ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ตอน ๙ ๑๐๐%
"คุณแม่ ควรกลับไปได้แล้วนะครับ" หลังจากบุริศร์ปิดประตู แล้วหันมาพูดเสียงเข้มกับมารดา
"ฉันยังไม่ได้ฝากบอกคู่หมั้นเด็กคนนั้นเลยนะ" คุณหญิงพิมพ์ชนกตอบกลับไปด้วยเสียงเย็น
"แล้วคุณแม่ ต้องการจะพูดอะไรกับเด็กคนนั้นหล่ะครับ" บุริศร์ถามเสียงเครียดแต่ก็ไม่ละสายตาจากมารดาของตน
"จะมีอะไรซะอีกหล่ะ จากฝากคู่หมั้น ให้ดูแลเมียตัวเองหน่อย" คุณหญิงพิมพ์ชนกมองหน้าบุตรชายด้วยความเย็นชา
"คุณแม่ ทำอะไรญาดาครับ" บุริศร์หน้าเคร่งเครียดมากกว่าเดิม
"ฉันไม่ได้ ทำอะไรสักหน่อย แต่นางเด็กนั่นแกยังไปมาหาสู่กับมันใช่มั้ย" คุณหญิงพิมพ์มองหน้าบุริศร์ด้วยหน้าตาจริงจัง
"ทำไมครับแม่ ผมมีสิทธ์ไปไหนก็ได้ แล้วเด็กคนนั้นเผลอๆเป็นหลานคุณแม่นะครับ" บุริศร์โต้ตอบกลับไป ทำให้ใบหน้าของคุณหญิงพิมพ์ชนกเขียวคล้ำ
"งั้นนังเด็กคนนี้ก็คงสำส่อน เหมือนแม่ของมัน หรือแกเองที่เอาผู้หญิงไม่เลือกเหมือนพ่อของแก" ตอนนี้ความรู้ของบุริศร์เหมือนโดนน้ำเย็นสาดใส่หน้า ใช่แล้วเขาไม่ได้เป็นลูกแท้ๆของคุณหญิงพิมพ์ชนก เขาเป็นลูกคนใช้ในบ้านหลังนั้น แม่ของเขาได้จากไปตั้งแต่บุริศร์อยู่มัธยมปลาย คุณหญิงพิมพ์ชนกไม่สามารถมีลูกได้พ่อของบุริศร์จำเป็นต้องมีทายาทสืบสกุล เขาเลยรับภรรยาน้อยเข้ามาในบ้านรวมถึงแม่ของเขาและแม่ของญาดาเช่นกัน ซึ่งไม่เป็นที่พอใจแกคุณหญิงพิมพ์ชนกนัก บุริศร์โกรธจัดจนเขาออกไปจากห้องซะเอง ปล่อยให้คุณหญิงพิมพ์ชนกนั่งอยู่ในห้องตามลำพัง เมื่อบุริศร์เดินออกจากห้องโดยไม่สนใจมารดาที่อยู่ในห้อง ทำให้ทุกคนต่างชะเง้อมองเข้าไปในห้องว่าเกิดอะไรขึ้น
"สวัสดีทุกคน หน้าตาไม่สดชื่นเลยนะ" ทันใดนั้นกรวีร์ก็เดินเข้ามา ทุกคนหันไปมองต้นเสียงแล้วจึงหันไปมองในห้องของบุริศร์ กรวีร์หันหน้าตามไปยังห้องของบุริศร์ทันที "นัท ไปรอข้างล่างนะ" กรวีร์เห็นว่าใครอยู่ในห้องรีบหันไปบอกณัฏฐนิชทันทีเตรียมตัวที่จะหันหลังกลับไปแล้ววิ่งเต็มที่ คุณหญิงพิมพ์ชนกเป็นบุคคลที่รับมือยากที่สุดที่เขาเคยเจอมา อากงของเขายังรับมือง่ายกว่าอีก
"อะไรของเขา" ณัฏฐนิชมองตามแผ่นหลังของกรวีร์ แล้วมาสนใจงานของตัวเองต่อ เพื่อให้ลืมเรื่องของธนดล
"เกิดอะไรขึ้นวะแก" นันทนัทหันมาถามเพื่อนสาว
