คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : WGM... 14 ...
F.GC
ตอนที่แล้วฟินกันไหม?? ตอนนี้ก็ฟินกันเหมือนเดิมนะคะ แต่แอบมีการเผยถึงตัวละครที่จะออกมาในตอนต่อๆ ไปด้วยค่ะ อ่ะๆๆ ไม่มีตัวละครที่จะเข้ามาแทรกกลางระหว่างบอสและมาดามค่ะ แต่เป็นตัวละครที่จะเข้ามาสร้างทำปั่นป่วนให้บอสได้เครียดและเป็นห่วงมาดามเฉยๆ ค่ะ หลังจากนี้ทุกคนก็จะได้เห็นบอสในลุคใหม่ ที่จะทำให้หัวใจของมาดามเหนื่อยเพราะเต้นแรงแน่นอนค่ะ ไปฟินกันต่อเลยค่าาาา
> #บอสเกิงมาดามฮี <
… 14 …
วันนี้เป็นวันคริสต์มาส วันที่ใครหลายต่อใครคนต่างชื่นชอบรวมไปถึงนางพญาแห่งวงการบันเทิงด้วย เพราะจะเป็นวันที่มีการเฉลิมฉลองกันอย่างเต็มที่ ตามท้องถนนก็ประดับไปด้วยไฟสวยงาม หิมะที่โปรยปรายลงมายิ่งเสริมให้บรรยากาศในวันนี้คึกคักและสดใส ฮีชอลขยับตัวกลิ้งไปกลิ้งมาบนที่นอนกว้างอย่างคนไม่อยากจะลุกขึ้น
คนสวยเงยหน้ามองทีมงานที่กำลังนั่งถ่ายอยู่ข้างที่นอนพร้อมกับส่งยิ้มให้กล้องก่อนจะฟุบหน้าลงกับตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ต่อ
"ยังง่วงอยู่หรอครับ" ทีมงานเอ่ยถามพลางยิ้มขำกับท่าทางของดาราดังที่ตอนนี้แทบจะทิ้งมาดหยิ่งๆ ของนางพญาไปหมดแล้ว
"อากาศมันหนาว จนผมไม่อยากจะลุกจากที่นอนเลยครับ" ฮีชอลกอดตุ๊กตาหมีที่หานเกิงซื้อมาให้
"แล้วคุณหานเกิงละครับ"
คนที่นอนอยู่ขยับตัวลุกขึ้นนั่ง "วันนี้วันคริสต์มาส แต่พี่เกิงมีประชุมด่วนเลยออกไปตั้งแต่เช้าแล้วครับ จริงสิ... ผมจัดอีเว้นท์ให้พี่เกิงเพื่อตอบแทนที่พี่เขาจัดให้ผมดีกว่า"
ว่าแล้วก็รีบยันตัวลุกจากที่นอนแล้วเดินลงบันไดไปที่ชั้นล่าง "แต่ผมมีเวลาไม่เยอะเท่าพี่เกิง อือ... ขอยืมแนวความคิดของพี่เกิงแล้วกันนะครับ"
ฮีชอลที่อยู่ในชุดเสื้อแขนยาวสีเขียวลายดอกไม้ทั้งตัวและกางเกงขายาวเดินไปฝั่งครัวซึ่งมีห้องเก็บของเล็กๆ อยู่ ก่อนจะยกเอากล่องกระดาษที่ใส่อุปกรณ์ที่หานเกิงใช้ในการจัดงานครบรอบ 100 วันออกมา
"คุณกงยู สวัสดีครับ ผมฮีชอลนะครับ" ฮีชอลกดโทรศัพท์โทรออกหาช่างภาพหนุ่มก่อนจะแจ้งถึงจุดประสงค์ในการโทรหาทันที "คุณกงยูช่วยส่งไฟล์ภาพของผมกับพี่เกิงมาให้ผมทีได้ไหมครับ ผมจะเอาไปอัดแล้วก็เอามาจัดงานวันคริสต์มาสน่ะครับ ขอบคุณมากเลยนะครับคุณกงยู ขอบคุณครับ"
