่เค้าขอให้
ซึ่งมื้อเช้าในวันนี้ของผมก็คืออาหารเช้าตามปกติ ไส้กรอก เบโลน่า ไข่ดาว แล้วก็ซุปแบบของฝั่งทางตะวันออกที่เห็นว่าชื่อซุปมิโสะหรือไงนี่แหละ สำหรับผมแล้วนี่เป็นมื้อเช้าที่ค่อนข้างจะหรูทีเดียว เพราะผมน่ะขี้เกรียจทำซัดขนมปังประจำแหละตอนอยุ่คนเดียว
“แล้วสรุปว่ามีเรื่องอะไรเหรอพี่โคลเดรีย ถึงต้องเรียกพี่ไปถึงเซลนาร์ดการ์เด็นเลย” ในระหว่างมื้อเช้ากำลังดำเนินไปผมก็ลองถามพี่เค้าดูถึงธุระ ที่ทางพี่จริงๆของพี่เค้าเรียกตัวกลับไปถึงบ้านเก่าที่อยู่ถึงเซลนาร์ดเลย
“ก็นิดหน่อยน่ะพ่อเค้าอยากปรึกษาเรื่องของริเดียน่ะ” หา...เจ้าบ้านั้นเองเหรอ ริเดียที่ว่านี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเลยน้องชายจริงๆของพี่โคลเดรียเค้านั้นเอง ว่ากันตามอายุแล้วเค้าก็เป็นรุ่นน้องผมปีหนึ่ง
โดยผมกับเค้านั้นไม่ถูกกันเลยแม้แต่น้อยแต่มันก็ไม่ใช่ผมที่เป็นเริ่มก่อนนะ ตอนเจอกันครั้งแรกเจ้าบ้านั้นก้ทำท่ารังเกรียจเลยแถมนับแต่นั้นมา เจ้านั้นก็เอาแต่เหล่ผมอย่างหาเรื่องตลอด
พวกเราไม่เคยคุยกันดีๆได้เลยแม้แต่ครั้งเดียวไม่รู้เป็นเพราะว่า คนที่เข้ามาแทนตัวเองและพี่โคลเดรียให้ความสนใจในฐานะน้อง กลายเป็นผมที่ไปแย่งมาหรือเปล่าส่วนเรื่องชื่อไงออกมาหญิงขนาดนั้นก็รสนิยมแม่เลี้ยงผมเองแหละ เห็นว่าหน้าตาน่ารักตอนยังเป็นทารกก็ตั้งชื่อผู้หญิงให้ซะเลย
“เรื่องนี้พี่เองก็ต้องบอกเวโร่ด้วยเหมือนกันนะคือตั้งแต่วันนี้ริเดียจะมาอยุ่ที่นี่กับพวกเราด้วยน่ะ พี่บอกคุณพ่อ(พ่อเซโร่)กับแม่เค้าแล้วทั้งคู่ก็ตกลงแล้วด้วย” หา~~~~!! ว่าไงนะ!!
“ทำไมละ!! ทำไมจู่ๆถึงจะย้ายเข้ามาซะเฉยๆเลย แถมเข้ามาง่ายๆเลยด้วยนะ” ผมไม่ได้ใจแคบอะไรหรอกแต่แค่ไม่อยากอยุ่ร่วมกับคนที่ตั้งต้นเป็นศัตรู โดยที่ผมเองยังไม่รุ้เลยว่าเหตุผลมันคืออะไร พูดตรงๆว่าอึดอัดมาก
“ก็...ริเดียเค้าเป็น Ledal นี่พ่อพี่เค้าอยากจะให้มาอยุ่กับพี่ที่เป็นด้วยเหมือนกันจะสะดวกกว่า” นี่โลกเรามันเป็นบ้าไปแล้วเหรอไงเนี่ยถึงผมจะรู้ว่าอัตรา Ledal ต่อคนทั้งหมดมีสูงมากก็เถอะ แต่จะยกเว้นหมอนี่ซักคนไม่ได้หรือไงนะ
“หมอเฉพาะทางเค้ามาตรวจดูแล้วริเดียน่ะเป็นสายวายุน่ะ” ฮึ่ม...ถ้าลงหมอเฉพาะทางของ Ledal มาตรวจแล้วก็คงไม่มีอะไรผิดพลาดแล้วละ บ้าชิบ
“งั้นก็ช่วยไม่ได้นาแล้วเจ้าตัวไปไหนละไม่เห็นเลยนี่” ผมไม่ได้สนใจอะไรหมอนี่มากหรอกนะ ที่ถามน่ะก็เพื่อเตรียมตัวรับมือเอาไว้ก่อน
“ไปการ์เด็นท์แล้วไปทำเช็คเรื่องย้ายเข้าน่ะ จริงๆพี่ก้ชวนให้รอทานเข้าเช้าพร้อมกันแล้วนะ แต่เหมือนริเดียเค้าอยากจะหลบหน้ายังไงไม่รู้สิ” สบายใจได้เลยพี่โคลเดรียคนที่เจ้าหมอนั้นมันหลบหน้าคือผมเองแหละ แต่ก็ดีต่อไปนี้อาจจะต้องได้เห็นหน้ากันเกือบ 24 ชั่วโมงแล้ว ถ้ายังเลี่ยงได้ก็เลี่ยงๆไปก่อนเถอะ
ก็องแก็งๆๆ......หลังทานมื้อเช้าเสร็จผมก็ช่วยยกจานไปวางตรงที่ล้างจาน โดยพี่โคลเดรียบอกจะล้างให้เองให้ผมรีบไปเรียนก่อนได้เลย ผมจึงไปคว้าเป้ที่ห้องแล้วขึ้นสะพายหลังเตรียมออกจากบ้าน แต่พอเดินผ่านกลับมาอีกรอบก็นึกได้ว่าอาจารย์เซเลน่า เธอฝากธุระมาถึงพี่โคลเดรียนี่
“เออ จริงสิพี่โคลเดรียอาจารย์เซเลน่าเค้าฝากมาบอกน่ะว่าถ้ากลับแล้ว ให้ไปพบอาจารย์เทเรซ่าด้วย” ผมเลยหันกลับไปหาทางพี่โคลเดรียที่ยืนล้างจานอยู่อีกครั้ง เพื่อบอกเค้าถึงเรื่องนี้
“เอะ...ทำไมละยังไม่ถึงช่วงเช็คตามกำหนดเลยนี่” ผมเองก็อยากจะรู้เหมือนกันแหละพี่
“ไม่รู้สิเห็นอาจารย์เซเลน่าเค้าบอกว่าช่วงนี้พี่มีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น เร็วกว่ากำหนดและจังหวะจึงอยากเก็บข้อมูลใกล้ชิด คงเพราะพี่เป็นสายนภาที่หายากละมั้ง” เฮ้อ....ก็นำทั้งการ์เด็นท์ยังมีแค่สิบกว่าคนเองนี่ อาจารย์เทเรซ่าก็คงต้องใส่ใจเป็นพิเศษเลย
“งั้นเหรอขอบใจนะเซโร่” พี่โคลเดรียพูดแล้วก็หันกลับไปล้างจากต่อ ผมที่มองด้านหลังของพี่โคลเดรียแล้วก็คิดตามดู ถึงคำพูดของอาจารย์เซเลน่าดูจริงอยุ่ที่พี่โคลเดรียเป็นสายนภา แต่ 5 ปีที่ผ่านมานี้พี่เค้าดูเป็นผู้หญิงมากจริงๆ...จะเป็นไปได้มั้ยว่าพี่เค้าจะมีอะไรซักอย่างเป็นสื่อกระตุ้นน่ะ
