ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    WE GOT MARRIED [GENGCHUL]

    ลำดับตอนที่ #13 : WGM... 13 ...

    • อัปเดตล่าสุด 14 ม.ค. 58


    Radio ? Theme
    We got married

    F.GC

    มาแล้วค่า มาแล้ว บอสเกิงมาดามฮี กลับมาหาทุกคนแล้วค่า

    ตอนนี้ไปพบกับความฟิน ความน่ารักของทั้งคู่ในระหว่างการถ่ายภาพคู่รักได้เลยค่ะ

    นี่แค่ภาพคู่รักวันคริสต์มาสนะคะ อย่าเข้าใจผิดว่าเป็นภาพถ่ายพรีเวดดิ้งล่ะ ฮี่ๆๆ

    > #บอสเกิงมาดามฮี <



     

    … 13 …

     

    "ครบ 100 วันแล้ว รู้สึกยังไงบ้างคะ" ทีมงานเอ่ยถามหลังจากที่ฮีชอลเข้ามาให้สัมภาษณ์ในห้องมืดหลังจากที่ไม่ได้สัมภาษณ์มานาน

     

    "ไม่น่าเชื่อครับ แล้วก็รู้สึกว่าเวลามันผ่านไปเร็วมากๆ เลย" ฮีชอลตอบ

     

    "รู้สึกยังไงกับอีเว้นท์ที่คุณหานเกิงจัดให้คะ"

     

    "มัน... เป็นความรู้สึกที่หลากหลายมากเลยครับ เป็นความรู้สึกที่ดีมากๆ ไม่ว่าจะดีใจ ภูมิใจ มีความสุข ตื้นตัน มันหลากหลายจริงๆ ครับ" ฮีชอลพูด "มันเป็นงานที่ต้องใช้เวลาแล้วพี่เขาก็ทำให้ ผมพูดอะไรไม่ออกเลย พี่เขาให้ผมเยอะมาก"

     

    "คุณหานเกิงทำเองทุกอย่างเลยนะคะ ทั้งนั่งหารูป แต่งรูป รวมไปถึงออกแบบแล้วก็จัดงานด้วย ทำเองหมดเลยค่ะ"

     

    "จริงหรอครับ? สุดยอดจริงๆ ครับ ผมขอบคุณมากจริงๆ ที่ทำให้ผมขนาดนี้ เหมือนผมจะพูดแต่คำนี้ แต่ผมคิดว่าไม่มีคำไหนเหมาะสมไปมากกว่าคำนี้แล้ว" ฮีชอลดีใจจริงๆ กับสิ่งที่อีกฝ่ายทำให้

     

    "แล้วรู้ไหมคะว่าคุณหานเกิงเป็นคนไปคุยกับทางบริษัทละครขอให้เปลี่ยนตารางงานเพื่อที่เขาจะได้มีเวลาจัดอีเว้นท์ให้คุณได้เต็มที่"

     

    ฮีชอลตาโตทันทีที่ได้ยินทีมงานพูด "จริงหรอครับ?! พูดจริงๆ หรอครับเนี่ย สุดยอดเลย... ผมก็สงสัยว่าทำไมอยู่ๆ ผู้กำกับถึงได้เปลี่ยนตารางกะทันหันแบบนี้ ผมนึกว่านักแสดงบางท่านไม่สะดวกวันอื่นซะอีก"

     

    "ถ้าอย่างนั้นฝากอะไรถึงคุณหานเกิงหน่อยสิคะ"

     

    "ถ้าให้ผมพูดอีก... ก็คงไม่พ้นคำว่า ขอบคุณครับ ขอบคุณที่พี่เกิงทำให้ผมมากมายขนาดนี้ ขอบคุณที่ใส่ใจในทุกๆ เรื่องแบบนี้ ผมดีใจมาก แล้วก็มีความสุขมากที่ได้รับสิ่งที่พี่ทำให้ผม ขอบคุณมากจริงๆ นะครับ"






