คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : WGM... 6 ...
We got married
F.GC
หายไปหลายวันเลย... ช่วงนี้อาจจะหายไปหลายวันหน่อยนะคะ
เพราะว่าตอนนี้ฟางปี5 แล้วปีสุดท้ายแล้วค่ะ แล้วก็ต้องทำวิทยานิพนธ์ด้วย
งานหนักเลยค่ะ ยิ่งตอนนี้งานเริ่มเข้าสู่พาร์ทออกแบบเลยยิ่งเยอะ
คงต้องทุ่มให้กับโปรเจคจบหน่อย แต่ไม่ทิ้งฟิคเรื่องนี้แน่นอนค่ะ
จะแต่งแล้วก็มาลงเรื่อยๆ ให้ได้อ่านแน่นอน จะพยายามไม่ทิ้งช่วงนานเกินไป
ยังไงก็อยู่ด้วยกันต่อไปเรื่อยๆ นะคะ ^^
ขอคอมเมนต์ให้กำลังใจคนงานเยอะหน่อยเน๊อะ จะได้มีกำลังใจแต่งต่อไปเรื่อยๆ
> #ฟิคบอสเกิงมาดามฮี <
… 6 …
วันนี้เป็นวันหยุดที่หาได้ยากจากตารางงานอันแน่นเอี๊ยดของฮีชอล ร่างของดาราดังกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนโซฟา แม้โทรทัศน์จะเปิดเอาไว้แต่สายตานั้นจ้องโทรศัพท์มือถือในมือของตัวเองแทน สีหน้าดูลังเลว่าควรจะทำยังไงดี
"ส่งไปเลยสิ ในแชทก็ได้ ถ้าไม่กล้าโทรไปหาน่ะ" เสียงที่ดังขึ้นข้างๆ ทำเอาฮีชอลถึงกับสะดุ้ง
"อะไรของเธอ" ฮีชอลทำเป็นไม่รู้เรื่องในสิ่งที่พี่สาวพูด
"อย่ามาทำเป็นไม่รู้น่า กับคุณหานเกิงไง ส่งข้อความไปหาสิ อยากคุยไม่ใช่หรอ" ฮีจินแซว
"เปล่าสักหน่อย ไม่ได้อยากคุยอะไร..." เอ่ยปฏิเสธแบบไม่เต็มเสียงนัก หลังจากวันที่ถ่ายทำวันสุดท้ายคือวันที่ฮีชอลทำอาหารไปให้หานเกิง จนกระทั่งเย็นที่หานเกิงขับรถไปส่งที่กองถ่ายละครก็ผ่านมาร่วมสัปดาห์แล้วที่ทั้งสองคนไม่ได้ถ่ายรายการด้วยกันเพราะตารางที่แน่นทั้งของฮีชอลและของหานเกิงเอง
หลายต่อหลายครั้งที่หยิบโทรศัพท์มากดดูเบอร์ของหานเกิงแต่ก็ไม่ได้กดโทรหรือส่งข้อความใดๆ ถึงอีกฝ่าย จะให้คิมฮีชอลเริ่มก่อนหรอ... ไม่มีทางหรอก แต่สุดท้ายก็มานั่งมองอยู่แบบนี้
แต่แล้วโทรศัพท์ในมือก็ถูกดึงออกไปด้วยฝีมือพี่สาวสุดที่รัก
"ฮีจิน!" ร่างบางร้องด้วยความตกใจ "เอาคืนมาเลย"
"ฮ่ะ! น้องชายของฉันก็มีอารมณ์แบบนี้เหมือนกันหรอ นี่หลงสเน่ห์คุณหานเกิงแล้วสินะน้องฉัน" ฮีจินพูดด้วยน้ำเสียงล้อเลียนเต็มที่
"อย่ามามั่วโมเมเองได้ไหม เอาคืนมา"
ฮีจินส่งโทรศัพท์คืนให้กับฮีชอลหลังจากยืนกดอยู่สักครู่ รอยยิ้มที่ดูแล้วกวนอารมณ์ฮีชอลยิ่งนัก "อ่ะ เอาไป"
ฮีชอลรับโทรศัพท์มากดดูก็พบว่าในโปรแกรมแชทนั้นมีชื่อของหานเกิงเด้งขึ้นมาอยู่ด้านบนสุด พอกดเข้าไปดูก็เห็นว่าได้ส่งข้อความทักทายไปแล้ว และคงไม่ใช่ฝีมือของใครนอกจากฮีจินพี่สาวของเขาเอง
"ฮีจิน นี่!" ฮีชอลหันขวับมามองหน้าพี่สาวที่ยืนยิ้มกริ่มอยู่
"ก็อยากคุยกับเขาไม่ใช่หรอ ฉันก็ช่วยแล้วไง ควรจะขอบใจฉันนะ คึ~" ฮีจินพูดพร้อมกับยิ้มขำก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋ามาสะพาย "ไปดีกว่า คุยกับคุณสามีให้สนุกนะจ๊ะน้องรัก!"
