My love Friend การแอบรักของสาวม.ปลาย กะ นายเพื่อนที่สนิท - My love Friend การแอบรักของสาวม.ปลาย กะ นายเพื่อนที่สนิท นิยาย My love Friend การแอบรักของสาวม.ปลาย กะ นายเพื่อนที่สนิท : Dek-D.com - Writer

    My love Friend การแอบรักของสาวม.ปลาย กะ นายเพื่อนที่สนิท

    ฉันไม่เคยเจ็บปวดหากเขามีความสุกับคนที่เขารัก และฉันจะไม่เเป็นทุกข์ หากฉันเป็นแค่เพื่อนที่ดีก็ตาม

    ผู้เข้าชมรวม

    315

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    6

    ผู้เข้าชมรวม


    315

    ความคิดเห็น


    4

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  9 มี.ค. 49 / 14:19 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      My Love Friend

      ความรักที่แอบรัก
      ของสาวม.ปลาย กับนายเพื่อนที่สนิท

      12 ก.พ. 49
                    การแอบรักไม่ใช่เรื่องที่น่าเจ็บปวด แต่บางครั้งอาจจะเป็นเรื่องน่าเจ็บปวดสำเร็จใครหลายคน แต่สำหรับฉัน ไม่ใช่ 
                  ที่ฉันไม่เจ็บปวด อาจจะเป็นเพราะได้เห็นคนที่แอบรักมีความสุขก็เป็นได้ การแอบรักเป็นสิ่งที่ไม่น่าเจ็บปวดเสมอไปไม่ใช่หรือ ฉันยึดถือว่า ความรักคือการให้ มิได้หวังสิ่งตอบแทน ความรักคือ การเสียสละมิใช่การแย่งชิง เพื่อที่จะให้คนที่เรารักมาเป็นของๆตัวเองเพราะเค้ามิใช่สิ่งของ มิใช่วัตถุ ที่จะมาแย่งชิงเพื่อให้ได้ซึ่งสิ่งที่ใจปรารถนา
      "เฮ้อ" มีนาถอนหายใจเบาๆพร้อมกับปิดสมุดไดอารี่และวางปากกาเล่มเดิมที่เขียนไดอารี่อยู่ทุกๆวันลงบนแป้นวางปากา

                     มีนา มักจะมาเขียนไดอารี่ข้างหน้าต่างของห้องเธออยู่เสมอ เธอเขียนไดอารี่เป็นประจำทุกวันจนกลายเป็นนิสัยและเป็นกิจวัตรประจำวันมาตั้งแต่ ป.5 เริ่มแรกที่เธอเขียนจะเขียนในเรื่องของชีวิตประจำวันของเธอเองและเขียนแบบนั้นเรื่อยมาจนกระทั่งเธออยู่ ม. 5 ได้รู้จักกับเพื่อนในห้องและเพื่อนบ้านคนใหม่ที่ย้ายมาอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน หลังจากนั้นเธอจึงเบนเข็มมาเขียนถึงความรู้สึกของตัวเองจนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้

                     บ้านของเธออยู่ที่ หมู่บ้าน สุนามิตร 16 ลักษณะเป็นบ้าน2 ชั้น  ห้องนอนของเธอซึ่งอยู่ชั้นบนและด้วยความที่บังเอิญหรืออย่างไรก็ไม่ทราบ ห้องนอนของคนที่มีนาแอบรักก็อยู่ชั้นบนและหน้าต่างก็หันหน้าเข้ากับหน้าต่างของห้องของเธอและเมื่อเธอเขียนไดอารี่เสร็จ เขาก็มักจะมาคุยกับเธอผ่านทางหน้าต่างอยู่เกือบทุกวันเพราะบ้านอยู่ใกล้กันและคุยกันตามประสาเพื่อนร่วมห้องและเพื่อนที่เรียกว่าจะสนิทก็ได้

      "เฮ้ย นา แกทำอะไรอยู่ที่หน้าต่างทุกวันอ๊ะ ฉันเห็นเกือบทุกวันเลยน่ะเว้ย" นี่คือเสียงของศิระ เสียงของคนที่มีนาแอบรัก

