คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Episode 1 Renos in Garden / ช่วงที่ 1
Episode 1 Renos in Garden
ช่วงที่ 1 เซโร่ เรเนอร์ไดท์
ไคเซอร์การ์เด็นท์เป็นสถานที่หนึ่งในบรรดาสถานที่สำหรับการศึกษาและเก็บข้อมูล ของเหล่าผู้ใช้ฟอร์ซและผู้ใช้ไซ การ์เด็นท์ถูกตั้งขึ้นเพื่อเลี้ยงดูเหล่าผู้ใช้พลังทั้ง 2 อย่าง โดยมีจุดหมายที่จะสั่งสอนเหล่าผู้ใช้ฟอร์ซและผู้ใช้ไซ ให้มีความสามารถในการใช้ให้สูงสุดและถูกต้อง จึงรวบรวมความรู้ในการฝึกฝนที่ถูกต้องเอาไว้และกำหนดเป็นแนวทาง รวมทั้งการควบคุมดูแลไม่ให้ใช้ในทางที่ผิดจนเกิดเรื่องขึ้นเหมือน 30 ปีก่อน
เมื่อ 30 ปีก่อนในสมัยที่การ์เด็นท์ยังเป็นเพียงสถานที่สำหรับทดลองและมีไม่กี่แห่ง มีโครงการจะปรับเปลี่ยนเป็นที่เลี้ยงดูแต่ก็ยังไม่ปฏิบัติจริง ในยุคนั้นเหล่าผู้ใช้ฟอร์ซและผู้ใช้ไซต่างเรียนรู้ในการควบคุมและใช้พลัง แบบตามมีตามเกิดถูกบ้างผิดบ้างตามการสั่งสอนของผู้หลักผู้ใหญ่ในท้องถิ่นนั้น จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสงครามของเหล่าผู้ใช้ฟอร์ซและไซครั้งใหญ่ขึ้นมา
เมื่อเหล่าผู้ใช้ฟอร์ซและไซกลุ่มหนึ่งคิดจะตั้งต้นปกครองทุกสิ่ง ก่อเกิดเป็นกองกำลังที่เรียกตนเองว่ากองกำลัง Agaties(อากาเทียร์) เข้าก่อความวุ่นวายและยึดครองขยายอำนาจไปทั่ว จึงเกิดสหพันธ์ที่มาจากการรวมตัวของเหล่าผู้ใช้ฟอร์ซและไซทั่วสารทิศ ที่ต่อต้านอากาเทียร์ในนาม Cenjury(เซ็นจูรี่)
ทั้ง 2 ฝ่ายต่างรบราฆ่าฟันกันเป็นเวลานานถึง 5 ปี ก่อนที่จะตัดสินขั้นแตกหักกันขึ้นมาที่จุดที่ถูกเรียกว่า Neszarius(เนสซารีอุส) วีรชนมากมายต่างตายลงไปกับสงครามครั้งนี้ แต่ในท้ายที่สุดความหวังอันเพ้อฝันของอากาเทียร์ก็จบสิ้นลง ผู้นำถูกสังหารหลังขุนพลที่แข็งแกร่งของทั้ง 2 ฝ่ายเข้าปะทะกัน
ผู้คนต่างแยกย้ายกันไปทั้งผู้ที่เหลือดรอดของอากาเทียร์และเซ็นจูรี่ เหล่าคนใหญ่คนโตของประเทศต่างๆ ต่างเห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่และสงครามนี้จะเกิดขึ้นได้อีกเรื่อยๆ ตราบเท่าที่ความสับสนยังคงมีอยู่ โครงการการ์เด็นท์เพื่อการศึกษาจึงถูกดำเนินการทันที การ์เด็นท์จำนวนมากที่ถูกสร้างขึ้นด้วยจุดมุ่งหวังที่จะควบคุมเหล่าผู้ใช้ฟอร์ซและไซ ไปพร้อมกับการพัฒนาจึงได้เริ่มขึ้น
ด้วยผลสงครามจึงเกิดการร่วมแรงร่วมใจกันเพียง 10 ปี การ์เด็นท์ทั่วโลกก็เสร็จสมบูรณ์พร้อม และนำเหล่าผู้มีคุณสมบัติเข้าศึกษาได้ในทันทีไม่เพียงแต่รีนอสแต่เอนอสเองก็มีระบบการศึกษา ที่มีให้ในการ์เด็นท์ด้วยทำให้การ์เด็นท์ของแต่ละที่เป็นขุมอำนาจใหม่ ในการควบคุมโลกไม่ให้เกิดสงครามเนสซารีอุสครั้งที่ 2 ขึ้น
ไคเซอร์การ์เด็นท์ 1 ในการ์เด็นท์ที่ออกแบบมาให้มีมีเมืองอาศัยอยู่ด้วยนอกจากสถานศึกษา จัดเป็นการ์เด็นท์ระดับกลางที่มีการแบ่งชั้นตามความสำคัญออกเป็น 4 ชั้น ชั้นแรกจะเป็นเมืองที่อยู่อาศัย ชั้นที่ 2 จะเป็นสถานที่พิเศษต่างๆ ชั้นที่ 3 จะเป็นตัวการ์เด็นท์ และชั้นที่ 4 จะเป็นที่หวงห้ามของผู้ครอบครองการ์เด็นท์ มีแต่คนสำคัญที่เข้าไปได้
.........และในการ์เด็นทนี้ก็มีทายาทคนสำคัญของผู้ที่มีความสำคัญสูง ในการหยุดยั้งบุตรชายของผู้เป็นตัวสำคัญในการจบสงคราม ที่เอาชนะขุนพลของฝ่ายอากาเทียร์ได้ แม้ขุนพลทั้ง 2 จะอายุเพียง 10 ปีแต่ไม่ว่าใครจะแพ้ก็ไม่มีใครประณามพวกเค้าได้ เพราะพวกเค้าแต่เป็นผู้ที่ถูกเรียกว่าแกร่งที่สุดในของแต่ละฝ่าย
แต่เรื่องนั้นก็ไม่มีใครรู้เพราะทั้งผู้ที่ชนะและผู้ที่พ่ายแพ้ ต่างหายไปจากประวัติศาสตร์ทันทีพวกเค้าไม่ได้ต้องการจะเป็นที่จารึก แค่มาเพราะประวัติศาสตร์กำลังเคลื่อนไหว นับจากการ์เด็นท์สร้างเสร็จก็ผ่านไปอีก 15 ปี เรื่องราวของบุตรชายผุ้สืบทอดพันธุ์กรรมของวีรบุรุษ ได้สืบทอดสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นไปด้วยก็เริ่มขึ้นน่ะจุดนี้
สถานที่ -ไคเซอร์การ์เด็นท์ชั้นที่ 1
วัน สัปดาห์ที่ 1 วันอาทิตย์ เดือน 2 ปีแสงที่ 723
เวลา 14:05 น.