ฮีจินกลับไปแล้ว ฮีชอลจึงหันมาสนใจโทรทัศน์ที่เปิดรายการโปรดทิ้งไว้ แต่ดูเหมือนสายตามักจะหันไปมองโทรศัพท์มือถือที่วางไว้มากกว่า พอเสียงแจ้งเตือนของโปรแกรมแชทดังขึ้นก็รีบคว้ามาดูทันที
คิม ฮีชอลไม่ได้รอให้ใครบางคนตอบกลับมา ไม่ได้รอจริงๆ...
"เขาทำงานคงยุ่ง จะมาตอบได้ไง" บอกตัวเองแบบนั้น ทำเป็นไม่สนใจว่าเขาจะตอบหรือไม่ แต่ก็ยังคงเข้าไปดูบ่อยๆ ว่าเมื่อไหร่หานเกิงจะตอบกลับมา
~
ฮีชอลสะดุ้งเมื่อเสียงโทรศัพท์ดังก่อนจะคว้ามาดู หัวใจที่เคยเต้นปกติกับเต้นระรัวขึ้นอย่างน่าแปลกใจเมื่อเห็น
... หานเกิง : ส่งข้อความถึงคุณ ...
หานเกิง : สวัสดีตอนเที่ยงครับ ทานข้าวรึยัง?
จะทำยังไงดี... นี่ฮีชอลกำลังเป็นอะไร คนที่มักจะควบคุมอารมณ์และความรู้สึกได้ดีทำไมตอนนี้ถึงได้เป็นแบบนี้ ดาราดังสูดลมหายใจเข้าปอดเต็มที่ก่อนจะผ่อนลมหายใจออกแล้วจึงพิมพ์ข้อความตอบกลับไป
ฮีชอล : เรียบร้อยแล้วครับ พี่หานเกิงทานรึยัง
~ รอไม่นานเหมือนคราวแรก เสียงแจ้งเตือนก็ดังมาอีกรอบ
หานเกิง : เรียบร้อยแล้วเหมือนกัน วันนี้มีงานไหม
ฮีชอล : ไม่ครับ วันนี้ผมว่าง
หานเกิง : พักผ่อนเยอะๆ นะ พี่มีประชุมตอนบ่ายเดี๋ยวต้องไปเตรียมตัวแล้ว
ฮีชอล : ครับ พี่หานเกิงไปเตรียมตัวเถอะครับ ผมไม่กวนแล้วล่ะ ^^
หานเกิง : ไม่ได้รบกวนอะไรหรอก แล้วพี่จะทักไปนะ
หานเกิง : ถ้าเรียกพี่หานเกิงแล้วมันยาวไป เรียกพี่เกิงสั้นๆ ก็ได้
หานเกิง : แล้วคุยกันใหม่นะคร้บ ^^
ฮีชอล : ครับผม...
