ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    WE GOT MARRIED [GENGCHUL]

    ลำดับตอนที่ #7 : WGM... 7 ...

    • อัปเดตล่าสุด 14 ธ.ค. 57


    Radio ? Theme

    We got married

    F.GC

    หายไปนานๆ ขอโทษทีนะคะ พอดีไม่สบายมาจะ 2 สัปดาห์แล้วยังไม่หายเลย

    วิทยานิพนธ์ก็ใกล้สอบแล้วเลยไม่ค่อยมีเวลาแต่งฟิคเท่าไหร่

    วันนี้แต่งจบอีกตอนเลยเอามาให้อ่านกันก่อนที่รีดเดอร์จะลืมฟิคเรื่องนี้ไปซะก่อน

    อาจจะไม่หวานมาก แต่คิดว่าการแสดงออกและการกระทำของทั้งคู่คงจะอบอุ่นๆ

    ขอคอมเม้นต์หน่อยนะคะ ^^

    > #ฟิคบอสเกิงมาดามฮี <




     

    … 7 …

     

     

    "WGM หานเกิง ฮีชอล รักนอกจอ" by:P'อินนา

     

    ... ถ้าพูดเรื่องราวในวงการบันเทิงที่กำลังเป็นที่สนใจมากที่สุดก็คงต้องพูดถึงเรื่องคู่รักในรายการ We got married ที่พึ่งมีงานรวมคู่ทุกคู่ที่อยู่ในระหว่างการถ่ายทำรายการ ซึ่งในงานนั้นนอกจากจะมีทีมงานของรายการแล้วยังมีบรรดาสื่อมวลชนอีกมากที่ไปร่วมทำข่าวในครั้งนี้ หลังจากการเปิดซีซั่นล่าสุดมาได้สักระยะ นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้ร่วมรายการทุกคนได้มาเจอกัน แล้วถ้าถามต่อไปว่าคู่ไหนที่กำลังเป็นที่สนใจมากก็คงต้องขอบอกว่า คงไม่พ้นคู่ "บอสเกิงมาดามฮี" ตามที่แฟนคลับของพวกเขาเรียกกัน จากที่พี่อินนาได้ไปถามแฟนคลับของคู่นี่มาจึงได้รู้ถึงที่มาที่ไปว่าทำไมถึงเรียกกันแบบนี้

     

    'บอสเกิง' แฟนคลับได้ให้คำตอบกับพี่อินนาว่า เพราะคุณหานเกิงเป็นประธานบริษัทใหญ่ ตามตำแหน่งแล้วเรียกกันง่ายๆ ก็คือ บอส ส่วนตำแหน่งของคนที่จะมาเป็นคู่กับบอสก็คงไม่พ้นจำแหน่ง มาดาม แฟนคลับจึงเรียกรวมกันเป็น 'บอสเกิงมาดามฮี'

     

    ส่วนความเรียล ความฟินที่แฟนคลับต่างกรี๊ดกันยกใหญ่ไม่ใช่แค่การดูแลแทคแคร์กันเป็นอย่างดีเฉพาะในรายการเท่านั้นนะคะ ยังรวมไปถึงนอกรายการด้วย ซึ่งแฟนคลับก็จัดการแจกแจงเล่าเสียละเอียดยิบให้พี่อินนาได้ฟังจนจะฟินตามไปแล้วค่า~

     

    เรื่องแรกเลย แฟนคลับบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า 'บอสบุญทุ่ม' บุญทุ่มยังไงนะหรอคะ ลองนึกไปถึงเทปแรกที่ทั้งคู่ออกนะคะ บอสเกิงเนี่ย... ทุ่มถึงขนาดเหมาร้านอาหารบนตึกชงโนเพื่อคุณมาดามเลยค่ะ แค่ไปทานอาหารธรรมดาๆ พี่อินนายังมีโอกาสไปยากเลยเพราะขึ้นชื่อเรื่องความหรู อร่อย และแพง แต่คุณบอสยอมจ่ายไม่อั้นเหมาร้านดินเนอร์เลยค่ะ ทุ่มจริงๆ

