ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    WE GOT MARRIED [GENGCHUL]

    ลำดับตอนที่ #1 : WGM... 1 ...

    • อัปเดตล่าสุด 14 ธ.ค. 57


    Radio ? Theme

     

    We got married

    F.GC

    ก่อนเริ่มเรื่อง มาคุยกันนิ๊ดดดนึงนะคะ ^^ สำหรับคนที่ได้เข้าไปอ่าน ห้องน้ำชาเกิงชอล มาแล้ว

    คงจะเห็นว่าฟิคเรื่องนี้ก็เป็นหนึ่งในห้องน้ำชาเกิงชอลเรื่องที่3 ตอนแรกฟางก็ตั้งใจจะแต่งเป็นเรื่องสั้นไม่กี่ตอนจบ

    แต่หลังจากโดนยุไปโดนยุมา + กับความรู้สึกส่วนตัวที่ยังไม่อยากให้ฟิคเรื่องนี้จบง่ายๆ

    ก็เลยเปลี่ยนจากฟิคสั้นมาเป็นฟิคเรื่องยาวค่ะ

    ฟิคเรื่องนี้เป็นอะไรที่เรียกว่า... “หวาน” ทั้งเนื้อเรื่องที่ไม่ได้มีเหตุการณ์อะไรให้สงสัย

    แต่คิดว่าจะเป็นฟิคที่ทำให้ “ฟิน” ได้แน่นอนค่ะ

    ยังไงก็ฝากติดตามฟิคเรื่องนี้ต่อไปเรื่อยๆ จนจบด้วยนะคะ ^^

    ร่วมแสดงความคิดเห็นกันได้นะคะ

    > #ฟิคบอสเกิงมาดามฮี <



     

    ... 1 ...

     

     

    ในปัจจุบันรายการทีวีของประเทศเกาหลีใต้มีรายการอยู่มากมายที่แต่ละช่องทีวีรังสรรค์ออกมาเพื่อคนดู และรายการที่ถือว่าเรียกเรตติ้งให้กับช่อง MBC ได้มากที่สุดรายการหนึ่งก็คือรายการ We Got Married ซึ่งเป็นรายการที่จับคู่ดาราศิลปินในวงการมาใช้ชีวิตเหมือนคู่แต่งงานกัน หลังจากที่ออกอาการไปได้หลายปีหลายซีซั่น กระแสตอบรับที่ดีนั้นทางผู้จัดจึงได้ทำการเลือกคู่จากผลโหวตของรายการ ซึ่งรายชื่อที่ส่งเข้ามานั้นมีทั้งคู่ ชาย-หญิง ชาย-ชาย และ หญิง-หญิง แม้ตอนแรกจะกลัวกระแสต่อต้านหากมีการนำเสนอคู่ชาย-ชาย หญิง-หญิง แต่ผลกลับไม่เป็นเช่นนั้น

     

    เมื่อกระแสตอบรับดีมาก ทางรายการจึงเพิ่มคู่จากชาย-หญิง ให้กลายมีคู่ ชาย-ชาย หญิง-หญิง เพิ่มในรายการอย่างถาวร ซึ่งคู่ประเภทนี้จะแสดงถึงความสนิทสนมของเพื่อนมาก และยิ่งสังคมเปิดกว้างมากขึ้น ก็มักจะมีลุ้นรักนอกจอเรื่อยๆ จนเหมือนว่ารายการ We Got Married กลายเป็นรายการจับคู่อันดับหนึ่งไปซะแล้ว

     

    และตอนนี้ทางรายการกำลังจะเปิดตัวคู่รักคู่ใหม่ของรายการ ซึ่งเป็นที่จับตามมองของทุกคนมากเพราะกระแสข่าวลือหนาหูว่าคู่ในครั้งนี้จะเป็นคู่ที่คาดไม่ถึงเลยทีเดียว

     

