ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    WE GOT MARRIED [GENGCHUL]

    ลำดับตอนที่ #6 : WGM... 6 ...

    • อัปเดตล่าสุด 14 ธ.ค. 57


    Radio ? Theme

    We got married

    F.GC

    หายไปหลายวันเลย... ช่วงนี้อาจจะหายไปหลายวันหน่อยนะคะ

    เพราะว่าตอนนี้ฟางปี5 แล้วปีสุดท้ายแล้วค่ะ แล้วก็ต้องทำวิทยานิพนธ์ด้วย

    งานหนักเลยค่ะ ยิ่งตอนนี้งานเริ่มเข้าสู่พาร์ทออกแบบเลยยิ่งเยอะ

    คงต้องทุ่มให้กับโปรเจคจบหน่อย แต่ไม่ทิ้งฟิคเรื่องนี้แน่นอนค่ะ

    จะแต่งแล้วก็มาลงเรื่อยๆ ให้ได้อ่านแน่นอน จะพยายามไม่ทิ้งช่วงนานเกินไป

    ยังไงก็อยู่ด้วยกันต่อไปเรื่อยๆ นะคะ ^^

    ขอคอมเมนต์ให้กำลังใจคนงานเยอะหน่อยเน๊อะ จะได้มีกำลังใจแต่งต่อไปเรื่อยๆ

    > #ฟิคบอสเกิงมาดามฮี <




     

    … 6 …

     

     

    วันนี้เป็นวันหยุดที่หาได้ยากจากตารางงานอันแน่นเอี๊ยดของฮีชอล ร่างของดาราดังกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนโซฟา แม้โทรทัศน์จะเปิดเอาไว้แต่สายตานั้นจ้องโทรศัพท์มือถือในมือของตัวเองแทน สีหน้าดูลังเลว่าควรจะทำยังไงดี

     

    "ส่งไปเลยสิ ในแชทก็ได้ ถ้าไม่กล้าโทรไปหาน่ะ" เสียงที่ดังขึ้นข้างๆ ทำเอาฮีชอลถึงกับสะดุ้ง

     

    "อะไรของเธอ" ฮีชอลทำเป็นไม่รู้เรื่องในสิ่งที่พี่สาวพูด

     

    "อย่ามาทำเป็นไม่รู้น่า กับคุณหานเกิงไง ส่งข้อความไปหาสิ อยากคุยไม่ใช่หรอ" ฮีจินแซว

     

    "เปล่าสักหน่อย ไม่ได้อยากคุยอะไร..." เอ่ยปฏิเสธแบบไม่เต็มเสียงนัก หลังจากวันที่ถ่ายทำวันสุดท้ายคือวันที่ฮีชอลทำอาหารไปให้หานเกิง จนกระทั่งเย็นที่หานเกิงขับรถไปส่งที่กองถ่ายละครก็ผ่านมาร่วมสัปดาห์แล้วที่ทั้งสองคนไม่ได้ถ่ายรายการด้วยกันเพราะตารางที่แน่นทั้งของฮีชอลและของหานเกิงเอง

     

    หลายต่อหลายครั้งที่หยิบโทรศัพท์มากดดูเบอร์ของหานเกิงแต่ก็ไม่ได้กดโทรหรือส่งข้อความใดๆ ถึงอีกฝ่าย จะให้คิมฮีชอลเริ่มก่อนหรอ... ไม่มีทางหรอก แต่สุดท้ายก็มานั่งมองอยู่แบบนี้

     

    แต่แล้วโทรศัพท์ในมือก็ถูกดึงออกไปด้วยฝีมือพี่สาวสุดที่รัก

     

    "ฮีจิน!" ร่างบางร้องด้วยความตกใจ "เอาคืนมาเลย"

     

    "ฮ่ะ! น้องชายของฉันก็มีอารมณ์แบบนี้เหมือนกันหรอ นี่หลงสเน่ห์คุณหานเกิงแล้วสินะน้องฉัน" ฮีจินพูดด้วยน้ำเสียงล้อเลียนเต็มที่

     

    "อย่ามามั่วโมเมเองได้ไหม เอาคืนมา"

     

    ฮีจินส่งโทรศัพท์คืนให้กับฮีชอลหลังจากยืนกดอยู่สักครู่ รอยยิ้มที่ดูแล้วกวนอารมณ์ฮีชอลยิ่งนัก "อ่ะ เอาไป"