     

    ยังไม่หมดกับ 'บอสบุญทุ่ม' เรื่องที่สองนี่ถ้าคนไม่รู้แล้วได้รู้ละก็ รับรองเลยค่ะ ตาโตแล้วร้องสุดยอดแน่นอน! ก็คุณบอสของเราลงทุนนั่งเครื่องบินไปส่งมาดามที่ประเทศจีน! ทั้งๆ ที่ตัวเองต้องบินไปประชุมที่อังกฤษค่ะ แต่ยอมนั่งไปส่งมาดามก่อนแล้วค่อยนั่งเครื่องต่อ แล้วความบุญทุ่มไม่ได้มีแค่นั้นนะคะ ตั๋วเครื่องบินระดับเฟิร์สคลาสเลยค่ะที่บอสของเราจัดการจ่ายให้มาดาม รวมไปถึงทีมงานอีกหลายคนเลยค่ะ

     

    เรื่องต่อไปนะคะแฟนคลับบอกกับพี่อินนาว่าบอสเกิงนี่สุภาพบุรุษมากๆ คอยดูแลแทคแคร์มาดามฮีอย่างดี ซึ่งเรื่องนี้เราเห็นกันได้ในรายการค่ะ อ้าว! แล้วจะเรียลได้ไง คิดแบบนี้กันละสิ แต่แฟนคลับคู่นี้ไม่ธรรมดานะคะคุณ มีสายเยอะแยะเชียว อย่างคราวที่มีถ่ายรายการที่คุณฮีชอลต้องทำอาหารไปให้บอสที่บริษัท ตอนไปน่ะก็ไปกับทีมงานหลายคนเลยค่ะ แต่ตอนกลับนี้สิ สายกระซิบบอกพี่อินนาว่า มีแต่ทีมงานกลับค่ะ ไม่เห็นมาดามเดินมาด้วย แล้วแบบนี้มาดามอยู่ไหนละคะ ถ้าไม่ได้อยู่กับบอส เรื่องความฟินยังไม่จบนะคะ เพราะสาย(อีกแล้ว)บอกว่า ตอนเย็นบอสขับรถไปส่งมาดามที่กองถ่ายด้วยค่ะ นอกรอบค่ะนอกรอบ~

     

    ยังค่ะ ยังไม่หมด เหตุการณ์อีกอย่างที่เกิดขึ้นหลังจากมาดามกลับจากประเทศจีน ก็มีงานแถลงข่าวละครค่ะ ตอนงานเลิกนักข่าวก็ยืนออรวมกันหน้าอาคารจัดงาน อันนี้พี่อินนาเห็นกับตาค่ะ บอสเกิงยืนถือดอกช่อดอกไม้ช่อใหญ่รออยู่ด้านหน้าโดยปราศจากเหงาของทีมงานรายการ WGM เจอหน้ากันก็ยื่นดอกไม้ให้น่ารักกันเชียว นักข่าวเลยถามกับคุณบอสไปว่าเป็นบทรึเปล่า คุณบอสตอบว่า "เปล่าครับ ผมเอาดอกไม้มาแสดงความยินดีกับฮีชอลเองครับ" พอโดนถามว่าจะมีรักนอกจอไหม คราวนี้มาดามก็หันมองคุณบอสเลยค่ะ ตัวคนถูกถามก็จัดการเลี่ยงตอบอ้างพามาดามกลับไปพักผ่อน ไม่ตอบรับ แต่ก็ไม่ปฏิเสธนะคะ แล้วแฟนคลับก็แอบเห็นค่ะว่าทั้งสองขึ้นรถกลับไปด้วยกัน

     

