ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    WE GOT MARRIED [GENGCHUL]

    ลำดับตอนที่ #8 : WGM... 8 ...

    • อัปเดตล่าสุด 14 ธ.ค. 57


    Radio ? Theme
    We got married

    F.GC

    ตอนที่แล้วมาแบบเรียบๆ เรื่อยๆ ตอนนี้คงมีอะไรให้ได้ฟินกันแน่นอนค่ะ

    ตอนแรกตั้งใจจะลงวันจันทร์ไม่ก็วันอังคาร แต่ไม่ไหว... เครียด กังวลเรื่องพรีเซนวิทยานิพนธ์

    เลยขอมาอัพฟิค แต่งฟิคเรื่องนี้คลายเครียดหน่อย ถ้าตรงไหนผิดหรือไม่สนุกก็ขออภัยด้วยนะคะ

    PS. สำหรับคนที่รอ #ฟิคนางมาร อยู่ ฟางขอให้ผ่านช่วงนี้ไปก่อนนะคะ

    ฟิคเรื่องนั้นเนื้อเรื่องค่อนข้างซีเรียสเลยต้องมีเวลาว่างยาวๆ จริงๆ ค่ะ

    > #ฟิคบอสเกิงมาดามฮี <



     

    … 8 …

     

     

    หานเกิงดันประตูร้านขายเฟอร์นิเจอร์ให้เปิดออก รอจนฮีชอลและทีมงานเดินเข้ามาในร้านแล้วจึงได้ปล่อยให้ประตูปิดลง ทีมงานเดินไปคุยกับทางร้านเรื่องขอถ่ายทำรายการซึ่งก็ได้รับความร่วมมืออย่างดีกับทางร้าน

     

    คู่สามีภรรยาในรายการเดินดูเฟอร์นิเจอร์ด้วยความสนใจ ทางร้านแบ่งสัดส่วนไว้เป็นอย่างดี แยกเป็นส่วนห้องตัวอย่างแต่ละห้อง และยังมีเฟอร์นิเจอร์วางโชว์อีกมากมาย

     

    "สีแดง" เสียงหวานร้องบอกความต้องการทันทีที่หานเกิงถามว่าอยากได้โซฟาสำหรับส่วนนั่งเล่นสีอะไร

     

    "สีแดง?" หานเกิงทวนคำพลางนึกจินตนาการว่าถ้าโซฟาสีแดงสดไปวางอยู่ในบ้านโทนสีขาว-น้ำตาลจะเป็นอย่างไร

     

    "ใช่ครับ สีแดง" ฮีชอลพยักหน้ายืนยัน

     

    "อ่า... งั้นไปดูที่นอนดีไหม พี่ว่าเป็นแค่ที่นอนไปวางกับพื้นก็ดีนะ หรือฮีชอลว่ายังไง" หานเกิงพาคนสวยเดินไปส่วนห้องตัวอย่างของห้องนอน

     

    "ก็ดีนะครับ ผมว่าแบบที่พี่เกิงบอกก็โอเคนะ" พูดเห็นด้วยก่อนจะหยิบแคตตาล็อคผ้าปูที่นอนมาเปิดดู "พี่เกิงว่าสีแดงดีไหมครับ"

     

    "สีแดง? อะไรสีแดง"

     

    "ผ้าปูที่นอนไงครับ ผมว่าสีแดงลายนี้สวยนะ พี่เกิงว่ายังไงครับ ผมอยากได้สีแดง เข้ากับโซฟาสีแดงตัวนั้นด้วย" ฮีชอลยิ้ม

     

    ร่างสูงเริ่มยิ้มไม่ออก ไม่ใช่ว่าสีหรือแบบที่คุณภรรยาเลือกจะไม่สวย แต่มันดูไม่เข้ากันกับบ้านหลังนั้นสักเท่าไหร่

     

    "ฮีชอล" หานเกิงเรียกคนที่กำลังเลือกดูของอย่างสนใจให้หันกลับมา "ฮีชอลว่าบ้านหลังนั้นเป็นยังไงบ้าง บ้านของเราน่ะ"

     

    ฮีชอลเลิกคิ้วขึ้นแม้จะไม่เข้าใจว่าอีกคนถามทำไมแต่ก็ยอมตอบคำถามนั้น "สวยดีครับ ผมว่าดูอบอุ่นดี"