     

    ฮีชอลรับโทรศัพท์มากดดูก็พบว่าในโปรแกรมแชทนั้นมีชื่อของหานเกิงเด้งขึ้นมาอยู่ด้านบนสุด พอกดเข้าไปดูก็เห็นว่าได้ส่งข้อความทักทายไปแล้ว และคงไม่ใช่ฝีมือของใครนอกจากฮีจินพี่สาวของเขาเอง

     

    "ฮีจิน นี่!" ฮีชอลหันขวับมามองหน้าพี่สาวที่ยืนยิ้มกริ่มอยู่

     

    "ก็อยากคุยกับเขาไม่ใช่หรอ ฉันก็ช่วยแล้วไง ควรจะขอบใจฉันนะ คึ~" ฮีจินพูดพร้อมกับยิ้มขำก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋ามาสะพาย "ไปดีกว่า คุยกับคุณสามีให้สนุกนะจ๊ะน้องรัก!"

     

    ฮีจินกลับไปแล้ว ฮีชอลจึงหันมาสนใจโทรทัศน์ที่เปิดรายการโปรดทิ้งไว้ แต่ดูเหมือนสายตามักจะหันไปมองโทรศัพท์มือถือที่วางไว้มากกว่า พอเสียงแจ้งเตือนของโปรแกรมแชทดังขึ้นก็รีบคว้ามาดูทันที

     

    คิม ฮีชอลไม่ได้รอให้ใครบางคนตอบกลับมา ไม่ได้รอจริงๆ...

     

    "เขาทำงานคงยุ่ง จะมาตอบได้ไง" บอกตัวเองแบบนั้น ทำเป็นไม่สนใจว่าเขาจะตอบหรือไม่ แต่ก็ยังคงเข้าไปดูบ่อยๆ ว่าเมื่อไหร่หานเกิงจะตอบกลับมา

     

    ~

     

    ฮีชอลสะดุ้งเมื่อเสียงโทรศัพท์ดังก่อนจะคว้ามาดู หัวใจที่เคยเต้นปกติกับเต้นระรัวขึ้นอย่างน่าแปลกใจเมื่อเห็น

     

    ... หานเกิง : ส่งข้อความถึงคุณ ...

     

    หานเกิง : สวัสดีตอนเที่ยงครับ ทานข้าวรึยัง?

     

    จะทำยังไงดี... นี่ฮีชอลกำลังเป็นอะไร คนที่มักจะควบคุมอารมณ์และความรู้สึกได้ดีทำไมตอนนี้ถึงได้เป็นแบบนี้ ดาราดังสูดลมหายใจเข้าปอดเต็มที่ก่อนจะผ่อนลมหายใจออกแล้วจึงพิมพ์ข้อความตอบกลับไป

     

    ฮีชอล : เรียบร้อยแล้วครับ พี่หานเกิงทานรึยัง

     

    ~ รอไม่นานเหมือนคราวแรก เสียงแจ้งเตือนก็ดังมาอีกรอบ

     

    หานเกิง : เรียบร้อยแล้วเหมือนกัน วันนี้มีงานไหม

     

    ฮีชอล : ไม่ครับ วันนี้ผมว่าง

     

    หานเกิง : พักผ่อนเยอะๆ นะ พี่มีประชุมตอนบ่ายเดี๋ยวต้องไปเตรียมตัวแล้ว

     

    ฮีชอล : ครับ พี่หานเกิงไปเตรียมตัวเถอะครับ ผมไม่กวนแล้วล่ะ ^^

     

    หานเกิง : ไม่ได้รบกวนอะไรหรอก แล้วพี่จะทักไปนะ

     

    หานเกิง : ถ้าเรียกพี่หานเกิงแล้วมันยาวไป เรียกพี่เกิงสั้นๆ ก็ได้

     

    หานเกิง : แล้วคุยกันใหม่นะคร้บ ^^

     

    ฮีชอล : ครับผม...