    เรื่องราวความฟินของคู่นี้ยังไม่หมดค่ะ เยอะจริงๆ เชียว คราวนี้แฟนคลับตาดีสังเกตุเห็นค่ะ แฟนคลับมาดามฮีบอกว่าตัวมาดามไม่ชอบใส่เครื่องประดับ ไม่ว่าจะเป็นแหวน สร้อยคอ สร้อยข้อมือ หรือแม้กระทั่งนาฬิกา แต่เมื่องานรวมคู่ WGM ที่ผ่านมา มาดามใส่นาฬิกาค่ะ คงจะคิดว่าก็ปกติใช่ไหมล่ะคะ แต่แฟนคลับไม่ธรรมดาค่ะ ซูมภาพแล้วซูมภาพอีกบอกว่า นาฬิกาเรือนนี้ไม่เคยเห็นมาดามใส่มาก่อน เป็นเรือนใหม่แน่นอน ที่สำคัญมันอยู่ที่แบรนด์ค่ะ ROLEX เลยค่ะ~ เรื่องราคานี่ไม่ต้องบอกก็รู้กันอยู่ว่าแพงขนาดไหน ไม่รู้ว่าซื้อเองหรือใครซื้อให้

     

    อ้าว~! แล้วมันฟินตรงไหนล่ะ ก็ตรงที่บอสเกิงเองก็ใส่นาฬิกาแบรนด์นี้น่ะสิคะ คราวนี้พี่อินนาเลยไปคุยกับแฟนคลับของบอสเกิงที่ติดตามผลงานด้านบันเทิงของบอสมาค่ะ เขาบอกว่า บอสใส่นาฬิกาแบรนด์นี้เป็นประจำอยู่แล้ว ธรรมดาจะใส่แบบเดินตลอดแต่งานที่ผ่านมาแฟนคลับส่องแล้วส่องอีกบอกว่าไม่เคยเห็นเรือนนี้เลย ดูท่าจะเป็นเรือนใหม่แถมดีไซต์ยังคล้ายกับของมาดามฮีค่ะ

     

    จะบอกว่าบังเอิญก็ดูจะบังเอิญเกินไปหน่อย หรือว่านาฬิกาที่มาดามใส่จะเป็นของฝากจากอังกฤษที่บอสซื้อมาให้กันแน่นะ แต่แหม... จากที่พี่อินนาเล่าๆ มาก็มีโอกาสสูงนะคะที่จะรักนอกจอกัน อันนี้คงจะต้องรอลุ้นกันต่อไปว่ารักในจอของ 'บอสเกิงมาดามฮี' จะกลายเป็นรักนอกจอไหม






    ย่านชินชอน-ฮงแด เป็นย่านสำคัญอีกย่านหนึ่งของโซลเพราะอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยฮงอิซึงเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยวัยรุ่น และคนหนุ่มสาว มีทั้งร้านขายของ ตลาด ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ผับอยู่มากมายเรียงรายกันเต็มสองข้างทาง ยิ่งช่วงวันสุดสัปดาห์ย่านนี้จะยิ่งคึกคักกว่าเดิมเพราะจะมีตลาดเปิดหรือที่เรียกกันว่าตลาดกลางแจ้งซึ่งจะมีทุกวันเสาร์ แต่เนื่องจากวันนี้ไม่ใช่วันสุดสัปดาห์และไม่ใช่เวลาเย็นผู้คนจึงยังค่อนข้างบางตาอยู่มาก ร้านกาแฟ Our’s (아워스) ที่ตั้งอยู่ในย่านชินชอนถูกเลือกให้เป็นสถานที่ถ่ายทำรายการ we got married ทีมงานจึงเข้ามาพูดคุยและเตรียมตัวกันตั้งแต่ร้านเปิด

     