      "ฉันจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉันไม่ใช่ของแกสักหน่อย ชิทำเป็นยุ่งเรื่องของคนอื่น เรื่องของตัวเองยุ่งซะก่อนเหอะ"

      "จะให้ยุ่งอะไรอีกล่ะคร้าบ ไม่ต้องยุ่งแล้วเพราะฉันออกจะเพอร์เฟ็กต์ แค่ปัดนิดหน่อยก็ใช้ได้แล้ว ฮะ ฮ้า"

      "งั้น เหรอ อืม แล้วฉันจะพยายามเชื่อล่ะกันน่ะ อิ อิ" มีนาพูดแล้วทำสีหน้าเหยียดๆซึ่งดูก็รู้ว่าล้อเล่น

      "เชื่อเถอะน่ะ มีนา เพราะยังไงฉันก็ยังให้เธอเห็นความหล่อของฉันอยู่ทุกวันนีน่า เหอ เหอ"

      "เฮอะ นายหล่อเหรอ เพิ่งรู้น่ะเนี่ย"

      "เอาเถอะๆ ไม่เชื่ออย่าเชื่อแต่ถ้าตกหลุมคนหล่อคนนี้เมื่อไร อย่าคิดว่าคนหล่อไม่เตือนนะ ฮ่า 555+"

      "ตก..ตก..ตกหลุมอะไร นะ นาย บอกมาเดี่ยวนี้เลยนะ"

      "ฮะ ฮะ ไม่บอก ถ้าอยากรู้ต้องทำอะไรให้ก่อนซิ"

      มีนาได้ยินแล้วก็รู้ว่าไม่ต้องถาม เพราะได้ยินแบบนี้ที่ไรเป็นต้องทำอะไรให้ทู้กที

      "เฮ้อ จะให้ทำอะไรให้อีกล่ะค๊า คุณศิระ"

      "โอ้ววว ก้อด รู้ได้งัยเนี่ย "

      "ทำไมจะไม่รู้ล่ะ หะ ไอ้คุณศิระ ถ้านายจะให้ฉันช่วยอะไร นายมาไม้นี่ทุกทีเลย รู้บ้างมั้ยเนี่ย"

      "โอ้วว เหรอคร้าบ เพิ่งรู้จนกระจ่างในใจดังแปล้บ ก็เมื่อกี้ที่เจ๊ เอ้ย นา บอกเมื่อกี้นี่แหละ "

      "เออ งั้นเหรอ งั้นนายจะให้ช่วยอะไรก็บอกมาดิ ชักช้าอยู่ได้ เดี่ยวก็ไม่ช่วยเสียหรอก"

      " โอะ โอ้ บอกแล้วๆ อย่างอนเลยนะ"

      "อ้าว นี้ใครงอนๆ อยากกินบาทาสักคู่มั้ย เดี่ยวจะประทานให้ เอามั้ยๆ"

      "เหอๆ ไม่เอาอ่ะ เอาเป็นว่าเธอช่วยตอบจดหมายของ พี่ๆ น้องๆ& เพื่อนๆของฉันให้หน่อยดิ ฉันขี้เกียจเขียนอ่ะ น่ะ ช่วยหน่อยดิ น่ะ นะ"

      "เฮ้อ จดหมายรักล่ะซิท่า"

      "เอ่อ คงงั้นมั่ง ว่าแต่ ช่วยหน่อยเหอะ นะ"

      "อืมได้เอามาซิแต่ถ้าฉันปวดหัวและอาเจียนไปโรงเรียนไม่ได้พรุ่งนี้ นายต้องรับผิดชอบน่ะเว้ย ฐานที่นายเอาจดหมายที่มีแต่คำที่อ่านแล้วรู้สึกพะอืดพะอมมาให้ฉันนะ"

      "มันน่าปวดหัวตรงไหน หึ ไอ้นา"

      "ก็ตรงที่มีแต่คำว่า ฮึ อึ้ม ฟังให้ดีน่ะ"

      "คร้าบ เชิญบอก"