ฮีชอล : แล้วคุยกันครับ... พี่เกิง
หานเกิงเงียบไปแล้วคงไปเตรียมเข้าประชุมอย่างที่ว่า ร่างบางเอนตัวพิงโซฟาที่กำลังนั่งอยู่มือคว้าเอาหมอนอิงมากอดไว้แน่น รอยยิ้มปรากฏบนหน้านั้นอย่างคนมีความสุข
หลังจากวันหยุดที่หาได้ยากผ่านไปตารางที่แน่นของฮีชอลก็กลับมาอีกครั้ง ทั้งถ่ายละคร ถ่ายนิตยสาร ให้สัมภาษณ์และออกรายการต่างๆ ซึ่งวันนี้เป็นวันที่ฮีชอลต้องไปประเทศจีนเพื่อไปถ่ายแบบลงนิตยสารของจีน
ร่างโปร่งของฮีชอลในชุดเสื้อยืดคอวีสีขาวสวมทับด้วยเสื้อสูทแบบลำลองสีฟ้าอ่อน กางเกงเข้ารูปสีเดียวกันเดินออกมาจากสถานีตำรวจซึ่งเป็นสถานที่เขามาถ่ายละครในวันนี้ ร่างนั้นชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นหานเกิงยืนรออยู่ด้านนอกพร้อมกับทีมงานของรายการ we got married
"พี่เกิง..." ฮีชอลส่งเสียงทักคนที่ยืนอยู่และกำลังมองมาที่เขา "มาได้ยังไงครับ"
"มากับทีมงานไง" หานเกิงยิ้ม "ได้ข่าวว่าวันนี้จะไปจีนหรอ"
"ใช่ครับ มีถ่ายนิตยสาร"
"เดี๋ยวไปพี่ไปส่งที่สนามบิน" หานเกิงจับมือของฮีชอลแล้วพาเดินไปที่รถตู้สีดำที่จอดรออยู่ ร่างสูงเปิดประตูให้อีกคนขึ้นไปนั่งก่อนจะตามขึ้นไปนั่งข้างๆ กัน
"ไม่ได้เจอฮีชอลตั้ง... สองอาทิตย์ได้ละมั้ง" หานเกิงพูด
"นั่นสิครับผมงานเยอะ พี่เองก็งานเยอะใช่ไหมครับ" ฮีชอลถามก่อนจะรับขวดน้ำที่หานเกิงส่งมาให้มาดื่ม
"ใช่ เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ต้องขึ้นเครื่องไปประชุมที่อังกฤษ"
"ไปถึงอังกฤษเลยหรอครับ"
หานเกิงพยักหน้า "ใช่ มีประชุมกับผู้ร่วมหุ้นบริษัท คงไปหลายวันเลย แล้วฮีชอลไปจีนกี่วัน"
"ก็สามสี่วันครับ เพราะต้องกลับมางานแถลงข่าวละครที่เกาหลี"
ไม่นานรถตู้สีดำก็ขับมาจอดที่หน้าสนามบินนานาชาติอินชอน ฮีชอลก้าวลงจากรถหลังหานเกิงก่อนที่ทั้งคู่จะเดินเข้าไปในตัวสนามบินด้วยกัน บรรดาผู้คนในสนามบินต่างก็หันมามองคนทั้งคู่ด้วยความสนใจ
"อยากกินอะไรหน่อยไหม" หานเกิงถามพร้อมกับดูเวลาที่เครื่องจะออก ยังเหลือเวลาอีกเกือบหนึ่งชั่วโมง
"อือ... พวกขนมปังแล้วกันครับ ยังไม่ค่อยหิวเท่าไหร่เลย"
ทั้งสองคนเดินเข้าไปในร้านกาแฟภายในสนามบินก่อนที่หานเกิงจะอาสาไปซื้อเครื่องดื่มและขนมให้กับฮีชอลเพื่อรอเวลาเครื่องออกตอนบ่ายโมง
"ช่วงนี้งานเยอะมากเลยหรอพี่ว่าเราดูบางลงนะ" หานเกิงวางถาดที่มีแก้วกาแฟและจานขนมลงบนโต๊ะที่ฮีชอลนั่งรออยู่
