ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Good morning sunshine รักวุ่นวายนายแสงตะวัน

    ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 3 เพื่อนใหม่

    • อัปเดตล่าสุด 25 ม.ค. 53


    บทที่ 3

    เพื่อนใหม่

     

     

                    หลังจากการวิ่งมาราธอนหลบหนีไอ้แก๊งอันธพาลอันดับสี่บ้าอะไรนั่นได้ เราก็ต้องวุ่นกับการหาห้องเรียนกันอีก เป็นผลให้..

                    เรามาโรงเรียนสายตั้งแต่วันแรกของเทอม --^^

                    เริ่มชั่วโมงแรกมาเป็นวิชาภูมิศาสตร์ที่สอนโดยอาจารย์โฮมรูมเราเอง เป็นผลให้อาจารย์ไม่ค่อยโมโหกับการมาสายของเราเท่าไหร่ และทำการให้ฉันออกไปแนะนำตัวหน้าชั้นต่อหน้าทุกคนก่อนที่จะได้เข้าเรียน เมื่อเสร็จสิ้นก็เริ่มการเรียน

                    ความจริงฉันน่าจะแนะนำตัวเองให้มันยืดยาวกว่านี้นะเนี่ย 0o0 อาจารย์แกสอนอย่างกะมังกือพ่นไฟแน่ะ ไม่ให้นักเรียนพักกันบ้างเลยหรอ คนอื่นเค้าทรมานมือนะเนี่ย มือฉันระบมไปหมดแล้ว TT

                    อะไรๆทีตอนหาเรื่องนักเลงยังไม่เหนื่อยเลย มาจดแค่นี้ทำเป็นบ่นไปได้ นายแย้หันมากระซิบด่าฉันแล้วทำหน้าเหมือนหยอกล้อหน้าตาฉันในตอนนี้ -^-

                    อะไรเล่า ก็คนมันไม่เคยเจออะไรแบบนี้นี่ รู้อย่างนี้เก็บแรงไว้จดงานซะตั้งแต่แรกดีกว่า TT

                    แต่ถึงจะขออะไรไปก็ทำอะไรไม่ได้ เลยได้แต่ภาวนาให้วิชานี้จบลงไปโดยไวที่เถิด..

                    กริ๊ง!!

                    ในที่สุดเสียงสวรรค์มันก็มาถึง

                    จบสิ้นกันซะที ^T0T^

                    เอาล่ะ เนื่องจากพอดีว่าอาจารย์สอนเลขท่านขอลาหยุดนะ ฉะนั้นเพราะว่าอาจารย์ว่างในคาบนี้ด้วย จึงขอสอนพวกเธอต่ออีกคาบนึงแล้วปล่อยพักนะจ้ะ ^^
                    ว..ว่าไงน้า
    !!!

                    ตามด้วยเสียงโห่ร้องจากนักเรียนอีกเป็นส่วนใหญ่ แต่เพราะทำอะไรไม่ได้ จึงต้องจำใจนั่งทรมานมือตัวเองต่ออีก 1 ชั่วโมงไปโดยปริยาย T^T

                     หลังจากเสียงสวรรค์(เสียงกริ่งเลิกวิชา)นั้นดังขึ้นอีกรอบฉันก็ทำการวางปากกาลงแล้วสะบัดมือตัวเองอย่างแรงเป็นการคลายมือ อา..ปวดเหลือเกิน TT

                    ฮะๆ เธอนี่ตลกดีจัง ^^ เสียงหนึ่งดังขึ้นตรงที่นั่งเยื้องฉัน เป็นเด็กหนุ่มหน้าตาดีคนนึงนั่นเอง น่ารักชะมัดเลย เค้าทักเราซะด้วย อ๊าย..(บ้า)

                    เธอชื่อมิโสะสินะ เป็นชื่อที่แปลกดีจังเลย ใครตั้งให้หรอ เขาเดินเข้ามาหาฉันแล้วนั่งลงตรงเก้าอี้ของนายแย้ที่อยู่ด้านหน้าฉัน

