คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : หมายจันทร์ ครั้งที่ 0 🐇 🌙
???? กระต่ายหมายจันทร์ ????
หมายจันทร์ ครั้งที่ 0
???? ????
ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีวิวัฒนาการ รวมไปถึงวิวัฒนาการในด้านต่าง ๆ เพื่อความอยู่รอด ไม่ว่าจะเป็นด้านอาหารการกิน การใช้ชีวิต และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ล้วนก็ผ่านการวิวัฒนาการมาด้วยกันแล้วทั้งสิ้น ทุกสิ่งทุกอย่างก็เพื่อตอบสนองต่อการดำรงชีพ รวมถึงการวิวัฒนาการเพื่อความอยู่รอด
ไม่รู้ว่าสิ่งมีชีวิตใดที่ถือกำเนิดก่อนกัน ระหว่างมนุษย์ และสัตว์ รวมไปถึงสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ และเพื่อความอยู่รอดทุกสิ่งมีชีวิตต่างต้องดิ้นรน ทั้งหลบเลี่ยง หลีกหนี ทั้งยืนหยัด และต่อสู้ ทุกอย่างก็เพื่อการดำรงชีวิตต่อ ประวัติศาสตร์ต่างพากันเล่าขานถึงสรรพสิ่งบนโลกใบนี้ สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่บนโลกไม่ได้มีแค่มนุษย์ และสัตว์ แต่ยังมีสิ่งมีชีวิตอีกอย่าง ที่ถูกเรียกขานว่า แวร์บีสต์
แวร์บีสต์... ถ้าพูดถึงด้านกายภาพของแวร์บีสต์แทบไม่มีอะไรแตกต่างจากมนุษย์ทั่วไป ส่วนที่แตกต่างกันก็คือ แวร์บีสต์เป็นมนุษย์... มนุษย์ที่สามารถเปลี่ยนร่างเป็นสัตว์ได้ เพียงหนึ่งสายพันธุ์ในแต่ละบุคคล โดยทั่วไปก็จะสืบเชื้อสายจากบรรพบุรุษ ถ้าหากบรรพบุรุษสามารถแปลงร่างเป็นเสือได้ แวร์บีสต์ที่เกิดจากบุคคลนั้นก็จะแปลงร่างเป็นเสือได้ อาจจะแตกต่างกันที่สายพันธุ์ และความสามารถ ข้อจำกัดด้านอื่น ๆ
ในเมื่อแวร์บีสต์สามารถแปลงร่างเป็นสัตว์ได้ ส่วนหนึ่งก็เลือกใช้ชีวิตเป็นสัตว์และอาศัยอยู่ในป่าทั่วทุกมุมโลก แต่บางส่วนก็เลือกที่จะใช้ชีวิตอย่างมนุษย์ทั่วไป อยู่ในสังคมมนุษย์ ทำทุกอย่างแบบมนุษย์ แต่ไม่ว่าแวร์บีสต์จะเลือกดำรงชีวิตแบบไหน ก็จะอยู่ภายใต้กฎหมาย และการคุ้มครองแวร์บีสต์
อดีต... เคยมีการล่าแวร์บีสต์ เพราะความกลัว และความไม่เข้าใจ คิดว่าแวร์บีสต์คืออสูรร้าย หรือสิ่งชั่วร้าย เหล่าแวร์บีสต์อยู่อาศัยอย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ ด้วยกลัวว่าตัวเองจะถูกมนุษย์ล่าไป แต่เมื่อเวลาผ่านไป มีผู้คนที่ได้ใกล้ชิดกับแวร์บีสต์ออกมาให้ความรู้ ความเข้าใจ ว่าแวร์บีสต์เองก็ไม่ได้แตกต่างจากมนุษย์อย่างเรา ๆ แต่ก็ใช้เวลานานหลายสิบปี กว่าผู้คนจะเลิกหวาดกลัว จนกระทั่งมีการก่อตั้งสภาแวร์บีสต์ขึ้น มีการลงนามเซ็นสัญญาการอยู่ร่วมกันของแวร์บีสต์และมนุษย์ เพื่อความปลอดภัย และการคุ้มครองของทั้งคู่
เพราะถึงแม้ว่าจะมีมนุษย์กลุ่มหนึ่งที่ทำการล่าแวร์บีสต์ ก็มีแวร์บีสต์กลุ่มหนึ่งเช่นกันที่คิดว่าตนมีร่างกายที่แข็งแรง มีสายพันธุ์ที่ดุร้าย เข้าทำร้ายมนุษย์เพื่อเป็นการล้างแค้นให้เหล่าพวกพ้อง เกิดเป็นเหตุจลาจลอยู่นาน กว่าทางสภาทั้งสองฝั่งจะปราบปรามกลุ่มเหล่านี้ได้
