ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ๑๐๐%
� � � เมื่อณัฏฐนิชเดินออกมาจากห้องทำงานของบุริศร์ด้วยแล้วเดินมานั่งที่ตัวเองด้วยสีหน้าบูดบึ้ง ทำให้จันทนา จารุณี นัทนันท์ และชัยยศ มองด้วยสีหน้าเห็นใจ ต่างมองหน้ากันให้เข้าไปปลอบใจณัฏฐนิช
� � � "ไม่ต้องเสียใจไปหรอก คุณวีร์เขาก็เป็นงี้แหล่ะ" จันทนายื่นมือมาจับบ่าณัฏฐนิช ณัฏฐนิชหันมองกลับไปอย่าง งงๆ
� � � "ใช่ๆ ถึงเขาจะปากร้ายแต่เขาก็ใจดีนะ ที่นี่และบริษัทคุณวีร์รักคุณวีร์ทั้งนั้่นเลยนะ" ณัฏฐนิชยังไม่ทันจะหายงง จารุณีก็เข้ามาปลอบต่อ
� � � "ไม่ต้องไปแอบร้องไห้นะ ร้องออกมาเลย โถแม่คุณ" นัทนันท์เข้าไปสวมกอดณัฏฐนิชโดยทันที ทำให้ณัฏฐนิชชะงักไปเล็กน้อย แต่ก็ทำให้ณัฏฐนิชเข้าใจในทันทีว่า พวกเขากำลังเข้าใจำกรวีร์ต่อว่าเธออย่างหนักเป็นแน่ แต่เธอยังไม่ทันจะแก้ข่าวที่พวกเขาเข้าใจผิด จันทนาก็หันไปตวาดแหวใส่ชัยยศเสียก่อน�
� � � "ไอพี่ยศ ไม่คิดจะปลอบน้องหน่อยเหรอหะ" ชัยยศสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงตวาดเล็กของจันทนา ซึ่งขณะนั้นเขาเองกำลังก้มหน้าทำงานของตนเองอยู่ ชัยยศลุกขึ้นจากเก้าอี้ของเขาทันที พร้อมเดินมาทางที่ณัฏฐนิชนั่งอยู่ จากนั้นเขาก็สะกิดนัทนันท์ให้คลายอ้อมกอดจากณัฏฐนิช แล้วตัวเองจะไปสมกอดแทน แต่ยังไม่ทันได้สวมกอดทั้งสามสาวก็ออกแรงผลักชัยยศออกไป ชัยยศหน้าเหวอเลยทันที
� � � "ก็พวกแกบอกให้พี่ปลอบไม่ใช่เหรอ พี่กำลังจะปลอบน้องอยู่นี่ไง" ชัยยศทำสีหน้าน้อยใจทันที
� � � "ฉันให้พี่ปลอบไม่ใช่กอด" นัทนันท์ส่งเสียงดุใส่ชัยยศ
� � � "ก็กอดเป็นการปลอบไงหล่ะ" สีหน้าของชัยยศตอนนี้เหมือนเด็กทำความผิดแล้วหาข้อแก้ตัวก่อนที่จะถูกคุณครูทำโทษ ทำให้ณัฏฐนิชหัวเราะในทันที ทั้งสี่คนหันมามองณัฏฐนิชที่หัวเราะ แล้วยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ เมื่อผ่านไปสักพัก กรวีร์บอกลาบุริศร์แล้วเดินออกจากห้องของบุริศร์ กรวีร์ไม่วายที่จะส่งยิ้มให้กับณัฏฐนิช เมื่อณัฏฐนิชหันเข้าไปเห็นรอยยิ้มนั้นทำให้ใบหน้าของเธอร้อนผ่าวโดยไม่รู้ตัวเธอได้แต่สงบสติบอกกับตัวเองว่าว่าเธอมีแฟน มีแฟนแล้ว เธอจะไม่นอกใจธนดลเด็ดขาด เมื่อนัทนันท์เข้าไปเก็บถ้วยกาแฟทำให้เนัทนันท์ต้องแปลกใจเมื่อเห็นถ้วยกาแฟว่างเปล่า ถ้วยของบุริศร์ไม่ได้ทำให้เธอแปลกใจเท่าไหร่ แต่ของกรวีร์ทำให้เธอแปลกใจยิ่งกว่า เธอได้แต่มองถ้วยกาแฟแล้วมองณัฏฐนิชสลับไปมาอย่างสงสัย