“ฮ่าๆๆๆ!!” ผัวะ!! พลั่ก!! โครม!! ตึง!! มันส์จริงๆว้อยนี่แหละชีวิตวัยรุ่นละ อาจจะกะทันหันไปหน่อยแต่ที่เห็นเด็กผู้ชายผมสีฟ้าครามสั้นหัวกระเซิง ดวงตาสีม่วงอ่อนที่กำลังหัวเราะอย่างบ้าคลั่งในขณะที่ชกคนคว่ำไปเรื่อยๆนี้ มันคือผมเองแหละนี่คืองานอดิเรกที่ผมชื่นชอบเข้าเส้น การทะเลาะวิวาทไง
“ทำอะไรของแกวะหาเรื่องกันหรือไง!!” ก็เห็นอยู่จะถามทำแมวน้ำอะไรของแกละ เออหาเรื่องโว้ย
“ก็ใช่น่ะสิแต่แบบนั้นเดี๋ยวมีปัญหาตามอีกขี้เกรียจเครียร์จะเครียด เอาเป็นว่านี้คือการปราบปรามเพื่อความสงบของประชาชนยังไงละ” แหมเท่จริงนะเรายกคำพูดของตำรวจมาทั้งดุ้นเลย
“หา!! อย่างแกเนี่ยนะรูลเลอร์!!” งี่เง่าน่าจะบ้าหรือเปล่าใครมันจะไปเป็นพวกโง่นั้นกัน อยากตายเหรอไงหาไ.อ้พวกเซ่อๆที่จะจัดการคนร้าย ยังมัวพร่ามและยึดกฏพรรณ์ให้ตายก็ไม่มีทางเป็นพวกหรอก
“เชอะ!! พวกเราไม่ใช่พวกเต่าล้าหลังพรรณ์นั้นซะหน่อย พวกเราน่ะเป็นนักล่าที่คอยเก็บกวาดพวกที่คอยเอาแต่สร้างคามเดือดร้อนแบบพวกแกไง ใช่มั้ยพวกเรา......เฮ็ยฟังอยู่เปล่าเนี่ย” ไ.อ้เรารึอุตสาห์แอ็คท่าน่าอายอยู่ตั้งนาน พอจะหาลูกคู่ให้หน่อยดันเป็นงี้ไปซะฉิบ เพราะเพื่อน 2 คนดันมีท่าทางชัดเจนเลยว่าไม่ได้สนใจฟัง
“หา..อ๋อก็ตามนั้นแหละ” เด็กหนุ่มวัยเดียวกับผมที่มีผมเส้นเล็กสีม่วงเข้มที่ยาวถึงต้นปลายคอ แต่แค่เฉพาะข้างหลังข้างหน้ายาวเกือบปิดตาและข้างหู กำลังพอดี ดวงตาสีชมพูอ่อนที่ดูไม่ค่อยเข้ากับสีหน้าคมคายที่เอาแต่แสดงอารมณ์เบื่ออยู่เกือบตลอดเวลา ผู้ง่วนกับมือถือของตัวเองพอผมทักก็แค่เงยหน้าขึ้นแล้วตอบส่งๆไปก่อนจะก้มหน้าดูมือถือต่อ
“ก็คงใช่มั้งครับ” และอีกคนที่ทำหน้ายิ้มสดใสแต่ตอบแบบไม่เต็มเสียง ที่มีผมสั้นเส้นเล็กสีเหลืองอ่อน ดวงตาสีแดงอ่อน ที่กำลังแอบหนังสือไลท์โนเวลที่เพิ่งซื้อมาซ่อนไว้หลังเสื้อ ไม่ต้องมาซ่อนเลยรู้นะว้อยว่าเมื่อกี้ยืนอ่านอยู่น่ะ
ทั้ง 2 คนเป็นเพื่อนสนิทของผมเลยและพวกเราอยู่ทีมเดียวกันด้วย คนแรกที่ทำหน้าเบื่อไปหมดนั้นชื่อ เรนัส โซวีซาเวียส เพื่อตั้งแต่เด้กของผมหมอนี่เป็นคู่หูผมมาตลอดเลย ส่วนจะเต็มใจมั้ยผมก็ไม่รู้อะนะ ส่วนอีกคนที่หน้ายิ้มสดใส สุภาพอาธนาศัยดีดูเป็นมิตรชื่อ อาเลน เบอร์นาเด็ท เป็นเพื่อนที่เจอกันตอนการศึกษาชั้นต้น และผมคือ เซโร่ เรเนอร์ไดท์ จอมวิวาทแห่งบัญชีดำของคณาจารย์ไคเซอร์
“พวกนายเนี่ยนาก็รู้อยู่หรอกว่าไม่อยากยุ่งด้วย แต่อย่างน้อยก็ช่วยมีรีแอ็คชั่นอารมณ์ร่วมหน่อยดิ” ว้า~~~~ไม่ได้ดั่งใจเลยชอบปล่อยให้เป็นไ.อ้บ้าคนเดียวอยู่เรื่อยเลย
“ก็ท่านานๆทีก็พอจะได้แต่นี้มันทุกวันแบบนี้ก็ไม่ไหวหรอกนะ” บิ้ป....เจ้าเรนัสกดปิดโทรศัพท์อย่างเซ็งๆ ก่อนจะเงยหน้าเอาสายตาเอื้อมระอามองมาทางผม
“พูดงี้ได้ไงเล่าสหายของแบบนี้มันต้องมีเป็นประจำสิ ไม่มีเรื่องนานๆเข้าเครื่องฝืดหมด” มันก็เหมือนกับการฝึกซ้อมนั้นแหละ ที่ต้องมีเป็นประจำไม่ให้ขาดแถมนี่เสมือนจริงด้วยนะ รับรองประสบการณ์เพียบ
“อย่ามาอ้างเลยในวิชาเรียนนายหลับทุกคาบนั่งเรียนเลยนะ” ก็มันน่าเบื่อนี่หว่าอาจารย์แกพูดอะไรก็ไม่รู้ ชวนหนังตาห้อยประจำเลยและผมเองก็ถือนโยบาย ไม่ฝืนใจตัวเองด้วยสิ
“การทะเลาะวิวาทคงเป็นเหมือนข้าว 3 มื้อของเซโร่ละมั้งครับ” ชึ้บ!! กู้ดจ็อบ!! ตามน้ำได้สวยมากอาเลน เรนัสแกหัดเรียนแบบเจ้าอาเลนมันมั่งสิอย่าเอาแต่ขัดมุกอย่างเดียว
“ไม่ต้องมาชูนิ้วโป้งเลย อาเลนไม่ได้ชมนายซักหน่อยเซโร่ เค้าด่าทางอ้อมต่างหาก” จะไปรู้เหรอถ้าด่าแบบนี้จะเท่าไรก็โอหมดละเฟ้ย
“เฮ็ยๆ!! ไ.อ้พวกเด็กบ้าอย่ามาทำเป็นตลกนะว้อย!! ลิลิส!!” ลืมไปเลยว่ากำลังมีเรื่องอยู่นี่หว่าโดนเจ้าเรนัสดึงออกนอกเรื่องซะเพลินเลย ดูท่าจะเดือดได้ทีเลยแฮะหันกลับพวกเล่นชักอาร์มออกมาลิลิสกันเป็นแถวเลยนี่
“โอ้ว~~~!! ดูสิๆชักอาร์มออกมากันให้เพียบเลย!! สุดยอดๆ!!” ช่างน่าตื่นเต้นจริงๆสำหรับผมแล้วมันไม่ใช่ความกลัวเลย เพราะสิ่งที่เห็นยิ่งเพิ่มรสชาติการทะเลาะวิวาทขึ้นไปอีกขั้นเลยทีเดียว
“แล้วนายจะดีใจไปทำไมละนั้นไม่ใช่ของเล่นนะ แต่จะว่าไปคนที่ดีใจที่เห็นอีกฝ่ายชักอาร์มออกมาก็คงมีแค่นายละนะ” ไม่เอาน่าอย่าทำหน้าปลงอานิตจังขนาดนั้นสิ ปกติไม่มีใครเค้าทำกันง่ายๆนา ถ้าไม่ใช่พวกที่แหกกฎจริงๆ แบบนี้ต้องสมณาคุณพิเศษจะจัดการแบบทีเดียวจอดให้ละกัน เพื่อเห็นแก่ความกล้านั้น
“อย่าคิดว่าว่าจะรอให้แกชักอาร์มนะเฟ้ย!!” ตึกๆๆ!! วิ้ว~~~!! ใจร้อนถึงขนาดนั้นเชียวเหรอ แต่อย่าห่วงไปเลยเพราะฉันไม่ใช่อาร์มหรอกว้อย ตึก!! ฟวั่บ!! ปึ้ก!! ลูกเตะจากขาขวาสะบัดเข้าเอาฝ่าเท้ายันข้อมือในแบบเสียบเข้าจังหวะโจมตีอย่างพอเหมาะ ทำให้เบรกได้แบบยันการออกอาวุธเลย
“โย่ว!!” ฟุ่บ..ฟวั่บ!! บั่ก!! แค่ขยับข้อเท้าถ่ายเทแรงก้ปัดให้ดาบออกข้างทางไปได้แล้ว ก่อนจะดึงเท้ากลับเตะซัดใส่หัวไปได้อย่างจัง 1 ที
“อั่ก!!” พอผู้กล้าคนแรกกระเด็นหมอบลงไปก็ทำให้เห็นว่า มีคนเล็งอาร์มในรูปแบบของปืนมาทางผมด้วย ปังๆๆ!! ก่อนจะยิงออกมาในทันทีที่เห็น ฟุ่บ!! แต่ก่อนที่ผมจะทำอะไรก็มีเงาคนวิ่งผ่านข้างๆผมไปข้างหน้าแทนซะก่อน
เฟี้ยวๆๆ!! กิ้งๆๆ!! พร้อมๆกับสะบัดอาวุธในมือเข้าฟันกระสุนขาดกลาง ด้วยฝีมือที่เฉียบคมทำให้เสียงปะทะดึงแน่นกว่าปกติ ปังๆๆๆ!! แต่ไ.อ้เสียงที่ตามนี่แหละหายนะของแท้ เสียงปืนที่ดังขึ้นพร้อมกับ กระสุนที่วิ่งเข้ากลางหน้าผากคน 4 คนแทบจะพร้อมกันเลยอย่างแม่นยำ พอหันกลับไปมองที่มาของกระสุน...