"แกก็อยู่กะฉันตรงนี้เนี่ย แกคิดว่าฉันจะรู้มั้ย" จันทนาตวาดแหวใส่นันทนัท ตั้งแต่ทำงานด้วยกันมา เจอคุณหญิงพิมพ์ชนกก็บ่อยเธอยังไม่เคยเห็นคุณหญิงพิมพ์ชนกทำให้บุริศร์โมโหขนาดนี้ ข้างในเกิดอะไรขึ้นกันนะ ต่างคนต่างพาคาดเดาไปต่างๆนานา เมื่อคุณหญิงพิมพ์ชนกก้าวออกมาจากห้องบุริศร์เธอได้กวาดตามองพร้อมส่งยิ้มให้แก่ณัฏฐนิช แต่รอยยิ้มนั้นทำให้ณัฏฐนิชรู้สึกอึดอัดแล้วใจหายวาบ เหมือนรอยยิ้มนั้นเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงเรื่องราวเลวร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้น หลังจากคุณหญิงพิมพ์ชนกได้ก้าวพ้นออกจากแผนกไปแล้ว กรวีร์และบุริศร์ก็เข้ามาในแผนกพร้อมกัน ทั้งคู่ต่างมีสีหน้าเคร่งเครียด ต่างรู้ดีว่าถ้าคุณหญิงพิมพ์ชนกตั้งใจจะทำอะไรเกี่ยวกับบุริศร์แล้วย่อมไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน
"กลับไปทำงานได้แล้ว" บุริศร์ส่งเสียงเข้ม แล้วเดินเข้าห้องทำงานไปพร้อมกับกรวีร์ ภายในห้องเต็มไปด้วยความตึงเครียดที่คุณหญิงพิมพ์ชนกทิ้งไว้ให้ก่อนกลับไป
"แกว่าแม่แกทำอะไรวะ" กรวีร์ถามขึ้น
"ฉัน โทรหาดาหลายรอบแล้วยังไม่รับสายเลยหว่ะ ฉันว่าจะไปดูดากับลูกวันนี้ แกไปกับฉันมั้ย" บุริศร์ยังคงกดโทรศัพท์มือถือของเขาต่อไป
"โทษทีหว่ะ ฉันต้องไปส่งนัท" กรวีร์ปฏิเสธ
"โอเค ไม่เป็นไรเดี๋ยวฉันไปคนเดียว" จากนั้นบุริศร์ก็เก็บข้าวของแล้วเดินออกจากห้องทำงานไป
"ว่าไงนะ พี่ริทไม่ใช่ลูกแท้ของคุณหญิงเหรอ" ระหว่างทางกลับบ้านกรวีร์เล่าเรื่องของบุริศร์ให้ณัฏฐนิชฟังยกเว้นเรื่องของญาดา
"ใช่หน่ะซิ เป็นคนที่ฉันไม่อยากต่อกรด้วยมากที่สุด" กรวีร์กล่าวเมื่อรถแล่นเข้ามาใกล้บ้านของณัฏฐนิช
"คุณช่วยขับรถวนอีกสองสามรอบได้มั้ย" ณัฏฐนิชพูดเมื่อมองออกไปหน้าต่างรถแล้วมองเห็นมอเตอร์ไซค์ทีดูคุ้นตา
"ทำไม เธออยากอยู่กับฉันนานๆเหรอ" กรวีร์แซวณัฏฐนิช เธอมองค้อนเขาพร้อมตีไปที่ต้นแขนเขาอย่างจัง
"จะบ้าไง นั่นมันมอเตอร์ไซค์ของดล" เธอชี้ให้เขาดูมอเตอร์ไซค์ที่จอดไว้ใกล้ๆบ้านของเธอ เมือ่กรวีร์เห็นเขาเลยตัดสินใจวนให้ณัฏฐนิชอีกหนึ่งรอบแต่ไม่มีท่าทีว่ามอเตอร์ไซค์คันนั้นจะไป และเขายังสังเกตเห็นธนดลยืนแอบอยู่ กรวีร์จึงตัดสินใจจอดรถ
"คุณจอดทำไม" ณัฏฐนิชถามขึ้น
"อย่าบอกนะว่าเขามารอตอนเช้าด้วย" กรวีร์หันไปถามณัฏฐนิชที่ก้มหน้าแล้วพยักหน้าน้อยๆ
"นี่มันเข้าขั้นโรคจิตแล้วนะ หรือเธอไม่ได้คุยกะเขา" กรวีร์ถามพร้อมมองออกไปข้างนอก
"ไม่ใช่นะ ฉันคุยแล้วนะ" ณัฏฐนิชมองไปที่กรวีร์แล้วส่ายหัวพร้อมยกมือขึ้นแกว่งไปมา
"งั้น ไปอยู่บ้านฉันสักพัก ถ้าเขาไม่เห็นเธอคงไปเอง เดี๋ยวเสื้อผ้าค่อยให้ป๊าเธอเอาไปให้ทีหลัง" กรวีร์เสนอ แล้วเขาก็แล่นรถค่อยๆออกไป
ณัฏฐนิชมองกระจกจากหูช้างเพิ่อมองข้างหลัง เธอเห็นธนดลมองมาที่เธอ เท่านี้ก็ทำให้เธอตัวสั่นแล้วก้มหน้าไม่มองกระจกหูช้างอีกเลย