*หมายเหตุ* สื่อกระตุ้นสำหรับ Ledal แล้วจะมีช่วงเวลาสะสมในการค่อยๆกลายสภาพไปตามจังหวะของชีวิตอยู่ ซึ่งแต่ละสายแต่ละคนก็มีไม่เท่ากัน และสามารถเร่งให้ไปถึงอาการกลายสภาพเป็นผู้หญิงได้ด้วยสิ่งที่เรียกว่าสื่อกระตุ้น โดยสิ่งที่ว่านั้นจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้ Ledal มีความรู้สึกคล้อยตามไปกับการกลายสภาพมากขึ้น โดยจะมีหลายสาเหตุแต่พูดโดยรวมๆคือการที่ถูกดึงเอาความเป็นผู้หญิงออกมาด้วยปัจจัยภายนอก เช่น อยากจะกลายสภาพไปเพื่อใครหรือสาเหตุอะไรที่เร่งเร้าอยู่ในใจ ก็จะทำให้การกลายสภาพเป็นเร็วมากขึ้น
“พี่โคลเดรียถามอะไรหน่อยสิ” มันคาใจผมมากซะจนอดเงียบเอาไว้ไม่ได้เลย แต่จริงๆนิสัยผมก็ไม่ใช่คนที่จะอดทนเก็บเงียบได้อยู่แล้ว ผมไม่ชอบความอึดอัดถึงถามไปแล้วจะได้คำตอบไม่เครียร์ก็ยังดีกว่า ต้องอดทนเอาไว้
“อะไรเหรอเซโร่” พี่โคลเดรียหันกลับมามองผมอย่างอ่อนโยนอีกครั้ง
“พี่น่ะมีอะไรที่ทำให้อยากเปลี่ยนสภาพเร็วขึ้นอยู่ในใจหรือเปล่า” โว้ย!! อายว้อย!! สำหรับ Ledal แล้วการไปถามแบบนี้ก็พอๆกับไปถามสาวว่า มีคนที่ชอบแล้วหรือยังนั้นแหละ พี่โคลเดรียยิ้มออกมาก่อนจะเริ่มหัวเราะเบาๆ
“คิกๆ..เซโร่เองก็ถึงวัยที่สนใจเรื่องนี้แล้วสินะ อืม~~~นั้นสินะอาจจะมีก็ได้นะ” อุ....ตึกตัก สีหน้าของพี่โคลเดรียในตอนนี้น่ารักชะมัด นี่ขนาดเจอกันมาเกือบทุกวันตั้ง 5 ปีแล้วยังเผลอใจเต้นเลย
แต่แบบนี้ก็ชัดเจนแล้วสิว่าต้องมีแน่ และต้องเป็นผู้ชายแหงๆใครกันนะอุตสาห์คุมเข้มขนาดนี้แล้วแท้ๆ ยังมีรอดหูรอดตาเข้ามาป่วนหัวใจพี่โคลเดรียได้อีกเหรอเนี่ย ถ้าพ่อรู้เข้ามีหวังโดนเอ็ดแหงๆ....แต่จะว่าไปคนผิดมันก็คือคนที่ไม่ยอมมาทำเองนี่หว่า
“พอจะบอกใบ้ได้มั้ยว่าเป็นใคร” แต่พอได้ยินแบบนี้ก็เริ่มรู้สึกสนใจมากขึ้นจนบอกไม่ถูกเลย อยากจะรู้ว่ามันเป็นใครกันก็ไม่ได้จะตามไปเก็บหรอก อย่างน้อยจะได้เอาไปอ้างกับพ่อได้บ้าง
“เป็น-ความ-ลับ-จ๊ะ” พี่โคลเดรียเอามือขวาที่ล้างน้ำแล้ว ขึ้นชูทาบริมฝีปากพร้อมหลับตาซ้าย อ๊าค~~~~!! ช็อตนี้มันมากเกินไปแล้วนี่สินะที่ยูอิจิเคยบอกว่า พวกสายนภาบ้างทีก็เล่นอะไรแรงๆออกมาอย่างไม่รู้ตัว ขอบอกอีกครั้งว่าผมไม่ใช่บราคอนหรือซิสคอนแต่อย่างใด.....แต่ว่าไม่ปฏิเสธหรอกนะที่จะบอกว่าพี่เค้าน่ารักจริงๆ
สถานที่ -ไคเซอร์การ์เด็นท์ชั้นที่ 3
วัน สัปดาห์ที่ 1 วันจันทร์ เดือน 2 ปีแสงที่ 723
เวลา 16:04 น.
“สรุปว่าน้องของพี่สาวจะมาอยู่ด้วยสินะ” ก็บอกว่าพี่ชายไงเล่านี่นายจะหาเรื่องกันใช่ปะเนี่ยเรนัส
“ดีจังนะครับเซโร่เนี่ยดวงถูก Ledal จริงๆนะครับ มีทั้งนภากับวายุมาอยู่ร่วมบ้านด้วยเลยแถมยังมีราตรีมาสนใจอีก เป็นที่นิยมจริงๆนะครับเนี่ย” ดีกะผีอะไรเล่าว้อยอาเลนพี่โคลเดรียน่ะดีตามที่ว่าแต่อีก 2 คนนี่สิ
“ดีตรงไหนคนหนึ่งก้เหม็นขี้หน้าอีกคนก็หมายมั่นปั้นมือจะโค่นให้ได้ นอกจากพี่โคลเดรียแล้วมีแต่เรื่องน่าปวดหัวทั้งนั้น” แถมยังไม่รู้ไ.อ้หน้าไหนมันเป็นคนทำให้พี่เค้ายิ่งเดินหน้ากลายเป็นผู้หญิงซะอีกด้วยแน่ะ
“เอาเถอะเซโร่นายจะคิดยังไงมันก็เรื่องของนาย แต่อย่าลืมซะละว่าพวกเรากำลังจะลงประลอง รีบๆใส่แบล็คสูทแล้วออกไปได้แล้วอย่าลืมที่ตกลงกันเอาไว้ละ” เฮ็อ...ก็มีแต่นี่แหละที่เป็นเรื่องดีของวันนี้หน่อย ซวยหน่อยก็แล้วกันเหล่ารุ่นพี่ซอร์ดสโตเกอร์ ที่ดันมาเจอผมในตอนที่กำลังอยากอาละวาดเป็นพิเศษแบบนี้
เมื่อพวกผมใส่สูทที่เป็นเสื้อสีดำและกางเกงสีดำแบบพอดีตัวเพื่อความคล่องตัว สำหรับใช้วัดแต้ม LP แต่จริงๆแล้วแบล็คสูทที่ว่านี้มันชุดใส่ลงสนามรบ เมื่อใดที่ทางการ์เด็นท์ต้องส่งนักเรียนจำนวนมากลงสงคราม
ก็จะได้รับอนุญาติให้ใส่ชุดแบล็คสูทที่มีช่องและกระเป๋าที่มีคล่องตัวสูง ลงสนามรบอานุภาพชุดสูทนอกจากจะเก็บของติดตัวได้ดีแล้ว ยังช่วยลดอานุภาพของคมอาวุธอาร์มและฟอร์ซกับไซได้พอตัว ซึ่งก็ยังดีกว่าเอาตัวเปล่าๆไปรับนั้นแหละ ยกเว้นผมอะนะ
-อนาเธอร์ไซด์ อิน-
“เอาละครับทุกท่านผมโฆษกโคซาว่าเอนอสเจ้าประจำแห่งดูเอลอารีน่า นี้ก็ใกล้จะได้เวลาประลองของอารีน่าที่ 7 กันแล้ว และวันนี้ทุกท่านคงทราบดีแล้วว่าคู่ที่กำลังสนามคือใครกัน แต่ก่อนหน้านั้นผมขอแนะนำแขกรับเชิญ 2 ท่านกันก่อนเลย” เจ้าหน้าที่ผู้บรรยายการประลอง ได้เริ่มส่งเสียงปลุกเร้าความสนใจของผู้ชมที่มานั่งดูกันอย่างคับคั่ง เมื่อใกล้ได้เวลาลงประลองเข้าไปทุกที
“ท่านแรกอาจารย์แห่งแผนกฟอร์ซคนดังผู้คุมแห่งเหล่าแบล็คลิสต์!! อาจารย์ลีออน เล็นท์กันเดลคร้าบ!!” โฆษกพูดแล้วก็ผายมือไปทางผู้นั่งทางขวาในห้องพิเศษสำหรับโฆษก
“หวัดดี” ซึ่งลีออนก็แค่ส่งเสียงทักเฉยๆ
“และอีกท่านสาวงามที่เพิ่งจะกลับมาทางเราไปคว้าตัวมาได้พอดี!! โคลเดรีย!! เรเนอร์ไดท์คร้าบ!!” ส่วนโคลเดรียหลังจากออกห้องเรียนก็โดนล็อคตัวมาเลยทันที