“ฮึๆ” เด็กเรียบร้อยที่เคยบอกไปที่ชื่ออาเลนน่ะก็หายวับไปในทันที ถ้าบอกว่านิสัยของผมคือการชอบทะเลาะวิวาท นิสัยเสียของเจ้านี่ก็คงเป็นพวกคลั่งปืนนี่แหละ ปกติอาเลนจะเป็นเรียบร้อยอย่างที่เคยว่าไป แต่พอจับปืนขึ้นมาปุ๊บแววตาไซโคแบบพวกยันก็ออกมาพร้อมกับรอยยิ้มที่ดูสยองทันที
“นี่แหละความรู้สึกนี่แหละครับ เวลาที่ได้ยิงเข้าเป้ากลางหัวในนัดเดียวแบบนี้ มันรู้สึกสุดยอดมากเป็นความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูกจริงๆครับ แบบนี้แหละน้าเวลาได้จับปืนแล้วอดที่จะยิงไม่ได้จริงๆ” จะว่าไปแล้วเจ้านี่น่ะมันโรคจิตกว่าผมซะอีกนะ ทั้งๆที่ปกติก็เป็นคนดีกว่าใครแท้ๆแต่พอเวลาชักปืนขึ้นมาแล้ว ดันออกอาการเพ้อจนตัวสั่นซะงั้น
“ไม่ต้องมาสุขสำราญกับโลกส่วนตัวนะเฟ้ย!! นี่ถึงกับยิงหัวกันเลยเหรอ!!” เจ้าบ้าเอ็ยทะเลาะวิวาทกันเฉยดันเอากันถึงตายซะงั้น แถมดันมีท่าทางไม่ทุกข์ไม่ร้อนอะไรอีกต่างหาก
“ไม่ต้องห่วงหรอกครับเซโร่กระสุนที่ใช้เมื่อกี้มันก็แค่กระสุนพลังงานเอง พอดีวันนี้ผมไม่ได้พกกระสุนจริงมาน่ะไม่งั้น.....คงจะสำราญใจกว่านี้แน่ๆครับ หุๆๆ” เหวอ~~~~เจ้านี่มันอาการหนักแล้วนี่หว่า เสียดายที่ไม่ได้เอากระสุนจริงมาซะงั้น โชคดีเป็นบ้าเลยที่อยู่ทีมเดียวกันถ้าต้องเจอกันแบบคนละฝ่าย นี่ความสยองจะขนาดไหนกันฟะเนี่ย
“เฮ็ย!! พวกแกน่ะก่อความวุ่นวายอะไรกัน!!” อ้าวซวยแล้วไงละเสียเวลามากไปหน่อยมีคนแจ้งรูดเลอร์ซะแล้วไงละ พวกรูดเลอร์พวกนี้คือกลุ่มคนที่ขึ้นตรงกับไคเซอร์การ์เด็นท์ ในฐานะผู้ควบคุมดูแลความสงบของการ์เด็นท์ มีทั้งคนที่ทำงานแล้วหรือพวกที่เป็นนักเรียนแบบผมนี่แหละ ขอให้เป็นรีนอสแล้วทดสอบผ่านไม่ว่าใครก็เป็นรูดเลอร์ได้
“สลายตัวเถอะเซโร่ อาเลน พวกเราติดบัญชีดำอยู่แล้วขืนโดนรูดเลอร์จับได้โดนรายงานเข้าการ์เด็นท์ละก็ โดนอาจารย์ลีออนแกสวดยาวอีกแน่” โธ่เว้ยคนกำลังจะหาความสำราญแท้ๆ เพราะเจ้าอาเลนแท้ๆไม่งั้นป่านนี้ก็ได้วัดกันนัวไปยกแล้วละ
“น่าเสียดายจังนะครับเพิ่งจะได้ยิงไป 4 นัดเอง” ก็เพราะแกนี่แหละเฟ้ยดันงัดปืนมายิง เสียงดังขนาดนี้เค้าก็ได้ยินกันหมดสิฟะ เจ้าบ้าอีกฝ่ายที่ยิงมาอย่างน้อยก็ทำแบบลดเสียงเอาไว้แล้วแท้ๆ
“เจ็บใจชะมัดวิ่งให้ว่องเลย” น่าเสียดายเป็นบ้าเลยแต่จะให้โดนสวดก็ไม่เอาด้วยหรอก ดีไม่ดีพี่แกจะยัดเงื่อนไขบ้าๆอะไรลงไปในตอนประลองอีกก็ไม่รู้ด้วยสิ เอาเป็นว่าวันนี้ผมจบวันหยุดอันสุดแสนจะเป็นสุขลงแค่นี้ละกัน
สถานที่ ไคเซอร์การ์เด็นท์ชั้นที่ 3(การ์เด็นท์)
วัน สัปดาห์ที่ 1 วันจันทร์ เดือน 2 ปีแสงที่ 723
เวลา 11:38 น.
