ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    🐇 กระต่ายหมายจันทร์ 🌙 #WEREBEAST [BOY’S LOVE / WERE BEAST]

    ลำดับตอนที่ #5 : หมายจันทร์ ครั้งที่ 4 🐇 🌙

    • อัปเดตล่าสุด 9 ต.ค. 64


    ???? กระต่ายหมายจันทร์ ????

     

    หมายจันทร์ ครั้งที่ 4

    ???? ????

     

    วันนี้เป็นวันหยุดของร้านศศินกุล เป็นวันหยุดยาวต่อเนื่องสี่วัน ในหนึ่งปีจะมีสี่ครั้งที่ร้านศศินกุลหยุดติดต่อกันสี่วันแบบนี้ เป็นวันหยุดพิเศษที่เจ้าของร้านอย่างศิลป์กำหนดขึ้นมาและจะถูกประกาศบอกถึงพนักงานในร้านทุกคนตั้งแต่ต้นปี ในเดือนที่สาม หก เก้าและสิบสอง ช่วงสี่วันสุดท้ายของเดือนคือวันหยุดยาวเพื่อให้พนักงานทุกคนได้นอกผ่อน นอกเหนือวันหยุดประจำสัปดาห์ของร้านและของพนักงานแต่ละคนแล้ว

     

    เหตุผลก็เผื่อให้พนักงานในร้านมีช่วงเวลาของตัวเอง ช่วงเวลาที่ทำในสิ่งที่อยากทำ หรือไปในสถานที่อยากไป หรือใช้เวลากับครอบครัว

     

    ซึ่งวันหยุดในครั้งนี้เป็นวันหยุดสิ้นเดือนเก้า พนักงานทุกคนต่างโบกมือลากลับบ้านกันไปตั้งแต่เมื่อวาน ส่วนเจ้าของร้านอย่างเขาที่ไม่มีแพลนจะไปเที่นวที่ไหนก็นอนแผ่อยู่บนเตียงหลังจากที่ตื่นขึ้นมาได้สักพักแล้ว

     

    ได้นอนเต็มอิ่มจนตาสว่าง ร่างกายก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้น เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดดู เข้าไปตอบข้อความของเพื่อนในกลุ่มที่สนิทสนมกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ตอนนี้ก็ยังติดต่อกันอยู่ตลอด นอนเล่นโทรศัพท์อยู่ไม่นานก็ลุกไปจัดการตัวเองในห้องน้ำ

     

    บนชั้นสองนอกจะมีห้องนอนของเขาที่กินพื้นที่เกือบทั้งหมดแล้วก็ยังมีมุมอ่านหนังสือเล็ก ๆ อยู่ด้วย พร้อมกับโต๊ะทำงาน ช่วงวันหยุดว่าง ๆ ถ้าไม่ได้ออกไปไหนเขาก็มักจะมานั่งอ่านหนังสือตรงนี้ เดินลงมาที่ครัวเพื่อหามื้อเช้าให้ตัวเอง

     

    ปลายนิ้วเคาะบนโต๊ะอาหารอย่างคนใช้ความคิดในระหว่างที่สายตาจับจ้องอยู่ที่ไอแพดในมืออีกข้าง บนหน้าจอแสดงคลิปวีดิโอสั้น ๆ ที่เขาเปิดวนเอาไว้อย่างนั้น เป็นคลิปกระต่ายขนปุยที่นอนกอดตุ๊กตาอยู่บนเตียงนอนขนาดเล็ก มันทำให้เขานึกถึงเจ้าตัวนุ่มนิ่ม กระต่ายขาจรที่ชอบแวะเวียนมาหาที่พักพิงในยามค่ำคืน

     

    พูดแบบนี้ไม่ได้เกินจริงเลย เจ้ากระต่ายตัวน้อยขนปุยที่ดูไปดูมาก็คล้ายกับเจ้าตัวนุ่มนิ่มตัวแรกชอบแวะมาทักทายเขาตอนกลางคืน แล้วก็เหมือนมันจะรู้เวลาว่างตอนไหนที่เขาจะเดินมาเช็คประตู หน้าต่าง รู้ว่าต้องนั่งอยู่ตรงไหนเขาถึงจะมองเห็น

     

    และศิลป์ก็ไม่ได้ใจร้ายมากพอที่จะปล่อยเจ้ากระต่ายตัวน้อยให้นอนตากลมยามค่ำคืนข้างนอก เขามักจะอุ้มเจ้าก้อนขนขึ้นห้องนอนด้วยกันทุกครั้งไป และในตอนเช้าหลังจากให้อาหารเช้าเสร็จ เจ้าตัวน้อยก็จะวิ่งหายออกไป เป็นแบบนี้อยู่หลายครั้ง

     

    เหมือนกับว่าตอนนี้เขาเลี้ยงกระต่าย แต่แค่เจ้าตัวน้อยไม่ได้อยู่กับเขาตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง เรียกว่าเขาได้เลี้ยงกระต่ายเป็นบางคืนคงจะดีกว่า ดู ๆ ไปแล้วก็คล้ายกับว่าเขาเป็นชู้รักของเจ้าตัวน้อยที่รอคอยให้เขาแวะเวียนมาหา

     

