คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทที่ 1
ประธานนักเรียนสุดหล่อ กะ รองประธานสุดแสบ
บทที่1
ในวันที่อากาศเป็นใจให้ฉันนอนหลับอย่างสบายใต้ผ้าห่มลายโดราเอมอน ณ บ้าน กลางเมืองเกียวโตนี้ทำให้ฉันมีความสุขถ้าไม่มีเสียงเอะอะคล้ายหมาตีกันของพี่ฉันที่มาทำลายบรรยากาศเรียกฉันให้ตื่นอยู่
ปัง ปัง ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
"ไอ้เอินๆ ตื่นได้แล้วมีอะไรจะบอก" โกหรือพี่ของฉันบอกพลางทุบประตูของห้องฉันอย่างกะช้างตกมัน
"จะบอกอะไรละ คนจะนอนนะ" ฉันพูดด้วยเสียงงัวเงียง่อนแง่น
"ก็แกออกมาดิ๊ จะได้บอก ชักช้าเหมือนเต่าไม่มีแรงจะคลานอย่างงั้นแหละ"
"เออ ออกไปแล้ว"
คนสวยละรำคาญจริงๆแทนที่จะได้นอนกลับต้องตื่นมาพบไอ้พี่บ้า มากวนประสาทตั้งแต่เช้า แล้วมาว่าว่าเป็นเต่าอีก บ้าจริงๆ
แล้วฉันก็เปิดประตู
แกร็ก
"มีรัยรึปล่าวอะโก รีบๆบอกมา เค้าจะไปนอน" ฉันบอกด้วยสีหน้าไร้อารมณ์และตาที่ปรือๆใกล้จะปิด
"ทำไมแกไม่ล้างหน้า น้ำลายเต็มหน้าแกเลยเห็นแล้วไม่อยากคุยแล้วอะ" แล้วพี่ฉันก็จะเดินไปอย่างผู้ชนะถ้าฉันไม่ตะโกนขึ้นมาก่อน
"นี่จะคุยรึไม่คุยหะ ปลุกคนให้ตื่นมาแบบนี้มันบาปนะเฟ้ย"ฉันเริ่มโวยอย่างเสียอารมณ์
"ไอ้พี่บ้าไม่คุยแล้วจะถ่อสังขารมาปลุกให้ได้อะไรขึ้นมาเนี่ย" ฉันโวยต่อ แล้วพี่ก็หันกลับมาแล้วพูดว่า
"เออคุยก็ได้ นี้เห็นแก่ลูกหมาตาแฉะๆ นะถึงบอก รับรองฉันบอกแก แกต้องตื่นแน่"
"เออนะ บอกมาซะทีซิ" ฉันเร่ง
"ก็ได้ อาทิตย์หน้าเราจะย้ายไปอยู่เมืองไทยแล้วโว้ย"
"เออ ก็แค่เนี้ย จะย้ายไปอยู่เมือง...หะ oOOอะไรนะโกจะไปเมืองไทยเหรอ"
"ใช่ แล้วแกกะฉันก็ไปเรียนต่อที่นู้น"
"จริงเหรอโก"
"ใช่ ป๋ากับม้าเพิ่งบอกเมื่อกี้นี่เอง ฉันไปละ นัดน้องโยโกะกะน้องทาเนะไว้ เดี่ยวสาย เสียเวลากะแกมามากแล้วเดี่ยวน้องเค้าจะรอนาน" แล้วพี่ฉันก็เดินลงบันไดไป
เออ ไอ้พี่เวง ชิ ห่วงคนอื่นมากกว่าน้องตัวเอง ทำมาเป็นเสียเวลาขอให้มันตกบันไดด้วยเถอะ ฉันคิดในใจ
"เฮ้ย ไอ้เอินแกคิดอะไรฉันรู้นะเฟ้ย แช่งให้ตกบันได เฮอะไม่มีทางหรอก 555555555555"
มันรู้ได้ไงเนี่ย อย่าสนใจดีกว่าไปหาป๋ากับม้าก่อน จะได้ถามให้รู้เรื่อง เพื่อจะประหยัดเวลาตอนลงบันไดขอแนะนำตัวละกันนะค่ะ
ฉันชื่อเอินมีพี่น้อง 2คนคือโกปันกะฉัน ฉันจะขึ้นม.5แล้วส่วนโกก็ขึ้นม.6 มาอยู่ญี่ปุ่นตั้งแต่อายุ3 ขวบเพราะแม่กับพ่อย้ายมาด้วยเหตุผลเรื่องงาน ฉันอยากไปประเทศไทยมากพอโกมาบอกก็ทำให้ฉันตาโตเท่าไข่ห่าน อึ้งเหมือนอึ่งอ่างกำลังพองตัวและดีใจมากเหมือนกับตัวเองได้รับของขวัญชิ้นโต
แล้วในที่สุดฉันก็หอบสังขารมาห้องครัวจนได้แล้วนั่งที่โต๊ะอาหารทันที