หลังจากที่วางสายจากกงยูแล้ว ดาราดังก็เดินไปเปิดโน้ตบุ๊คที่วางอยู่บนโต๊ะกาแฟหน้าโซฟาเพื่อเช็คไฟล์รูปที่กงยูบอกจะส่งให้ทันที มือเรียวคว้าเอา iPhone ที่พึ่งไปซื้อมาใหม่(พร้อมกับพี่เกิง) มากดโทรออกอีกรอบ "ฮีจิน ว่างไหมไปซื้อของด้วยกันหน่อยสิ จะไปซื้อต้นคริสต์มาส จะจัดเซอร์ไพรส์ให้พี่เกิง อื่อ... งั้นไปเจอกันที่นั่นนะ"
"จะจัดงานทันไหมครับ คุณหานเกิงจะกล้บมากี่โมงครับ" ทีมงานถามด้วยความเป็นห่วง
"อ่า... จริงด้วยสิ แต่ไม่เป็นไรครับ ผมมีตัวช่วย" ฮีชอลพูดพร้อมกับชูโทรศัพท์ให้ดูก่อนจะกดโทรออกอีกรอบ "สวัสดีครับคุณมินโฮ ... ผมมีเรื่องอยากจะขอความช่วยเหลือหน่อยครับ คุณมินโฮช่วยดึงพี่เกิงไว้ที่บริษัทหน่อยได้ไหมครับ ผมจะจัดเซอร์ไพรส์ให้ ค่ำๆ ค่อยให้พี่เกิงกลับมาบ้าน ... ขอบคุณนะครับคุณมินโฮ"
ฮีชอลหันมายิ้มใส่กล้องเป็นเชิงบอกว่าทุกอย่างเรียบร้อย ก่อนจะเดินไปเตรียมตัวเพื่อออกไปซื้อของสำหรับจัดงาน ฮีชอลนั่งรถตู้ซึ่งเป็นรถของทางรายการแทนที่จะขับรถไปเอง เมื่อถึงห้างสรรพสินค้าที่นัดกับพี่สาวของตนไว้ก็รีบตรงไปยังร้านอัดรูปทันที
"จะซื้ออะไรบ้างล่ะ" ฮีจินถามเมื่อเดินมาเจอน้องชายของตน
"ต้นคริสต์มาส ว่าจะซื้อไปตั้งที่บ้าน แล้วก็เอาไฟไปพันต้นไม้ที่อยู่นอกบ้านด้วย" ฮีชอลบอก
"คิดไงจะจัดงานวันคริสต์มาส ธรรมดาวันนี้จะเอาแต่นอนไม่ใช่รึไง" ฮีจินมองน้องชายของตนอย่างไม่เชื่อสายตา ในทุกๆ วันคริสต์มาสหรือวันหยุดเทศกาลถ้าไม่ใช่งานสำคัญจริงๆ คิม ฮีชอลน้องชายของเธอจะไม่รับงานแล้วนอนอยู่บ้านทั้งวัน แต่วันนี้กลับลุกมาจัดงาน น่าแปลก จะบอกว่าอยู่ในรายการก็ไม่ใช่ประเด็น เพราะคนอย่างคิม ฮีชอลไม่สนใจอยู่แล้วว่าจะอยู่ในรายการรึเปล่า
"วันนี้พี่เกิงต้องไปประชุมที่บริษัท ก็เลยอยากจะทำอะไรให้เขาหน่อย เพื่อตอบแทนที่พี่เขาจัดการครบรอบ 100 วันให้ด้วย" ฮีชอลบอกเหมือนกับไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก
"ฮั่นแหน่! ใช่เร้อออ น้องชายฉันสงสัยจบรายการได้สามีเป็นตัวเป็นตนแน่ๆ คนนี้ก็ดีนะ หล่อ รวย ใจดีสปอร์ตสุดๆ พ่อกับแม่ก็ปลื้ม~~~" ฮีจินแกล้งแซวทันที