                    อ๋อ แม่ตั้งให้น่ะ เพราะว่าอาหารเช้าที่แม่เค้าได้กินก่อนจะคลอดคือ ซุปมิโสะน่ะ

                    อ่อ อย่างนี้นี่เอง เธอเกิดตอนกลางคืนหรอ

                    ก็ ทำนองนั้นล่ะ ฉันเกิดตอน 18.27 น่

                    “อ๋อ ฉันเกิดตอน 18.18ล่ะ ใกล้ๆกับเธอเลยนี่นา” เขาทำท่าดีใจแล้วยิ้มออกมา กรี๊ด ยิ้มได้น่ารักดีชะมัดเลยอ้ะ >w<

                    เออใช่ เรายังไม่ได้บอกชื่อเราเลย เราชื่อไคโตะนะ เธอนี่รู้สึกว่าจะได้โยไปเป็นโฮสต์แฟมิลี่สินะ

                    อืม.. ฉันพูดแล้วก้มหน้าลง ให้ตายสิ นึกถึงหมอนี่ทีไร เป็นต้องโมโหทุกทีเลย

                    แล้ว..อยู่กับมันทะเลาะกันบ่อยมั้ยเนี่ย

                    บ่อยสิ บ่อยมาก ตั้งแต่ที่สนามบินเลยล่ะ ฉันตอบออกมาอย่างเคียดแค้น เพราะตอนนั้นแท้ๆเลย..

                    ฮะๆกะแล้ว หมอนั่นไม่ค่อยชอบให้ใครเข้ามาอยู่ในบ้านโดยที่ไม่ได้เป็นสมาชิกของครอบครัวหรอก

                    งั้นหมอนั่นจะรับฉันไปทำไมกัน

                    คงเพราะน้องมันล่ะมั้ง เห็นว่าเธอเหงา ไม่มีเพื่อนผู้หญิงเล่นด้วยที่บ้าน เลยอยากรับเธอมาน่ะนะ

                    อ๋อ ที่รับฉันไปนี่มีจุดประสงค์หลักคือไปเล่นกับน้องนายสินะ --^^

                    แต่ไม่ต้องห่วงหรอก โยมันไม่ทำร้ายผู้หญิง เพราะงั้นไม่ต้องกลัวโดนชกหรอกนะ

                    นายพูดถูกเลย เพราะว่ามันทำร้ายฉันด้วยคำพูดไงล่ะ --

     

    งั้นหลังจากนี้ถ้าเธอมีปัญหาอะไรก็มาบอกฉันได้นะ เราเป็นเพื่อนกันแล้ว ^^”

                    ขอบใจนะ ^^” นายเป็นคนดีจริงๆเลยไคโตะคุง TT

                    แต่ถ้าเป็นปัญหาหัวใจล่ะก็ มาปรึกษากันไม่ได้นา ^^”

                    อ่า..ฉันขอถอนคำพูดที่พูดไปเมื่อกี้ดีกว่ามั้ง --^^

                    แต่ก็นะ อย่างน้อยฉันก็ได้เพื่อนใหม่มาคนนึงแล้วล่ะ ^^

                    อีกห้านาทีจะหมดเวลาพักงั้นหรอ ให้ตายสิ คนมันยังไม่หายเมื่อยมือเลยอ้ะ TT

                    เธอ..เมื่อยมือหรอ แล้วก็มีเสียงหนุ่มคนนึงดังขึ้นด้านหลังฉันเลย

                    อ..อืม เมื่อยมากเลยล่ะ เล่นจดซะระบมเลย

                    หันมาสิ ฉันนวดมือให้

                    ฉันก็หันหลังไปตามเสียงก็พบกับ

                    นายฝรั่งหน้าตาดีโครตเลยอ้ะ o//0//o ตาสีฟ้าสดใส ผมสีเทานั่นทำให้เขาดูเป็นคนขรึมๆหน่อย ท่าทางจะไม่ใช่เด็กญี่ปุ่นแฮะ

                    นาย..ไม่ใช่คนญี่ปุ่นหรอ

                    อ๋อ อืม ฉันเองก็เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนเหมือนกัน ฉันมาจากออสเตรเลียน่ะ มีคนมาถามฉันตอนย้ายมาใหม่ๆเหมือนกัน

                    นายเรียนอยู่ที่นี่กี่ปีแล้วหรอ

                    ก็..ซักประมาณสามปีได้แล้วมั้ง ตอนนี้เลยคุ้นเคยกับญี่ปุ่นแล้วล่ะ เธอล่ะ มาครั้งแรกหรอ

