ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ประธานนักเรียนสุดหล่อ กะ รองประธานสุดแสบ

    ลำดับตอนที่ #6 : บทที่6

    • อัปเดตล่าสุด 6 เม.ย. 49


    บทที่ 6

    เช้าวันรุ่งขึ้น

    “ล้า ลัน ล้า ด้า ดี้ ด้า”

    “เป็นไรไป อารมณ์ดีแต่เช้าเลย”

    “ปล่าวไม่ได้เป็นไรหรอก แค่ อารมณ์ที่ได้... เฮ้ย อย่าไปสนเลยโก ไป ไปโรงเรียนกันเถอะ”

    “อืม ก็ได้ แต่ขอบอกไว้ก่อนนะว่า ความแรงเท่าเดิม”

    ได้ เอินไม่ว่าอะไรวันนึงเลย เอา”

    “งั้นเหรอ ยัยเอินแกเป็นไรรึปล่าว เป็นไข้ ปวดหัว ตัวร้อน เอ๊ะ รึว่า ยัง นอนคิดถึงไอติมที่ยังไม่ได้กินอยู่อีกอ่ะ หึ ไอติมจ้า ไอติมของฉัน มารอฉันที่ทางช้างเผือกน่ะ แหวะ ทำยังกะว่าตัวเองเป็น โกโบริยังงั้นแหละ ฮึ หะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”โกพูดแล้วทำหน้างงที่ฉันไม่ขัดโกในเรื่องของความเร็วในการขับรถของโกแล้วจากนั้นก็หันมาแกล้งฉันเรื่องไอติม

    “ปล๊าว ปล่าว เอินไม่ได้เป็นไร ก็แค่อารมณ์ดี ทำไม เอินจะอารมณ์ดีสักวันเนี่ย ไม่ได้รึไง หะ คนกำลังอารมณ์ดี โกอย่ามากวนได้มั้ย ขอร้อง ถ้าโกมากวนน่ะ เดี่ยวเค้าจะอาละวาดเรื่องความเร็ว คอยดูซิ”ฉันบอก

     “งั้นเหรอ”

    “อืม แล้วนี่จะไปรึยัง เอินยืนจนจะเมื่อยขาแล้วน่ะ”

    “เอาก็ขึ้นสิ”แล้วฉันกับโกก็ไปโรงเรียน โดยที่สภาพของฉันเมื่อไปถึงก็เหมือนๆกับทุกวัน คือ สภาพผมนั่นยุ่งๆและฟูไปตามแรงลมจนฉันต้องลูบผมใหม่และก็เข้าโรงเรียนไปพร้อมกับโกและก็มีเสียงกรี้ดตามมาอีกเช่นเคยเพราะว่า โกของฉัน ดันไปหล่อเข้าให้ แต่วันนี้ก็มีสิ่งที่แปลกไปกว่าทุกวันคือ มีสายตาบางคู่มองมาที่ฉัน จนฉันก็รู้สึกได้ถึงความอึดอัด จึงต้องรีบขอตัวไปจากตรงนั้น

    “นี่ โก เค้าไปก่อนน่ะ”

    “อืม”
    เมื่อโกรับคำ ฉันก็รีบเดินออกมาจากตรงนั้นแล้วเดินตรงไปยังห้องเรียนแต่ไปไม่ทันถึงก็มีเสียงขัดขึ้น

    “นี่ หยุดก่อนๆ”

    เอ๊ะ เสียงใครเนี่ย แปร๋นมาก แปร๋นจริงๆ”

    “เอ่อ น้องค่ะ”

    “ค่ะ มีอะไรรึปล่าวค่ะ”ฉันพูดออกไปแล้วพิจารณาคนตรงหน้าที่ดูยังไงก็ไม่ใช่คนทีรู้จัก นึกยังไงก็นึกไม่ออกว่าเคยเจอกันที่ไหนรึปล่าว แถมบุคคลที่ทักยังใส่แว่นซะหนาเตอะ มีเป้สะพายที่หลัง ท่าทางจะหนักน่าดู แล้วมาทักฉันทำไมเนี่ย ไม่ได้รู้จักซะหน่อย

    “อะ แฮ่มๆ พี่ขอแนะนำตัวก่อนน่ะค่ะ”

    ก็ดี จะได้รู้จัก

    “ค่ะ”

    “คือ พี่ชื่อ แส่ ค่ะ หรือหลายคนเค้าเรียกว่า เจ้ สอดค่ะ เป็นประธานชมรมหรือจะเรียกว่าเป็นบรรณาธิการของ แผ่นพับ ก็อดซิบที่วางให้อ่านทุกสัปดาห์ของโรงเรียนก็ได้ ค่ะ อิ อิ”

