ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ๑๐๐ % ตอนที่ ๕
� � � �"แกจะทำรายงานเรื่องไรดีวะ" เสียงนภัสสรดังมาตามสายพวกเธอทั้งสามคนมักจะประชุมสายโทรศัพท์พูดคุยกันอยู่เสมอเนื่องจากทั้งสามคนไม่มีเวลามาเจอกันต่างคนต่างฝึกงานของตัวเอง�
� � � �"มันฝึกงานจะครบเดือนแล้วนะ แกยังไม่รู้อีกเหรอวะ" ปทิตตาตอบบอกเพื่อนสาว
� � � �"แกคิดได้ยังหล่ะหะไอตา"นภัสสรย้อนกลับไปยังเพื่อนสาว
� � � �"ยังวะ ฮ่าๆๆ เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน ไอนัทตกลงแกจะเอาไงวะ เรื่องคุณวีร์หน่ะ" ปทิตตาหัวเราะกลบเกลื่อนแล้วเปลี่ยนเรื่องทันที
� � � �"เปลี่ยนเรื่องเลยนะไอตา แต่ฉันก็อยากรู้หว่ะเรื่องคุณวีร์ แล้วไอดลแกคุยกะมันยังวะ" คำถามแรกณัฏฐนิชยังไม่ทันจะตอบคำตอบที่สองก็ทำให้เธอเศร้าหมองได้ในทันที นั่นซินะนานแล้วที่เธอไม่ได้ติดต่อกับธนดลในตอนแรกๆเธอทั้งเศร้าทั้งเหงาแล้วก็เจ็บปวด แต่ตอนนี้นอกจากเศร้าแล้วเธอไม่รู้สึกอะไรอีก จะเรียกว่ารักได้อีกหรือเปล่าเธอก็ไม่รู้
� � � �"เรื่องหมอนั่นอะนะ ฉันต้องตกลงไรวะฉันก็ทำงานใช้หนี้อากงไปเรื่อยๆดีกว่า" ณัฏฐนิชยังคงหัวรั้นตอบไป ทั้งๆที่ใจเธอเริ่มคิดถึงกรวีร์
� � � �"เหรอ ฉันจะคอยดูแก ไอนัท" ปทิตตาย้อนกลับไปเสียงสูงหมายจะล้อเพื่อนสาว
� � � �"ฉันว่าแกคุยกะไอดลเหอะนัท แกมัวแต่ปิดกลั้นตัวเองเพื่อผู้ชายคนเดียวที่ไม่รู้หายหัวไปไหนเนี่ยนะ" นภัสสรเตือนณัฏฐนิช�
� � � �"แต่ดลก็โทรมาคุยบ้างนะ แค่ช่วงนี้หายไปเฉยๆนะ" ณัฏฐนิชมองโลกในแง่ดีเข้าไว้
� � � �"ไอนัทแกอย่าหลอกตัวเองเลย ถามใจตัวแกเองเหอะ ว่าตอนนี้แกรู้สึกยังไง" คำพูดที่ปทิตตาเอ่ยออกมาทำให้ณัฏฐนิชหยุดชะงัก ไม่มีเวลาให้เธอได้คิดมานัก เพราะมีสายซ้อน ชื่อบนหน้าจอของเธอเป็นบุคคลที่พวกเธอกำลังพูดถึงนั่นเอง
� � � �"แกๆ แค่นี้ก่อนนะดลโทรมาหน่ะ" เมื่อเธอพูดจบก็ได้ยินจากปลายสายกล่าวลาแล้ววางสายไป เธอกดรับสายธนดลในทันที
� � � �"ฮัลโหล นัท" เสียงปลายสายดังออกมา แต่แทนที่ณัฏฐนิชจะดีใจหรือรู้สึกตื่นเต้น เธอกลับไม่รู้สึกอะไรเลย