     

    ฮีชอล : แล้วคุยกันครับ... พี่เกิง

     

    หานเกิงเงียบไปแล้วคงไปเตรียมเข้าประชุมอย่างที่ว่า ร่างบางเอนตัวพิงโซฟาที่กำลังนั่งอยู่มือคว้าเอาหมอนอิงมากอดไว้แน่น รอยยิ้มปรากฏบนหน้านั้นอย่างคนมีความสุข






    หลังจากวันหยุดที่หาได้ยากผ่านไปตารางที่แน่นของฮีชอลก็กลับมาอีกครั้ง ทั้งถ่ายละคร ถ่ายนิตยสาร ให้สัมภาษณ์และออกรายการต่างๆ ซึ่งวันนี้เป็นวันที่ฮีชอลต้องไปประเทศจีนเพื่อไปถ่ายแบบลงนิตยสารของจีน

     

    ร่างโปร่งของฮีชอลในชุดเสื้อยืดคอวีสีขาวสวมทับด้วยเสื้อสูทแบบลำลองสีฟ้าอ่อน กางเกงเข้ารูปสีเดียวกันเดินออกมาจากสถานีตำรวจซึ่งเป็นสถานที่เขามาถ่ายละครในวันนี้ ร่างนั้นชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นหานเกิงยืนรออยู่ด้านนอกพร้อมกับทีมงานของรายการ we got married

     

    "พี่เกิง..." ฮีชอลส่งเสียงทักคนที่ยืนอยู่และกำลังมองมาที่เขา "มาได้ยังไงครับ"

     

    "มากับทีมงานไง" หานเกิงยิ้ม "ได้ข่าวว่าวันนี้จะไปจีนหรอ"

     

    "ใช่ครับ มีถ่ายนิตยสาร"

     

    "เดี๋ยวไปพี่ไปส่งที่สนามบิน" หานเกิงจับมือของฮีชอลแล้วพาเดินไปที่รถตู้สีดำที่จอดรออยู่ ร่างสูงเปิดประตูให้อีกคนขึ้นไปนั่งก่อนจะตามขึ้นไปนั่งข้างๆ กัน

     

    "ไม่ได้เจอฮีชอลตั้ง... สองอาทิตย์ได้ละมั้ง" หานเกิงพูด

     

    "นั่นสิครับผมงานเยอะ พี่เองก็งานเยอะใช่ไหมครับ" ฮีชอลถามก่อนจะรับขวดน้ำที่หานเกิงส่งมาให้มาดื่ม

     

    "ใช่ เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ต้องขึ้นเครื่องไปประชุมที่อังกฤษ"

     

    "ไปถึงอังกฤษเลยหรอครับ"

     

    หานเกิงพยักหน้า "ใช่ มีประชุมกับผู้ร่วมหุ้นบริษัท คงไปหลายวันเลย แล้วฮีชอลไปจีนกี่วัน"

     

    "ก็สามสี่วันครับ เพราะต้องกลับมางานแถลงข่าวละครที่เกาหลี"

     

    ไม่นานรถตู้สีดำก็ขับมาจอดที่หน้าสนามบินนานาชาติอินชอน ฮีชอลก้าวลงจากรถหลังหานเกิงก่อนที่ทั้งคู่จะเดินเข้าไปในตัวสนามบินด้วยกัน บรรดาผู้คนในสนามบินต่างก็หันมามองคนทั้งคู่ด้วยความสนใจ

     

    "อยากกินอะไรหน่อยไหม" หานเกิงถามพร้อมกับดูเวลาที่เครื่องจะออก ยังเหลือเวลาอีกเกือบหนึ่งชั่วโมง

     

    "อือ... พวกขนมปังแล้วกันครับ ยังไม่ค่อยหิวเท่าไหร่เลย"

     

    ทั้งสองคนเดินเข้าไปในร้านกาแฟภายในสนามบินก่อนที่หานเกิงจะอาสาไปซื้อเครื่องดื่มและขนมให้กับฮีชอลเพื่อรอเวลาเครื่องออกตอนบ่ายโมง

     

    "ช่วงนี้งานเยอะมากเลยหรอพี่ว่าเราดูบางลงนะ" หานเกิงวางถาดที่มีแก้วกาแฟและจานขนมลงบนโต๊ะที่ฮีชอลนั่งรออยู่

     

    "ก็ครับ แต่ผมว่าผมไม่ได้ผอมลงนะ" ฮีชอลก้มมองตัวเองก่อนจะเงยหน้าตอบ

     

    "อยากได้อะไรที่อังกฤษไหม เดี๋ยวพี่ซื้อมาให้"

     

    "ไม่เป็นไรครับ พี่ไปประชุมจะเอาเวลาไหนไปเดินซื้อของกัน อีกอย่างผมเกรงใจด้วย"

     