    งั้นเหรอค่ะ ชื่อพี่ออกจะไปในทางยุ่งเรื่องของคนอื่นมากฉันจะโดนคุ้ยอะไรรึปล่าวเนี่ย

     “คือว่าพี่เนี่ย เป็นผู้ที่ก่อตั้งชมรมและแผ่นพับก็อดซิบเองค่ะ เนี่ย พี่จะบอกอะไรให้น่ะว่าใครได้สัมภาษณ์กับพี่ล้วนได้ดังกันทุกคนน่ะค่ะ อิอิ และพี่เนี่ยมีความเชี่ยวชาญในเรื่องของคนอื่นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคนดังในโรงเรียนนี้ หรือคนดังที่ไหน ไม่ว่าเค้าจะทำอะไรกัน ที่ไหนยังไง พี่ก็ไปแส่ เอ้ย ไม่ใช่สิ ไปเจาะลึกมาให้อ่านกันน่ะค่ะใครๆก็รู้จักพี่หมดล่ะค่ะ แหะ แหะ”พี่แส่ หรือเจ้สอดพูดด้วยท่าทาง ภูมิใจในตัวเองมากแล้วแกก็พล่ามเรื่องต่างๆต่อ

    จะพูดว่า ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นก็บอกมาเถอะ

    “แล้วทุกๆข่าวที่แพร่ออกมาเนี่ยล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ น่าเชื่อถือ และเป็นความจริงทั้งนั้นค่ะ เพราะ เจ้ เผยแพร่ ด้วยตัวเจ้เองค่ะ เพราะฉะนั้น เจ้ ก็เลยอยากถามะไรหน่อยน่ะค่ะ จะได้รึปล่าวค่ะ”

    ว่าแล้วเชียว เฮ้อ…
    เอ่อ...”

    ทำไงดีล่ะ ฉันไม่ได้อยากสัมภาษณ์หรอกน่ะ

    “เอาล่ะค่ะ ชื่ออะไรค่ะ”เจ้สอดถามโดยไม่ฟังเสียงของฉันเลยแม้แต่น้อย จากนั้นแกก็หยิบเครื่องอัดเสียงมาเตรียมไว้พร้อมแล้วบรรจงอัดเสียงตัวเองไปก่อน

    “สวัสดีค่ะ ดิฉันเจ้สอด สุดสวย สุดเซ็กซี่ จะมาขุดคุ้ยเจาะลึกเรื่องราวของผู้ที่กล้าหาญในการเข้าเลือกตั้ง ซึ่งมีผู้เข้าเลือกตั้งเพียงสามคนเท่านั้น นั้นก็คือ หนุ่มหล่อ ครามและปั้น สุดหล่อของเจ้ สุดหล่อประจำโรงเรียนของเราน่ะค่ะ กับสุภาพสตรีท่านนี้ คนที่เจ้จะมาสัมภาษณ์ค่ะ เอาล่ะค่ะ ชื่ออะไรค่ะ”เจ้ถาม หลังจากที่พล่ามไปในสิ่งที่ฉันอยากจะอ้วก

    “เอ่อ ชื่อ เอินค่ะ”

    “ชื่อจริงล่ะค่ะ”

    “บุศกร”

    “ได้ยินมา เอินอยู่ห้องเดียวกับ 2 หนุ่มหล่อของเรา คือ ครามและปั้น ใช่มั้ยค่ะ”

    “ใช่ อยู่ห้องดียวกัน”ฉันพูดแล้วอยากจะออกจากตรงนั้น แต่ทำไม่ได้เพราะเจ้แกจับมือฉันไว้แน่น แล้วอีกอย่าง คือ ฉันต้องรักษาภาพลักษณ์เอาไว้ เพื่อการที่ฉันจะได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานนักเรียน ชนะ อีตาสีครามให้ได้

    “แล้วทำไมถึงมาเลือกตั้งล่ะค่ะ มีความคิดยังไงถึงจะมาเลือกตั้งเป็นประธานนักเรียน”

    จะให้ตอบยังไงล่ะ ก็ ฉันถูกบังคับมานี้

    “อ่อ ก็อยากจะลองดูน่ะค่ะ ว่าเป็นยังไง บ้าง ในการที่มีคู่แข่งเป็นถึงหนุ่มหล่อประจำโรงเรียนค่ะ”พูดถึงตรงนี้แล้วรู้สึกกระดากปากตัวเองที่พูดว่าอีตาสีครามหล่อ

    “เหรอค่ะ”

    “ค่ะ”