     

    "พี่ก็ว่ามันอบอุ่น แต่เฟอร์นิเจอร์สีแดงที่ฮีชอลชอบพี่ว่ามันไม่ค่อยเข้ากับบ้านนะ" หานเกิงพูดพร้อมกับลอบสังเกตุสีหน้าของคนตรงหน้าไปด้วย

     

    คิ้วเรียวสวยได้รูปของดาราดังขมวดเข้าหากัน ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่นเหมือนคนใช้ความคิด หูก็ฟังคำพูดของหานเกิงไปด้วย "ไม่ใช่ว่าของที่ฮีชอลเลือกจะไม่สวยนะ แต่พี่ว่าถ้าเลือกเป็นโทนสีขาว ครีม สีเบจหรือสีน้ำตาลอ่อนๆ จะเข้ากับบ้านของเรามากกว่านะ หรือฮีชอลไม่คิดแบบนั้น"

     

    "ก็จริงอย่างที่พี่เกิงพูด แต่ผมชอบสีแดงนิครับ"

     

    หายเกิงยิ้มกับท่าทางงอแงเล็กๆ ของฮีชอล มือข้างหนึ่งเอื้อมไปกุมมือเล็กทั้งสองของฮีชอล ก่อนจะใช้มืออีกข้างจิ้มไปที่หว่างคิ้วของคนตรงหน้า "ไว้เราเลือกของเล็กๆ สีแดงแบบที่ฮีชอลชอบไปวางไว้ที่บ้านก็ได้ ดีไหมหือ?"

     

    "ก็ได้ครับ แบบนั้นก็ได้" แม้ปากจะยอมรับแต่สีหน้ายังดูขัดใจเหมือนเด็กๆ ที่โดนขัดใจนั้นทำเอาหานเกิงนึกขำปนเอ็นดูจึงเลื่อนมือไปบีบจมูกโด่งนั้นเบาๆ

     

    "อื่อออ... พี่เกิง..."

     

    "เลือกกันต่อดีกว่า ไหนดูสิผ้าปูที่นอนแบบไหนดี สีเบจดีไหม หรือว่าเอาสีเทาดี" หานเกิงยิ้มเมื่อเห็นอีกคนส่งค้อนมาให้

     

    "ก็แล้วแต่พี่เกิงเห็นว่าดีแล้วกันครับ ผมเมื่อยแล้วเลือกได้ครบแล้วก็บอกแล้วกัน ผมจะไปนั่งรอ" พูดจบฮีชอลก็เดินเลี่ยงไปทันที ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า... งอนชัวร์

     

    บอสหนุ่มยังคงยิ้มขำกับท่าทางนั้นของดาราดังที่ใครต่อใครต่างก็บอกกันว่าทั้งนิ่ง ทั้งหยิ่ง แต่ทำไมนะตั้งแต่เจอมายังไม่เห็นว่ามีมุมนิ่งมุมหยิ่งเลย มีแต่มุมน่ารัก และน่าเอ็นดู หานเกิงจัดการพูดคุยเรื่องเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดกับพนักงานโดยมีทีมงานอยู่ถ่ายและพูดคุยด้วยกัน

     

    "คุณฮีชอลงอนหนีไปแล้วนะครับ" ทีมงานพูดขึ้นหลังจากที่หานเกิงตกลงเรื่องได้แล้ว

     

    "ผมจะง้อภรรยายังไงดีครับเนี่ย" ร่างสูงพูดยิ้มๆ ก่อนจะเดินไปหาฮีชอลที่นั่งอ่านนิตยสารอยู่บริเวณโต๊ะนั่งเล่นที่ทางร้านจัดเอาไว้ "ฮีชอล พี่คุยเรื่องเฟอร์นิเจอร์เสร็จแล้วนะ"

     

    "จะกลับเลยไหมครับ" ฮีชอลถาม แม้จะทำหน้าและน้ำเสียงให้เป็นปกติ แต่หานเกิงก็ดูออกว่าคนสวยยังคงเคืองอยู่

     

    "กลับสิ เดี๋ยวพี่มีนัดกับลูกค้าด้วยตอนเย็น" หานเกิงทำเป็นมองผ่านความขัดเคืองของฮีชอล

     