"ก็ครับ แต่ผมว่าผมไม่ได้ผอมลงนะ" ฮีชอลก้มมองตัวเองก่อนจะเงยหน้าตอบ
"อยากได้อะไรที่อังกฤษไหม เดี๋ยวพี่ซื้อมาให้"
"ไม่เป็นไรครับ พี่ไปประชุมจะเอาเวลาไหนไปเดินซื้อของกัน อีกอย่างผมเกรงใจด้วย"
เมื่อใกล้ได้เวลาขึ้นเครื่องหานเกิงจึงเดินไปส่งฮีชอลที่ทางเข้า ร่างสูงส่งยิ้มและโบกมือให้ฮีชอล รอจนกระทั่งร่างบางนั้นหายไปแล้วจึงได้หันตัวกลับ
ทีมงานของรายการ we got married เดินตามฮีชอลเข้าไปด้านในรวมไปถึงบินตามไปถ่ายทำที่ประเทศจีนด้วย
"อีกไม่กี่นาทีผมก็จะไปประเทศจีนแล้ว ผมขอบคุณมากเลยที่พี่เกิงมาส่งผมที่สนามบิน ผมแอบรู้สึกยังไม่อยากขึ้นเครื่องยังไงไม่รู้สิ"
"อยากอยู่กับคุณหานเกิงหรอครับ" ทีมงานส่งเสียงถาม
"เดี๋ยวก็ไม่เจอกันอีกหลายวันเลย ก็เลยอยากอยู่ด้วยละมั่งครับ"
ฮีชอลส่งตั๋วเครื่องบินให้กับพนักงานก่อนจะเดินไปตามเส้นทางเพื่อตรงไปยังทางขึ้นเครื่องบิน พนักงานบนเครื่องเดินนำฮีชอลและทีมงานไปยังส่วนที่นั่งแบบเฟิร์สคลาส
"เฟิร์สคลาส?" ฮีชอลหันมองอย่างงงๆ เพราะเขาไม่รู้มาก่อนว่าตั๋วเครื่องบินที่เขาถืออยู่นั้นเป็นชั้นเฟิร์สคลาสที่มีพื้นที่เป็นส่วนตัว
"คุณฮีชอลไม่ได้จองเองหรอครับ" ทีมงานถามขึ้นเมื่อเห็นอีกคนมีท่าทีงงๆ
"ครับ ผู้จัดการผมจัดการให้" แต่แล้วความสงสัยก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเมื่อเห็นพี่สาวของตัวเองนั่งอยู่กับสไตลิสคนสนิทของฮีชอล
ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นเมื่อเดินมาถึงที่นั่งของตัวเองแล้วพบกับใครบางคนที่พึ่งจะแยกกันเมื่อสักครู่นี้ "... พี่เกิง?!"
หานเกิงส่งยิ้มให้กับคนที่ยังอึ้งไม่หาย ไม่ใช่แค่ฮีชอลที่อึ้ง แต่ทีมงานเองก็อึ้งไปด้วยเพราะพวกเขาไม่รู้เลยว่าหานเกิงจะขึ้นเครื่องมาด้วยแบบนี้
"ม... มาได้ไงครับ?"
"เดินขึ้นมาไง นั่งสิ อีกไม่นานเครื่องก็จะออกแล้วนะ" หานเกิงดึงแขนคนที่ยังยืนอยู่ให้นั่งลงที่เบาะข้างๆ
"แต่... แล้วทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ละครับ"
"ทำไมถึงมาอยู่ไม่ได้ล่ะ หือ?"
ฮีชอลส่งค้อนให้กับคนที่ไม่ยอมตอบคำถาม "พี่จะนั่งเครื่องไปส่งผมที่จีนรึไงครับ"
"นั่นคือคำตอบว่าทำไมพี่ถึงมานั่งอยู่ตรงนี้" หานเกิงยังคงยิ้ม "แค่นั่งไปส่งน่ะ เพราะพี่ต้องไปประชุมต่อ"
"อย่าบอกนะครับว่านั่งไปส่งผมที่จีนแล้วก็ต้องนั่งเครื่องไปอังกฤษต่อเลย?"
อีกคนพยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้ม เอื้อมมือมารัดเข็มขัดนิรภัยให้กับฮีชอลเมื่อได้ยินเสียงของพนักงานดังขึ้น ทีมงานเองก็เดินไปนั่งที่ด้วยเช่นกัน
"ตั๋วเครื่องบินพี่ก็จัดการหรอครับ"
"อืม ทำไมหรอ"
ฮีชอลส่ายหน้า "ขอบคุณนะครับ" ได้แต่พูดขอบคุณกับสิ่งที่หานเกิงทำให้ ความรู้สึกดีใจ อึ้งวิ่งวนกันไปหมด มันอาจจะเป็นเหมือนเรื่องเล็กๆ ธรรมดาๆ ที่จะไปส่งใครสักคนแล้วก็กลับ แต่นั้นก็ไม่ใช่ในกรณีที่ลงทุนนั่งเครื่องบินไปส่งที่ประเทศจีนแล้วตัวเองก็ต้องนั่งเครื่องบินไปประชุมที่อังกฤษต่ออีก
"พี่ไม่น่าลำบากเลย" ฮีชอลพูดขึ้นอีกรอบหลังจากที่หายอึ้งไปแล้ว เครื่องบินขึ้นมาอยู่ในระดับที่สมควรทีมงานจึงเริ่มถ่ายคนทั้งสองอีกครั้ง
"ไม่ได้ลำบากอะไรสักหน่อย"
"ขอบคุณนะครับที่ไปส่งผม"
"ไม่เป็นไร จะได้ยืดเวลาอยู่กับฮีชอลไปอีกหน่อยไง เดี๋ยวพี่ต้องไปประชุมตั้งหลายวันกว่าจะได้เจอกันอีก"
หัวใจของฮีชอลเต้นแปลกๆ ทั้งตื่นเต้นทั้งดีใจที่ได้ยินคำพูดนั้น จึงได้แต่ส่งยิ้มไปให้โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่า รอยยิ้มนั้นฮีชอลไม่เคยยิ้มให้ใครนอกจากครอบครัว รอยยิ้มที่ดูสดใสและสวยงามที่สุดเท่าที่หานเกิงเคยเห็นมา
"นอนพักหน่อยไหม อีกหลายชั่วโมงกว่าจะถึงเดี๋ยวต้องไปทำงานต่อเลยไม่ใช่หรอ"
"พี่เกิงก็พักด้วยสิ เดินทางนานๆ มันก็เพลียนะครับ" ฮีชอลบอก
"อื้ม" หานเกิงพยักหน้าพร้อมยิ้มก่อนจะหันไปรับผ้าห่มจากฮีจินที่ส่งมาให้แล้วจัดการคลี่ผ้าห่มให้กับฮีชอล มือหนารั้งให้อีกคนเอียงลงมาซบที่ไหล่ "พักซะนะ ฝันดีนะ"
ไม่นานหลังจากนั้นฮีชอลก็หลับไป หานเกิงที่เห็นว่าคนที่ซบไหล่หลับไปแล้วจึงค่อยๆ ปิดเปลือกตาลงและหลับตามไปโดยที่ใบหน้าของทั้งสองยังมีรอยยิ้มบางๆ ปรากฎอยู่
เป็นหานเกิงที่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก่อนเป็นช่วงเวลาเดียวกับมีเสียงประกาศว่าเครื่องบินกำลังลดระดับลงร่างสูงจึงหันไปปลุกคนที่หลับซบไหล่เขาอยู่ให้รู้สึกตัวตื่น
มือของหานเกิงและฮีชอลจับกุมกันตอนที่เดินออกจากเครื่องบินมาตามเส้นทางเดินที่เชื่อมไปยังตัวอาคารของสนามบิน มือหนาบีบกระชับมือเล็กก่อนจะคลายออก
"ตั้งใจทำงานนะ" หานเกิงพูด
"ครับผม พี่ก็ตั้งใจทำงานนะครับ แล้วเจอกันที่เกาหลีนะ"
"ครับผม พี่ไปแล้วนะ ดูแลตัวเองดีๆ ล่ะ" หานเกิงยกมือลากฮีชอล เขาต้องไปแล้ว