"อย่ามาเวอร์น่า ไม่ได้มีอะไรสักหน่อย ก็รู้ไม่ใช่รึไงว่ามันมีสคริปน่ะ" ฮีชอลพูดพร้อมกับเลือกดูต้นคริสต์มาสปลอม
"คนที่ทำตามสคริป กับทำตามความรู้สึกน่ะมันต่างกันนะ เหมือนอย่างนายตอนนี้ไง ฉันไม่เชื่อหรอกว่ามีสคริป นายกำลังทำมันจริงๆ จากความรู้สึก เหมือนที่คุณหานเกิงทำยังไงล่ะ สคริปบ้าอะไรจะลงทุนไปไหม" ฮีจินยืนมอง "รายการคงจ่ายจนเป็นหนี้บานกับคู่ของนาย ไหนจะตอนที่คุณหานเกิงไปส่งที่จีน ตั๋วเฟิร์สคลาสนะไม่ใช่ถูกๆ ไหนจะงานครบรอบ 100 วัน เหมาลำให้ทั้งทีมงานกองละคร แกคิดว่ามันแค่ล้านสองล้านวอนรึไง"
"ก็..." คิม ฮีชอลเถียงไม่ออกจริงๆ เพราะสิ่งที่ยืนยันตอนนี้ได้ก็คือตัวเขาเอง ตัวเขาที่มายืนเลือกของไปจัดงานโดยทุกอย่างเป็นความตั้งใจ ไม่ได้มีสคริปแต่อย่างใด สุดท้ายเมื่อเถียงไม่ออกก็เลยหันกลับไปเลือกของต่อเหมือนเดิม
หลังจากที่เลือกซื้อของตามที่ต้องการครบหมดแล้วก็เดินกลับไปขึ้นรถของทางทีมงานที่จอดอยู่บริเวณลานจอดรถด้านนอก ฮีชอลเลิกคิ้วมองเมื่อเห็นกระดาษเสียบเอาไว้ที่ไม้ปัดน้ำฝนจึงเดินไปหยิบออกให้ แต่ก็ต้องชะงักทันทีที่เห็น ตากล้องที่เดินตามถ่ายก็รีบหยุดกล้องทันทีที่เห็นภาพในมือของฮีชอล
"อะไรกัน!" ฮีจินร้องอย่างตกใจ กระดาษที่เห็นนั้นแท้จริงแล้วคือภาพคู่ของฮีชอลและหานเกิงที่ถ่ายด้วยกัน แต่ที่ใบหน้าของฮีชอลนั้นมีน้ำหมึกสีแดงขีดวนจนเละไปหมด แถมยังมีตัวอักษรสีแดงเขียนไว้ข้างๆ ว่าให้เลิกยุ่งกับหานเกิงซะ
ตากล้องรีบโทรตามเพื่อนร่วมงานที่เป็นคนขับรถมาทันที "เห็นไหมว่าใครเป็นคนเอากระดาษมาเสียบไว้"
"ไม่เลย แต่ผมพึ่งออกจากรถไปไม่นานเอง ไปเข้าห้องน้ำมา เมื่อสักสิบนาทีก่อนได้" ทีมงานตอบ
"งั้นแสดงว่าคงเอามาเสียบไว้ตอนที่นายไม่อยู่ คงคอยตามดูอยู่ตลอดเลยละสิเนี่ย" ฮีจินพูดเสียงเครียดก่อนจะหันไปมองน้องชายของตน "เอายังไง แจ้งความไหม หรือจะบอกคุณหานเกิงดี"
ฮีชอลพักรูปนั้นใส่กระเป๋าเอาไว้ "ไม่ต้องหรอก คงพวกซาแซง แค่ขู่เล่นๆ ฉันไม่อยากทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่โต ทุกคนก็เงียบกันไว้แล้วกันนะ ไม่ต้องบอกใคร"
"แต่ว่าคุณฮีชอล..."
