คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : WGM... 12 ...
F.GC
สวัสดีปีใหม่นะคะทุกคนนนน มาเร็วกว่าที่บอกไว้วันนึง คงไม่ว่ากันเน๊อะ อิอิ
ตอนนี้ก่อนจะเริ่มไปอ่านกันมีคำเตือนมาบอกค่ะ... เตรียมหมอน ผ้า หรืออะไรก็ได้ไว้เลยนะ
เพราะถ้าไม่เตรียมแล้วละก็... รีดเดอร์อาจจะเจ็บตัวได้นะคะ เพราะตอนนี้ฟินมากกกกกกก
อ่านแล้วคงจะทั้งอิจฉา ทั้งฟิน หลากหลายอารมณ์แน่นอน บอสบุญทุ่มจัดให้ชุดใหญ่อีกแล้วค่ะ
ขอให้สนุกกับฟิคเรื่องนี้นะคะทุกคน ^^
> #บอสเกิงมาดามฮี <
… 12 …
หานเกิงที่อยู่ในชุดสบายๆ กับเสื้อยืดแขนสั้นและกางเกงขาสั้นกำลังยืนส่งฮีชอลอยู่ที่หน้าบ้าน ตอนนี้ยังเป็นเวลาเช้าอยู่มากนักแต่เพราะว่าฮีชอลมีงานที่ต่างจังหวัดจึงต้องรีบไปแต่เช้า ชายหนุ่มยื่นกระเป๋าเดินทางใบเล็กให้กับฮีชอล
"เดินทางปลอดภัยนะ แล้วก็ดูแลตัวเองดีๆ ด้วยล่ะ" หานเกิงยิ้ม ยกมือขึ้นขยี้ผมนุ่มนั้นเบาๆ
"ครับ พี่เกิงก็ดูแลตัวเองด้วย แล้วพรุ่งนี้เจอกันนะครับ" อีกคนส่งยิ้มน่ารักมาให้พร้อมกับโบกมือก่อนจะเดินไปขึ้นรถตู้ที่ทีมงานของกองถ่ายละครส่งมารับ ซึ่งฮีจินก็ยืนรออยู่แล้ว
"ฝากดูแลด้วยนะครับพี่ฮีจิน" หานเกิงหันไปพูดกับฮีจินซึ่งอีกฝ่ายก็ยักคิ้วแล้วยิ้มมาให้
ฮีชอลต้องไปถ่ายละครที่ปูซานจึงต้องไปค้างคืนที่นั่นหนึ่งคืนก่อนจะนั่งเครื่องบินกลับในวันรุ่งขึ้น ดาราดังแห่งวงการบันเทิงขึ้นรถตู้ออกไปแล้ว หานเกิงจึงได้เดินกลับเข้าไปในบ้านพร้อมกับทีมงานที่เดินตามถ่าย ชายหนุ่มหยิบกระดาษที่ถ่ายสำเนามาจากสมุดจดตารางงานของฮีชอล ตารางงานของวันนี้และวันพรุ่งนี้มีปากกาสีน้ำเงินขีดฆ่าตัวอักษรที่เขียนสถานที่ถ่ายทำที่โซล และที่ข้างๆ นั้นมีตัวหนังสือเขียนไว้ว่าปูซานแทน
หานเกิงยิ้มอย่างพึงพอใจกับสิ่งที่เขียนอยู่บนกระดาษใบนั้นก่อนที่เจ้าตัวจะเก็บกระดาษลงกระเป๋ากางเกงเหมือนเดิม
"วันนี้มีงานใหญ่ต้องทำกันครับ เป็นงานสำคัญมากๆ เลย ผมว่าเรามาเริ่มงานกันเลยดีกว่าครับ" ร่างสูงเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานก่อนจะจัดการเปิดโน้ตบุ๊กเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตและเสิร์จหารูปที่ต้องการทันที "พรุ่งนี้จะเป็นวันครบรอบ 100 วันของผมกับฮีชอล ผมเลยจะเตรียมอีเว้นท์ให้เขาครับ"