    ถึงแม้เจ้าตัวน้อยจะแวะมาหาเขาในบางคืนแต่ศิลป์ก็เลี้ยงดูอย่างดี มีที่นอนนุ่ม ๆ ให้นอน รวมถึงอาหารการกินอย่างดี ทั้งอาหารหลัก ขนมกินเล่น รวมไปถึงของเล่นชิ้นเล็ก ๆ ก็มีให้

     

    ศิลป์คิดบางอย่างวนเวียนอยู่ในใจ และเมื่อตัดสินใจเขาก็ลุกขึ้น จัดการเก็บล้างแก้วกาแฟและถ้วยชามจนเรียบร้อย เขาออกจากบ้านในช่วงเวลาสิบโมงกว่า ๆ ขับรถมุ่งหน้าตรงไปยังห้างสรรพสินค้า ใช้เวลาอยู่บนท้องถนนเกือบชั่วโมงจึงมาถึง วนหาที่จอดรถอยู่ไม่นานก็เรียบร้อย เขาเดินเข้าไปในห้างตรงไปยังแผนกของเล่นเด็กในทันที

     

    เดินวนหาจุดที่ต้องการอยู่หลายรอบกว่าจะเจอโซนของเล่นเด็กในแบบที่เขาต้องการ ศิลป์หยอก ๆ จับ ๆ เตียงตุ๊กตาที่ทำจากไม้สนขึ้นมาดู เขาตั้งใจว่าจะซื้อเตียงนี้ไปให้เจ้าตัวนุ่มนิ่มของเขานอน เพราะตอนนี้เวลามาทีไรก็มักจะนอนอยู่บนเตียงข้าง ๆ เขา บางทีเขาก็กลัวว่าตัวเองจะเผลอตัวพลิกไปทับได้

     

    เตียงนี้กว้างพอให้เจ้าตัวนุ่มนิ่มนอนได้อย่างสบาย หลังจากเลือกหยิบเตียงมาได้เขาก็มองหาจำพวกผ้าเนื้อนุ่มผืนเล็ก สำหรับมาทำเป็นเบาะรองนอนให้ ได้ผ้าขนหนูที่ทำจากผ้าฟลีซผืนใหญ่มาสองผืนเอาไว้สำหรับทำเป็นเบาะรองนอน กลัวว่าผืนเดียวจะนุ่มไม่พอ แล้วก็ผืนเล็กลงมาหน่อยอีกหนึ่งผืน เอาไว้ห่มให้เจ้ากระต่ายน้อย

     

    สายตาของศิลป์จับจ้องไปที่บรรดาตุ๊กตาที่วางอยู่บนชั้น โดยเฉพาะตุ๊กตากระต่ายหลากหลายขนาด หลากหลายสี ถ้าหากเอาไปวางบนเตียงด้วยเจ้าตัวนุ่มนิ่มคงจะนอนหลับสบาย แล้วยิ่งจินตนาการไปถึงตอนที่เจ้าตัวน้อยนอนซุกตุ๊กตากระต่ายที่ตัวโตกว่าบนเตียงนอนนุ่ม ๆ มันจะต้องน่ารักมากแน่ ๆ หรือตอนที่เจ้าตัวน้อยเล่นกับตุ๊กตากระต่าย ก็คงน่ารักไม่แพ้กัน

     

    แล้วคนที่ทั้งใจยอมแพ้ไปกับความน่ารักของเจ้าตัวนุ่มนิ่มแล้วจะต้านทานในสิ่งที่คิดไว้ได้ยังไง ยืนลังเลเรื่องสีอยู่สักพักระหว่างสี Beige กับ สี Dusky Blue สุดท้ายก็เลือกสีเข้มไซซ์ประมาณหนึ่งฟุตไป แอบเหงื่อตกตอนเห็นยอดชำระรวม แต่ถ้าจะให้เลือกของออกเขาก็เลือกไม่ได้

     

    ก็ได้แต่บอกตัวเองว่าจะตั้งใจทำงานให้มากขึ้นก็เท่านั้น...

     

    หอบหิวของสำหรับกระต่ายตัวน้อยที่เขาไม่ได้เป็นเจ้าของเสียด้วยซ้ำไป นึกแล้วก็ส่ายหน้ากับความทุ่มเทของตัวเอง นอกจากเขาจะเหมือนชู้รักที่เฝ้ารอเขามาหาแล้ว ยังเป็นชู้รักที่หลงเขาหัวปักหัวปำ ทุ่มเทให้ทุกอย่าง อยากจะรู้จริง ๆ ว่าจะมีใครเป็นเหมือนเขาบ้างไหม ถ้าหากเอาไปเล่าให้เพื่อนฟังก็คงโดนพวกมันด่าเข้าให้

     

    ถัดจากซื้อของให้เจ้าตัวนุ่มนิ่มก็เป็นการซื้อของสำหรับตัวเขาเอง เขาลงไปยังชั้นของมาร์เก็ตเพื่อเลือกซื้อของสดไปแช่ตู้เอาไว้ พวกของสดต่าง ๆ ถ้าสำหรับของเขาคนเดียว เขาจะแยกบิลในการซื้อของเข้าร้าน เพื่อที่รายจ่ายจะได้ไม่มาปะปนกันจนดูไม่ออกว่าต้นทุนจริงมันคือตรงไหน

     