"เถอะครับ ใช่ว่าผมจะไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ อีกอย่างวันนี้วันดีด้วย ผมไม่อยากให้เรื่องแบบนี้มาทำลายบรรยากาศ เรากลับกันดีกว่าครับ เดี๋ยวผมจะไปจัดงานไม่ทัน" ฮีชอลพูดก่อนจะเดินขึ้นรถไป ทีมงานเลยจำต้องปล่อยเลยตามเลย
ร่างสูงสมส่วนของท่านประธานหนุ่มดันประตูห้องทำงานของตนให้เปิดออกก่อนจะเดินเข้าไปในห้อง จัดการถอดเสื้อสูทที่สวมอยู่แขวนเอาไว้ที่มุมห้อง คลายเนคไทและกระดุมเสื้อที่คอ การประชุมในวันนี้เคร่งเครียดเสียจนหานเกิงรู้สึกว่าพลังงานทั้งหมดได้ถูกสูบไปจนหมด การประชุมที่ยาวนานกว่า 5 ชั่วโมง
"หมดงานแล้วใช่ไหม ฉันจะกลับบ้านแล้ว" หานเกิงถามกับเลขาคนสนิทพร้อมเตรียมตัวกลับบ้านเต็มที่
"ค ครับ... ยังไม่ถึงเวลาเลิกงานเลยนะครับ" มินโฮรีบพูดทันที
หานเกิงก้มดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือ "ไม่เป็นไรมั้ง อีกไม่ถึงชั่วโมงเอง"
มินโฮเริ่มมีท่าทีอึกอักทันที พลางนึกไปถึงบทสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างเขาและมาดามที่โทรมาขอความช่วยเหลือ "คือ... พอดีผมพึ่งนึกขึ้นได้ว่ามีเอกสารที่บอสต้องอ่านน่ะครับ"
"พรุ่งนี้ก็แล้วกัน"
"แต่พอดีมันค่อนข้างด่วน เดี๋ยวผมไปเอามาให้ครับ" พูดจบก็รีบออกจากห้องไปทันที มินโฮหยิบเอกสารที้มีกำหนดจะต้องให้หานเกิงอ่านและเซ็นในของสัปดาห์หน้ามา ตั้งใจจะเอาไปให้บอสอ่าน ถ้ารู้เหตุผลที่ต้องทำแบบนี้ บอสคงไม่ใจร้ายจนเอาเรื่องแน่ๆ หรือถ้าจะเอาเรื่องเขาก็แค่ยกชื่อของมาดามมาอ้าง รับรอง หลุดคดีแน่ๆ
ส่วนคนที่นั่งอยู่ในห้องก็ชักสีหน้าหงุดหงิดนิดหน่อยก่อนจะปรับอารมณ์ให้เป็นปกติ ถึงแม้จะเหนื่อยแต่งานก็เป็นเรื่องสำคัญ แต่แทนที่วันคริสต์มาสแบบนี้จะได้ออกไปเที่ยวหรือฉลองกับคนที่บ้าน ดันต้องมานั่งทำงาน
แต่ก่อนที่จะเริ่มหงุดหงิดอีกรอบเพราะเลขาคนสนิทที่บอกจะเอาเอกสารด่วนมาให้อ่านยังไม่เข้ามาสักที ประตูห้องทำงานก็เปิดอีกรอบก่อนที่ร่างของคนที่กำลังบ่นถึงก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมหอบเอาเอกสารเข้ามา
"นี่ครับบอส สามแฟ้มนี้คือเอกสารที่บอสต้องอ่านด่วนครับ" มินโฮแยกแฟ้มออกเป็นสองกอง โดยดันกองแรกซึ่งเป็น 'เอกสารด่วน' ไปตรงหน้าชายหนุ่มที่นั่งอยู่อีกด้านของโต๊ะ เอกสารที่ว่าที่จริงแล้วคือเอกสารที่หานเกิงต้องเซ็นในวันพรุ่งนี้ ส่วนแฟ้มอื่นๆ คือของสัปดาห์หน้า เป็นแฟ้มที่มินโฮยังไม่ได้ตรวจเลยด้วยซ้ำ