� � � �"ฮัลโหล ดล" เธอตอบรับด้วยน้ำเสียงปกติออกเย็นชาด้วยซ้ำจนเธอรู้สึกแปลกใจตัวเอง
� � � �"นัท เราขอโทษนะที่ไม่ได้โทรหาเธออะ" เสียงปลายสายของธนดลเอ่ยมาพร้อมคำขอโทษ ความรู้สึกตอนนี้ของณัฏฐนิชปั่นปวนและสับสนไปหมด
� � � �"ไม่เป็นไรหรอกดล เราก็ไม่กล้าโทรหาด้วยแหล่ะ กลัวดลทำงานอยู่" ณัฏฐนิชกล่าวออกไป
� � � �"แต่นัทเราขอโทษนะ แต่เรามีไรอยากจะบอก เราเลิกกันเถอะ" ความเงียบมาเยือนทั้งสองฝ่ายในชั่วขณะหนึ่ง
� � � �"ล้อเราเล่นหรือป่าว ดล" ณัฏฐนิชตัดสินใจทำลายความเงียบที่น่าอึดอัดนี้ลง แต่มันน่าอึดอัดยิ่งกว่าเดิม
� � � �"ไม่ได้ล้อเล่นนัท เรามาคิดดูแล้วเราคงไปด้วยกันไม่ได้หรอก" ธนดลเอ่ยขึ้นมา
� � � �"ทำไมอะดล" ณัฏฐนิชพูด ความรู้สึกเธอตอนนี้เหมือนมีอะไรมาทับที่หน้าอก มันอึดอัดไปหมดเหมือนเธอหายใจไม่ออก
� � � �"เราไม่ได้รักนัทแล้วมั้ง" คำพูดเหมือนฟ้าผ่าลงมา ทำให้ณัฏฐนิชพูดไม่ออก "นัทเราขอโทษจริงๆนะ" ธนดลยังคงเอ่ยคำขอโทษ
� � � �"งั้นแค่นี้นะดล เมื่อดลไม่ได้รักเราแล้ว เราก็จะไม่ยื้อดลไว้" เมื่อพูดจบณัฏฐนิชกดวางสายโทรศัพท์ ความรู้สึกเธอตอนนี้เหมือนจะโล่งออก เหมือนจะหายใจไม่ออกผสมกันไปเป็นความรู้สึกที่อธิบายได้ยาก เธอโทรไปหาเพื่อนสาวทั้งสองคนแล้วเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง เมื่อเพื่อนสาวฟังจบก็ได้แต่ปลอบเธอจนเธอตัดสินใจจะเข้านอน แทนที่เธอจะร้องไห้เหมือนคนอกหักทั่วไปแต่น้ำตาเธอไม่ได้ไหลเลยแม้แต่หยดเดียว �
� � � �เช้าวันรุ่งขึ้นเธอตื่นขึ้นมาโดยยังไม่รู้ว่าเธอควรทำอะไรก่อน เหมือนชีวิตเธอลวนไปหมดทุกอย่าง อย่างแรกที่เธอตัดสินใจทำหลังจากการอาบน้ำคือการไปปลุกยูกิและช่วยยูกิอาบน้ำแต่งตัวมารับประทานอาหารเช้า เมื่อมาถึงโต๊ะอาหารบรรยากาศต่างๆก็ดำเนินไปอย่างปกติ แต่เป็นณัฏฐนิชเองที่พูดน้อยลง เธอทานข้าวเงียบๆจนยูกิเขย่าตัวเธอ จนเธอสะดุ้งแล้วหันมาทางยูกิ
� � � �"โอเน่จัง โอเน่จัง วันนี้ไปสวนสนุกกับยูกินะคะ" ยูกิพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
� � � �"เอ๊ะ สวนสนุก" เธอมองหน้ายูกิอย่างสงสัย