� � � �"เลิกงานแล้ว กลับบ้านได้แล้วจ๊ะ น้องนัท" จันทนาบอกณัฏฐนิชเมื่อเห็นณัฏฐนิชกำลังง้วนอยู่กับการจัดเอกสาร
� � � �"อีกแป๊ปเดียวคะพี่จัน ขอนัทจัดเอกสารชุดนี้แป๊ปเดียวคะ" ณัฏฐนิชหันไปตอบจันทนาแล้วก็หันไปจัดการเอกสารตรงหน้าต่อ�
� � � �"ท่าทางไอริทคงใช้งานเธอหนักน่าดูเลยนะเนี่ย" เสียงคุ้นหูดังขึ้นข้างหลังณัฏฐนิชทำให้เธอวางมือจากงานตรงหน้าแล้วหันกลับไปมองทางต้นเสียง เธอต้องประหลาดใจเมื่อเห็นกรวีร์อยู่ข้างหลังเธอ ไม่ใช่แค่ณัฏฐนิชเท่านั้น ทุกคนในออฟฟิศก็พลอยประหลาดใจไปด้วย
� � � �"คุณมาอยู่ที่นี่ได้ไงเนี่ย" ณัฏฐนิชถามด้วยความสงสัยก็เห็นอยู่ว่าเขาเดินออกไปจากออฟฟิศแล้วนี่หน่า
� � � �"ฉันก็เดินเข้ามาหน่ะซิ เธอคิดว่าฉันหายตัวเข้ามาหรือไง" กรวีร์ตอบ มันทำให้เธอเริ่มมีน้ำโห�
� � � �"นี่คุณ.." ยังไม่ทันที่ณัฏฐนิชจะตอบกลับ กรวีร์ก็ตัดบทขึ้นมาก่อน
� � � �"ผมก็มารอรับพี่เลี้ยงหลานสาวผมหน่ะซิ" เขาพูดทีละคำอย่างชัดเจน ณัฏฐนิชได้แต่มองหน้ากรวีร์ เขาจะมาไม้ไหนอีกเนี่ย สรรพนามก็เปลี่ยนไป ดูสุภาพขึ้นทำให้ณัฏฐนิชได้แต่รอดูสถานการณ์
� � � �"อ้าว ไอวีร์ยังไม่กลับอีกเหรอวะ" บุริศร์กล่าวเมื่อเห็นกรวีร์ยังอยู่ในออฟฟิศ
� � � �"จะกลับแล้วหล่ะ เก็บของได้แล้วผมต้องช่วยเก็บมั้ย" กรวีร์พูดขึ้นโดยไม่หันไปมองหน้าบุริศร์ แต่คำพูดแนวเชิงคำสั่งทำให้ณัฏฐนิชขมวดคิ้วไม่ได้ เริ่มโมโหตะหงิดๆไม่ได้
� � � �"ไม่ต้อง ฉันเก็บเองแล้วฉันก็จะไปเองด้วย" ณัฏฐนิชลงมือเก็บในทันที ถึงจะดูสุภาพขึ้นก็เหอะ แต่กวนประสาทเหมือนเดิม
� � � �"ไปทางเดียวกันประหยัดกว่านะ แล้วอีกอย่างคำสั่งเฮียวิชญ์ด้วย" กรวีร์กล่าวออกพร้อมเริ่มช่วยณัฏฐนิชเก็บของ�
� � � �"เพราะเฮียวิชญ์สั่งหรอก ไม่งั้นฉันไม่ไปกับคุณแน่ งั้นพวกพี่ๆคะ นัทกลับแล้วนะคะ" ณัฏฐนิชลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วหันกลับไปส่งยิ้มหวานให้กับทุกคนพร้อมยกมือไหว้ ทำให้ทุกคนประหลาดใจกับท่าทีที่แสดงออกของทั้งสองคนดูสนิทสนมกันมากทีเดียว ไม่เหมือนเจ้านายกับพี่เลี้ยงเลย
� � � � เมื่อรถมาจอดตรงประตูบ้านหลังใหญ่หลังหนึ่งหนุ่มสาวเดินลงมาจากรถคันหรูส่งเสียงทะเลาะกันไปมาอย่างไม่เบื่อหน่าย ทุกคนในบ้านหลังนี้ชินกับเสียงทั้งคู่ที่โต้ตอบกันไปมาอย่างดุเดือดไปเสียแล้ว เสียงนี้ไม่ใช่ใครที่ไหนกรวีร์และณัฏฐนิชนั่นเอง ณัฏฐนิชต้องมาค้างบ้านนี้ในวันที่ต้องทำหน้าที่คอยดูแลยูกิ�
� � � � "นี่ไม่คิดจะช่วยกันหรือไงหะ" ณัฏฐนิชตวาดแหวใส่กรวีร์ขากลับพวกเธอและกรวีร์ไปซื้อของที่จำเป็นมาไว้ในบ้าน โดยที่เธอเป็นคนถือถุงเกือบทั้งหมด
� � � � "ผมก็ถืออยู่นี่่ไงหล่ะ" กรวีร์ตอบกลับไป ณัฏฐนิชมองหน้าแล้วมองไปถุงในมือของกรวีร์ มันมีแค่ถุงเสื้อผ้าของเขากับของที่ดูไม่ค่อยหนักเท่าไหร่
� � � � "นั่นมันของของคุณเองคุณก็ถือเองอยู่แล้วซิ แล้วนี่มันของคนทั้งบ้านนะ ไม่คิดจะช่วยกันหรือไง" ณัฏฐนิชตอกกลับไป
� � � � "คุณทำงานให้บ้านผมนะ ถ้าคุณอยากให้ผมช่วยถือ คุณก็แต่งงานกลับผมซิ" กรวีร์ยังไม่วายยื่นข้อเสนอให้ณัฏฐนิช
� � � � "งั้นฉันถือเองก็ได้ ตาบ้า" ณัฏฐนิชมองค้อนกรวีร์ก่อนเดินนำเข้าไปในตัวบ้าน เมื่อเดินเข้ามาในตัวบ้าน เฟอร์นิเจอร์สุดหรูตกแต่งได้อย่างสวยงามทั้งประนีตและทันสมัย บ้านหลังใหญ่นี้ทุกคนอยู่รวมกัน มีกรวิชญ์ที่ปัจจุบันเป็นนายใหญ่ของบ้านหลังนี้ ยูโกะ ภรรยาสาวชาวญี่ปุ่นของกรวิชญ์ ยูกิ ลูกสาวลูกครึ่งของกรวิชญ์กับยูโกะ นายสมคนขับรถของที่นี่ ป้าจวง แม่บ้านใหญ่ของที่นี่ และคนใช้อีกสองสามคน ส่วนพ่อแม่ของกรวิชญ์และกรวีร์ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตทั้งสองคนตั้งแต่กรวิชญ์และกรวีร์ยังเด็ก ก็มีแต่อากงเท่านั้นที่เลี้ยงดูกรวิชญ์และกรวีร์มา �
� � � � "คุณว่าทั้งสองคนจะไปรอดมั้ยคะ" ยูโกะมองดูหนุ่มสาวทั้งสองคนเถียงกันไปมาเอ่ยถามสามีของตัวเอง เธอมาอยู่ที่ประเทศประมาณ ๑๐ ปีแล้ว เพราะฉะนั้นภาษาไทยจึงชัดเจนและแข็งแรง อีกทั้งยังได้สามีควรช่วยสอนเสมอ
� � � � "ผมรู้จักเจ้าวีร์ดี หมอนี่ไม่ยอมแพ้หรอกบทจะเอาให้ได้ก็ต้องเอาให้ได้ บทจะไม่ก็ไม่เอาดื้อๆ" กรวิชญ์มองดูน้องชายที่ทำตัวเหมือนเด็กเอาแต่ใจไม่ยอมถือของ
� � � � "แล้วเรื่องสองแม่่ลูกคุ่นั้นหล่ะ นัทรู้เหรอยังคะ" จู่ๆยูโกะก็ถามขึ้นมา
� � � � "เรื่องนั้นต้องให้วีร์อธิบายเอาเอง ขืนบอกตอนนี้น้องนัทคงไล่กลับไปหาแม่รู้สองคนนั้นแน่" วรวิชญ์เอ่ยออกมาพร้อมถอดสายมองไปหากรวีร์กับณัฏฐนิช พร้อมนึกเรื่องในอดีตเมื่อ ๒ ปีก่อน กรวีร์จูงมือเด็กชายตัวน้อยอายุประมาณ ๕ ขวบเข้ามาในบ้านพร้อมบอกว่านี่คือลูกชายของเขาและภรรยาของเขาเอง ทำให้อากงโกรธจนต้องเข้าโรงพยาบาลแถมขู่ว่าจะตัดออกจากกองมรดกแล้วกรวีร์ก็ยินยอมออกจากกองมรดกด้วย แต่ทางฝ่ายหญิงไม่อยากให้กรวีร์ต้องเดือดร้อนจึงหนีไป จนกรวีร์ตามเจอตอนนี้กรวีร์เองก็ส่งเสียงเลี้ยงดูสองแม่ลูกคู่นั้นอยู่