    ใช้เวลาไม่นานก็ได้ของครบตามต้องการ ศิลป์เลือกที่จะตรงกลับบ้านแทนที่จะหาอะไรกินก่อน อาจจะเพราะชินกับการกินข้าวที่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นการสั่งเข้าไป หรือทำกินเองก็ตาม เวลาต้องออกไปไหนมาไหนถ้าไม่ได้หิวจนทนไม่ไหว หรือไม่ได้นัดกินข้าวกับใครเขาก็มักจะกลับไปกินข้าวที่บ้านเสมอ

     

    คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันเมื่อเห็นว่ามีคนยืนอยู่แถว ๆ หน้าร้าน เขาจอดรถตอนก่อนถึงร้าน ค่อย ๆ เดินเข้ามาใกล้พร้อมทั้งสังเกตุอีกฝ่ายไปด้วย เขาไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายเป็นใคร และเพราะอะไรถึงได้มายืนอยู่หน้าร้านของเขาทั้ง ๆ ที่ร้านปิดแบบนี้

     

    “มีธุระอะไรหรือเปล่าครับ” เขาส่งเสียงถามออกไปก่อน

     

    อีกฝ่ายสะดุ้งด้วยความตกใจ หันมามองเขาหน้าตาตื่น ก่อนที่เจ้าตัวจะถอนหายใจออกมาคล้ายกับว่าโล่งอก ผิดกับเขาที่รู้สึกผิดที่ทำให้คนตรงหน้านี้ตกใจ “ขอโทษครับ ผมไม่คิดว่าคุณจะตกใจขนาดนี้”

     

    “ม ไม่เป็นไรครับ... พ พอดีผมเหม่อไปหน่อย”

     

    ศิลป์ลอบสำรวจคนตรงหน้า รู้สึกคุ้นหน้า ก่อนจะร้องออกมาเบา ๆ เมื่อนึกขึ้นได้ว่าคนตรงหน้าเขานี้เป็นลูกค้าของร้านที่พักหลัง ๆ มานี้เขาได้เห็นค่อนข้างบ่อย “น้อง... ลูน... ใช่ไหมครับ”

     

    “เอ๋... ค ครับ ใช่ครับ” พยักหน้ารับ “ผมลูนครับ ว่าแต่รู้จักชื่อผมได้ยังไงครับ”

     

    “อ๋อ พอดีน้ำใสพูดถึงน้องให้ฟังบ่อย ๆ บอกว่าน้องชอบขนมไหว้พระจันทร์ของที่ร้านมาก”

     

    ลูนพยักหน้ารับแรง ๆ “ใช่ครับ ชอบมาก ๆ เลยครับ เอ่อ... ว่าแต่ว่าวันนี้ร้านปิดเหรอครับ”

     

    “ใช่ครับ พอดีเป็นช่วงวันหยุดยาวของร้านพอดีครับ หยุดสี่วัน เปิดอีกทีก็วันที่หนึ่งเลยครับ” ศิลป์ตอบ เขาเห็นสีหน้าของคนตรงหน้าหงอยลง แล้วก็แปลกที่เขามองเห็นหูกระต่ายที่พับลงตามอารมณ์ของเจ้าตัว

     

    “แย่จัง… เอาไว้วันที่หนึ่งผมแวะมาใหม่แล้วกันครับ ขอบคุณนะครับ ขอตัวก่อนครับ” ลูนว่า เจ้าตัวไม่รู้เลยว่าเสียงที่พูดออกไปทั้งหงอยและเหงาแค่ไหน คนได้ฟังอดรู้สึกสงสารไม่ได้

     

    ก็ที่เจ้าตัวหงอยเหงาขนาดนี้ก็เพราะคิดว่าเขาจะไม่ได้แวะมาที่ร้านอีกตั้งหลายวัน แถมจะไม่ได้เจอคุณเขาด้วย ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาก็ไม่ค่อยได้แวะมาเพราะติดทำงานส่ง รวม ๆ แล้วก็ไม่ได้เจอคุณเขาตั้งสองอาทิตย์

     

    จนลืมไปว่าตอนนี้ตัวเองยืนคุยกับคุณเขาอยู่

     

    ศิลป์ชั่งใจ ท่าทางหงอย ๆ ของคนตรงหน้าดูน่าสงสาร “เดี๋ยวครับ”

     

    “ถ้าไม่รังเกียจก็แวะที่ร้านก่อนครับ เดี๋ยวผมทำอะไรให้กิน”

     

    “เอ๋” ดวงตากลมโตฉายแววงุนงง “แต่ร้านปิดนี่ครับ”

     

    “น้องตั้งใจมาทั้งที ไม่เป็นไรหรอกครับ เปิดร้านแบบลับ ๆ เป็นกรณีพิเศษก็ได้ แต่อย่าบอกใครนะ”

     

    “จริง ๆ นะครับ!” ดวงตานั้นเป็นประกายชอบใจ ท่าทางตื่นเต้นดีใจนั้นเรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากศิลป์ได้เป็นอย่างดี

     

    “ครับ รอเดี๋ยวนะ ผมไปขับรถมาเก็บก่อนพอดีจอดไว้ตรงนั้น”

     

    “ครับ ๆ ผมจะรอตรงนี้ไม่ไปไหน” พยักหน้าหนักแน่น มือจับสายกระเป๋าเป้ใบเล็กบนหลังมั่น ท่าทางเหมือนเด็กอนุบาลจนศิปล์นึกขำในใจ

     

    ท่าทางแบบนั้น… คงไม่ใช่โจรผู้ร้ายอะไรหรอก

     

    ท่าทางเหมือนเด็กที่จะได้กินของอร่อย…

     

    ศิลป์นึกขำ ๆ ในระหว่างที่เดินกลับไปที่รถ เขามองคนที่ยืนจับสายกระเป๋ามั่นอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหนก็หัวเราะออกมา

     

    เป็นเด็กที่น่ารักดี

     

     

     

    ???? ???? ???? ????