    ร่างบางชะงักไปเล็กน้อยกับคำพูดนั้นของหานเกิง ไม่ง้อ แล้วยังจะไม่สนใจอีก! ฮีชอลลุกขึ้นคว้ากระเป๋ามาถือเอาไว้ "ถ้าอย่างนั้นแยกกันตรงนี้แล้วกันครับ พี่เกิงจะได้ไปพบลูกค้าต่อได้เลย"

     

    ฮีชอลหันไปคุยกับทีมงานเรื่องที่จะกลับก่อนและขอยุติการถ่ายทำของวันนี้ไว้แค่นี้ ซึ่งทางทีมงานเองก็พอจะมองออกจากดาราดังกำลังอารมณ์ไม่ดีนักจึงยอมยุติการถ่ายทำลงโดยไม่ได้ตามไปถ่ายต่อแต่อย่างใด แต่หันมาสนใจคนที่ยืนล้วงกระเป๋าพร้อมกับรอยยิ้มของคุณบอสแทน แทนที่จะร้อนใจว่าภรรยาคนสวยงอนหนีไปแล้วกลับยืนยิ้มเสียอย่างนั้น

     

     

     

     

     

     

     

    ฮีจินนั่งมองน้องชายสุดที่รักที่นั่งทำหน้าบูดหน้าบึ้งมาได้เกือบชั่วโมงแล้ว ถามว่าเป็นอะไรก็ไม่ยอมตอบ อยู่ๆ ก็โทรมาหาแล้วบอกให้ไปรับหน่อยอยู่แถวคังนัมแถมยังเร่งแล้วเร่งอีกจนพี่สาวอย่างฮีจินต้องรีบบึ่งรถไปรับคุณน้อง ไปถึงก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรเปิดประตูขึ้นมานั่งแถมปิดประตูเสียแรงจนคนเป็นพี่ตกใจ ถามว่าเลิกถ่ายแล้วหรอก็มีการวมาเหวี่ยงใส่อีกว่าถ่าไม่เลิกถ่ายแล้วจะให้มารับทำไม คุณพี่ละงงกับคุณดาราดังคนนี้จริงๆ

     

    "นี่... เป็นอะไรนั่งหน้าบูดอยู่นั่นแหละ มีปัญหาอะไรตอนถ่ายรายการรึไง" ฮีจินส่งเสียงถามไปอีกรอบเพื่อจะได้รับความสนใจบ้าง

     

    "หึ!" คนหน้าบูดพ่นลมออกมาอย่างหงุดหงิดก่อนจะหันมามองพี่สาวแล้วพูดฟ้องเสียยกใหญ่ "ก็พี่เกิงน่ะสิ!"

     

    "คุณหานเกิง? ทำไม เขาทำอะไรรึไง" รีบถามต่อด้วยความสนใจ แค่ชื่อของผู้กระทำก็ทำเอาฮีจินตาโตด้วยความตื่นเต้นแล้ว แต่ต้องเก็บอาการหน่อยเดี๋ยวน้องชายตัวดีรู้เข้าจะพาลไม่ยอมเล่าให้ฟัง

     

    "ใช่! วันนี้นะได้ภารกิจไปเลือกบ้านกัน ตอนเลือกบ้านก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอก แต่ตอนไปเลือกเฟอร์นิเจอร์น่ะสิ ฉันบอกว่าฉันอยากได้สีแดง มันสวยดีแต่พี่เขาไม่ยอม แถมยังแกล้งฉัน บีบจมูกฉัน ไม่สนใจฉันอีกว่าฉันงอนอยู่!"

     

    คิ้วเรียวสวยของฮีจินเลิกขึ้น ดวงตาเบิกขึ้นเล็กน้อย ริมฝีปากอ้าค้าง จะหยักเป็นรอยยิ้มก็ไม่เชิง จะออกอาการเหวอๆ ก็ไม่ใช่

     

    "แล้วตอนก่อนที่ฉันจะโทรเรียกให้ไปรับนะ เขาถามว่าจะกลับเลยไหม ฉันก็บอกว่ากลับ เขายังเห็นดีเห็นงามบอกมีนัดลูกค้าอีกด้วย ไม่ถาม ไม่สนเลยด้วยซ้ำว่าฉันยังงอนเขาอยู่!"