    “แต่ นักเรียนส่วนใหญ่เนี่ย โดยเฉพาะ นักเรียนผู้หญิงที่คิดว่าคุณเข้าเลือกตั้งก็เพราะคุณอยากดังและคุณก็อยากเรียกร้องความสนใจจาก 2 หนุ่ม ในการเลือกตั้งน่ะค่ะ เค้าคิดว่า คุณอยากจะได้ความสนใจของ 2 หนุ่มที่ร่วมแข่งขันด้วยน่ะค่ะ”

    “อะไรนะ ว่ายังงั้นกันเหรอ”

    “ใช่ค่ะ มีความคิดเห็นหรืออยากจะแก้ตัวยังไงบ้างค่ะ”

    “เอาล่ะค่ะ ฉันไม่อยากจะแก้ตัวค่ะ แต่ ฉันอยากจะแก้ข่าวมากกว่า ว่า ฉันไม่ได้คิดอะไรกับ 2 หนุ่มนั้นเลยน่ะค่ะ ไม่เคยคิดเลยแม้แต่น้อยเพราะฉะนั้น การที่ฉันเข้ามาสมัครการเลือกตั้งเนี่ย ไม่ได้คิดที่จะได้รับความสนใจ หรือ เรียกร้องความสนใจจาก 2 หนุ่ม นั้นเลยค่ะ”

    “งั้นเหรอค่ะ”

    “ใช่ค่ะ เพราะฉะนั้น ก็ คงจะหายสงสัยกันแล้วน่ะค่ะ ว่าฉันไม่เคยคิดอะไรกับ คนนั้นเลยแม้แต่น้อย”

    “แล้ววันนี้ คุณเตรียมตัวมาดีรึยังค่ะในการที่จะปราศรัยในวันนี้”

    “หะ ปราศรัยเหรอค่ะ”ฉันได้ฟังแล้วก็ตกใจ เพราะยังไม่ได้เตรียมตัว ทำไมฉันถึงไม่รู้ล่ะ ทำไมไม่มีใครแจ้งฉันเลยล่ะ ให้ตายซิ

    “ใช่ค่ะ ทางประธานนักเรียนคนเดิมยังไม่แจ้งเหรอค่ะ ว่าวันนี้ ตอนบ่ายโมงจะมีการปราศรัยกันที่หอประชุมนะค่ะ”

    “เออะ เหรอ...ค่ะ”
    ตายล่ะ ทำไงดีล่ะ ประธานคนเดิมแจ้งเหรอแล้วทำไมฉันถึงไม่รู้ล่ะ ประธานคนเดิมเหรอ ก็อีตาน้ำครำน่ะสิ ฮึ อยากแกล้งฉันมากรึไง โธ่เอ้ย ทำไงดีล่ะเนี่ย

    “ใช่ค่ะ แล้วมีการเตรียมตัวมายังไงบ้าง”

    “ก็ เอ่อ คือ เดี่ยวไปฟังกันที่หอประชุมกันดีกว่าน่ะค่ะ”ฉันพูดบอกปัดไป

    “อ่อ งั้นก็ได้ค่ะ การเลือกตั้งก็เหลืออีกแค่ 1 อาทิตย์กว่าๆ คิดว่าพอในการหาเสียงมั้ยค่ะ”

    “ก็น่าจะพอค่ะ”ที่จริงน่าจะไม่พอมากกว่า

    “งั้นเหรอค่ะ แหม แต่ถ้าไม่ได้รับการเลือกตั้งเนี่ย น้องก็คงจะเสียใจน่ะค่ะ”

    “โอะ ไม่หรอกค่ะ ฉันไปได้รึยังค่ะ”

    “เด่ยวซิ...”

    “แต่ ฉันว่าฉันน่าจะได้ไปแล้วน่ะค่ะ”ฉันพูดแล้วเดินออกไปทันที ฮึ อีตาน้ำครำ ทำไมนายไม่บอกฉัน นายนี่มันแย่จริงๆ เป็นประธานที่แย่ที่สุดที่เคยเจอมา ฉันจะทำไงดีล่ะ

    “เฮ้อ”ฉันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ถอนออกมาโดยไม่รู้ว่าจะทำอะไรดีทั้งที่ตัวเองนั้นได้แต่เดินจ้ำไปๆโดยไม่รู้ว่าจะไปไหน

    “เฮ้อ”ฉันถอนหายใจออกมาอีกเฮือกใหญ่ทำเหมือนกับว่าฉันอยากจะตายให้รู้แล้วรู้รอด

    “เฮ้อ ทำไงดีเนี่ย”ฉันพึมพำกับตัวเอง พลันหูก็ได้ยินเสียงซุบซิบมากมายที่พูดกันอยู่รายรอบตัวฉัน ฉันจึงหยุดฟังโดยไม่ให้ใครรู้