                    อืม..แต่ว่าแค่ครั้งแรกก็ทำให้ฉันไม่ค่อยประทับใจเกี่ยวกับคนญี่ปุ่นแล้วล่ะ --^^”

                    อ้าว ทำไมอ้ะ ไปเจออะไรมาหรอ

                    ก็แฟมิลี่ของฉันนั่นแหละ ทำฉันเจอดีตั้งแต่มาเหยียบญีปุ่นเลย

                    เอ๋ ไอ้โยมันไปทำอะไรหรอ

                    อ่า..ไม่มีอะไรหรอก แต่มันไม่ค่อยดีน่ะ

                    งั้นหรอ..โชคร้ายหน่อยนะ แต่ไม่เป็นไรหรอก หมอนั่นน่ะ ไม่ใช่คนที่เลวร้ายอย่างที่คิดหรอก ไว้อยู่เดียวกันก็ดีขึ้นเอง ไม่ต้องกังวลหรอกนะ ^^” ทำไมมีแต่คนบอกอย่างนี้นะ ไม่เห็นจะมองออกเลยว่าหมอนี่มันเป็นคนดี มันไม่ทำร้ายใครน่ะ 
    --
    ^
                    “อ้อใช่ ฉันยังไม่บอกชื่อเธอเลย ฉันชื่อไอซ์ ยินดีที่ได้รู้จักนะ ^^” เขายิ้มแล้วยื่นมือออกมา ชื่อไอซ์หรอ โหลจังอ้ะ -*-

                    ฉันชื่อมิโสะ คงจะรู้แล้วล่ะ แต่ก็ยินดีที่ได้รู้จักนะ ^^ ฉันยิ้มตอบแล้วจับมือตามมารยาท

                    งั้นถ้ามีปัญหาอะไรเรียกฉันได้นะ ยกเว้นวิชาภูมิศาสตร์ อันนี้ฉันขอบายเลย ==”

                    อ..อืม ท่าทางจะเรียนวิชานั้นไม่เก่งล่ะมั้ง - -^^ ว่าแต่นี่มันก็จะเวลาเรียนแล้ว นายแย้นั่นหายไปไหนแล้วนะ แล้วจะไปห่วงมันทำไม เดี๋ยวคงกลับมาล่ะมั้ง นั่นไง ยังไม่ทันขาดคำก็มาแล้ว ว่าแต่ยัยหน้าลิงนั่นเดินตามนายแย้มาทำไมน่ะ

                    เดี๋ยวสิ โยคุง อธิบายมาเลยนะ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมเธอถึงรับยัยผู้หญิงสอพลอมาน่ะฮะ เฮ้ยๆนังสอพลอหรอ ให้มันน้อยๆหน่อย ฉันยังไม่ทำอะไรเธอเลยนะเฮ้ย - -^

                    นี่ มาร์ติน เธอยังไม่ทันเจอเธอเลย อย่ามาว่าคนในครอบครัวฉันสุ่มสี่สุ่มห้าอย่างนี้นะ นายแย้เริ่มทำหน้ารำคาญยัยหน้าลิงแล้วทำท่าจะหันกลับไป แต่ดันถูกเธอดึงกลับไปก่อน

                    บอกมาเดี๋ยวนี้เลยนะโย นังสอพลอนั่นเป็นใคร!” เฮ้ๆ บอกว่าฉันไม่ใช่นังสอพลอ =_=^

                    ว่าไม่ทันขาดคำยัยนั่นก็หันมาทางฉันแล้วเดินดุ่มๆเข้ามาอย่างไม่เกรงใจใคร ทำหน้าซะน่ากลัวเชียวแม่คุณ - -

                    ยัยนี่เองหรอ คนที่อยู่กับโย นังสอพลอ!! เธอเข้ามาแล้วตะโกนใส่อย่างดังจนทุกคนในห้องหันมามองแล้วทำหน้าเหมือนกับสงสารฉัน สงสารก็มาช่วยฉันสิพวกเธอ --

                    นี่..ฉันไม่ใช่คนสอพลอนะ ฉันยังไม่รู้จักเธอด้วยซ้ำไป อย่ามาว่าคนอื่นเค้าอย่างนั้นสิ

                    หึ! กล้าเถียงงั้นหรอยัยสอพลอ แย่งผู้ชายคนอื่นแล้วยังจะมีหน้ามาว่าฉันด่าคนไม่ดูหน้าอีก!”