ในการทำงานนั้น เอกสารทุกอย่างที่หานเกิงจะต้องเซ็นแต่ละฝ่ายต้องทำให้เสร็จล่วงหน้าก่อนถึงสองสัปดาห์ก่อนวันที่ท่านประธานต้องเซ็น เพื่อที่จะได้มีเวลาให้มินโฮและแทมินเลขาอีกคนตรวจสอบเอกสาร หากมีข้อผิดพลาดก็จะส่งไปให้แต่ละฝ่ายแก้ไข แล้วจึงนำมาเสนออีกรอบ และเพราะการทำงานที่รวดเร็วและทำงานล่วงหน้าแบบนี้จึงไม่ใช่เรื่องยากเลยที่บริษัทของหานเกิงจะประสบความสำเร็จในเวลาไม่นาน
หานเกิงนั่งอ่านและเซ็นเอกสารที่มินโฮบอกว่าด่วนโดยไม่ได้ติดใจและสงสัยอะไร และเพราะหานเกิงเป็นคนที่จะต้องอ่านเอกสารทุกบรรทัดก่อนที่จะลงชื่อเพราะฉะนั้นแฟ้มทั้งสามจึงสามารถยื้อเวลาให้มินโฮได้ค่อนข้างมาก หลังจากที่จัดการ 'เอกสารด่วน' ทั้งสามเสร็จก็หันไปคว้าแฟ้มอีกอันมาเปิดและเริ่มอ่านทันที มินโฮที่ไม่ได้ขยับออกจากห้องไปไหนและนั่งรอแฟ้มอยู่ในห้องนั้นเหลือบมองเวลาก่อนจะถอนหายใจอย่างโล่งอก เกือบหกโมงเย็นแล้ว หากบอสผิดสังเกตกับแฟ้มที่เหลือได้ก็ไม่เป็นอะไร เพราะกว่าจะกลับถึงบ้านก็คงค่ำๆ ซึ่งน่าจะพอให้มาดามที่โทรมาขอความช่วยเหลือจัดงานเซอร์ไพรส์เสร็จทัน
ไม่ทันไรสิ่งที่มินโฮคิดก็เป็นจริงเมื่อหานเกิงเงยหน้าขึ้นจากเอกสารตรงหน้าแล้วชูให้เลขาหนุ่มคนสนิทดูพร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เอาเรื่อง "มินโฮ เอกสารพวกนี้นายยังไม่ได้ตรวจสอบเลยนินา ฉันยังเห็นมีข้อผิดพลาดอยู่หลายที่เลย แล้วนายเอามาให้ฉันเนี่ยนะ"
คนที่คิดไว้แล้วว่าต้องโดนแน่ๆ ลุกขึ้นเดินไปหา "สงสัยผมจะหยิบแฟ้มผิดน่ะครับบอส"
หานเกิงจ้องมองอย่างจับผิดทันที "หยิบผิด นายเป็นคนสะเพร่าแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน คิดจะเล่นอะไรกันแน่ เอาเอกสารที่ยังไม่ต้องเซ็นมาให้ฉัน"
มินโฮรวบเอาเอกสารทั้งหมดมาถือไว้ "เลยเวลาเลิกงานมานานแล้วบอสกลับบ้านเถอะครับ เดินทางกลับบ้านดีๆ นะครับบอส!"
"อะไรของนาย"
"ผมขอโทษที่หลอกบอสครับ แต่ผมแค่ทำตามคำขอร้องของมาดาม ผมไม่ผิดนะครับ ผม ขอตัวครับ!" สารภาพออกมาแล้วก็รีบเผ่นออกจากห้องไปทันที ทิ้งให้บอสหนุ่มนั่งมองด้วยความงุนงง แล้วเมื่อเดินออกไปนอกห้องเพื่อหวังที่จะคุยให้รู้เรื่อง ก็ปรากฏว่ามินโฮหายไปแล้ว
"อะไรของเจ้านี่กันนะ" สุดท้ายก็ไม่ได้สนใจ แล้วเดินไปเข้าลิฟต์เพื่อลงไปชั้นล่าง พนักงานกลับกันเกือบหมดแล้วเพราะว่าเลยเวลางานมามากแล้ว พอคิดถึงตรงนี้ก็อดไม่ได้ที่จะหงุดหงิดเลขาของตนที่ถ่วงเวลาจนต้องกลับเย็นขนาดนี้ พรุ่งนี้เห็นทีจะต้องจัดการสักหน่อยแล้ว