“พวกแกเอาอีกแล้วใช่ไหม!!” พอเข้าช่วงพักเที่ยงก็โดนเรียกมาโวยเลย แถมไม่บอกอีกต่างหากกว่าเรื่องอะไร การปฏิบัติของอาจารย์ลีออนนี่จริงๆเลย จู่ๆก็เรียกมาพอมาถึงก็มาโวยวายใส่อย่าไม่รู้เรื่องรู้ราวนี่เกลียดอะไรพวกผมกันขนาดนั้นเชียว
“จารย์พูดเรื่องอะไรเนี่ยพวกผมไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย” ปึ้ง!! แต่พอพูดไปก็กลายเป็นราดน้ำมันเข้าไปซะงั้นเพราะอาจารย์ลีออนแกลุกขึ้นมาเอามือกระแทกโต๊ะซะงั้น เป็นอะไรมากมั้ยเนี่ยจู่ๆก็คลุ่มคลั่งแบบนี้น่าจะอาการหนักแล้วนา
“พวกแกไม่ต้องมาทำมึนเลยว้อย!! เมื่อวานไปก่อเรื่องในเมืองที่ชั้น 1 มาอีกแล้วใช่ใหม!! เลิกหาเรื่องให้ฉันต้องโดนพวกเบื้องบนเรียกไปตำหนิทุกเดือนได้มั้ย!! พวกแกเล่นก่อเรื่องซะจนฉันโดนเรียกไปทุกเดือนจนยามที่นั้นจะทำบัตรเข้าออกให้อยู่แล้วนะ!!” รู้จนได้แต่รู้ได้ไงเนี่ยอุตสาห์หนีพวกรูดเลอร์แบบไม่โดนจับตัวได้แล้วแท้ๆเชียว
“แม้จารย์จะกล่าวหากันมันก็ต้องมีหลักฐานนะ มาพูดลอยๆแบบนี้มันเข้าขอหาสบประมาณนา” ตอนนีเต้องเนียนทเป็นไม่รู้เรื่องไปก่อน เพราะเจ้าพวกรูดเลอร์มันไม่มีทางบอกลักษระอะไรได้หรอก เพราะพวกผมหนีมาก่อนจะเข้ามาถึงที่เกิดเหตุซะอีก หมับ!! อึ้ย!! อะไร้นี่ยไงยิ่งหนักกว่าเก่าละรอบนี้เหยียบโต๊ะตัวเองมากระชากคอเสื้อผม ที่เป็นยืนอยู่หน้าโต๊ะเลย
“แกคิดว่าในการ์เด็นท์นี้ไ.อ้บ้าที่ใช้มือเปล่าอย่างแกซักกี่คนวะเซโร่ รูดเลอร์ที่จับพวกโฟร์ทีนสเลเยอร์ 4 คนที่นอนสลบได้บอกว่า อีกฝ่ายมีคนหนึ่งใช้เท้าเตะคนหนึ่งใช้ดาบ และอีกคนใช้ปืนที่พอจับปืนแล้วทำหน้าโรคจิตขึ้นมาเลย บอกมาดิว่ามีทรีโอทีมไหนมันมีเอกลักษณ์แบบนี้อีกหา เซโร่” เหวอ...ความแตกยับเลยนี่หว่าเพราะเจ้าอาเลนอีกแล้ว หมอนี่มันตัวซวยหรือไงกันเนี่ย เฮ็ยไม่ต้องมาหัวเราะ
“แต่ว่าพวกผมป้องกันตัวนะทางนั้นตั้ง 14 คนพวกผมแค่ 3 คนเอง” ในเมื่อแกล้งเนียนไม่ไหวก็ต้องหน้าด้านกันหน่อยละว้อย
“หุปปากไปเลยเซโร่!! แกคิดจริงๆเหรอว่าไ.อ้หมาบ้าอย่างทีมเคลเบลอสอย่างพวกแก!! จะเปล่งออร่าชวนให้คนมารังแกหรือไงหา!!” ก็จริงอะนะถึงจะไม่รู้แต่พวกผมไม่มีใครจะแสดงท่าทางชวนให้เข้ามาแกล้งกันเลยนี่ แต่ก็สมกับเป็นอาจารย์ลีออนที่รู้จักกันดีจริงๆ ถึงได้มั่นใจมากว่าพวกผมเป็นฝ่ายเข้าไปหาเรื่องก่อน
“อ๊า~~~~!! นี่มันเรื่องบ้าอะไรหว่า!! ทำไมฉันต้องมาเป็นคนคุมความประพฤติพวกบัญชีดำด้วย!! แถมยังโดนยัดเยียดเป็นที่ปรึกษาของไ.อ้ทีมที่มีปัญหาที่สุดด้วยวะ!! ทาม~~~มาย!!” พอเห็นอาจารย์แกเอามือกุมหัวส่ายหัวไปมาอย่างบ้าบอแล้ว ก็รู้สึกสงสารขึ้นมาหน่อยๆเหมือนกันแฮะ แต่เอาเถอะอาจารย์แกก็ประวัติใช่ย่อยพอกันนั้นแหละ
ในระหว่างที่อาจารย์ลีออนกำลังโวยวายลังเล็งบ้าบออยู่คนเดียว ก็ใช้โอกาสนี้แนะนำอะไรหลายอย่างกันเลยดีกว่า ผู้ชายผมสีแดงสัมอ่อนกระเซิงแสกกลาง ดวงตาสีดำที่กำลังคลุ่มคลั่งอยู่หลังโต๊ะตรงหน้าผมนี่คือ ลีออน เลนซ์กันเดล 1 ใน อาจารย์คุมประพฤติพวกติดบัญชีดำและเป็นที่ปรึกษาของทีมพวกผมอย่างที่เจ้าตัวว่าด้วย
อาจารย์ลีออนแกเป็นศิษย์เก่าของที่นี่เหมือนกัน เห็นว่าตัวแกเองตอนสมัยเรียนก็แสบใช่เล่นเลย นี่คงเป็นการชดใช้กรรมที่ก่อเอาไว้กับอาจารย์ในรุ่นนั้นละมั้ง หลังจบก็ไปตะลอนๆอยู่รอบโลกได้พักหนึ่ง ก่อนจะไปมีปัญหากับประเทศอื่นเข้าโดนประกาศจับตั้งรางวัลค่าหัวทั้งจับตายจับเป็น จนหนีตายกลับรังมาที่นี่มาขอที่ซุกหัวกับเบื้องบนของไคเวอร์การ์เด็นท์
ประจวบเหมาะกำลังอยากได้อาจารย์กะล่อนๆทันนักเรียน มาเป็นฝ่ายคุมประพฤติพอดีพี่แกเลยได้บรรจุเป็น อาจารย์ของไคเซอร์การ์เด็นท์ แผนกฟอร์ซ สายย่อยการต่อสู้ด้วยอาวุธในแนวหน้าทุกชนิด และตำแหน่งพิเศษ 1 ใน อาจารย์คุมประพฤติพวกบัญชีดำ
“ลีออนขอคุยด้วยหน่อยสิ..ว๊าย!! เกิดอะไรขึ้นเนี่ย” และสาวสวยผมสีเทาขาวปล่อยสลวยจนถึงกลางหลัง ดวงตาสีฟ้าขาวจางที่เพิ่งโผล่หน้าเข้ามาโดยไม่เคาะประตูก่อนเนี่ย ก็คือคนรักของอาจารย์ลีออน
เซเลน่า ซินเทียคริส อาจารย์สาวของไคเซอร์การ์เด็นท์ แผนกไซ สายย่อยการใช้อาร์มเข้าต่อสู้กึ่งหลัก สายย่อยการใช้แปลงธาตุพลังธาตุแสงสว่างกับความมืด
ซึ่งอาจารย์เซเลน่าคนนี้ก็เป็น Ledal สายเหมันต์ด้วย เห็นว่าคบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว เค้าว่าปฏิกิริยาเร่งที่ทำให้กลายเพศก็คืออาจารย์ลีออนนั้นเอง ตอนระยะสุดท้ายก่อนจะเป็นผู้หญิงก็เลยมัดมือชกบังคับให้อาจารย์ลีออนเป็นแฟนด้วย
คงสงสัยสินะว่านิสัยอย่างอาจารย์ลีออนยอมรับง่ายๆได้ไง ก็เพราะอาจารย์เซเลน่าเธอเป็นจุดอ่อนของอาจารย์ลีออนไง ปกติเธอก็จะเป็นอาจารย์สาวใจดีแต่พอโกรธขึ้นมาแล้ว อาจารย์ลีออนแกต้องหงอของ้อทุกทีเลย...ก็สมกันดีอะนะ
“อย่าไปสนใจเลยครับอาจารย์เซเลน่าเรื่องปกติน่ะครับ” โอ๊ะ..วันนี้เรนัสทำหน้าที่ดีแฮะปกติบ่ายเบี่ยงขี้เบื่อไม่ยอมทำนี่
“อะไรกันพวกเธอไปหาเรื่องมาให้ลีออนอีกแล้วเหรอ ช่วยพรางๆมือกันหน่อยสิหมู่นี้ต้องหอบงานกลับไปทำที่บ้านทุกวันเลยนะ” ลืมบอกไปอีกอย่าง 2 คนนี้เค้าอยู่บ้านเดียวกันด้วย แต่ก็ยังไม่มีท่าทีจะแต่งกันซักทีอยู่ดีแหละก็อาจารย์ลีออน แกยังไม่มีท่าทีจะพึ่งได้เลยนี่นะ
“แต่ทีมเคลเบลอสมารวมอยู่ที่นี่ด้วยก็ดีแล้วละจะได้ไม่ต้องไปตาม เพราะเย็นนี้ต้องลงประลองที่อารีน่า 7 นะ” หา...เดี๋ยวดิอาจารย์เซเลน่านี่มันเรื่องอะไรกัน ตามกำหนดมันต้องอีก 2-3 วันไม่ใช่เหรอ
“ไม่ต้องงงกันหรอกเรื่องที่พวกเธอไปก่อเรื่องมาเมื่อวานรู้ถึงหูเบื้องบนแล้ว เลยมีคำสั่งลงโทษให้ลงประลองฉับพลันแบบไม่บอกล่วงหน้า แถมยังโดนลงเงื่อนไขทั้งกลุ่มและเฉพาะบุคคลด้วย นี่ชั้นก็จะเอาเอกสารระบุเงื่อนไขมาให้ลีออนกำหนดเนี่ยแหละ” นี่ถึงขนาดสั่งลงมาเป็นคำสั่งเลยเหรอแค่เรื่องทะเลาะวิวาทแบบเด็กๆเนี่ยนะ
“สงสัยจะเพราะชักอาร์มออกมาเลยเห็นเป็นเรื่องใหญ่สินะครับ” เออ!! โดยเฉพาะแกด้วยอาเลน!!