    “สมัครมาทำไมก็ไม่รู้ ก็น่าจะรู้ว่าไม่มีใครเลือกก็ยังมาสมัคร ฮึ ใช่มั้ยพวกเธอ”เสียงที่1พูดขึ้น ทุกคนในกลุ่มทำท่าทางเห็นด้วยและทุกคนทำท่าเหมือนกับว่า โกรธแค้นฉันมาก

    “ใช่ ดูซิ อยากจะเรียกร้องความสนใจชัดๆ”เสียงที่2พูดขึ้นอีก ฉันจะทนไม่ไหวแล้วน่ะ ฉันคิดในใจ แต่ในขณะเดียวกันก็พยายามปลอบใจตัวเองให้เย็นไว้

    “อืมใช่ มาสมัครเหรอ จ้างให้ฉันก็ไม่เลือกหรอก ดูซี้ ดูซิ กล้ายังไงถึงมาเทียบชั้นกับคราม กะ ปั้นเค้าเนอะ”เสียงที่3พูดขึ้นอีก

    “เออ ใช่ ฉันละอยากจะเจอหน้านัก ฮึ กล้ามากนักน่ะ ใช่มั้ย”และอีกเสียงหนึ่งก็พูดขึ้นอีก

    “ใช่ๆๆๆๆๆ”ทุกคนพูดเกือบจะพร้อมกัน

    ทำไม ฉันไม่ดีตรงไหน ถึงเทียบกับตานั้นไม่ได้ ฉันผิดรึไงที่มาสมัครเข้าเลือกตั้ง ฉันไม่เข้าใจจริงๆ เพียงเพราะว่า 2 คนนั้นมีความหล่อ ความรวย ถึงได้คลั่งกันขนาดนี้  ฉันผิดรึไง ที่ถูกบังคับให้มาสมัคร ฮึ ฉันคิดอย่างไม่เข้าใจและเจ็บใจอีตาสีคราม ที่มาบังคับให้ฉันต้องเป็นแบบนี้ฮึ นายสีคราม ฉันจะบอกอะไรให้ ว่าฉันเกลียดนายมากที่สุด ฉันเกลียดนาย ให้ถึงวันเลือกก่อนเถอะ จะได้รู้สักทีว่าใครจะได้ ถึงแม้ว่าตอนนี้ ความมั่นใจของฉันจะลดลงก็ตาม

    “เฮ้อ ฉันจะสู้ต่อไป ยัยเอิน เรื่องแค่นี้ คำพูดแค่นี้ มันไม่ระบาดรูขุมขนของแกหรอกน่ะ”ฉันปลอบใจตัวเอง และรีบเดินออกจากตรงนั้นเพื่อตรงไปยังห้องเรียน

    ห้อง ม.5/2

    เมื่อมาถึงห้องเรียน ฉันก็วางกระเป๋า และมานั่งที่โต๊ะเรียนและพยายามทำตัวให้เป็นปกติ เพื่อปกปิดภายในใจที่กังวลและอารมณ์ที่เดือดจนปรอทจะแตก

    “เฮ้อ”ฉันถอนหายใจออกมาด้วยความอัดอั้นภายในใจแล้วจึงหยิบปากกาขึ้นมาเพื่อที่จะนั่งคิดแล้วเขียนสิ่งที่จะมาปราศรัยในวันนี้ จนกระทั้งมีเสียงมาทุบโต๊ะฉันจนฉันสะดุ้งออกจากความคิดทันที

    ปัง

    “นี่เธอ”โบตั่นพูด

    ที่แท้ก็กลุ่มของโบตั่น มีอะไรกับฉันรึปล่าวเนี่ย

    “เธอไปสมัครเป็นประธานนักเรียนเหรอ”โบตั่นพูดด้วยเสียงเยาะเย้ย ที่หน้าโต๊ะของฉันจนฉันต้องพยายามระงับอารมณ์ตัวเอง

    “ใช่ ทำไมเหรอ”ฉันพูดแล้วถามกลับ จากนั้นก็ยืนประจันหน้ากับโบตั่น

    “ฮึ เธอต้องการอะไรกันแน่”

    “ต้องการอะไร ถามแบบนี้ หมายความว่าไงเหรอ”

    “อย่ามาทำใสซื่อไปหน่อยเลย ใช่มั้ยพวกเรา”โบตั่นพูดแล้วหันไปถามพวกของเธอเองนั้นก็คือ โบติ่นกับโบแต๋นนั้นเอง