� � � �"ใช่สวนสนุก เธอไม่รู้จักหรือยังไงเด็กๆไม่เคยไปเหรอ" อยู่ๆกรวีร์กูพูดขึ้นมาทำให้คนฟังถึงกับสะอึก ยังไม่ทันที่ณัฏฐนิชจะสวนกลับกรวิชญ์เองก็ขัดขึ้นมาก่อน
� � � �"ไอวีร์ แกเนี่ยนะ เพราะปากแกเป็นอย่างี้น้องนัทเลยไม่อยากแต่งกับแก" กรวีร์ทำหน้ามุ่ยเหมือนเด็กใส่พี่ชายของเขา
� � � �"นะคะ นะคะ ไปกับยูกิจังนะคะ" ยูกิยังคงออดอ้อนต่อไปเมื่อเจอเด็กตื๊อ ณัฏฐนิชก็พยักหน้ารับทันที
� � � �"งั้นวีร์พี่ฝากดูแลหลานด้วยนะ" ยูโกะหันไปบอกกับน้องสามี�
� � � �"อ้าวเฮียวิชญ์กับพี่ยูโกะไม่ได้ไปด้วยกันเหรอคะ" ณัฏฐนิชมองหน้ากรวิชญ์สลับกับยูโกะไปมา
� � � �"ก็ไอวีร์มันข... เอ้ย พวกเฮียมีธุระหน่ะ" กรวิชญ์พูดยังไม่ทันจบประโยคแรกกรวีร์ก็เหยียบให้เข้าที่เท้าของกรวิชญ์จนต้องเปลี่ยนคำพูด
� � � �"ไปกับฉันไม่ดีเหรอไง" �กรวีรืยังคงพูดต่อไป ทำให้ณัฏฐนิชมองค้อนเข้าให้ เธอขี้เกียจจะเถียงกับผู้ชายคนนี้แล้วจริงๆ เธอจะไม่ไปก็ไม่ได้ในเมื่อเธอรับปากกับยูกิไว้แล้วนี่หน่า ในเมื่อรถของกรวีร์ที่มีผู้โดยสารคือณัฏฐนิชกับยูกิออกไปแล้ว ถึงคราวที่กรวิชญ์และยูโกะจะออกไปเที่ยวบ้าง พวกเขาไม่ได้มีธุระอะไรที่ไหนหรอก แต่กรวีร์ได้ขออนุญาติพายูกิไปเที่ยวสวนสนุก แต่ความจริงแล้วแค่เอายูกิมาเป็นข้ออ้างเพื่อที่ได้พาณัฏฐนิชไปด้วยมากกว่า ถ้าชวนณัฏฐนิชไปคนเดียวคงโดนปฏิเสธแน่ๆ ถ้าเอายูกิไปด้วยโอกาสจะมีมากกว่า�
� � � � "วันนี้เธอไม่สบายหรือไง" หลังจากเล่นเครื่องเล่นในสวนสนุกจนเหนื่อยทั้งสามคนมานั่งพักบริเวณโซนที่ทางสวนสนุกจัดไว้ให้นั่ง
� � � � "นั่นซิคะ โอนี่จังไม่สบายหรือป่าว ยูกิซนเหรอคะ" ยูกิมองหน้าณัฏฐนิชอย่างเป็นห่วงตามภาษาเด็กๆ
� � � � "ไม่นี่คะ ยูกิไม่ได้ซนเลย" เธอตอบยูกิไป�
� � � � "งั้นไปเล่นม๊าหมุนอีกรอบนะคะ แล้วกลับบ้านกันโอเน่จังจะได้พักผ่อน" ยูกิหันไปพูดกับกรวีร์และจูงมือทั้งสองเดินไปทางม้าหมุน
� � � � "คุณพ่อคุณแม่จะขึ้นไปกลับน้องด้วยหรือเปล่าครับ" พนักงานขายตั๋วถามกรวีร์และณัฏฐนิช ณัฏฐนิชกำลังจะปฏิเสธแต่กรวีร์ขัดขึ้นเสียก่อน