     

    "สรุปที่มานั่งหน้าบูดหน้าบึ้งนี่เพราะงอนคุณหานเกิงที่เขาไม่ยอมตามใจเรื่องเฟอร์นิเจอร์ หรือเพราะเขาไม่สนใจว่าแกงอนเขา" ฮีจินถาม

     

    "ก็เขาไม่!..." ก่อนที่จะหลุดปากพูดไปฮีชอลก็ชะงักไป ก่อนจะส่งค้อนให้พี่สาวตัวเองที่หลอกล่อช่วงที่กำลังอารมณ์ไม่คงทีให้พูดความในใจออกมา "เพราะเขาไม่เห็นรสนิยมการเลือกของฉันตั้งหาก"

     

    "อ๋อหรอ..." ลากเสียงยาวอย่างบ่งบอกเต็มที่ว่าไม่เชื่อในคำพูดนั้น "แล้วทำไมเขาถึงไม่เอาสีแดงล่ะ"

     

    "ก็...บ้านเป็นโทนสีอ่อน ขาว-น้ำตาล เขาบอกว่าถ้าเป็นสีแดงจะไม่เข้ากัน แล้วค่อยซื้อของเล็กๆ สีแดงไปแทน"

     

    "เขาก็ยอมให้ซื้อของสีแดงนินา แล้วทำไมยังหน้าบึ้ง นี่~..." ฮีจินขยับไปนั่งเบียดคนเป็นน้องก่อนจะเอ่ยแซว "หน้าบึ้งเพราะเขาไม่ง้อละสิ ไอ้เด็กเอาแต่ใจเอ๊ย~!"

     

    "เปล่าสักหน่อย อย่ามามั่วได้ไหม" ฮีชอลสะบัดหน้าใส่

     

    "จร้าๆๆ ฉันมั่วเองจร้า คึคึ ไปเล่าเรื่องนี้ให้แม่ฟังดีกว่า ลูกสาวแม่งอนลูกเขยใหญ่แล้ว"

     

    ฮีจินกระโดดหลบบรรดาหมอนอิงที่ฮีชอลปาใส่แถมยังพูดขู่ต่างๆ นาๆ แต่มีหรือที่ฮีจินจะกลัว ปากเอ่ยขู่ แต่แก้มงี้แดงเชียว

     

     

     

     

     

     

     

    หลังจากวันที่ไปเลือกเฟอร์นิเจอร์นี่ก็ผ่านไปได้เกือบสองสัปดาห์แล้วที่ฮีชอลไม่ได้ถ่ายรายการเพราะมีงานเข้ามาค่อนข้างมาก อีกทั้งยังได้ข่าวมาว่าทางหายเกิงเองก็งานยุ่งประชุมเช้าประชุมบ่ายไม่ค่อยมีเวลาว่างสักเท่าไหร่ แต่ถึงแม้เวลาจะผ่านมาสักพักแล้วแต่ความขุ่นเคืองในใจในวันที่ไปเลือกเฟอร์นิเจอร์ก็ยังไม่หายไป ทำเอาหานเกิงยิ้มขำเวลาโทรไปหาทีไรคนสวยของเขาก็ชอบพูดอย่างงอนๆ ทุกที

     

    "วันนี้เป็นวันย้ายเข้าบ้าน ทีมงานบอกว่าจะไปรออยู่ที่บ้านเลย ฮีชอลจะให้พี่ไปรับไหม" หานเกิงถามเมื่อพูดคุยทักทายกันแล้วหลังจากที่ฮีชอลรับโทรศัพท์

     

    [ไม่เป็นไรครับ กว่าผมจะเสร็จงานก็เที่ยงแล้ว พี่เกิงเข้าไปก่อนก็ได้] เสียงหวานๆ ดังมาจากปลายสาย

     

    "ไม่รู้บ้านจะออกมาถูกใจฮีชอลไหม ไม่ยอมมาช่วยพี่เลือกเลย" แกล้งเอ่ยแหย่อีกคน

     

    แล้วก็เป็นอย่างที่คิดเมื่อได้ยินเสียง หึ! อย่างงอนๆ จากปลายสาย [ผมเลือกไปก็ไม่เข้ากับบ้านหรอกครับ พี่เกิงเลือกน่ะดีแล้ว]

     