“หึๆๆๆ กำลังได้จังหวะพอดีเลยนี่เซเลน่าถ้างั้นก็เอาไปเลย เซโร่แกห้ามใช้มือถ้าแกใช้มือแต้ม LP(Life Point) จะเพิ่มเอาขาเตะอย่างเดียว ส่วนเรนัสถ้าลงดาบสร้างความเสียหายกับใครแล้ว ต้องตามไปจัดการให้ดาวน์ซะก่อนถึงจะเปลี่ยนไปเล่นงานคนอื่นได้ยกเว้นป้องกันตัว และอาเลนถ้ายิงไม่โดนหัวหรือหน้าอกตรงหัวใจแต้ม LP จะไม่ลด” อาจารย์ลีออนฟื้นขึ้นมาก็เล่นอะไรบ้าๆเลยเหรอ
“แบบนี้มันเกินไปแล้วจารย์!! ให้ชนะไปเลยดีกว่ามั้ย!!” แบบนี้ไม่โวยไม่ได้แล้ววิชาของผมมันใช้มือเป็นหลักนะ สั่งห้ามใช้มือแล้วมันจะเหลืออะไรเล่า
“หนวกหูนี่เป็นการลงโทษเฟ้ย!!” นี่มันล้างแค้นส่วนตัวแล้วนี่หว่าเอาอำนาจอาจารย์มาใช้ในเรื่องส่วนตัวแบบนี้ เดี๋ยวทำหนังสือฟ้องร้องซะเลยนี่
“....อาจารย์เซเลน่าพวกผมมีสิทธิ์ปฏิเสธใหมครับ” ในระหว่างที่ผมกำลังเฟลกับชีวิตเจ้าเรนัสที่ดูเหมือนจะไม่สะทกสะท้านอะไร ก็หันไปถามอาจารย์เซเลน่าในเรื่องที่รู้ๆกันดีอยู่แล้ว
“ไม่น่ามีหรอกนะเคลเบลอสเป็นทีมที่ติดบัญชีดำอยู่แล้ว โดนโทษเพิกสิทธิ์การปฏิเสธท้าประลองอยู่แล้วนี่ แต่ถ้ารวมกับเรื่องเมื่อวานสิทธิ์ขอต่อรองเงื่อนไขก็ไม่น่าจะมีไปด้วยอยู่แล้ว” โอ๊ก!! หนักกว่าเดิมอีกว้อย
“เป็นความท้าทายที่น่าลองจริงๆ” อย่ามาพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสกันดื้อๆแบบนี้นะอาเลน
แม้จะโวยวายยังไงไปแต่สุดท้ายพวกผมก็ต้องทำตามอยู่ดี น่าเบื่อชะมัดสู้กันแบบต่อให้เนี่ยไม่ค่อยจะถนัดเลยแฮะ แถมรอบนี้โดนแรงซะด้วยสิ..เฮ็อ น่าเบื่อชะมัด
“เซโร่ แล้วโคลเดรียจะกลับมาเมื่อไรละ” หือ...อาจารย์เซเลน่ามีธุระอะไรกับพี่หว่า
“น่าจะพรุ่งนี้เย็นไม่ก็มะรืนนี้ตอนเช้าเลยละมั้งครับ” พี่ผมตอนนี้ลาหยุดไปและก็ไม่ได้อยู่ในการ์เด็นท์ด้วย
“งั้นเหรอถ้างั้นถ้ากลับมาแล้วฝากบอกด้วยนะว่าอาจารย์เทเรซ่าอยากให้มาพบที่ห้องพยาบาลด้วย” นี่เป็นเรื่องที่คนที่อยู่ในการ์เด็นท์และเป็นนักเรียนจะเข้าใจกันดีว่า การเรียกไปห้องพยาบาลหมายถึงอะไร
“ไม่เร็วไปหน่อยเหรอครับไม่ว่าจะทั้งเก็บข้อมูลหรือเช็คร่างกาย ปกติแล้วมันประมาณเดือนละ 2 ครั้งนี่ครับ ไงพักนี้มันแทบจะเป็นสัปดาห์ละครั้งแล้วละ” จริงๆมันก็ไม่ใช่เรื่องอะไรของผมหรอก เพียงแต่ว่าพี่ผมค่อนข้างจะพิเศษนิดหน่อย เลยต้องรู้เอาไว้บ้างก็ดี
“นั้นสิในความเห็นส่วนตัวชั้นก็ว่ามันเร็วเกินไปนะ แต่อาจารย์เทเรซ่าเค้าก็คงมีความคิดอะไรอยู่ละ อาจจะเป็นไปได้ว่าพบการเปลี่ยนแปลงเร็วมากกว่าที่คาด เลยต้องเก็บละเอียดขึ้นละมั้ง” ...อืม จะว่าไปมันก็น่าสงสัยละนะหมู่นี้พี่เค้าเองก็ดูจะเปลี่ยนไปมากด้วย อาจจะไม่ทันถึง 20 ก็เกิดอาการแล้วก็ได้
“งั้นเหรอครับแล้วผมจะบอกให้นะครับ” แต่ตอนนี้คงต้องสนใจการประลองก่อนซะแล้ว
“ถ้างั้นก็ฝากด้วย อ๋อ แล้วก็ลีออนถึงจะไม่มีกฎห้ามแต่เรื่องไปลงพนัน โดยเฉพาะทีมที่ตัวเองเป็นที่ปรึกษาน่ะ อย่าทำจะดีกว่านะ” เจออาจารย์เซเลน่าเบรกแบบรู้ทันก่อนจะออกไปจากห้องเล่นเอาอาจารย์ลีออน หน้าเจือนไปทันทีก็ไม่น่าแปลกใจเลย ก็เพราะพี่แกเป็นคนแบบนั้นแหละฉวยโอกาสที่ต้องตามไปคุมทีมพวกผมลงพนันกะเค้าด้วย จะอ้างเก็บเงินไว้แต่งงานก็ฟังไม่ขึ้นหรอกนะเฮีย
“มองอะไรเสร็จธุระแล้วไปให้พ้นเซ่ 4 โมงเย็นพรุ่งนี้ อารีน่าที่ 7 นะว้อย” แล้วพวกผมก็เลยโดนพาลใส่ซะงั้น
แต่ถ้ามองในแง่ดีก็ถือว่าเป็นเรื่องดีที่ไม่โดนเทศน์มหาชาติจนหมดเวลาพัก เป็นข้อดีที่น่าดีใจไม่น้อยเลยเหมือนกัน พวกเราเลยละเหิดออกมาจากห้องพักส่วนตัวของอาจารย์ลีออน ที่เป็นห้องกั้นด้วยกระจกพิเศษที่จะปรับการมองจากนอกและในได้
โดยอย่างที่เห็นในตอนนี้ถ้ามองจากภายในห้องเราจะเห็นว่ามองทะลุออกมาได้ แต่ถ้ามองจากนอกห้องจะเห็นเป็นแค่กระจกเงาสีดำ ในตอนนี้พวกเราเลยออกมาที่ทางเดินที่เป็นห้องรวมของห้องใหญ่ที่มีชื่อว่าห้องพักอาจารย์