� � � � "ครับ สามใบเลยครับ" แล้วกรวีร์ก็อุ้มยูกิพร้อมกับจูงมือณัฏฐนิชไปด้วย เมื่อณัฏฐนิชมองไปยังมือใหญ่ที่กุมมือของเธออยู่ เหมือนมือใหญ่คู่นี้กำลังปลอบเธออยู่ให้เธอหายเศร้าเสียที ทั้งสามขึ้นม้าหมุนที่เป็นรถฟักทองที่นั่งกันได้ทั้งครอบครัว เสียงหัวเราะของอาหลานคู่นี้ทำให้เธอหายเศร้าไปชั่วขณะหนึ่ง ระหว่างทางกลับบ้านทั้งสามแวะทานเข้าเย็นและเดินเล่นในห้างสรรพสินค้าสักพัก และเมื่อทั้งสามมาถึงบ้านกรวีร์ต้องอุ้มยูกิไปยังห้องนอนของเด็กน้อยเพราะเด็กน้อยหลับระหว่างทางกลับบ้าน ณัฏฐนิชได้ปลุกยูกิและพาเด็กน้อยไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วพาเข้านอน
� � � � �"เป็นไงสนุกมั้ย" เสียงยูโกะทักเมื่อณัฏฐนิชเดินออกมาจากห้องของยูกิ
� � � � �"สนุกคะ พี่ยูโกะมีอะไรหรือเปล่าคะ" ณัฏฐนิชตอบ
� � � � �"ไม่มีอะไรหรอก พี่เห็นเราเงียบๆไป วี่ร์เขาทำอะไรนัทหรือเปล่า" ยูโกะถามด้วยความเป็นห่วง
� � � � �"เปล่าคะ นัทแค่นู้สึกเหนื่อยๆเท่านั้นเองคะ ขอบคุณคะที่เป็นห่วง" ณัฏฐนิชตอบ เธอรู้สึกขอบคุณที่ยูโกะเป็นห่วงเธอ และเธอเริ่มเป็นกังวลที่คอยให้ทุกคนเป็นห่วงเธอ
� � � � �"งั้นก็ไปพักผ่อนเถอะ ดูแลยูกิมาทั้งวัน" ยูโกะให้ณัฏฐนิชกลับไปพักผ่อนที่ห้องของตัวเอง
� � � � �"ค่ะ ขอบคุณที่เป็นห่วงนะค่ะ" ณัฏฐนิชยกมือไหว้ขอบคุณและเดินเข้าห้องของตัวเองไป เมื่อเธอเดินเข้าห้องไปแล้วกรวีร์และกรวิชญ์ก็เดินเข้ามาหายูโกะ
� � � � �"นัทพูดอะไรหรือเปล่า" กรวิชญ์ถามภรรยาของเขา ยูโกะส่ายหน้า
� � � � �"ฉันเป็นห่วงแกจริงๆเลยคะ แกไม่ร่าเริงแต่เช้าเลย หรือว่า...." ยูโกะพูดพรางมองหน้าสามีและมองหน้ากรวีร์
� � � � �"อาซ้อ อย่ามองผมอย่างนั้นนะ ผมยังไม่ทำอะไรเลย" กรวีร์พูดขึ้น
� � � � �"รีบแก้ตัวเชียวนะไอวีร์ อยู่ๆวันนี้แกก็พานัทไปสวนสนุก ทำไมกลับมายังคงเศร้าอยู่ แกไปทำอะไรนัทฮะ แกไปจัดการเลยนะ" กรวิชญ์สั่งกับน้องชายของตัวเอง
� � � � �"ผมสาบานเลย วันนี้ผมยังไม่ทำอะไรเลยนะ" กรวีร์มองหน้าพี่ชายและพี่สะใภ้ของเขาเพื่อเรียกร้องความยุติธรรม เมื่อไม่ได้ความยุติธรรมคืนมาเขาเลยต้องยอมรับความอยุติธรรมที่พี่ชายและพี่สะใภ้ของเขามอบให้มา เขาหันไปมองหน้าห้องของณัฏฐนิช เขานึกว่าพาไปสวนสนุกแล้วจะหายเศร้าซะอีก