    เพราะบุคคลในข่าวลือนั้นคือ คิม ฮีชอล ดาราดังที่มีผลงานมากมายทั้งละครทีวี ภาพยนตร์ โฆษณา มีแฟนคลับติดตามผลงานมากมาย และเพราะภาพลักษณ์ที่ดูนิ่ง เงียบนั้นยิ่งทำให้เจ้าตัวดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น จนได้รับฉายาว่า นางพญาแห่งวงการบันเทิง ไม่มีบทบาทไหนที่คิม ฮีชอลรับเล่นแล้วไม่สามารถเล่นได้

     

    และข่าวลือนั้นกำลังจะได้รับคำยืนยันเมื่อคิม ฮีชอลปรากฏตัวบนพรมแดงที่ปูเป็นทางยาวไปจนถึงทางเข้าโรงภาพยนตร์ ขาเรียวยาวในชุดสูทลายขาวดำทั้งตัวก้าวอย่างมั่นใจไปจนถึงเวทีส่วนสำหรับถ่ายรูป นอกจากฝีมือการแสดงเป็นเลิศแล้ว ความมั่นใจในตัวเองของคิม ฮีชอลก็เป็นเลิศไม่แพ้กัน...

     

    กองทัพนักข่าวต่างกดชัตเตอร์กล้องกันเสียจนกลัวว่าปุ่มกดจะพังไปก่อนหรือไม่ รอยยิ้มบางๆ เพียงมุมปากปรากฏบนใบหน้าที่เรียกว่า...สวย ของคิม ฮีชอล

     

    "ได้ข่าวว่าคุณคิม ฮีชอลจะร่วมเล่นรายการ We Got Married จริงรึเปล่าครับ/คะ?" เสียงของนักข่าวดังออกมาแทบจะเป็นเสียงเดียวกัน

     

    ร่างที่ยืนอยู่อย่างโดดเด่นนั้นพยักหน้ารับน้อยๆ "ครับ เป็นเรื่องจริง"

     

    "แล้วทราบรึยังคะว่าใครจะมาเล่นคู่กับคุณ"

     

    "ยังไม่ทราบครับ ผมเองก็ไม่ได้คุยกับทางผู้จัดโดยตรง ทราบข่าวต่างๆ จากผู้จัดการนะครับ เลยยังไม่รู้รายละเอียดอะไร ถ้าทราบจะบอกนะครับ ขอตัวก่อน" ฮีชอลโค้งนิดๆ ให้ก่อนจะเดินเข้าไปด้านในของโรงภาพยนตร์เพื่อร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องใหม่ที่เขาร่วมแสดงและชมรอบปฐมทัศน์

     

    ประเด็นข่าวที่ "นางพญาแห่งวงการบันเทิง คิม ฮีชอล" รับร่วมรายการ Me Got Married เป็นข่าวดังที่ผู้คนสนใจอยู่หลายวัน ในโลกออนไลน์ต่างก็มีการตั้งกระทูถาม แสดงความคิดเห็นว่าใครคือคู่ในรายการ แต่ก็ยังไม่ได้รับการยืนยันจากทางทีมงานสักที มีเพียงคำตอบที่บอกว่า เป็นคนที่ทุกคนต้องไม่คาดคิดแน่ๆ


             
             

     

     

     

     

    ฮีชอลนั่งให้ช่างแต่งหน้าทำผมจัดการตัวเองอยู่ในส่วนของห้องพัก วันนี้มีงานแฟนมีตติ้งที่แฟนคลับผู้โชคดีหนึ่งร้อยคนจะได้ใกล้ชิดกับดาราคนนี้ และงานนี้พึ่งจะถูกจัดขึ้นเป็นครั้งที่สองทั้งๆ ที่ฮีชอลเข้าวงการมาสิบกว่าปีแล้ว แฟนคลับจำนวนมากจึงให้ความสนใจและอยากเข้าร่วมงานกันมากกว่าที่คิดไว้ สุดท้ายจึงต้องใช้วิธีสุ่มเลือกผู้โชคดีมาเพียงหนึ่งร้อยคน

     

    "ฮีชอล พร้อมรึยัง?" เสียงของฮีจินพี่สาวแท้ๆ ของฮีชอลที่ทำงานเป็นผู้จัดการส่วนตัวของฮีชอลด้วยเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าใกล้ได้เวลาแล้ว