     

     

     

    ลูนกำลังตื่นเต้น ตื่นเต้นแบบสุด ๆ ยิ่งกว่าตอนสอบสัมภาษณ์เข้ามหาวิทยาลัย ยิ่งกว่าตอนพรีเซนต์โปรเจกต์หน้าห้องเสียอีก เพราะว่าตอนนี้เขากำลังเดินอยู่ในบ้านของคนที่เขาแอบชอบ ย้ำว่ากำลังอยู่ในบ้านของคนที่แอบชอบ!

     

    หลังจากที่คุณเขาจอดรถเสร็จก็เดินมาเรียก และพาเข้ามาด้านใน ซึ่งทางที่ลูนเข้ามาไม่ใช่ประตูด้านหน้าร้านที่เข้าออกประจำเวลามาเป็นลูกค้า แต่คุณเขาพาอ้อมมาอีกทาง ซึ่งถ้ามองจากด้านหน้าร้านจะมองไม่เห็นเลยเพราะคุณเขาปลูกต้นไม้เป็นแนวรั้วบังเอาไว้

     

    ดวงตากลมโตกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ส่วนที่เป็นบ้าน การตกแต่งนั้นใกล้เคียงกับการตกแต่งในส่วนของร้านอาหาร มันดูมินิมอล แล้วก็น่ารักมาก ๆ ลูนรู้สึกชอบการใช้โทนสีของบ้านและเฟอร์นิเจอร์

     

    “รกหน่อยนะ พอดียังไม่ได้เก็บบ้านเท่าไหร่” เจ้าของบ้านหันมายิ้มให้

     

    “ไม่รกเลยครับ แถมบ้านก็สวยมาก ๆ เลยด้วย” ลูนว่าด้วยน้ำเสียงจริงจังเพราะกลัวคุณเขาไม่เชื่อ พยายามทำตัวให้นิ่ง ๆ เพื่อไม่ให้เขารู้ว่ากำลังตื่นเต้นแค่ไหน มือที่แอบไขว้หลังกันไว้นั้นสั่นแล้วก็ชื้นเหงื่อไปหมด

     

    “ขอบคุณครับ อยากกินอะไรดีครับ ผมจะทำให้สุดฝีมือเลย”

     

    “อะไรก็ได้ครับ... แค่นี่ก็รบกวนแย่แล้ว วันหยุดของคุณทั้งที ที่จริง... ผมไม่ควรรบกวนด้วยซ้ำไปครับ”

     

    “ไม่รบกวนหรอกครับ ผมเป็นคนเอ่ยปากเองจะเรียกว่ารบกวนได้ยังไง อย่างนั้นเอาเป็นสปาเก็ตตี้แล้วกันนะครับ ใช้เวลาไม่นานนี่ก็บ่ายโมงกว่าแล้วด้วย เดี๋ยวกินข้าวช้าไปจะปวดท้องได้”

     

    “ขอบคุณนะครับ มีอะไรให้ผม... ช่วยไหมครับ”

     

    “ไม่มีครับ นั่งรอไม่นานรับรองได้กินของอร่อยแน่นอน”

     

    “ผมเชื่อครับ” ลูนพยักหน้า ยิ้มกว้างจนตาปิดกลับไปให้คุณเจ้าของร้าน “ร้านคุณของกินอร่อยทุกอย่างเลย ผมชอบมาก”

     

    “ขอบคุณครับ ได้รับคำชมจากลูกค้าประจำแบบนี้แล้วชื่นใจเลย”

     

    ลูนยิ้ม เขาพยายามกลั้นยิ้มไม่ให้กว้างจนเกินไป รู้สึกว่าแก้มทั้งสองข้างมันร้อนวูบวาบไปหมด คุณเขานี่ดีต่อใจจริง ๆ แค่คำพูดเพราะ ๆ แค่รอยยิ้มบาง ๆ ก็ทำเอาเขาใจสั่นไปหมดแล้ว ถูสองมือที่ชื้นเหงื่อกับกางเกง พยายามมองหาจุดโฟกัสเพื่อที่จะได้เลิกตื่นเต้น เลิกเขิน และเลิกเพ้อเจ้อไปไกล

     

    สายตาของลูนหยุดลงที่ถุงใส่ของที่เจ้าของบ้านยกเข้ามาตอนที่เดินเข้ามาด้วยกัน ถุงมันเปิดจนเห็นของด้านใน หัวใจที่เคยสั่นไหวก็คล้ายกับจะเต้นช้าลง คุณเขาซื้อตุ๊กตามา ซื้อมาสำหรับตัวคุณเขาเองหรือซื้อมาให้ใคร แล้วไหนจะเห็นกล่องอะไรสักอย่างที่มีรูปเด็กติดอยู่ข้างกล่องด้วย

     

    ของเล่นเด็ก...