    “ใช่ๆๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ”พวกโบตั้นพูดแล้วหันมาหัวเราะใส่ฉัน โดยที่ทุกคนนั้นไม่รู้เลยว่าสิ่งที่กำลังทำกันอยู่นั้น ทุกอย่าง ครามและปั้นต่างก็ได้ยิน ได้เห็นอยู่ ซึ่งครามและปั้นได้มาแอบดูที่ริมประตู เพียงแต่ไม่ได้เข้าไปดู เพราะ เพื่ออยากที่จะดูว่าเอินจะทำอย่างไร จะทำยังไง ถึงแม้ว่า คราม จะรู้สึกว่า ตัวเองเป็นคนผิดที่ทำให้เอินเป็นแบบนี้ ผิดที่ให้เธอมาสมัครเป็นประธานก็ตาม

    “ฮึ ฉันจะบอกก็ได้ ว่า เธอต้องการเพียงแค่อยากจะใกล้ชิดกับครามและปั้นเค้า ใช่มั้ยล่ะ หะ ถึงได้ทำแบบนี้ อุตสาห์ลงทุน”โบตั้นพูดแล้วเดินรอบๆฉันที่ตอนนี่อารมณ์เดือดพล่านจนอยากจะระบาย แต่ก็ทำไม่ได้ ทำไปก็ไม่มีประโยชน์ จึงทำได้เพียงกำมือไว้แน่นๆและปลอบใจตัวเองก็เท่านั้น

    “ฮึ นี่เธออุตสาห์ลงทุน พิมพ์ใบหาเสียงด้วยเหรอเนี่ย หะโอ้โห เธอนิ ฮึ ลงทุนจริงๆ”โบตั้นพูดแล้วหยิบใบหาเสียงมาดู พลางแสยะยิ้มเยาะฉัน

    “เอาคืนมานะ”

    “ไม่ให้ จนกว่าเธอ จะ...”

    “ทำไม จะทำไม”

    “จนกว่าเธอจะมา ออกไปจากครามและปั้น”

    “ฉันไม่อยากจะข้องเกี่ยวกะครามและปั้นหรอกนะ แต่พวกเค้ามายุ่งกะฉันก่อน”

    “ฮะ หะ ยุ่งกะเธอก่อน อย่ามาหลอกซะให้ยาก ฉันรู้จักครามและปั้นก่อนเธอ ฉัน พยายามให้ครามสนใจฉัน แต่เค้าก็ไม่เคนสนฉัน แต่เธอ ก็แค่เด็กเพิ่งย้าย จะมาดีไปกว่าฉันจนครามต้องสนใจเลยเหรอ ฮึ อย่ามาหลอกฉันจะดีกว่า ว่าไง อย่ามายุ่งกะคราม ได้มั้ย”

    “ฉันไม่เคยยุ่งอยู่แล้ว แต่เค้ามายุ่งกับฉันเอง เพราะฉะนั้นหากเธอไม่อยากให้ฉันข้องเกี่ยวกะเค้า เธอก็ต้อง ไปบอกเค้าว่าอย่ามายุ่งกับฉัน”ฉันพูดด้วยถ้อยคำชัดเจนจนจบแล้วยื่นมือไปเอาใบหาเสียง

    “นี่ เธอ เธอกล้าว่าฉันเหรอ”

    “ฉันไม่ได้ว่า”ฉันพูดจบแล้วนุ่นก็มาพอดีแล้วนุ่นก็รีบวิ่งมาหาฉัน

    “เอิน มีอะไรรึปล่าว”นุ่นถามฉันแล้วมองฉันและพวกของโบตั้น

    “ฮึ จำไว้นะ ยัยเอิน เธอกับฉันไม่มีวันจบลงง่ายๆแน่”

    “แต่ฉันไม่อยากมีเรื่องกับเธอหรอกน่ะ ฉันว่าเธออย่ามาคิดว่าฉันจะมาแย่งครามไปจากเธอดีกว่า เพราะยังไง ฉันไม่เคยสนใจเค้าอยู่แล้ว”

    “งั้นเหรอ ฮึ ฉันไม่เชื่อหรอกน่ะ”
    “นั้นเป็นเรื่องของเธอ”ฉันพูดจบแล้วนั่งเก็บใบหาเสียงโดยไม่สนใจโบตั้นอีก จนอีกฝ่ายหาว่าฉัน ยียวนจึง

    เผียะ

    โบตั้นหันมาตบฉัน ฉันจึงเงยหน้าขึ้นมองแล้วยิ้มให้

    “ที่นี่ ก็จำไว้ด้วยล่ะ ที่หน้าที่หลัง เธออย่ามาอวดเก่ง อย่ามาถือดีกับฉันเป็นอันขาด ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ตาม หากมาถือดีกับฉัน ได้เห็นดีกันแน่”

    “ฮึ เธอตบฉัน ก็เพราะว่า อีตาสีครามเนี่ยน่ะ ฮึ เธอตบก็เพียงเพราะผู้ชายคนเดียว”ฉันพูดแล้วหันหน้าไปทางอื่นแล้วหันมาพูดต่อ