      "เอาล่ะ ฟังให้ดีน่ะ พี่ศิระค่ะ ปุ๊งปิ๊งอยากจะบอกว่า ปุ๊งปิ๊งชอบพี่ศิระค่ะ ไม่ว่าจะทุกลมหายใจเข้าออกก็มีแต่พี่ศิระน่ะค่ะ ปุ๊งปิ๊งชอบพี่ศิระน่ะค่ะ ชอบ ชอบมานานแล้วค่ะ พี่ศิระจะว่าอะไรไม่ค่ะ ถ้าปุ๊งปิ๊งจะขอเป็น เพื่อนหรือมากกว่าเพื่อนจะได้มั้ยค่ะ รักค่ะ ปุ๊งปิ๊ง"

      " เป็นไง  รู้สึกไงบ้าง"

      "ก็ ไม่รู้ดิ"

      "ฉันรู้สึกสงสารน้องเค้าอ๊ะ หลงผิดอะไรมาชอบนายเนี่ย"

      "อะ อ้าว นี้มันดูถูกกันนี้ สาวน้อย"

      "อะ อะ ไม่ได้ดูถูกนะ ว่าแต่ไหนล่ะจดหมายน่ะที่จะให้ตอบน่ะ"

      "อะ นี้ไง เดี่ยวจะส่งไปให้"

      "อืม ฉันว่า หากนายไม่สนใจน้องเค้า นายน่าจะบอกน้องเค้าไปนะ อย่าให้น้องเค้าคิดมากไปเองน่ะ เดี่ยวจะไม่ดีเสียปล่าวๆน่ะ ศิระ"

      " อืมม ฉันก็พยายามหาทางจะบอกน่ะ"

      "อืม

      แล้วศิระก็ส่งจดหมายมาทางกระเช้าเอามาให้ฉัน และฉันก็เอื้อมไปรับจดหมายปึกใหญ่มา

      "โห นี่มันกี่ฉบับเนี่ย ศิระ"

      "เอาะ อ่อ  20 ฉบับน่ะ แหะ แหะ"

      " โห มีคนหลงผิดขนาดนี้เลยหรอเนี่ย"

      "คนมันหล่อ ทำไงได้ล่ะ อิ อิ"

      "เออ ค๊า ไม่ค่อยจะหลงตัวเองเลยน่ะ"

      "นี่ ไม่ได้หลงตัวเองน่ะ ความหล่อมันมีมาแต่กำเนิด แก้ไขไม่ได้คร้าบอ ิ อิ"

      "เหรอค่ะ แล้วจะคอยดูน่ะ"

      "คร้าบ ถ้าคอยดูแล้วหากดูนานคิดตังค์น่ะจะบอกให้"

      "ถึงคิดก็ไม่ให้หรอก ฮ่าๆๆๆ"

      "อ้าวแบบนี้ก็โกงน่ะซิ"

      "ไม่ได้โกงน่ะ ใครใช้ให้มาคิดล่ะ เหอ เหอ"

      "อืม คร้าบ ยอมแล้วก็ได้ ว่าแต่จดหมายน่ะขอเอามะรืนนี้ได้ป่ะ"

      "อืม น่าจะได้อ่ะ แล้วจะเอาไปให้ที่โรงเรียนน่ะ"

      "คร้าบ"
      ตุก ตะลุด ตุด ตุด ตู้ด

      "อะ โทรศัพท์ เดี่ยวมาน่ะ"

      "อืม"
      แล้วฉันก็นั่งหันหลังให้กับบานหน้าต่าง ไม่ใช่เพราะฉันไม่อยากรู้ว่าเค้าคุยอะไรกันแต่ฉันไม่อยากจะไปขัดความสุขของศิระที่กำลังคุยกับซูการ์หรือแฟนของศิระนั่นเอง ซูการ์เป็นดาวของโรงเรียน เป็นคนที่เป็นที่ชื่นชมของใครหลายๆคนในเรื่องของความสวยรวมถึงศิระ แต่ในเรื่องนิสัยที่ฉันมักจะได้ยิน คือ ความเอาแต่ใจตัวเองและการตอแหลที่แนบเนียนของเค้า แต่ศิระน่าจะทนได้ อาจจะเป็นเพราะความรักที่มีให้ซูการ์ก็เป็นได้และซูการ์
      อาจจะเปลี่ยนแปลงนิสัยเพื่อศิระก็ได้ ซึ่งความเป็นไปได้นั้น มีมากหรือน้อยฉันก็ไม่รู้เพราะไม่ได้สนิทกับเธอ แค่ได้ยินข่าวต่างๆที่รุ่นน้องตบกันกับรุ่นพี่คือซูการ์ เหตุผลในการทะเลาะกันคงหนีไม่พ้นในเรื่องของ ศิระ 