     

    "ครับ พร้อมแล้วล่ะ" ฮีชอลลุกขึ้นยืนพร้อมกับจัดเสื้อผ้าของตัวเองให้เข้าที เสื้อตัวใหญ่เพ้นท์ลายสดใสทั้งตัวยาวถึงหัวเข่า กับกางเกงเข้ารูปสีดำ และรองเท้าสีแดงสด สมกับเป็นสไตล์ของคิม ฮีชอลจริงๆ

     

    "จริงสิ แล้วเรื่องรายการ we got ล่ะ จะเริ่มถ่ายเมื่อไหร่ มันจะน่าจะเริ่มถ่ายได้แล้วไม่ใช่หรอ?" ฮีชอลหันมาถามพี่สาวของตนระหว่างที่กำลังจะเดินออกจากห้องพัก

     

    "เอาน่า เดี๋ยวเขาถ่ายก็บอกเองแหละ ไปได้แล้วแฟนๆ เขารอนานแล้ว" ฮีจินดันหลังฮีชอลให้เดินออกจากห้องไปก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ "ลางสังหรณ์ดีเกินไปแล้วเจ้าเด็กนี่ เดี๋ยวนายได้เซอร์ไพรส์แน่ คิก!"

     

    ฮีชอลเดินขึ้นไปบนเวทีท่ามกลางเสียงกรี๊ดของบรรดาแฟนๆ หลังจากที่พิธีกรเชิญเขาขึ้นไป ร่างบางส่งยิ้มให้กับแฟนคลับของตัวเองก่อนจะเดินไปนั่งเก้าอี้นวมที่วางอยู่กลางเวที

     

    "ยินดีที่ได้พบนะครับคุณคิม ฮีชอล" พิธีกรพูดทักทายกับฮีชอล เพราะฮีชอลเป็นคนที่ค่อนข้างเงียบ ทางทีมงานที่จัดงานแฟนมีตจึงลงความเห็นกันว่าน่าจะมีพิธีกรเพื่อเป็นตัวเชื่อมฮีชอลกับแฟนคลับ

    "เช่นกันครับคุณจองซู" ฮีชอลทักทายกลับ

     

    พิธีกรปาร์ค จองซูยิ้มรับก่อนจะเริ่มถามและพูดคุยทันที “พูดถึงแฟนมีตแล้วครั้งนี้เป็นครั้งที่สองเองใช่ไหมครับที่จัด ถ้าเทียบกับระยะเวลาที่คุณฮีชอลเข้าวงการมานี่ถือว่าค่อนข้างน้อยนะครับ”

     

    “ใช่ครับ น้อยมาก คงเพราะ... ผมถ่ายทำละคร ภาพยนตร์เยอะด้วยเลยไม่ค่อยได้มีเวลาจัดกิจกรรมแบบนี้ อีกอย่าง... ก็อย่างที่คุณจองซูรู้แล้วก็แฟนๆ รู้ ผมค่อนข้างเป็นคนเงียบๆ ขนาดจะจัดแฟนมีตยังต้องมีพิธีกรอย่างคุณมาช่วยดำเนินการเลย” ฮีชอลพูดยิ้มๆ อย่างติดตลก “ถ้าผมทำเองคนเดียว ผมกับแฟนๆ คงได้แค่นั่งมองหน้ากัน”

     

    เสียงกรี๊ดกับเสียงหัวเราะของแฟนคลับดังออกมาหลังจากที่ได้ยินคำตอบของฮีชอล เพราะก็เป็นแบบนั้นจริงๆ งานแฟนมีตดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งมีการเล่นเกมทายใจระหว่างฮีชอลกับแฟนคลับซึ่งจองซูจะเป็นคนถามคำถามออกมาแล้วก็มีตัวเลือกให้เลือกสองตัวเลือก เมื่อเขาให้สัญญาณทั้งฮีชอลและแฟนคลับผู้โชคดีที่ได้ขึ้นมาเล่นเกมต้องพูดออกมาพร้อมกันแล้วดูว่าพวกเขาสามารถตอบคำถามได้ตรงกันมากแค่ไหน