� � ��
� � ��
�
� � � "ไม่ต้องเสียใจไปหรอก คุณวีร์เขาก็เป็นงี้แหล่ะ" จันทนายื่นมือมาจับบ่าณัฏฐนิช ณัฏฐนิชหันมองกลับไปอย่าง งงๆ
� � � "ใช่ๆ ถึงเขาจะปากร้ายแต่เขาก็ใจดีนะ ที่นี่และบริษัทคุณวีร์รักคุณวีร์ทั้งนั้่นเลยนะ" ณัฏฐนิชยังไม่ทันจะหายงง จารุณีก็เข้ามาปลอบต่อ
� � � "ไม่ต้องไปแอบร้องไห้นะ ร้องออกมาเลย โถแม่คุณ" นัทนันท์เข้าไปสวมกอดณัฏฐนิชโดยทันที ทำให้ณัฏฐนิชชะงักไปเล็กน้อย แต่ก็ทำให้ณัฏฐนิชเข้าใจในทันทีว่า พวกเขากำลังเข้าใจำกรวีร์ต่อว่าเธออย่างหนักเป็นแน่ แต่เธอยังไม่ทันจะแก้ข่าวที่พวกเขาเข้าใจผิด จันทนาก็หันไปตวาดแหวใส่ชัยยศเสียก่อน�
� � � "ไอพี่ยศ ไม่คิดจะปลอบน้องหน่อยเหรอหะ" ชัยยศสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงตวาดเล็กของจันทนา ซึ่งขณะนั้นเขาเองกำลังก้มหน้าทำงานของตนเองอยู่ ชัยยศลุกขึ้นจากเก้าอี้ของเขาทันที พร้อมเดินมาทางที่ณัฏฐนิชนั่งอยู่ จากนั้นเขาก็สะกิดนัทนันท์ให้คลายอ้อมกอดจากณัฏฐนิช แล้วตัวเองจะไปสมกอดแทน แต่ยังไม่ทันได้สวมกอดทั้งสามสาวก็ออกแรงผลักชัยยศออกไป ชัยยศหน้าเหวอเลยทันที
� � � "ก็พวกแกบอกให้พี่ปลอบไม่ใช่เหรอ พี่กำลังจะปลอบน้องอยู่นี่ไง" ชัยยศทำสีหน้าน้อยใจทันที
� � � "ฉันให้พี่ปลอบไม่ใช่กอด" นัทนันท์ส่งเสียงดุใส่ชัยยศ
� � � "ก็กอดเป็นการปลอบไงหล่ะ" สีหน้าของชัยยศตอนนี้เหมือนเด็กทำความผิดแล้วหาข้อแก้ตัวก่อนที่จะถูกคุณครูทำโทษ ทำให้ณัฏฐนิชหัวเราะในทันที ทั้งสี่คนหันมามองณัฏฐนิชที่หัวเราะ แล้วยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ เมื่อผ่านไปสักพัก กรวีร์บอกลาบุริศร์แล้วเดินออกจากห้องของบุริศร์ กรวีร์ไม่วายที่จะส่งยิ้มให้กับณัฏฐนิช เมื่อณัฏฐนิชหันเข้าไปเห็นรอยยิ้มนั้นทำให้ใบหน้าของเธอร้อนผ่าวโดยไม่รู้ตัวเธอได้แต่สงบสติบอกกับตัวเองว่าว่าเธอมีแฟน มีแฟนแล้ว เธอจะไม่นอกใจธนดลเด็ดขาด เมื่อนัทนันท์เข้าไปเก็บถ้วยกาแฟทำให้เนัทนันท์ต้องแปลกใจเมื่อเห็นถ้วยกาแฟว่างเปล่า ถ้วยของบุริศร์ไม่ได้ทำให้เธอแปลกใจเท่าไหร่ แต่ของกรวีร์ทำให้เธอแปลกใจยิ่งกว่า เธอได้แต่มองถ้วยกาแฟแล้วมองณัฏฐนิชสลับไปมาอย่างสงสัย
� � � �"เลิกงานแล้ว กลับบ้านได้แล้วจ๊ะ น้องนัท" จันทนาบอกณัฏฐนิชเมื่อเห็นณัฏฐนิชกำลังง้วนอยู่กับการจัดเอกสาร