    หานเกิงอยากจะหัวเราะดังๆ แต่ถ้าทำแบบนั้นคงโดนมาดามคนสวยงอนเข้าให้อีกชุดใหญ่แน่นอนจึงได้แต่ยิ้มอย่างขบขันเพราะถึงยังไงอีกคนก็ไม่รู้ไม่เห็นอยู่แล้ว "เด็กขี้งอน ยังงอนเรื่องที่พี่ไม่ให้เลือกเฟอร์นิเจอร์สีแดงอยู่อีกหรอ"

     

    [เปล่าสักหน่อย] ก็พูดแบบนี้ทุกครั้งไป [ผมไม่ใช่เด็กขี้งอนสักหน่อย]

     

    "ครับๆ ฮีชอลไปทำงานเถอะ เดี๋ยวไว้เจอกันที่บ้านเรานะ"

     

    [ครับ แล้วพี่เกิงไม่ได้ทำงานหรอ]

     

    "ครับ ไม่ได้ทำ พี่ว่าจะเข้าไปดูความเรียบร้อยที่บ้านด้วย ไปตั้งใจทำงานได้แล้ว พี่ได้ยินเสียงเขาเรียกแล้วนั่น"

     

    [ครับผม แล้วเจอกันที่บ้านนะครับพี่เกิง]

     

    "ครับผม" อีกคนวางสายไปแล้ว แต่หานเกิงยังคงนั่งมองโทรศัพท์แล้วยิ้มไม่หยุด ถ้าหากว่าในทุกๆ วันได้ยินเสียงหวานแบบนี้บอกให้เจอกันที่บ้านอย่างนี้หานเกิงคงจะมีกำลังใจทำงานขึ้นเยอะเลย

     

    ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้ไม่เคยคบใคร ทั้งๆ ที่คนอื่นเป็นเรื่องราวในชีวิตจริงแต่หายเกิงรู้สึกว่าคนที่ผ่านๆ มาเขาต้องสวมบทบาทอยู่ตลอดเวลา ต่างจากฮีชอลที่เป็นการถ่ายรายการแต่สิ่งที่ร่างสูงพูด คิดหรือกระทำเจ้าตัวกับคิดว่ามันไม่ใช่การแสดง

     

    เพียงแค่นึกถึงใบหน้าสวย แต่ดูรั้นและดื้อดึงของนางพญาแห่งวงการบันเทิงคนนั้นแล้วรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นมาง่ายๆ ทั้งๆ ที่กำลังเคร่งเครียดอยู่กับงาน แล้วก็ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่กลายเป็นคนติดโทรศัพท์มือถือว่างไม่ได้เป็นต้องหยิบมาส่งข้อความคุยกับฮีชอล หรือไม่ก็โทรหาอยู่เรื่อยไป

     

    หานเกิงยังไม่อยากจะยอมรับว่าบางทีเขาอาจจะกำลังตกหลุมรักนางพญาแห่งวงการบันเทิงคนนี้เข้าให้แล้ว แต่ก็ปฏิเสธความรู้สึกดีๆ ที่มีให้ไม่ได้ ถ้าหากมันเป็นรักจริงชายหนุ่มก็หวังที่อยากจะให้มันเป็นรักที่มั่นคงไม่ใช่ชั่วครั้งชั่วคราวเหมือนกับอดีตที่ผ่านมา เขาจึงอยากที่จะพิสูจน์ความรู้สึกในใจต่อไปอีกว่าหัวใจของเขารู้สึกยังไงกันแน่ ช่วงเวลาที่จะได้ย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านด้วยกันคงทำให้อะไรๆ มันชัดเจนได้

     

    ชายหนุ่มร่างสูงลุกขึ้นก่อนจะจัดการยกกล่องที่ใส่ของสำหรับไว้ตกแต่งบ้านและกระเป๋าเสื้อผ้าไปขึ้นรถแลนด์โลเวอร์แบบห้าประตูสีขาวที่ดูๆ ไปแล้วน่าจะเป็นรุ่นล่าสุดที่พึ่งเปิดตัวมาได้ไม่นานเท่าไหร่ หลังจากที่ขนของขึ้นรถคันใหม่เสร็จเรียบร้อยก็ขับไปยังบ้านหลังใหม่ที่จะต้องย้ายเข้าไปอยู่เป็นการชั่วคราวทันที