“สะ..สวัสดี” ซึ่งเค้าก็มีท่าทางตื่นๆเพราะยังงงๆอยู่
“ตอนนี้ก้ใกล้จะได้เวลาแล้วถ้างั้นอย่ารอช้าเรามาชมฟิลด์ของการประลองนี้กันเลย!!” แล้วผุ้บรรยายโคซาว่าก็เริ่มนำเข้าสุ่เนื้อหาการประลอง โดยแนะนำฟิลด์ที่ถูกซูมิเรชั่นขึ้นมาภายในโดมกว้างข้างล่างที่เป็นส่วนที่ทั้ง 2 ทีมต้องประลองกัน ส่วนคนดูทั้งหมดจะอยุ่ด้านบนมีกำแพงแก้วอย่างหนาคอยกั้นไม่ให้โดนลูกหลง และยังมีบอร์ดใสลอยให้ดูในแบบซูมใกล้อีกด้วย
แต่ก็ใช่ว่าจะบรรจุคนได้หมดดังนั้นจึงต้องมีคนส่วนหนึ่งยืนดูอยู่รอบนอกผ่านจอขนาดใหญ่ด้วย ส่วนที่นั่งในชั้นที่ต่ำลงไปใกล้อีกระดับ เป็นชั้นที่ต้องเสียเงินเข้าไปถึงจะเข้าไปได้ ส่วนที่นั่งทั่วไปจะฟรีหมด
วู้ม!! โดมข้างล่างที่เป็นที่ว่างสีขาวก็เปลี่ยนไปทันทีหลังผู้บรรยายพูดถึงไปไม่นาน โดยมันเปลี่ยนสภาพเป็นพื้นที่รกร้างกว้างๆไร้ซึ่งกีดขวาง อันเป้นฟิลด์ที่ทางซอร์ดสโตเกอร์เลือกมา
“และฟิลด์ในวันที้ก็คือพื้นที่รกร้างกว้างๆไร้สิ่งกีดขวางครับ อาจารย์ลีออนครับขอทราบความเห็นหน่อยสิครับ คิดว่าทำไมทางวอร์ดสโตเกอร์ถึงเลือกฟิด์นี้มากันครับ” ก่อนโคซาว่าจะโอนให้ลีออนเป็นอิบายถึงเรื่องนี้
“เอ่อ..ถ้าจะให้พูดแล้วนี่คงเป็นความมั่นใจของทีมซอร์ดสโตเกอร์น่ะ อยากที่รู้กันทีมนี้มีท่าไม้ตายประสาน 7 คน ที่ชื่อว่า ดาบเจ็ดดาว- เป็นท่าที่จะแสดงประสิทิภาพสูงสุดในที่เปิดโล่ง ดังนั้นที่ทีมซอร์ดสโตเกอร์เลือกฟิลด์นี้ก็คงมั่นใจว่าจะเอาชนะอีกฝ่ายได้แน่นอน จึงไม่ต้องการลูกเล่นของพื้นที่” ลีออนจึงต้องตอบอย่างเสียไม่ได้เมื่อเค้าถูกบังคับมาเป็นแขกรับเชิญ เพราะโดนยัดเยียดให้มาคุมเคลเบลอสที่รอบนี้โดนลงโทษเสริม
“โอ้ จริงด้วยนะครับตลอดการต่อสู้ของทั้ง 2 ทีม ทีมเคลเบลอสชนะขาด 10 ครั้งก็จริง แต่ทุกครั้งทีมซอร์ดสโตเกอร์ไม่เคยมีสมาชิกลงประลองถึง 7 คนเลย นี้จึงอาจเป็นการต่อสู้ที่แท้จริงของทั้ง 2 ทีมก็ว่าได้ แถมวันนี้ทีมเคลเบลอสยังโดนโทษแบนหนักด้วย” เพราะแบบนี้อัตราการต่อรองจึงกึ่งกลางเอามากๆ
และกว่า 90% ลงข้างทีมซอร์ดสโตเกอร์หมด ส่วนหนึ่งก็เพราะไม่ค่อยชอบทีมเคลเบลอสด้วย กึ้งๆๆๆๆ!! เมื่อได้เวลาม่านเหล็กที่กั้นทางเข้าของทั้ง 2 ฝั่งก็เปิดขึ้น เพื่อให้ทั้ง 2 ทีมสามารถเข้ามาในอารีน่าได้
“ในที่สุดก็จะเริ่มกันแล้วครับตอนนี้ทั้ง 2 ทีมก็ได้ก้าวเข้าสู่อารีน่ากันแล้ว” โคซาว่าพูดแนะนำถึงสภาพในอารีน่าทันทีอย่างรู้งาน เมื่อทีมเคลเบลอส 3 คนกับทีมซอร์ดสโตเกอร์ 7 คนลงสนาม
“โฮ่ๆๆๆๆๆๆๆๆ!!” ซึ่งคนดูเกือบทั้งหมดต่างพากันโหรับทันทีที่เห็นเคลเบลอส แสดงให้เห็นถึงชื่อเสียงที่ไม่ค่อยดีเท่าไร ซึ่งเรนัสที่ขี้เบื่อก็ไม่สนใจอะไรกับเรื่องนี้เท่าไร อาเลนที่ชินแล้วก็เลยเฉยๆ มีแค่เซโร่ที่ยกแบนทั้ง 2 ข้างขึ้นรับคำโหอย่างยินดี
“โอ๊ะโอดูเหมือนทีมเคลเบลอสจะได้รับการต้อนรับที่ไม่ค่อยดีเท่าไรจากแฟนๆนะครับเนี่ย แต่ถึงอย่างสมาชิกทีมก็ดูจะไม่ค่อยหวั่นไหวเท่าไร สมกับที่ผ่านสังเวียนมามากจริงๆ ว่าแต่อาจารย์ลีออนพอจะทราบมั้ยครับว่าทำไมทั้ง 3 คนถึงได้นิ่งกันขนาดนี้” โคซาว่าก็ยังคงทำหน้าที่ไม่ขาดจนกว่าการต่อสู้จะเริ่มขึ้น
“อีก 2 คนไม่รู้แต่เจ้าบ้าเซโร่มันชอบให้คนโห่ไล่น่ะ” ลีออนจึงตอบคำถามแบบหน้าตาย เพราะรู้นิสัยของทั้ง 3 คนดีแต่ขี้เกรียจพูดเลยพูดถึงแค่เซโร่คนเดียว
“เป็นรสนิยมที่แนวซะจริงสมเป็นทีมวีรทรชนอย่างเคลเบลอสจริงๆ จริงสิครับคุณโคลเดรียหนึ่งในสมาชิกของทีมเคลเบลอส เซโร่ก็เป็นน้องชายของคุณสินะครับมีอะไรจะพูดถึงเค้าบ้างหรือเปล่าครับ” ก่อนโคซาว่าจะโอนไมคืไปทางโคลเดรียบ้าง การกระจายการพูดออกไมค์ให้กับแขกรับเชิยอย่างทั่วถึง พอเหมาะพอเจาะ และลงตัวก็เป็นงานอย่างหนึ่งของผู้บรรยายเช่นกัน
“เอ๊ะ...เอ่อ..คือ..งั้นก็.สู้เค้านะเซโร่” ฮู่ๆๆๆๆๆ!! ในทันทีที่โคลเดรียส่งเสียงเชียร์ออกไป คนดูทั้งหมดต่างโห่ไล่เซโร่ยิ่งกว่าเดิม และดูเหมือนจะไม่พอใจมากด้วยที่สาวงามอันดับ 3(ของจริงอันดับ 1) จะเชียร์หมาหัวเน่าอย่างเค้า ทำเอาเซโร่สลดไปในทันทีเพราะดูเหมือนเค้าจะไม่ชอบการโห่ไล่ประเภทนี้ แล้วไหนจะสายตาของเพื่อนร่วมทีมอีก
“ขอบคุณครับสำหรับกำลังใจอันยอดเยี่ยมและตอนนี้ก็ได้เวลาเริ่มกันแล้ว เพราะงั้นผมจะขอตัดเสียงไมค์ที่จะถ่ายทอดลงไปที่อารีน่า เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนสมาธิของผู้ลงประลองแต่ทางผู้ชมจะยังได้ยินเช่นเดิมนะครับ” ติ้ด!! ก่อนโคซาว่าจะทำการตัดเสียงไมค์ พร้อมกับมีสัญญาณไฟ 4 ดวงปรากฏขึ้นที่บอร์ดใส
