ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    WE GOT MARRIED [GENGCHUL]

    ลำดับตอนที่ #10 : WGM... 10 ...

    • อัปเดตล่าสุด 21 ธ.ค. 57


    Radio ? Theme
    We got married

    F.GC

    วันอาทิตย์วนมาอีกรอบ ก็เป็นวันลงฟิค #บอสเกิงมาดามฮี เนอะ

    พี่เกิงกับน้องฮีชอลย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านด้วยกันแล้ววว จะเป็นยังไงนะ

    แอบบอกเลยว่าพี่เกิงของเรา(?)เนี่ย... หว้านนนน หวานนน แล้วก็น่ารักมากๆ ด้วย

    แอบใส่ความต้องการส่วนตัวลงไปในฟิคเรื่องนี้ คิดว่าถ้ามีผู้ชายมาทำแบบนี้ให้คงมีความสุขน่าดู

    หวังว่าทุกคนจะชอบนะคะ แล้วอย่ามาแวะบอกกันนะว่ารู้สึกยังไงกันบ้าง อิอิ

    > #บอสเกิงมาดามฮี <


     

    … 10 …

     

     

    ร่างสูงของท่านประธานหนุ่มรู้สึกตัวตื่นแม้ว่าท้องฟ้านั้นจะยังคงมืดอยู่ก็ตาม ชายหนุ่มกระพริบตาถี่ๆ เพื่อไล่อาการงัวเงียของคนพึ่งตื่นนอนให้หมดไปก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองคนที่นอนอยู่ข้างกาย ฮีชอลยังคงนอนหลับอยู่ ใบหน้าหวานสวยนั้นดูมีความสุขคงนอนฝันดีอยู่เป็นแน่ เป็นเวลากว่าสองสัปดาห์แล้วที่ทั้งหานเกิงและฮีชอลย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันในบ้านหลังนี้ แม้จะไม่ได้ทำภารกิจอะไรด้วยกันเท่าไหร่เพราะต่างฝ่ายต่างก็มีงานแต่แค่ความดูแลเอาใจใส่กันและกันก็ทำให้แฟนคลับที่ติดตามคู่นี้ถึงกับฟินและมีความสุขมากแล้ว

     

    นอกจากจะเป็นสองสัปดาห์ที่พวกเขาย้ายมาอยู่ด้วยกันแล้ว ยังเป็นสองสัปดาห์ที่หานเกิงรู้สึกมีความสุขในตอนเช้าเป็นอย่างมาก เพราะชายหนุ่มมักจะตื่นมานอนมองใบหน้ายามหลับใหลของภรรยาคนสวยอยู่ทุกวัน ในช่วงเวลาก่อน 5 นาฬิกาที่กล้องในบ้านจะทำงานหานเกิงจะตื่นขึ้นมาก่อนอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง และเขาจะใช้เวลาครึ่งชั่วโมงนี้มองฮีชอลเสมอ ก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำ เตรียมอาหารเช้าให้ทั้งตัวเองและภรรยาในช่วงเกือบๆ จะ 6 นาฬิกา

     

    แสงอาทิตย์ที่ส่องลอดผ่านหน้าต่างเข้ามาทำให้บอสเกิงที่ยังคงเพลิดเพลินกับการนอนมองฮีชอลขยับตัวอีกครั้ง หานเกิงหันมองนาฬิกาที่ตั้งเอาไว้บนโต๊ะเตี้ยข้างที่นอน ก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นจากที่นอนอย่างแผ่วเบาแล้วเดินเข้าไปในส่วนห้องน้ำ หลังจากที่จัดการธุระส่วนตัวเรียบร้อยชายหนุ่มก็เดินออกมาในชุดสูททำงาน ก่อนจะเดินลงไปข้างล่างก็เดินมาหยิบสมุดที่จดตารางงานของฮีชอลขึ้นมาดู

     