    "รู้สึกยังไงที่ผ่านมาครบ 100 วันคะ" ทีมงานสาวเอ่ยถามกับท่านประธานหนุ่มที่มาให้สัมภาษณ์ในห้องมืด

     

    หานเกิงขยับตัวเล็กน้อยก่อนตอบ "อืออ... ดีครับ มันผ่านไปเร็วมาก ถึงแม้ว่าในตลอด 100 วันผมกับฮีชอลจะไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดเหมือนคู่รักทั่วไป แต่ในทุกวันที่ได้อยู่กับเขามันก็มีความสำคัญมากครับ"

     

    "มีคนบอกว่าคุณหานเกิงดูทุ่มมากไป คิดยังไงกับประเด็นนี้คะ"

     

    "ผมไม่คิดครับ ผมไม่มีสิทธิห้ามความคิดใคร ผมคิดแค่ว่าสิ่งที่ผมทำ ผมมีความสุข คนที่รับจากผมมีความสุข และมันไม่ส่งผลกระทบกับใคร ผมคิดแค่นั้นครับ"

     

    "ค่ะ คุณฮีชอลบอกว่าขอบคุณมากๆ ที่ทำให้ขนาดนี้ ดีใจไหมคะที่คุณฮีชอลชอบ" ทีมงานเปลี่ยนประเด็นคำถามทันทีเมื่อสัมผัสได้ถึงความไม่พอใจเล็กๆ ของบอสหนุ่ม

     

    หานเกิงยิ้มกับคำถามนั้น "ดีใจสิครับ เราทำของสิ่งหนึ่งให้อีกคนด้วยความเต็มใจและความตั้งใจ มันไม่จำเป็นต้องเป็นของชิ้นใหญ่ แค่เป็นของเล็กๆ ที่ตั้งใจ ใส่ใจ แล้วคนรับ รับไปด้วยความสุข ผมก็ต้องมีความสุข แล้วก็ดีใจอยู่แล้ว ใครๆ ก็คงจะเป็นเหมือนผมครับ"

     

    "มีอะไรอยากจะฝากถึงคุณฮีชอลไหมคะ"

     

    "อือ... เอาจริงๆ ก็ไม่มีนะครับ เพราะผมกับฮีชอลมักจะคุยกันตลอดถึงเรื่องต่างๆ เอาเป็นว่า... พี่ดีใจนะครับที่ได้มาคู่กับฮีชอลแบบนี้ ฮีชอลเป็นคนที่น่ารักมากๆ แล้วก็หวังว่าเราจะมีความสุขกันแบบนี้ต่อไปนะครับ"






    ชายหนุ่มที่พึ่งเดินออกจากห้องน้ำยิ้มขำกับภาพที่เห็นตรงหน้า ร่างบางของดาราดังนั่งกอดอกมองเจ้าตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ที่วางอยู่บนเตียงอย่างคิดไม่ตกว่าจะทำยังไงดี หานเกิงเดินไปนั่งข้างๆ ตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ที่ซื้อมาเป็นของขวัญให้กับภรรยา มือหนายกขึ้นกดที่ระหว่างคิ้วของคนสวยให้คลายออกจากการขมวดเข้าหากัน

     

    "เป็นอะไร ทำหน้ายุ่งเชียว เดี๋ยวก็ไม่สวยหรอก" เลื่อนมือไปจับผมทัดหูให้

     

    "กำลังคิดอยู่ว่าจะทำยังไงกับตัวนี้ดีน่ะครับ ตัวใหญ่มากเลย ถ้าเอามานอนบนเตียงก็จะเบียดกันไปน่ะสิครับ" ฮีชอลพูดก่อนจะขยับไปนั่งพิงเจ้าตุ๊กตาหมี คนตัวเล็กอย่างฮีชอลยิ่งดูตัวเล็กเข้าไปใหญ่เมื่อนั่งใกล้ๆ ตุ๊กตาหมี แม้ความสูงของตุ๊กตาจะเตี้ยกว่าฮีชอลก็ตาม แต่ความกว้างของตัวนั้นใหญ่กว่าฮีชอลมากนัก