    เมื่อใกล้ได้เวลาขึ้นเครื่องหานเกิงจึงเดินไปส่งฮีชอลที่ทางเข้า ร่างสูงส่งยิ้มและโบกมือให้ฮีชอล รอจนกระทั่งร่างบางนั้นหายไปแล้วจึงได้หันตัวกลับ

     

    ทีมงานของรายการ we got married เดินตามฮีชอลเข้าไปด้านในรวมไปถึงบินตามไปถ่ายทำที่ประเทศจีนด้วย

     

    "อีกไม่กี่นาทีผมก็จะไปประเทศจีนแล้ว ผมขอบคุณมากเลยที่พี่เกิงมาส่งผมที่สนามบิน ผมแอบรู้สึกยังไม่อยากขึ้นเครื่องยังไงไม่รู้สิ"

     

    "อยากอยู่กับคุณหานเกิงหรอครับ" ทีมงานส่งเสียงถาม

     

    "เดี๋ยวก็ไม่เจอกันอีกหลายวันเลย ก็เลยอยากอยู่ด้วยละมั่งครับ"

     

    ฮีชอลส่งตั๋วเครื่องบินให้กับพนักงานก่อนจะเดินไปตามเส้นทางเพื่อตรงไปยังทางขึ้นเครื่องบิน พนักงานบนเครื่องเดินนำฮีชอลและทีมงานไปยังส่วนที่นั่งแบบเฟิร์สคลาส

     

    "เฟิร์สคลาส?" ฮีชอลหันมองอย่างงงๆ เพราะเขาไม่รู้มาก่อนว่าตั๋วเครื่องบินที่เขาถืออยู่นั้นเป็นชั้นเฟิร์สคลาสที่มีพื้นที่เป็นส่วนตัว

     

    "คุณฮีชอลไม่ได้จองเองหรอครับ" ทีมงานถามขึ้นเมื่อเห็นอีกคนมีท่าทีงงๆ

     

    "ครับ ผู้จัดการผมจัดการให้" แต่แล้วความสงสัยก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเมื่อเห็นพี่สาวของตัวเองนั่งอยู่กับสไตลิสคนสนิทของฮีชอล

     

    ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นเมื่อเดินมาถึงที่นั่งของตัวเองแล้วพบกับใครบางคนที่พึ่งจะแยกกันเมื่อสักครู่นี้ "... พี่เกิง?!"

     

    หานเกิงส่งยิ้มให้กับคนที่ยังอึ้งไม่หาย ไม่ใช่แค่ฮีชอลที่อึ้ง แต่ทีมงานเองก็อึ้งไปด้วยเพราะพวกเขาไม่รู้เลยว่าหานเกิงจะขึ้นเครื่องมาด้วยแบบนี้

     

    "ม... มาได้ไงครับ?"

     

    "เดินขึ้นมาไง นั่งสิ อีกไม่นานเครื่องก็จะออกแล้วนะ" หานเกิงดึงแขนคนที่ยังยืนอยู่ให้นั่งลงที่เบาะข้างๆ

     

    "แต่... แล้วทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ละครับ"

     

    "ทำไมถึงมาอยู่ไม่ได้ล่ะ หือ?"

     

    ฮีชอลส่งค้อนให้กับคนที่ไม่ยอมตอบคำถาม "พี่จะนั่งเครื่องไปส่งผมที่จีนรึไงครับ"

     

    "นั่นคือคำตอบว่าทำไมพี่ถึงมานั่งอยู่ตรงนี้" หานเกิงยังคงยิ้ม "แค่นั่งไปส่งน่ะ เพราะพี่ต้องไปประชุมต่อ"

     

    "อย่าบอกนะครับว่านั่งไปส่งผมที่จีนแล้วก็ต้องนั่งเครื่องไปอังกฤษต่อเลย?"