และเพราะเวลาที่ผ่านพ้นไป วิวัฒนาการด้านต่าง ๆ ถูกพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ มนุษย์ยอมรับแวร์บีสต์ เฉกเช่นเดียวกับแวร์บีสต์ที่ยอมรับมนุษย์
“แวร์บีสต์เกือบทั้งหมดจะมีช่วงเวลาที่เรียกว่า จำศีล ในช่วงฤดูหนาว ซึ่งช่วงเวลาก็แตกต่างกันไป ไม่ได้มีการจำศีลพร้อมกันทั้งหมด การจำศีลของแวร์บีสต์ใช้เวลาเพียงแค่สามวัน ถึงเจ็ดวันในแต่ละคน ซึ่งในช่วงเวลานั้นแวร์บีสต์จะกลับคืนสู่ร่างของตัวเอง ใช้ชีวิตในร่างของสายพันธุ์ตัวเอง”
“ถ้าถามว่าทำไมแวร์บีสต์ถึงต้องมีการจำศีล นั่นก็เป็นเพราะว่าเขาต้องรักษาพลังชีวิตของตัวเอง”
“และอีกอย่างหนึ่งของแวร์บีสต์ ในทุก ๆ เดือนจะมีอาการฮีท หรืออาการติดสัตว์ ซึ่งในแวร์บีสต์แต่ละคนก็จะมีอาการที่แตกต่างกันไปเช่นกัน ไม่ใช่ว่าช่วงเวลานี้แวร์บีสต์ทุกคนต้องเที่ยวหาใครมามีเพศสัมพันธ์ด้วย พวกเขาเพียงแค่กินยา หรือฉีดยาก็จะระงับอาการเหล่านี้ไปได้ และในบางคนก็อาจจะมีอาการอื่นร่วม เช่น ปวดหัว เป็นไข้ ปวดท้อง อาการคล้ายผู้หญิงเวลามีประจำเดือน แต่แวร์บีสต์นั้นจะมีอาการฮีททุกคน ไม่เว้นแม้แต่ผู้หญิง หรือผู้ชาย”
เสียงบรรยายเกี่ยวกับแวร์บีสต์ดังอยู่หน้าห้องเรียนในชั้นระดับประถมศึกษาตอนปลาย เพื่อให้ทุก ๆ คนเข้าใจถึงแวร์บีสต์ เพื่อที่จะได้สามารถใช้ชีวิตร่วมกันระหว่างมนุษย์และแวร์บีสต์ได้
หลักสูตรเกี่ยวกับมนุษย์ และแวร์บีสต์ถูกบรรจุให้อยู่ในการศึกษาวิชาพื้นฐานตั้งแต่ระดับชั้นประถม ไปจนถึงระดับมหาวิทยาลัย เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม และเพิ่มความเข้าใจให้กับทุกคน
ในปัจจุบันมนุษย์และแวร์บีสต์ใช้ชีวิตร่วมกัน ดำรงชีวิตแบบเดียวกัน แต่เพื่อความสะดวกและความปลอดภัยก็จะมีการจัดสรรในเรื่องต่าง ๆ อย่างเช่นโรงเรียน หรือสถานที่ทำงานทั้งภาครัฐ และเอกชน ที่มีสำหรับมนุษย์เพียงอย่างเดียว แวร์บีสต์เพียงอย่างเดียว และโรงเรียนที่ทุกคนสามารถเข้าเรียนได้ หรือแม้แต่ที่ทำงาน
เกิดการแต่งงานขึ้นระหว่างมนุษย์และแวร์บีสต์ มีการให้กำเนิดลูกครึ่งมนุษย์แวร์บีสต์ ซึ่งเด็กเหล่านี้ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถเปลี่ยนร่างเป็นสัตว์ตามสานพันธุ์ของผู้ให้กำเนิดได้ ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของพันธุกรรม บางคนสามารถเปลี่ยนร่างได้ตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก หรือบางคนกว่าจะเปลี่ยนร่างได้ก็โตแล้ว
บางคนก็สามารถควบคุมการเปลี่ยนร่างได้เป็นอย่างดี แต่บางคนก็ไม่เป็นเช่นนั้น ซึ่งในการเปลี่ยนร่างไปมานั้นจะทำได้อย่างอิสระก็ขึ้นอยู่กับการฝึกฝน การควบคุมสมาธิของแต่ละคน เด็ก ๆ จึงมักจะถูกส่งเข้าไปเรียนในโรงเรียนแวร์บีสต์ในช่วงระดับชั้นประถม เพื่อศึกษาและฝึกฝนในเรื่องเหล่านี้
???? ???? ???? ????