     

    "อยากเอาไว้บนเตียงหรอ" หานเกิงถามพลางจับอีกคนให้ขยับมาใกล้ก่อนจะใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมให้เมื่อเห็นว่าผมของฮีชอลยังชื้นอยู่

     

    "ครับ พี่เกิงซื้อให้นินา จะให้เอาไว้ข้างล่างได้ไงละครับ"

     

    "ถ้าอย่างนั้นฮีชอลก็นอนหนุนตักตุ๊กตาหมีแทนสิ" พูดไปก็ค่อยๆ เช็ดผมให้ไปด้วยจนแห้ง ก่อนจะใช้มือจัดทรงผมของฮีชอลให้เรียบร้อย

     

    "ขอบคุณครับ" ฮีชอลพูดพึมพำขอบคุณเรื่องที่เช็ดผมให้ก่อนจะขยับถอยออกห่างจากหานเกิงด้วยหัวใจที่เต้นแรงและใบหน้าที่ขึ้นสีระเรื่อนิดๆ เพราะเมื่อครู่ที่หานเกิงเช็ดผมให้ ชายหนุ่มไม่ได้นั่งซ้อนอยู่ด้านหลัง แต่ทั้งคู่หันหน้าเข้าหากัน ใบหน้าของฮีชอลอยู่ใกล้อกกว้างของหานเกิงยามที่อีกคนเอื้อมมือมาเช็ดปลายผมด้านหลัง กลิ่นกายหอมๆ จากการที่พึ่งอาบน้ำเสร็จทำเอาหัวใจของฮีชอลเต้นแรง

     

    "เตรียมตัวนอนได้แล้วนะ พรุ่งนี้มีถ่ายแบบให้คุณกงยูแต่เช้าเลยนะ" หานเกิงพูดพลางลุกเอาผ้าขนหนูไปแขวน

     

    "ครับผม" ฮีชอลจัดการอุ้มตัวตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ให้มานั่งทางฝั่งของตัวเองแล้วจึงล้มตัวลงนอนหนุนขาของตุ๊กตา บอสหนุ่มเดินไปปิดไฟก่อนจะเดินกลับมาที่เตียง ดึงผ้าขึ้นคลุมทั้งตัวเองและคนที่นอนอยู่ก่อนให้เรียบร้อย

     

    "ฝันดีนะฮีชอล" ลูบผมนุ่มนั้นเบาๆ ก่อนจะล้มตัวลงนอนข้างๆ แล้วหลับไป

     

    บอสหนุ่มขยับตัวตื่นเมื่อรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างเข้ามาชนข้างๆ ก่อนจะหันไปมองที่ข้างกายก็พบว่าฮีชอลนั้นขยับตัวมานอนอยู่เสียจนแทบชิด คงจะเป็นเพราะนอนหนุนตุ๊กตาไม่ถนัด ถึงได้ขยับมาแบบนี้ หานเกิงค่อยๆ ยกหัวของคนที่หลับขึ้นแล้วดันหมอนของตัวเองไปลอง ขยับผ้าห่มคลุมอีกคนให้เรียบร้อยแล้วจึงล้มตัวลงนอนต่อบนหมอนใบเดียวกัน

     

    และเช้าวันนั้นกลับเป็นฮีชอลที่ตื่นนอนก่อน ไม่ต้องบอกก็คงรู้ว่าใบหน้าสวยๆ ของเจ้าตัวนั้นจะแดงแค่ไหนเมื่อลืมตาขึ้นมาพบกับใบหน้าของหานเกิงที่อยู่ห่างเพียงแค่คืบ จากที่ยังงัวเงียกลายเป็นตื่นเต็มตา ลมหายใจแทบจะสะดุด ก่อนจะพยายามขยับตัวออกอย่างเบาที่สุด

     

    "ตื่นแล้วหรอ" คนที่คิดว่าหลับอยู่ๆ ก็ลืมตาขึ้นมามอง ไม่มีอาการเหมือนคนพึ่งตื่นนอนเลยด้วยซ้ำ