     

    “ต่อไปจะเป็นช่วงการตอบคำถามนะครับ ซึ่งผมได้รวบรวมคำถามจากแฟนคลับและเลือกสรรมาแล้วเพื่อมาถามกับคุณฮีชอลโดยเฉพาะ” จองซูพูดพร้อมกับหยิบเอากระดาษที่จดคำถามไว้ขึ้นมาดู “ส่วนใหญ่จะเป็นคำถามที่เหมาะกับช่วงนี้พอดีเลยนะครับ คำถามแรกคุณฮีชอลรู้สึกยังไงที่เข้าร่วมรายการ we got married ครับ”

     

    ฮีชอลหันกลับมาทางด้านหน้าเวทีหลังจากที่หันไปดื่มน้ำเสร็จก่อนจะเอ่ยตอบ “ผมรู้สึกตื่นเต้นมากครับที่ได้รับการติดต่อจากทางรายการ จริงๆ แล้วก่อนหน้านี้ทางรายการนี้ก็ได้ติดต่อมาแล้วรอบหนึ่ง แต่ช่วงนั้นผมมีงานที่ต่างประเทศค่อนข้างบ่อยเลยไม่ได้เข้าร่วมครับ”

     

    จองซูพยักหน้ารับ “ครับ... อ่า ได้ข่าวว่าคุณฮีชอลร่วมเล่นในพาร์ทของชาย-ชาย คุณรู้สึกยังไงบ้างครับ คิดว่าจะมีปัญหาตามมาไหม”

     

    สิ้นเสียงคำถามของจองซูเสียงกรี๊ดของแฟนๆ ก็ดังขึ้นอย่างถูกใจในคำถาม ส่วนคนโดนถามนั้นก็ยิ้มน้อยๆ อย่างรู้สึกเขิน “ก็เขินๆ แปลกๆ นะครับ แต่ผมคิดว่าไม่มีปัญหาอะไรแฟนๆ ต้องเข้าใจผมครับว่าอะไรเป็นอะไร แล้วก็หวังว่าทุกคนจะสนับสนุนผมต่อไป”

     

    “แล้วคนที่จะมาเป็นคู่ของคุณละครับ รู้รึยังว่าเป็นใคร ตอนนี้หัวข้อนี้ฮอตฮิตมากในโลกออนไลน์เลยนะครับเนี่ย”

     

    “ยังครับ ผมยังไม่รู้เลยว่าใครจะมาเป็นคู่กับผม”

     

    “นี่เป็นคำถามสุดท้ายนะครับ ก็ไม่เชิงคำถามซะทีเดียว มีอะไรอยากบอกถึงคนที่จะมาเป็นคู่ของคุณไหมครับ”

     

    ฮีชอลนิ่งไปสักพัก ริมฝีปากเม้มอย่างใช้ความคิดก่อนจะตอบ “ผมหวังว่าเขาจะเป็นคนที่สามารถเข้าหาผมได้ เพราะผมเป็นคนเข้าหาคนยาก แต่ผมก็จะใช้ความเป็นคนเข้าหาคนยากของผม... ทำให้เขา... สนใจผมแล้วกันครับ”

     

    กรี๊ดดดดด!! เสียงกรี๊ดดังลั่นฮอลล์ที่จัดงานกันเลยทีเดียว หลังจากตอบคำถามเสร็จก็เป็นช่วงสุดท้ายคือการแจกลายเซ็นให้กับแฟนๆ ทั้งหนึ่งร้อยคน ฮีชอลเดินไปนั่งที่โต๊ะที่ทางทีมงานยกขึ้นมาวางเมื่อสักครู่ก่อนจะเริ่มแจกลายเซ็นให้กับแฟนคลับ หลังจากที่แจกลายเซ็นเรียบร้อยร่างบางของดาราดังก็ลุกขึ้นเพื่อที่จะเดินมาด้านหน้าเวทีและพูดคุยเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะจบงาน แต่ยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไรเสียงกรี๊ดจากแฟนคลับก็ดังขึ้นอีกรอบเสียจนคนบนเวทีอย่างฮีชอลและจองซูถึงกับงง