    นี่เป็นอีกกิจวัตรประจำวันอีกอย่างของหานเกิง เขามักจะดูตารางงานในแต่ละวันของฮีชอลในทุกๆ เช้าเพื่อที่จะได้เตรียมอาหารมื้อแรกของดาราดังได้อย่างถูกต้อง หากวันไหนที่มีงานเช้าก็จะทำอาหารอย่างพวกอเมริกันเบรคฟาสท์ หรือไม่ก็เตรียมพวกข้าวต้ม หรือซุปเอาไว้ให้

     

    "เมื่อคืนกว่าฮีชอลจะกลับมาก็คงดึกมากแล้ว อีกอย่างวันนี้เขาก็มีงานตอนบ่ายๆ ด้วยผมคิดว่าคงอีกนานเลยกว่าเขาจะตื่น" หานเกิงพูด ถึงแม้จะไม่มีทีมงานตามถ่ายเพราะยังเช้าอยู่มาก แต่ก็มีกล้องหลายตัวกำลังจับภาพของเขาอยู่ จากที่คิดในใจก็ต้องพูดสิ่งที่คิดออกมาเพื่อให้คนดูเข้าใจไปด้วย

     

    "ผมว่าจะทำข้าวต้มไว้ให้เขาทาน แต่คงทำใส่หม้อไว้ก่อนแล้วให้เจ้าตัวมาอุ่นทานอีกที ถ้าทำอาหารเช้าแบบอเมริกันคงได้ชืดหมดไม่อร่อยแน่"

     

    หานเกิงเตรียมวัตถุดิบที่จะใช้ในการทำข้าวต้มออกมา "ผมจะทำข้าวต้มหอยเป๋าฮื้อ ผมรู้มาว่าคนเกาหลีนิยมทานเพราะมีประโยชน์หลายอย่างเลย แต่ผมจะไม่ใส่แค่หอยเป๋าฮื้อนะครับ นี่..." ชูเนื้อหมูสับกับกล้องที่ติดตั้งอยู่ตรงเคาน์เตอร์ครัว "ผมจะใส่หมูสับไปด้วยครับ ไม่รู้ว่าฮีชอลจะชอบไหม"

     

    หลังจากที่ทำข้าวต้มหอยเป๋าฮื้อใส่หมูสับเสร็จ ร่างสูงก็ตักใส่ชามสำหรับตัวเอง ส่วนของฮีชอลนั้นยังคงอยู่ในหม้อบนเตาไว้ให้เจ้าตัวตื่นแล้วอุ่นทาน เป็นเวลาเกือบ 8 โมงเช้าแล้วที่หานเกิงเตรียมตัวออกไปทำงานแต่คนที่หลับอยู่ด้านบนก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่นง่ายๆ ชายหนุ่มจึงเขียนโน๊ตแปะเอาไว้แล้วจึงออกไปทำงาน

     

    เมื่อคืนกว่าฮีชอลจะกลับก็ดึกมากแล้ว ดึกเสียจนหานเกิงอยู่รอรับไม่ไหวเพราะในวันรุ่งขึ้นหรือก็คือวันนี้เขามีประชุมในช่วงเช้า ถ้าหากรอรับภรรยากลับบ้านคงประชุมไม่รู้เรื่อง เมื่อเห็นว่าเกือบเที่ยงคืนแล้วฮีชอลยังไม่กลับเขาจึงต้องไปนอน ถ้าหากเป็นวันอื่นๆ หรือวันที่ไม่ต้องรีบไปทำงานหานเกิงก็จะอยู่รอจนกว่าฮีชอลกลับบ้าน เช่นเดียวกันกับฮีชอลที่ถ้าวันไหนเจ้าตัวกลับมาก่อนแล้วหานเกิงมีนัดลูกค้าตอนค่ำ ก็จะอยู่รอจนท่านประธานกลับมาบ้านแล้วค่อยเข้านอนพร้อมๆ กัน

     