ใช่... เพราะวันพรุ่งนี้จะเป็นวันครบรอบ 100 วันระหว่างบอสเกิงและมาดามฮี ซึ่งหานเกิงก็ได้คิดที่จะจัดเซอร์ไพรส์ไว้แล้ว แต่เพราะว่าเขาต้องการเวลาในการจัดเซอร์ไพรส์จึงไม่สะดวกถ้าหากฮีชอลอยู่ที่บ้าน หานเกิงก็แค่โทรไปบริษัทที่ฮีชอลเล่นละครอยู่และคุยกับประธานกรรมการของบริษัท ผู้กำกับเรื่องที่อยากจะขอให้ปรับเปลี่ยนตารางงานของฮีชอลให้ไปถ่ายทำที่ต่างจังหวะและต้องค้างคืน ซึ่งทางบริษัทก็ยอมตกลงโดยสลับวันที่จะต้องเดินทางไปถ่ายทำที่ปูซานมาเป็นวันนี้แทน และเอาฉากที่จะต้องถ่ายในวันนี้สลับไปแทนที่ ซึ่งท่านประธานหนุ่มก็ตอบแทนด้วยค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนงานกะทันหันและค่าเดินทางเล็กๆ น้อยๆ และคนที่รู้เรื่องนี้นอกจากประธานบริษัท ผู้กำกับและทีมงานบางคนแล้วก็มีคังอินที่เป็นโปรดิวเซอร์ และทีมงานบางคนของรายการ WGM เท่านั้น
"คุณหานเกิงจะทำอะไรไว้เซอร์ไพรส์หรอครับ"
"ถ้าผมบอกก็ไม่เซอร์ไพรส์สิครับ รอดูกันต่อไปนะ" หานเกิงยิ้มก่อนจะหันไปจดจ่อกับการแต่งรูปในโปรแกรมคอมพิวเตอร์แทน
ท่านประธานใช้เวลากว่าครึ่งวันในการเลือกรูป ตกแต่งและลำดับเรื่องราว รวมทั้งออกแบบการจัดงานด้วย ซึ่งในระหว่างที่ทำนั้นทีมงานก็ตามถ่ายไว้ด้วยความสนใจ กระดาษร่างที่วางเรียงบนโต๊ะนั้นถูกวาดด้วยฝีมือของท่านประธาน เป็นการร่างแบบว่าจะจัดแบบไหน
"คุณหานเกิงนี่ความสามารถหลายอย่างเลยนะครับ ทั้งออกแบบ วาดภาพ แถมยังแต่งรูปในโปรแกรมคอมได้อีก" ทีมงานเอ่ยชมด้วยความจริงใจ หานเกิงทุ่มเทและทำทุกอย่างด้วยตัวเองจริงๆ แม้คู่อื่นจะมีการจัดเซอร์ไพรส์ให้กันแต่ส่วนใหญ่ก็จะจ้างคนช่วย ช่วยแต่งรูปให้บ้าง หรือจ้างออกแบบงานให้บ้าง แต่หานเกิงทำเองทุกอย่าง
"ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ ผมเป็นคนสนใจหลายๆ อย่างเลยได้ลองเรียนลองทำบ้างเลยพอทำได้น่ะครับ" ชายหนุ่มตอบ ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ละสายตาไปจากจอคอมพิวเตอร์เลย "อย่างวาดรูปหรือใช้โปรแกรมคอมเนี่ย ผมสนใจตอนสมัยเรียนก็เลยลงเป็นคอร์สเรียนบ้างน่ะครับ"
"ทำไมคุณเกิงไม่จ้างหล่ะครับ" ทีมงานถามต่อทันที
"อือ..." ชายหนุ่มส่งเสียงในลำคอเบาๆ อย่างใช้ความคิดก่อนจะตอบ "เพราะว่ามันเป็นเรื่องราวระหว่างผมกับฮีชอลละมั้งครับ ผมก็เลยอยากทำให้เขาด้วยตัวเอง อีกอย่างก็ไม่ใช่งานใหญ่ที่ผมจะทำคนเดียวไม่ไหวนิครับ ถ้าอะไรที่สามารถทำเองได้ ผมก็อยากจะทำเอง มันก็แสดงถึงความเอาใจใส่อย่างหนึ่งเหมือนกันนะครับ"