"ฉันยังไม่ได้ฝากบอกคู่หมั้นเด็กคนนั้นเลยนะ" คุณหญิงพิมพ์ชนกตอบกลับไปด้วยเสียงเย็น
"แล้วคุณแม่ ต้องการจะพูดอะไรกับเด็กคนนั้นหล่ะครับ" บุริศร์ถามเสียงเครียดแต่ก็ไม่ละสายตาจากมารดาของตน
"จะมีอะไรซะอีกหล่ะ จากฝากคู่หมั้น ให้ดูแลเมียตัวเองหน่อย" คุณหญิงพิมพ์ชนกมองหน้าบุตรชายด้วยความเย็นชา
"คุณแม่ ทำอะไรญาดาครับ" บุริศร์หน้าเคร่งเครียดมากกว่าเดิม
"ฉันไม่ได้ ทำอะไรสักหน่อย แต่นางเด็กนั่นแกยังไปมาหาสู่กับมันใช่มั้ย" คุณหญิงพิมพ์มองหน้าบุริศร์ด้วยหน้าตาจริงจัง
"ทำไมครับแม่ ผมมีสิทธ์ไปไหนก็ได้ แล้วเด็กคนนั้นเผลอๆเป็นหลานคุณแม่นะครับ" บุริศร์โต้ตอบกลับไป ทำให้ใบหน้าของคุณหญิงพิมพ์ชนกเขียวคล้ำ
"งั้นนังเด็กคนนี้ก็คงสำส่อน เหมือนแม่ของมัน หรือแกเองที่เอาผู้หญิงไม่เลือกเหมือนพ่อของแก" ตอนนี้ความรู้ของบุริศร์เหมือนโดนน้ำเย็นสาดใส่หน้า ใช่แล้วเขาไม่ได้เป็นลูกแท้ๆของคุณหญิงพิมพ์ชนก เขาเป็นลูกคนใช้ในบ้านหลังนั้น แม่ของเขาได้จากไปตั้งแต่บุริศร์อยู่มัธยมปลาย คุณหญิงพิมพ์ชนกไม่สามารถมีลูกได้พ่อของบุริศร์จำเป็นต้องมีทายาทสืบสกุล เขาเลยรับภรรยาน้อยเข้ามาในบ้านรวมถึงแม่ของเขาและแม่ของญาดาเช่นกัน ซึ่งไม่เป็นที่พอใจแกคุณหญิงพิมพ์ชนกนัก บุริศร์โกรธจัดจนเขาออกไปจากห้องซะเอง ปล่อยให้คุณหญิงพิมพ์ชนกนั่งอยู่ในห้องตามลำพัง เมื่อบุริศร์เดินออกจากห้องโดยไม่สนใจมารดาที่อยู่ในห้อง ทำให้ทุกคนต่างชะเง้อมองเข้าไปในห้องว่าเกิดอะไรขึ้น
"สวัสดีทุกคน หน้าตาไม่สดชื่นเลยนะ" ทันใดนั้นกรวีร์ก็เดินเข้ามา ทุกคนหันไปมองต้นเสียงแล้วจึงหันไปมองในห้องของบุริศร์ กรวีร์หันหน้าตามไปยังห้องของบุริศร์ทันที "นัท ไปรอข้างล่างนะ" กรวีร์เห็นว่าใครอยู่ในห้องรีบหันไปบอกณัฏฐนิชทันทีเตรียมตัวที่จะหันหลังกลับไปแล้ววิ่งเต็มที่ คุณหญิงพิมพ์ชนกเป็นบุคคลที่รับมือยากที่สุดที่เขาเคยเจอมา อากงของเขายังรับมือง่ายกว่าอีก
"อะไรของเขา" ณัฏฐนิชมองตามแผ่นหลังของกรวีร์ แล้วมาสนใจงานของตัวเองต่อ เพื่อให้ลืมเรื่องของธนดล
"เกิดอะไรขึ้นวะแก" นันทนัทหันมาถามเพื่อนสาว
"แกก็อยู่กะฉันตรงนี้เนี่ย แกคิดว่าฉันจะรู้มั้ย" จันทนาตวาดแหวใส่นันทนัท ตั้งแต่ทำงานด้วยกันมา เจอคุณหญิงพิมพ์ชนกก็บ่อยเธอยังไม่เคยเห็นคุณหญิงพิมพ์ชนกทำให้บุริศร์โมโหขนาดนี้ ข้างในเกิดอะไรขึ้นกันนะ ต่างคนต่างพาคาดเดาไปต่างๆนานา เมื่อคุณหญิงพิมพ์ชนกก้าวออกมาจากห้องบุริศร์เธอได้กวาดตามองพร้อมส่งยิ้มให้แก่ณัฏฐนิช