รถคันหรูราคาแพงของท่านประธานหนุ่มเลี้ยวเข้าจอดในที่จอดรถของบ้าน ก่อนจะเดินขึ้นบันไดด้านหน้าไป ร่างสูงชะงักไปเล็กน้อยเมื่อหันกลับมาหลังจากปิดประตูรั้วแล้ว แสงไฟระยิบระยับตามต้นไม้ใหญ่ที่ปลูกไว้บริเวณสวนข้างบ้าน ตอนแรกที่เดินขึ้นมายังมืดอยู่เลย ร่างสูงยิ้มอย่างพอจะเดาได้ว่าเป็นฝีมือของใคร และก็เป็นอย่างที่คิดเมื่อเปิดประตูบ้านเข้าไปพบกับภรรยาคนสวยยืนต้อนรับอยู่พร้อมกับพลุกระดาษที่ถูกดึงจนเศษกระดาษเข้าหน้าเขาเต็มๆ เหมือนกับจงใจให้เป็นอย่างนั้น
เสียงหัวเราะคิกคักอย่างถูกใจของคนที่ได้กลั่นแกล้งดังขึ้น จนหานเกิงนึกอยากจะคว้าเอวบางนั้นมากอดฟัดให้หายหมั่นเขี้ยว แต่ก็ทำได้แค่นึกเท่านั้น
"Merry Christmas ครับพี่เกิง" เค้กช็อกโกแลตก้อนเล็กที่ตกแต่งหน้าเค้กให้เข้ากับเทศกาลถูกยื่นมาตรงหน้า มีเทียนเล่มเล็กปักเอาไว้ตรงกลาง
"คริสต์มาสมีเป่าเทียนขนมเค้กด้วยหรอ หือ?" หานเกิงถาม
"มี ไม่มี ผมไม่รู้ แต่ผมอยากกินเค้ก ก็เลยซื้อมาครับ" คำตอบที่เอาแต่ใจตัวเอง แต่ก็เรียกร้อยยิ้มจากหานเกิงได้เป็นอย่างดี ชายหนุ่มจึงก้มลงเป่าเทียนที่ปักอยู่จนดับ แล้วเดินตามการจับจูงของฮีชอลเข้าไปด้านใน
ลูกบอลคริสต์มาสถูกแขวนเอาไว้กับเชือกเกลียวสีน้ำตาล มีรูปที่ถูกไม้หนีบไม้หนีบเอาไว้เหมือนคราวที่หานเกิงจัดงาน แต่รูปที่หนีบไว้นั้นเป็นรูปคู่ของฮีชอลและหานเกิงที่ไปถ่ายแบบคู่รักวันคริสต์มาสด้วยกัน ต้นคริสค์มาสปลอมตั้งอยู่ข้างโต๊ะทำงานของท่านประธานหนุ่ม ซึ่งที่ต้นคริสต์มาสนั้นก็ประดับตกแต่งเอาไว้อย่างสวยงาม ตามตู้ไม้ก็ถูกประดับด้วยกิ่งของพืชสีเขียวสด นำมามัดประดับรวมกันคล้ายริบบิ้นเส้นใหญ่ ที่ประดับไปด้วยเหล่าเทพธิดาตัวน้อย ผลโอ๊ค และถุงเท้า
"เพราะแบบนี้หรอ พี่ถึงต้องถูกดึงตัวไว้ที่บริษัทน่ะหือ" หานเกิงยิ้มกับภาพตรงหน้า ชายหนุ่มเดินไปนั่งบนโซฟาโดยมีคนสวยนั่งอยู่บนที่วางแขน "ไปแอบผูกมิตรกับเลขาของพี่ตอนไหนเนี่ย"
ฮีชอลส่งเสียงประท้วงเบาๆ เมื่อถูกมือหนาเอื้อมมาบีบปลายจมูกโด่ง "ก็แค่โทรไปขอความช่วยเหลือเฉยๆ เองนะครับ พี่เกิงชอบไหม ผมคิดอะไรไม่ออกเลยทำเลียนแบบพี่"
"ชอบสิ ขอบคุณนะที่จัดเซอร์ไพรส์ให้แบบนี้ นึกว่าวันคริสต์มาสต้องหน้าเครียดทำแต่งานเสียอีก" มือหนาเลื่อนจากปลายจมูกโด่งมาเป็นมือนุ่มของอีกคนแทน
"เรื่องแค่นี้เองครับ เทียบกับที่พี่เกิงทำให้ไม่ได้เลย แล้วอีกอย่าง... ผมเต็มใจทำให้ครับ"
"พี่ก็เต็มใจทำให้ฮีชอลเหมือนกัน แล้วก็ขอบคุณจากใจจริงด้วยเช่นกันครับ" หานเกิงยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่ไม่ได้มีไว้ในการเจรจาธุรกิจ แต่มีไว้เพื่อฮีชอล และมันก็เป็นรอยยิ้มที่ทำให้ฮีชอลรู้สึกว่า... ตกหลุมรัก