อีกเกือบครึ่งชั่วโมงหานเกิงก็ทำรูปที่ต้องการทั้งหมดเสร็จ ชายหนุ่มจัดการเซฟรูปทั้งหมดลงในแฟลชไดรฟ์ "เดี๋ยวเราจะไปร้านอัดรูปกันครับ แล้วก็ไปห้างกันต่อนะครับ" หานเกิงเดินขึ้นไปบนชั้นลอยเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เป็นชุดที่ดูสุภาพกว่านี้
รถแลนด์โรเวอร์สีขาวของหานเกิงขับออกจากบ้านโดยมีทีมงานถือกล้องถ่ายสองคนนั่งไปด้วยกัน ร่างสูงขับรถไปที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำก่อนจะเดินหาร้านสำหรับอัดรูป
"เอาขนาด 4x6 ครับ ทั้งหมดในไฟล์นี้เลย" หานเกิงส่งแฟลชไดรฟ์ให้กับพนักงานไปเปิดดูรูป "นานไหมครับกว่าจะได้"
"ไม่นานค่ะ ยังไงเดินเล่นรอก่อนได้เลยนะคะ แล้วค่อยกลับมารับก็ได้ค่ะ" พนักงานหญิงที่อยู่หน้าเคาท์เตอร์พูด
"ขอบคุณครับ แล้วผมจะกลับมาเอาครับ" มือหนายื่นเงินมัดจำให้กับพนักงานพร้อมกับรับบัตรสำหรับเวลามาเอารูป
"ต่อไปผมจะไปดูของที่จะใช้แต่งครับ เราไปกันเลยดีกว่า" หันกลับมาพูดกับกล้องแล้วจะเดินไปขึ้นบันไดเลื่อนเพื่อไปยังชั้นบน
"จะซื้ออะไรหรอครับ" ทีมงานถาม
"ผมอยากจะซื้อเชือกเกลียวครับ แล้วก็... ไม้หนีบไม้อันเล็กๆ" หานเกิงตอบ
"จะเอาไปหนีบรูปที่ไปอัดมาหรอครับ"
ชายหนุ่มพยักหน้า "ครับ เพราะในบ้านเป็นโทนไม้ ผมเลยจะแต่งออกมาให้ดูน่ารักๆ แล้วก็อบอุ่นครับ"
ท่านประธานหนุ่มเดินเลือกซื้อของอย่างละเอียดและใจเย็น ไม่ว่าจะเป็นเชือก ไม้หนีบไม้ รวมไปถึงของตกแต่งน่ารักๆ ที่จะนำมาแขวนเอาไว้ด้วยกัน ในระหว่างที่เดินเลือกของก็มักจะมีบรรดาสาวๆ หันมามองอยู่ตลอด รวมไปถึงบรรดาแฟนคลับของหานเกิงเข้ามาทักทาย ซึ่งชายหนุ่มก็มักจะทักทายกลับอย่างเป็นมิตรเช่นกัน ทีมงานยิ้มรับเชิงเห็นด้วยเมื่อได้ยินสาวๆ พูดถึงหานเกิงว่าดูเป็นคนน่ารักและอบอุ่นมากที่มานั่งเลือกซื้อของแบบนี้ ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นคงไม่ใส่ใจมากขนาดนี้
หลังจากที่ซื้อของสำหรับตกแต่งเรียบร้อย ท่านประธานหนุ่มก็เดินไปโซนตุ๊กตาต่อทันที
"สนใจสอบถามได้นะคะ" เสียงของพนักงานที่เดินเข้ามาเอ่ยทันที
"ตุ๊กตาหมีไซต์ใหญ่สุดขนาดไหนหรอครับ" หานเกิงหันกลับไปถาม
"สูงประมาณ 160 เซนติเมตรค่ะ คุณลูกค้าจะดูไหมคะ"
"ครับ ขอดูหน่อย เอาสีน้ำตาลนะครับ" หลังจากที่พนักเดินออกไปเพื่อหยิบตุ๊กตาให้หานเกิงก็หันกลับมาพูดกับทีมงานและกล้องต่อ "เมื่อวันก่อนฮีชอลบ่นถึงตุ๊กตาหมีที่ไม่ได้เอามาด้วย ผมเลยจะซื้อให้เขาครับ หวังว่าเขาจะถูกใจมันนะ"