"ม้าๆวันนี้มีไรกินบ้างค่ะ"
[ทำไมไม่ถามเรื่องเมืองไทยอ่ะ:ผู้แต่ง][ก็ฉันเป็นนางเอกผู้แต่งอะแต่งไปเถอะ:เอิง]
"วันนี้มีข้าวต้มหมู เอินจะเอารึปล่าวจ๊ะ"
"เอาสิค่ะม้า เอาเยอะๆนะค่ะ"
"แหมม้าก็ถามได้อย่างเอินมีรึจะไม่เอา ถามอย่างกะไม่รู้ใจลูกงั้นแหละ" ฉันตอบอย่างแกล้งน้อยใจ
[ยัยเอินเข้าเรื่องได้แล้วห่วงเรื่องกินอยู่นั้นแหละ:ผู้แต่ง][เออน่า:เอิน]
แม่เขกหัวฉันทีนึงด้วยความหมั้นไส้ แล้วหันไปตักข้าวต้มต่อ
"เออนี้เอิน รู้รึยังว่าครอบครัวเราจะย้ายไปเมืองไทยอาทิตย์หน้านะ นี่ป๋าเพิ่งบอกปันไปเมื่อกี้" ป๋าของฉันพูดขึ้น
"อ่อ รู้แล้วป๋า แล้วไปทำไมละ" ฉันถามขึ้น
โธ่ป๋า เค้าคิดจะเป็นคนเอ่ยเรื่องนี้ แต่ป๋าดันเอ่ยขึ่นมา ป๋ารู้ปะว่ามันเสียเวลาคิดอะ ฉันคิดในใจ
"ป๋าจะกลับไปดูแลงานที่สาขาไทยส่วนที่สาขาญี่ปุ่นป๋าจะให้ผู้ช่วยดูแลแทนและป๋าจะไปหาเพื่อนของป๋าด้วย" ป๋าตอบ
และฉันก็ไม่พูดอะไรอีก สนใจแต่ข้าวต้มหมูที่ฉันกินเกือบหมดแล้วจนกระทั่งม้าพูดขึ้นว่า
"เออ ป๋า จะให้เอินกับปันเรียนที่ไหนละ"
เมื่อได้ยินคำถามนั้นฉันก็เงยหน้าขึ้นมามองป๋า แล้วป๋าก็พูดว่า
"จัดการไว้เรียนร้อยแล้ว ไปถึงก็เรียนได้เลย"
ป๋าบอกไว้แค่นั้นแล้วเดินจากไปเล่นกะไอ้ฟ็อกที่หน้าหน้าบ้าน คงรู้ใช่มั้ยค่ะว่ามานคือสุนัขซึ่งชื่อของมันทุเรศมากพอๆกะคนแต่งนั้นแหละ ไอ้คนแต่งก้อไม่ใช่ใครที่ไหนแพราะมันคือ โกปัน พี่ฉันเอง ฮะ ฮ่า 55555 ส่วนฉันก็จัดการกับข้าวต้มต่อเป็นถ้วยที่ 5จนอิ่ม กำลังจะลุกจากโต๊ะ ม้าก็พูดขึ้นมาอีกว่า
"อย่าลืมจัดกระเป๋านะจ๊ะ"
"ค่า" ฉันตอบด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข
และแล้ววันที่รอคอยก็มาถึง
สนามบิน
"เย้ เย้ เดี้ยวก็ถึงเมืองไทยแล้ว เย้ เย้"
"Made in Thailand โย่ โย่ Made in Thailand โย่ โย่" ฉันร้องเพลงของคาลา..อะไรก็ไม่รู้แต่ยังไงก็คิดว่า จงร้องต่อไป เพราะมันคือความสุขของตัวเองถึงแม้ว่าฉันจะร้องดังไปบ้างแต่มันก็เป็นความสุขของฉันคนอื่นไม่เกี่ยว555 แล้วฉันก็หันมาดูรอบๆตัวเอง เอ้ ทำไมคนหันมาดูฉันกันละเนี่ย ไม่เคยเห็นคนสวยกันหรือยังไงยะ
"นี้ ไอ้เอิน แกเงียบๆหน่อยได้มั้ย ฟะ" โกปันพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเพราะโดนฉันปลุกตั้งแต่ตี4ครึ่ง เพราะความตื่นเต้นของฉันเองทั้งที่พวกเราจะขึ้นเครื่องตอน 8 โมงเช้า แหะ แหะ
"ไม่ได้เฟ้ย คนมันดีใจ เข้าใจมั้ยจ้า" ฉันบอกโดยไม่สนใจเสียงพี่ชายของตัวเองที่กำลังบ่นงุบงิบอยู่เลยแม้แต่น้อย แล้วหลังจากนั้นฉันก็ดูนาฬิกาพร้อมทั้งได้ยินเสียงของพนักงานประชาสัมพันธ์ของสนามบินเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า