                    แล้วเธอเห็นรึไงว่าฉันไปทำอะไรกับผู้ชายเธอน่ะฮะ พยานอะไรก็ไม่มี ยังจะมาว่าคนอื่นอีก อย่างนี้แหละที่เรียกว่าด่าคนไม่ดูหน้าน่ะ!” ฉันลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วจ้องหน้ายัยหน้าลิงอย่างไม่ยอมแพ้ ดีนะที่ฉันเกิดมาตัวสูงกว่ายัยนั่น ไม่งั้นคงโดนล้อว่าเตี้ยซะแล้ว --^  ดูท่าเธอจะดูผงะไปกับความสูงของฉันไม่น้อยเลยนะเนี่ย แหงล่ะ ฉันสูงตั้ง 175 เซนติเมตรเลยนี่นา

                    หนอย..ยัย..ยัย..

                    กริ๊ง!!

                    ยังไม่ทันที่ยัยหน้าลิงจะทำอะไรฉันเสียงสวรรค์ก็ดังขึ้นอีก ทำให้ยัยนั่นทำได้แค่แยกเขี้ยวใส่แล้วเชิดหน้ากลับไปที่ห้องของเธอโดยปริยาย ดีนะที่เธอไม่ได้อยู่ห้องเดียวกัน ไม่งั้นเรื่องได้ยาวแน่ๆ --^^

                    เธอ..กล้าดีอ้ะ ไคโตะพูดแล้วตบไหล่ฉัน

                    ถูก ไม่มีสาวคนไหนกล้าหือยัยนี่นอกจากเธอเลยนะเนี่ยว่าแล้วไอซ์ก็มาเกาะไหล่อีกข้าง

                    ว่าแต่เธอคนนั้นเป็น..
                   
    ยัยน่ารำคาญที่เอาเกาะฉันไงล่ะ เสียงนายแย้ดังขึ้นพร้อมกับแกะแขนของเพื่อนเขาแล้วดันฉันไปนั่งกับที่

                    ต่อจากนี้ก็ระวังตัวไว้หน่อยแล้วกัน พวกนั้นอาจจะกลับมาหาเธอก็ได้ เขาแอบกระซิบข้างหูฉันเบาๆ

                    งั้นที่นายบังคับเรื่องนั้นก็เพราะอย่างนี้น่ะหรอ

                    ก็..ทำนองนั้นเขาพูดด้วยเสียงที่ดูไม่ค่อยมั่นใจ แต่เพราะฉันไม่ได้คิดอะไรมากเลยเดินกลับไปนั่งที่ของตัวเอง

                    แล้วทำไมฉันต้องไปกังวลกับเสียงของหมอนั่นด้วยล่ะ มันก็แค่ตอบด้วยเสียงที่ไม่มั่นใจเท่านั้นเอง ไม่เห็นจะมีอะไรซักหน่อย คิดมากไปแล้วมั้งเราเนี่ย --^

                    หลังจากที่เราสลัดความคิดนั้นทิ้งไป ก็ทำการหยิบหนังสือเรียนขึ้นมา วิชาภาษาอังกฤษหรอ..รู้สึกไม่ดีกับวิชานี้เลยซักนิดอ้ะ == เพราะฉันฟังภาษาอังกฤษไม่ค่อยรู้เรื่องเลย ถ้าเป็นภาษาญี่ปุ่นล่ะพอว่า

                    “Ok, Who can answer this question?”

                    ทุกคนเงียบสงัดกันอย่างที่ฉันไม่อยากให้เป็น เพราะถ้าเป็นอย่างนี้ทีไร ฉันเป็นต้อง..

                    “Nobody can do it? So, I will call..Miss Miso?”

                    นั่นปะไร..เป็นฉันจริงๆด้วย TT

                    หลังจากนั้นทุกคนก็เริ่มมองมาที่ฉันอย่างเวทนาสุดขีด หันไปทางขวา ไอซ์ก็ดันหลับไปซะได้ หันไปข้างหน้า ไคโตะคุงก็ไหว้เป็นเชิงว่าไม่รู้ ขอโทษด้วย พอหันไปด้านข้าง..ไม่ได้ๆ จะขอความช่วยเหลือจากคนแบบนี้ไม่ได้!

                    “Miss Miso..Are you alright?”

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×