กว่าจะซื้อของเสร็จเรียบร้อย ไปเอารูปที่อัดไว้อีกเวลาก็ล่วงเลยมาเย็นมากแล้วหานเกิงจึงตัดสินใจที่จะเริ่มตกแต่งบ้านให้เป็นสถานที่จัดอีเว้นท์ในวันพรุ่งนี้แทนและให้ทีมงานกลับไปได้เลยเพราะวันนี้คอยตามถ่ายเขามาทั้งวัน แม้ทางทีมงานจะยืนยันว่าไม่เป็นอะไรถ้าหากเขาต้องการที่จะจัดสถานที่คืนนี้เลย แต่หานเกิงก็ปฏิเสธและให้ทีมงานกลับไปพักผ่อน เมื่อเห็นท่านประธานหนุ่มยืนกรานหนักแน่นทีมงานทั้งหมดจึงยอมกลับ เหลือเพียงชายหนุ่มที่เดินหอบตุ๊กตาหมีตัวโตและข้าวของในมือไปขึ้นรถ ก่อนจะแวะหาอะไรทานง่ายๆ ที่ร้านข้างทางแล้วจึงขับรถกลับบ้าน
เป็นวันที่สองแล้วที่ฮีชอลเดินทางมาถ่ายละครที่ปูซาน และวันนี้ก็เป็นวันเดินทางกลับหลังจากที่ถ่ายทำเสร็จในช่วงเช้า กว่าจะกลับไปถึงบ้านก็คงจะเกือบเย็น ร่างเพรียวของนางพญาแห่งวงการบันเทิงนั่งทวนบทอีกรอบในระหว่างที่นักแสดงคนอื่นๆ กำลังถ่ายทำกันอยู่ โดยมีฮีจินคอยหยิบขนมนมเนยส่งให้เรื่อยๆ อยู่ข้างๆ กันนั้น เสียงโทรศัพท์ของฮีจินดังขึ้นเรียกสายตาของฮีชอลให้เงยหน้าขึ้นมอง
"ใครหรอ" คนเป็นน้องเอ่ยถาม
"เพื่อนน่ะ เดี๋ยงฉันไปคุยโทรศัพท์แปบนึง" ตอบคำถามน้องชายของตนเสร็จก็รีบลุกจากเก้าอี้สนามแล้วเดินเลี่งออกไปทันที ก่อนจะกดรับโทรศัพท์ที่ยังคงส่งเสียงร้องอยู่ "สวัสดีค่ะคุณหานเกิง"
[สวัสดีครับพี่ฮีจิน วันนี้พี่กับฮีชอลจะกลับถึงโซลกี่โมงหรอครับ] ปลายสายถาม
"ก็คงจะบ่ายๆ น่ะค่ะ สักสามสี่โมง ทันไหมคะ?"
[พี่ช่วยพาฮีชอลกลับมาบ้านสักตอนค่ำๆ ได้ไหมครับ ผมตั้งใจจะเตรียมมื้อค่ำด้วย]
"อ๋อ... ได้ค่ะ เดี๋ยวพี่จัดการให้เอง คุณหานเกิงไม่ต้องกังวลเลยค่ะ"
[ขอบคุณมากนะครับพี่ฮีจิน]
ฮีจินมองโทรศัพท์มือถือในมือก่อนจะยิ้มอย่างพอใจแล้วนึกไปถึงเมื่อสองวันก่อนที่หานเกิงโทรหาตนเองพร้อมกับบอกเรื่องที่จะจัดเซอร์ไพรส์ครบรอบ 100 วันให้ฮีชอล และได้โทรไปคุยกับทางประธานบริษัท และผู้กำกับที่ทำละครเรื่องนี้เรื่องเปลี่ยนแปลงตารางงานแล้วก็ถึงกับอึ้ง เพราะไม่คิดว่าน้องเขยในนามคนนี้จะทุ่มทุนขนาดนี้ ถ้าหากได้น้องเขยในนามคนนี้มาเป็นน้องเขยจริง ฮีจินคงจะปลื้มมากมาย
หญิงสาวเก็บโทรศัพท์มือถือก่อนจะเดินกลับไปหาน้องชายของตนที่กำลังนั่งท่องบทอยู่ "เดี๋ยวพอกลับไปถึงโซลแล้วไปซื้อของกันไหม"
ฮีชอลเงยหน้าขึ้นจากบทละครในมือ "ซื้อของอะไร"
"ก็... พวกครีมบำรุงไง นายบอกว่าจะหมดแล้วไม่ใช่หรอ" ฮีจินยิ้ม
"วันหลังไม่ได้หรอ กว่าจะกลับถึงโซลอีก ฉันอยากนอนนะ" คนเป็นน้องเริ่มออกอาการงอแงและเอาแต่ใจทันที