     

    ตุ๊กตา...

     

    การที่คุณเขาอยู่ที่ร้านคนเดียวก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่มีพันธะ หรือไม่มีคนในใจ

     

    “น้องลูน... เป็นอะไรครับ ทำไมหน้าซีด ๆ แบบนั้น ไม่สบายหรือเปล่า”

     

    ลูนสะดุ้งเพราะเขาปล่อยให้ความคิดตีกันวุ่นวายไปหมดจนไม่ทันสังเกตุว่าคุณเขาเดินมาใกล้ ๆ แล้ว “อ่ะ! ป เปล่าครับ ๆ ผมไม่ได้เป็นอะไร”

     

    “อย่างนั้นก็กินข้าวดีกว่าครับ เดี๋ยวจะปวดท้องนะ” จานสปาเก็ตตี้เส้นดำผัดขี้เมากุ้งวางลงตรงหน้าของลูน และมีอีกหนึ่งจานที่วางอยู่ฝั่งตรงข้าม

     

    คุณเจ้าของบ้านเดินไปรินน้ำเย็น ๆ มาสองแก้ว หนึ่งแก้วสำหรับลูน และอีกแก้วสำหรับตัวคุณเขา

     

    คุณเจ้าของบ้านทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามและส่งยิ้มให้

     

    คุณเจ้าของบ้านเชื้อเชิญให้ลูนลองชิมอาหารตรงหน้า และเอ่ยขอบคุณตอนที่เขาเอ่ยปากชมว่าอร่อย

     

    พอได้กินของอร่อยความรู้สึกด้านลบเมื่อครู่ก็เหมือนจะดีขึ้นนิดหน่อย แต่ก็ยังอดคิดวุ่นวายไม่ได้ว่าคุณเขาจะมีคนของใจอยู่แล้วหรือเปล่า

     

    การที่เขาลงทุนเปลี่ยนร่างเป็นกระต่ายและแวะเวียนมาหาคุณเขาบ่อย ๆ ก็ไม่ได้บอกว่าคุณเขามีหรือยังไม่มีแฟน แม้ว่าจะไม่เคยเห็นใครมาหาคุณเขาเลย ไม่แม้แต่จะได้ยินคุณเขาโทรศัพท์คุยกับใครด้วย พอนึกมาถึงตรงนี้ก็เหมือนจะใจชื้นขึ้นอีกหน่อย

     

    ยังไง ๆ คนมีแฟนก็ต้องมีโทรศัพท์คุยกับแฟนกันบ้างล่ะ แต่นี่ไม่มีเลย ก็อาจจะเป็นไปได้ว่ายังไม่มีใคร แม้จะยังนึกสงสัยว่าแล้วของเด็กเล่นที่คุณเขาซื้อมานั้น... ซื้อมาให้ใครกัน

     

    เผลอเหลือบมองไปทางถุงใส่ของนั้นบ่อย ๆ จนศิลป์สังเกตเห็นได้ เจ้าตัวเลยลุกไปหยิบถุงนั้นมา “สนใจเหรอครับ”

     

    “อ เอ๋!” ลูนทำตาโต ตกใจที่อยู่ ๆ คุณเขาก็ถามแล้วหยิบของข้างในออกมา “คือ ม ไม่...” ไม่รู้จะตอบยังไงดี จะบอกว่าไม่สนใจอีกฝ่ายก็รู้ว่าโกหกแน่ ๆ เพราะเขาเผลอแสดงออกมาไปจนคุณเขารู้ว่าเขามองเจ้าถุงใบนี้อยู่ แต่ถ้าบอกว่าสนใจก็จะกลายเป็นว่าเขาไปแอบดู แอบสอดส่องของคุณเขาอีก

     

    “ค คือ... ผมเองก็มีตุ๊กตากระต่ายของยี่ห้อนี้เหมือนกันน่ะครับ น นี่ไงครับมีพวงกุญแจด้วย” อยากปรบมือให้ตัวเองในการเอาตัวรอด โชคดีที่เขาเองก็ชอบตุ๊กตาของแบรนด์นี้ แล้วก็มีใช้อยู่จริง ๆ เป็นพวงกุญแจที่ห้อยไว้กับกระเป๋า

     

    “อ๋อ บังเอิญจัง จริง ๆ ผมก็ไม่ได้ชอบตุ๊กตานี้เป็นพิเศษหรอกครับ แต่พอดีเขาตัวนุ่มนิ่มดี ดูแล้วน่าจะนอนกอดสบายน่ะ”

     

    ลูนกระพริบตาปริบ ๆ นึกภาพตอนคุณเขานอนกอดตุ๊กตากระต่ายแล้วแก้มแทบจะยกขึ้น ต้องน่ารักมากแน่นอนเลย สงสัยว่าคืนนี้จะต้องแอบแวบมาหาแล้วหลังจากไม่ได้มาหลายคืน

     

    “ครับ นุ่มมาก ๆ เลยครับ ผมก็มีตัวใหญ่ นอนกอดสบายมากเลย ยิ่งเวลาเอาหน้าซุกนะครับ ฟินเลยแหละ”

     

    ศิลป์หัวเราะกับคำบอกเล่าของลูน ก็หวังว่าเจ้าตัวนุ่มนิ่มของเขาจะชอบเหมือนกัน “ครับ ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน”