� � � � �
� � � �"มันฝึกงานจะครบเดือนแล้วนะ แกยังไม่รู้อีกเหรอวะ" ปทิตตาตอบบอกเพื่อนสาว
� � � �"แกคิดได้ยังหล่ะหะไอตา"นภัสสรย้อนกลับไปยังเพื่อนสาว
� � � �"ยังวะ ฮ่าๆๆ เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน ไอนัทตกลงแกจะเอาไงวะ เรื่องคุณวีร์หน่ะ" ปทิตตาหัวเราะกลบเกลื่อนแล้วเปลี่ยนเรื่องทันที
� � � �"เปลี่ยนเรื่องเลยนะไอตา แต่ฉันก็อยากรู้หว่ะเรื่องคุณวีร์ แล้วไอดลแกคุยกะมันยังวะ" คำถามแรกณัฏฐนิชยังไม่ทันจะตอบคำตอบที่สองก็ทำให้เธอเศร้าหมองได้ในทันที นั่นซินะนานแล้วที่เธอไม่ได้ติดต่อกับธนดลในตอนแรกๆเธอทั้งเศร้าทั้งเหงาแล้วก็เจ็บปวด แต่ตอนนี้นอกจากเศร้าแล้วเธอไม่รู้สึกอะไรอีก จะเรียกว่ารักได้อีกหรือเปล่าเธอก็ไม่รู้
� � � �"เรื่องหมอนั่นอะนะ ฉันต้องตกลงไรวะฉันก็ทำงานใช้หนี้อากงไปเรื่อยๆดีกว่า" ณัฏฐนิชยังคงหัวรั้นตอบไป ทั้งๆที่ใจเธอเริ่มคิดถึงกรวีร์
� � � �"เหรอ ฉันจะคอยดูแก ไอนัท" ปทิตตาย้อนกลับไปเสียงสูงหมายจะล้อเพื่อนสาว
� � � �"ฉันว่าแกคุยกะไอดลเหอะนัท แกมัวแต่ปิดกลั้นตัวเองเพื่อผู้ชายคนเดียวที่ไม่รู้หายหัวไปไหนเนี่ยนะ" นภัสสรเตือนณัฏฐนิช�
� � � �"แต่ดลก็โทรมาคุยบ้างนะ แค่ช่วงนี้หายไปเฉยๆนะ" ณัฏฐนิชมองโลกในแง่ดีเข้าไว้
� � � �"ไอนัทแกอย่าหลอกตัวเองเลย ถามใจตัวแกเองเหอะ ว่าตอนนี้แกรู้สึกยังไง" คำพูดที่ปทิตตาเอ่ยออกมาทำให้ณัฏฐนิชหยุดชะงัก ไม่มีเวลาให้เธอได้คิดมานัก เพราะมีสายซ้อน ชื่อบนหน้าจอของเธอเป็นบุคคลที่พวกเธอกำลังพูดถึงนั่นเอง
� � � �"แกๆ แค่นี้ก่อนนะดลโทรมาหน่ะ" เมื่อเธอพูดจบก็ได้ยินจากปลายสายกล่าวลาแล้ววางสายไป เธอกดรับสายธนดลในทันที
� � � �"ฮัลโหล นัท" เสียงปลายสายดังออกมา แต่แทนที่ณัฏฐนิชจะดีใจหรือรู้สึกตื่นเต้น เธอกลับไม่รู้สึกอะไรเลย
� � � �"ฮัลโหล ดล" เธอตอบรับด้วยน้ำเสียงปกติออกเย็นชาด้วยซ้ำจนเธอรู้สึกแปลกใจตัวเอง
� � � �"นัท เราขอโทษนะที่ไม่ได้โทรหาเธออะ" เสียงปลายสายของธนดลเอ่ยมาพร้อมคำขอโทษ ความรู้สึกตอนนี้ของณัฏฐนิชปั่นปวนและสับสนไปหมด