“Set Up....Stand By
.Ready
.Go!!” มีเสียงประกาศดังบอกถึงการเริ่มดังไปทั่วอารีน่าที่ 7 นี้ พร้อมกับสัญญาณไฟที่สว่างขึ้นทีละดวง โดยอันแรกจะหมายถึงให้จับอาร์มให้มั่น อันที่สองหมายถึงตั้งท่า อันที่สามหมายถึงเตรียมตัวตั้งสมาธิและอันที่สี่ให้เริ่มได้
“ริริส!!!!” เสียงปลดล็อคอาร์มของผู้ลงประลองดั่งสนั่นขึ้นพร้อมกัน อันเป็นเอกลักาณ์ของการเริ่มประลอง
“นี่แหละครับ 1 ในเหตุผลที่เลือกมาเป็นผู้บรรยาย เสียงปลดล็อคอาร์มที่ดั่งพร้อมกันที่เร่าร้อนนี่แหละครับ แต่ดูเหมือนจะมีคนหนึ่งที่ไม่ใช่นะครับ เค้าไม่ใช่ใครอื่นเซโร่หัวที่คลุ่มคลั่งที่สุดของเคลเบลอสหนึ่งในคนหายากที่ไม่ใช้อาร์มนั้นเองครับ เค้าสาวเท้าวิ่งอย่างเต็มเหยียดเข้าใส่เป้าหมายอย่างเคย” แต่เซโร่ที่ไม่ใช่อารืมเลยอาศัยจังหวันี้บุกเข้าตะลุยเป็นประจำ
“ตามด้วยหัวที่สุขุมที่สุดเรนัสที่วิ่งตามเซโร่ไปแล้ว ส่วนหัวที่ใจดีที่สุดและจิตที่สุดอย่างอาเลนก็ถอยสเต็ปไปข้างหลัง 2 ก้าว ก่อนนั่งลงประทับอาร์มรูปแบบปืนไรเฟิ่ลของเค้า” โคซาว่าบรรยายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด ด้วยอารมณ์ที่เร่าร้อนแต่ทางซอร์สโตเกอร์ยังคงยืนนิ่งและในที่สุด
ฟุ่บๆๆ!! ซอร์สโตเกอร์ก็มีการเคลื่อนไหว ผู้ใช้ดาบใหญ่ทั้ง 3 ก็วิ่งกระโจนเข้าใส่เซโร่ในทันที แต่ว่าไม่เพียงเท่านั้นอีก 3 คนก็กระโดดลอยตัวตามหลังไปด้วย
“มาเลย!!” ทำให้เซโร่ร้องตะโกนอย่างตื่นเต้นเพราะเค้ารอที่จะดูฝีมือจริงๆของทีมซอร์สโตเกอร์อยู่แล้ว วู้มๆ!! เค้าเร่งพลังฟอร์ซมาปกคลุมที่มือทั้ง 2 ข้างเพื่อเตรียมซัดให้กระจายเอาไว้แล้ว
“....หา” แต่เซโร่ก็ต้องงงเมื่อทั้ง 3 คนที่ลอยตัวตกลงไปเหยียบ 3 คนที่วิ่งมาแทนและ ตึงๆๆ!! พากันกระโดดข้ามหัวเซโร่ไปหมด เคร้งๆๆ!! และก็ต้องรับรับมือกับบัตเตอร์ซอร์ด(ดาบใหญ่คมเดียว) แอ็คซอร์ด(ดาบขวาน)และลาทซอร์ด(ดาบใหญ่)
*หมายเหตุ* บัตเตอร์ซอร์ดเป็นดาบที่มีลักษณะใบดาบแผ่นใหญ่คมเดียวมีน้ำหนักมาก แอ็คซอร์ดเป็นดาบที่จับด้านข้างมีคมดาบคมเดียวแต่ที่ปลายดาบจะใหญ่กว่าปกติคล้ายขวาน ลาทซอร์ดคือดาบใหญ่ 2 คม
“ฮึ!!” ฟุ่บ!! ฉึกๆๆ!! ส่วน 3 คนที่ข้ามหัวเซโร่ไปก็ชักเรเปีย ดาบคาตานะยาวตั้งท่าอิไอ ดาบนินจา(ดาบคาตานะตรงไม่โค้ง) เข้าฟันใส่เรนัสจนต้องฉีกหลบออกไปทางซ้าย ตึกๆๆๆ!! ส่วนคนที่ใช้ดาบคู่ 2 คมก็วิ่งมาทางพื้นที่เปิดทางซ้ายมารอจังหวะอะไรบางอย่างอยู่
“ยุ่งละสิ” แกร็ก!! อาเลนที่เห็นทั้งคู่โดนคน 3 คนตรึงเอาไว้ได้จึงดึงไกเล็งยิงหวังช่วยสร้างจังหวะให้ โดยเล็งไปที่คนใช้เรเปียที่จะปัดกระสุนได้ยากที่สุดก่อน ปัง!! พิ้ง!! แต่พอยิงออกไปคนที่ใช้ดาบคู่ก็วิ่งเข้ามาปัดกระสุนซะก่อน
“โอ้!! อะไรกันครับเนี่ย!! เพียงแค่ลงครบ 7 คนเคลเบลอสที่กำชัยชนะมาได้ตลอดก็โดนกดดันเอาไว้ได้หมดเลย!!” เป็นครั้งแรกที่โคซาว่าเห็นทีมเคลเบลอวโดนรุกถึงขนาดนี้
“ใช้ได้นี่ 3-3-1 เดลต้าฟอร์เมชั่นงั้นเหรอ ไม่เลวๆ” ซึ่งลีออนก็พอใจมากกับการพัฒนาการของซอร์ดสโตเกอร์ ที่สามารถสะกดฟอร์เมชั่นของเคลเบลลอสที่ใช้ได้ผลมาตลอดลงได้
“หมายความว่าไงหรือครับอาจารย์ลีออน” ทำให้โคซาว่าอดที่จะถามไม่ได้แต่ตอนนี้ลีออนเริ่มอารมณ์ดีกับการได้เห็นแท็คติกใหม่ๆของทีมซอร์ดสโตเกอร์ จึงจะช่วยบอกให้อย่างละเอียดเลย
ไดเร็คท์ฟอร์เมชั่นคือรูปแบบที่เคลเบลอสใช้ ซึ่งก็ตรงตามชื่อเลยด้วยการส่งเซโร่ที่ออกตัวไวที่สุดเนื่องจากไม่ต้องริริสอาร์ม เข้าทลายและป่วนฟอร์เมชั่นที่ตั้งรับอยู่ของอีกฝ่าย ด้วยพลังของเซโร่ที่ทำให้รูปแบบเสียไปจนถึงแนวกลาง เรนัสที่ตามมาก็จะเข้าขัดขวางการปรับหรือฟื้นฟูรูปแบบ ก่อนจะทะลวงฝ่าแนวหน้าที่เซโร่ป่วน ผ่านแนวกลางที่กำลังเซเข้าทลายแนวหลัง ส่วนอาเลนจะคอยสนับสนุนช่วยทั้ง 2 คนอย่าง หยุดการตลบหลังของแนวกลางใส่เรนัสที่ไปถึงแนวหลัง หรือช่วยเปิดจังหวะให้เวโร่ทลายเข้าไปซ้ำจนถึงแนวกลาง
แต่ทั้งหมดถูกสะกดเอาไว้ได้ด้วย 3-3-1 เดลต้าฟอร์เมชั่น ด้วยการแบ่งคนออกเป็น 3 กลุ่ม 3 คน 2 กลุ่ม 1 คน 1 กลุ่ม เท่ากับจำนวน 7 คนพอดี และด้วยแนวคิดที่เหนือชั้นรักษาฟอร์เมชั่นไม่ให้เซโร่ทำลายได้ด้วยการส่ง 3 คนออกไปเป็นแท่นกระโดดส่งออกไปให้พ้นระยะหวังผลของเซโร่ และ 3 คนคนนั้นก็จะหยุดเซโร่เอาไว้ 3 คนที่ออกไปก็จะไปหยุดเรนัสที่ตามมา ส่วนคนสุดท้ายคนปัดการช่วยเหลือของอาเลนในแนวหลังโดนห้ามบุก เพราะถ้าบุกเข้าไปอาเลนอาจจะมีโอกาสล็อคหลบแล้วยิงช่วยได้