    เข็มนาฬิกาเลื่อนไปจนเกือบจะถึงเลข 12 คนที่นอนหลับสนิทอยู่บนที่นอนจึงเริ่มขยับตัว ฮีชอลดันตัวเองขึ้นจากที่นอนเดินงัวเงียเข้าไปอาบน้ำล้างหน้าล้างตา เพราะมีงานต่อในช่วงบ่ายคนสวยจึงหยิบชุดที่สามารถใส่ออกไปทำงานได้เลยโดยไม่ต้องเปลี่ยนมาใส่ กางเกงขาเดฟสีดำทำให้ขานั้นดูเรียวยาวยิ่งกว่าเดิม และเพราะเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวแล้วจึงเลือกหยิบเสื้อไหมพรมสีแดงเลือดนกมาใส่ ขับให้ผิวขาวดูขาวยิ่งขึ้น มือยกขึ้นเสยผมที่ชื้นนิดๆ ให้ออกไปพ้นหน้าพลางเดินกึ่งกระโดดลงบันไดมายังชั้นล่าง

     

    "หิวจังแหะ ทำอะไรกินดีนะ" บ่นกับตัวเองไปด้วย ร่างบางเดินเข้าไปในส่วนครัวเพื่อหาอะไรทานให้ท้องอิ่ม "หือ" เดินเข้าไปใกล้โต๊ะอาหารเมื่อเห็นมีชามวางอยู่บนโต๊ะพร้อมกับช้อนวางไว้ข้างๆ กัน

     

    มือหยิบกระดาษโน้ตแผ่นเล็กที่แปะอยู่บนโต๊ะขึ้นมาอ่าน

     

    ... พี่เห็นว่าฮีชอลกลับมาดึกแล้วก็คงตื่นช้าพี่เลยทำข้าวต้มหอยเป๋าฮื้อไว้ให้อยู่ในหม้อนะครับ ฮีชอลอุ่นทานได้เลยนะ ...

     

    ริมฝีปากอิ่มแย้มเป็นรอยยิ้มทันทีที่ได้อ่านข้อความบนกระดาษนั้น เดินไปเปิดฝาหม้อที่วางอยู่บนเตาดู ข้าวต้มหอยเป๋าฮื้อใส่หมูสับหน้าตาน่าทานส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลาย ฮีชอลจึงจัดการอุ่นข้าวต้มทาน

     

    เสียงกริ่งที่ประตูดังขึ้นเรียกให้ฮีชอลต้องละสายตาจากเตา ขาเรียวก้าวไปกดดูที่จอ LCD ก็พบว่าเป็นพี่สาวของตนและทีมงานที่มากดกริ่ง

     

    ฮีชอลเอ่ยทักทายกับทีมงานก่อนจะหันไปหาพี่สาวของตนปล่อยให้ทีมงานเดินไปเช็คกล้องที่ติดอยู่และเริ่มตามถ่ายตัวเอง

     

    "พึ่งตื่นรึไง" ฮีจินถาม

     

    "ใช่แล้วละ" ฮีชอลตอบก่อนจะเดินกลับเข้าไปในส่วนครัวเหมือนเดิมโดยมีทีมงานเดินถือกล้องตามไปถ่าย ส่วนฮีจินเดินไปนั่งที่โต๊ะอาหาร

     

    "ทำอะไรกินล่ะนั่น" ฮีจินถามพลางชะเง้อมองน้องชายของตัวเอง

     

    "ข้าวต้มหอยเป๋าฮื้อ พี่เกิงทำไว้ให้ตั้งแต่เช้าแล้วล่ะ จะกินด้วยกันไหมละ"

     

    "คุณหานเกิงนี่ดีจริงๆ เลยนะ น่าอิจฉาจริงๆ มีสามีดีขนาดนี้" คนเป็นพี่เอ่ยแซวทันที "อะไรเนี่ย ว๊ายย... คุณหานเกิงน่ารักสุดๆ มีเขียนโน้ตไว้ให้ด้วยอะ" ไม่พูดเปล่ายังมีการยื่นกระดาษโน้ตที่ว่าให้กล้องอีกตั้งหาก

     

    ฮีชอลได้แต่แอบมองค้อนพี่สาวของตน ถ้าหากไม่มีกล้องตามถ่ายอยู่ละก็... ฮีชอลไม่ปล่อยให้มาพูดล้อแบบนี้หรอกนะ!