     

    “ครับ... เอ่อ... แล้วค่าอาหารมื้อนี้เท่าไหร่เหรอครับ”

     

    คุณเจ้าของร้านที่นั่งไขว่ห้างโดยมีตุ๊กตาอยู่บนตักส่ายหน้าไปมา “ไม่คิดครับ ถือว่าเป็นคำขอบคุณของผมครับ”

     

    “ขอบคุณอะไรกันครับ ผมยังไม่ได้ทำอะไรที่ต้องขอบคุณสักหน่อย”

     

    “ก็ขอบคุณที่ชอบอาหารร้านของผม แล้วก็แวะมาบ่อย ๆ จนเป็นลูกค้าประจำไงครับ”

     

    “ก็อาหารร้านคุณอร่อยนี่ครับ ผมว่าเป็นใครก็เป็นลูกค้าประจำกันทั้งนั้นแหละ... จะไม่คิดจริง ๆ เหรอครับ”

     

    “ไม่ครับ เอาไว้น้องค่อยมาอุดหนุนใหม่คราวหน้าก็แล้วกันครับ”

     

    “แน่นอนครับ ร้านเปิดผมจะมาอีกแน่นอน ไม่ให้พลาดเลย” รับคำอย่างเป็นหมั่นเป็นเหมาะ

     

    “ขอบคุณครับ”

     

    “ย อย่างนั้นผมขอตัวก่อนดีกว่า” ลูนพูดเสียงตะกุกตะกันทันทีเมื่อเจอคุณเขายิ้มมาให้ “รบกวนเวลาพักผ่อนของคุณมานานแล้วด้วย...”

     

    “อย่างนั้นผมเดินออกไปส่ง”

     

    ศิลป์เดินมาส่งลูนที่ด้านหน้าร้าน ยืนเถียงกันเล็กน้อยเรื่องที่ศิลป์จะเดินไปส่งถึงป้ายรถ แต่ลูนไม่ยอมสุดท้ายลูนก็ชนะไป

     

    “ขอบคุณสำหรับอาหารอร่อย ๆ นะครับ”

     

    “ยินดีครับ”

     

    ลูนหันกลับไปมองที่ร้านอีกครั้งก่อนจะก้าวเท้าให้ไวขึ้น รีบโบกเรียกรถแท็กซี่ที่ขับผ่านไปผ่านมาให้ไปส่งที่คอนโด

     

    กระโดดทิ้งตัวใส่เตียงนอนหลังใหญ่ ขาทั้งสองข้างสะบัดตีไปมาด้วยความตื่นเต้นที่วันนี้ได้เจอคุณเขา แถมยังได้กินข้าวฝีอมืคุณเขา และที่สำคัญได้เข้าไปในบ้านของคุณเขาด้วย!

     

     

     

    ???? ???? ???? ????

     

     

    สองมือคว้าเอาเสื้อผ้ามาพับแล้วเก็บใส่กระเป๋าเป้ใบขนาดกลาง พัดเอาชุดไปแค่ชุดเดียวสำหรับเปลี่ยนในตอนเช้า เขาหันมองเวลาก่อนจะหยิบกระเป๋ามาสะพายแล้วออกจากห้อง ลูนขับรถไปเอง ถนนเส้นคุ้นเคยเพราะเป็นทางไปร้านของคุณเขา แม้เป้าหมายของลูนคือการไปหาคุณเขา แต่จุดปลายไม่ใช่ที่ร้าน

     

    ก่อนถึงสวนสาธารณะที่อยู่ติดกับร้านของศศินกุล มีโรงแรมตั้งอยู่ เป็นโรงแรมเฉพาะสำหรับแวร์บีสต์ มนุษย์ปกติไม่สามารถเข้าพักได้ จะเข้าพักก็ต้องแสดงบัตรแวร์บีสต์ให้ดู ลูนเจอโรงแรมนี้โดยบังเอิญ แม้จะบอกว่าอยู่ก่อนร้านคุณเขาแต่ก็ไม่ได้อยู่ชิดติดกับถนนใหญ่ แต่เข้ามาในซอยและทางเข้าก็ค่อนข้างมิดชิด ดูจากภายนอกก็แทบไม่รู้ว่านี่คือโรงแรม

     

    ส่วนเหตุผลที่เขามาแวะที่โรงแรมนี้ก็เพราะว่ามันค่อนข้างสะดวกในการเข้าไปหาคุณเขามากกว่า ช่วงคืนแรก ๆ ที่แวะไปแอบดูคุณเขา ลูนต้องหลบ ๆ แอบ ๆ ในช่วงก่อนที่จะเปลี่ยนร่างเป็นกระต่าย เพราะบรรดาเสื้อผ้าข้าวของมันไม่ได้ย่อขนาดตามไปด้วย จะให้เปลี่ยนเป็นกระต่ายตั้งแต่อยู่ที่คอนโดก็คงจะไม่ได้ ไหนจะต้องลงลิฟต์ สแกนบัตรผ่านนู้นนี่อีก เขาเลยขับรถมาจอดหลบ ๆ เอาไว้

     