    ช่วงเวลาเกือบสิบโมงรถสปอร์ตสีขาวของหานเกิงก็แล่นมาจอดบริเวณหน้าร้านก่อนจะเดินเข้าไปในร้าน ร่างสูงเอ่ยทักทายทีมงานก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะตามที่ทีมงานบอก ภายในร้านกาแฟ Our’s นั้นตัวร้านเป็นสีครีม ตกแต่งด้วยไม้เกือบทั้งหมดทั้งเคาน์เตอร์สั่งเครื่องดื่ม โต๊ะ อีกทั้งยังมีตู้หนังสือที่ทำจากไม้สีอ่อนตั้งไว้มากมาย เนื่องจากร้านนี้อยู่ในย่านชินชอน-ฮงแด ซึ่งมีนักศึกษาเยอะร้าน Our’s จึงเหมาะสำหรับกลุ่มนักศึกษาที่ต้องการมานั่งอ่านหนังสือ เพราะมีมุมเงียบๆ ที่มีม่านกั้นไว้เพื่อความเป็นส่วนตัว บรรยากาศภายในร้านนั้นดูอบอุ่น อีกทั้งยังมีการตั้งต้นซากุระปลอมไว้เป็นจุดๆ เสริมสร้างบรรยากาศให้ดียิ่งขึ้น

     

     

     

     

     

    ไม่นานหลังจากที่หานเกิงมาถึงประตูร้านก็เปิดอีกครั้ง ฮีชอลส่งทักทายทีมงานก่อนจะเดินไปหาหานเกิงที่โต๊ะ

     

    "มานานรึยังครับ" ฮีชอลถามพร้อมกับนั่งลงที่โซฟาหนังสีครีมตรงข้ามกับชายหนุ่ม "ผมมาสายตลอดเลย"

     

    "ไม่หรอก พี่พึ่งมาถึงได้ไม่นานเอง แล้วทานอะไรมารึยัง สั่งอะไรทานหน่อยไหม" หานเกิงส่งยิ้มให้กับฮีชอล

     

    "ก็ดีครับ ผมเคยมาร้านนี้ครั้งสองครั้ง แซนด์วิชร้านนี้อร่อยนะครับ เดี๋ยวผมไปสั่งให้นะ" พูดจบฮีชอลก็ลุกไปสั่งแซนด์วิชและเครื่องดื่มให้กับหานเกิง

     

    ไม่นานแซนด์วิชทูน่ากับแซนด์วิชแฮมหน้าตาน่าทานก็มาเสิร์ฟที่โต๊ะพร้อมกับกาแฟ อีกทั้งยังมีคุกกี้จัดใส่จานกระเบื้องจานเล็กมาด้วย

     

    "พี่เกิงลองทานดูนะครับ อร่อยจริงๆ นะ" ฮีชอลพูดก่อนจะหยิบแซนด์วิชที่ตัดเป็นชิ้นเล็กๆ ขึ้นมาป้อนให้หานเกิง

     

    "ขอบคุณครับ" ยิ้มรับก่อนจะขยับไปกัดแซนด์วิชที่ฮีชอลป้อนให้ "อร่อยจริงด้วย ฮีชอลก็ทานเยอะๆ นะ"

     

    "มิชชั่นครับ" ทีมงานส่งซองจดหมายให้กับฮีชอลหลังจากที่ทั้งสองคนทานแซนด์วิชเรียบร้อยแล้ว มือเรียวเอื้อมมารับก่อนจะเปิดซองแล้วหยิบการ์ดที่อยู่ด้านในออกมาอ่าน


     


    "หาบ้านที่เหมาะสำหรับคู่รักของคุณ" ฮีชอลอ่านข้อความที่อยู่บนการ์ด "หาบ้านหรอครับ?"