� � � �"ไม่เป็นไรหรอกดล เราก็ไม่กล้าโทรหาด้วยแหล่ะ กลัวดลทำงานอยู่" ณัฏฐนิชกล่าวออกไป
� � � �"แต่นัทเราขอโทษนะ แต่เรามีไรอยากจะบอก เราเลิกกันเถอะ" ความเงียบมาเยือนทั้งสองฝ่ายในชั่วขณะหนึ่ง
� � � �"ล้อเราเล่นหรือป่าว ดล" ณัฏฐนิชตัดสินใจทำลายความเงียบที่น่าอึดอัดนี้ลง แต่มันน่าอึดอัดยิ่งกว่าเดิม
� � � �"ไม่ได้ล้อเล่นนัท เรามาคิดดูแล้วเราคงไปด้วยกันไม่ได้หรอก" ธนดลเอ่ยขึ้นมา
� � � �"ทำไมอะดล" ณัฏฐนิชพูด ความรู้สึกเธอตอนนี้เหมือนมีอะไรมาทับที่หน้าอก มันอึดอัดไปหมดเหมือนเธอหายใจไม่ออก
� � � �"เราไม่ได้รักนัทแล้วมั้ง" คำพูดเหมือนฟ้าผ่าลงมา ทำให้ณัฏฐนิชพูดไม่ออก "นัทเราขอโทษจริงๆนะ" ธนดลยังคงเอ่ยคำขอโทษ
� � � �"งั้นแค่นี้นะดล เมื่อดลไม่ได้รักเราแล้ว เราก็จะไม่ยื้อดลไว้" เมื่อพูดจบณัฏฐนิชกดวางสายโทรศัพท์ ความรู้สึกเธอตอนนี้เหมือนจะโล่งออก เหมือนจะหายใจไม่ออกผสมกันไปเป็นความรู้สึกที่อธิบายได้ยาก เธอโทรไปหาเพื่อนสาวทั้งสองคนแล้วเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง เมื่อเพื่อนสาวฟังจบก็ได้แต่ปลอบเธอจนเธอตัดสินใจจะเข้านอน แทนที่เธอจะร้องไห้เหมือนคนอกหักทั่วไปแต่น้ำตาเธอไม่ได้ไหลเลยแม้แต่หยดเดียว �
� � � �เช้าวันรุ่งขึ้นเธอตื่นขึ้นมาโดยยังไม่รู้ว่าเธอควรทำอะไรก่อน เหมือนชีวิตเธอลวนไปหมดทุกอย่าง อย่างแรกที่เธอตัดสินใจทำหลังจากการอาบน้ำคือการไปปลุกยูกิและช่วยยูกิอาบน้ำแต่งตัวมารับประทานอาหารเช้า เมื่อมาถึงโต๊ะอาหารบรรยากาศต่างๆก็ดำเนินไปอย่างปกติ แต่เป็นณัฏฐนิชเองที่พูดน้อยลง เธอทานข้าวเงียบๆจนยูกิเขย่าตัวเธอ จนเธอสะดุ้งแล้วหันมาทางยูกิ
� � � �"โอเน่จัง โอเน่จัง วันนี้ไปสวนสนุกกับยูกินะคะ" ยูกิพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
� � � �"เอ๊ะ สวนสนุก" เธอมองหน้ายูกิอย่างสงสัย
� � � �"ใช่สวนสนุก เธอไม่รู้จักหรือยังไงเด็กๆไม่เคยไปเหรอ" อยู่ๆกรวีร์กูพูดขึ้นมาทำให้คนฟังถึงกับสะอึก ยังไม่ทันที่ณัฏฐนิชจะสวนกลับกรวิชญ์เองก็ขัดขึ้นมาก่อน