      "เฮ้อ น่าสงสารทั่งซูการ์และคนอื่นๆ เฮ้อ"
      ฉันก็เกือบโดนซูการ์ตบเหมือนกัน ถ้าศิระไม่ช่วยเอาไว้ เหตุที่เกือบโดน เพราะ สนิทกับศิระมากเกินไปและชอบเดินกลับบ้านกับศิระ

      "เฮ้อ"

      แล้วฉันก็หันหน้าเข้าหาหน้าต่างและได้เห็นภาพที่ศิระทำหน้ายุ่งๆเครียด เหมือนกำลังทะเลาะกับใครอยู่ไม่มีผิด จะเป็นอะไรรึปล่าวน่ะ  เฮ้อ ขอให้ดีกันเร็วๆน่ะ เฮ้อ ไปนอนดีกว่า แต่แล้วก็มีเสียงที่คุ้นหูมาขัดเสียก่อน เฮ้ย เสียเซ้วหมดเลย

      "มีอะไรอีกอ๊ะ ศิระ"

      "เอ่อ"ศิระทำหน้าลำบากใจจนผิดสังเกต ฉันจึงถามออกไปว่า

      "นี้ มีอะไรรึปล่าว บอกเราได้น่ะ"

      "เอ่อ ไม่มีรัยหรอก ไปนอนเถอะ กู้ดไนท์นะ"

      "อืม กู้ดไนท์"

      โรงเรียน

      "นี่ เธอน่ะหยุดก่อนดิ"
      ฉันหันซ้าย หันขวา เรียกฉันรึปล่าวฟะเนี่ย
      "นี่ เรียกเธอนั่นแหละ"
      "ฉันเหรอ"
      "เออ เรียกเธอนั่นแหละ"
      เอ๊ะ พวกนี้หน้าคุ้นๆแฮะ  เอาะ อ่อ พวกของยัยซูการ์ นั่นเอง
      "นี่เธอ วันนี้ ตอนเย็น เจอกันหลังโรงเรียน"
      "มีอะไรรึปล่าว"
      "เออ น่ะ เดี่ยวมาก็รู้ อย่าเบี้ยวล่ะ"
      "อืม" ก็เอาซี อยากมีเรื่องกับมีนาคนนี้ก็เชิญ อย่าคิดว่า มีนาคนนี้จะกลัว เฮอะ

      ม.5/2

      "อ้าว หวัดดี ไอ้นา"

      "อืม หวัดดี แกน"

      "ว้าวๆ วันนี้สิ่งมหัศจรรศ์อย่างที่ 8 เกิดขึ้นแล้วว่ะ ไอ้นา"นี้คือเสียงไอ้ป็อบอาย เพื่อนที่ชอบแซวคนอื่นยกอื่นตัวเองพูดขึ้น

      "อะไรของแกอีกล่ะ ไอ้คุณ ป็อบอาย"

      "ก็ วันนี้ เจ๊นา มาเช้าผิดปกติ ที่จริง เจ๊มาเกือบเข้าแถวไม่ใช่เหรอ"

      "ฉันจะมาเช้าหรือมาสายก็เรื่องของฉันเว้ย ไอ้ป็อบ ไม่เกี่ยวกะแก เน้น ไม่เกี่ยวโว้ย"

      "โธ่ เจ๊ เค้าล้อเล่นหน่อยนึง ก็ รมเสีย วัยรุ่นเซ็งเลย   ถามหน่อยน่ะ ไปกินรังแตนที่ไหนมาเหรอจ๊ะ"

      "นี่ ดูปากฉัน ว่า มานเรื่องของฉัน นายไม่เกี่ยว อยากกินบาทามั้ย เดี่ยวประทานให้ เอามั้ยจ๊ะ"

      "โธ่ ไม่เอาแล้วๆ ไปแล้วก็ได้"

      "เฮ้ย ไอ้นา แกเป็นอะไรไปรึปล่าว จิงๆน่ะ ฉันสังเกตตั้งแต่แกเดินมาแล้วน่ะ"