"อื้ออ พี่ก็ด้วยนะ" ฮีชอลยิ้ม ยกมือโบกให้กับหานเกิงและยืนมองจนกระทั่งร่างสูงเดินหายเข้าไปแล้ว
"ความรู้สึกตอนที่เห็นคุณหานเกิงนั่งอยู่บนเครื่องเป็นยังไงบ้างคะ" เสียงของทีมงานเอ่ยถามในระหว่างที่ฮีชอลกำลังถ่ายทำอยู่ในห้องมืด
"ตกใจมากครับ คนที่คิดว่านั่งรถกลับไปแล้วกับมานั่งอยู่บนเครื่องตกใจมากจริงๆ ครับ" ฮีชอลตอบตามความรู้สึก
"ทางทีมงานก็ไม่รู้มาก่อนว่าคุณหานเกิงจัดการทุกอย่าง ยังอึ้งเหมือนกันที่เห็นแบบนั้น"
ดาราดังยิ้มบางก่อนจะพูด "ผมรู้สึกดีมากเลยครับ พี่เขาให้ความสำคัญทุกอย่าง ผมรู้สึกขอบคุณมากจริงๆ ครับ"
"ทำไมถึงนั่งไปส่งคุณฮีชอลที่ประเทศจีนละคะ"
"ผมก็แค่อยากไปส่งน่ะครับ ไม่ได้มีเหตุผลอะไรมากมาย รู้สึกอยากทำแบบนั้นแล้วผมก็แค่ทำตามที่อยากทำ" หานเกิงตอบคำถามของทีมงาน
"อยากอยู่ด้วยนานๆ หรอคะ" ทีมงานส่งเสียงแซวทันที
"นั่นคงเป็นคำตอบของการที่ผมนั่งไปส่งเขาที่ประเทศจีนครับ"
"ทั้งๆ ที่ต้องไปอังกฤษนะหรอคะ"
หานเกิงยิ้ม "นั่นไม่ใช่ประเด็นหรอกครับ มันไม่สำคัญเท่ากับการที่ผมอยากไปส่งเขา"
กระแสตอบรับของรายการ we got married เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อมีการฉายของคู่นักธุรกิจหนุ่มหานเกิง และนางพญาแห่งวงการบันเทิงฮีชอล ทั้งสองคนเป็นที่จับตามองมาก แฟนคลับหลายต่อหลายคนที่สนับสนุนคู่นี้ถึงขั้นเปิดเพจคู่เลยทีเดียว หวังให้มีการคลิ๊กรักนอกจอกันเสียที เวลาที่ใครคนหนึ่งไปออกรายการหรือออกงานไหน ก็มักจะถูกสัมภาษณ์เรื่องนี้อยู่เรื่อยไป เหมือนอย่างตอนนี้ ในงานแถลงข่าวเปิดละครของคิม ฮีชอล
ฮีชอลและบรรดานักแสดงนำอีกสี่ห้าคนกำลังให้สัมภาษณ์อยู่บนเวที ส่วนบรรดาสื่อมวลชนนั้นอนู่ด้านล่าง
หลังจากเสร็จสิ้นงารแถลงข่าวฮีชอลก็ขอตัวกับนักแสดงคนอื่นๆ เพราะเขารู้สึกอยากกลับไปพักผ่อน เดินทางกลับมาจากจีนก็แทบยังไม่ได้พัก ร่างบางแต่ทว่าดูสง่าเดินเคียงคู่ไปกับฮีจินพี่สาวของตน
"ฮีชอล" เสียงของฮีจินเรียกให้คนที่เดินก้มหน้าดูโทรศัพท์ให้เงยหน้าขึ้นมองก่อนจะพยักพเยิดไปทางด้านหน้า
ดวงหน้าสวยหันไปมองตาม กลุ่มนักข่าวยังคงยืนกันเต็มไปหมด แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น คนที่ยืนอยู่ปลายสุดทางเดินตรงประตูนั้นตั้งหากประเด็น ร่างสูงสง่าในชุดสูทถือดอกไม้ช่อโตกำลังยืนตอบคำถามของนักข่าวอยู่
"วันนี้มีถ่ายด้วยหรอ" ฮีจินส่งเสียงถามเพราะบางครั้งรายการ we got married ก็มักจะมาถ่ายแบบไม่ทันตั้งตัว