    “โบตั้น วันนี้ เธออาจจะเห็นว่าฉันเป็นคนอ่อนแอ ไม่ทำเธอกลับ แต่เธอจำไว้น่ะ ว่าฉัน ไม่ใช่คนที่ยอมใครง่ายๆ เธอจำไว้ก็แล้วกัน”ฉันพูดแล้วเดินถือใบหาเสียงออกนอกห้องไป โดยมีนุ่นตามมาติดๆ

    “มันหมายความว่าไงเหรอโบตั้น ที่มันพูดนะ”โบติ่นหันมาพูด

    “ช่างมันเถอะ อย่าไปสนเลย มันจะทำอะไรฉันได้ล่ะ โบติ่น เธอจำไม่ได้รึไง พ่อฉันเป็นถึงครูฝ่ายปกครอง หากยัยนี้จะทำไรฉันได้เดือดร้อนแน่ ฮึ ไปกันเถอะ”โบตั้นพูดแล้วเดินไปพร้อมพวกของเธอ


    ใต้ต้นบีชริมสนาม

    “แกไม่คิดจะทำอะไรเลยเหรอ คราม”ปั้นพูดขึ้นหลังจากที่ได้ฟังการสนทนาของโบตั่นและเอินที่ห้อง แล้วมานั่งทีใต้ต้นบีช

    “แล้วแกจะให้ทำอะไรล่ะ”

    “ก็แกเป็นคนให้เค้ามาสมัครจนเค้าต้องมาโดนตบก็เพราะนาย แล้วทำไมนายถึงไม่คิดจะไปช่วยเลยล่ะ”

    “ฉันก็อยากจะช่วย แต่ฉันไม่รู้ว่าเอินอยากให้ฉันช่วยรึปล่าวน่ะซิ อีกอย่างน่ะ ฉันอยากรู้ว่าเค้าจะทำอะไรต่อไป”

    “งั้นเหรอ แค่นี้เองเหรอว่ะ”

    “อืม ใช่”ครามตอบแล้วนิ่งเงียบ การที่ครามให้เอินมาสมัครนั้นเจตนาก็เพียงแค่ อยากจะแกล้งเธอนิดเดียวก็แค่นั้น ครามไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องจะบานปลายมากถึงขนาดนี้ ขนาดที่ทำให้เอินต้องเจ็บตัว รู้สึกผิด ใช่ รู้สึกผิดมาก ผิดที่ทำให้เอินอยู่ในสภาพนี้ ครามจึงคิดว่าจะต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว

    “ใช่ ฉันจะต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว”ครามพึมพำ

    “แกว่าอะไรว่ะ คราม”

    “ปล่าว ฉันไปน่ะ”ครามพูดแล้วเดินไป ซาลาเปาทำท่าจะเดินตามไปแต่ปั้นห้ามไว้ เพราะรู้นิสัยเพื่อนของตัวเองดี หลังจากที่รู้จักกันมาเป็นเวลา 10 กว่าปี ปั้นรู้ดีว่า เรื่องแบบนี้ ครามต้องการที่จะอยู่คนเดียวแน่

    “อย่าเลย ไอ้ซา แกก็น่าจะรู้ ว่าครามคงอยากจะอยู่คนเดียว”

    “อืม ก็รู้ แต่...”

    “เหอะน่า”

    “เออ ก็ได้”ซาลาเปารับคำแล้วนั่งอยู่กับที่เดิม


    “เอิน เป็นอะไรมากมั้ย เจ็บมากมั้ย”

    “แค่นี้ไม่เจ็บหรอก นุ่น โดนตบแค่นี้ มันไม่ระบาดรูขุมขนหรอก”

    “จ๊ะ เอินอย่าคิดมากน่ะ ถึงใครจะคิดยังไง ก็ช่างเค้าเถอะ ยังไงก็ไม่ใช่ความจริงอยู่แล้ว”

    “อืม ฉันว่านุ่นคิดมากกว่าเอินอีกน่ะ เรื่องแค่นี้ ฉันไม่เก็บไปคิดหรอกน่า ฉันว่ามาช่วยคิดกันดีกว่า ว่าฉันจะปราศรัยยังไง น่ะ”ฉันพูด

    “อืม ได้ เอินจะช่วย แต่ตอนนี้ ไปติดใบหาเสียงก่อนดีกว่า”แล้วฉันกับนุ่นก็เดินกันไปติดใบหาเสียงตามบอร์ดภายในโรงเรียน ถึงแม้ว่าจะมีเสียงซุบซิบตามหลังมาก็ตาม ฉันก็ไม่สนใจ เดินหน้าติดไปทุกๆแห่งที่มีบอร์ดจนเสร็จแล้วจึงมานั่งที่ม้าหินอ่อน หลังอาคารเรียน ซึ่งไม่ค่อยมีคนจึงทำให้ฉันมีสมาธิในการคิดได้ดี