     

    "สวัสดีครับคุณหานเกิง มาแต่เช้าเลยนะครับ"  เสียงของพีดีคังอินเอ่ยทักทายเมื่อเห็นหานเกิงลงจากรถมา

     

    "สวัสดีครับพีดีคัง" หายเกิงทักทายตอบ "พอดีมีของต้องมาจัดน่ะครับเลยต้องรีบมา บ้านสวยไหมครับ"

     

    "สวยมากครับ คุณกับคุณฮีชอลคงชอบลองเข้าไปดูสิครับ ทีมงานพึ่งติดกล้องในบ้านเสร็จพอดี" คังอินตอบก่อนจะเดินเข้ามาช่วยหานเกิงยกของเข้าไปในบ้าน

     

    บ้านหลังกะทัดรัดที่ครั้งล่าสุดมาดูยังคงโล่งเพราะไม่มีเฟอร์นิเจอร์แต่ไม่ใช่ในวันนี้ ทางส่วนฝั่งนั่งเล่นมีโซฟาทรงกลมขนาดสองคนนั่งได้สบายๆ สีน้ำตาลวางอยู่หน้าตู้ไม้สำหรับวางโทรทัศน์ ถัดไปด้านข้างมีชุดโต๊ะทำงานที่ทำจากไม้ตั้งอยู่เอาไว้สำหรับนั่งทำงาน โคมไฟตั้งโต๊ะสไตล์วินเทจก็เข้ากันดีกับบรรยากาศภายในบ้าน ส่วนทางด้านหลังโซฟาก็ทีตู้โชว์เตี้ยๆ ทำจากไม้วางอยู่ ส่วนทางฝั่งรับประทานอาหารก็มีโต๊ะอาหารที่ทำจากไม้ทั้งชุดวางชิดกับเค้าน์เตอร์ครัว หานเกิงมองไปรอบๆ ด้วยความพึงพอใจกับสิ่งที่ได้เห็น

     

    "สวยถูกใจผมมากเลย หวังว่าจะถูกใจฮีชอลด้วยเหมือนกัน" หานเกิงพูด

     

    "ถ้าคุณหานเกิงง้อคุณฮีชอลสำเร็จก็คงจะชอบมากแน่ๆ ครับ" คังอินเอ่ยแซวทันที "ว่าแต่ของเยอะจังเลยนะครับเนี่ย"

     

    กล่องใส่ของที่หานเกิงและคังอินยกเข้ามาในบ้านนั้นมีอยู่หลายกล่องด้วยกัน โดยเฉพาะกล่องใหญ่นั่นที่ไม่ใช่แค่ใหญ่แต่ยังหนักอีกตั้งหาก

     

    "ของง้อภรรยาน่ะครับ" สิ้นคำพูดของหานเกิงทีมงานที่ถือกล้องตามถ่ายก็ขยับเข้ามาใกล้ตัวคนพูดที่ยืนอยู่ข้างกล่องที่ว่าทันที

     

    "เมื่อคราวก่อนฮีชอลงอนที่ผมไม่ยอมให้เลือกของใช้สีแดง ผมก็เลยทำสิ่งนี้มาแทนครับ" มือเปิดกล่องที่วางอยู่บนพื้นตรงหน้า ทีมงานก็รีบซูมภาพเข้าไปใกล้ทันที...

     

    โมเดลจำลองบ้าน... บ้านที่เหมือนกันกับหลังนี้ไม่ผิดเพี้ยน ผนังด้านหน้าบ้านของโมเดลนั้นไม่มีทำให้เห็นภายในบ้านที่จำลองมาได้เหมือ       นของจริงเป็นอย่างมาก ทั้งตู้ โต๊ะ หรือแม้กระทั้งส่วนชั้นลอยแต่ที่ต่างจากของจริงก็คือเฟอร์นิเจอร์บางชิ้นที่เป็นสีและแบบเดียวที่ฮีชอลชอบ

     

    "ผมหวังว่าบ้านน้อยหลังนี้เขาจะชอบนะครับ" หานเกิงยิ้มก่อนจะยกโมเดลบ้านไปวางบนตู้โชว์หลังโซฟา ก่อนจะเดินไปเปิดกล่องอีกใบซึ่งมีกรอบรูปสีแดงวางไว้อย่างดีอยู่ข้างใน