"แปบเดียวน่า ไปๆ ผู้กำกับเรียกเข้าไปถ่ายแล้ว รีบๆ ไปถ่าย เดี๋ยวจะได้กลับไปหาสามีที่บ้าน"
"ฮีจิน! บ้า!" ส่งค้อนวงใหญ่ให้พี่สาวแล้วเดินสะบัดหน้าไปเข้ากองเพื่อเตรียมถ่ายทันที
กว่าการถ่ายทำจะเสร็จเรียบร้อยก็เป็นเวลาเที่ยงแล้วบรรดาทีมงานและนักแสดงทั้งหมดจึงต้องทานอาหารเที่ยงกันบนรถแทนในระหว่างทางไปสนามบินเพื่อที่จะได้ทันเวลาขึ้นเครื่องในตอนบ่าย เมื่อมาถึงสนามบินก็เป็นเวลาใกล้เครื่องจะขึ้นแล้วฮีจินกับฮีชอลจึงเดินตามทีมงานคนอื่นๆ ไปขึ้นเครื่องบิน
"เอ๊ะ... ตั๋วเครื่องบินล่ะฮีจิน"
"เหมาลำย่ะ เหมาลำ รีบๆ ไปได้แล้ว ที่นั่งของนายน่ะด้านหน้าสุดเฟิร์สคลาส โอเคไหมจ๊ะ" ฮีจินดันหลังน้องชายให้เดินเข้าไปในทางเดินที่เชื่อมไปที่ตัวเครื่องบินที่จอดนิ่งรอเวลาเครื่องขึ้น
"ทำไมเหมาลำเลยล่ะ" คนขี้สงสัยยังคงถามต่อไปเรื่อยๆ
"ก็ตารางงานมันเปลี่ยนกะทันหัน จองตั๋วไม่ทัน ตั๋วไม่พอ เลยเหมา โอเคไหมคะคุณน้อง หายข้องใจยัง"
"ยัง แล้วใคร..."
ยังไม่ทันที่ฮีชอลจะถามเสร็จฮีจินก็พูดแทรกขึ้นก่อน "กลับไปโซลเดี๋ยวก็รู้เอง เอา! นอนซะ เดี๋ยวคืนนี้ยังอีกยาวไกล" พูดจบก็จัดการเอาผ้าผิดตาให้น้องชายทันที แถมด้วยการปิดปากให้ด้วยเพื่อไม่ให้คนขี้สงสัยถามอะไรออกมา เมื่อโดนปิดทางไม่ให้ถามฮีชอลจึงยอมนอนและก็หลับไปก่อนที่เครื่องจะขึ้นเสียอีก
หลังจากที่ออกจากสนามบินแล้วฮีจินก็ให้คนขับรถตู้ขับพาทั้งตัวเองและฮีชอลไปส่งที่ห้างสรรพสินค้าโดยไม่ได้แวะกลับไปที่บ้านก่อน แม้จะโดนคนเป็นน้องบ่นแล้วบ่นอีกว่าอยากกลับบ้านก็ไม่สนใจ
"อยากกลับไปพัก หรืออยากกลับไปหาสามีกันแน่ยะ?" แค่นั้นแหละ ฮีชอลก็เงียบทันทีแล้วดันหลังพี่สาวตนให้เดินนำไปโซนที่จะซื้อของ ทำเอาฮีจินลอบยิ้มอย่างสะใจที่สามารถทำให้น้องชายเงียบได้
คนเป็นพี่ที่พ่วงตำแหน่งผู้จัดการส่วนตัวดูนาฬิกาข้อมือ เมื่อเห็นว่าตอนนี้เป็นเวลาเกือบจะหนึ่งทุ่มแล้วจึงชวนดาราดังแห่งวงการบันเทิงที่อยู่ในการดูแลของตนกลับ
"นี่ จำได้ปะวันนี้วันอะไร" ฮีจินถามน้องชายในระหว่างที่นั่งอยู่บนรถแท็กซี่เพื่อกลับไปบ้าน
"วันอะไร? ก็วันเสาร์ไง บ้าปะเนี่ย"
หญิงสาวมองค้อนตาจิกที่น้องชายบังอาจมาว่าตนแต่ก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มในเวลาต่อมา "จำไม่ได้จริงหรอว่าวันอะไร"
"อะไร?" คนเป็นน้องยังคงทำหน้างง
"ป๊าวว จำไม่ได้ก็ช่างเถอะ อิอิ ถึงบ้านแล้ว ไป ลงไปได้แล้ว" ดันน้องชายให้ลงจากรถทันที
ฮีชอลหันกลับมาหาพี่สาวของตน "ไม่ลงไปด้วยกันหรอ?"