“แต่มันไม่จบเท่านี้กรอกนะนี้มันแค่การซื้อเวลา ถ้าเคลเบลอสไม่รีบแก้ไขได้โดนไม้เด็ด ดาบเจ็ดดาวแน่” ลีออนอ่านแผนทั้งหมดอย่างทรุปรุโปร่ง ด้วยสายตาของผู้ที่ผ่านสงครามมามาก และยังมองออกอีกด้วยว่าคนที่จะโดนก็คือเซโร่
ไม่นานสิ่งที่ลีออนพูดก็เป็นจริง เปรี้ยะๆๆๆ!! เหมือนฟอร์ซของซอร์สโตเกอร์ทั้ง 7 ประสานกันได้จนเหมือนมีกระแสไฟฟ้าเชื่อมถึงกัน 7 คน ตึกๆๆๆๆๆๆ!! ทั้ง 7 คนถอยไปล้อมเซโร่เอาไว้หมด
ปังๆๆๆ!! แก็งๆๆ!! ผัวะๆๆ!! แม้อาเลนกับเรนัสจะพยายามโจมตีแต่ก็ไม่มีผล เพราะเมื่อฟอร์ซผสานกันได้จะเกิดกำแพงอันแข็งแกร่งที่พลังธรรมดาทำลายไม่ได้อยู่ ต้องรวบรวมพลังมากเข้าทำลาย แต่ทั้ง 2 คนไม่มีเวลาจะทำแบบนั้นเซโร่ที่อยู่ตรงกลางวงล้อมก็โดนพลังของสนามพลังฟอร์ซบีบอัดจนเหมือนถูกตรึงจากรอบทิศ
“อั่ค!!...อะไรกันฟะ!! ขยับไม่ได้เลยว้อย!!” เปรี้ยะๆๆๆ!! กระแสพลังฟอร์ซที่ผสานกันรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงขีดสุดและ ฉัวะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!! ทั้ง 7 คนผลัดกันวิ่งเข้าไปรุมฟันใส่เซโร่ที่อยู่ตรงกลางอย่างต่อเนื่องไม่ขาดจังหวะ
“อ๊าค!!” การฟันไม่เพียงแต่สร้างความเสียหายให้แก่เซโร่ แต่ยังสร้างพลังงานฟอร์ซครอบคลุมเซโร่ด้วย ฉึกๆๆๆๆๆๆ!! ก่อนจะพุ่งเข้าแทงพร้อมกันเพื่อบีบอัดพลังให้ดันร่างเซโร่ที่โดนตรึงสมบูรณ์ ลอยขึ้นไปกลางอากาศ
ตึงๆๆๆๆๆๆ!! ทั้ง 7 คนรีบกระโดดขึ้นไปลอยตัวเหนือร่างเซโร่ทั้ง 7 ด้าน วู้มๆๆๆๆ!! ก่อนเริ่มชาร์นฟอร์ซ์ลงดาบอย่างหนาแน่น ฟู่มๆๆๆๆๆๆ!! แล้วฟาดดาบแห่งพลังฟอร์ซทั้ง 7 เข้าอัดใส่เซโร่ที่โดนตรึง ตูมๆๆๆๆๆๆ!! เกิดระเบิดสนั่น 7 ครั้ง ตูมๆๆๆๆๆๆ!! ก่อนจะมีแรงระเบิดตามมานับครั้งไม่ถ้วนเพราะแรงสะท้อนจากพลังที่ตรึงเซโร่
ฟู่~~~~~!! เมื่อการระเบิดจบลงกลุ่มคว้นที่จางหายแทบจะในทันทีเพราะแรงระเบิด ก็ปรากฏร่างของเซโร่ที่ยังลอยอยู่กลางอากาศ เพราะแรงตรึงที่ค้างอยู่ วิ้ว~~~~~~!! ตึง!! ก่อนตกลงมากระแทกพื้นอย่างแรง
“อั่ค!!” จนกระอั่กเลือดชุดแบล็คสูทก็ขาดกระรุ่งกรริ่งไปตามจุดต่างๆบ้างแล้ว ในตอนนั้นคน 2 คนที่ดูอยู่ คนหนึ่งยืนพิ่งกำแพงตรงจุดที่ชมใกล้ชิดที่ต้องเสียเงิน มองดูเซโร่ด้วยแววตาที่มองเห็นอะไรบางอย่างอย่างสงบ และอีกคนที่ด้านนอกที่ดูบอร์ดใสรายงานผลสมถะเชอะอย่างหงุดหงิดกับความจริงบางอย่างที่มองเห็นเช่นกัน
ควับ....เซโร่เหลือบไปมองทางเรนัสที่อยู่ด้านหลัง ควับ!! เรนัสชู 2 นิ้วแล้วกำมือดึงเข้ามาที่อกก่อนยกขึ้นเหนือหัวชูนิ้วชี้ แล้วฟาดลงมาจนสุด ทำให้เซโร่แสยะยิ้มออกมากับรหัสลับที่ส่งมาถึง
“หน็อย!! เล่นซะเจ็บเลยนะว้อย!! ทีนี้ตาฉันบ้างแล้ว!!” วู้มๆๆๆๆ!! เซโร่เร่งฟอร์ซเสริมพลังทั้งตัวก่อนบีบไปลงที่มือมากหน่อย แล้วลุกขึ้นวิ่งเข่าใส่กลุ่ม 3 ดาบใหญ่ แก็งๆๆๆๆ!! แล้วระดมชกใส่ไม่ยั้ง
“อาจารย์ลีออนครับถ้าจำไม่ผิดเซโร่เค้าโดนโทษแบนห้ามใช้มือนี่ครับ ถึงจะบอกว่าถนัดมือแต่แบบนี้แต้มก็จะเพิ่มเปล่าๆสิ” โคซาว่าที่เห็นเซโร่เมิ่นกฏแบนเพราะความโกรธหรือเปล่า จึงหันไปถามความเห็นลีออนอีกครั้ง
“ไม่หรอกกฏแบนบอกแค่โจมตีใส่ตัว ถ้าใส่อาวุธอาร์มถือเป็นแค่การปัดป้องแต้มไม่เพิ่มหรอก...แต่ไม่ดาวน์งั้นเหรอถ้างั้นก็จบแค่นี้แล้วละ” ลีออนเองก็มองเห็นถึงบางอย่างเช่นกันและเค้าก็รู้แล้วว่า ชัยชนะหนีไปจากทีมซอร์ดสโตเกอร์แล้วที่ทำให้เซโร่ดาวน์ในครั้งเดียวไม่ได้
*หมายเหตุ* ดาวน์(Down) คือคำที่ใช้บอกถึงการแพ้ของผู้ประลองเนื่องจาก LP หมด ไม่สามารถทำการต่อสู้ต่อไปได้แม้ LP เหลือและยอมแพ้เอง
ตูมๆๆๆๆ!! แล้วพิธีกรรมดาวเจ็ดดาวก็ระเบิดใส่เวโร่อีกครั้งจนได้หลังถ่วงเวลาแบบเดิม ก่อนจะประสานฟอร์ซกันได้อีกครั้ง แต่ในครั้งนี้หลังควันจาง ฟ้าว!! เซโร่กลับไม่ลอยเฉยๆเค้าพุ่งลอยเข้าใส่คนที่ใช้ดาบใหญ่ 2 คม
“เอาไปเลย!!” ผัวะ!! ถีบเข้าใส่กลางตัวอย่างจัง ควับ!! ผัวะ!! พออีกฝ่ายจะขยับดาบเซโร่ก็เตะใส่แขนข้างที่ถือดาบ หมับ!! ก่อนขยับจับคมดาบแบบที่ไม่บาดมือเพราะฟอร์ซที่มือช่วยป้องกันเอาไว้ให้ กึก!! ก่อนกระชากออก ฟ้าว!! แล้วขว้างทิ้งไป
ก้อง!! และไม่ได้ขว้างทิ้งไปเปล่าดาบไปกระแทกใส่คนที่ใช้ดาบเรเปียด้วย ระหว่างนั้นเซโร่ก็ขึ้นเหยียบบ่าแล้วกระทื้บใส่ไม่ยั้ง ส่วนคนที่ใช้ดาบเรเปีย
.ปัง!!