     

    "ค ครับ พี่เกิงตื่นนานแล้วหรอ..." ฮีชอลพูดจาติดขัดทันที ร่างที่กำลังขยับถอยก็หยุดเช่นกัน

     

    "อื้อ ก็สักพักแล้วล่ะ นอนหนุนตุ๊กตาไม่ถนัดหรอ" หานเกิงถามก่อนจะยกมือขึ้นลูบผมที่ยุ่งนิดๆ ของฮีชอลให้

     

    ทำไมกันนะ... ทำไมชอบทำให้หัวใจของฮีชอลเต้นแรงด้วย... "ครับ ขอโทษนะครับที่มา เอ่อ.. นอนเบียดพี่เกิง ผมไม่รู้ตัวจริงๆ"

     

    "ไม่เป็นไรหรอก ไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวมีไปถ่ายแบบด้วยกันเดี๋ยวจะสายเอานะ"

     

    เมื่อได้ยินเช่นนั้นคนที่รอจังหวะอยู่แล้วก็รีบลุกเดินเข้าห้องน้ำทันที ส่วนคนที่ตื่นนานแล้วแต่ไม่ยอมขยับไปไหนก็นอนยิ้มกริ่มมองตามแผ่นหลังนั้นไป






    หานเกิงและฮีชอลเดินเข้าไปในสตูดิโอถ่ายภาพพร้อมกับทีมงานอีกหลายคนรวมไปถึงฮีจินด้วย วันนี้ทั้งสองคนมีงานถ่ายแบบคู่รักวันคริสต์มาสของกงยูตามที่ช่างภาพหนุ่มเคยบอกไว้ว่าอยากจะถ่ายภาพของพวกเขาทั้งสองคน ซึ่งจะเป็นสมุดภาพเล่มพิเศษที่จะออกวางจำหน่ายในวันคริสต์มาสและผลิตจำนวนจำกัด หมดแล้วหมดเลยไม่มีพิมพ์ซ้ำ ซึ่งพอแฟนคลับของทั่งสองคนรู้ต่างก็ตื่นเต้นกันเสียยกใหญ่และรอวันที่สมุดภาพเล่มนี้จะวางจำหน่าย

     

    "สวัสดีครับคุณกงยู" ทั้งสองคนทักทายช่างภาพที่รู้จักและสนิทสนมกันดีที่กำลังยืนเช็คกล้องอยู่

     

    "สวัสดีครับคุณหานเกิง คุณฮีชอล มาตรงเวลาเลยนะครับ" กงยูหันมาทักทายทั้งสองคนอย่างเป็นกันเอง ก่อนที่จะเล่าคอนเซ็ปในการถ่ายภาพวันนี้ให้ทั้งสองคนฟัง แล้วทั้งสองคนจึงเดินไปเปลี่ยนชุด แต่งหน้าทำผมเพื่อถ่ายแบบ

     

    บอสหนุ่มเดินออกจากห้องแต่งตัวมาก่อนในชุดเสื้อคอเต่าสีขาว สวมทับด้วยเสื้อแขนยาวสีดำเล่นลายสีขาวทั้งตัวและกางเกงขายาวสีดำ ผมสั้นถูกเซ็ตทรงอย่างดี ขายาวก้าวมายืนรออีกคนที่กำลังเปลี่ยนชุดอยู่ ไม่นานฮีชอลก็เดินตามออกมา คนสวยอยู่ในชุดเสื้อคอกลมสีขาว กางเกงขายาวสีแดงและเสื้อโค้ทตัวยาวสีแดงเช่นเดียวกัน ผมที่ยาวระบ่าถูกดัดให้ปลายเป็นลอนนิดๆ ฮีชอลเดินไปยืนข้างหานเกิงที่ยืนรออยู่ข้างต้นคริสต์มาสต้นใหญ่ ข้างๆ มีโต๊ะตั้งเอาไว้มีของสำหรับตกแต่งต้นคริสต์มาสเอาไว้มากมาย