� � � �"อีกแป๊ปเดียวคะพี่จัน ขอนัทจัดเอกสารชุดนี้แป๊ปเดียวคะ" ณัฏฐนิชหันไปตอบจันทนาแล้วก็หันไปจัดการเอกสารตรงหน้าต่อ�
� � � �"ท่าทางไอริทคงใช้งานเธอหนักน่าดูเลยนะเนี่ย" เสียงคุ้นหูดังขึ้นข้างหลังณัฏฐนิชทำให้เธอวางมือจากงานตรงหน้าแล้วหันกลับไปมองทางต้นเสียง เธอต้องประหลาดใจเมื่อเห็นกรวีร์อยู่ข้างหลังเธอ ไม่ใช่แค่ณัฏฐนิชเท่านั้น ทุกคนในออฟฟิศก็พลอยประหลาดใจไปด้วย
� � � �"คุณมาอยู่ที่นี่ได้ไงเนี่ย" ณัฏฐนิชถามด้วยความสงสัยก็เห็นอยู่ว่าเขาเดินออกไปจากออฟฟิศแล้วนี่หน่า
� � � �"ฉันก็เดินเข้ามาหน่ะซิ เธอคิดว่าฉันหายตัวเข้ามาหรือไง" กรวีร์ตอบ มันทำให้เธอเริ่มมีน้ำโห�
� � � �"นี่คุณ.." ยังไม่ทันที่ณัฏฐนิชจะตอบกลับ กรวีร์ก็ตัดบทขึ้นมาก่อน
� � � �"ผมก็มารอรับพี่เลี้ยงหลานสาวผมหน่ะซิ" เขาพูดทีละคำอย่างชัดเจน ณัฏฐนิชได้แต่มองหน้ากรวีร์ เขาจะมาไม้ไหนอีกเนี่ย สรรพนามก็เปลี่ยนไป ดูสุภาพขึ้นทำให้ณัฏฐนิชได้แต่รอดูสถานการณ์
� � � �"อ้าว ไอวีร์ยังไม่กลับอีกเหรอวะ" บุริศร์กล่าวเมื่อเห็นกรวีร์ยังอยู่ในออฟฟิศ
� � � �"จะกลับแล้วหล่ะ เก็บของได้แล้วผมต้องช่วยเก็บมั้ย" กรวีร์พูดขึ้นโดยไม่หันไปมองหน้าบุริศร์ แต่คำพูดแนวเชิงคำสั่งทำให้ณัฏฐนิชขมวดคิ้วไม่ได้ เริ่มโมโหตะหงิดๆไม่ได้
� � � �"ไม่ต้อง ฉันเก็บเองแล้วฉันก็จะไปเองด้วย" ณัฏฐนิชลงมือเก็บในทันที ถึงจะดูสุภาพขึ้นก็เหอะ แต่กวนประสาทเหมือนเดิม
� � � �"ไปทางเดียวกันประหยัดกว่านะ แล้วอีกอย่างคำสั่งเฮียวิชญ์ด้วย" กรวีร์กล่าวออกพร้อมเริ่มช่วยณัฏฐนิชเก็บของ�
� � � �"เพราะเฮียวิชญ์สั่งหรอก ไม่งั้นฉันไม่ไปกับคุณแน่ งั้นพวกพี่ๆคะ นัทกลับแล้วนะคะ" ณัฏฐนิชลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วหันกลับไปส่งยิ้มหวานให้กับทุกคนพร้อมยกมือไหว้ ทำให้ทุกคนประหลาดใจกับท่าทีที่แสดงออกของทั้งสองคนดูสนิทสนมกันมากทีเดียว ไม่เหมือนเจ้านายกับพี่เลี้ยงเลย
� � � � เมื่อรถมาจอดตรงประตูบ้านหลังใหญ่หลังหนึ่งหนุ่มสาวเดินลงมาจากรถคันหรูส่งเสียงทะเลาะกันไปมาอย่างไม่เบื่อหน่าย ทุกคนในบ้านหลังนี้ชินกับเสียงทั้งคู่ที่โต้ตอบกันไปมาอย่างดุเดือดไปเสียแล้ว เสียงนี้ไม่ใช่ใครที่ไหนกรวีร์และณัฏฐนิชนั่นเอง ณัฏฐนิชต้องมาค้างบ้านนี้ในวันที่ต้องทำหน้าที่คอยดูแลยูกิ�
� � � � "นี่ไม่คิดจะช่วยกันหรือไงหะ" ณัฏฐนิชตวาดแหวใส่กรวีร์ขากลับพวกเธอและกรวีร์ไปซื้อของที่จำเป็นมาไว้ในบ้าน โดยที่เธอเป็นคนถือถุงเกือบทั้งหมด