     

    แล้วทั้งสองคนก็ต้องอึ้งเข้าไปใหญ่เมื่อชายหนุ่มร่างสูงสง่าเดินขึ้นมาบนเวที เขาอยู่ในชุดสูทลำลองสีดำ ในมือถือช่อดอกไม้ช่อใหญ่เดินตรงมาหาฮีชอลที่ยังยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูกพร้อมรอยยิ้ม

     

    “สำหรับคุณครับ... คุณภรรยา” เสียงทุ้มเอ่ยออกมาก่อนจะตามด้วยเสียงกรี๊ดของแฟนคลับทั้งหนึ่งร้อยคนที่นั่งอยู่

     

    ทั้งสื่อมวลชนที่มาทำข่าว และแฟนคลับต่างถ่ายรูปเหตุการณ์ตรงหน้าเป็นการด่วน เมื่อฮีชอลเอื้อมมือไปรับช่อดอกไม้ช่อนั้นไว้ “เอ่อ...” ดูเหมือนดาราดังที่มักจะควบคุมสถานการณ์ต่างๆ ได้ดีตอนนี้ทำอะไรไม่ถูกเสียแล้ว

     

    “ผมหานเกิง ยินดีที่ได้พบนะครับคุณภรรยา”

     

    แต่เพราะฮีชอลจะคงเงียบอย่างคนทำอะไรไม่ถูก จองซูที่ได้สติกลับมาแล้วก็รีบพูดเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศทันที “อันนี้เป็นเซอร์ไพรส์สุดพิเศษรึเปล่าครับคุณหานเกิง”

     

    หานเกิง... นักธุรกิจหนุ่มชาวจีนที่ขยายบริษัทเสียใหญ่โตมีอยู่ทั้งในจีนและเกาหลี นอกจากจะเป็นคนดังในแวดวงธุรกิจแล้ว เขายังเป็นที่รู้จักในสังคมบันเทิงอีกด้วย เพราะเคยรับงานถ่ายแบบ เดินแบบอยู่หลายครั้งจนมีแฟนคลับติดตามอยู่ไม่น้อย และตอนนี้... เขาก็มายืนอยู่ตรงนี้ หน้าคิม ฮีชอล ในฐานะ... สามี

     

    หานเกิงหันมายิ้มให้กับจองซู “ครับ แผนเซอร์ไพรส์ภรรยาของผม”

     

    “อ่า... อย่างนี้ก็เป็นคุณหานเกิงเองสินะครับที่เป็นคู่กับคุณฮีชอลในรายการ we got married

    “ใช่แล้วละครับ แต่ดูเหมือนภรรยาของผมยังไม่หายอึ้งนะเนี่ย” หานเกิงหันมองคนที่ยืนข้างๆ ด้วยรอยยิ้มขบขัน ซึ่งการแสดงท่าทางแบบนั้นออกไปทำให้แฟนคลับที่จับตามองอยู่ยิ่งกรี๊ดออกมาดังกว่าเดิม

     

    “เอ่อ... ผมแปลกใจนะครับว่าเป็นคุณ” ฮีชอลพูดเสียงเบา

     

    “ถ้างั้นเดี๋ยวขอให้คุณฮีชอลพูดอะไรกับแฟนๆ สักเล็กน้อยนะครับ แล้วเดี๋ยวพวกเราจะปล่อยให้คุณสองคนได้ใช้เวลาร่วมกัน” จองซูพูดพร้อมขยิบตาให้แฟนคลับซึ่งก็ได้รับเสียงกรี๊ดตอบรับอย่างดี

     

    ฮีชอลหยกไมค์ขึ้นมาก่อนจะพูด “ขอบคุณแฟนคลับของผมทุกคนนะครับสำหรับวันดีๆ ในวันนี้ ผมสัญญาว่าจะพยายามอย่างหนักเพื่อแฟนคลับทุกคน ถ้ามีโอกาสอีกผมจะจัดกิจกรรมแบบนี้อีกแน่นอนครับ ขอบคุณมากครับ เอ่อ... ช่วยติดตามแล้วก็เป็นกำลังใจให้ผมในรายการ we got married ด้วยนะครับ”