     

    คอนเซ็ปคู่รักในวันคริสต์มาสนี้ ในชุดแรกนั้นทั้งสองคนจะต้องช่วยกันแต่งต้นคริสต์มาสสำหรับงานเลี้ยงฉลอง ซึ่งทั้งสองคนก็ช่วยกันเอาของประดับมาตกแต่งโดยที่กงยูคอยเก็บภาพและคอยบอกท่าทางในบางครั้ง บันไดอลูมิเนียมไม่สูงมากนักถูกยกมากางวางไว้ตรงหน้าต้นคริสต์มาสก่อนที่ช่างภาพฝีมือดีแต่ยังหนุ่มจะบอกให้ฮีชอลปีนขึ้นไปนั่งบนบันได ส่วนหานเกิงยืนจับบันไดอยู่

     

    "คุณหานเกิงยื่นของแต่งต้นคริสต์มาสให้คุณฮีชอลหน่อยครับ คุณฮีชอลก้มมานิดนึงครับ ค้างไว้นะครับ ดีครับ"

     

    ในระหว่างที่กำลังถ่ายอยู่นั้นผมของฮีชอลก็ตกลงมาบัง หานเกิงจึงใช้มืออีกข้างยกขึ้นจับผมไปทัดหูให้ และนั่นคงจะเป็นหนึ่งในภาพที่กงยูจะเลือกไปลงในสมุดภาพแน่นอน บอสหนุ่มยกมือขึ้นจับผมไปทัดหูให้คนรักพร้อมรอยยิ้มอบอุ่นตามแบบฉบับของเจ้าตัว

     

    "คุณหานเกิงอุ้มคุณฮีชอลไว้บนแขนไหวไหมครับ ผมอยากได้ภาพเหมือนคุณกำลังอุ้มคนรักลงมาน่ะครับ" กงยูผละจากกล้องมาถาม

     

    "ก็น่าจะได้นะครับ ลองดูก็ได้ครับ"

     

    "แต่พี่เกิง... ผมตัวหนักนะครับ พี่เกิงอุ้มผมไม่ไหวหรอก" ฮีชอลรีบค้านทันที

     

    "ลองดูครับไม่ต้องอุ้มค้างนานก็ได้ เดี๋ยวผมจะรีบกดถ่ายรัวเลย ลองดูก่อนนะครับ" กงยูพูดก่อนจะเตรียมตัวถ่ายต่อ

     

    นางพญาแห่งวงการบันเทิงก้มมองคนที่จะต้องอุ้มตนอย่างไม่แน่ใจแต่เมื่ออีกฝ่ายยิ้มแล้วก็พยักหน้าให้จึงยอมตกลง แขนทั้งสองข้างของฮีชอลยึดอยู่ที่ไหล่กว้างของหานเกิง แขนข้างหนึ่งของท่านประธานจับที่เอวคอดบางเอาไว้ อีกข้างก็จัดรองรับบั้นท้ายของฮีชอลแล้วจัดการออกแรงยกร่างนั้นขึ้นจนตัวลอย จนเหมือนกับว่าตอนนี้ฮีชอลกำลังนั่งอยู่บนท่อนแขนของหานเกิง คนโดนอุ้มตาโตด้วยความตกใจและไม่อยากจะเชื่อว่าหานเกิงจะอุ้มตนในท่านี้ได้ ก่อนจะส่งยิ้มหวานให้กำลังใจคนอุ้ม

     

    หานเกิงอุ้มฮีชอลค้างอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะวางร่างนั้นให้ยืนกับพื้น ฮีชอลรีบจัดการจับแขนแข็งแรงมานวดให้ทันที "หนักมากไหมครับพี่เกิง"

     