"ไม่รู้เหมือนกันแต่ไม่เห็นทีมงานเลยนินา" ฮีชอลตอบ
"สงสัยคุณหานเกิงคงทนคิดถึงไม่ไหวเลยมาหาภรรยานอกรอบ คึคึ" ฮีจินพูดพร้อมหัวเราะคิกคัก "ถ้าเขาอาสาไปส่งก็ไปเลยนะ เดี๋ยวฉันแอบดูแถวๆ นี้แหละ"
"ฮีจิน!" คนน้องหันไปค้อนคนพี่ก่อนจะก้าวเดินต่อซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่หานเกิงหันมาเห็นพอดี
หานเกิงส่งยิ้มมาให้โดยที่ฮีชอลเองก็ยิ้มตอบแล้วเดินตรงเข้าไปหา ส่วนฮีจินก็แอบหลบไปอีกทาง ช่อดอกลิลลี่สีขาวช่อใหญ่ยื่นมาให้กับฮีชอล
"สำหรับคนเก่งครับ" ร่างสูงยิ้ม
"ขอบคุณครับ พี่เกิงกลับมานานรึยังครับ" ฮีชอลรับช่อดอกไม้มาถือด้วยรอยยิ้ม
"พึ่งลงเครื่องได้สักชั่วโมงเอง"
ยังไม่ทันที่จะได้พูดคุยอะไรกันต่อบรรดาสื่อมวลชนก็ขอถ่ายรูปคู่ทั้งสองคน ฮีชอลจึงขยับไปยืนข้างหานเกิงเพื่อให้นักข่าวได้ถ่ายรูป
"อันนี้อยู่ในบทด้วยรึเปล่าครับ" เสียงของนักข่าวคนหนึ่งดังขึ้นมาทำให้คนอื่นๆ ส่งเสียงถามอย่างเห็นด้วยกับคำถามนั้น
ฮีชอลหันมองคนที่ยืนข้างๆ อย่างคิดไม่ตกว่าจะตอบอย่างไรดี หานเกิงจึงเป็นคนตอบ "เปล่าครับ ผมเอาดอกไม้มาแสดงความยินดีฮีชอลเองครับ"
"รักในจอจะกลายเป็นรักนอกจอไหมคะ" อีกคำถามส่งมาทันทีทำเอาฮีชอลถึงกับตอบไม่ถูก
"วันนี้พอแค่นี้ดีกว่าครับ ฮีชอลเองก็พึ่งกลับจากจีนคงอยากพักเต็มที่แล้ว ขอตัวนะครับ" หานเกิงเลี่ยงตอบคำถามแล้วจับมือของฮีชอลพร้อมกับรั้งให้ร่างบางนั้นเดินตาม
"กลับยังไง ผู้จัดการไปส่งหรอ" หานเกิงถามเมื่อพาฮีชอลเดินออกมาแล้ว
"เอ่อ..." ฮีชอลหันมองซ้ายมองขวาไม่รู้ว่าพี่สาวหายไปไหนอีกแล้ว
"ฮีชอลลลล~" เสียงร้องเรียกดังมาแต่ไกลก่อนที่ฮีจินจะเดินเข้ามาหา "อุ๊ย... คุณหานเกิง ขอโทษทีนะคะ"
"ครับ ไม่เป็นไร" หานเกิงตอบรับอย่างงงๆ ตอนที่นั่งเครื่องไปส่งฮีชอลก็เห็นอยู่คงเป็นคนสนิท เพราะถึงแม้หานเกิงจะเป็นคนจัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินจริง แต่คนที่ดำเนินการทุกอย่างเป็นเลขาของเขา
"พี่เกิง นี่พี่ฮีจิน พี่สาวของผมแล้วก็เป็นผู้จัดการด้วยครับ" ฮีชอลแนะนำฮีจินให้อีกฝ่ายรู้จัก
"ยินดีที่รู้จักอย่างเป็นทางการนะคะ คุณหานเกิงนี่หล่อมากเลยนะคะเนี่ย อิอิ" ฮีจินพูดก่อนจะดันฮีชอลไปหาหานเกิงซึ่งชายหนุ่มยกมือขึ้นจับแขนบางเอาไว้เพราะร่างบางที่ถูกดันแบบไม่ทันตั้งตัวทำท่าจะล้ม "ถ้าไม่เป็นการรบกวนมากไปพี่ฝากไปส่งฮีชอลหน่อยนะคะ พอดีต้องรีบไปทำธุระ"
"ฮ... ฮีจิน! อะไรกัน?"