     

     

     

     

     

     

     

    ภายในห้องพักสำหรับเตรียมตัวของฮีชอลก่อนที่จะขึ้นเวทีนั้นเงียบสนิททั้งๆ ที่มีคนอยู่ในห้องหลายคน ฮีชอลนั่งอยู่ที่โซฟาตัวเดียวกับหานเกิงแต่ก็นั่งกันคนละฝั่ง ทีมงาม ตากล้องยืนอยู่รอบๆ เพื่อจับภาพของคนทั้งสอง หลังจากที่ฮีชอลเดินเข้ามาในห้องพักก็เจอกับฮีจินที่ยืนส่งยิ้มมาให้ก่อนที่เจ้าตัวจะบอกว่าขอกลับก่อนแล้วก็รีบวิ่งออกจากห้องไปทันที ทีมงานที่จัดงานแฟนมีตก็กลับไปหมดแล้ว ที่เหลือก็คือทีมงานของ we got married

     

    “คุณเงียบแบบนี้ตลอดเลยหรอครับ” สุดท้ายก็เป็นหานเกิงที่เอ่ยปากออกมาก่อน ท่ามกลางเสียงลอบถอนหายใจของทีมงานที่ยืนถ่ายด้วยความอึดอัดมาหลายนาที

     

    คนถูกทักสะดุ้งนิดๆ มาดหยิ่งๆ ที่สั่งสมมาเหมือนกำลังจะถูกหลอมละลายลงทีละนิด “ก็ครับ... ผมเป็นคนค่อนข้างเข้ากับคนยาก ถ้าไม่ได้กำลังถ่ายละครถ่ายหนังอยู่... ผมก็ไม่ค่อยได้คุยกับใครเหมือนกัน”

     

    “ต่างจากผมเลยนะครับ ผมเป็นนักธุรกิจต้องพูดต้องเจรจา เลยต้องคุยกับคนอื่นเยอะแยะ” หานเกิงพูดยิ้มๆ

     

    “อ๊ะ! จริงสิ คุณเป็นคนจีน แต่พูดเกาหลีเก่งมากเลยนะครับ”

     

    “ผมเรียนมานานแล้วละครับ เพราะว่าต้องมาติดต่อธุรกิจที่เกาหลีด้วยเลยต้องฝึกเอาไว้” พูดไปก็ลอบมองท่าทางของคนที่เรียกได้ว่าภรรยาในนามของตัวเองไปด้วย ภรรยาของเขาสวยจริงๆ สวยกว่าผู้หญิงและผู้ชายหลายคนที่เขาเคยเจอ แถมการวางตัวก็ยังดีมากอีกด้วย

     

    “แปลกดีนะครับที่เป็นคุณ” ฮีชอลพูดพร้อมกับยิ้มน้อยๆ

     

    “ครับ?”

     

    “ก็รายการนี้ไงครับ ถึงคุณจะรับงานถ่ายแบบเดินแบบบ้างก็เถอะ แต่หลักๆ คุณก็ยังเป็นนักธุรกิจอยู่ดี เลยรู้สึกแปลกๆ ดีนะครับที่คุณมาร่วมรายการ” ฮีชอลอธิบาย

     

    แต่ยังไม่ทันที่ใครจะได้พูดอะไรต่อโปรดิวเซอร์ที่รับผิดชอบดูแลคนทั้งสองก็ส่งซองจดหมายสีแดงให้กับฮีชอล

     

    “ภารกิจหรอครับ?” ฮีชอลถามก่อนจะเปิดซองจดหมายออกอ่านแล้วส่งให้หานเกิงได้อ่านต่อ

     

     


     

     

    “เราต้องไปที่ไหนกันหรอครับ” ฮีชอลหันมาถามกับทางทีมงานซึ่งทีมงานก็ตอบมาเบาๆ ว่าให้ลองถามคนที่นั่งข้างๆ แทน

     