     

    อีกคนพยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้ม เอื้อมมือมารัดเข็มขัดนิรภัยให้กับฮีชอลเมื่อได้ยินเสียงของพนักงานดังขึ้น ทีมงานเองก็เดินไปนั่งที่ด้วยเช่นกัน

     

    "ตั๋วเครื่องบินพี่ก็จัดการหรอครับ"

     

    "อืม ทำไมหรอ"

     

    ฮีชอลส่ายหน้า "ขอบคุณนะครับ" ได้แต่พูดขอบคุณกับสิ่งที่หานเกิงทำให้ ความรู้สึกดีใจ อึ้งวิ่งวนกันไปหมด มันอาจจะเป็นเหมือนเรื่องเล็กๆ ธรรมดาๆ ที่จะไปส่งใครสักคนแล้วก็กลับ แต่นั้นก็ไม่ใช่ในกรณีที่ลงทุนนั่งเครื่องบินไปส่งที่ประเทศจีนแล้วตัวเองก็ต้องนั่งเครื่องบินไปประชุมที่อังกฤษต่ออีก

     

    "พี่ไม่น่าลำบากเลย" ฮีชอลพูดขึ้นอีกรอบหลังจากที่หายอึ้งไปแล้ว เครื่องบินขึ้นมาอยู่ในระดับที่สมควรทีมงานจึงเริ่มถ่ายคนทั้งสองอีกครั้ง

     

    "ไม่ได้ลำบากอะไรสักหน่อย"

     

    "ขอบคุณนะครับที่ไปส่งผม"

     

    "ไม่เป็นไร จะได้ยืดเวลาอยู่กับฮีชอลไปอีกหน่อยไง เดี๋ยวพี่ต้องไปประชุมตั้งหลายวันกว่าจะได้เจอกันอีก"

     

    หัวใจของฮีชอลเต้นแปลกๆ ทั้งตื่นเต้นทั้งดีใจที่ได้ยินคำพูดนั้น จึงได้แต่ส่งยิ้มไปให้โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่า รอยยิ้มนั้นฮีชอลไม่เคยยิ้มให้ใครนอกจากครอบครัว รอยยิ้มที่ดูสดใสและสวยงามที่สุดเท่าที่หานเกิงเคยเห็นมา

     

    "นอนพักหน่อยไหม อีกหลายชั่วโมงกว่าจะถึงเดี๋ยวต้องไปทำงานต่อเลยไม่ใช่หรอ"

     

    "พี่เกิงก็พักด้วยสิ เดินทางนานๆ มันก็เพลียนะครับ" ฮีชอลบอก

     

    "อื้ม" หานเกิงพยักหน้าพร้อมยิ้มก่อนจะหันไปรับผ้าห่มจากฮีจินที่ส่งมาให้แล้วจัดการคลี่ผ้าห่มให้กับฮีชอล มือหนารั้งให้อีกคนเอียงลงมาซบที่ไหล่ "พักซะนะ ฝันดีนะ"

     

    ไม่นานหลังจากนั้นฮีชอลก็หลับไป หานเกิงที่เห็นว่าคนที่ซบไหล่หลับไปแล้วจึงค่อยๆ ปิดเปลือกตาลงและหลับตามไปโดยที่ใบหน้าของทั้งสองยังมีรอยยิ้มบางๆ ปรากฎอยู่

     

    เป็นหานเกิงที่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก่อนเป็นช่วงเวลาเดียวกับมีเสียงประกาศว่าเครื่องบินกำลังลดระดับลงร่างสูงจึงหันไปปลุกคนที่หลับซบไหล่เขาอยู่ให้รู้สึกตัวตื่น

     

    มือของหานเกิงและฮีชอลจับกุมกันตอนที่เดินออกจากเครื่องบินมาตามเส้นทางเดินที่เชื่อมไปยังตัวอาคารของสนามบิน มือหนาบีบกระชับมือเล็กก่อนจะคลายออก

     

    "ตั้งใจทำงานนะ" หานเกิงพูด

     

    "ครับผม พี่ก็ตั้งใจทำงานนะครับ แล้วเจอกันที่เกาหลีนะ"

     

    "ครับผม พี่ไปแล้วนะ ดูแลตัวเองดีๆ ล่ะ" หานเกิงยกมือลากฮีชอล เขาต้องไปแล้ว

     

    "อื้ออ พี่ก็ด้วยนะ" ฮีชอลยิ้ม ยกมือโบกให้กับหานเกิงและยืนมองจนกระทั่งร่างสูงเดินหายเข้าไปแล้ว






    "ความรู้สึกตอนที่เห็นคุณหานเกิงนั่งอยู่บนเครื่องเป็นยังไงบ้างคะ" เสียงของทีมงานเอ่ยถามในระหว่างที่ฮีชอลกำลังถ่ายทำอยู่ในห้องมืด

     

    "ตกใจมากครับ คนที่คิดว่านั่งรถกลับไปแล้วกับมานั่งอยู่บนเครื่องตกใจมากจริงๆ ครับ" ฮีชอลตอบตามความรู้สึก