      "ปล่าว ไม่มีรัยหรอกแกน"

      "อืม มีรัยให้ช่วยก็บอกล่ะกันน่ะ เออ แกมีอะไรกะยัยซูการ์ก้นเปรี้ยวนั้นรึปล่าวอ๊ะ เห็นเมื่อกี้มาตะโกนใหญ่เลยว่าแกอยู่ไหน"

      "ไม่มีรัยหรอก ช่างเถอะ"

      "อืม"

      "หวัดดี สาวๆ"

      "อืมดีๆ"ฉันกะแกนพูดพร้อมๆกัน

      "เออนี้ เมื่อกี้ที่ยัย..."

      "แกน"ฉันหันไปปั้นสีหน้าขรึมใส่แกน

      "อ่อ เอ่อ ไม่มีรัยแล้วล่ะ แหะ แหะ"

      "นา มีอะไรรึปล่าว"

      "ศิระ ไม่มีอะไรหรอก เออ นี้ จดหมายได้แล้วน่ะ   นี่ไง"

      "อืม ขอบคุณน่ะ"

      "อืม เออ ค่าตอบจดหมายน่ะเปลี่ยนคำขอบคุณเป็นเลี้ยงไอติมได้ป่ะ อิ อิ"

      "อืม ได้สิ เอาเป็น ตอนเที่ยงที่โรงอาหารแล้วกัน"

      "อืม ตกลง"

      "ไปละ"

      "อืม"

      จ้อกๆ ต้อกๆ ตอด โครก ครากๆๆๆ

      "เฮ้ย นาได้ยินเสียงอะไรป่าวอ๊ะ ทุเรศเป็นบ้าเลยอ๊ะ"

      "เออ นั้น ซิ ทุเรศมาก เสียงอะไรเนี่ย"

      "ฉันรู้สึกจะได้ยินใกล้ๆนี่แหละ"

      "เออ หรือว่า"

      "อะไร"

      "เอ่อ มานคือเสียงท้องร้องของฉันเอง แหะ แหะ

      "เออ ไม่อยากจะบอกเลยว่า ทุเรศมาก"

      "นี้ ไม่ต้องย้ำได้มั้ยค่ะ คือ เนี่ย หิวข้าวแล้วอ๊า แง๊ แง เดี่ยวร้องใส่เลย"

      "อืม ไป แล้วอย่าร้องใส่ฉันอีกล่ะ เพราะมันเหมือนว่าแกจะงาบหัวฉันไปกินมากกว่า"

      "อืม รู้แล้ว งั้นไปกันเ

      หลังโรงเรียน

      "มาเร็วดีนี่ มีนา" เสียงของซูการ์พูดขี้นทางข้างหลังฉัน

      "อืม มาเร็วซิดีจะได้ไม่เสียเวลา ว่ามา มีอะไรรึปล่าว"

      "นี้ กล้าดียังไงมาสั่ง ซูการ์" นี่คือเสียงของยัยซอลท์เพื่อนผู้ซื่อสัตย์ที่อยู่ทางซ้ายของซูการ์ส่วนอีกคนก็คือ ยัยชิลี เพื่อนผู้แสนถึกและบึกบึนคือผู้อยู่ทางขวา มารวมกันในแก้งค์ที่ชื่อว่า รสชาติที่ลงตัว โอ้ก้อด ตั้งมาได้งัยเนี่ย รสชาติที่ลงตัว หุ หุ