ในห้องใหญ่นี้นั้นจะมีห้องส่วนตัวของอาจารย์แต่ละคนแบบเดียวเดียวกับอาจารย์ลีออน กระจายเป็นสัดส่วนไปทั่วห้องใหญ่มีเพียงโซนหน้าเท่านั้น ที่เป็นห้องของประชาสัมพันธ์ประจำห้องนี้ ที่เป็นจุดติดต่อก่อนเข้าไปโซนของห้องแยก ที่ถัดไปก่อนจะไปถึงโซนที่เป็นห้องส่วนตัวทั้งหลายจะเป็นจุดพักผ่อนของพวกอาจารย์กัน
ซึ่งก่อนออกจากโซนที่ถูกกั้นด้วยประชาสัมพันธ์พวกผมต้องรูดบัตรนักเรียนกันด้วย เป็นการยืนยันการเข้าออกที่จะถูกบันทึกเอาไว้ แน่นอนว่าสถานที่ๆต้องไปหลังจากนี้คือโรงอาหาร พอแต่ละคนได้อาหารมาและมานั่งกันบนโต๊ะยาวที่ฝั่งนั่งกันได้ 7-8 คนเลยทีเดียว ก็ได้เวลาปรึกษากับปัญหาที่เพิ่งได้มากันแล้ว
“ดูข้อมูลแล้วเป็นทีมซอร์สโตเกอร์ที่มาขอแก้มืออีกตามเคย” เรนัสอ่านข้อมูลของทีมที่ท้าพวกเรามาให้ฟัง แต่แค่อ่านชื่อทีมก็เท่ากับจบรายงานไปแล้ว เพราะนี่ไม่ได้เป็นการเจอกันครั้งแรก พวกเราเจอกับทีมชื่อนี้มานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว
“อืม ทีมผู้ใช้ดาบ 7 คนสินะครับดูท่าพวกเค้าจะแค้นฝั่งหุ่นเอาจริงๆนะครับ ถึงได้ยอมมาเสียเดิมพ้นตามราวีกันแบบนี้กันไม่เลิกไม่ลาแบบนี้น่ะครับ” เออ...ก็อยากจะพูดแบบนั้นเหมือนกันแหละ เป็นบ้าอะไรหว่ากะอีแค่แพ้หมดรูปถึงกะยอมไม่ได้กันขนาดนั้นเลยเรอะ แต่เอาเถอะการประมาณเป็นหนทางสู่ความพินาศนี่นา เจ้าพวกนี้ก็เก่งขึ้นเรื่อยๆ ในทุกครั้งที่มาท้าเพราะงั้นทบทวนข้อมูลเอาไว้ก่อนก็น่าจะดี
ซอร์ดสโตเกอร์เป็นทีมที่มีผู้ใช้ฟอร์ซ 7 คน และแต่ละคนใช้อาร์มรูปแบบดาบ 7 แบบแตกต่างกันไป ทั้งดาบสั้น ดาบคู่ ดาบยาว ดาบคมเดียว ดาบใหญ่และอื่นๆ ก็ไม่ถึงกับว่ากระจอกถ้านับในบรรดาพวกที่มาตามจองเวรล้างแค้นไม่เลิกไม่ลาแล้ว ก็อยู่ในอันดับกลางค่อนสูงทีเดียว แต่นั้นต้องไม่ได้เทียบกับเรนัสนะเพราะหมอนี่เก่งกว่าเจ้าพวกนั้นเยอะเลย
“ก็เรื่องปกติแหละแต่ครั้งนี้อาจจะสร้างปัญหามากกว่าที่คิดก็ได้นะ เพราะอาจารย์ลีออนลงเงื่อนไขให้ลงครบทีม 7 คนได้ เห็นว่าทีมนี้มีท่าโจมตีประสาน 7 คนด้วย ที่ผ่านมาพวกเราเจอกันแบบ 3 ต่อ 4 หรือ 5 เท่านั้นไม่เคยเจอครบทีมมาก่อนเลย ครั้งนี้เราอาจมีโอกาสแพ้มากที่สุดเลยก็ได้อย่าประมาณกันละ” หา!! ว่าไงนะ!!
“7 คนงั้นเหรอ!! ไหนดูสิ!! นี่อาจารย์ลีออนแกแกล้งกันชัดๆเลยนี่หว่า!!” ผมรีบโผล่หน้าเข้าไปดูข้อมูลจากจอใสที่ลอยส่องออกมาจากแผ่นบันทึกข้อมูล ที่เรนัสได้มาจากอาจารย์เซเลน่า
7 คนเชียวเหรอโดนผนึกมือที่เป็นแก่นหลักของอาร์คที่ผมมี เรนัสโดนให้เก็บทีละคนส่วนเจ้าอาเลนช่างเถอะก็ช่างมันเถอะ ดูจะชอบใจนี่....เรียกได้ว่าอาจเข้าขั้นวิกฤตจริงๆก็ได้
“เซโร่นี่เป็นคนที่ตลกดีนะครับปากว่าแย่ยังงั้นแย่ยังงี้ แต่หน้าตากลับดีใจแบบสุดซึ้งเลยนะครับ” ผมได้ยินที่อาเลนพูดแต่ก็ไม่ได้สนใจจะหันไปมองเค้าตอบกลับแม้แต่น้อย เพราะตอนนี้ผมกำลังตื่นเต้นที่จะได้รู้ความสามารถจริงๆของเจ้าพวกนี้ซักที จะว่าไปตอนสู้กันมาครั้งก่อนๆก็ดูเหมือนจะยังปล่อยไม้ตายเต็มๆไม่ได้กันซักทีด้วย
“ก็แบบนี้แหละปล่อยไปเถอะเซโร่น่ะเป็นพวกบ้า การได้เจอรูปแบบการใช้ฟอร์ซกับไซในแบบต่างๆนี้...ประกาศผลแล้วงั้นเหรอเนี่ย” ในขณะที่เรนัสกำลังพุดว่าผมไปเรื่อยนั้นจู่ๆเค้าก็เปลี่ยนหัวข้อพูด เหมือนเห็นอะไรบางอย่าง
ทำให้ผมหันไปมองตามที่ปลายจุดสายตาของเรนัสที่เป็นกระดานแจ้งข่าวต่างๆภายในการ์เด็นท์ ซึ่งถูกติดตั้ง 4 ด้านและมันกำลังแสดงผลการลงคะแนน เลือกสาวที่มีความนิยมมากที่สุดและ 1 ใน นั้นมันดันมีชื่อพี่ผมรวมเข้าไปด้วยได้ไงเนี่ย
“ตรงตามคาดเลยนะครับเซโร่กะแล้วว่ารุ่นพี่โคลเดรียต้องได้ที่ 3 แน่ๆ น่าเสียดายนะครับถ้าไม่มีกฎแต้มต่อและข้อห้าม พี่สาวของเซโร่นี่ต้องได้ที่ 1 แน่ๆเลยนะครับ” .....จะที่ 1 ที่ 3 หรือที่เท่าไรก็ไม่รับรู้ด้วยหรอก เพราะจริงๆมันผิดกันตั้งแต่มีชื่อให้ลงคะแนนแล้ว พี่ผมน่ะมันไม่น่าจะมชื่อเข้าไปติดด้วยได้เลยเพราะเค้าน่ะเป็น.....