    ในตอนเช้าที่ออกมาจากร้านคุณเขาก็เลยบังเอิญมาเจอโรงแรมนี้เข้า หลังจากหาข้อมูลจนรู้ว่าเป็นโรงแรมสำหรับแวร์บีสต์ ลูนเลยใช้โรงแรมนี้แทน เพราะเป็นโรงแรมของแวร์บีสต์ เขาจะเปลี่ยนเป็นกระต่ายและเข้าออกก็ง่ายดาย ห้องพักแต่ละห้องก็จะมีประตูพิเศษสำหรับสายพันธุ์สัตว์แต่ละชนิด การจัดโซนห้องพักก็แยกตามไปด้วย ไม่ได้ปะปนกันระหว่างสายพันธุ์ของสัตว์เล็ก และสัตว์ใหญ่ ในโรงแรมนี้ลูนก็เห็นคนที่เปลี่ยนเป็นแวร์บีสต์เดินไปเดินมาเต็มไปหมด

     

    หลังจากเช็คอินเข้าห้องพักเรียบร้อย ลูนก็นั่งเล่นนอนเล่นอยู่ในนั้น จนกระทั่งถึงเวลาที่จะแวะไปหาคุณเขา ถึงได้เปลี่ยนร่างมาเป็นกระต่ายน้อยตัวกลมขนสีขาวปนเทา

     

    อุ้งเท้าน้อย ๆ ยกขึ้นดันประตูบานเล็กที่ทำซ่อนไว้กับประตูห้องก่อนจะกระโดดออกไปด้านนอก เดินลัดเลาะไปเรื่อย ๆ จนออกมาด้านนอกโรงแรม ดวงตากลมสอดส่องไปทั่วเพื่อดูความปลอดภัยให้ตัวเองแล้วจึงออกวิ่งลัดสวนสาธารณะไปที่ร้านคุณเขา

     

    แสงไฟชั้นล่างของร้านยังติดอยู่ให้ใจชื้น แอบคิดอยู่ว่าคุณเขาไม่ได้เปิดร้านแบบนี้จะลงมาเช็คความเรียบร้อยเหมือนปกติหรือเปล่า

     

    ตำแหน่งประจำที่จะทำให้คุณเขาสามารถมองเห็นได้ชัด ลูนเดินไปนั่งตรงนั้นและเฝ้ารอ...

     

    รอจนกระทั่งคุณเขาเดินมา

     

    ศิลป์ชะงักไปเมื่อเห็นเจ้าตัวนุ่มนิ่มที่หลายวันมานี้ไม่ได้มาหาเขาเลย รีบเปิดประตูออกมาอุ้มเข้าไปในร้านทันที “ไม่เห็นมาตั้งหลายวัน ก็นึกว่าลืมกันไปแล้ว”

     

    ลูนส่งเสียงเบา ๆ เขาพยายามส่ายหน้าเพื่อบอกว่าไม่ได้ลืม แต่ท่าทางของเจ้าตัวน้อยที่สั่นหัวดุ๊กดิ๊กไปมานั้นมันน่าขำกว่าเป็นไหน ๆ

     

    “หนีไปหาคนอื่นมาใช่ไหม” ศิลป์ยังคงพูดถามในระหว่างที่อุ้มเจ้าตัวนุ่มนิ่มขึ้นไปบนห้อง “ทำเหมือนเราเป็นชู้รักที่นึกอยากมาตอนไหนก็มาเลยนะ”

     

    เจ้าตัวน้อยได้ยินแบบนั้นก็พยายามจะยืดตัวไปหา คลอเคลียออดอ้อนคุณเขาจนใจอ่อน หลุดขำออกมา “ล้อเล่นก็ได้”

     

    “วันนี้ไปซื้อของมา ซื้อของมาให้เราด้วยนะ ไม่รู้จะชอบหรือเปล่า”

     

    ใบหน้าเล็ก ๆ เอียงมองอย่างสงสัย ศิลป์อุ้มเจ้าตัวน้อยเข้าไปในห้อง ก่อนจะวางลงบนเตียง แต่ไม่ใช่เตียงนอนหลังใหญ่ของเขา เป็นเตียงหลังน้อยที่เขาเพิ่งไปซื้อมา ใช้ผ้าฟลีชสองผืนพับแล้วรองเป็นเบาะสำหรับนอน

     

    ศิลป์มองเจ้าตัวน้อยที่ชะงักไปกับของแปลกใหม่ มองเจ้าตัวน้อยสำรวจแล้วก็เดินวนไปมาบนเตียงหลังเล็ก เจ้าตัวดูงุนงงกับสิ่งที่เห็น มีการเงยหน้ามามองเขา มองเตียงหลังใหญ่และเตียงที่ตัวเองอยู่สลับกันไปมาด้วย

     

    ความนุ่มของผ้าขนหนูที่ปูรองนั้นชวนให้เจ้าตัวน้อยทิ้งตัวลงนอนกลิ้งไปกลิ้งมา ภาพนี้แหละคือภาพที่ศิลป์อยากเห็น เขารีบหยิบโทรศัพท์มากดอัดวีดิโอเอาไว้ในทันที เจ้าตัวน้อยนั้นน่ารักมากจริง ๆ ตัวกลม ๆ สีขาปนเทากลิ้งไปมาอยู่บนผ้าขนหนูผืนนุ่มสีเข้ม

     