    "ฮีชอลไม่ได้หนักอะไรขนาดนั้นหรอกน่า พี่ไม่เป็นอะไรหรอก" หานเกิงยิ้มให้ก่อนจะหันไปหาช่างภาพ "เป็นยังไงบ้างครับ ได้ไหม ถึงฮีชอลจะไม่หนักมาก แต่ถ้าอุ้มหลายรอบผมก็คงจะแย่นะครับ" พูดแล้วก็หัวเราะเบาๆ เป็นเชิงหยอกล้อ สุดท้ายก็เลยโดนคนสวยค้อนให้ เลยต้องรีบง้อทันทีเป็นจังหวะให้กงยูถ่ายรูปที่หานเกิงกำลังบีบแก้มของฮีชอลเบาๆ ด้วยความเอ็นดูมาอีกรูป

     

    "เรียบร้อยครับ โอเคเลยล่ะ เดี๋ยวทั้งสองคนไปเปลี่ยนชุดเลยนะ เดี๋ยวจะถ่ายเซ็ตต่อไปเลยครับ"

     

    เซ็ตต่อไปเป็นช่วงต่อจากการตกแต่งต้นคริสต์มาสก็คือช่วงทำอาหารสำหรับงานเลี้ยง ชุดที่ทั้งสองคนใส่จึงเป็นชุดที่ดูสบายๆ กว่าชุดแรก หานเกิงใส่เสื้อยืดคอกลมแขนยาวสีน้ำเงิน กางเกงขาสั้นสีขาว ส่วนฮีชอลก็แต่งตัวคล้ายๆ กันเพียงแต่เป็นเสื้อสีขาวกับกางเกงสีแดงเลือดนก ทั้งสองคนรวมไปถึงทีมงานเดินไปที่ฉากอีกด้านหนึ่งของสตูดิโอที่มีการจัดเอาไว้เป็นห้องครัว ซึ่งมีอุปกรณ์รวมไปถึงอาหารจำลองวางไว้มากมาย

     

    ทั้งสองคนเดินเข้าไปบริเวณด้านหลังของเคาน์เตอร์ครัวก่อนจะโพสท่าตามที่กงยูบอก ก่อนที่หานเกิงจะเริ่มแกล้งอีกคนด้วยการเอาแป้งที่ทางทีมงานเตรียมไว้ไปป้ายที่หน้าของฮีชอลเหมือนคราวที่พวกเขาทำอาหารกันครั้งก่อนที่ฮีชอลเป็นฝ่ายแกล้งหานเกิง คนสวยหัวเราะออกมาทันทีที่โดนแกล้งก่อนจะเอาบรรดาผลไม้ปลอมที่วางอยู่ในตะกร้าปาใส่อีกคนอย่างไม่แรงนัก สุดท้ายเลยเกิดจลาจลย่อมๆ ระหว่างทั้งคู่ ซึ่งกงยูเองก็ไม่ได้ห้ามอะไรแต่รีบกดชัตเตอร์เพื่อถ่ายภาพเก็บเอาไว้ทันที

     

    "คุณหานเกิงอุ้มคุณฮีชอลขึ้นนั่งบนเคาน์เตอร์หน่อยครับ แล้วทำท่าเช็ดแป้งบนหน้านะครับ" กงยูที่ย้ายตำแหน่งในการหามุมถ่ายเรียบร้อยพูดขึ้น

     

    "ครับผม" ทั้งสองคนรับคำก่อนที่หานเกิงจะใช้มือทั้งสองข้างจับเอวของฮีชอลแล้วยกตัวร่างบางขึ้นนั่งบนเคาน์เตอร์ โดยที่มือของฮีชอลก็คล้องอยู่ที่ลำคอของอีกคน ร่างสูงยืนอยู่ระหว่างขาของคนที่นั่งอยู่ มือยังคงโอบอยู่ที่เอวบาง ก่อนจะใช้มือข้างหนึ่งขึ้นเช็ดคราบแป้งบนใบหน้าของฮีชอลอย่างแผ่วเบา

     

    "เอาหน้าผากชนกันหน่อยครับ แล้วมองหน้ากันนะ ครับแบบนั้นแหละ"

     