แต่รอยยิ้มนั้นทำให้ณัฏฐนิชรู้สึกอึดอัดแล้วใจหายวาบ เหมือนรอยยิ้มนั้นเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงเรื่องราวเลวร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้น หลังจากคุณหญิงพิมพ์ชนกได้ก้าวพ้นออกจากแผนกไปแล้ว กรวีร์และบุริศร์ก็เข้ามาในแผนกพร้อมกัน ทั้งคู่ต่างมีสีหน้าเคร่งเครียด ต่างรู้ดีว่าถ้าคุณหญิงพิมพ์ชนกตั้งใจจะทำอะไรเกี่ยวกับบุริศร์แล้วย่อมไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน
"กลับไปทำงานได้แล้ว" บุริศร์ส่งเสียงเข้ม แล้วเดินเข้าห้องทำงานไปพร้อมกับกรวีร์ ภายในห้องเต็มไปด้วยความตึงเครียดที่คุณหญิงพิมพ์ชนกทิ้งไว้ให้ก่อนกลับไป
"แกว่าแม่แกทำอะไรวะ" กรวีร์ถามขึ้น
"ฉัน โทรหาดาหลายรอบแล้วยังไม่รับสายเลยหว่ะ ฉันว่าจะไปดูดากับลูกวันนี้ แกไปกับฉันมั้ย" บุริศร์ยังคงกดโทรศัพท์มือถือของเขาต่อไป
"โทษทีหว่ะ ฉันต้องไปส่งนัท" กรวีร์ปฏิเสธ
"โอเค ไม่เป็นไรเดี๋ยวฉันไปคนเดียว" จากนั้นบุริศร์ก็เก็บข้าวของแล้วเดินออกจากห้องทำงานไป
"ว่าไงนะ พี่ริทไม่ใช่ลูกแท้ของคุณหญิงเหรอ" ระหว่างทางกลับบ้านกรวีร์เล่าเรื่องของบุริศร์ให้ณัฏฐนิชฟังยกเว้นเรื่องของญาดา
"ใช่หน่ะซิ เป็นคนที่ฉันไม่อยากต่อกรด้วยมากที่สุด" กรวีร์กล่าวเมื่อรถแล่นเข้ามาใกล้บ้านของณัฏฐนิช
"คุณช่วยขับรถวนอีกสองสามรอบได้มั้ย" ณัฏฐนิชพูดเมื่อมองออกไปหน้าต่างรถแล้วมองเห็นมอเตอร์ไซค์ทีดูคุ้นตา
"ทำไม เธออยากอยู่กับฉันนานๆเหรอ" กรวีร์แซวณัฏฐนิช เธอมองค้อนเขาพร้อมตีไปที่ต้นแขนเขาอย่างจัง
"จะบ้าไง นั่นมันมอเตอร์ไซค์ของดล" เธอชี้ให้เขาดูมอเตอร์ไซค์ที่จอดไว้ใกล้ๆบ้านของเธอ เมือ่กรวีร์เห็นเขาเลยตัดสินใจวนให้ณัฏฐนิชอีกหนึ่งรอบแต่ไม่มีท่าทีว่ามอเตอร์ไซค์คันนั้นจะไป และเขายังสังเกตเห็นธนดลยืนแอบอยู่ กรวีร์จึงตัดสินใจจอดรถ
"คุณจอดทำไม" ณัฏฐนิชถามขึ้น
"อย่าบอกนะว่าเขามารอตอนเช้าด้วย" กรวีร์หันไปถามณัฏฐนิชที่ก้มหน้าแล้วพยักหน้าน้อยๆ
"นี่มันเข้าขั้นโรคจิตแล้วนะ หรือเธอไม่ได้คุยกะเขา" กรวีร์ถามพร้อมมองออกไปข้างนอก
"ไม่ใช่นะ ฉันคุยแล้วนะ" ณัฏฐนิชมองไปที่กรวีร์แล้วส่ายหัวพร้อมยกมือขึ้นแกว่งไปมา
"งั้น ไปอยู่บ้านฉันสักพัก ถ้าเขาไม่เห็นเธอคงไปเอง เดี๋ยวเสื้อผ้าค่อยให้ป๊าเธอเอาไปให้ทีหลัง" กรวีร์เสนอ แล้วเขาก็แล่นรถค่อยๆออกไป
ณัฏฐนิชมองกระจกจากหูช้างเพิ่อมองข้างหลัง เธอเห็นธนดลมองมาที่เธอ เท่านี้ก็ทำให้เธอตัวสั่นแล้วก้มหน้าไม่มองกระจกหูช้างอีกเลย
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น