      "ช่างเถอะ มาคุยธุระดีกว่า"   ซูการ์หันไปพูดกับยัยเพื่อนเลิฟของเธอ

      “แล้วตกลงเธอมีธุระอะไรกับฉันก็พูดมาสิ”
      “ฮึ ฉันพูดแน่”
      “ก็พูดมาสิ”
      “ก็ได้ พูดเลยก็ได้ ดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องอ้อมค้อมให้มาก เอาเป็นว่า” ซูการ์สูดลมหายใจเล็กน้อยแล้วพูดว่า
      “เธอ คิดยังไงกับ ศิระ”
      “ไม่ได้คิดอะไร นอกจาก เพื่อนคนหนึ่ง เท่านั้น”
      “ฉันไม่เชื่อ”
      “เชื่อ หรือ ไม่เชื่อ ฉันไม่สน แต่ ฉันไม่ได้คิดยังไงกับศิระทั้งนั้น นอกจากเพื่อนที่ดีคนหนึ่งเท่านั้น”
      “อย่ามาแก้ตัว แล้วที่เธอคุยกับศิระที่หน้าต่างทุกวันเนี่ย หมายความว่าไง”
      “ก็ไม่หมายความว่าไง ฉันคุยกับศิระในฐานะเพื่อนเท่านั้น แล้ว ฉัน ก็ไม่คิดจะแก้ตัวด้วย เพราะ ฉันไม่ได้ทำผิดที่จะต้องแก้ตัว”ฉันพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆแต่สุขุมและมั่นคงจนซูการ์สะอึกไปเล็กน้อย
      “อี้ๆๆๆ ยัยนี่นิ จองหองนัก น่าจะตบซะให้เลือดออกจากปากซะบ้าง จะได้ไม่ต้องอวดดี ฮึ”แล้วยัยซอลท์ก็ตั้งท่าจะเข้ามาตบฉัน พร้อมกับทำหน้า แค้นๆแทนเพื่อนได้อย่างแนบเนียน เฮอะ ก็ลองเข้าดูสิ ฉันก็มีมือมีเท้า อยากจะเข้ามาก็ลองดู
      “ไม่เป็นไรหรอก ซอลท์”ซูการ์พูดขึ้นแล้วเหลือบมามองฉันอย่างแปลกใจที่ฉันทำหน้าแบบไม่สะทกสะท้านอะไรทั้งนั้น เพราะความจริงแล้ว ใครที่จะโดนยัยซอลท์ หรือ ยัยชิลีตบ จะต้องกลัวพลังตบของทั้งสองคนทั้งนั้น
      “แต่ซูการ์ ยัยนามันจะ…….”
      “เหอะน่า ไม่เป็นไรหรอก”ซูการ์ปรามซอลท์พร้อมกับที่ยัยซอลท์ ทำหน้าไม่พอใจ แล้วหันไปกระทืบเท้าอย่างไม่พอใจอยู่ที่หลังของซูการ์ ดูแล้วก้คล้ายกับกระทิงเวลาไม่พอใจเลย อิ อิ

      “ตกลงเธอไม่คิดอะไรกับ ศิระ แน่น่ะ”
      “แน่ ฉันไม่ได้คิดอะไรกับศิระ”
      “งั้น ฉันไปได้ยังล่ะ”
      “อืม”
      “ไปล่ะ”แล้วฉันก็หันหลังกลับแต่

      “เดี่ยว”เสียงซูการ์เรียกไว้
      “มีอะไรอีกล่ะ”แล้วฉันก็หันหน้าไปหาซูการ์
      “คือ ฉันกำลังทะเลาะกับ ศิระ เพราะ....เธอ”
      “เฮ้อ เธอ ไปปรับความเข้าใจกับศิระซะเถอะ แล้ว หลังจากนี้ เธอก็ไม่ต้องกังวลในเรื่องของฉันอีก เพราะ ฉัน ไม่คิดอะไรกับศิระอยู่แล้ว”
      “อืม”
      “นี่ ฉันขอบอกอะไรกับเธอได้รึปล่าว”
      “ก็เอาซิ”
      “ ซูการ์ ศิระน่ะเป็นคนดีน่ะแล้วเธอก็เหมาะสมแล้วกับศิระ เธอรักศิระแล้วศิระก็รักเธอ เธอทั้งสองคนเลือกที่จะคบกันก็แสดงว่าทั้งเธอและศิระต่างก็เลือกสิ่งที่คิดว่าดีและเหมาะกับตัวเองแล้ว ฉะนั้น ฉันว่า เธอทั้งสองคนควรที่จะถนอมน้ำใจกันเอาไว้ดีกว่า ปรับความเข้าใจกันแล้วเธอกับศิระก็จะมีความสุขนะ ไปปรับความเข้าใจกันซะเถอะ ฉัน ขอ เอาใจช่วย ฉันไปนะ บาย”
      “อืมบาย เอ่อมีนาขอบคุณเธอมากน่ะ”
      “อืมไม่เป็นไร” แล้วฉันก็หันหลังซูการ์แล้วเดินไปจากตรงนั้นซูการ์ ฉันขอให้เธอและศิระ มีความสุขและรักกันไปนานๆนะ