"ไม่ลงย่ะ จะกลับไปนอนแล้ว อีกอย่างหน้าที่คอยถ่วงเวลาของฉันก็หมดแล้วด้วย ที่เหลือเป็นเรื่องของสามีภรรยาเขา" พูดจบก็โบกมือลาน้องชายของตน ปิดประตูรถและบอกให้แท็กซี่ขับออกไปทันที
ฮีชอลส่ายหน้ากับท่าทางของพี่สาวก่อนจะเดินถือกระเป๋าเดินขึ้นบันไดไป คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเมื่อไม่เห็นแสงไฟส่องออกมาจากหน้าต่าง ภายในบ้านนั้นมืดสนิท มีเพียงไฟตรงเหนือประตูหน้าบ้านเท่านั้นที่เปิดอยู่
"พี่เกิงไม่อยู่บ้านรึไงกันนะ หรือว่าจะไปทำงานแล้วยังไม่กลับ" ฮีชอลพูดกับตัวเองก่อนจะไขกุญแจบ้านเข้าไป ภายในนั้นมืดสนิทจริงๆ มือบางไล่ไปตามผนังบ้านก่อนจะกดเปิดไฟ
ดวงตากลมโตเบิกกว้างทันทีที่ไฟติด เชือกเกลียวสีน้ำตาลโยงไปโยงมาทั่วฝั่งห้องนั่งเล่น มีรูปจำนวนมากที่ถูกหนีบติดเอาไว้ด้วยไม้หนีบที่เป็นไม้อันเล็กๆ ทีมงานที่ยืนรออยู่ก่อนแล้วจับภาพทันทีที่ไฟติด คนสวยวางกระเป๋าเดินทางใบเล็กไว้บนพื้นก่อนจะเดินไปดูรูปทีละใบที่ถูกแขวนอยู่ ที่มุมแต่ละมุมของรูปจะมีตัวอักษรเขียนเอาไว้ด้วยปากกาสีดำ
"Day 1" รูปที่อยู่ใกล้ฮีชอลที่สุดเขียนเอาไว้แบบนั้น เป็นภาพที่หานเกิงส่งดอกไม้ให้กับฮีชอลที่ยืนอยู่บนเวที ภาพข้างๆ กันนั้นเป็นภาพตอนที่ทั้งสองคนนั่งทานอาหารด้วยกันบนตึกชงโน และมีอีกหลายภาพที่เป็นภาพในวันแรกที่ฮีชอลและหานเกิงได้เจอกัน
รอยยิ้มหวานปรากฏบนใบหน้าสวยนั้นทันที ก่อนจะเดินดูรูปต่อๆ ไป
"Day 7" ภาพด้านหลังของหานเกิงที่ยืนดูฮีชอลถ่ายละครที่สวนสาธารณะ รูปที่หานเกิงวางเสื้อโค้ทลงบนไหล่ของฮีชอล รูปที่ทั้งสองคนนั่งทานรามยอนใต้ต้นไม้ในสวน และรูปที่หานเกิงกำลังประคองร่างบางไม่ให้ล้ม
ภาพแห่งความทรงจำภาพแล้วภาพเล่า ถ่ายทอดเรื่องราวมากมายของทั้งสองคน ฮีชอลยิ้มกับรูปเหล่านั้นอย่างมีความสุข ฮีชอลกำลังยิ้ม... อย่างที่ไม่เคยยิ้มมาก่อน
"Day 16" ภาพที่ทั้งคู่เดทกันที่มยองดง ภาพที่หานเกิงสวมหมวกให้ ภาพที่ทั้งสองคนเดินจับมือกัน ภาพที่ฮีชอลอยู่ในวงล้อมของแฟนๆ และหานเกิงที่ยื่นมือออกมารอรับ ภาพด้านหลังของทั้งคู่ที่เดินจับมือ ภาพด้านหลังของทั้งคู่ที่นั่งอยู่ในร้านอาหาร