ไม่ต้องมีการฉลองที่ใหญ่โตอะไร ไม่ต้องมีคนมากมายอยู่ด้วย แค่งานเล็กๆ ที่คนทำตั้งใจทำให้มันก็เพียงพอแล้ว วันนี้คือวันคริสต์มาสที่ดีที่สุดในชีวิตอีกวันหนึ่งของหานเกิง และฮีชอล ทั้งคู่ทานอาหารด้วยกัน พูดคุยกัน ยิ้มให้กัน แค่นั้นก็เพียงพอ
เป็นเวลาดึกมากแล้ว แต่คนทั้งสองก็ยังไม่หลับ เสียงพูดคุยดังมาจากชั้นลอย กล้องที่ติดอยู่ในบ้านก็หยุดการถ่ายไปแล้วเช่นกัน เป็นเวลาเกือบทุกวันที่ทั้งสองคนจะนั่งคุยกันในเวลาดึกเช่นนี้ ฮีชอลมักจะคอยถามและเป็นที่ปรึกษาในเรื่องงานให้กับหานเกิง ทั้งสองจึงมักจะคุยกันนอกรอบหลังกล้องหยุดทำงาน เพราะเรื่องงานของท่านประธานหนุ่มไม่เหมาะสมที่จะพูดคุยกันในระหว่างที่กล้องยังถ่ายอยู่
"ดึกมากแล้วละ นอนได้แล้วมั้ง" หานเกิงหันมองนาฬิกาที่ตอนนี้เข็มสั้นเลยเลขหนึ่งมาแล้ว
ฮีชอลล้มตัวลงนอนบนที่นอนอย่างว่าง่าย ตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ที่หานเกิงซื้อให้ยังอยู่บนที่นอนด้วยกัน โดยวางไว้ตรงกลาง และทั้งสองคนก็นอนกันคนละฝั่ง
"ฮีชอลชอบบ้านหลังนี้ไหม" ทั้งๆ ที่เป็นคนบอกให้นอน แต่เมื่อล้มตัวลงนอนแล้วก็ยังคงถามอีกคนต่อ
"ชอบครับ ชอบมากๆ เลยนะ" ฮีชอลกวาดสายตามองไปรอบๆ "ผมยังคิดเลยว่าอยากจะซื้อบ้านหลังนี้"
"ฮีชอล" หานเกิงเรียก เมื่ออีกฝ่ายตอบรับแล้วจึงพูดต่อ "ตลอดเวลาที่ผ่านมา สิ่งเดียวที่พี่คิดว่าพี่กำลังถ่ายรายการอยู่ก็คือ พี่มองเห็นกล้องและทีมงาน"
"ครับ..."
"แต่การกระทำ คำพูด หรืออะไรก็ตาม พี่ไม่คิดว่ามันคือรายการ พี่ยอมรับ แรกๆ พี่ทำในสิ่งที่คิดว่าคนดูจะชอบ แต่พอพี่ได้รู้จักฮีชอลมากขึ้น พี่ไม่ได้คิดจะทำในสิ่งที่คนดูจะชอบ แต่พี่ทำในสิ่งที่คิดว่าฮีชอลจะชอบนะ" หันกลับไปมองอีกคนซึ่งก็มองมาอยู่ก่อนแล้ว
มือหนายกขึ้นไล้เบาๆ ที่แก้มเนียน "พี่ก็ชอบบ้านหลังนี้เหมือนฮีชอลจนคิดอยากจะซื้อ ฮีชอลอยากมาอยู่กับพี่ไหม"
"ค ครับ?!"
"จากวันนี้ไปถ้ามีเวลาว่างก็ลองคิดดูนะ แล้วสักวันพี่จะทวงคำตอบของคำถามเมื่อกี้ใหม่ แล้วจากนี้ไป... ก็ตั้งตัวรับพี่ให้ดีๆ นะ"
อาศัยจังหวะที่คนอายุน้อยกว่ายังคงทำความเข้าใจกับคำพูดของตัวเองอยู่นั้น ใบหน้าหล่อก็เลื่อนไปใกล้ ปลายจมูกโด่งกดลงกับแก้มเนียนนั้นเบาๆ พร้อมกระซิบบอกฝันดี รอยยิ้มสุดท้ายที่ฮีชอลเห็นก่อนจะเลือกหลับตาลงคือรอยยิ้มที่บอกไม่ถูกว่ามันอ่อนโยน หรือเจ้าเล่ห์กันแน่...
… TBC …
ความคิดเห็น