งื้ด... งี๊ด ๆ
เสียงร้องเล็ก ๆ ของเจ้ากระต่ายตัวน้อยสีขาวปนเทาดังขึ้นเมื่อถูกอุ้ม แต่เพียงไม่นานก็เงียบลง เจ้าตัวเล็กที่ขนาดเล็กกว่ากำปั้นนอนหลับตาพริ้มอยู่บนฝ่ามือของคนอุ้ม อุ้มเท้าน้อย ๆ ขยับไปมาก่อนจะมุดตัวเข้ากับฝ่ามือมากขึ้น หดตัวเป็นก้อนกลมอย่างต้องการความอบอุ่น
“ลูกร้องเหรอ” เสียงเข้มดังขึ้นให้หญิงสาวที่อุ้มกระต่ายตัวน้อยหันไปมอง เธอหลุดยิ้มออกมาเมื่อเห็นสีหน้าเป็นกังวลของคนเป็นสามี
“แค่นิดเดียวค่ะ คงหนาวตอนนี้หลับสนิทเลย ดูสิคะ” เธอยื่นมือไปตรงหน้าสามี เจ้าก้อนขนสีขาวปนเทาขดตัวอยู่บนฝ่ามือของเธอ เห็นเพียงใบหูน้อย ๆ ที่ขยับดุ๊กดิ๊ก
“ผมกลัวทำลูกเจ็บ” ฝ่ายสามีว่า อยากจะยื่นมือไปลูบตัวก็กลัวจะลงน้ำหนักเกินไปจนทำเจ้าตัวน้อยเจ็บได้
“คุณไม่ทำลูกเจ็บหรอกค่ะ ยื่นมือมาค่ะเดี๋ยวจันทร์วางลูกให้”
ฝ่ามือหนาของสามียื่นออกมาตรงหน้า หญิงสาวจัดการวางเจ้ากระต่ายน้อยลงบนฝ่ามือของสามีอย่างระวังด้วยกลัวว่าเจ้าตัวน้อยจะตื่นขึ้นมา “เห็นไหมคะ คุณก็อุ้มได้ เก่งมาค่ะอรรถ”
“น้องลูน”
“ลูกจะเป็นกระต่ายแล้วต้องจำศีลกี่วัน” เขามองหน้าภรรยาคนสวยแล้วถาม ภรรยาของเขาเป็นแวร์บีสต์ ส่วนตัวเขาเป็นมนุษย์ธรรมดา ลูกน้อยในอุ้มมือของเขาจึงเป็นลูกครึ่งระหว่างมนุษย์กับแวร์บีสต์สายพันธุ์กระต่าย
แน่นอนว่าเขาย่อมรู้เรื่องของแวร์บีสต์ ทั้งจากการเรียนตั้งแต่สมัยเป็นเด็ก แล้วไหนจะยังมีภรรยาเป็นแวร์บีสต์อีก เขารู้ว่าในช่วงฤดูหนาวแวร์บีสต์จะต้องจำศีล เขาเห็นเคยภรรยาของเขาจำศีลไม่รู้กี่ครั้ง แต่กลับลูกน้อย... เขาไม่แน่ใจว่าลูกน้อยจะต้องใช้เวลานานแค่ไหน
“ปกติก็ไม่เกินหนึ่งอาทิตย์ค่ะ แต่ลูกอาจจะไม่นานขนาดนั้น”