    “ยังไม่หมดนะ” ศิลป์ว่า เขาเอื้อมมือไปหยิบตุ๊กตากระต่ายมา ยื่นไปตรงหน้าเจ้าตัวนุ่มนิ่มของเขาที่พลิกตัวกลับมานั่งมอง

     

    อุ้งเท้ายกขึ้นสัมผัสเจ้าตุ๊กตา พอศิลป์วางตุ๊กตากระต่ายไว้บนเตียงให้ก็ขยับเข้าไปหาทันที กดอุ้งเท้าลงไปบนตัวตุ๊กตาคล้ายจะสัมผัสกับความนุ่มนิ่ม ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนตุ๊กตา

     

    ตุ๊กตาที่ศิลป์เลือกมานั้นขนาดใหญ่กว่าเจ้าตัวน้อยเสียอีก พอแบบนี้เจ้าตัวน้อยเลยเหมือนจมลงไปในตุ๊กตาเลยทีเดียว

     

    “ชอบใช่ไหม นุ่มล่ะสิ กอดไม่ปล่อยเลย” ศิลป์เอ่ยแซว เอื้อมมือไปลูบขนนุ่มฟูของเจ้าตัวนุ่มนิ่ม ยิ้มชอบใจเมื่อเห็นเจ้าตัวน้อยกอดตุ๊กตาไม่ยอมปล่อย

     

    รูปภาพในอัลบั้มเพิ่มจำนวนขึ้นอีกแล้ว และก็เป็นรูปของเจ้าตัวนุ่มนิ่มด้วยกันทั้งนั้น

     

     

     

    ???? ???? ???? ????

     

     

     

    ลูนมองตุ๊กตากระต่ายและและเตียงนอนผ่านสายตาของกระต่าย ของที่เขาเห็นวันนี้ทุกอย่างคือของที่ศิลป์ซื้อให้เขาทั้งหมด ไม่รู้ว่าคุณเขาจะทำตัวน่ารักไปถึงไหน เพราะแค่นี้เขาก็ยิ่งหลงรักคุณเขาไม่หยุดแล้ว

     

    ทั้ง ๆ ที่เขาก็เป็นเพียงกระต่ายที่ถ้าในมุมมองของคุณเขาก็แค่กระต่ายไร้เจ้าของ ที่คุณเขาบังเอิญเจอและรับมาดูแลในบางวัน แต่คุณเขากลับดูแลดีทุกอย่าง ทั้งในเรื่องของที่นอน ของเล่นที่ก็มีอยู่ให้ตลอด ไหนจะเรื่องของอาหาร น้ำดื่ม แล้วก็อะไรอีกหลาย ๆ อย่าง

     

    ของแบบนี้คือค่าใช้จ่ายทั้งนั้น จะมีใครใจดีซื้อของมีราคาพวกนี้มาให้กระต่ายที่ไม่มีที่มาที่ไปอย่างเขาได้ใช้ได้เล่นกัน

     

    เขาถึงบอกไงว่า... คุณเขาน่ะใจดีมาก และลูนเองก็แพ้คนใจดีแบบคุณเขาเป็นที่สุดเลย

     

    ดวงตากลมมองสำรวจใบหน้ายามหลับใหลของคุณเขา ก่อนจะขยับเข้าไปใกล้แล้วทิ้งตัวนอนข้าง ๆ แม้ว่าจะชอบเตียงนอนที่คุณเขาซื้อให้ แต่ว่ามันค่อนข้างไกลจากคุณเขาพอสมควร และลูนก็ไม่อยากนอนห่างคุณเขา 

     

    แม้จะรู้สึกผิดที่ใช้ของที่คุณเขาซื้อให้ไม่คุ้ม แต่เขาอยากอยู่ใกล้ ๆ คุณเขานี่นา ก็คงพอหักล้างกันไปได้บ้าง เอาไว้ตอนเช้าจะรีบตื่นก่อนคุณเขาแล้วย่องกลับไปที่เตียงของตัวเองก็แล้วกัน

     

    ส่วนตอนนี้... ลูนของนอนตรงนี้ ข้าง ๆ คุณเขาก่อน

     

     

     

    ???? ???? ???? ????

     

     

     

    ???? กระต่ายหมายจันทร์ ????

     

    #ดวงจันทร์ของลูน

     

     

    ???? ???? ???? ????

     

     

    น่าตีไหม มัมตุ่ยของน้อง ๆ ว่ายัยน้องน่าตีมั้ย?

    คิดดูแอบย่องไปหาพี่เขา ไปนอนกับพี่เขาซะอย่างนั้น

    มันน่าตีจริง ๆ เลยนะเนี่ย มันเขี้ยวยัยน้อง!

     

     

    ไปเล่นแฮชแท็ก #ดวงจันทร์ของลูน กันนะคะ ฟางอยากอ่านความคิดเห็นเยอะ ๆ ค่ะ 

    อยากรู้ว่าทุกคนคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้ ขอฟีดแบ็กหน่อยน้าาาาาาาา

     

     

    ปล. สำหรับนิยายเรื่องนี้ ฟางจะพยายามมาอัปให้ได้ทุกวันศุกร์นะคะ

    นอกจากไม่ทันจริง ๆ ก็จะไม่ให้เกินวันเสาร์หรืออาทิตย์ แต่ถ้าติดจริง ๆ ฟางจะแจ้งในทวิตเตอร์นะคะ

     

     

    TWITTER : @Fangiily_GC

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×