     

    ฮีชอลตักข้าวต้มใส่ชามของตัวเองและตักให้พี่สาวด้วยอีกชามก่อนจะเดินไปเปิดตู้เย็นเพื่อรินน้ำแต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นแก้วที่มีน้ำผลไม้ใส่ไว้วางตั้งอยู่โดยมีกระดาษโน๊ตแปะเอาไว้ที่แก้ว

     

    ... น้ำผลไม้เย็นๆ ทำให้ร่างกายสดชื่นนะครับ ...

     

    หานเกิงกำลังทำให้ฮีชอลเขิน ขนาดตัวไม่อยู่ก็ยังไม่วายทำให้เขินจนได้ ถ้าเป็นแบบนี้บ่อยๆ ฮีชอลคงแย่

     

    หลังจากที่จัดการกับอาหารเช้าที่ทานตอนกลางวันเสร็จฮีจินก็ให้น้องชายไปเตรียมตัวออกไปทำงานโดยตัวเองอาสาจัดการล้างหม้อล้างชามให้เอง ดาราคนสวยจึงเดินขึ้นไปข้างบนอีกรอบเพื่อหยิบสมุดตารางงานและกระเป๋า

     

    กระดาษโน้ตแผ่นเล็กอีกแผ่นแปะอยู่บนโต๊ะข้างเตียงใกล้ๆ กับสมุดจดตารางงานของฮีชอล

     

    ... ตั้งใจทำงานนะครับ เดี๋ยวตอนเย็นพี่จะไปรับที่สตูนะ ดูแลตัวเองดีๆ ด้วยนะครับ เป็นห่วง ...

     

    ตั้งแต่ตื่นนอนมาฮีชอลยิ้มกี่รอบแล้วนะกับการกระทำเล็กๆ แต่ใส่ใจกันขนาดนี้ของหานเกิง





    ร่างบางของคิม ฮีชอลก้าวเดินเข้าไปในสตูดิโอพร้อมกับฮีจินและทีมงานจากรายการ we got married ที่ตามมาถ่ายด้วย วันนี้ดาราดังคนนี้มีถ่ายแบบเสื้อผ้าสำหรับฤดูหนาวลงนิตยสาร ฮีชอลเอ่ยทักทายทีมงานทุกคนก่อนจะเดินตามสไตล์ลิสเข้าไปในส่วนห้องแต่งตัวเพื่อแต่งหน้าทำผมเตรียมถ่ายแบบ

     

    ในระหว่างที่กำลังรอนางพญาแห่งวงการบันเทิงแต่งตัวอยู่นั้นร่างสูงโปร่งของนักธุรกิจหนุ่มอย่างหานเกิงก็เดินเข้ามาด้านในสตูดิโอที่เป็นสถานที่ถ่ายแบบในวันนี้ของฮีชอล

     

    "สวัสดีครับคุณกงยู" หานเกิงเอ่ยทักทายกับช่างภาพที่กำลังยืนเช็คกล้องอยู่

     

    "อ้าว..! คุณหานเกิง มาได้ยังไงครับเนี่ย" กงยูทักทายกลับอย่างสนิทสนมเมื่อหันมาเห็นชายหนุ่ม

     

    "พอดีผมมาหา..." ยังไม่ทันจะพูดจบประโยคฮีชอลก็เดินออกจากห้องแต่งตัวเสียก่อน

     

    "พี่เกิง" ฮีชอลส่งเสียงทักทายก่อนจะเดินตรงมาหา "กำลังคุยกันอยู่หรอครับพี่เกิง คุณกงยู"

     

    "ครับ คุณฮีชอล ผมกำลังถามอยู่เลยว่าคุณหานเกิงมาทำอะไรที่นี่"