     

    "ทางทีมงานก็ไม่รู้มาก่อนว่าคุณหานเกิงจัดการทุกอย่าง ยังอึ้งเหมือนกันที่เห็นแบบนั้น"

     

    ดาราดังยิ้มบางก่อนจะพูด "ผมรู้สึกดีมากเลยครับ พี่เขาให้ความสำคัญทุกอย่าง ผมรู้สึกขอบคุณมากจริงๆ ครับ"






    "ทำไมถึงนั่งไปส่งคุณฮีชอลที่ประเทศจีนละคะ"

     

    "ผมก็แค่อยากไปส่งน่ะครับ ไม่ได้มีเหตุผลอะไรมากมาย รู้สึกอยากทำแบบนั้นแล้วผมก็แค่ทำตามที่อยากทำ" หานเกิงตอบคำถามของทีมงาน

     

    "อยากอยู่ด้วยนานๆ หรอคะ" ทีมงานส่งเสียงแซวทันที

     

    "นั่นคงเป็นคำตอบของการที่ผมนั่งไปส่งเขาที่ประเทศจีนครับ"

     

    "ทั้งๆ ที่ต้องไปอังกฤษนะหรอคะ"

     

    หานเกิงยิ้ม "นั่นไม่ใช่ประเด็นหรอกครับ มันไม่สำคัญเท่ากับการที่ผมอยากไปส่งเขา"






    กระแสตอบรับของรายการ we got married เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อมีการฉายของคู่นักธุรกิจหนุ่มหานเกิง และนางพญาแห่งวงการบันเทิงฮีชอล ทั้งสองคนเป็นที่จับตามองมาก แฟนคลับหลายต่อหลายคนที่สนับสนุนคู่นี้ถึงขั้นเปิดเพจคู่เลยทีเดียว หวังให้มีการคลิ๊กรักนอกจอกันเสียที เวลาที่ใครคนหนึ่งไปออกรายการหรือออกงานไหน ก็มักจะถูกสัมภาษณ์เรื่องนี้อยู่เรื่อยไป เหมือนอย่างตอนนี้ ในงานแถลงข่าวเปิดละครของคิม ฮีชอล

     

    ฮีชอลและบรรดานักแสดงนำอีกสี่ห้าคนกำลังให้สัมภาษณ์อยู่บนเวที ส่วนบรรดาสื่อมวลชนนั้นอนู่ด้านล่าง

     

    หลังจากเสร็จสิ้นงารแถลงข่าวฮีชอลก็ขอตัวกับนักแสดงคนอื่นๆ เพราะเขารู้สึกอยากกลับไปพักผ่อน เดินทางกลับมาจากจีนก็แทบยังไม่ได้พัก ร่างบางแต่ทว่าดูสง่าเดินเคียงคู่ไปกับฮีจินพี่สาวของตน

     

    "ฮีชอล" เสียงของฮีจินเรียกให้คนที่เดินก้มหน้าดูโทรศัพท์ให้เงยหน้าขึ้นมองก่อนจะพยักพเยิดไปทางด้านหน้า

     

    ดวงหน้าสวยหันไปมองตาม กลุ่มนักข่าวยังคงยืนกันเต็มไปหมด แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น คนที่ยืนอยู่ปลายสุดทางเดินตรงประตูนั้นตั้งหากประเด็น ร่างสูงสง่าในชุดสูทถือดอกไม้ช่อโตกำลังยืนตอบคำถามของนักข่าวอยู่

     

    "วันนี้มีถ่ายด้วยหรอ" ฮีจินส่งเสียงถามเพราะบางครั้งรายการ we got married ก็มักจะมาถ่ายแบบไม่ทันตั้งตัว

     

    "ไม่รู้เหมือนกันแต่ไม่เห็นทีมงานเลยนินา" ฮีชอลตอบ

     

    "สงสัยคุณหานเกิงคงทนคิดถึงไม่ไหวเลยมาหาภรรยานอกรอบ คึคึ" ฮีจินพูดพร้อมหัวเราะคิกคัก "ถ้าเขาอาสาไปส่งก็ไปเลยนะ เดี๋ยวฉันแอบดูแถวๆ นี้แหละ"

     

    "ฮีจิน!" คนน้องหันไปค้อนคนพี่ก่อนจะก้าวเดินต่อซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่หานเกิงหันมาเห็นพอดี