"Day 23" ภาพที่ฮีชอลยืนทำอาหารอยู่ในครัวของคอนโด ภาพที่ฮีชอลไปหาหานเกิงที่บริษัท ภาพที่ทั้งสองคนป้อนอาหารให้กัน ภาพที่ฮีชอลลงจากรถของหานเกิงที่กองถ่ายละคร
"Day 35" ภาพที่หานเกิงยืนรอฮีชอลที่หน้ากองถ่ายละคร ภาพที่หานเกิงยืนส่งฮีชอลเดินไปขึ้นเครื่องบิน ภาพที่ทั้งคู่นอนหลับบนเครื่องบิน และภาพที่ทั้งสองคนเดินจับมือกันท่ามกลางผู้คนมากมายในสนามบินของประเทศจีน
ภาพยังคงเล่าเรื่องราวต่อไปเรื่อยๆ ในทุกๆ วันที่ได้เจอกัน
จนกระทั่ง... "Day 95" ภาพที่ทั้งสองไปถ่ายแบบคอลเลคชั่นฤดูหนาว และ "Day 100" ที่ยังเป็นกระดาษโฟโต้สีขาว
ฮีชอลหันหลังกลับแต่แล้วดวงตาคู่นั้นก็ต้องเบิกกว้างอีกรอบเมื่อหานเกิงเดินเข้ามาใกล้พร้อมกับตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ในอ้อมแขน
"สุขสันต์วันครบรอบ 100 วันของเรานะครับ" เสียงทุ้มที่ฟังนุ่มหูเอ่ยพูดพร้อมกับยื่นตุ๊กตาหมีตัวใหญ่มาให้
"ขอบคุณมากนะครับ" ฮีชอลรับมากอดไว้แน่น ซุกหน้าลงกับหัวของตุ๊กตา ยังไม่อยากให้เห็นว่าหน้าของฮีชอลแดงขนาดไหน ยังไม่อยากให้เห็นว่าฮีชอลมีความสุขและตันใจขนาดไหนกับสิ่งที่หานเกิงทำให้ "ขอบคุณมากจริงๆ นะครับที่ทำทั้งหมดให้ผม"
"ฮีชอลชอบไหม" หานเกิงถาม
"ชอบครับ ชอบมากๆ เลย ขอบคุณจริงๆ นะครับ" ฮีชอลอยากจะร้องไห้ ไม่ใช่เพราะเสียใจ แต่เพราะมันตื้นตันใจที่หานเกิงทำทุกสิ่งทุกอย่างให้ขนาดนี้ มันมีความสุขมากเหลือเกิน เป็นความสุขที่นอกเหนือจากครอบครัวเคยให้แล้ว ก็ยังไม่มีใครทำให้เขามีความสุขมากขนาดนี้อีกแล้ว
หานเกิงพาภรรยาคนสวยไปฝั่งครัว อาหารสไตล์อิตาเลียนหน้าตาน่าทานจัดวางไว้บนโต๊ะอย่างสวยงาม พร้อมกับเทียนหอมที่ถูกจุดแล้ววางไว้บนโต๊ะอาหาร เคาน์เตอร์ครัว และบนตู้ต่างๆ
คนทั้งสองคนภายใต้แสงเทียน... ภาพที่ทั้งสองคนส่งยิ้มให้กันและกันอย่างมีความสุข ภาพแห่งความทรงจำในวันที่ 100...
… TBC …
ความคิดเห็น