     

    "ครับ หาบ้านที่เหมาะกับพวกคุณ ไปเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์สำหรับบ้านใหม่ก่อนที่จะย้ายเข้าไปอยู่ในบ้าน ซึ่งคู่ของคุณเป็นพาร์ทชาย-ชาย และเป็นคู่หลักของรายการ จึงต้องย้ายไปอยู่ตลอดช่วงที่ยังทำการถ่ายทำอยู่ครับ" ทีมงานอธิบาย

     

    "หมายความว่าตอนกลางคืนก็ต้องนอนที่บ้านนั้นตลอดหรอครับ" หานเกิงถามพลางหันมองคนทีานั่งอยู่ตรงข้ามกับตน

     

    "ใช่ครับ นอกจากมีเรื่องจำเป็นจริงๆ รายละเอียดในช่วงเข้าไปอยู่ในบ้านทางเราจะแจ้งอีกทีครับ"

     

    "ครับ" หานเกิงพยักหน้ารับรู้ก่อนจะหันมาหาฮีชอล "อยากได้บ้านแบบไหนเป็นพิเศษรึเปล่า แบบอพาร์ทเม้นท์ บ้านแบ่งเช่า หรือบ้านเดี่ยว"

     

    "อือ... ถ้าจากใจผมเลย ผมอยากได้บ้านเดี่ยวชั้นเดียวนะครับ แล้วพี่เกิงละ"

     

    "พี่ก็ชอบบ้านเดี่ยวเหมือนกัน ถ้ามีสวนอยู่รอบบ้านด้วยก็คงจะมีไม่น้อย"

     

    "แต่ถ้าอยู่ห่างจากคังนัมมากก็ไม่ดีนะครับ เพราะบริษัทพี่อยู่คังนัมถ้าอยู่ไกลคงจะลำบากแล้วก็เดินทางเหนื่อยแย่เลย" ฮีชอลพูดต่อ

     

    หานเกิงพยักหน้า "แล้วเราล่ะ อยู่แถวไหนจะเดินทางสะดวก"

     

    "ผมไม่มีปัญหาหรอกครับ เดินทางหลายที่ยังไงก็ได้หมด ช่วงนี้พี่ฮีจินก็ไม่ค่อยรับงานมากเท่าไหร่หรอกครับ"

     

    "อย่างนั้นเราไปถามที่บริษัทหาบ้านก่อนแล้วกัน ค่อยตัดสินใจกันอีกที" หานเกิงพูดก่อนจะลุกขึ้นยืนพร้อมๆ กับฮีชอลก่อนที่ทั้งสองคนจะเดินออกจากร้านไป

     

    หานเกิงเปิดประตูรถสปอร์ตสีขาวของตนให้ฮีชอลขึ้นไปนั่งก่อนจะเดินอ้อมกลับมาฝั่งคนขับ ส่วนทีมงานนั่งรถตู้อีกคันตามไป ร่างสูงขับรถไปตามเส้นทางเพื่อไปยังบริษัทสำหรับจัดหาบ้านสำหรับเช่าหรือซื้อขาย ทั้งสองคนเดินเข้าไปในอาคารพาณิชย์ที่เป็นที่ตั้งของบริษัท ทักทายพนักงานที่เดินมาต้อนรับ

     

    "ผมอยากหาบ้านเช่าน่ะครับ" หานเกิงแจ้งความต้องการกับพนักงาน

     

    "เชิญนั่งก่อนค่ะ" พนักงานเชื้อเชิญคนทั้งสองให้นั่งลง "อยากได้เป็นแบบไหนคะ คอนโด อพาร์ทเม้นท์ บ้านแบ่งเช่า บ้านเดี่ยว"

     

    "อยากได้เป็นบ้านเดี่ยวครับ แบบหลังไม่ใหญ่มากแล้วก็มีพื้นที่สวนรอบๆ บ้าน" หานเกิงตอบ

     

    "เป็นแบบชั้นเดียว หรือสองชั้นดีคะ" สอบถามต่อพลางหยิบแฟ้มที่เก็บข้อมูลมาเปิดเพื่อให้ทั้งสองคนเลือกดู

     