    ร่างบางหันไปมองคนที่นั่งข้างๆ “ผมรู้เรื่องมิชชั่นก่อนแล้ว แล้วก็เตรียมสถานที่ไว้แล้วถ้าไม่ว่าอะไรให้ผมพาไปนะครับ”

     

    “ผมจะว่าอะไรได้ละครับ ช่วยนำทางด้วยแล้วกันครับ” ฮีชอลยิ้ม มองมือของหานเกิงที่ยื่นมาตรงหน้าอย่างลังเลเล็กน้อย... ผู้ชายด้วยกันจับมือกันแบบนี้จะแปลกไหมนะ ไม่เคยดูคู่อื่นๆ ด้วยสิว่าเป็นยังไงกันบ้าง แต่ก็คง... ไม่เป็นไรหรอกมั้ง เมื่อคิดได้แบบนั้นมือเรียวจึงวางทับลงบนฝ่ามือหนานั้นก่อนที่หานเกิงจะกุมกระชับมือไว้แล้วพาเดินออกจากห้องไป

     

    หานเกิงเปิดประตูรถให้ฮีชอลก้าวขึ้นไปนั่งก่อนที่จะก้าวขึ้นไปนั่งที่เบาะข้างๆ กัน ภายในรถนั้นมีกล้องติดเอาไว้หลายตัวเรียกว่าเก็บภาพทุกมุมเลยทีเดียว รถสีดำแล่นไปตามท้องถนนในยามค่ำของกรุงโซลก่อนจะมาหยุดอยู่หน้าตึกชงโนซึ่งเป็นตึกสูงที่มีความสูงถึง 33 ชั้น หานเกิงก้าวลงจากรถก่อนจะยื่นมือให้คนที่นั่งอยู่ด้านในจับยึดตอนที่ก้าวลง ทั้งสองคนเดินเคียงคู่กันไปโดยมีตากล้องเดินตามถ่ายทั้งจากด้านหน้าและด้านข้าง หานเกิงกดลิฟต์ไปยังชั้นบนสุดซึ่งเป็นส่วนของร้านอาหาร

     

    “ผมจองโต๊ะเอาไว้แล้ว เอาจริงๆ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะพาคุณไปที่ไหนดี ถึงผมจะมาเกาหลีบ่อยแต่ก็ไม่ค่อยได้ไปไหนเท่าไหร่” หานเกิงพูดพร้อมกับถอยมายืนข้างฮีชอลที่ด้านในของลิฟต์เพื่อให้มีพื้นที่สำหรับทีมงาน

     

    “ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมไม่ได้เรื่องมากอะไรขนาดนั้น” ฮีชอลตอบกลับมาเบาๆ ความเงียบโรยตัวสักพักในช่วงเวลาที่อยู่ในลิฟต์ ทีมงานรีบก้าวออกจากลิฟต์ทันทีที่ลิฟต์เปิดเพื่อที่จะได้ทำการถ่ายได้อย่างต่อเนื่อง หานเกิงรั้งข้อศอกของฮีชอลเบาๆ ให้อีกฝ่ายเดินตาม ร้านอาหารบนชั้นบนดูเงียบ... เงียบผิดปกติ

     

    “คุณคงใช้คำผิด... ไม่ใช่ว่าจองโต๊ะ แต่เป็นจองร้าน... ใช่ไหมครับ”

     

    “แค่สองชั่วโมงน่ะครับ ผมกลัวว่าคุณจะอึดอัดถ้ามีสายตาของคนอื่นมองมา” หานเกิงตอบเสียงเรียบเหมือนกับว่าสิ่งที่ทำอยู่เป็นแค่เรื่องปกติธรรมดา ร่างสูงเดินพาคนข้างกายไปนั่งที่โต๊ะริมกระจก ชั้นนี้ทั้งชั้นเป็นกระจกรอบด้านเพื่อให้สามารถมองเห็นวิวของกรุงโซลได้อย่างชัดเจน เสียงเพลงคลอเบาๆ ยิ่งเสริมให้บรรยากาศดูดีมากขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว

     

    “ขอบคุณครับ...”