“พี่ชายต่างหากละเฟ้ย” ใช่ พี่โคลเดรียน่ะแม้จะมีชื่อแบบผุ้หญิงแต่ตอนนี้น่ะเค้าเป็นผู้ชาย อย่างน้อยตอนนี้ก็ระบุว่าเพศชายนะ
“มันก็ติดแค่ที่เวลาไม่ใช่เหรอเซโร่พี่โคลเดรียตอนนี้น่ะลองถามคนซัก 100 คนก็ตอบเหมือนกันหมดแหละว่าเป็นผู้หญิงไม่ใช่ผู้ชาย แล้วก็ไม่ได้ห้าม Ledal เข้าร่วมด้วยซักหน่อยแค่มีกฏเพิ่มพิเศษ 2 ข้อเอง” รู้ดีน่าแต่คิดยังไงมันก็ยังแปลกอยุ่ดีแหละน่า
ข้อแรก Ledal จะถูกจัดเข้า 1ใน 10 อันดับแรกได้แค่ 3 คน โดยจะเลือกคนที่มีคะแนนผ่านท็อป 10 สูงสุด 3 คนเท่านั้น ที่เหลือจะตัดแต้มให้ต่ำกว่า 10 อันดับแล้ววงเล็บคะแนนส่วนที่ตัดต่อท้ายเพื่อดูคะแนนจริงๆ
ข้อสอง Ledal ที่ผ่านเข้าไปในท็อป 10 จะได้ตำแหน่งสูงสุดแค่ที่ 3 เท่านั้น คะแนนที่เกิดจะทำแบบข้อ 1 ถ้าพูดมาถึงตรงนี้ก็คงจะรู้กันแล้วสินะว่า พี่ผมน่ะก็เป็น Ledal เช่นกันแถมเป็นสายนภาที่หายากอีกต่างหาก เพราะงั้นถ้าเอาคะแนนจริงพี่ผมก็นำโด่งเลยแหละไม่รู้นิยมอะไรกันนักหนา พวกที่คิดทำแต้มก่อนเวลาในสายตามันก็ไม่ต่างอะไรกับพวกชายเหนือชายนั้นแหละ
“ดูเหมือนว่าจะมีคนรู้จักอีกคนที่ติด 1 ใน 10นะครับ” หา...ใครอีกละพอฟังอาเลนพูดจบก็เลยลองหาดูในท็อป 10 อีกทีแล้วก็ไปติดที่ อันดับ 5 แต่ถ้านับแต้มที่ตัดก็อันดับ 3 ตัวจริงแหละ
อิริยะ(อิริย่าสเวล) ไอฟอนไฮน์ แห่งทีมไฮสกายรุ่นพี่ผม 1 ปีที่ไม่รู้คิดอะไรอยู่หลังแพ้การประลองกับพวกผม ก็ต้องตนเป็นคู่แข่งกับทีมเคลเบลอสเลย แต่เอาจริงแล้วที่ตั้งตนเป็นคู่แข่งโดยตรงน่ะมีแค่ผมคนเดียว เรนัสบอกว่าผมไปพูดให้เจ้าตัวเค้าเจ็บใจแต่บอกตามตรงว่านึกไม่ออกจริงๆว่าไปพูดอะไรเอาไว้
ประวัติที่ผมพอรู้ก็มีแค่เค้าเป็นรุ่นพี่ผม 1 ปี เรียนอยู่ในหลักสูตรของพวกการบัญชาและควบคุมสั.ตว์มนตราในการรบกับการใช้หอก แถมเป็นลูกคุณหนูอีกต่างหากเพราะตระกุลไอฟอนไฮน์ เป็นตระกุลใหญ่โตที่ทรงอำนาจมาตั้งนานแล้ว และอย่างสุดท้ายคือเค้าเองก็เป็น Ledal แต่เป็นสายราตรี ที่มีผมเส้นเล็กเหยียดตรงดูเหมือนพวกกุลสตรี ดวงตาดูเหมือนมีเสห์น่ยั่วยวนไม่น้อย และสัมผัสของผิวจะนุ่มลื่นเหมือนผิวผู้หญิง
“...เหนื่อยใจชะมัดเลยวุ้ย” พอนึกดูแล้วว่าอีกไม่นานก็จะโดนเค้ามาท้าแล้ว มันช่างทำให้รู้สึกเหนื่อยใจจริงๆ ทำให้วันนี้ต่างคนต่างกลับบ้านกันอาเลนกับเรนัสเป็นพวกเด็กหอ จึงอยู่ที่ชั้น 3 ตามเดิม ส่วนผมต้องลงไปที่ชั้น 1 เพื่อกลับบ้าน
จริงๆแล้วครอบครัวของเรนัสเคยอยู่ข้างบ้านผมนี่เอง แต่ย้ายไปที่ทำงานที่การ์เด็นท์อื่นบ้านเลยทิ้งว่างไป เพราะเรนัสที่เลือกจะอยุ่ที่นี่คนเดียวขี้เกรียจดูแลบ้านกว้างๆคนเดียวเลยไปอยู่หอ ส่วนอาเลนเป็นเด็กที่มาจากเมืองอื่นเลยอยู่หอ เค้าไม่เคยพูดถึงคนในครอบครัวเลยนอกจากพี่ชายคนเดียว
เนื่องจากตอนนี้บ้านผมเองก็ว่างมากพ่อกับแม่ไปธุระต่างเมือง พี่ก็กลับไปพบน้องชายแท้ๆเห็นว่ามีเรื่องสำคัญต้องไปคุยกัน ที่ผมพูดว่าน้องแท้ๆน่ะไม่ผิดหรอกเพราะผมกับพี่โคลเดรียไม่ได้เป็นพี่น้องสายเลือดเดียวกัน
พวกเราเป็นพี่น้องทางนิตินัย จากการที่พ่อผมแต่งงานใหม่กับแม่ของพี่โคลเดรีย ที่หย่ากับสามีเก่าไปแล้วและน้องแท้ๆคนนั้นก็ไปอยู่กับทางพ่อของพี่โคลเดรีย ส่วนพี่โคลเดรียมาอยู่แม่ ผมเองเคยเจอกับน้องแท้ๆของพี่เค้าครั้งหนึ่งเหมือนกัน เจ้านั้นมันมองผมเป็นศัตรูมาตั้งแต่แรกพบเลย คงเห็นผมเป็นคนมาแย่งความเป็นน้องของพี่โคลเดรียไปละมั้ง แต่ผมไม่สนหรอกถ้าอยากมีเรื่องซัดกันแบบลูกผู้ชายมาได้ทุดเมื่อเฟ้ย
“โอ๊ะ....จะ 3 ทุ่มแล้วเหรอเนี่ยเวลาผ่านไปเร็วจริงแฮะ” หลังจัดการมื้อเย็นด้วยตัวเองแล้ว นั่งเล่นไปเรื่อย ก็พบว่าจะ 3 ทุ่มแล้ว ซึ่งเป็นเวลานัดประจำของผมกับเพื่อนๆเลย จึงเปิดโน็ตบุ๊คคอมพิวเตอร์ที่วางบนโต๊ะ เพื่อต่อเชื่อสัญญาณเข้าระบบเน็ตแล้วเข้าห้องแช็ทที่ตั้งเอาไว้ใช้กัน 3 คน บอกก่อนนะ 2 คนที่ว่าไม่ใช่อาเลนกับเรนัสหรอกนะ
ยูอิจิ : โอ้!! มาแล้วๆ!! (สัญลักษณ์หน้าตกใจ)
เควิน : ฮ่าๆๆ!! ที่โหล่!! (สัญลักษณ์หน้าหัวเราะ)
ดูเหมือนว่าจะมาหลังสุดเลยแฮะเพราะมีชื่อผู้ร่วมสนทณาทั้ง 2 คนขึ้นออนไลท์รออยู่ก่อนแล้ว พอผมล็อคอินเข้าไปก็โดนพิมพ์ข้อความทักทายกันก่อนเลย
เซโร่ : อะไรกันมาก่อนเวลาแบบนี้มันขี้โกงนี่นา
เควิน : พูดอะไรอย่างนั้นนี้ไม่ใช่การแข่งขันอย่างเป็นทางการไม่มีสะอาดสกปรกหรอก (สัญลักษณ์หน้ายิ้มเจ้าเล่ห์)
ยูอิจิ : ก็ตามนั้นแหละกทายกันแค่นี้ละกัน วันนี้ใครจะพูดก่อนละ
เควิน : ทีหลังสุดก่อนละกันถือซะว่าเป็นเกมลงโทษ
เซโร่ :
เอ๋ ฉันเหรอ (สัญลักษณ์หน้าเหงื่อตก)
ยูอิจิ : เชิญเลย (สัญลักษณ์หน้ายิ้ม)
เซโร่ : ถ้างั้นก็
.....