    "อยากได้เป็นชั้นเดียวครับ แล้วก็อยู่ในเขตคังนัมหรือไม่ก็ไม่ห่างจากคังนัมมากนัก พอจะมีไหมครับ" เป็นฮีชอลที่เอ่ยตอบ

     

    "ถ้าเป็นบ้านเดี่ยวในคังนัมเลยนี่มีน้อยค่ะเพราะอย่างที่ทราบกันว่าราคาที่ดินค่อนข้างสูงมาก แต่ถ้าในเขตซอโจก็พอมีค่ะ จะลองดูไหมคะ ดิฉันจะได้เอาเอกสารให้ดู" พนักงานถาม

     

    "ครับ รบกวนด้วยครับ" หานเกิงตอบรับ

     

    พนักงานหญิงลุกเดินไปส่วนด้านหลังก่อนจะเดินออกมาพร้อมกับแฟ้มข้อมูลในมือ เปิดบรรดารูปบ้านแต่ละหลังให้ทั้งสองคนดู แต่เนื่องจากประเทศเกาหลีใต้เป็นประเทศที่มีพื้นที่ไม่เยอะนักอีกทั้งราคาค่าที่ดินค่อนข้างสูงทำให้มีบ้านเดี่ยวค่อนข้างน้อยถ้าเทียบกับพวกคอนโดหรืออพาร์ทเม้นท์

     

    "พี่เกิงมีชอบหลังไหนบ้างไหมครับ" ฮีชอลถามชายหนุ่มที่กำลังเปิดข้อมูลบ้านแต่ละหลังดู

     

    "อื้อ... พี่ชอบหลังนี้นะ" เลื่อนรูปและข้อมูลให้ฮีชอลได้ดู "หลังไม่เล็กแล้วก็ไม่ใหญ่มาก มีสวนด้วย แต่คงต้องไปดูของจริงกันก่อน แล้วเราล่ะชอบหลังไหน"

     

    "ผมก็ชอบหลังนี้เหมือนกันครับ ใจตรงกันเลย"

     

    "อย่างนั้นขอไปดูหลังนี้หน่อยนะครับ" หานเกิงหันไปพูดกับพนักงาน






    รถสปอร์ตสีขาวแล่นมาจอดบริเวณใกล้อาคารพาณิชย์ที่ก่อสร้างด้วยอิฐสีน้ำตาล หานเกิงและฮีชอลก้าวลงจากรถไปยืนอยู่ข้างพนักงานจากบริษัทจัดหาบ้านเช่าที่กำลังอธิบายลักษณะของตัวบ้านอยู่ บริเวณที่รถสปอร์ตของหานเกิงจอดอยู่นั้นมีพนักที่ก่ออิฐฉาบปูนทาสีอย่างดีและประตูขนาดใหญ่ซึ่งเป็นส่วนที่จอดรถซึ่งสามารถจอดรถได้สองคัน ด้านข้างกำลังกำแพงที่จอดรถนั้นมีบันไดหินซึ่งเมื่อเดินขึ้นไปจะพบกับประตูรั้วบ้านที่ทำจากไม้สูงประมาณ 1 เมตร ซึ่งส่วนที่เปรียบเสมือนหลังคาของที่จอดรถนั้นมีบ้านหลังขนาดกระทัดรัดมองภายนอกเป็นบ้านชั้นเดียวสร้างไว้อย่างสวยงาม รอบๆ บ้านเต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่สร้างความร่มรื่นได้อย่างมาก

     

    ทั้งหานเกิงและฮีชอลเดินดูรอบๆ บ้านด้วยความสนใจและความพึงพอใจเป็นอย่างมาก บ้านก่ออิฐฉาบปูนทาสีขา หลังคาทรงจั่งมุงด้วยกระเบื้องหลังคาสีเทา ตามเสาแต่ละต้นติดทับด้วยกระเบื้องหินสีน้ำตาลอมเทา