� � � � "ผมก็ถืออยู่นี่่ไงหล่ะ" กรวีร์ตอบกลับไป ณัฏฐนิชมองหน้าแล้วมองไปถุงในมือของกรวีร์ มันมีแค่ถุงเสื้อผ้าของเขากับของที่ดูไม่ค่อยหนักเท่าไหร่
� � � � "นั่นมันของของคุณเองคุณก็ถือเองอยู่แล้วซิ แล้วนี่มันของคนทั้งบ้านนะ ไม่คิดจะช่วยกันหรือไง" ณัฏฐนิชตอกกลับไป
� � � � "คุณทำงานให้บ้านผมนะ ถ้าคุณอยากให้ผมช่วยถือ คุณก็แต่งงานกลับผมซิ" กรวีร์ยังไม่วายยื่นข้อเสนอให้ณัฏฐนิช
� � � � "งั้นฉันถือเองก็ได้ ตาบ้า" ณัฏฐนิชมองค้อนกรวีร์ก่อนเดินนำเข้าไปในตัวบ้าน เมื่อเดินเข้ามาในตัวบ้าน เฟอร์นิเจอร์สุดหรูตกแต่งได้อย่างสวยงามทั้งประนีตและทันสมัย บ้านหลังใหญ่นี้ทุกคนอยู่รวมกัน มีกรวิชญ์ที่ปัจจุบันเป็นนายใหญ่ของบ้านหลังนี้ ยูโกะ ภรรยาสาวชาวญี่ปุ่นของกรวิชญ์ ยูกิ ลูกสาวลูกครึ่งของกรวิชญ์กับยูโกะ นายสมคนขับรถของที่นี่ ป้าจวง แม่บ้านใหญ่ของที่นี่ และคนใช้อีกสองสามคน ส่วนพ่อแม่ของกรวิชญ์และกรวีร์ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตทั้งสองคนตั้งแต่กรวิชญ์และกรวีร์ยังเด็ก ก็มีแต่อากงเท่านั้นที่เลี้ยงดูกรวิชญ์และกรวีร์มา �
� � � � "คุณว่าทั้งสองคนจะไปรอดมั้ยคะ" ยูโกะมองดูหนุ่มสาวทั้งสองคนเถียงกันไปมาเอ่ยถามสามีของตัวเอง เธอมาอยู่ที่ประเทศประมาณ ๑๐ ปีแล้ว เพราะฉะนั้นภาษาไทยจึงชัดเจนและแข็งแรง อีกทั้งยังได้สามีควรช่วยสอนเสมอ
� � � � "ผมรู้จักเจ้าวีร์ดี หมอนี่ไม่ยอมแพ้หรอกบทจะเอาให้ได้ก็ต้องเอาให้ได้ บทจะไม่ก็ไม่เอาดื้อๆ" กรวิชญ์มองดูน้องชายที่ทำตัวเหมือนเด็กเอาแต่ใจไม่ยอมถือของ
� � � � "แล้วเรื่องสองแม่่ลูกคุ่นั้นหล่ะ นัทรู้เหรอยังคะ" จู่ๆยูโกะก็ถามขึ้นมา
� � � � "เรื่องนั้นต้องให้วีร์อธิบายเอาเอง ขืนบอกตอนนี้น้องนัทคงไล่กลับไปหาแม่รู้สองคนนั้นแน่" วรวิชญ์เอ่ยออกมาพร้อมถอดสายมองไปหากรวีร์กับณัฏฐนิช พร้อมนึกเรื่องในอดีตเมื่อ ๒ ปีก่อน กรวีร์จูงมือเด็กชายตัวน้อยอายุประมาณ ๕ ขวบเข้ามาในบ้านพร้อมบอกว่านี่คือลูกชายของเขาและภรรยาของเขาเอง ทำให้อากงโกรธจนต้องเข้าโรงพยาบาลแถมขู่ว่าจะตัดออกจากกองมรดกแล้วกรวีร์ก็ยินยอมออกจากกองมรดกด้วย แต่ทางฝ่ายหญิงไม่อยากให้กรวีร์ต้องเดือดร้อนจึงหนีไป จนกรวีร์ตามเจอตอนนี้กรวีร์เองก็ส่งเสียงเลี้ยงดูสองแม่ลูกคู่นั้นอยู่
� � ��
� � ��
�
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น