� � � �"ไอวีร์ แกเนี่ยนะ เพราะปากแกเป็นอย่างี้น้องนัทเลยไม่อยากแต่งกับแก" กรวีร์ทำหน้ามุ่ยเหมือนเด็กใส่พี่ชายของเขา
� � � �"นะคะ นะคะ ไปกับยูกิจังนะคะ" ยูกิยังคงออดอ้อนต่อไปเมื่อเจอเด็กตื๊อ ณัฏฐนิชก็พยักหน้ารับทันที
� � � �"งั้นวีร์พี่ฝากดูแลหลานด้วยนะ" ยูโกะหันไปบอกกับน้องสามี�
� � � �"อ้าวเฮียวิชญ์กับพี่ยูโกะไม่ได้ไปด้วยกันเหรอคะ" ณัฏฐนิชมองหน้ากรวิชญ์สลับกับยูโกะไปมา
� � � �"ก็ไอวีร์มันข... เอ้ย พวกเฮียมีธุระหน่ะ" กรวิชญ์พูดยังไม่ทันจบประโยคแรกกรวีร์ก็เหยียบให้เข้าที่เท้าของกรวิชญ์จนต้องเปลี่ยนคำพูด
� � � �"ไปกับฉันไม่ดีเหรอไง" �กรวีรืยังคงพูดต่อไป ทำให้ณัฏฐนิชมองค้อนเข้าให้ เธอขี้เกียจจะเถียงกับผู้ชายคนนี้แล้วจริงๆ เธอจะไม่ไปก็ไม่ได้ในเมื่อเธอรับปากกับยูกิไว้แล้วนี่หน่า ในเมื่อรถของกรวีร์ที่มีผู้โดยสารคือณัฏฐนิชกับยูกิออกไปแล้ว ถึงคราวที่กรวิชญ์และยูโกะจะออกไปเที่ยวบ้าง พวกเขาไม่ได้มีธุระอะไรที่ไหนหรอก แต่กรวีร์ได้ขออนุญาติพายูกิไปเที่ยวสวนสนุก แต่ความจริงแล้วแค่เอายูกิมาเป็นข้ออ้างเพื่อที่ได้พาณัฏฐนิชไปด้วยมากกว่า ถ้าชวนณัฏฐนิชไปคนเดียวคงโดนปฏิเสธแน่ๆ ถ้าเอายูกิไปด้วยโอกาสจะมีมากกว่า�
� � � � "วันนี้เธอไม่สบายหรือไง" หลังจากเล่นเครื่องเล่นในสวนสนุกจนเหนื่อยทั้งสามคนมานั่งพักบริเวณโซนที่ทางสวนสนุกจัดไว้ให้นั่ง
� � � � "นั่นซิคะ โอนี่จังไม่สบายหรือป่าว ยูกิซนเหรอคะ" ยูกิมองหน้าณัฏฐนิชอย่างเป็นห่วงตามภาษาเด็กๆ
� � � � "ไม่นี่คะ ยูกิไม่ได้ซนเลย" เธอตอบยูกิไป�
� � � � "งั้นไปเล่นม๊าหมุนอีกรอบนะคะ แล้วกลับบ้านกันโอเน่จังจะได้พักผ่อน" ยูกิหันไปพูดกับกรวีร์และจูงมือทั้งสองเดินไปทางม้าหมุน
� � � � "คุณพ่อคุณแม่จะขึ้นไปกลับน้องด้วยหรือเปล่าครับ" พนักงานขายตั๋วถามกรวีร์และณัฏฐนิช ณัฏฐนิชกำลังจะปฏิเสธแต่กรวีร์ขัดขึ้นเสียก่อน