แล้วผมก็เหล่าเรื่องที่โดนจับได้ในวันนี้กับเรื่องต้องลงประลองออกไป ทั้ง 2 คนเป็นเพื่อนทางเน็ตที่ผมรู้จักมาได้ 3 เดือนแล้ว ผมเจอกับทั้ง 2 คนตอนที่กำลังกลุ้มใจกับวิธีรับมือกับพี่โคลเดรีย ที่เริ่มออกสาวมากขึ้นเรื่อยๆแต่กลับไม่มีความระวังตัวเลย
หน้าที่หวาน เสียงที่ไพเราะ ใจดีอ่อนโยน แววตาที่น่าหลงใหล ผิวที่ขาวละเอียดแถมนุ่มลื่น ทรวดทรงองศ์เอวที่เข้ากันไดอย่างลงตัว ถึงหน้าอกจะมีขึ้นนิดๆแต่ยังไงก็ยังมีข้างล่างอยู่นั้น กลับมีเสห์น่แปลกๆ
เพราะถึงผมและความเป็นจริงจะบอกว่าพี่ผมนั้นเป็นผู้ชายอยู่ แต่การทีโอนเอียงไปในทางผู้หญิงมากๆนั้นสร้างความสับสนให้กับผมมาก ทั้งการยื่นหน้าเข้ามาใกล้ การไม่ระวังคอเสื้อที่จะเปิด การดูแลเอาใจใส่บางอย่างเช่น การหวีผมกับจัดเสื้อผ้า หรือแม้แต่ตอนเผลอตัวสบายๆ เพราะถึงหัวผมจะเข้าใจดีแต่ใจผมกลับตื่นเต้นอย่างห้ามไม่อยู่ ซีนยั่วยวนและล่อแหลมพวกนั้น พวกบอกไปก็......
“ไม่เป็นไรหรอกถ้าเป็นเซโร่พี่ก็ไม่ว่าอะไรหรอก” จะว่าไม่ถือตัวหรือวางใจหรือไว้ใจหรือประมาณหรือไม่คิดมาก ก็ไม่รู้ละแต่คำพูดนั้นยิ่งทำให้ผมยิ่งเตลิดไปใหญ่ ถ้าผมไม่ได้พูดระบายหรือปรึกษากับใครมีหวังต้องผิดปกติไปแน่ๆไม่ช้าก็เร็วละงานนี้ แต่ครั้นจะเอาไปปรึกษาคนใกล้ตัวก็ดูจะไม่ดี ผมจึงตั้งบอร์ดปรึกษาและก็มี 2 คนนี้แหละที่เข้าคุยเป็นเพื่อนผม
เควิน สคาร์เตอร์ เค้าบอกว่าเป็นคนของไฮนโอแวนท์การ์เด็นท์ เป็นคนที่ประสบการณ์เจอมาเหมือนกับผมเช่นกัน แต่พอคุยไปคุยมากลับเหมือนจะมีประสบการณ์กับ Ledal ในสายอื่นนอกจานภาด้วย เหมือนจะเคยเจอมาทุกสายแล้ว
คุซึมิ ยูอิจิ เป็นคนของเซลนาร์ดการ์เด็นท์คนนี้มาขอปรึกษามากกว่าให้ปรึกษา เพราะเจ้าตัวเจอหนักกว่าผมอีกเพื่อนสมัยเด็กบ้านใกล้ที่ชื่อ เซคิงาวะ โช ที่เป็น Ledal สายนภากลับต้องตาต้องใจของคนในครอบครัวถึงขั้นจองเป็นสะใภ้เลย
แถมพี่สาวที่โหดหินอำมหิตก็เอาใจน่าดูยิ่งกว่านั้นคนรอบตัวก็ยังเห็นดีเห็นงาม ไม่มองโชคนนี้เป็นผู้ชายกันแม้แต่คนเดียว พากันเข้าใจว่าเธอคนนี้คือของๆยูอิจิอย่างแน่นอน ประโครมข่าวกันแพร่สะพัดไปทั่วทั้งการ์เด็นท์(มันมาถึงการ์เด็นท์ผมด้วยแหละ) แถมโชคนนี้ยังมีจิตใจดีระดับพระแม่(ขนาดผู้ชายยังเรียกพระแม่ได้เอากะเค้าสิ)
เป็นไอด้อลเป็นที่เคารพบูชาและแฟนคลับนับพันเลยทีเดียว ทำเอาผมต้องเปลี่ยนทัศนคติต่อเซลนาร์ดการ์เด็นท์เลยทีเดียวล่าสุดเห็นว่า -ยูอิจิโดนบังคับ- ใส่แหวนเงิน(ความหมายคร่าวๆคือหมั้นแล้ว)ที่นิ้วนางซ้ายกันแล้วด้วย ฟังๆไปแล้วก็น่าสงสารแฮะ
ในทุกคืนของวันที่กำหนดในสัปดาห์นั้นๆที่จะว่างเข้ามากันได้ พวกเราก็จะมาเจอกันทางเน็ตแบบนี้ มาแช็ทบ้างเล่นเกมออนไลท์กันบ้าง เล่นเกมแข่งกันเองส่งข้อมูลปรึกษาต่างๆไปตามเรื่อง ก็นับว่าไม่เลวเลยทีเดียวเพราะผมดูท่าจะเข้ากันได้ดีกับพวกเค้ามาก คุยกันได้สนุกและไหลลื่นดีตลอดเลย
ยูอิจิ : นี่ก็จะ 5 ทุ่มแล้ววันนี้เอาเท่านี้ก่อนดีมั้ย
หลังจากผลัดกันพูดเรื่องของแต่ละคนจนครบคนแล้ว เวลาก็ผ่านไปเร็วมากถึง 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว อะไรกันเนี่ยทีเรื่องสนุกๆละเวลาผ่านเร็วมากจริงๆ ทีในเวลานั่งเรียนละ 10 นาทียังกะ 1 ชั่วโมงแน่ะ
เควิน : ดึกขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย
เซโร่ : เร็วจังนะ
ยูอิจิ : ถ้างั้นวันนี้เราพอแค่นี้ละนะ พรุ่งนี้แต่ละคนก็ต้องมีเรียนนี่นะ
เควิน : กลัวตื่นสายแล้วจะโดนคู่หมั้นมาปลุกแบบเซอร์วิธเซอร์ไพร์ตหรือไง ยูอิจิ (สัญลักษณ์หน้าหัวเราะอย่างสุดๆ)
ยูอิจิ : หนวกหูน่าเควินเงียบไปเลย (สัญลักษณ์หน้าลนลาน)
เซโร่ :
.เหมือนจะเข้าตัวยังไงไม่รู้แฮะถึงพี่เค้าจะไม่อยู่ก็เถอะ (สัญลักษณ์หน้าหวาดกลัว)
เควิน : เอาน่าหยอกเล่นสนุกๆถ้างั้นก็ราตรีสวัสดิ์เจอกันใหม่คราวหน้า
ยูอิจิ : อืม ราตรีสวัสดิ์
เซโร่ : ราตรีเช่นกันทุกคน
“...เฮ็อ ไปอาบน้ำนอนดีกว่า” นี่แหละชีวิตอันแสนสงบในวันหนึ่งๆของผมละ แม้จะไม่มีอะไรโดดเด่นแต่แค่นอนหลับได้อย่างสบายใจในแต่ละคืน ก็ดีแล้วละว่ามั้ยแต่ใครมันจะไปรู้ว่ามันจะกลายเป็นวันสุดท้ายไปได้ เมื่อต้องเข้าไปยุ่งกับชีวิตของ Ledal ที่นอกเหนือจากพี่โคลเดรียแบบนี้
ในค่ำคืนที่ยังไม่รู้ถึงเรื่องนั้นในคืนนั้นมี คนที่ส่องกระจกแล้วเงาในกระจกยิ้ม คนที่นอนหลับสบายบนหลังหมีในป่า คนที่ยังนั่งทำวิจัยอยู่คนเดียว คนที่เตรียมตัวจะเดินทางกับคนที่ช่วยเตรียมตัว คนที่หลับไปแล้ว คนที่ยังนั่งทบทวนอ่านหนังสือ คนที่นอนไม่หลับเพราะปัญหาหนักใจ คนที่ยังฝึกฝนตัวเอง ทั้งหมดนั้นกำลังจะเข้ามาเกี่ยวข้องกับผมหลังจากผ่านพ้นคืนนี้ไปในฐานะของ Ledal ทั้ง 9 สาย
จบช่วงที่ 1
------------------------
ความคิดเห็น