"เอ่อน่า ฉันต้องไปซื้อของให้แม่อีก ไปแล้วๆ เดี๋ยวโทรหา" พูดจบก็หันไปส่งยิ้มเชิงบอกลาให้กับหานเกิงแล้วก็วิ่งหายไปทันที
ฮีชอลถอนหายใจก่อนจะหันไปมองหานเกิง "พี่หานเกิงกลับไปพักเถอะครับ เดี๋ยวผมกลับแท็กซี่ก็ได้"
"ไม่เป็นไร พี่ไปส่งเอง ไปเถอะ" หานเกิงรั้งให้ฮีชอลเดินตามไปที่รถของตัวเองที่จอดอยู่ไม่ห่าง เปิดประตูเพื่อให้ฮีชอลขึ้นไปนั่ง
"ไปประชุมมาเป็นยังไงบ้างครับ เรียบร้อยดีไหม" ฮีชอลถาม
"ก็เรียบร้อยดีไม่มีปัญหาอะไร ฮีชอลล่ะเป็นไงบ้าง ไม่เห็นมีส่งข้อความหาพี่บ้างเลย" หานเกิงพูดยิ้มๆ หันมามองตุ๊กตาหน้ารถที่นั่งอยู่ข้างๆ
"ทีพี่ยังไม่ส่งมาหาผมเลย" ฮีชอลพูดเสียงเบาแต่เมื่ออยู่ในรถที่ไม่มีเสียงรบกวนแบบนี้หานเกิงก็ได้ยินชัดเจน
"ขอโทษ... พี่ประชุมยุ่งจริงๆ อีกอย่างเวลาก็ต่างกันมาก พี่กลัวจะรบกวนฮีชอลด้วย" มือหนาเอื้อมมากุมมือเล็กที่วางอยู่บนตัก "ขอโทษนะ"
"ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย"
รถสีขาวเลี้ยวเข้าสู่คอนโดของฮีชอล หานเกิงเอ่ยรั้งฮีชอลที่กำลังจะลงจากรถก่อนจะหันไปหยิบถุงใบเล็กที่วางอยู่บนเบาะด้านหลังมาส่งให้ "ของฝากจากพี่"
ฮีชอลหยิบกล่องที่วางอยู่ในถุงขึ้นมาดู ดวงตากลมเบิกกว้างเมื่อเห็นโลโก้สีทองที่อยู่บนกล่องสีเขียวใบนั้น "พี่เกิง ม มันมากเกินไป"
หานเกิงหยิบกล่องในมือของฮีชอลมาเปิด ภายในกล่องมีนาฬิกาเรือนหรูวางอยู่ด้านใน นาฬิกา Rolex สายเหล็กสีเงินสวยซึ่งตรงกลางสายนั้นเป็นสีทองชมพู รอบหน้าปัดเองก็เป็นสีทองชมพูเช่นเดียวกัน มีเพชรฝังอยู่รอบๆ
"พี่เห็นแล้วรู้สึกว่ามันเหมาะกับฮีชอลมากเลย"
"แต่มันมากเกินไป ผมรับไม่ได้หรอกครับ" ฮีชอลส่ายหน้า ราคาของนาฬิกาเหลือนั้นไม่ใช่ถูกๆ เสียหน่อย
"แต่พี่ซื้อมาแล้วนะ พี่ตั้งใจให้จริงๆ รับไว้เถอะ" หานเกิงปิดกล่องแล้วเอาใส่มือของฮีชอลเป็นการบังคับกลายๆ ว่าให้รับ "อย่าลืมใส่ด้วยนะ"
"ผมรับไว้ก็ได้ครับ แต่คราวหลังห้ามซื้อของราคาแพงขนาดนี้มาให้ผมอีกนะ" ฮีชอลพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"ครับ เข้าใจแล้ว ไปพักผ่อนเถอะ ฝันดีนะครับ"
"ครับ ขับรถดีๆ นะครับ แล้วก็พักผ่อนเยอะๆ ด้วย ฝันดีครับ" ฮีชอลพูดกับหานเกิงก่อนจะก้าวลงจากรถและยืนมองจนกระทั่งหานเกิงขับออกไปแล้วจึงได้เดินเข้าคอนโด
มือบางยกขึ้นลูบเรือนนาฬิกาเบาๆ ใบหน้าสวยนั้นมีรอยยิ้มบางๆ ปรากฏขึ้น ความรู้สึกหลากหลายปะปนกันไปหมดจนแยกไม่ถูก ดีใจที่หานเกิงนึกถึงตนเองแบบนี้
… TBC …
ความคิดเห็น