     

    "ยังไม่หมดหรอครับ" คังอินถามเมื่อเห็นหานเกิงหยิบกรอบรูปสีแดงซึ่งมีรูปของฮีชอลใส่ไว้ออกมาตั้ง

     

    "ครับ ผมบอกกับเขาไว้ว่าจะเอาของชิ้นเล็กๆ สีแดงมาวาง ก็เลยเลือกเป็นกรอบรูปสีแดงมาน่ะครับ รูปของเขาผมก็ถ่ายเอง แอบถ่ายมาน่ะ" พูดพร้อมกับยิ้มขำ

     

    หานเกิงใช้เวลาจัดข้าวของทุกอย่างในบ้านเป็นเวลาเกือบครึ่งวันกว่าจะละมือจากงานตรงหน้าก็เป็นตอนที่ประตูบ้านเปิดอีกครั้งพร้อมกับเสียงทักทายบรรดาทีมงานของฮีชอล ร่างบางของดาราดังชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นภายในบ้าน สีหน้าดูพึงพอใจกับสิ่งที่เห็นไม่น้อย

     

    "มาแล้วหรอ" หานเกิงส่งเสียงทักทายก่อนจะเข้าไปแย่งกระเป๋าที่ฮีชอลถืออยู่มาวางไว้

     

    "ครับ บ้านสวยมากเลยครับพี่เกิง" ส่งยิ้มหวานให้กับชายหนุ่มตรงหน้า

     

    "นอกจากพวกเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ๆ ที่สั่งจากทางร้านแล้ว พวกของตกแต่ง ต้นไม้ กรอบรูปทุกอย่างคุณหานเกิงเป็นคนจัดหมดเลยครับ" ทีมงานที่ตามถ่ายคนทั้งสองพูดขึ้นทันทึ

     

    "จริงหรอครับ... สวยมากเลย พี่เกิงเก่งจัง" ฮีชอลกวาดสายตาไปมองรอบๆ บ้าน บนชั้นวางของหรือโต๊ะจะมีกระถ่างต้นไม้ต้นเล็กๆ วางเอาไว้ทำให้บรรยากาศยิ่งดูอบอุ่นและสดชื่นมากยิ่งขึ้น ดวงตากลมโตสีดำหันไปสะดุดกับกรอบรูปสีแดงที่วางอยู่บนชั้นข้างกระถางต้นโฮย่า "กรอบรูปนั่น..."

     

    "ก็พี่บอกฮีชอลแล้วไงว่าไว้จะเอาของเล็กๆ สีแดงมาตกแต่ง ชอบไหม"

     

    "ชอบครับ กรอบรูปสวยมากเลย แล้วนั่นโมเดลอะไรน่ะครับ" หันไปสนใจโมเดลบ้านที่วางอยู่บนตู้หลังโซฟาทรงกลมทันที

     

    "โมเดลบ้านน่ะ" หานเกิงตอบ

     

    "นี่มัน..." ก้มลงไปดูด้วยความสนใจ "บ้านหลังนี้นิครับ เฟอร์นิเจอร์สีแดงด้วย แบบที่ผมชอบเลย"

     

    "คุณหานเกิงทำให้คุณฮีชอลเลยนะครับ" ทีมงานรีบพูดทันที

     

    คนที่ถูกเซอร์ไพรส์หันไปมองหน้าท่านประธานหนุ่มทันทีอย่างต้องการคำอธิบาย คำยืนยันหรืออะไรก็ได้จากปากคนๆ นี้ "พี่เห็นว่าฮีชอลอยากได้เฟอร์นิเจอร์สีแดง พี่ก็เลยไปสั่งให้เขาทำโมเดลขึ้นมา"

     

    "ขอบคุณนะครับพี่เกิง ผมไม่คิดเลยว่าพี่จะทำให้ขนาดนี้ ผมชอบมากๆ เลยครับทั้งบ้านหลังนี้ กรอบรูปแล้วยังโมเดลนี่อีก ขอบคุณนะครับ" นอกจากคำพูดขอบคุณแล้วยังมีรอยยิ้มหวานๆ น่ารักๆ จากคนตรงหน้าเป็นของแถมอีก

     

     

    … TBC …

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×