      หน้าโรงเรียน

      “อ้าว ศิระ ยังไม่กลับบ้านเหรอ”
      “อืม กะว่าจะทำธุระก่อนสักแป็บนะ เออ แล้วนาก็ยังไม่กลับนี่”
      “อืม ฉันจะกลับแล้วล่ะ เออ แล้ว นายกำลังทะเลาะกับซูการ์อยู่รึปล่าว ขอถามหน่อยสิ”
      “เอ่อ อืม ใช่ เอ่อ เป็นเรื่อง.......”
      “ของฉันใช่มั้ย”
      “ใช่ เธอรู้ได้ไงน่ะ”
      “เหอะน่า รู้ก็แล้วกัน นายไปปรับความเข้าใจกับซูการ์ซะเถอะ ไม่ต้องห่วงเรื่องของฉันหรอก ฉันจัดการเรียบร้อยไปเปราะนึงแล้ว ฉะนั้นนาย สบายใจได้ ศิระ ไปปรับความเข้าใจกันซะเดี่ยว ซูการ์ งอน ไม่คืนดีด้วยแล้วจะหาว่านาไม่เตือนนะ”
      “อืม ขอบใจนะนา เธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันจริงๆ ฉันขอบใจเธอมากน่ะ”
      “ไม่เป็นไรหรอก”แล้วฉันก็เดินไปขึ้นรถเมล์พร้อมกับศิระที่เดินแยกไปอีกทางหนึ่ง

      บ้านของมีนา

      13 ก.พ. 49
      การเสียสละ เพื่อ คนที่เรารัก คือ ความสุขใช่รึปล่าว ฉันเฝ้าถามตัวเองมานาน ถามมาหลายครั้ง จนในที่สุดคำตอบก็ปรากฏในวันนี้นี่เอง แล้วคำตอบของฉันคือ ใช่ ฉันไม่รู้สึกอะไรเลย  นอกจากความรู้สึกที่ดีเท่านั้น สำหรับคนอื่นอาจจะไม่ใช่แบบนี้ แต่ สำหรับ ฉัน มีความรู้สึกแบบนี้ ดีกว่า ที่จะไปมีแบบอื่น เพราะมีแบบนี้สบายใจกว่าและไม่ทำให้ตัวเองเศร้าหมอง

      แล้วมีนาก็วางปากกาวางไว้ ณ จุดเดิมที่วางอยู่ทุกวัน แล้วมีนาก็สังเกตเห็นความผิดปกติของไดอารี่ของตัวเอง

      “เอ๊ะ เกือบจะหมดแล้วเหรอ เร็วจัง”มีนาพึมพำกับตัวเองแล้วนึกในใจ ‘กาลเวลาช่างผ่านไปรวดเร็วเหมือนใจคนที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา’
      แล้วมีนาก็วางไดอารี่ไว้บนโต๊ะ แล้วเดินไปยังหน้าต่างที่คุยกับศิระอยู่ทุกวัน ปล่อยให้ลมเข้ามาปะทะกับใบหน้าและผม ปล่อยให้ผมปลิวสยายไปกับแรงลมพร้อมกับที่ประโยคๆหนึ่งยังก้องอยู่ในโสตประสาทว่า เธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของจริงๆ  “นาย ก็เป็นเพื่อนที่ดีของฉันเหมือนกัน ฉันสัญญา ว่าฉันจะเป็นเพื่อนที่ดีของนายเช่นกัน ศิระ”แล้วฉันก็ปล่อยให้ความคิดล่องลอยไปกับสายลมที่ปะทะกับใบหน้าอยู่เนืองๆจนกระทั่ง
      “นา กินข้าวได้แล้วลูก”นี่คือ เสียงของแม่ เสียงของคนที่รักฉันมากกว่าสิ่งอื่นใด และฉันก็รักแม่มากเช่นกัน
      “ค๊า แม่”
      แล้วฉันก็นำไดอารี่ไปเก็บใส่กล่อง เก็บไว้ในลิ้นชัก
      “ฉันจะเป็นเพื่อนที่ดีของนายตลอดไป ศิระ”

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×