ผู้โดยสารที่จะเดินทางไปประเทศไทยโปรดทราบ ขณะนี้ใกล้เวลาที่เครื่องจะออก ขอให้ผู้โดยสารที่จะเดินทางไปประเทศไทยมาขึ้นเครื่องในตอนนี้ด้วยค่ะ
"โอ้ จะขึ้นเครื่องแล้วเหรอเนี่ย"
"ก็ใช่นะสิ แกคิดว่าจะได้ขึ้นขี่ขีปนาวุธรึไงฟะ"
"โกจะบ้าเหรอ ใครจะขี่ขีปนาวุธให้ชีวิตแขวนอยู่บนระเบิดละ โกบ้าหรือเพี้ยนไปรึปล่าวหะ" ฉันพูดพลางเอามือไปแตะบนหน้าผาก
"โอ้ย พอเถอะยัยเอิน แกนี้มันบ้าจริงๆ จะไปประเทศไทยแค่เนี่ย จะดีใจอะไรกันนักกันหนา แม้แต่ฉันพูดประชด แกก็ไม่รู้เหรอ ฉันขี้เกียจจะเถียงกะแกแล้ว รีบขึ้นเครื่องไปนอนดีกว่า" โกพูดแล้ววิ่งปรูดไปยื่นบัตรให้พนักงานรับตั๋ว แล้วรีบไปขึ้นเครื่องไปเลย
"โธ่ ไอ้พี่บ้า มาหาว่าเค้าบ้า เค้าไม่ได้บ้านะยะ" ฉันพูดแล้วมองไปรอบๆ "อ้าวไหนป๋ากับม้าละนี่อย่าบอกนะว่าไปขึ้นเครื่องกันหมดแล้วโดยไม่รอฉัน" ฉันพูดกับตัวเองพร้อมกับที่หูฉันที่ได้ยินเสียงชื่อตัวเองเป็นภาษาญี่ปุ่น
นางสาว บุศกร นภาพงศ์ กรุณามาขึ้นเครื่องในตอนนี้ด้วยค่ะ
"เอ๊ะ นั้นมันชื่อฉันนี่" ฉันพูดพลางดูนาฬิกา เหลือเวลาอีก 2 นาทีเครื่องจะออกแล้วฉันจะไปทันมั้ยเนี่ย หลังจากที่ฉันดูนาฬิกาฉันก็วิ่งอย่างเอาเป็นเอาตาย ชนคนอื่นก็ไม่ได้หันหน้าอันขาวเนียนไปขอโทษจึงโดนด่าไล่หลังมาหลายคน แหมจะให้หันหน้าไปขอโทษได้ไงยะ คนกำลังรีบ และแล้วฉันก็มาถึงที่นั่งจนได้
แฮ่ก แฮ่กๆๆ
"อ้าวไอ้เอินไปฝัดกับสุนัขแถวไหนมาเนี่ยอุตสาห์พูดอย่างสุภาพแล้วนะเนี่ย"พี่ฉันพูดพลางตบหลังฉันที่กำลังเหนื่อยและจุกอย่างแรงดัง พลั่ก พลั่ก
"โอ๊ย เจ็บนะไอ้โกบ้า ไม่รอเค้าแล้วยังมาตบหลังเค้าอีก เค้าเจ็บนะ ฮือ ฮือ"
"โอ๊ะ โอ๊ะ โกขอโทษ โกไม่ได้ตั้งใจ ก็ตามทฤษฎีแล้วนี้ ถ้าสุนัขมันเหนื่อยต้องตบหลังแล้วถ้า......." โกตองพูดยังไม่ทันจบฉันก็ตะโกนขึ้นมาว่า
"โกว่าเค้าเป็นหมาเหรอ" ฉันพูดอย่างโมโหพลางจ้องโกปันไม่วางตา
"อะ อ้าว โกยังไม่เอ่ยชื่อเลยนะว่าเอินเป็นหมา อย่าร้อนตัวซิ เออแล้วอยู่บนเครื่องอย่าตะโกนซิ ดูซิ คนเค้าหันมามองกันแล้วนะ อยากให้โกปลอบมั้ย"หลังจากนั้นโกก็มาลูบหัวฉัน
"โกตอง ไอ้พี่เวง ไอ้พี่ @#$%^&*+" หลังจากนั้นฉันก็กระโดดไปบีบคอโกปันและตีแขนโกปันอย่างไม่ยั้งมือ จนกระทั่ง
"กรุณาอย่าเสียงดังและเล่นกันในเครื่องบินนะค่ะมิเช่นนั้นดิฉันจะจับแยกที่นั่งนะค่ะ ขณะนี้เครื่องจะออกแล้วขอให้คาดเข็มขัดด้วยค่ะ"
พี่กับฉันฟังแอร์โฮสเตสมาเตือนอย่างสงบ แต่ฉันไม่ค่อยสงบจึงเถียงไปตามประสาคนที่ปากอยู่ไม่สุข
เป็นเรื่องแรกค่ะ ยังไงก็ช่วยกันติชมด้วยน่ะค่ะ
ความคิดเห็น