     

    "ผมมาหาฮีชอลน่ะครับ มารอรับกลับบ้าน" หานเกิงตอบพร้อมกับรอยยิ้ม

     

    "คุณสองคนรู้จักกันด้วยหรอครับ" กงยูถามอย่างแปลกใจ

     

    ฮีชอลพยักหน้ารับ ส่วนหน้าที่ตอบคำถามก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของสามีต่อ "ครับ เราพึ่งแต่งงานกันน่ะครับ ออกรายการ we got married" อธิบายเพิ่มเติมเมื่อเห็นกงยูทำสีหน้าแปลกใจ

     

    "โอ้... จริงหรอครับ ช่วงนี้ผมไม่ได้ติดตามรายการโทรทัศน์เลย ยังไงก็ยินดีด้วยนะครับ" กงยูจับมือทั้งสองคนแสดงความยินดีทันที "น่าแปลกใจจริงๆ ที่คุณหานเกิงมาออกรายการนี้"

     

    "พี่เกิงกับคุณกงยูรู้จักกันมาก่อนหรอครับ" ฮีชอลถามหลังจากยืนมองคนทั้งสองพูดคุยกัน ดูสนิทสนมกันในระดับหนึ่ง

     

    "ครับ คุณหานเกิงเคยมาเป็นนายแบบให้ผมหลายครั้ง จริงสิ! คุณหานเกิงว่างใช่ไหมครับ ช่วยมาถ่ายแบบคู่กับคุณฮีชอบหน่อยได้ไหม"

     

    "ครับ? วันไหนหรอครับ"

     

    "วันนี้ ตอนนี้เลยครับถ้านิตยสารเล่มนี้วางแผงต้องขายดีมากแน่ๆ ถ้าคุณสองคนขึ้นปกคู่กัน"

     

    หานเกิงหันมองหน้าฮีชอลเป็นเชิงถามว่าจะยังไงดี ซึ่งภรรยาคนสวยก็พยักหน้ารับเพราะหลังจากวันแรกที่รู้ว่าจะได้ออกรายการคู่กับหานเกิง เจ้าตัวก็แอบสืบ ส่องประวัติของคุณสามี ได้ดูเทปบันทึกภาพงานเดินแบบหลายงานและนิตยสารที่หานเกิงได้ถ่ายแบบ ก็เห็นว่าหานเกิงมีความเป็นมืออาชีพมากๆ เหมือนกับเป็นนายแบบอาชีพ และนั่นก็ทำให้ฮีชอลคิดอยากที่จะร่วมงานถ่ายแบบกับหานเกิงสักครั้ง เมื่อมีโอกาสแล้วก็ต้องรีบคว้าเอาไว้ก่อน

     

    "ถ้าไม่มีปัญหาอะไร เรื่องเพิ่มตัวนายแบบ เสื้อผ้า ผมก็ไม่มีปัญหาอะไรเหมือนกันครับ" หลังจากได้รับการส่งสายตาเป็นคำตอบจากคุณภรรยาแล้วชายหนุ่มก็หันไปพูดกับกงยู

     

    "ขอบคุณมากครับ ยังไงคุณหานเกิงไปเปลี่ยนชุดทำผมก่อนเลยครับ เดี๋ยวจะได้เริ่มถ่ายกันเลย"

     

    ครึ่งชั่วโมงต่อมาหลังจากที่หานเกิงถูกทีมงานพาตัวไปแต่งหน้าทำผมก็ออกมาพร้อมกับชุดสำหรับเตรียมถ่ายนิตยสาร เพราะคอนเซ็ปวันนี้สำหรับฤดูหนาวชุดที่หานเกิงใส่จึงเป็นเสื้อโค้ทสีเทาที่สวมทับเสื้อคอเต่าสีแดงเลือดนก กางเกงขายาวสีดำ ชายหนุ่มเดินไปยืนคู่กับฮีชอลที่ยืนรออยู่ที่ฉากสำหรับถ่ายรูป ฮีชอลนั้นอยู่ในชุดเสื้อคอเต่าสีแดงสดสวมทับด้วยเสื้อกันหนาวตัวหนาสีดำ กางเกงขายาวสีดำ