     

    หานเกิงส่งยิ้มมาให้โดยที่ฮีชอลเองก็ยิ้มตอบแล้วเดินตรงเข้าไปหา ส่วนฮีจินก็แอบหลบไปอีกทาง ช่อดอกลิลลี่สีขาวช่อใหญ่ยื่นมาให้กับฮีชอล

     

    "สำหรับคนเก่งครับ" ร่างสูงยิ้ม

     

    "ขอบคุณครับ พี่เกิงกลับมานานรึยังครับ" ฮีชอลรับช่อดอกไม้มาถือด้วยรอยยิ้ม

     

    "พึ่งลงเครื่องได้สักชั่วโมงเอง"

     

    ยังไม่ทันที่จะได้พูดคุยอะไรกันต่อบรรดาสื่อมวลชนก็ขอถ่ายรูปคู่ทั้งสองคน ฮีชอลจึงขยับไปยืนข้างหานเกิงเพื่อให้นักข่าวได้ถ่ายรูป

     

    "อันนี้อยู่ในบทด้วยรึเปล่าครับ" เสียงของนักข่าวคนหนึ่งดังขึ้นมาทำให้คนอื่นๆ ส่งเสียงถามอย่างเห็นด้วยกับคำถามนั้น

     

    ฮีชอลหันมองคนที่ยืนข้างๆ อย่างคิดไม่ตกว่าจะตอบอย่างไรดี หานเกิงจึงเป็นคนตอบ "เปล่าครับ ผมเอาดอกไม้มาแสดงความยินดีฮีชอลเองครับ"

     

    "รักในจอจะกลายเป็นรักนอกจอไหมคะ" อีกคำถามส่งมาทันทีทำเอาฮีชอลถึงกับตอบไม่ถูก

     

    "วันนี้พอแค่นี้ดีกว่าครับ ฮีชอลเองก็พึ่งกลับจากจีนคงอยากพักเต็มที่แล้ว ขอตัวนะครับ" หานเกิงเลี่ยงตอบคำถามแล้วจับมือของฮีชอลพร้อมกับรั้งให้ร่างบางนั้นเดินตาม

     

    "กลับยังไง ผู้จัดการไปส่งหรอ" หานเกิงถามเมื่อพาฮีชอลเดินออกมาแล้ว

     

    "เอ่อ..." ฮีชอลหันมองซ้ายมองขวาไม่รู้ว่าพี่สาวหายไปไหนอีกแล้ว

     

    "ฮีชอลลลล~" เสียงร้องเรียกดังมาแต่ไกลก่อนที่ฮีจินจะเดินเข้ามาหา "อุ๊ย... คุณหานเกิง ขอโทษทีนะคะ"

     

    "ครับ ไม่เป็นไร" หานเกิงตอบรับอย่างงงๆ ตอนที่นั่งเครื่องไปส่งฮีชอลก็เห็นอยู่คงเป็นคนสนิท เพราะถึงแม้หานเกิงจะเป็นคนจัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินจริง แต่คนที่ดำเนินการทุกอย่างเป็นเลขาของเขา

     

    "พี่เกิง นี่พี่ฮีจิน พี่สาวของผมแล้วก็เป็นผู้จัดการด้วยครับ" ฮีชอลแนะนำฮีจินให้อีกฝ่ายรู้จัก

     

    "ยินดีที่รู้จักอย่างเป็นทางการนะคะ คุณหานเกิงนี่หล่อมากเลยนะคะเนี่ย อิอิ" ฮีจินพูดก่อนจะดันฮีชอลไปหาหานเกิงซึ่งชายหนุ่มยกมือขึ้นจับแขนบางเอาไว้เพราะร่างบางที่ถูกดันแบบไม่ทันตั้งตัวทำท่าจะล้ม "ถ้าไม่เป็นการรบกวนมากไปพี่ฝากไปส่งฮีชอลหน่อยนะคะ พอดีต้องรีบไปทำธุระ"

     

    "ฮ... ฮีจิน! อะไรกัน?"