    “เฮ้อ เอาไงดีล่ะ”

    “อืม ก็ ตอนแรกกล่าวหวัดดีไง”
    “สิ่งนี้น่ะ ทำอยู่แล้ว ที่ฉันคิดไม่ออกก็คือฉันไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดีต่างหากล่ะ”

    “อ่อ ก็แถลงนโยบายไง ฉันเห็นในทีวีเวลาเค้าแถลงกันน่ะ”

    “นโยบายเหรอ โอ้ ให้ตายเถอะนุ่น จะเอานโยบายอะไรดีล่ะ เอางี้มั้ย นโยบายที่ว่า หากใครกินไอติมทุกๆวัน ประธานนักเรียนจะให้กินฟรี 1 ไม้”

    “เอินจะซื้อให้เหรอ”

    “แหะ แหะ ปล่าวหรอก คือ ปากบอกว่าฟรี แต่แม่ค้าฟรีไม่ฟรีก็เรื่องของแม่ค้าหนะ”

    “หึ หึ หึ ยังมาตลกอีกน่ะเอิน อีกไม่นานก็จะไปพูดแล้วนะ”

    “ช่างเถอะ ฉันทำได้อยู่แล้วล่ะ”

    “อืม”

    หอประชุม

    “เอิน เดี่ยวนุ่นไปที่หน้าเวทีนะจ๊ะ เพราะว่า คนที่ไม่สมัครไม่มีสิทธิ์เข้าไปหลังเวทีจ๊ะ”

    “อ่อ ไม่เป็นไรหรอก เอินไปนะ”

    “จ๊ะ” นุ่นรับคำแล้วเดินไปที่หน้าเวที หลังจากนั้นฉันก็เดินไปที่หลังเวที แต่ยังม่ทันถึงก็มีคนเรียกเสียก่อนำไมวันนี้ มีแต่คนเรียกน่ะ

    “เอิน เอิน ยัยเอิน”

    “อ้าว โก มีไรอ่ะ วิ่งหน้าตั้งมาเลย”

    “แก...แก...แกสมัครเป็นประธานเหรอ”โกพูดแล้วหอบแฮ่กๆๆๆ สงสัยต้องวิ่งมาไกลมาก ถึงได้หอบขนาดนี้ เพราะจริงๆแล้วโกเนี่ย แรง ถึก ออกขนาดนั้น วิ่งนิด วิ่งหน่อยก็ไม่น่าจะเหนื่อยมาก แต่นี้ท่าทางจะวิ่งมาไกล ถึงได้เหนื่อยขนาดนี้

    “อืม ใช่ ทำไมล่ะโก”
    “ก็ไม่ทำไมหรอก แค่มาถาม โชคดีล่ะ”

    “น้องโก โชคดีอยู่แล้ว”

    “เออ นี้ ฉันไปสืบมาว่า การปราศรัยที่นี่อ่ะน่ะ พูดไม่นานหรอก พูดได้แปบนึง ก็จะมีพิธีกรมาถามคำถามอะไรต่างๆอ่ะ”

    “เหรอโก”

    “ก็ใช่น่ะสิ โกไปน่ะ”

    “อืม” ถามคำถามเหรอ ถามว่าไงล่ะที่นี่

    “เฮ้อ”ฉันถอนหายใจออกมาอีกไม่รู้ว่าเป็นรอบที่เท่าไร แต่ก็ได้แต่ถอนออกมา ที่จริงวันนี้ ฉันคิดว่าจะเป็นวันที่ฉันโชคดีแล้วนะ หลังจากที่ได้แกล้งอีตาสีครามนั้นแล้ว แต่กลับไม่ กลับเป็นวันที่โชคร้ายของฉัน โชคร้ายตั้งแต่เข้าโรงเรียนมาได้เจอกับสายตาของนักเรียนในโรงเรียน ได้มาเจอบทสัมภาษณ์ของเจ้สอด เจอคนอื่นซุบซิบนินทา แล้วยังมาโดนโบตั่นตบอีก แล้วนับแต่นี้ล่ะ ฉันจะโดนอะไรอีกก็ไม่รู้

    “เฮ้อ อะไรกันก็ไม่รู้”ฉันพึมพำออกมาอย่างเหนื่อยๆและเบื่อๆเมื่อเดินมาถึงหลังเวทีและนั่งพักที่เก้าอี้โดยไม่สนใจ 2 หนุ่ม ที่มานั่งอยู่ก่อนแล้ว