“ลูกตัวเล็กจัง ปกติเหรอ” อรรถถามด้วยความเป็นกังวล ลูกน้อยของเขาเพิ่งผ่านวันเกิดอายุครบหนึ่งขวบมาได้ไม่นาน ร่างกายตอนเป็นมนุษย์ปกติดีทุกอย่าง น้ำหนักเป็นไปตามเกณฑ์ แถมยังมีแก้มยุ้ยชวนให้เขาก้มลงงับตั้งไม่รู้กี่ครั้ง แต่ในร่างแวร์บีสต์ ลูกน้อยของเขาตัวเล็กนิดเดียว แค่ฝ่ามือเขาข้างเดียวก็แทบจะกำลูกน้อยมิดแล้ว
“ปกติค่ะ สายพันธุ์กระต่ายอย่างเราก็ตัวเล็กอยู่แล้ว ไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ เราก็เพิ่งพาเขาไปหาหมอมาเอง” นี่เป็นจำศีลแรกของลูกน้อย หลาย ๆ อย่างเลยต้องมีการเตรียมตัว
“ลูกเราน่ารัก” เขายิ้มออกมาตอนที่เจ้าก้อนขนในมือพลิกตัวนอนหงาย เขามองอุ้มเท้า ใบหู และจมูกเล็ก ๆ ที่ขยับดุ๊กดิ๊กไปมา น่ารักน่าเอ็นดูจนอดใจไม่ไหว ต้องก้มลงใช้ปลายจมูกแตะที่ใบหน้า ลำตัวของเจ้าก้อน
และคราวนี้... คุณพ่อที่ไม่กล้าอุ้มลูกกระต่ายเพราะกลัวทำลูกเจ็บ ก็เอาแต่อุ้มเจ้าตัวน้อยไม่ยอมปล่อย พาไปนอนบนเตียงกว้าง แล้วก็นอนมองอุ้มเท้าน้อย ๆ ขยับไปมาอย่างชอบใจ ใช้ปลายนิ้วลูบไปตามขนนุ่ม ๆ สลับกับใช้จมูกหอมไปทั่วตัว
???? ???? ???? ????
???? กระต่ายหมายจันทร์ ????
#ดวงจันทร์ของลูน
???? ???? ???? ????
เอาบทนำมาเป็นออเดิร์ฟของเรื่องก่อนค่ะ มาเพื่ออธิบายความเป็น แวร์บีสต์ ของ นิยายเรื่องนี้ ให้ทุกคนรู้ อาจจะเหมือน หรือไม่เหมือนกับที่คนอ่านเคยอ่าน ๆ มา เพราะทุกอย่าง ทั้งกฎเกณฑ์ ทั้งการดำเนินชีวิต ทั้งสิ่งที่แวร์บีสต์ต้องเจอ อย่างเช่น อาการฮีท หรือ อาการจำศีล ทุกอย่างเป็นสิ่งที่ฟางคิดขึ้นมา เพื่อนิยายเรื่องนี้โดยเฉพาะค่ะ ไม่ได้อ้างอิงมาจากที่ไหน
ซึ่งอาจจะตรงใจ หรือไม่ตรงใจ ก็ได้
อาจจะชอบ หรือไม่ชอบ ก็ได้
แต่ถ้าใครที่สามารถรับกฎเกณฑ์ของนิยายเรื่องนี้ได้ ฟางก็ฝากนิยายเรื่องนี้เอาไว้ด้วยนะคะ
แต่ถ้าใครที่รับกฎเกณฑ์ของนิยายเรื่องนี้ไม่ได้ ก็สามารถกดปิดและเลิกติดตามได้เลยเช่นกันค่ะ
ขอบคุณมากนะคะ
TWITTER : @Fangiily_GC
ความคิดเห็น