     

    "ฮีชอลนี่เหมาะกับสีแดงจริงๆ ด้วยนะ" หานเกิงยิ้มพลางมองชุดที่อีกคนใส่ สีแดงช่วยขับให้ผิวของฮีชอลขาวยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม

     

    "พี่เกิงใส่สีเลือดนกก็เข้านะครับ หล่อมาก"

     

    กงยูที่เป็นช่างภาพส่งเสียงบอกให้ทั้งสองคนเตรียมตัวสำหรับการถ่ายแบบ โดยให้ฮีชอลยืนอยู่ด้านหน้าส่วนหานเกิงยืนซ้อนอยู่ด้านหลัง และให้ทั้งสองคนหันหน้ากันไปคนละทาง เพราะทั้งสองคนต่างก็เป็นมืออาชีพภาพที่ถ่ายด้วยช่างภาพมืออาชีพทำให้ภาพนั้นออกมาดูดีและสมบูรณ์เป็นอย่างมาก หลังจากถ่ายภาพเซ็ตที่หนึ่งเสร็จเรียบร้อยก็ต่อด้วยเซ็ตที่สองและสามต่อทันที

     

    "ขอรูปพิเศษหน่อยนะครับ" กงยูพูด "คุณฮีชอลยืนหันหน้าเข้าหาคุณหานเกิงนะครับ ส่วนคุณหานเกิงก็ยกมือโอบเอวคุณฮีชอลไว้ครับ ใช้มือข้างเดียวพอครับ แล้วหันมามองกล้องนะครับ"

     

    "ด เดี๋ยวนะครับคุณกงยู..." ทั้งฮีชอลและหานเกิงต่างก็หันมองช่างภาพคนเก่งทันทีที่ได้ยิน เพราะตลอดที่ถ่ายภาพมาทั้งสองเพียงแค่โพสท่าธรรมดาเพราะเป็นการถ่ายแบบคอลเลคชั่นเสื้อผ้าผู้ชายสำหรับใส่ฤดูหนาว

     

    "ภาพพิเศษครับ เพราะว่าผมตั้งใจจะเชิญทั้งสองคนมาถ่ายแบบคอลเลคชั่นคู่รักคริสต์มาสน่ะครับ ผมเลยจะใส่ภาพพิเศษลงในนิตยสารฉบับนี้สักหน่อย" กงยูพูดอธิบาย สายตาของช่างภาพมองไม่ผิด แค่เห็นทั้งสองคนยืนคู่กันก็รู้สึกว่าช่างเหมาะสมกันจริงๆ แต่เพราะในครั้งนี้ไม่ใช่การถ่ายภาพคู่รักจึงต้องถ่ายภาพธรรมดา แต่ถ้าทั้งสองคนได้ถ่ายภาพคู่รักแล้วก็... คงไม่มีอะไรเหมาะสมไปกว่านี้แล้ว

     

    "อ่า... ครับ" ทั้งสองคนรับคำก่อนจะโพสท่าตามที่กงยูบอก

     

    มือข้างซ้ายของหานเกิงยกขึ้นโอบรอบเอวคอดของฮีชอลพร้อมกับรั้งเบาๆ ให้คนสวยขยับเข้ามาใกล้ มืออีกข้างก็จับมือของมาดามคนสวยเอาไว้ ส่วนฮีชอลนั้นยืนหันหน้าเข้าหาหานเกิงมือข้างขวายกขึ้นวางพาดไปบนไหล่กว้าง มือซ้ายนั้นอยู่ในอุ้มมือของชายหนุ่ม ใบหน้าหวานเอนซบลงที่อกและหันมองกล้อง

     