     

     

     

     

     

    "ว้าว... มีชั้นลอยด้วย" ฮีชอลร้องออกมาอย่างตื่นเต้นเมื่อได้เดินเข้ามาดูในบ้าน

     

    พื้นบ้านปูด้วยไม้สำเร็จรูปสีสวย ตัวเสาเองก็เป็นไม้ ผนังภายในทาด้วยสีขาวมองดูแล้วอบอุ่นสบายตา เมื่อพ้นประตูหน้าบ้านมาทางขวามือจะเป็นส่วนนั่งเล่นซึ่งมีตู้โชว์ไม้เตี้ยๆ ตั้งอยู่ ทางด้านซ้ายมือนั้นเป็นส่วนรับประทานอาหาร ถัดเข้าไปอีกนิดจะเป็นส่วนครัวและห้องน้ำ ที่ริมผนังตรงข้ามกับประตูทางเข้ามีบันไดเพื่อขึ้นไปยังชั้นลอยซึ่งอยู่เหนือบริเวณส่วนรับประทานอาหารและครัว เป็นพื้นที่สำหรับนอน เมื่อขึ้นไปข้างบนและมองลงมาจะเห็นส่วนนั่งเล่นได้อย่างชัดเจน

     

    "ฮีชอลว่ายังไงบ้าง" หานเกิงถามหลังจากที่ภรรยาคนสวยเดินลงมาจากชั้นลอยแล้ว

     

    "ผมชอบหลังนี้นะครับ หลังไม่เล็กแต่ก็ไม่ใหญ่จนเกินไป อีกอย่างผมชอบที่เขาใช้ไม้มาตกแต่งแบบนี้ด้วย ดูอบอุ่นดีครับ พี่เกิงว่ายังไงละครับ"

     

    "พี่ก็ชอบนะ ถูกใจมากเลยล่ะ ถ้าอย่างนั้นเอาหลังนี้แล้วกันนะ" หานเกิงหันไปคุยกับพนักงานเรื่องเซ็นสัญญาเช่า ก่อนที่จะให้ฮีชอลมาเซ็นชื่อเป็นเจ้าของบ้านร่วมกันกับตัวเขา

     

    "บ้านของผมกับพี่เกิงสวยใช่ไหมครับ เดี๋ยวเราจะไปเลือกเฟอร์นิเจอร์มาตกแต่งบ้านหลังนี้กันครับ ผมชักจะตื่นเต้นแล้วสิ" ฮีชอลเดินมาพูดกับกล้องที่ทีมงานเดินตามถ่ายอยู่ระหว่างรอให้หานเกิงจัดการเรื่องเอกสารสัญญาเช่า

     

    "ครับ บ้านน่ารักมาก ดูเหมาะกับพวกคุณดี" ทีมงานแสดงความคิดเห็น

     

    "ผมก็คิดว่าอย่างนั้นเหมือนกันครับ ดูเหมือนพี่เกิงจะคุยเรื่องสัญญาเสร็จแล้วล่ะครับ" ฮีชอลพูดก่อนจะหันไปหาชายหนุ่มร่างสูงที่เดินเข้ามาหา "เรียบร้อยแล้วหรอครับ"

     

    หานเกิงยิ้ม มือหนายกขึ้นวางที่เอวบางของฮีชอล เหมือนเป็นการโอบกลายๆ "เรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวไปดูเฟอร์นิเจอร์กันต่อ"

     

    "โอเคครับ อย่างนั้นเราไปกันเลยดีกว่าครับ" ต้นประโยคพูดกับหานเกิงส่วนท้ายประโยคนั้นหันมาพูดกับกล้อง ก่อนที่ร่างสูงของบอสใหญ่จะเดินจูงมือมาดามคนสวยให้ออกจากบ้านไป โดยที่ทีมงานยืนถ่ายภาพนั้นตามหลังไป

     

     

    … TBC …

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×