“เข้าเป้า..หึๆๆๆ” ก็โดนอาเลนยิงเข้ากลางเสกหน้าด้วยกระสุนฟอร์ซที่ไม่ทำให้ตาย เพราะกำแพงพลังฟอร์ซหายไปเพราะคนหนึ่งโดนเซโร่เล่นงานไปแล้ว
“เอ็นเก็ท!!” ฟู่มๆๆๆๆ!! และเรนัสก็ฟาดคมคลื่นดาบใส่คนที่ใช้ดาบคู่ที่หันหลังให้อย่างต่อเนื่อง ตึงๆๆ!! พอทั้ง 3 คนตกลงพื้น LP ก็หมดไปแล้ว จึงโดนประกาศทริ้ปเปิ้ลดาวน์ไปในทันที
“นี่...นี่มันเกิดอะไรกันขึ้นครับเนี่ยผมเองที่ดูอยู่ก็ยังไม่เข้าใจเลย” โคซาว่าที่มองตลอดก้ยังไม่เข้าใจว่า จุดที่พลิกพลันมันอยุ่ตรงไหนกันแน่
“ไม่ต้องงงหรอกโคซาว่าเรื่องนี้มันรู้ผลกันตอนที่เซโร่ไม่ดาวน์แล้ว พวกนั้นมั่นใจในดาบเจ็ดดาวมากเกินไปจนมองข้ามความยอดเยี่ยมของเซโร่ เรนัสและอาเลนไป” ซึ่งทุกคนก็ลืมไปแล้วจริงๆว่าเซโร่คือผุ้ครอบครองฟอร์ซในด้านเสริมความแข็งแกร่งระดับฟ้าประทาน EX และมันคือจุดที่ใช้เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสนั้นเอง
ลีออนบอกให้ทุกคนรู้ว่าดาบเจ็ดดาวเป็นท่าใหญ่ที่ต้องใช้เวลานาน ในการประสานฟอร์ซเพื่อสร้างกำแพงป้องกัน และผนึกศัตรูที่อยู่ในวงล้อม เพื่อที่จะซัดดาบใหญ่ในตอนท้ายได้อย่างเต็มที่ คิดถูกแล้วที่ถ่วงเวลาประสานฟอร์ซ แต่พวกซอร์ดสโตเกอร์มองข้ามเคลเบลอสมากเกินไป จึงไม่รู้ว่าตกอยู่ในแผนของเคบเบลอสไปซะแล้ว
เพราะถ้าสังเกตุดีๆจะคิดได้ว่าระดับฟอร์ซประเภทเสริมความแข็งแกร่ง EX ไงถึงโดนตรึงได้ง่ายขนาดนั้น ทำไมเซโร่ไม่แหวกออกมาในตอนต้นเลย ในตอนเริ่มกำแพงฟอร์ซจะป้องกันจากภายนอกไม่ใช่ภายใน ถ้าเซโร่เร่งฟอร์ซให้สูงสุดก็น่าจะฝ่าการตรึงเบาๆในตอนแรกได้
ที่ไม่ทำส่วนหนึ่งคือเซโร่ชอบที่จะโดนท่าแรงๆของอีกฝ่ายเพื่อรับรู้ความยอดเยี่ยมของอีกฝ่าย และอีกอย่างคือเพื่อให้เรนัสมองหาจุดที่หวังผลสูงสุดได้จากการเห็นท่าไปแล้ว ในตอนแรกที่เซโร่ยอมโดนก้เพราะเหตุนั้น และถ้าจะฝ่าลุยอย่างมากก็เก็บได้คนเดียวดีไม่ดีจะโดนอีก 6 คนมาช่วยจนเก็บไม่ได้เลย
ที่เรนัสส่งสัญญาณก็คือ ครั้งที่ 2 รอสัญญาณแล้วจัดการเลย- นั้นเอง เหตุผลที่ต้องตรึงก็เพื่อจะซัดพลังโดยที่อีกฝ่ายไม่สามารถเร่งฟอร์ซป้องกันได้นั้นเอง ในครั้งที่ 2 ตอนเริ่มสลับฟันเซโร่ก็เร่งฟอร์ซป้องกันตัวเองและฝืนการตรึง ทำให้ไม่ได้รับบาดเจ็บเลยจากพลังระดับ EX เค้ารอให้ลอยขึ้นและโดนกระหน่ำดาบเจ็ดดาว แน่นอนว่าต้องบาดเจ็บเพราถึงจะระดับ EX แต่ความแรงขนาดนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่บาดเจ็บ ซึ่งก็ยังเทียบกับครั้งแรกไม่ได้อยู่ดี
ในตอนจบเซโร่ก็จะลอยตัวอย่างอิสระและอีกฝ่ายก็จะลดการืดลงด้วยเพราะเพิ่งใช้ท่าใหญ่ไป เซโร่ก็จะใช้พลังที่ลอยตัวพุ่งเข้าจัดการ 1 คน พอโดนเล่นงานภายใน 1 คนไปกำแพงพลังฟอร์ซก็จะหายไปเพราะขาดไป 1 คน การประสานฟอร์ซจะจบลง
อาเลนก็จะเล็งยิงจากนอกระยะการระวังอย่างแม่นยำใส่อีกคนที่ดาบกระเด็นไปโดน สุดท้ายเรนัสก็จะจัดการอีกคน นี้ก็จะหลายเป็นพลิกกลับจัดการทีเดียว 3 คน ทีนี้ก็จะเหลือแค่ 4 คน ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับครั้งก่อนๆแล้ว สุดท้ายก็โดนไล่เก็บจนแพ้ไปหมดด้วยไดเร็คท์ฟอร์เมชั่นนั้นเอง
“จบแล้วผู้ชนะคือทีมเคลเบลอสครับ!! ไม่น่าเชื่อแต่ก็ต้องยอมรับแล้วว่าวันนี้เจ้ามือกินเรียบ!!” ทำให้วงพนันพลิกครั้งใหญ่ทางการ์เด็นท์ได้เงินไปหลายแน่นอนว่า ส่วนแบ่งมหาศาลก็จะตกถึงทีมเคลเบลอส ยังไม่รวมขอวงเดิมพันที่อีกฝ่ายเสนอมาอีกด้วย และแน่นอนว่าลีออนก็แทงทางฝั่งเคลเบลอส
“คิดอยู่แล้วละว่าทีมนี้ต้องไม่ใช่หมาบ้าธรรมดา สายตาของฉันที่เลือกคู่แข่งน่ะไม่เคยพลาดหรอกนะ” คนที่บืนดูพิ่งกำแพงก็พูดออกมาอย่างรู้อยู่แล้วว่าผลต้องเป็นแบบนี้ ซึ่งเค้าก็คืออิลิยะจากทีมไฮสกายผู้ที่หมายตาจะท้าทีมเคลเบลอสเป็นทีมต่อไปนั้นเอง จากเรื่องในวันนี้เค้าได้รุ้อะไรอีกมากเกี่ยวกับทีมเคลเบลอส และเค้าต้องวางแผนมาให้ดีกว่านี้ด้วย ก่อนจะเดินออกไปอย่างเงียบๆ
“เชอะ!!” ส่วนอีกคนก็ดูไม่ค่อยพอใจที่เห็นว่าชนะ แต่แว่บหนึ่งเค้าเลือบไปมองดูเซโร่ด้วยสีหน้ามุ่ยๆที่ให้ความรู้สึกแตกต่างจากเดิม ก่อนจะเดินจากไปโดยไม่หันไปมองอีก ซึ่งเค้าก็คือริเดีย
-อนาเธอร์ไซด์ เอาท์-
สถานที่ -ไคเซอร์การ์เด็นท์ชั้นที่ 3
วัน สัปดาห์ที่ 1 วันจันทร์ เดือน 2 ปีแสงที่ 723
เวลา 17:14 น.