     

    "เอ่อน่า ฉันต้องไปซื้อของให้แม่อีก ไปแล้วๆ เดี๋ยวโทรหา" พูดจบก็หันไปส่งยิ้มเชิงบอกลาให้กับหานเกิงแล้วก็วิ่งหายไปทันที

     

    ฮีชอลถอนหายใจก่อนจะหันไปมองหานเกิง "พี่หานเกิงกลับไปพักเถอะครับ เดี๋ยวผมกลับแท็กซี่ก็ได้"

     

    "ไม่เป็นไร พี่ไปส่งเอง ไปเถอะ" หานเกิงรั้งให้ฮีชอลเดินตามไปที่รถของตัวเองที่จอดอยู่ไม่ห่าง เปิดประตูเพื่อให้ฮีชอลขึ้นไปนั่ง

     

    "ไปประชุมมาเป็นยังไงบ้างครับ เรียบร้อยดีไหม" ฮีชอลถาม

     

    "ก็เรียบร้อยดีไม่มีปัญหาอะไร ฮีชอลล่ะเป็นไงบ้าง ไม่เห็นมีส่งข้อความหาพี่บ้างเลย" หานเกิงพูดยิ้มๆ หันมามองตุ๊กตาหน้ารถที่นั่งอยู่ข้างๆ

     

    "ทีพี่ยังไม่ส่งมาหาผมเลย" ฮีชอลพูดเสียงเบาแต่เมื่ออยู่ในรถที่ไม่มีเสียงรบกวนแบบนี้หานเกิงก็ได้ยินชัดเจน

     

    "ขอโทษ... พี่ประชุมยุ่งจริงๆ อีกอย่างเวลาก็ต่างกันมาก พี่กลัวจะรบกวนฮีชอลด้วย" มือหนาเอื้อมมากุมมือเล็กที่วางอยู่บนตัก "ขอโทษนะ"

     

    "ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย"

     

    รถสีขาวเลี้ยวเข้าสู่คอนโดของฮีชอล หานเกิงเอ่ยรั้งฮีชอลที่กำลังจะลงจากรถก่อนจะหันไปหยิบถุงใบเล็กที่วางอยู่บนเบาะด้านหลังมาส่งให้ "ของฝากจากพี่"

     

    ฮีชอลหยิบกล่องที่วางอยู่ในถุงขึ้นมาดู ดวงตากลมเบิกกว้างเมื่อเห็นโลโก้สีทองที่อยู่บนกล่องสีเขียวใบนั้น "พี่เกิง ม มันมากเกินไป"

     

    หานเกิงหยิบกล่องในมือของฮีชอลมาเปิด ภายในกล่องมีนาฬิกาเรือนหรูวางอยู่ด้านใน นาฬิกา Rolex สายเหล็กสีเงินสวยซึ่งตรงกลางสายนั้นเป็นสีทองชมพู รอบหน้าปัดเองก็เป็นสีทองชมพูเช่นเดียวกัน มีเพชรฝังอยู่รอบๆ

     
     



     

    "พี่เห็นแล้วรู้สึกว่ามันเหมาะกับฮีชอลมากเลย"

     

    "แต่มันมากเกินไป ผมรับไม่ได้หรอกครับ" ฮีชอลส่ายหน้า ราคาของนาฬิกาเหลือนั้นไม่ใช่ถูกๆ เสียหน่อย

     

    "แต่พี่ซื้อมาแล้วนะ พี่ตั้งใจให้จริงๆ รับไว้เถอะ" หานเกิงปิดกล่องแล้วเอาใส่มือของฮีชอลเป็นการบังคับกลายๆ ว่าให้รับ "อย่าลืมใส่ด้วยนะ"

     

    "ผมรับไว้ก็ได้ครับ แต่คราวหลังห้ามซื้อของราคาแพงขนาดนี้มาให้ผมอีกนะ" ฮีชอลพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

     

    "ครับ เข้าใจแล้ว ไปพักผ่อนเถอะ ฝันดีนะครับ"

     

    "ครับ ขับรถดีๆ นะครับ แล้วก็พักผ่อนเยอะๆ ด้วย ฝันดีครับ" ฮีชอลพูดกับหานเกิงก่อนจะก้าวลงจากรถและยืนมองจนกระทั่งหานเกิงขับออกไปแล้วจึงได้เดินเข้าคอนโด

     

    มือบางยกขึ้นลูบเรือนนาฬิกาเบาๆ ใบหน้าสวยนั้นมีรอยยิ้มบางๆ ปรากฏขึ้น ความรู้สึกหลากหลายปะปนกันไปหมดจนแยกไม่ถูก ดีใจที่หานเกิงนึกถึงตนเองแบบนี้

     

     

    … TBC …

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×