     

    หลังจากที่ทั้งสองคนนั่งลงได้ไม่นานอาหารที่ถือเป็นออร์เดิร์ฟจานแรกก็มาเสิร์ฟ สลัดผักในจานที่ตกแต่งเอาไว้สวยงามถูกวางลงตรงหน้าของทั้งสองคน ก่อนจะตามด้วยถ้วยในซุปวางไว้ข้างๆ กัน

     

    “ลองชิมดูสิครับว่าอร่อยไหม” หานเกิงพูดก่อนจะตัดสลัดขึ้นมาทานเมื่อเห็นแบบนั้นฮีชอลจึงเริ่มลงมือทานด้วยเหมือนกัน

     

    เมนูหอยเชลล์อบเนยเป็นเมนูถัดไปที่ถูกนำมาเสิร์ฟ ก่อนจะตามด้วยสปาเก็ตตี้และสเต็ก ตลอดเวลาที่ทานอาหารนั้นทั้งสองคนก็ไม่ได้พูดคุยกันมากนัก

     

    “ขอบคุณนะครับ” ฮีชอลพูดขึ้นหลังจากที่พนักงานยกจานอาหารจานหลักกลับไปแล้ว

     

    “เรื่องอะไรครับ ก่อนหน้านี้ก็ขอบคุณผม” หานเกิงถามยิ้มๆ พร้อมกับยกน้ำขึ้นดื่ม

     

    “ก็เรื่องในวันนี้ไงครับ” ร่างบางบอก “จริงสิ... คุณรู้อยู่ก่อนแล้วหรอครับว่าผมต้องมาคู่กับคุณ”

     

    “ก็รู้ก่อนคุณไม่นานหรอกครับ ทางทีมงานโทรมาบอกว่าวันนี้ให้ผมไปรับภรรยาที่งานแฟนมีตแล้วก็ให้พามาทานข้าวนะครับ”

     

    ฮีชอลหันมองไปรอบๆ ร้านก่อนจะหันกลับมามองคนตรงหน้า “คุณก็เลยจัดการจองร้านนี้หรอครับ”

     

    หานเกิงพยักหน้า “คุณชอบไหม”

     

    รอยยิ้มบางๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าสวย “ชอบครับ วิวสวยมากเลย ผมเคยมาทานที่นี่เหมือนกันแต่คนค่อนข้างเยอะ เลยไม่ได้มองบรรยากาศเท่าไหร่ ขอบคุณนะครับที่พามา”

     

    หานเกิงเปิดประตูรถให้ฮีชอลหลังจากที่พวกเขาทานอาหารกันเสร็จเรียบร้อย ร่างสูงก้าวขึ้นไปนั่งบนรถพร้อมกับปิดประตูเรียบร้อย “ช่วงนี้คุณงานเยอะไหมครับ” เป็นฮีชอลที่เอ่ยถามขึ้นมาก่อน

     

    “ก็ไม่เท่าไหร่หรอกครับ คุณคงงานเยอะเลยสินะครับ”

     

    “ก็นิดหน่อย ดีที่ตอนนี้มีถ่ายละครแค่เรื่องเดียว แต่ก็มีงานพวกโฆษณาเยอะอยู่เหมือนกัน”

     

    “พักผ่อนเยอะๆ นะครับ เดี๋ยวจะไม่สบาย ไว้วันไหนผมว่าง ขอไปดูคุณทำงานได้ไหม”

     

    ร่างบางเงยหน้ามองหานเกิง ก่อนจะรีบหันกลับเมื่อเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าหล่อเหลานั้น ทำไมหัวใจเต้นแปลกๆ นะ “ก็... ถ้าคุณจะไม่เบื่อไปซะก่อนก็ได้ครับ”

     

    รถจอดสนิทอยู่หน้าคอนโดของฮีชอล หานเกิงเดินมาส่งภรรยาคนสวยที่หน้าประตู “นอนหลับฝันดีนะครับ แล้วไว้เจอกันใหม่”

     

    “ครับ คุณกลับดีๆ นะครับแล้วก็... ฝันดีครับ”

     

     

    ... TBC ...

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×