� � � � "ครับ สามใบเลยครับ" แล้วกรวีร์ก็อุ้มยูกิพร้อมกับจูงมือณัฏฐนิชไปด้วย เมื่อณัฏฐนิชมองไปยังมือใหญ่ที่กุมมือของเธออยู่ เหมือนมือใหญ่คู่นี้กำลังปลอบเธออยู่ให้เธอหายเศร้าเสียที ทั้งสามขึ้นม้าหมุนที่เป็นรถฟักทองที่นั่งกันได้ทั้งครอบครัว เสียงหัวเราะของอาหลานคู่นี้ทำให้เธอหายเศร้าไปชั่วขณะหนึ่ง ระหว่างทางกลับบ้านทั้งสามแวะทานเข้าเย็นและเดินเล่นในห้างสรรพสินค้าสักพัก และเมื่อทั้งสามมาถึงบ้านกรวีร์ต้องอุ้มยูกิไปยังห้องนอนของเด็กน้อยเพราะเด็กน้อยหลับระหว่างทางกลับบ้าน ณัฏฐนิชได้ปลุกยูกิและพาเด็กน้อยไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วพาเข้านอน
� � � � �"เป็นไงสนุกมั้ย" เสียงยูโกะทักเมื่อณัฏฐนิชเดินออกมาจากห้องของยูกิ
� � � � �"สนุกคะ พี่ยูโกะมีอะไรหรือเปล่าคะ" ณัฏฐนิชตอบ
� � � � �"ไม่มีอะไรหรอก พี่เห็นเราเงียบๆไป วี่ร์เขาทำอะไรนัทหรือเปล่า" ยูโกะถามด้วยความเป็นห่วง
� � � � �"เปล่าคะ นัทแค่นู้สึกเหนื่อยๆเท่านั้นเองคะ ขอบคุณคะที่เป็นห่วง" ณัฏฐนิชตอบ เธอรู้สึกขอบคุณที่ยูโกะเป็นห่วงเธอ และเธอเริ่มเป็นกังวลที่คอยให้ทุกคนเป็นห่วงเธอ
� � � � �"งั้นก็ไปพักผ่อนเถอะ ดูแลยูกิมาทั้งวัน" ยูโกะให้ณัฏฐนิชกลับไปพักผ่อนที่ห้องของตัวเอง
� � � � �"ค่ะ ขอบคุณที่เป็นห่วงนะค่ะ" ณัฏฐนิชยกมือไหว้ขอบคุณและเดินเข้าห้องของตัวเองไป เมื่อเธอเดินเข้าห้องไปแล้วกรวีร์และกรวิชญ์ก็เดินเข้ามาหายูโกะ
� � � � �"นัทพูดอะไรหรือเปล่า" กรวิชญ์ถามภรรยาของเขา ยูโกะส่ายหน้า
� � � � �"ฉันเป็นห่วงแกจริงๆเลยคะ แกไม่ร่าเริงแต่เช้าเลย หรือว่า...." ยูโกะพูดพรางมองหน้าสามีและมองหน้ากรวีร์
� � � � �"อาซ้อ อย่ามองผมอย่างนั้นนะ ผมยังไม่ทำอะไรเลย" กรวีร์พูดขึ้น
� � � � �"รีบแก้ตัวเชียวนะไอวีร์ อยู่ๆวันนี้แกก็พานัทไปสวนสนุก ทำไมกลับมายังคงเศร้าอยู่ แกไปทำอะไรนัทฮะ แกไปจัดการเลยนะ" กรวิชญ์สั่งกับน้องชายของตัวเอง
� � � � �"ผมสาบานเลย วันนี้ผมยังไม่ทำอะไรเลยนะ" กรวีร์มองหน้าพี่ชายและพี่สะใภ้ของเขาเพื่อเรียกร้องความยุติธรรม เมื่อไม่ได้ความยุติธรรมคืนมาเขาเลยต้องยอมรับความอยุติธรรมที่พี่ชายและพี่สะใภ้ของเขามอบให้มา เขาหันไปมองหน้าห้องของณัฏฐนิช เขานึกว่าพาไปสวนสนุกแล้วจะหายเศร้าซะอีก
� � � � �
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น