“ยะฮู้ว~~~~!! รวยแล้วเรา!!” สุดยอดคนแห่ไปแทงทางซอร์ดโตเกอร์กันหมด 20% ของเจ้ามือก็หลายหมื่นเหยียบแสนละหว่าสบายไปอีกนานเลยเรา วันเดียวได้ขนาดนี้หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วนะเนี่ย
“จะดีใจก็ไม่ว่าหรอกนะแต่อย่าให้เกินงามเลย สุดท้ายนี้มันก็เป็นแผนปั่นแต้มต่อของอาจารย์ลีออนเค้าอยู่ดีแหละ...เฮ็อ” เอ๋....หมายความว่าไงเนี่ยเรนัส
“ใช่ครับผมเองก็ว่ามันแหม่งๆมาตั้งแต่ตอนโทษแบนพวกเราแล้วละ ทั้งให้ลง 7 คน ระงับการใช้มือของเซโร่ที่ดูเหมือนจะเสียเปรียบสุดๆ แต่โทษแบนของผมกับเรนัสน่ะมันแทบจะไม่มีผลอะไรเลย ปกติผมก็ยิงหัวเป็นหลักอยู่แล้ว เรนัสเองก็มักจะจัดการให้ดาวน์เป็นคนๆไปอยู่แล้วด้วย แบบนี้มันเป็นแผนปั่นแต้มต่อเอาเงินแน่ๆ เชื่อเถอะครับว่าอาจารย์ลีออนน่ะลงข้างพวกเราชัวท์” สุดท้ายแล้วพวกเราก็เป็นแค่ลิงบนฝ่ามือพระพุทธองศ์เหรอเนี่ย น่าเจ็บใจชะมัดคนอะไรฟะดันเอาทุกอย่างมาทำประโยชน์ได้หมดเนี่ย
“เอาเถอะยังไงพวกเราก็เกือบแพ้ไปจริงๆนั้นแหละ ถ้ามองดูกันตรงจุดนี้แล้วก็เสี่ยงพอดูเลย ถ้าคนที่โดนเล็งไปก่อนไม่ใช่เซโร่เป็นฉันหรืออาเลนพวกเราก็คงดาวน์ไปแล้วละ คนที่จะทนการโจมตีแรงขนาดนั้นได้โดยไม่ดาวน์ก็คงมีแค่นายแหละเซโร่” ก็จริงแฮะไ.อ้ดาบเจ็ดดาวแรงใช่เล่นเลย รอบแรกโดนเข้าไปเต็มๆนี้ขอบอกว่ากระอั่กเลือดเลยนะ ส่วนรอบสองงั้นฟอร์ซมาป้องกันเอาไว้ได้หมดทุกเม็ด ก็เลยแทบไม่มีผลอะไรมากถึงจะเปลื้องพลังตัวเองไปเยอะเลยกับการเอาตัวรอดก็เถอะ
“แต่เรื่องมันก็จบไปแล้วละนะครับแถมผลก็ออกมาดีด้วยถึงจะหวังดวงมากไปหน่อยก็เถอะ แล้วจะไปไหนกันต่อมั้ยครับวันนี้พวกเราประสบความสำเร็จมากเลยนะครับ” ก็ไม่เลวเลยละนะแต่ว่า
“โทษทีวันนี้ฉันคงต้องขอบายละถ้าไม่รีบขอย้ายวันได้มั้ย แต่ถ้าไม่ได้พวกนายก็ไปกันสองคนละกัน วันนี้ฉันสังหรณ์ใจว่าถ้าหลบหน้ากันไปอีกมีหวัง ต้องหลบกันไปตลอดแน่ๆ” ทุกๆอย่างก้าวแรกเป็นสิ่งสำคัญเสมอถึงผมจะไม่ได้อยากจัปราศัยอะไรกับเจ้านั่นมากก็เถอะ แต่ถ้าขืนมาตั้งแง่หลบไปหลบมาคนที่จะเศร้าก็คงเป็นพี่โคลเดรียนั้นแหละ แล้วจะปล่อยให้เป็นอย่างนั้นได้ไงเล่า เพราะงั้นครั้งนี้คงต้องขนกันตรงๆซะแล้ว
“งั้นเหรองั้นก็ช่วยไม่ได้นะทางนายเองก็สำคัญพอกันนี้ เอาไว้ไปกันวันหลังละกันวันนี้ฉันกับอาเลนก็เฮฮากันเล็กๆไปก่อนละกัน” เรนัสเลยยกยอดเป็นวันหลังให้เห็นแก่ปัญหาในบ้านผม
“ขอให้โชคดีจบเรื่องด้วยดีละกันนะครับ” อาเลนเลยอวยพรทิ้งท้ายให้อีกหน่อย
“ขอบใจแล้วเจอกันใหม่พรุ่งนี้นะ” ผมกับเพื่อนๆเลยแยกกันตรงนี้เอาละคงต้องไปเผชิญศึกอีกซักยกละ งานนี้เห็นลางแพ้มาแต่แรกเลยแต่เอาแค่พี่โคลเดรียพอใจ จะแพ้จะชนะก็ช่างมันละ
ผมลงไปที่ชั้น 1 ที่เป็นเมืองก่อนจะนั่งรถโดยสารประจำทางกลับไป บิ้ปๆ!! ใส่รหัสเปิดประตูที่แผงควบคุมกับตรวจลักษณะประจำตัวแล้ว ก็เดินเข้าบ้านไปทั้งๆที่มันไม่ต่างจากทุกวัน แต่วันนี้ผมรู้สึกว่าบรรยากาศในบ้านมันหนักผิดปกติแฮะ
“เซโร่ กลับมาแล้วเหรอนึกว่าจะไปฉลองกับเพื่อนซะอีก” พี่โคลเดรียที่ยืนทำอาหารในครัวก็ทักผมที่เดินผ่านแวะเข้ามา ถึงจะบอกว่านึกว่าผมจะไปฉลองแต่ดูจากปริมาณอาหาร พี่ก็คงทำเตรียมเอาไว้ให้ในส่วนของผมอยู่ดี พี่โคลเดรียนี่ว่าที่เจ้าสาวที่ดีจริงๆนาแต่เจ้าบ้าที่มีโอกาสนั้นมันใครกันนะอยากรู้จัง
“อืม พอดีอยากย้ายวันไปวันที่เฮฮากันได้สุดๆไปเลยดีกว่าน่ะ” แน่นอนโกหกทั้งนั้นจะวันพวกผมเคลเบลอสก็เฮฮาไม่เกรงใจใครได้ทั้งนั้นแหละ แต่ขืนบอกไปพี่โคลเดรียเค้าจะกลุ่มใจเปล่าๆ
“งั้นรออีกเดี๋ยวนะอีกนิดพี่ก็จะทำมื้อเย็นเสร็จแล้วละ” พี่โคลเดรียพูดจบแล้วก็หันกลับไปทำอาหารต่อ ผมเลยคิดว่าเอาของไปเก็บบนห้องแล้วลงมาอาบน้ำให้สบายใจก่อนดีกว่า เดี๋ยวค่อยมาเจอหน้าเจ้านั่นอย่างเต็มๆในสภาพที่พร้อมที่สุด