    “จะพูดอะไรก่อนดีน่ะ”ฉันพึมพำแล้วเปิดบทที่จะพูด

    “นี่ ยัยเต้าหู้บูด”
    ครามเรียกฉันแต่ฉันก็ได้แต่หันไปมองแล้วไม่สนใจ หันมาดูบทต่อ

    “นี่ ยัยเอิน หันมาหน่อยดิ”

    “ยัยเต้าหู้บูด หันมาหน่อยดิ๊”

    “เฮ้อ”ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วหันไปทางอีตาสีคราม

    “อะไร เรียกทำไม มีอะไร หะ อีตาน้ำครำ”

    “เอ่อ ก็ แค่เรียกดูอ่ะ”

    “อ้าว แล้วเรียกทำไมเนี่ย”

    “นี่ ได้ยินว่าวันนี้ เธอโดนตบเหรอ ฮึ”นายสีครามพูด ฉันจึงหันมาดูแล้วมองหน้านายสีครามที่ทำหน้าเครียดๆ จนฉันนึกทึ่ง เพราะไม่คิดว่าตานี่จะเครียดได้ เพราะเห็นว่า ตานี่ชอบแกล้งคนอื่น

    “นี่ ถามแล้วก็ตอบซิ”

    “ใช่ ฉันโดนตบ แล้วนายจะทำไม”

    “เอ่อ เจ็บมากมั้ย”นายสีครามพูด ฉันจึงหันไปจ้องหน้า นายนี้มาถามแบบนี้ รู้สึกแปลกๆแฮะ เพราะตานี้ไม่เคยพูดหรือถามแบบนี้เลย วันนี้มาแปลกแฮะ

    “อะไร นี้เธอจ้องฉันทำไมเนี่ย ฉันก็ถามไปเรื่อยแหละ เธอจะจ้องหาอะไรเล่า ฉันหล่อมากใช่มั้ยถึงจ้องเอาๆอ่ะ”นายสีครามพูดกลบเกลื่อนความเขินที่ฉันจ้อง

    “แหวะ นายเนี่ยน่ะหล่อ ฉันไม่อยากจะเชื่อหรอก ฉันบอกนายแล้วไง ให่เซเว่นปิดก่อนแล้วฉันจะเชื่อ”

    “งั้นเหรอ เอ่อ แล้วเจ็บรึปล่าว”

    “แค่นี้ ไม่เจ็บหรอก เพราะผิวฉันไม่ได้บอบบางเหมือนผิวนาย ที่ได้กินแค่น้ำลำไยจืดๆ ผสมเกลือ น้ำตาล น้ำปลา ก็แค่เนี่ย ก็ทนไม่ไหว เฮ้ย คนบอบบางก็เงี่ย กินอะไรก็ไม่ค่อยจะได้ เดี่ยวผิวจะเสีย อิ อิ ฮ่า ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ”ฉันพูดแล้วหัวเราะร่วนโดยไม่รู้ว่าได้ปิดเผยความลับออกมาแล้ว

    “อะไรน่ะ ผสมน้ำปลา น้ำตาล แล้วก็เกลือเหรอ”นายสีครามพูดทวน

    “ช่าย......อุ้ย อุบส์”ฉันพูดแล้วตกใจ ปิดปาก ทำตาโต แล้วหันไปมองอีตาสีคราม ตายล่ะ พูดยังงี้ ตานี้รู้หมดน่ะสิว่าฉันแกล้ง ถ้าตานี้เอาคืน ฉันจะทำไงดีล่ะเนี่ย ตายล่ะ   ทำไงดีน่า ก็ ก็ เฉยไว้ เอาวิชาหน้าด้านเข้ามาช่วยก่อน ทำไม่รู้ไม่ชี้ซะ น่ะ เอิน คง คงไม่เป็นไรหรอก

    “อะไร้ อะไร ผสมอะไรเหรอ”ฉันพูดแล้วทำท่าไม่รู้เรื่อง ก้มหน้าก้มตาอ่านบทพูดต่อ

    “ก็ที่บอกว่าผสม พวกน้ำตาล น้ำปลานั่นไงล่ะ ฉันรู้น่ะ ว่าเมื่อคืนน่ะ เธอแกล้งฉัน เรื่องน้ำ”

    “น้ำอะไรเหรอ เอาะ อ่อ น้ำที่นายกินเมื่อคืนเหรอ เออ แล้วเป็นไงบ้างล่ะ คอนายหายยังล่ะ นึกแล้วขำอ่ะ คนอาไร้ บอบบางจังเลย เนาะ อิ อิ”

    “นี่ อย่าหัวเราะน่ะ

    ******************************************************************

    ตอนนี้เป็นยังไงบ้างค่ะ ติชมกันหน่อยน่ะค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×