    เสียงแฟลชดังต่อเนื่องทันทีที่ได้ท่าโพสที่ถูกใจ ก่อนจะส่งเสียงบอกให้นายแบบทั้งสองคนทำท่าทางอื่นต่อไป

     

    "ครับ ดีครับ มองตากันหน่อยครับ อย่างนั้น สวยมาก"

     

    ใบหน้าของทั้งสองคนห่างเพียงแค่กระดาษแผ่นบางกั้น ปลายจมูกทั้งสองอยู่ใกล้กันจนเกือบจะชน ฮีชอลยืนอยู่บนแท่นไม้สูงประมาณ 50 เซนติเมตรโน้มตัวลงมาหาหานเกิงที่ยืนอยู่ด้านล่างจนหน้าแทบจะชิดกัน มือทั้งสองของมาดามยกขึ้นโอบรอบคออีกคนไว้ ส่วนมือของหานเกิงก็ยกขึ้นจับเอวบางไว้ข้างหนึ่ง อีกข้างนั้นจับเส้นผมขึ้นทัดหูให้ฮีชอล

     

    กงยูมองภาพของทั้งสองคนผ่านเลนส์กล้องด้วยความพึงพอใจเป็นอย่างมาก สายตาที่ทั้งสองคนมองสบตากันไม่ใช่สายตาของนักแสดงที่พยายามถ่ายทอดความรักหากันและกัน แต่มันเป็นดวงตาที่แท้จริงของทั้งคู่ ที่แสดงออกถึงความรู้สึกในจิตใจของตัวเอง

     

    "เยี่ยมครับ! ดีมาก พอแค่นี้แหละครับ"

     

    สิ้นเสียงของกงยู ฮีชอลก็ขยับตัวยืนขึ้นเต็มความสูงก่อนจะกระโดดลงจากแท่นไม้โดยมีหานเกิงคอยรับอยู่

     

    "ต้องถ่ายซ่อมอะไรไหมครับ" ฮีชอลเดินเข้าไปหาทีมงานที่กำลังเช็ครูปภาพที่จอคอมพิวเตอร์กันอยู่

     

    "ไม่ต้องเลย โอเคมากเลยล่ะภาพที่ออกมา ถ้าแฟนคลับของพวกคุณสองคนรู้ละก็นิตยสารเล่มนี้คงขายหมดในพริบตาแน่ๆ เลย" กงยูพูด

     

    "คุณกงยูก็พูดเกินไปครับ"

     

    "ส่วนเรื่องคอลเลคชั่นคู่รักวันคริสต์มาสเดี๋ยวผมจะให้คนติดต่อนัดเวลากับทางผู้จัดการของทั้งสองคนนะ ผมขอพูดจองตัวไว้ก่อนเลย"

     

    "ไม่มีปัญหาอะไรครับ ถ้าอย่างนั้นพวกเราขอตัวไปเปลี่ยนชุดกลับกันเลยนะครับ แล้วไว้เจอกันใหม่ครับ" หานเกิงและฮีชอลพูดลากงยูก่อนจะเดินกลับเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าใส่ชุดเดิมที่ใส่มา

     

    กงยูยืนมองคนทั้งสองที่เดินเคียงคู่กันอออกจากสตูดิโอ ช่างภาพหนุ่มอยากจะลองเปลี่ยนอาชีพเป็นนักทำนายแล้วขอทำนายดวงทั้งสองคนว่าหลังจากจบรายการ คงมีงานแต่งงานอย่างยิ่งใหญ่แน่นอนสำหรับคู่นี้

     

    "ภาพพรีเวดดิ้ง ภาพงานแต่งงาน แล้วก็วีดิโอในงานพวกผมขอร่วมงานด้วยนะครับกงยู" เสียงของผู้ช่วยที่ยืนอยู่ข้างๆ กันพูด

     

    "งานใครครับ" กงยูหันไปถามพร้อมรอยยิ้ม

     

    "งานแต่งงานจริงๆ ของคุณหานเกิง กับคุณฮีชอลไงครับ"

     

     

    … TBC …

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×