    หน้าผากของทั้งสองคนชนกันเบาๆ หานเกิงมองสบตากับฮีชอล ตำแหน่งมือของทั้งคู่ยังคงอยู่ที่เดิมคือรอบคอหานเกิงและเอวบางของฮีชอล สายตาของคนที่ยืนอยู่นั้นทำเอาหัวใจของฮีชอลเต้นแรงจนไม่อาจจะมองหน้าอีกฝ่ายได้อีก สุดท้ายจึงเลือกที่จะหลับตาลงเพื่อหนีจากสายตาที่แสนจะมีเสน่ห์คู่นั้น

     

    ทีมงานสาวๆ ต่างส่งเสียงกันเบาๆ เมื่อเห็นภาพนั้น ใบหน้าของพวกเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความเขินอายทันที แม้กระทั่งฮีจินเองยังยกมือขึ้นปิดปาก ก่อนจะรีบเอาโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมากดถ่ายแล้วส่งรูปไปให้พ่อกับแม่ดูทันที

     

    "นี่ถ้าไม่รู้มาก่อนว่ามาถ่ายคู่รักวันคริสต์มาสคงนึกว่ามาถ่ายภาพพรีเวดดิ้งนะเนี่ย" เสียงพูดของฮีจินทำให้กงยูที่เงยหน้าจากกล้องยิ้มขำแล้วหันมายกนิ้วโป้งให้เป็นเชิงเห็นด้วย

     

    "เอาไว้ตอนพรีเวดดิ้งให้จูบกันเลยดีไหมครับ"

     

    "ต้องรอถึงพรีเวดดิ้งเลยหรอคะ เสียดายจัง" ฮีจินพูดก่อนที่ทั้งสองคนจะหัวเราะออกมาพร้อมกัน ก่อนที่กงยูจะให้ทั้งสองคนไปเปลี่ยนชุดอีกรอบ ซึ่งจะถ่ายเป็นเซ็ตสุดท้าย เป็นภาพคู่รักที่กำลังดินเนอร์กันในวันคริสต์มาส

     

    "ภาพเมื่อกี้ทำเอาสาวๆ ทุกคนหน้าแดงกันหมดเลยนะ" ฮีจีนพูดในระหว่างที่เดินตามฮีชอลเข้ามาในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าพร้อมกับยื่นรูปที่ถ่ายไว้ให้ดู

     

    "บ บ้า ก็แค่ถ่ายภาพเอง" ถึงจะพูดปฏิเสธแต่แก้มขาวๆ นั้นก็แดงระเรื่ออย่างห้ามไม่อยู่

     

    "แค่ถ่ายภาพแล้วจะหน้าแดงทำไมยะ ไปเปลี่ยนชุดไป ฉันไปรอข้างนอกดีกว่าเบื่อคุยกับคนชอบโกหกตัวเอง!"

     

    ในเซ็ตสุดท้ายนี้หานเกิงอยู่ในชุดเสื้อคอจีนสีน้ำเงินสวมทับด้วยเสื้อคอกลมแขนยาวสีเขียวอมเหลืองลายดอกไม้เกือบทั้งตัว กางเกงสีน้ำเงินสีเดียวกับเสื้อตัวใน ฮีชอลอยู่ในเสื้อคอกลมสีขาวทับด้วยเสื้อสูทลำลองสีเข้มลายดอกไม้ที่บริเวณอกและชายเสื้อ กางเกงลายตารางสีขาวดำ ทั้งคู่นั่งบนเก้าอี้ของโต๊ะกาแฟเหล็กดัดสีขาวที่วางอยู่ข้างต้นคริสต์มาส บนโต๊ะมีแก้วไวน์แดงวางอยู่สองใบ และสปาเก็ตตี้สองจาน

     

    แก้วไวน์แดงทั้งสองใบชนกันเบาๆ ก่อนที่จะยกขึ้นจิบ หานเกิงและฮีชอลสลับกันป้อนสปาเก็ตตี้ในจาน ร่างของนางพญาแห่งวงการบันเทิงลุกแล้วอ้อมมาอีกฝั่ง นั่งลงบนที่เท้าแขนของเก้าอี้ที่หานเกิงนั่ง มือข้างหนึ่งวางพาดอยู่บนไหล่ อีกข้างถือแก้วไวน์ตามที่กงยูบอก