แต่ใครมันจะไปรู้เล่าว่าคนที่คิดแบบนี้มันจะไม่มีแค่ตัวเองคนเดียว ทั้งบ้านก็มีกันอยู่ 3 คน โอกาสคิดแบบเดียวกันมันน้อยจะตายไป ก็ดันมาเจอกันได้ซะอีก แอ็ด...จังหวะที่ผมเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปตรงส่วนที่วางเสื้อผ้า และก็เครื่องซักผ้า
“.....เอ๋” กลับมีคนยืนเปลือยหันหลังให้อยู่ดูจากข้างหลัง ผิวขาว ทรวดทรงองศ์เอว ดูยังไงมันก็ผู้หญิงแต่บ้านนี้นอกจากแม่กับพี่โคลเดรียที่ใกล้จะเป็นผู้หญิงเข้าไปทุกทีแล้ว จะมีผู้หญิงคนไหนมาอยู่ที่นี่ได้ไงเนี่ย....เดี๋ยวสิไม่น่าอย่าบอกนะว่า
“หือ.....” ก่อนเจ้าตัวที่ยืนเช็ดหัวหันหลังให้อยู่จะหันแค่หัวกลับมามอง ตามเสียงที่ผมเผลอส่งเสียงออกไป ซึ่งมีสีผมสีเขียวอ่อน ดวงตาสีฟ้าคราม ที่พอหันมาเห็นก็หยุดนิ่งไปเลย
หมับ!! แล้วเจ้าตัวก็ดึงผ้าที่เช็ดหัวลงมาปิดอกทั้งๆที่ยังตามองค้างแบบนั้น พอปิดไม่ให้เห็นได้แล้วก็หันกลับมาพร้อมเดินข้างๆแบบปูไปที่ตะกร้าใส่ผ้า ตึกๆๆๆ...หมับ พอหยิบของที่เป็นแท่งสี่เหลี่ยมที่เดาได้ว่าน่าจะเป็นอาร์ม...ง่ะถึงคราวซวยแล้วนี่หว่า
“.....ริริส” เสียงปลดล็อคอาร์มดังขึ้นอย่างเงียบๆแล้วก็ ตึกๆๆๆ!! ฟวั่บๆๆๆ!! ฟิ้วๆๆๆ!!
“ว๊าก!!” ตึกๆๆๆ!! ไม่รู้ละแต่เผ่นก่อนละว้อยพอปลดอาร์มเสร็จ ก็วิ่งถลาเข้ามาไล่ฟันไล่แทงเลย ลีลาสะบัดฟันตัดเส้นแทงจุดแบบนี้ไม่ผิดแน่ ไซเรนอาร์ค!! ถ้างั้นเจ้านี่ก็...
“ตายซะ!!” ฟิ้ว!! ว๊าก!! เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนละว้อยแทงเข้ามากะแบบเอาตายแบบนี้ ที่แคบๆแบบนี้หลบไม่พ้นแน่ต้องรับละ แต่มือเปล่ามีฟอร์ซหยุดไซเรนอาร์คแบบไม่เจ็บตัวไม่ได้แน่
“โกลว์เทรส!!” ต้องอาศัยตัวช่วยละด้วยการบีบอัดฟอร์ซผนึกให้แน่นเป็นก้อนเดียว แล้วแปรสภาพมันก็จะได้อาวุธที่ทัดเทียมหรือเหนือกว่าอาร์มขึ้นมา 1 ใน วิชาของบีสต์อาร์คที่ใช้ในแบบเอกลักษณ์ของฟอร์ซ ที่สร้างถุงมือที่ช่วยควบคุมพลังงานฟอร์ซได้ดีขึ้น
กิ้ง~~~~~!! เกือบไปแล้วไงคิดเอาไว้ไม่ผิดเลยไซเรนอาร์คที่ลับคมมีดให้คมขึ้นด้วย ฟอร์ซที่อาบเคลือบคมมีดไว้หลาบชั้น จนเกิดความคมที่บางเฉือบหลายนาโนแบบมีดผ่าตัด ถึงจะฟอร์ซระดับ EX แต่แค่เสริมลวกๆหยุดคมมันเอาไว้ไม่ได้แน่ๆ ต้องใช้โกลว์เทรสเท่านั้น
“หน็อย.....” อีกฝ่ายดูไม่ค่อยพอใจเท่าไรที่ผมกำมีดเอาไว้ได้โดนไม่ถูกบาด ก็พยายามจะดึงมีดคืนแต่เรื่องอะไรเล่าจับอยู่แล้วไม่ปล่อยแน่ ตึกๆๆๆๆ!! ก่อนจะมีเสียงวิ่งของใครบางคนกำลังตรงเข้ามาหาพวกผมที่จะฆ่ากันอยู่ทางเข้าห้องอาบน้ำ
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ” พี่โคลเดรียนั้นเองพอเค้าวิ่งมาเห็นผมที่นั่งกึ่งนอนโดยมีอีกคนเหมือนจะคร่อมแทงมีดใส่ผม ก็ตกใจจนเอามือปิดปาก
“ทำอะไรกันอยู่น่ะ เซโร่ ริเดีย” ใช่เจ้าคนที่กะจะฆ่าผมให้ตายนั้นก็คือริเดีย น้องจริงๆของพี่โคลเดรียนั้นแหละ พอพี่โคลเดรียเข้ามาห้ามก็เลยรอดตายมาได้
วันนี้ช่างเป็นวันที่ชอกช้ำระก่ำใจเหลือเกิน หลังมื้อเย็นที่ผ่านอย่างเกือบดีผมตัดสินใจขอคำปรึกษาจากเพื่อนทางไกล แต่เพราะวันนี้ไม่ได้นัดมาแช็ทก็เลยส่งเมล์ไปแทน ซึ่งรอประมาณ 10 นาทีก็ตอบกลับมากันว่า
เควิน : ทำใจเถอะเดี๋ยวก็ชินไปเองแหละ หนักกว่านี้ยังมีนะ
ยูอิจิ : แค่นั้นเองยังไม่ร้ายแรงมากหรอก ดีกว่าอีกหลายๆอย่างเยอะ
เป็นคำปรึกษาที่ยอดเยี่ยมมากเพราะล่นตามมาทำเอาผมลืมเรื่องของตัวเองไปเลย เพราะนึกขึ้นมาแทนไปแล้วว่า
“ทั้ง 2 คนตอบได้เหมือนกับเจอมากับตัวแล้วเลยแฮะ แถมตอบยังกะนัดกันมาตอบเลยแนวเดียวกันเป๊ะ”
จบช่วงที่ 2
------------------------------
ความคิดเห็น