     

    ไม่นานการถ่ายภาพคู่รักวันคริสต์มาสก็เสร็จเรียบร้อย กงยูพอใจกับภาพที่ถ่ายออกมามากจนถึงกับเอ่ยปากว่าเลือกไม่ถูกเลยว่าจะเอารูปไหนใส่ลงในสมุดภาพบ้าง

     

    "เรียบร้อยดีใช่ไหมครับ" หานเกิงถามพร้อมกับเดินไปดูรูปบนจอโน้ตบุ๊ก

     

    "เรียบร้อยดีมากเลยครับ ขอบคุณมากนะครับที่มาถ่ายในวันนี้" กงยูพูด

     

    "พวกเรายินดีครับ ถ้างานออกมาดีก็ดีแล้วละครับ" ฮีชอลพูด "หวังว่าเราจะได้ร่วมงานกันอีกนะครับคุณกงยู"

     

    "ผมตั้งหากละครับที่ต้องพูดแบบนั้น ยังไงก็ขอบคุณมากนะครับสำหรับวันนี้ สมุดภาพเล่มนี้จะต้องขายดีมากแน่ๆ เลยครับ"

     

    หานเกิงหัวเราะ "ถ้าแบบนั้นก็ดีสิครับ แฟนคลับของฮีชอลคงแย่งกันซื้อน่าดูเลย"

     

    "พี่เกิงก็พูดเกินไป พูดเหมือนพี่เกิงไม่มีแฟนคลับอย่างนั้นแหละ แฟนคลับพี่อย่ามาแย่งแฟนคลับผมซื้อแล้วกัน" ฮีชอลแอบย่นจมูกใส่คนตัวสูง

     

    "ฮ่ะๆๆ แต่แฟนคลับคู่พวกคุณก็ไม่น้อยนะครับ" กงยูพูด "ผมเห็นในเน็ต เห็นพูดถึงคู่คุณกันเยอะเลย ฉายาที่แฟนคลับตั้งให้อะไรนะครับ อือ... บอสเกิงมาดามฮี คอนเซ็ปหลักคู่คุณเลยนะ"

     

    "อย่างนั้นหรอครับ" ทั้งสองคนหัวเราะออกมา หลังจากที่ตรวจเช็คเรียบร้อยว่าภาพที่ถ่ายออกมาไม่มีปัญหาอะไรจึงได้เอ่ยขอตัวกลับซึ่งหลังจากวันที่ทั้งสองคนมาถ่ายภาพคู่รักวันคริสต์มาสออกอากาศได้ไม่นาน แฟนคลับของทั้งคู่ก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นแต่ต่างก็รอวันที่สมุดภาพของทั้งคู่จะวางจำหน่าย ในโลกของโซเชียลต่างก็แชร์รูปที่แคปมาจากรายการกันยกใหญ่ บอสเกิงมาดามฮี ก็ถูกเสิร์ชหามากเป็นอันดับหนึ่งเช่นกัน หลังจากที่สมุดภาพของทั้งคู่วางจำหน่ายในช่วงก่อนวันคริสต์มาสได้ไม่นานก็หมดลงในเวลารวดเร็ว

     

    ทีมงานส่งซองกระดาษให้กับทั้งสองคนที่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นที่บ้าน ฮีชอลรับซองนั้นมาจากทีมงานก่อนจะเปิดออกดู มันคือสมุดภาพของทั้งคู่ บนหน้าปกเป็นภาพที่หานเกิงกำลังอุ้มฮีชอลลงจากบันไดที่วางอยู่ข้างต้นคริสต์มาส มีตัวหนังสือพิมพ์เอาไว้ด้วยตัวอักษรสีชมพูว่า บอสเกิง มาดามฮี

     

    … TBC …

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×